ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #183 : บทที่177: การต่อสู้ของเด็กหญิงตัวน้อย หญิงสาวผู้หลงเหลือ และโจรธรรมดาๆ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.77K
      107
      25 เม.ย. 55

    บทที่177 การต่อสู้ของเด็กหญิงตัวน้อย หญิงสาวผู้หลงเหลือ และโจรธรรมดาๆ

    ห้าวันที่ห้องท้องเรือ นอกจากการขัดพื้นที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะแล้ว เลดี้ยังได้ฝึกทั้งเคล็ดการใช้ค่าสถานะทั้งพลังกายและความคล่องตัวในการโจมตีด้วย

    ตามปกติแล้วการใช้ค่าสถานะทั้งหกโดยตรงไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปรู้ ทั้งพลังกาย ความคล่องตัว สมาธิ จิตใจ หรือโชค นอกเหนือไปจากความอึดที่ใช้ออกมาแบบอัตโนมัติ ค่าสถานะที่เหลือผู้เล่นต้องมีจินตนาการประกอบการใช้ด้วยเสมอ ยกตัวอย่างเช่นค่าสมาธิที่มาตาร์สามารถใช้ได้เป็นอย่างแรก ถ้าไม่ได้รับการบอกเล่ามาก่อนว่าใช้อย่างไร มาตาร์ก็คงจะใช้ไม่เป็นเหมือนกัน

    ซึ่งตอนนี้ทั้งมาตาร์และเลดี้สามารถใช้ค่าสถานะทั้งหกเสริมการต่อสู้ได้หมดแล้ว ยกเว้นเพียงค่าสถานะโชค ซึ่งการต่อสู้ในท้องเรือที่ผ่านมา ทั้งคู่ใช้เพียงค่าสถานะล้วนๆในการสู้กับผู้บุกรุกเท่านั้น ไม่ได้ใช้ร่วมกับพลังพิเศษใดใดเลย เพราะถูกจำกัดด้วยสภาพพื้นที่ แต่ตอนนี้อยู่ในเมืองที่สามารถใช้พลังพิเศษได้ตามปกติ ค่าสถานะที่ใช้ร่วมกับพลังพิเศษก็จะเปลี่ยนแปลงไปได้อีกอย่างหลายหลายตามจินตนาการของแต่ละคน สุดแต่ว่าผู้ใช้จะมีจินตนาการสูงส่งขนาดไหน

     

    พอส!! (Pause!!)

    ขณะที่ริงโกะและอิจิโกะกำลังพุ่งเข้าโจมตีทั้งเลดี้และมาตาร์ เวลากลับเหมือนหยุดลงโดยสิ้นเชิง แต่สัมผัสของเลดี้กลับแผ่ขยายออกไป แล้วรับทราบสภาพพื้นที่โดยรอบทันที ทั้งพื้นที่และผู้คนโดยรอบ

    แมพปิ้ง!! (Mapping!!)

    อืม นายคนที่ถือดาบกำลังจะพุ่งไปหาแอฟโร ส่วนนายคนที่ใช้หมัดกำลังจะโจมตีเข้ามา อย่างนี้ก็ต้องใช้แอนทิกเสริมปราณกระแทกใส่ก่อน แล้วก็ใช้เคลื่อนสัมพัทธ์เข้าโจมตีตาคนที่ใช้ดาบร่วมกับสถานะจิตใจ ความคิดของเด็กหญิงดำเนินไปในช่วงเวลาที่หยุดนิ่งนี้

    แล้วเมื่อช่วงห้วงเวลาเดินตามปกติ

    “ไฮยย!!

    วูบ! ตูมม!! “อ๊อค!

    “สะบั้น!!!

    ฟวิ้ง! ฉับ!! “เฮ่ยย!!

