คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1st CLASS • LATE
1st CLASS • LATE
วันนี้เป็นวันเสาร์ ที่เท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจ ของเดือนบนกระดาษแผ่นท้ายๆในปฏิทิน
ถ้าเอาตามที่ผมเข้าใจ โดยปกติทั่วไปแล้ว เช้าวันเสาร์สมควรจะเป็นเวลาของการพักผ่อนที่เราจะสามารถนอนยาวๆได้สบายใจ ได้ตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายแล้วทำอะไรต่อมิอะไรแบบที่ใครๆคนอื่นเค้าทำกัน ยิ่งในฐานะของเด็กนักเรียนชายวัยมัธยมปลายด้วยแล้วนั่น มันก็ยิ่งสมควรจะเป็นแบบนั้นเข้าไปใหญ่
อันที่จริงมันก็เกือบใช่อะนะ...
เพราะเช้านี้ทั้งเช้าผมก็นอนหลับสบายเต็มที่ กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกที นาฬิกาก็ตีบอกเวลาเทื่ยงวันแล้ว
แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่าผมกับไอ้คนที่นอนอยู่ด้วยกันไม่รู้จักช่วยกัน ปลุกไม่ช่วยกันรู้เวลาตื่นเนี่ย ดันไม่ได้มีวิถีชีวิตที่เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่านั่นอะดิ ผมหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่กับตัวเองที่ไม่รู้จักจำและทำตัวให้ชินซักที ไอ้จะว่าไม่ชินมันก็ไม่ใช่ แต่พอถึงวันศุกร์ทีไร จิตสำนึกมันก็ไม่เคยสั่งให้ตัวเองรู้จักหน้าที่แล้วพาเอาตัวเองเข้านอนเร็วๆ ได้ซักที ยิ่งไอ้คนที่อยู่ร่วมห้องกันด้วยแล้วนี่ไม่ต้องพูดถึง สันดานเดียวกันไม่มีผิด มันไม่นอน ผมก็ไม่นอน ผมไม่นอน มันก็ไม่นอน ทุกที
ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองมีตารางซ้อมที่บริษัทวันเสาร์ตอนบ่ายทุกสัปดาห์!!
ผมเดินหงุดหงิดงุ่นง่านวนไปวนมาอยู่ในห้องด้วยสภาพพร้อมจะคว้ากระเป๋าแล้ว จิกหัวไอ้คนที่ยังชักช้าอืดอาดอยู่ในห้องน้ำออกไปด้วยกันทันทีที่มันโผล่หัว ออกมา นี่มันเข้าไปทำอะไรนานนักหนาวะ ผมคิดแล้วเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังในห้อง
เข็มยาวชี้ที่เลขหก และเข็มสั้นๆอีกเข็มก็ตกอยู่ที่เลขสิบสองแบบเยื้องๆ...
" เชี่ยอาร์ททททททททททททททททท มึงผลัดขนอยู่รึไงวะ ออกมาใส่เสื้อผ้าข้างนอกเลยนะมึง จะบ่ายแล้วนะโว้ย!!!!!!!! "
ผมแหกปากลั่นเสียงดังพลางใช้ส้นเท้ายันเข้าที่ประตูโครมๆสองสามทีให้ไอ้สิ่ง มีชีวิตที่อยู่ข้างในมันสะทกสะท้านบ้าง ไอ้อาร์ทเป็นรูมเมทผมครับ ที่จริงแล้วแก่กว่าผมนิดหน่อย ปีสองปี แต่ผมก็ไม่เคยเรียกมันพี่ เพราะตอนแรกๆที่รู้จัก ทั้งมันทั้งผมต่างฝ่ายต่างทึกทักเอาเองว่าน่าจะรุ่นๆเดียวกัน ไม่รู้ว่ามันหน้าเด็กหรือผมหน้าแก่น่ะนะ แต่จะอะไรก็ช่างเหอะ ถึงจะเรียกแบบไหนก็คงไม่มีอะไรแตกต่าง เพราะยังไงตอนนี้ผมกับมันก็เป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ที่เดียวกัน คลาสเดียวกัน กรุ้ปเดียวกันทุกอย่าง
ถึงแม้ว่าอันที่จริงมันจะไม่ค่อยชอบพฤติกรรมข้ามรุ่นแบบนี้ของผมเท่าไหร่...
