ลำดับตอนที่ #29
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : [เรื่องผี] นาทีมรณะ
เครดิต: http://www.creditonhand.com/ghost.asp?ID=39
"นภิสา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
เมื่อสองปีก่อน ดิฉันได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาด ทั้งน่าสยดสยองกับน่าเลื่อมใสกับบารมีของเกจิอาจารย์ชื่อดังบางท่าน...รวมทั้งน่าสงสัยไปสารพัดอย่าง ขอให้ท่านผู้อ่านช่วยพิจารณาด้วยนะคะ
สาวแจงเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเป็นคนชวนไปทัวร์ภาคเหนือ ตามแฟชั่นที่ใครๆ ก็แห่ไปหาอากาศหนาว หวังจะได้ดู "เหมยขาบ" หรือ "แม่คะนิ้ง" น้ำค้างแข็งตามยอดดอยต่างๆ เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง ที่ดิฉันไม่เคยไปมาก่อน แม้ว่าอายุใกล้เลขสามแล้วก็ตาม
เพื่อนคนอื่นๆ ล้วนแต่ไปกับครอบครัวทั้งนั้น บางคนรู้ข่าวยังแซวว่า...ดีแล้วละ สาวโสดไม่มีห่วงนี่นา จะไปเที่ยวไหนก็ไปด้วยกันตามสบาย!
เป็นอันว่าเราซื้อทัวร์ไปกับบริษัทดัง 2 คน รวมกับคนอื่นๆ อีก 30 คนเต็มรถที่ออกจากกรุงเทพฯ ตอนเจ็ดโมงเช้าพอดี
ขาไปราบรื่นชื่นบานดีหรอกค่ะ จะมีเศร้าใจก็เนื่องจากข่าวไฟไหม้ซานติก้าผับ เผาผลาญผู้คนไปเกือบ 70 ชีวิต กับบาดเจ็บจากพิษไฟอีกมากมาย เพราะการเที่ยวเตร่ฉลองปีใหม่กันตามประสาหนุ่มสาวไฟแรง...ตอนนั้นเรายังนึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่กลายเป็นเหยื่อพระเพลิงไป ถ้าไม่คิดไปเที่ยวเหนือเราอาจจะไปฉลองปีใหม่กันแถวนั้นก็ได้ค่ะ
การเที่ยวเตร่ของคณะทัวร์เป็นไปอย่างราบรื่น สนุกสนานและตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจกับภูมิประเทศสวยๆ งามๆ ของภาคเหนือ...จนกระทั่งถึงวันกลับ
เรื่องน่าสยองอุบัติขึ้น หลังจากพวกเรารับประทานอาหารกลางวันกันที่อุตรดิตถ์แล้วรถทัวร์สองชั้นก็มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ คนสูงอายุส่วนใหญ่นั่งงีบจนกว่าจะถึงเวลาแวะเข้าสุขาในปั๊มน้ำมันอีกราวสองชั่วโมง
ดิฉันกับแจงก็รู้สึกหนังตาหนักอึ้งเช่นกัน...ก่อนที่จะสะดุ้งผวาสุดตัวบัดดล!
เสียงระเบิดกึกก้อง รถทัวร์ราวถูกจับเหวี่ยงด้วยมือยักษ์ รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกกำลังถล่มทลาย แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายกระเด็นกระดอนระคนกับเสียงหวีดร้องและร้องไห้โฮจนความรู้สึกดับวูบไป
เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง...คราวนี้หัวใจแทบจะหยุดเต้นไปเลย แม้ว่าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่น่าจะเป็นแม้แต่น้อยนิด!
รถทัวร์ของเราพลิกตะแคงเกือบขวางถนน ทำให้รถราด้านหลังติดกันเป็นแถวยาวๆ รถปิกอัพคันที่ชนท้ายเรากลายเป็นซากเหล็กอยู่ข้างทาง มีตำรวจกับหน่วยกู้ภัยขวักไขว่ไปหมด...ที่ร้ายกว่านั้นคือชาวคณะของเรานอนหงายแน่นิ่ง เรียงรายกันเกือบสิบคน ที่เหลือก็บาดแผลเหวอะหวะ เลือดโซมกาย...