    เพียงพริบตาเดียวร่างของริงโกะกระเด็นถอยออกไปจากที่กำลังจะง้างหมัดเข้าใส่เด็กหญิง ในขณะที่อิจิโกะดาบหักไปเพราะยกดาบเข้าต้านทานมีดของเด็กหญิงที่จู่ๆก็เคลื่อนที่มาอยู่ตรงหน้า

    เลดี้เคลื่อนที่ตามแผนที่เธอวางเอาไว้และทำได้สำเร็จ

    “ก็บอกแล้วไงว่าคู่ต่อสู้ของพวกนายคือเลดี้ ไม่ต้องไปยุ่งกับแอฟโรเลย” เด็กหญิงพูดเสียงแข็งขึ้นมาอีกครั้ง

     

    มันคือการใช้ค่าสถานะประกอบการต่อสู้ของเลดี้ ทั้งพอสและแมพปิ้ง

    พอส คือการใช้ค่าสมาธิร่วมกับจิตใจ หากการใช้ค่าสมาธิทำให้เวลาไหลช้าลงได้ แล้วทำไมจะทำให้เวลาหยุดเลยไม่ได้ ซึ่งเลดี้ใช้ค่าสถานะจิตใจเสริมเข้ากับสมาธิ ซึ่งระหว่างที่ใช้พอสจะไม่มีสิ่งใดสามารถขยับได้ เพราะมันคือห้วงเวลาที่หยุดลงในจิตใจของเด็กหญิงเพียงคนเดียว มีเพียงความคิดและประสาทรับรู้เท่านั้นที่ทำงาน ประโยชน์ของมันคือเอาไว้ใช้คิดตัดสินใจในช่วงเวลาที่จำกัดนั้น ซึ่งระหว่างที่ใช้พอสนี้ ทั้งค่าสมาธิกับจิตใจจะถูกใช้งานไปเรื่อยๆด้วย

    แมพปิ้ง คือการใช้จิตสัมผัสร่วมกับสถานะจิตใจ ถ้าสัมผัสสามารถรับรู้ถึงจิตโดยรอบได้ ก็แปรสภาพมันให้เหมือนกับคลื่นโซนาร์เสียเลยสิ เลดี้สามารถรับรู้สภาพโดยรอบได้โดยใช้แมพปิ้ง มีประโยชน์คล้ายๆกับการใช้ลมรับรู้ของปราณลมที่มาตาร์ใช้ได้ เพียงแต่การใช้แมพปิ้งสิ้นเปลืองทั้งพลังจิตและค่าจิตใจมากกว่าการใช้ปราณลมเท่านั้นเอง

    ซึ่งทั้งสองท่านี้เป็นเพียงสิ่งที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับฝีมือหรือการเคลื่อนไหวของเลดี้

     

    “อะไรกัน! ยัยเด็กนี่ดูท่าจะร้ายกว่าที่พวกเราคิดซะแล้วสิริงโกะ” อิจิโกะพูดพร้อมกับกระชับดาบหักๆในมือ เพราะรับรู้แล้วว่าเด็กหญิงตรงหน้านี้ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน

    วูม~!

    “เข้าใจแล้วอิจิโกะ” ริงโกะตอบรับเรียบๆ แล้วลุกขึ้นมาช้าๆพร้อมกับร่างที่เปล่งปราณสีทองออกมา

    วูบ! กึ้งง!!

    ไม่ต้องรอให้คู่ต่อสู้ตั้งตัว เลดี้พุ่งเข้าใส่ร่างของชายผู้ใช้หมัดพร้อมกับยื่นด้ามมีดเข้าใส่ทันที แต่ริงโกะก็ยังต้านรับได้ทัน

    ฟิ้วว! แก๊งง!!

    ฉับพลันนั้นเลดี้ก็ต้องสะบัดมืออีกข้างเพื่อต้านคมดาบของศัตรูอีกคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้านหลังของเธออย่างกะทันหัน

    “คิดผิดคิดใหม่ได้นะ จะไปเรียกเจ้าหัวฟุ...เฮ่ย!!

    ฟิ้วว!! วูบบ!!

    อิจิโกะยังพูดไม่ทันจบประโยค เลดี้ก็ใช้เคล็ดไร้เงาเคลื่อนที่มาฟันเขาจากด้านหลังจนเขาต้องก้มตัวหลบ

    “อสูรพิฆาต!!