" สัด ใจเย็นๆดิ แล้วเมื่อกี๊มึงถีบประตูใช่มั้ย เชี่ยคีย์ กูเป็นพี่มึงนะ!! " เสียงไอ้อาร์ทตะโกนกลับออกมา
เออ หรือบางทีมันอาจจะไม่ชอบมากๆเลยก็ได้มั้ง =_= แต่ว่า แล้วยังไงล่ะ? ไม่ใช่ว่าผมปีนเกลียวอะไรนะ แต่ทุกครั้งผมก็รู้ว่ามันก็แค่ด่าผมไปอย่างนั้นๆล่ะ ไม่เคยถือสาจริงจังอะไรกับผมมากมาย เพราะมันคือส่วนหนึ่งของความสนิทใจ แล้วก็ใช้คำพูดแบบนี้ด้วยกันจนชินปากไปแล้ว
ที่จริงมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้กับทุกคนนะ กับคนอื่นมันไม่ยอมให้ลามปามกับมันแบบนี้หรอก แต่ผมนี่น่ะเป็นข้อยกเว้น
ไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุหรือเหตุผล แต่มันก็เป็นข้อแตกต่างที่ทำให้ผมกับมันเป็นคนที่สนิทกันมากกว่าใคร
" เร่งชิบหาย วันหลังมึงรีบนักก็อาบพร้อมกูไปเลยสิ ห่านี่ " มันเปิดประตูออกมาในที่สุด หน้าตาดูหงุดหงิดทั้งๆที่คนหงุดหงิดมันสมควรจะเป็นผมไม่ใช่หรือไงวะ!!? มันเอาผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้หัวไปๆมาๆ เออนะ สงสัยมันก็คงรีบที่สุดของมันแล้วจริงๆ (งั้นผมจะคิดว่าเพราะมันหล่อน้อยกว่าก็เลยต้องใช้เวลาเสริมออพชั่นนานกว่าก็ แล้วกัน หึหึ)
" เออ งั้นไว้วันหลังถ้ามึงตื่นช้าอีกกูจะลากมึงเข้าไปอาบพร้อมกัน แล้วถ้ามึงช้ามากๆกูก็จะอาบให้มึงด้วย " ผมพูดใส่มันแล้วส่ายหัว ส่วนมันก็ปาผ้าขนหนูในมือมาใส่หน้า เชี่ยละ กลิ่นยาสระผมกู เอาของกูไปใช้ด้วยนี่หว่า ห่าหนิ
ที่จริงไอ้เมื่อกี๊ผมก็พูดไปงั้นๆแหละ ถึงผมกับมันจะสนิทกัน แต่ก็ไม่ได้เห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออกนะครับ เพิ่งมารู้จักกันตอนโต จะให้มาแก้ผ้าต่อหน้ากันมันก็ออกจะประหลาดๆไปซักหน่อย มันก็คงรู้แหละว่าผมพูดเล่น ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรเหมือนกัน
มันเดินไปหน้ากระจกแล้วเซ็ทผมเผ้าตัวเองอยู่พักนึง ตะแคงมองตัวเองซ้ายขวาเช็คว่าตัวเองดูดีจนมันพอใจแล้วก็เดินไปคว้ากระเป๋า สะพายขึ้นไพล่หลังแล้วเดินเข้ามาหาผมที่ยืนรออยู่แล้ว จัดการล็อคห้องเสร็จสรรพ เข็มยาวบนนาฬิกาปาเข้าไปที่เลขแปดพอดี เอาเหอะ ขนาดนี้แล้วยังไงก็สายแน่ๆละ
" เห็นพี่โม่บอกว่าวันนี้จะมีเด็กใหม่ย้ายมาเข้ากรุ้ปใช่มั้ยวะ? " มันถามขณะที่กำลังล็อคห้อง เสร็จแล้วก็เดินนำผมไป