มีอยู่ 2-3 คนเท่านั้นที่บาดเจ็บเล็กน้อย มือกุมหัวป้อยๆ บางคนก็กุมพระที่ห้อยคอ ก้มหน้าพนมมือราวกับจะระลึกถึงบารมีท่านที่ช่วยคุ้มครองให้รอดชีวิตมาได้
ภาพที่น่าสยดสยองสุดๆ ก็คือตัวเองนอนหงายเหยียดยาวคู่กับแจง ร่างกายราวกับแหลกยับเยินคล้ายตุ๊กตาผ้าที่ถูกฉีกทำลาย...ดิฉันกำลังจ้องมองมาอย่างตะลึงพรึงเพริดจากเบื้องบนค่ะ!
ลองคิดดูก็แล้วกัน...ถ้าคุณเห็นภาพศพของตัวเองตำตาแล้วจะรู้สึกอย่างไร?
ฉับพลันนั้น ราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลที่ฉุดดิฉันให้วูบวับไปอีกครั้ง คราวนี้รู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิต หลุดปากร้องครวญคราง พยายามยันกายขึ้นนั่งแต่ไม่สำเร็จเพราะขาหัก หันไปมองแจงก็พบว่าเธอนอนแน่นิ่ง ลืมตาโพลงค้างไปแล้ว...
พนักงานกู้ภัยปราดเข้ามาช่วยเหลือ ปลอบโยนและประคับประคองน่าตื้นตัน...ขณะที่คนอื่นๆ ก็ช่วยกันหามผู้บาดเจ็บสาหัสขึ้นรถพยาบาล...ได้ยินเสียงชายหนึ่งรำพันว่า
"...เพราะบารมีหลวงพ่อแท้ๆ ที่ช่วยคุ้มครอง ไม่ให้ล้มตายหรือบาดเจ็บสาหัสเหมือนคนอื่นๆ สาธุ..."
ดิฉันถูกหามขึ้นรถ น้ำตานองหน้าด้วยความเจ็บปวด...เจ็บช้ำระคนพิศวงงุนงงอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เชื่อว่าชายผู้นั้นจะรอดเจ็บรอดตาย เพราะพระเครื่องที่เขาห้อยคอ!
ถ้าท่านเป็นอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมบารมีที่แท้จริง คงจะไม่ช่วยเหลือเฉพาะผู้เลื่อมใสศรัทธาเพียงผู้เดียว แต่ท่านย่อมจะแผ่เมตตา ช่วยให้คนอื่นๆ รอดพ้นจากชะตากรรมแน่นอน!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์
"นภิสา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
เมื่อสองปีก่อน ดิฉันได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาด ทั้งน่าสยดสยองกับน่าเลื่อมใสกับบารมีของเกจิอาจารย์ชื่อดังบางท่าน...รวมทั้งน่าสงสัยไปสารพัดอย่าง ขอให้ท่านผู้อ่านช่วยพิจารณาด้วยนะคะ
สาวแจงเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเป็นคนชวนไปทัวร์ภาคเหนือ ตามแฟชั่นที่ใครๆ ก็แห่ไปหาอากาศหนาว หวังจะได้ดู "เหมยขาบ" หรือ "แม่คะนิ้ง" น้ำค้างแข็งตามยอดดอยต่างๆ เช่น ดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง ที่ดิฉันไม่เคยไปมาก่อน แม้ว่าอายุใกล้เลขสามแล้วก็ตาม
เพื่อนคนอื่นๆ ล้วนแต่ไปกับครอบครัวทั้งนั้น บางคนรู้ข่าวยังแซวว่า...ดีแล้วละ สาวโสดไม่มีห่วงนี่นา จะไปเที่ยวไหนก็ไปด้วยกันตามสบาย!
เป็นอันว่าเราซื้อทัวร์ไปกับบริษัทดัง 2 คน รวมกับคนอื่นๆ อีก 30 คนเต็มรถที่ออกจากกรุงเทพฯ ตอนเจ็ดโมงเช้าพอดี
ขาไปราบรื่นชื่นบานดีหรอกค่ะ จะมีเศร้าใจก็เนื่องจากข่าวไฟไหม้ซานติก้าผับ เผาผลาญผู้คนไปเกือบ 70 ชีวิต กับบาดเจ็บจากพิษไฟอีกมากมาย เพราะการเที่ยวเตร่ฉลองปีใหม่กันตามประสาหนุ่มสาวไฟแรง...ตอนนั้นเรายังนึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่กลายเป็นเหยื่อพระเพลิงไป ถ้าไม่คิดไปเที่ยวเหนือเราอาจจะไปฉลองปีใหม่กันแถวนั้นก็ได้ค่ะ
การเที่ยวเตร่ของคณะทัวร์เป็นไปอย่างราบรื่น สนุกสนานและตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจกับภูมิประเทศสวยๆ งามๆ ของภาคเหนือ...จนกระทั่งถึงวันกลับ
เรื่องน่าสยองอุบัติขึ้น หลังจากพวกเรารับประทานอาหารกลางวันกันที่อุตรดิตถ์แล้วรถทัวร์สองชั้นก็มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ คนสูงอายุส่วนใหญ่นั่งงีบจนกว่าจะถึงเวลาแวะเข้าสุขาในปั๊มน้ำมันอีกราวสองชั่วโมง
ดิฉันกับแจงก็รู้สึกหนังตาหนักอึ้งเช่นกัน...ก่อนที่จะสะดุ้งผวาสุดตัวบัดดล!