    อีกทางหนึ่ง ริงโกะที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อยก็ตะโกนออกมาพร้อมปล่อยกระสุนปราณสีทองที่มีรูปลักษณ์เหมือนหน้าของปีศาจเข้าใส่เด็กหญิงทันที

    ฟิ้ว!

    เลดี้ใช้เท้าไร้เงาเคลื่อนตัวหลบกระสุนปราณสีทองนั่นทันที แต่ทว่ากระสุนปราณนั้นมันสามารถเลี้ยวตามร่างของเธอมาได้

    “ฮ่าๆๆ หนีไปไหนไม่ได้หรอก อสูรพิฆาตจะตามเป้าหมายไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะกระทบเป้าหมาย” ริงโกะหัวเราะลั่นเมื่อเห็นท่าทางของเด็กหญิง

    เลดี้ได้ยินดังนั้นก็ปามีดของเธอเข้าหาเจ้ากระสุนปราณสีทองนั่นทันที

    ฟิ้ว! ตูมม! เคล้ง!

    มีดยักษ์กระทบกับกระสุนปราณแล้วก็เกิดการระเบิดขึ้นมา ทำให้มีดกระเด็นไปทางหนึ่งทันที แต่กระสุนปราณก็สลายไปด้วย

    “กระทบเป้าหมายแล้วก็หายไปจริงๆด้วยแฮะ” เลดี้พูดขึ้นมาเรียบๆ

    “หา!?” ริงโกะเห็นการกระทำของเลดี้แล้วก็ต้องมองตาค้าง เพราะวิธีแก้ปัญหาของเด็กหญิงมันง่ายดายมาก

    ริงโกะไม่คิดว่าเลดี้จะปาอาวุธคู่มือออกมาเพื่อหยุดปราณของเขา โดยหารู้ไม่ว่าสำหรับเด็กหญิงแล้วเจ้ามีดคู่นั้นเป็นตัวที่คอยถ่วงเธอเอาไว้ด้วยซ้ำ เพราะทักษะอาวุธมีดของเธอก็แค่ระดับหนึ่ง ในขณะที่มือเปล่ามีถึงสามสิบ การต่อสู้ด้วยมีดจึงเหมือนกับเป็นการต่อให้คู่ต่อสู้อยู่แล้ว แถมมีดนี่ก็เป็นของที่ยึดมาจากผู้เล่นคนอื่นด้วยดังนั้นเลดี้จึงไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรถ้าจะต้องสูญเสียมีดทั้งสองเล่มไป

    ฟิ้ว! เคร้ง!

    “เสร็จล่ะยัยเด็กกะโปโล เสียอาวุธไปหนึ่งชิ้นแล้ว” อิจิโกะรีบพุ่งเข้าหาเลดี้ทันทีที่เห็นโอกาส

    ดาบของอิจิโกะเล่มหนึ่งกระทบเข้ากับมีดอีกเล่มของเด็กหญิง ส่วนดาบอีกเล่มของอิจิโกะก็เตรียมจะพุ่งเข้ามาโจมตีเด็กหญิงอยู่แล้ว

    แต่ทันใดนั้น เลดี้ก็ปล่อยมือออกจากมีดของเธอแล้วก้าวประชิดอิจิโกะเข้าไปอีกด้วยเคล็ดเคลื่อนสัมพัทธ์ พร้อมกับหงายมือทั้งสองข้างด้วยเคล็ดแอนทิก ประกอบเข้ากับปราณสีชมพูของเธอ

    “ฮย่า~!!” เด็กหญิงตะโกนออกมาพร้อมกับโจมตีออกมาสุดแรง

    ฟุบ! ปักก!!

    “อ๊อกก!!