" ไม่รู้ดิ บอกเมื่อไหร่อะ เมื่อวันพฤหัสอะนะ? " ผมเดินตามมันแล้วก็ถามกลับ พยายามนึกว่าพี่โม่ เทรนเนอร์ที่สอนอยู่กลุ่มเต้นเคยพูดประโยคนี้เมื่อไหร่ แต่นึกๆไปก็นึกไม่ออก ผมคงไม่ได้สนใจฟังหรือไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้สนใจจำ อย่างใดอย่างหนึ่ง
" เออ เมื่อวันพฤหัสแหละ แต่กูจำไม่ได้ละว่าเค้าว่าไงบ้าง " มันพูดแล้วกดลิฟต์ ห้องผมกับมันนี่อยู่ชั้นบนสุดของคอนโดแล้วครับ ตอนนี้ลิฟต์อยู่ชั้นล่างสุด เออเยี่ยม กูยิ่งรีบๆอยู่
" เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองแหละ " ผมพูดเซ็งๆแล้วยืนกอดอกพิงผนังกระเบื้องเย็นๆหน้าลิฟต์พลางเหล่มองตัวเลขสี แดงที่กะพริบบอกชั้นรอไปพลางๆ
มันพยักหน้าหงึกหงักสองสามทีแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ รอไปซักพักลิฟต์ก็กะพริบเลข 15 บอกว่ามันกำลังจะจอดลงรับผมกับไอ้อาร์ทลงไปซักที
หากแต่...
พอประตูลิฟต์เปิดออก ผมดันเจอกับวัตถุสี่เหลี่ยมทรงสูงตั้งอยู่ตรงหน้า ไม่ให้ผมก้าวขาเข้าไปได้
เชี่ยไรเนี่ย!!!!!!!
ดูเหมือนคนข้างในจะไม่เห็นผมเมื่อเขาดันเอาล้อเคลื่อนขนของไปข้างหน้า ซึ่งก็มีผลเท่ากับว่ามันไหลมาทางผมทันที
" เฮ้ยๆๆๆ!!!! " ผมร้องโวยวายพลางถอยเท้าซอยๆถอยหลังหลบตู้ทรงสูงที่อยู่บนล้อเลื่อนทันที ซึ่งเสียงร้องของผมมันก็ได้ผล เมื่ออีกฝั่งหยุดลงทันทีแล้วโผล่หน้าออกมาจากหลังตู้นั้นเมื่้อพ้นประตู ลิฟต์แล้ว
" อ้าว น้องคีย์ " ผมจับกระเป๋าสะพายด้วยมือข้างเดียวแล้วมองหน้าคนที่เรียกชื่อผม คนที่อยู่หลังตู้นั่นคือลุงนพ ลุงยามเฝ้าคอนโดที่ปกติจะวนๆอยู่แถวหน้าประตูใหญ่ชั้นล่าง
" อ้าวลุง " ผมร้องทักแกที่ตอนนี้ดันล้อเลื่อนพาตู้ไปอีกทางห่างจากผม แต่พอมองเข้าไปข้างใน ของงี้แน่นเต็มลิฟต์ จนลิฟต์ที่ผมเคยคิดว่ามันใหญ่พอๆกับลิฟต์โรงพยาบาลดูแคบลงไปถนัดตา
" ของอะไรเยอะแยะครับเนี่ย " ผมถามแกที่เดินออกมาจากหลังตู้หนังสือที่ดูใหญ่ยักษ์มหึมานั่น
" มีคนย้ายเข้ามาใหม่น่ะลูก ลุงเลยขนของเค้าเอาขึ้นมาไว้บนห้อง "
" ชั้นนี้อะเหรอลุง? " ผมถามออกไปทันที ก็ชั้นนี้มันชั้นบนสุดของคอนโด มีห้องใหญ่ๆอยู่ไม่กี่ห้องหรอกครับ ถ้าย้ายขึ้นมาชั้นนี้จริงก็เท่ากับผมจะมีเพื่อนร่วมชั้นเพิ่มขึ้น