เสียงระเบิดกึกก้อง รถทัวร์ราวถูกจับเหวี่ยงด้วยมือยักษ์ รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกกำลังถล่มทลาย แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายกระเด็นกระดอนระคนกับเสียงหวีดร้องและร้องไห้โฮจนความรู้สึกดับวูบไป
เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง...คราวนี้หัวใจแทบจะหยุดเต้นไปเลย แม้ว่าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่น่าจะเป็นแม้แต่น้อยนิด!
รถทัวร์ของเราพลิกตะแคงเกือบขวางถนน ทำให้รถราด้านหลังติดกันเป็นแถวยาวๆ รถปิกอัพคันที่ชนท้ายเรากลายเป็นซากเหล็กอยู่ข้างทาง มีตำรวจกับหน่วยกู้ภัยขวักไขว่ไปหมด...ที่ร้ายกว่านั้นคือชาวคณะของเรานอนหงายแน่นิ่ง เรียงรายกันเกือบสิบคน ที่เหลือก็บาดแผลเหวอะหวะ เลือดโซมกาย...
มีอยู่ 2-3 คนเท่านั้นที่บาดเจ็บเล็กน้อย มือกุมหัวป้อยๆ บางคนก็กุมพระที่ห้อยคอ ก้มหน้าพนมมือราวกับจะระลึกถึงบารมีท่านที่ช่วยคุ้มครองให้รอดชีวิตมาได้
ภาพที่น่าสยดสยองสุดๆ ก็คือตัวเองนอนหงายเหยียดยาวคู่กับแจง ร่างกายราวกับแหลกยับเยินคล้ายตุ๊กตาผ้าที่ถูกฉีกทำลาย...ดิฉันกำลังจ้องมองมาอย่างตะลึงพรึงเพริดจากเบื้องบนค่ะ!
ลองคิดดูก็แล้วกัน...ถ้าคุณเห็นภาพศพของตัวเองตำตาแล้วจะรู้สึกอย่างไร?
ฉับพลันนั้น ราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลที่ฉุดดิฉันให้วูบวับไปอีกครั้ง คราวนี้รู้สึกตัวขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดสุดชีวิต หลุดปากร้องครวญคราง พยายามยันกายขึ้นนั่งแต่ไม่สำเร็จเพราะขาหัก หันไปมองแจงก็พบว่าเธอนอนแน่นิ่ง ลืมตาโพลงค้างไปแล้ว...
พนักงานกู้ภัยปราดเข้ามาช่วยเหลือ ปลอบโยนและประคับประคองน่าตื้นตัน...ขณะที่คนอื่นๆ ก็ช่วยกันหามผู้บาดเจ็บสาหัสขึ้นรถพยาบาล...ได้ยินเสียงชายหนึ่งรำพันว่า
"...เพราะบารมีหลวงพ่อแท้ๆ ที่ช่วยคุ้มครอง ไม่ให้ล้มตายหรือบาดเจ็บสาหัสเหมือนคนอื่นๆ สาธุ..."
ดิฉันถูกหามขึ้นรถ น้ำตานองหน้าด้วยความเจ็บปวด...เจ็บช้ำระคนพิศวงงุนงงอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เชื่อว่าชายผู้นั้นจะรอดเจ็บรอดตาย เพราะพระเครื่องที่เขาห้อยคอ!
ถ้าท่านเป็นอริยสงฆ์ผู้เปี่ยมบารมีที่แท้จริง คงจะไม่ช่วยเหลือเฉพาะผู้เลื่อมใสศรัทธาเพียงผู้เดียว แต่ท่านย่อมจะแผ่เมตตา ช่วยให้คนอื่นๆ รอดพ้นจากชะตากรรมแน่นอน!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น