    ฝ่ามือพิษกระแทกเข้าใส่ร่างของอิจิโกะอย่างแรง เสียงกระทบแน่นๆทำเอาร่างของชายผู้ใช้ดาบตัวงอเป็นกุ้ง พร้อมกับล้มลงตาเหลือกไปทันที

    “อ ... อ ... า” อิจิโกะส่งเสียงไม่ออก สติเลือนราง นอนพังพาบปากก็พะงาบๆเตรียมตัวตายจากพิษที่เลดี้ปล่อยใส่เขา

    “อะไรกัน!! อิจิโกะ!!” ริงโกะอุทานออกมาอย่างตระหนกที่เห็นเพื่อนของเขาเสร็จด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

    เมื่อเลดี้ปล่อยมีด ความเร็วของเธอก็พุ่งขึ้นมากะทันหัน ประกอบเข้ากับเคล็ดเคลื่อนสัมพัทธ์ ถึงแม้ว่าอิจิโกะจะใช้เคลื่อนสัมพัทธ์ได้เหมือนกัน แต่เลดี้กลับยังรวดเร็วกว่านั้น ประกอบกับจังหวะที่เลดี้เข้าจู่โจมอิจิโกะนั้น คือจังหวะบวก อิจิโกะที่กำลังโถมตัวเข้ามาทำให้แม้ในขณะใช้เคลื่อนสัมพัทธ์จึงตั้งรับไม่ทัน ฝ่ามือของเลดี้จึงพุ่งสวนร่างของอิจิโกะเข้าไปเต็มๆ

    “ไฮยย!!

    เสียงของเลดี้ตะโกนขึ้นมาปลุกสติของริงโกะที่กำลังตะลึงให้ป้องกันการโจมตีจากเด็กหญิงผมแดงที่เข้ามาประชิดอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที

    ฟุบ! ฟิ้วว! ปึ้กก!!

    กำปั้นของริงโกะที่ห่อหุ้มด้วยปราณสีทองรับการจู่โจมจากเด็กหญิงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันคงจะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ถ้าเพียงแต่กำปั้นของเด็กหญิงที่เป็นคู่ต่อสู้ไม่ได้หุ้มด้วยปราณสีชมพูที่เต็มไปด้วยพิษนั่น

    กำปั้นชนกำปั้นเข้าไปเพียงครั้งเดียว ริงโกะก็ต้องถอนตัวออกมาพร้อมกับสีหน้าที่ตกใจ

    “นี่มัน! ..พิ!!

    ฟุบ! ปึกก!

    ยังไม่ทันที่ริงโกะจะพูดจบ เด็กหญิงก็โจมตีต่อเนื่องเข้ามาอีกครั้ง ส่งผลให้ริงโกะได้รับพิษเพิ่มมากขึ้นอีก ถึงแม้จะตั้งรับได้ก็ตาม และพิษนั้นส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของริงโกะ

    ปึ้กก!!

    แล้วกำปั้นของเด็กหญิงก็กระแทกเข้าไปเต็มร่างของชายผู้ใช้ปราณสีทองได้ในที่สุด

    “ไฮย! ยะ! ยะ! ยะ! ยะ!” เลดี้ส่งเสียงพร้อมกับรัวมือของเธอเข้าใส่ร่างของคู่ต่อสู้ทันที เพราะริงโกะเคลื่อนที่ช้าลงจากพิษของเธอ

    ปึ้ก! ปั้ก! ปึ้ก! ปั้ก! ปึ้ก! ปั้ก!

    “อ๊อก! อั้ก! อุก! อึ้ก!

    ริงโกะก็ส่งเสียงออกมาตามจังหวะกระทบหมัดของเลดี้ โดยแต่ละหมัดของเลดี้นั้นก็แฝงปราณพิษเข้าไปทีละน้อยด้วย ส่งผลให้ริงโกะซึ่งนอกจากจะเจ็บปวดเพราะโดนต่อยแล้ว ยังเจ็บปวดเพราะพิษที่ได้รับอีกด้วย ซึ่งความเจ็บปวดที่เขาได้รับก็ค่อยๆแผ่ซ่านออกไปจนถึงขั้นกลายเป็นความด้านชา

    ร่างกายของชายหนุ่มผู้ใช้หมัดไม่รู้สึกใดใดอีก สายตาที่เหม่อลอยเพราะความรู้สึกเคลิบเคลิ้มจากความด้านชา สติที่หลุดลอยไปเรียบร้อย ส่งผลให้เขายอมรับความตายโดยดุษฎี

    เพียงแต่ไอ้เสียงตะโกนสุดท้ายนั่นปลุกสติของเขาขึ้นมาซะก่อนที่จะตายสบายๆนี่สิ

    “ฮว้าชช่า!!!” เลดี้ตะโกนออกมาสุดเสียงพร้อมกับออกท่าจบของเธอเป็นลูกเตะสูงที่หวดเข้าให้ที่ใบหน้าของริงโกะเต็มๆ

    พล็อกก! กร๊อบ!!

