[Translated fanfiction]Christmas the Hogwarts Way (SSHG) - [Translated fanfiction]Christmas the Hogwarts Way (SSHG) นิยาย [Translated fanfiction]Christmas the Hogwarts Way (SSHG) : Dek-D.com - Writer

    [Translated fanfiction]Christmas the Hogwarts Way (SSHG)

    โดย mqon

    On her nighttime patrol, Hermione runs into a certain someone beneath the mistletoe. Will two complete opposite actually kiss to escape the spell?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,645

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.64K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    54
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 เม.ย. 59 / 23:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    Christmas the Hogwarts Way

    credit goes to  snowtigress-27

    visit her at  https://www.fanfiction.net/s/5604536/1/Christmas-the-Hogwarts-Way



    เฮอร์ไมโอนี่เดินไปรอบๆทางเดิน เธอกุมมือตัวเองไว้เน้นเพื่อคลายความหนาวเย็นในค่ำคืนนี้ การเดินตรวจทางเดินท่ามกลางฤดูหนาวเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่าเหนื่อยหน่ายกับการมาสอนที่ฮอกวอร์ต โดยเฉพาะเมื่อต้องไปตรวจยังชั้นใต้ดิน พลางกล่าวว่าสเนปอยู่ในใจกับการที่ทำให้เธอต้องเสียเวลาพักผ่อนของเธอ

    เธอเดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังที่พักของเธอ แต่กลับเดินชนเข้ากับใครบางคน

    “ศาสตราจารย์สเนป!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ขยับถอยหลังออกจากตัวเขาในทันที เธอพยายามถอยออกไปให้ไกลที่สุด จนกระทั่งมีแรงบางอย่างหยุดเธอไว้

    ความรู้สึกแปรปรวนที่ท้องก่อตัวขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นไปมองยังผนังห้อง ที่บอกว่าข้อสันนิษฐานของเธอถูก “มิสเซิลโท”

    “คุณจะจูบหนูไหมคะ?” เธอถามขนาดนี้พยายามหลบตา

    เซเวอรัสมองขึ้นไปยังมิสเซิลโทที่อยู่เหนือศีรษะ ก่อนที่จะหันมองมาที่เธออีกครั้ง ก่อนจะพูดเสียงแห้ง “ฉันคงต้องขอปฏิเสธ”

    “คุณจะยืนอยู่ที่นี่ทั้งคืนจริงๆหรือคะ?” เธอเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มเท่านั้น

    เซเวอรัสยกมือขึ้นกอดอกแล้วพูดตอบเธอ “อีกแค่สองชั่วโมง ฉันว่าฉันทนได้ แน่นอน.. ถ้าเธอไม่ทำตัวน่ารำคาญจนฉันต้องกลั้นใจตายเสียก่อนนะ”

    “ถ้างั้นก็ดีค่ะ” เธอตอบเสียงเย็นชา “เพราะหนูก็ไม่ได้วางแผนจะฆ่าใครเหมือนกันคืนนี้”

    เฮอร์ไมโอนี่เริ่มนั่งลงเป็นคนแรก เธอไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป แต่ไม่นานนัก เขาก็นั่งลงตาม

    “หนูนึกว่าคุณจะไม่เมื่อยซะอีก” เธอพูดหยอกเขา

    “ใช่.. ฉันเมื่อย”

    “งั้นก็ทำให้เราออกจากที่นี่สักทีเถอะค่ะ” เธอท้าทายเขา

    “ฉันก็ไม่อยากทนฟังบทสนทนาของเธอนักหรอก”

    “ยังกับหนูอยากคุยกับคุณมากอย่างนั้นแหละ” เธอตอบอย่างประชดประชัน และเสริมต่อ “ทำไมคุณไม่จูบหนูให้มันจบๆไป แล้วเราจะได้ออกจากอากาศหนาวเย็นนี่กันสักที”

    “คำถามคือ.. คุณเกรนเจอร์.. ทำไมเธอไม่เริ่มก่อนหละ?”