" ชั้นนี้แหละ ห้องข้างๆที่ว่างอยู่ ติดห้องน้องคีย์เลย " แกพูดแล้วค่อยๆทยอยขนของออกมาจากลิฟต์ ไอ้อาร์ทมันทำท่ายกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาแล้วฟึดฟัด จริงๆมันคงไม่ได้ตั้งใจจะไม่พอใจใส่ลุงนพหรอก แต่มันคงเห็นว่าสายมากแล้ว... แหม ทีเมื่อกี๊มึงไม่คิดให้ได้งี้เนอะ
" แล้วเจ้าของห้องมันไปไหนอะลุง ไม่มาช่วยลุงขนเหรอ? " ผมถามแล้วเดินเข้าไปช่วยลุงแกขนของออกมา ไหนๆก็ไหนๆละ มันสายแล้วจริงๆนั่นล่ะ ขนของออกจากลิฟต์ไม่หมด ผมก็คงไม่ได้ลงลิฟต์
" เห็นว่ามีธุระ เลยจ้างลุงมาขนนี่ล่ะ น้องคีย์ไม่ต้องก็ได้ลูก เดี๋ยวลุงขนเองๆ " แกรีบละล่ำละลักพูดเมื่อเห็นผมกำลังช่วยแกขนของออกมา โดยมีไอ้อาร์ทที่ทำหน้าหงิกเดินเข้าลิฟต์มาช่วยลากช่วยขนของเล็กๆน้อย แต่มีหลายกล่องหลายชิ้นซ้อนเรียงกันอยู่
" คือผมรีบด้วยน่ะครับลุง แค่นี้นิดๆหน่อยๆ ผมจะได้รีบๆไป แล้วลุงก็จะได้ทำให้เสร็จๆไปเร็วๆด้วย ผลประโยชน์สองทาง ไม่เป็นไรหรอกครับ " ผมยิ้มแห้งๆให้ลุงแก ไม่อยากจะไปหงุดหงิดใส่เหมือนที่ไอ้อาร์ทมันทำอยู่ แต่ผมก็ยอมทรับนะ ว่าชักจะแหม่งๆในอารมณ์กับไอ้ห่าเจ้าของห้องใหม่นี่ละ ย้ายมาวันแรกก็ทำกูขัดใจตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าเลยนะมึงนี่ ไม่ว่างแล้วย้ายเข้ามาทำไมวันนี้วะ ยิ่งไอ้พฤติกรรมเจ้าคนนู้นทำนู่นทำนี่ให้ ผมไม่ชอบใจเอาเลยจริงๆ
พอมีสามแรง ใช้เวลาแค่ไม่นาน ของก็ถูกทยอยขนออกมาจากลิฟต์ไปวางอยู่หน้าห้องอีกห้องจนหมดในเวลาที่สั้นลง
หลังจากนั้นลุงแกก็ขอบอกขอบใจผมกับไอ้อาร์ทยกใหญ่ แล้วก็ขอโทษขอโพยด้วยพอได้ยินไอ้อาร์ทมันบ่นๆกับผมว่าจะไปเข้าคลาสเทรนช้า แกคงนึกได้ตอนนั้นว่าผมกับไอ้อาร์ทเคยนั่งคุยเล่นกับแกว่าผมกับมันเป็นเด็ก ฝึกหัดของค่ายเพลงชื่อดังอยู่
ผมก็ผงกหัวยกมือไหว้ปะหลกๆรับคำแก คนแก่ทั้งขอโทษทั้งขอบคุณแบบนี้ผมล่ะทำตัวไม่ถูก จากนั้นก็เลยลากไอ่อาร์ทลงลิฟต์แล้ววิ่งไปโบกแท็กซี่หน้าคอนโดทันที เลยบ่ายโมงมาแล้วด้วยดิ สายชิบหายจนได้แล้ว
กูโทษว่าเพราะมึงแล้วนะไอ้คนข้างห้อง!!
To be continue...
TALK : เพิ่งเคยเขียนฟิคแบบนี้เป็นครั้งแรก มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวบางอย่างที่อยากจะถ่ายทอดให้หลายๆคนได้อ่านกัน ยังไงเข้ามาอ่านแล้ว ช่วยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้คนเขียนหน่อยนะคะ :)
ความคิดเห็น