    หน้าของริงโกะหันไปอีกทางทันทีพร้อมกระดูกคอที่หัก กับร่างที่กระเด็นไปตามแรงเตะ ก่อนจะแน่นิ่งไป

    “ฮูว~ว ...เย่!!” เลดี้ตั้งท่าจบพร้อมกับหายใจออกมาแรงๆครั้งหนึ่งก่อนจะส่งเสียงออกมาอย่างยินดีพร้อมกับยิ้มอย่างแจ่มใส

    ร่างของอิจิโกะและริงโกะค่อยๆสลายไปช้าๆ เพราะการตายของทั้งคู่นั้นเกิดจากพิษเป็นหลักไม่ใช่การตายโดยฉับพลันจากการโจมตีทางกายภาพของเลดี้ บ่งบอกว่าจริงๆแล้วถ้าเลดี้ไม่มีปราณพิษ การต่อสู้คงจะยุ่งยากมากกว่านี้เป็นแน่แท้ เพราะการโจมตีทางกายภาพของเธอไม่ได้ส่งผลต่อทั้งคู่มากนัก

    “คราวหน้าต้องเอาชนะแบบยังถือมีดอยู่ให้ได้เลย” เลดี้พูดเสียงเข้มขณะที่เก็บมีดของเธอที่ตกไปขึ้นมา และยังเก็บเอาของที่ตกจากร่างของคู่ต่อสู้ทั้งสองมาด้วย ก่อนจะวิ่งตามเจ้านายของเธอไปยังร้านสัตว์เลี้ยงอย่างไม่เร่งรีบนัก

     

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉัวะ!! อ๊าก~!!!

    ร่างของผู้เล่นกิลด์แก้วมังกรขาดเป็นท่อนๆ ก่อนจะสลายไป เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง

    “แกเป็นใคร!!” ชายที่ชื่อยะไซตะโกนถามหญิงสาว

    “นี่มายึดบ้านคนอื่นเค้าแล้วยังจะลืมหน้าเจ้าของอีกเหรอ” หญิงสาวเอ่ยออกมาเรียบๆด้วยสีหน้าเฉยชา

    “แก!! ทาเนียเหรอ!?” ยะไซแค่นเสียงออกมาอย่างตระหนก

    แซดดด!!!

    ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยะไซยิงลำแสงออกจากมือพุ่งเข้าใส่หญิงสาวผู้เป็นศัตรูทันที

    ฟุบบ! ตูมม!!

    ลำแสงพุ่งทะลวงร่างของหญิงสาวแล้วพุ่งเจาะลึกลงไปในพื้น ก่อนจะระเบิดขึ้นมาเป็นหลุมที่มีรัศมีกว่าห้าเมตร อาจจะดูว่าไม่ได้กว้างใหญ่มาก แต่จริงๆแล้วมันเป็นพลังแสงที่มีความเข้มข้นสูงมาก

    วูบ!

    แต่แล้วร่างของหญิงสาวที่เหมือนถูกแสงทะลวงก็เลือนหายไป

    ฉึก!!