    “ฮ่ะ ฮ่า..” เธอพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะ “ขำมากเลย อาจารย์”

    “ฉันน่ารังเกียจเกินไปสำหรับเธออย่างนั้นเหรอ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    เธอก้มหน้าลงพร้อมกับส่ายหน้า “หนูเป็นคนบอกให้คุณเริ่มจุบหนูก่อน น่าจะชัดเจนนะคะ ว่าหนูไม่ได้รู้สึกรังเกียจ” สีหน้าของเธอแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าที่เธอพูดมาอาจมีความหมายอะไรมากกว่านั้น

    เธอยังคงพูดต่อ ตอบคำถามต่อไปของเขาที่คิดอยู่ในใจ ก่อนที่เขาจะพูดออกมาเสียอีก “หนูถูกสอนมาตลอดว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายชายที่จะต้องเป็นคนเริ่มก่อน อาจดูหัวโบราณไปหน่อย แต่หนูก็จะไม่เปลี่ยนความคิดหรอกนะคะ”

    “ฉันก็ไม่อยากให้เธอเปลี่ยน”

    เสียงนาฬิกาข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้น เตือนว่าเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว อีกแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

    ความหนาวเย็นยิ่งก่อตัวมากขึ้นกว่าเดิม เธอรู้สึกได้ว่าเสื้อที่เธอใส่เริ่มไม่ช่วยอะไรแล้ว หนาวจนแทบคิดว่าเลือดอาจจะแข็งไปแล้วก็ได้

    “แย่จังนะคะที่คนที่เสกคาถานี้ขึ้นมาลืมคิดไปว่าอาจมีคนหนาวตายที่นี่ได้” เธอบ่น

    “ฉันไม่คิดว่าจะมีใครรอจนหมดวันนี้เหมือนเราสองคนหรอก” เขาตอบ

    “ถ้างั้น... หนูว่าอย่างเราสองคน เขาคงไม่คิดว่าจะมาอยู่ใต้มิสเซิลโทนี้ด้วยกันหรอกค่ะ” เธอพูดพร้อมเสียงหัวเราะ รอยยิ้มของเธอทำให้เขาหัวเราะตามเบาๆ

    เซเวอรัสสังเกตว่าเธอเริ่มจะทนต่อความหนาวเย็นไม่ไหวแล้ว ขาจึงถอดผ้าคลุมของเขาออก แล้วยื่นฝห้เฮอร์ไมโอนี่

    “นี่” เขาพูด “เธอจะได้หยุดสั่นน่าสงสารแบบนี้เสียที”

    “ไม่เป็นไรค่ะ หนูรับไว้ไม่ได้หรอก” เธอตอบและดันผ้าออกไป “คุณก็หนาวกันพอดี ถ้าหนูเอามา”

    เขาจับมือที่ดันผ้าของเธอไว้ พลางอ้อมใช้มืออีกข้างคลุมมผ้าคลุมไปยังไหล่ของเธอ

    “เธออาจจะลืม.. ฉันอยู่ห้องใต้ดินจนชินเสียแล้ว เธอต้องการมันมากกว่าฉัน เฮอร์ไมโอนี่”

    เธอยิ้ม.. อย่างเขินอายและจับมือของเขาให้แน่นขึ้น

    “ขอบคุณค่ะ”

    เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างในสายตาของเธอ รอยยิ้มของเธอ... เขาเล่าเรื่องของเขาเมื่อตอนมาสอนที่นี่ปีแรกให้เธอฟัง และเธอก็ร้องไห้กับเรื่องที่เขาเล่า

    “เล่าให้หนูฟังอีกได้ไหมคะ” เธอพูดพลางเช็ดน้ำตาของตัวเอง

    เขากลัวความอยากรู้ของเธอที่ต้องการรู้เกี่ยวกับเขา เขาไม่เคยเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใครมาก่อน แต่นี่ผ่านไปยังไม่ทันจะสองชั่วโมง เธอกลับรู้เรื่องของเขาดีกว่าคนอื่นที่เขาเคยรู้จัก แล้วเขาหละ? เขารู้ดีว่าตอนนี้เธอไม่ใช่แค่เด็กแสนรู้ที่น่ารำคาญคนนั้นอีกแล้วสำรับเขา ใช่แล้วหละ เขาเองก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน

    “และเมื่อซินเดอเรลลาก้าวขึ้นมาที่บันได สายตาทุกคู่ก็จับจ้องมาที่เธอ” เฮอร์ไมโอนี่เล่าอย่างมีเสน่ห์ พวกเขาได้เล่าเรื่องต่างๆเพื่อฆ่าเวลามาสักพักหนึ่ง และตอนนี้เองเธอก็เล่านินทานของพวกมักเกิ้ลให้เขาฟัง

    “ทำไมทุกคนต้องมองเธอด้วย” เขาพูดขัดขึ้นมา “เธอไม่น่าจะสวยขนาดนั้นสักหน่อย”

    “คุณยังอยากฟังต่อไหมคะ” เธอถามพร้อมกับส่งสายตาให้เขาเงียบ

    เขาจ้องกลับอย่างท้าทายแต่ก็ยังพูดต่อ “ฉันหมายถึง..ทำไมพวกมักเกิ้ลถึงไม่มีความคิดสร้างสรรค์เอาซะเลย”

    “แต่เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากผู้วิเศษนะคะ!

    แล้วเธอก็เล่าต่อ

    “และเขาก็ขยับเข้ามาใกล้เธอ และนาฬิกาก็ดังบอกเวลาเที่ยงคืน” เธอพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา

    และไม่นานเสียงของนาฬิกาก็ดังขึ้น บ่งบอกเวลาของวันใหม่ สายตาของเธอเคลื่อนไปมองที่เขา ตกใจที่เขายังคงไม่ขยับไปไหน

    “แล้วยังไงต่อ” เขาถาม สายตายังคงมองจ้องตาเธออยู่ไม่ขยับไปไหน

     “และเขาก็จูบเธอ” เธอกระซิบ

    ว่าแล้วเธอก็หลับตาลงและริมฝีปากของเซเวอรัสก็เคลื่อนมาหาริมฝีปากของเธอ จูบอันแผ่วเบาแต่ทรงพลัง เธอรู้สึกถึงมือของเขาที่ประคองใบหน้าของเธอไว้ เธอโน้มตัวไปหาเขาอย่างไม่ทันรู้ตัวไปในสัมผัสของเขา แต่น่าเสียดาย.. งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา

    “ทำไมคุณถึงไม่ทำมันตอนที่มันจำเป็นกัน?” เธอถามเขาขณะที่เขาถอนตัวอกจากเธอ

    เขาเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ครุ่นคิดคำตอบอย่างระมัดระวัง

    และในที่สุด “ในทางกลับกัน ที่ฉันรอให้เวลาของคาถามันหมดไป เพื่ออยากให้รู้ว่ามันจำเป็นสำหรับฉันแค่ไหน”

    เฮอร์ไมโอนี่อึ้งกับคำพูดของเขาอยู่ “ คุณรู้ตัวใช่ไหม ว่าที่คุณตอบมันหมายถึงคุณต้องการที่จะจูบหนู และคุณคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้ว”

    “ฉันรู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และฉันหมายความอย่างนั้นทุกคำ” เขาพูดยังทำหน้านิ่ง

    แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านั้นทำให้ใจเธอละลาย เธอยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น

    “จูบหนูอีกทีสิคะ” เธอพูด

    เซเวอรัสใช้นิ้วสัมผัสไปยังแก้มของเธออย่างแผ่วเบา และวางคางของเธอไว้ในมือเขา และบรรจงประทับรอยจูบให้เธออีกครั้งหนึ่ง

    ริมฝีปากของเธอช่างนุ่มนวล เอิบอิ่ม และหอบหวาน เขากอดเธอไว้แน่น กลัวว่าช่วงเวลานี้จะจบลง และเธอจะจากเขาไปตลอดกาล นี่เป็นฝันที่สวยงามที่สุดที่เกิดขึ้นตอนตื่น

    และทันใดนั้น เสียงฝีเท้าก็ชัดเจนขึ้นมาทางพวกเขา มิเนอร์ว่ากำลังตามหาพวกเขา

    “แล้วยังไงต่อคะ?” เธอกระซิบถามแล้วเอนตัวเข้าหาเขา

    “ฉันคิดว่าเราควรจะบอกความจริง” เซเวอรัสตอบพึมพำพร้อมสูดดมกลิ่นเส้นผมของเธอ

    “ความจริงงั้นหรือคะ?” เธอตกใจไม่น้อยที่เขาจะยอมรับกับศาสตราจารย์มักกอลนากัลว่าเขาจูบกับเด็กผู้หญิงใต้ต้นมิสเซิลโทนี่