    ที่ลำคอของยะไซพลันมีเข็มเล่มหนึ่งที่มีขนาดเท่าไม้เสียบลูกชิ้นปักเข้าไป

    “อ๊อคค!!” ยะไซส่งเสียงออกมาอย่างทรมานพร้อมกับล้มลงกับพื้น

    “ระหว่างที่พิษยังไม่พรากชีวิตแกไป จงสำเหนียกถึงความอ่อนแอของตัวเองซะเถอะ” หญิงสาวพูดออกมาเรียบๆ ขณะที่ปรากฏร่างออกมาจากอากาศที่สั่นไหวอย่างรางเลือน

    จริงๆแล้วยะไซถือว่าเป็นผู้เล่นระดับสูงที่มีฝีมือ แต่ถ้ามาเทียบกับทาเนีย หนึ่งในผู้เล่นระดับตำนานแล้วยังถือว่าห่างชั้นกันเยอะทีเดียว

    ทาเนียอาศัยเทคนิคการพรางด้วยแสงแล้วใช้เพียงแค่เข็มอาบยาพิษของแมงมุมเท่านั้น ก็เอาชนะยะไซที่มีพลังสูงได้แล้ว

    “จะว่าไป นายก็คล้ายๆชั้นในสมัยก่อนเหมือนกันนะ บ้าพลังแบบนี้น่ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มน้อยๆเพราะนึกถึงวิธีการต่อสู้ของตนเองสมัยก่อน เพียงแต่หลังจากพ่ายแพ้แก่บุรุษผู้ใช้มีดบินครั้งนั้นในอดีต วิธีการต่อสู้ของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

    แล้วหญิงสาวผู้บุกรุก ก็เดินต่อเข้าไปภายในอาคารหลักของแอตแลนติสทันทีด้วยท่าทางไม่รีบร้อนดั่งกับเดินเล่นชมสวนก็ไม่ปาน

     

    “ทาเนีย กลับมาทำอะไร” เสียงแหลมเล็กของชายคนหนึ่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในห้องชมวิวของแอตแลนติส จุดที่สามารถมองเห็นทั้งเมืองแอตแลนติสได้เพียงมองออกไปที่หน้าต่างรอบๆห้องเท่านั้น

    “ชั้นกลับมาตายที่นี่น่ะ นายอยากจะไปไหนก็ไปเถอะ ชั้นไม่มีอารมณ์จะสู้กับใครตอนนี้” หญิงสาวเอ่ยออกมาเรียบๆ

    “พูดอะไรของหล่อน กลับมาตายที่นี่ก็หมายความว่าเธอจะมาให้ชั้นฆ่าน่ะสิ” ชายเสียงแหลมเล็กพูดออกมาอีกครั้ง

    “ไปซะรีฟริก ชั้นรำคาญเสียงนายจริงๆ” หญิงสาวกล่าวไล่ชายเสียงแหลมเล็กอีกครั้ง

    “อุเหม่! ชั้นหงุดหงิดกับท่าทางจองหองของเธอจริงๆ อย่าคิดว่าเคยฆ่าชั้นได้ครั้งนึงแล้วจะฆ่าได้อีกง่ายๆนะ” ชายเสียงเล็กแค่นเสียงออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมกับเรียกอาวุธของเขาออกมาทันที

    ตึงง!!

    หุ่นยนต์ตัวหนึ่งสูงประมาณสิบเมตรปรากฏร่างขึ้นมา หัวของมันแทบจะพอดีกับเพดานห้องชมวิวนี้เลยทีเดียว รีฟริกหายตัวเข้าไปในร่างของหุ่นยนต์แล้วก็บังคับมันจากภายในทันที

    “ฮ่าๆๆๆ ตายซะเถอะหล่อน รีฟริก้าของชั้นจะฆ่าเธอเอง” เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากร่างของหุ่นยนต์ยักษ์

    “...เฮ่อ~อ” หญิงสาวจ้องมองที่หุ่นยนต์ตัวนั้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนแรง

    “นี่ทาเนีย สั่งสอนเจ้าหมอนี่หน่อยเถอะ ชั้นเหลืออดกับท่าทางของมันจริงๆ” เสียงหญิงสาวผมดำอีกคนพูดขึ้นมาเรียบๆพร้อมกับปรากฏร่างของเธอออกมา

    “งั้นก็ทำให้มันรวบรัดหน่อยละกันนะ” ทาเนียตอบกลับคู่หูของเธอ

    “เอ๋? ไม่ทรมานมันซะหน่อยเหรอ ท่าทางโอหังแบบนี้ต้องโดนทรมานสิ” หญิงสาวผมดำกล่าว

    “ไม่ล่ะ เสียเวลา ชั้นอยากจะอยู่กับช่วงเวลาสุดท้ายของแอตแลนติสให้นานที่สุดน่ะ” ทาเนียเอ่ยเรียบๆพร้อมกับใบหน้าที่ดูเศร้าขึ้นมาอีก

    “ตามใจ ...แต่ชั้นก็อยู่ข้างเธอเสมอนะ” หญิงสาวผมดำพูดออกมาอย่างมีนัย

    “ขอบคุณมากสปีน่า” ทาเนียเอ่ยออกมาพร้อมกับกอดแมงมุมสาวของเธอ

    “ทาเนีย” หญิงสาวผมดำพูดพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมา นานๆครั้งเจ้านายของเธอถึงจะแสดงอารม์แบบนี้ออกมา

    “พวกแก ร่ำลากันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” เสียงแหลมๆดังขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง

    “ฮึ้ย~!! น่าตายจริงๆด้วย ทาเนียฆ่ามันอีกรอบกันเถอะ” สปีน่าได้ยินคำพูดขัดอารมณ์แล้วก็โกรธขึ้นมาทันที

    “เอาสิสปีน่า ...สวมเกราะ” หญิงสาวยิ้มนิ่งๆแล้วพูดออกมาเบาๆ

    แวบ!

    ทันใดนั้นร่างของทาเนียที่ปกติจะใส่ชุดสีขาวก็มีเกราะสีดำเพิ่มขึ้นมา ประกอบด้วยหน้ากากแหลมที่คลุมตั้งแต่หน้าผากถึงดวงตา  เกราะลำตัวที่ด้านหลังมีขาแมงมุมแปดขายื่นออกมา เกราะแขนที่มีกรงเล็บสองอันยื่นออกมาที่แขนแต่ละข้าง และเกราะขาที่เหมือนกับมีคมมีดซ้อนๆกันหลายชั้นยาวครึ่งแข้ง

    “อะไรกันน่ะ!! ร่างนั่น!?” เสียงแหลมเล็กอุทานออกมาอย่างตระหนก

    “ไปเกิดใหม่ได้แล้วรีฟริก” ทาเนียไม่ตอบคำถาม แต่พุ่งเข้าหาร่างของหุ่นยนต์ยักษ์ทันทีที่พูดจบ

    ฟิ้วว! ครืด~! ฟุบบ!

    เจ้าหุ่นยนต์ง้างหมัดขึ้นมา แต่ร่างของหญิงสาวกลับเร็วกว่านั้น เธอพุ่งเข้าประชิดร่างของหุ่นยนต์พร้อมกับปล่อยใยแมงมุมออกมาจากแขนทั้งสองข้างแล้วห่อหุ่มร่างอันใหญ่โตนั้นเอาไว้ทันทีจนมันกลายเป็นลูกบอลขนาดใหญ่

    “เปล่าประโยชน์ทาเนีย รีฟริก้าจะปกป้องชั้นจากการโจมตีทุกชนิด” เสียงแหลมเล็กพูดออกมาขณะนั่งอยู่ในร่างของหุ่นยนต์ยักษ์อย่างสบายอารมณ์

    “รีเวิสออสโมซิส” ทาเนียพูดออกมาเรียบๆ

    วูม~

    แล้วทันใดนั้นใยแมงมุมสีขาวก็เปล่งออร่าสีดำออกมา

    ฟิ้ว~!