    เขาหัวเราะ

    “ใช่ ความจริง” เขาตอบ “เราสองคนติดอยู่ใต้ต้นมิสเซิลโท และเราก็ดื้อรั้นที่จะรอจนเที่ยงคืน”

    “อ่อ...” เธอพูดและยิ้ม

    เขาปล่อยมือออกจากเธอและจูบเธอเป็นครั้งสุดท้าย

    วันต่อมา เฮอร์ไมโอนี่และเซเวอรัสทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่ออาจารย์สักคนถามขึ้นมาเกี่ยวกับมิสเซิลโท พวกเขาก็แค่ทำเป็นมองหน้ากันและพูดว่า “ฉันไม่อยากพูดถึงมัน”

    แต่เมื่อกลางคืนมาถึง เซเวอรัสพบว่าเขาเองมาที่เดิมอีกครั้ง ยืนพิงกำแพง จ้องมองไปยังมิสเซิลโท

    “เฮอร์ไมโอนี่” เซเวอรัสพูดอย่างแผ่วเบา “ฉันหวังว่าจะพบเธอที่นี่นะ”

    เวลาล่วงเลยไป จนคริสต์มาสมาถึง เฮอร์ไมโอนีและเซเวอรัสยังคงจูบกันใต้มิสเซิลโทที่เดิมอีกครั้ง

    “เราทำอย่างนี้กันตลอดไม่ได้นะคะ” เธอพูด “ถ้าเขาเอามิสเซิลโทออกหละคะ หนูไม่อยากหลบๆซ่อนๆแล้ว”

    “ฉันรู้” เขาพูดกระซิบผ่านเส้นผมของเธอ

    “หนูต้องทำอย่างไรต่อไปคะ”

    “ฉันจะหาทางนะ” เขาสัญญา “แต่ตอนนี้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”

    เธอยิ้มอย่างไม่มั่นใจ แต่ก็นะ.. แค่นี้ก็พอแล้ว

    วันสิ้นปีก็มาถึง แต่พวกเขายังหาทางแก้ปัญหาไม่ได้ พวกเขาแค่พบกันที่ที่เดิมต่อไป แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ก็ยิ่งยากที่จะเก็บความลับได้

    เซเวอรัสพยายามที่จะหาทางออก แต่หนทางเดียวที่เขาคิดออก ดูเหมือนว่าจะต้องทำมันวันนี้เท่านั้น

    ที่งานเลี้ยงของเหล่าอาจารย์ เต็มไปด้วยดนตรี เครื่องดื่ม แต่ทั้งเขาและเธอยังคงรักษาระยะห่าง แค่สบตากันเป็นครั้งคราว และเมื่อการเคาท์ดาวน์เริ่มขึ้น

    เฮอร์ไมโอนี่สังเกตว่าเซเวอรัสเดินเข้ามาใกล้ขึ้น ขณะที่คนอื่นๆกำลังนับถอยหลัง “10…9…8…

    เขามองมาที่เธอด้วยสายตาที่ร้อนรนราวกับไฟที่กำลังเผาไหม้ แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจความหมายของมัน

    “7…6…5…” เขาเดินข้ามผ่านห้องมาเพื่อมาที่เธอ

    และเมื่อ “4..3…2…” เขาก็อยู่ข้างเธอแล้ว เอื้มมื้อสัมผัสผมที่ปิดบังท้ายทอยเธออยู่

    “1!” เสียงเชียร์ดังสนั่นขึ้นพร้อมๆกับที่เขาก้มลงจูบเธออย่างรุนแรง

    ทุกเสียงเงียบลง ทุกคนจ้องมองมายังเขาและเธอ เขายิ้มอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า

    “สุขสันต์วันปีใหม่นะที่รัก”

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานิยายได้ เนื่องจากเจ้าของเรื่องปิดการเข้าถึง

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×