    เสียงเหมือนกับลมรั่วออกมาจากลูกบอลดังขึ้นมาจากทั่วบอลขนาดยักษ์นั่น

    “อ๊ออค! ทา..เนีย ...เธอทำอะไรน่ะ” ชายเสียงแหลมเล็กร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อรู้สึกว่าเขาหายใจลำบากขึ้น

    “ตายไปแบบโง่ๆนั่นแหละรีฟริก แล้วก็ไปหาเมืองอื่นยึดเถอะนะ นายคงไม่มีโอกาสได้ครอบครองแอตแลนติสแล้วล่ะ” ทาเนียเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

    สิ่งที่ทาเนียทำลงไปคือการใช้ใยแมงมุมปิดผนึกร่างเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์เอาไว้ แล้วใช้ปราณความมืดดูดอากาศข้างในออกมา ใยแมงมุมยังแทรกเข้าไปตามข้อต่อและช่องเล็กๆของร่างหุ่นยนต์ ส่งผลให้ภายในร่างของหุ่นยนต์ได้รับผลกระทบไปด้วยแม้ว่ามันอาจจะเป็นระบบปิดที่สามารถป้องกันผู้ที่อยู่ภายในร่างของมันได้ก็ตาม

    ฟีบ~

    ผ่านไปสามนาที เสียงของอากาศที่รั่วออกมาก็เงียบไป

    “คลัช!” ทาเนียเอ่ยออกมาเรียบๆอีกครั้ง

    กร้วม~!!

    ทันใดนั้นใยแมงมุมก็บีบตัวเข้าไปจนได้ยินเสียงแตกหักจากภายใน แล้วใยแมงมุมทั้งหลายก็ค่อยๆสลายไป ก่อนที่จะเห็นเศษซากของหุ่นยนต์ยักษ์ที่แหลกเละเป็นชิ้นๆ

    แวบ!

    แล้วเกราะแมงมุมสีดำที่หุ่มร่างของทาเนียก็หายไปแล้วปรากฏร่างของหญิงสาวผมดำใส่ชุดเกาะอกสีดำหน้าตาเซ็กซี่ก็ปรากฏตัวขึ้นมาแทน

    “เท่านี้ก็คงได้อยู่เงียบๆแล้วสินะ” ทาเนียเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆอีกครั้งพร้อมกับเหม่อมองออกไปภายนอกหน้าต่างของห้องชมวิว

    การกลายร่างเป็นเกราะนี้เป็นหนึ่งในทักษะของผู้ติดตามที่มีค่าความภักดีสูงเหมือนกับทักษะประสานร่าง แต่ว่าการสวมเกราะนี้จะสามารถใช้ความสามารถพิเศษของผู้ติดตามได้มากกว่าเดิม

     

    ปัง! เพล้ง!!

    เสียงปืนดังขึ้นมาหนึ่งนัด แล้วผนังของร้านตีเหล็กก็เป็นรอยกระสุนลูกปรายเล็กๆ พร้อมกับข้าวของที่แตกกระจาย

    “หมายความว่ายังไงคะพี่” เด็กสาวพนักงานกล่าวอย่างไม่เข้าใจ แต่เสียงยังคงสดใสอยู่

    “ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละน้อง” ชายคนที่ยิงปืนใส่พนักงานสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

    “หนูบอกให้พี่ไปหาวัตถุดิบมาแลกไม่ใช่เหรอ” เด็กสาวพนักงานยังใจเย็น

    “พอดีพี่ขี้เกียจน่ะน้อง ขอปล้นเลยละกันนะ” ชายหัวฟูที่ใส่หน้ากากแหลมๆกล่าวตอบพร้อมกับเล็งปืนไปทางเด็กสาวอีกครั้ง

    “นิสัยไม่ดีนะคะแบบนี้” เด็กสาวพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับเรียกปืนพกคู่หนึ่งใส่มือ

    “แหม  ท่าทางน้องจะชอบไม่เบาเลยนี่คนมาปล้นเนี่ย” ชายหนุ่มหัวฟูเห็นทางทางของเด็กสาวที่ไม่ยี่หระจึงกล่าวออกมา

    “ก็จะได้ลองอาวุธกับคนจริงๆ ใครจะไม่ดีใจล่ะคะ ฮิๆๆ” เด็กสาวพนักงานกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

     

    ทาเนียเป็นเซนต์กลุ่มดาวแมงมุมนะ =_= ... ส่วนมาตาร์ ...เป็นโจรธรรมดาๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×