[exo kaido] L O V E D - [exo kaido] L O V E D นิยาย [exo kaido] L O V E D : Dek-D.com - Writer

    [exo kaido] L O V E D

    โดย moominny

    ผู้เข้าชมรวม

    346

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    346

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ต.ค. 57 / 23:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      L O V E D

       

       

      ความมรัก เมื่อเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว...

      มันก็จะยังคงหยั่งรากอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเรา ...
      อยู่ในหัวใจ , ในความรู้สึก , ในความนึกคิด หรือในอารมณ์ที่จดจำ...

      ผมไม่เคยคิดถึงความจริงข้อนี้มาก่อน จนกระทั่ง...

      .

      .

      .

       

      “จงอิน.. ”

      ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อของเขา เสียงที่คุ้นเคยนั้นทำให้เขาต้องหันไปมองโดยอัตโนมัติ

      ผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งเดินยิ้มเข้ามาหา ใครคนนั้นอยู่ในชุดเชิ้ตสีสะอาดกับกางเกงยีนส์สบายๆตามสมัยนิยมเหมาะกับงานเลี้ยงรุ่นที่จัดกันเอง
      โดคยองซูถือแก้วเครื่องดื่นมาสองแก้วก่อนจะมายืนตรงหน้า

      “ ไง...”  ผมยักคิ้วให้ โดคยองซู
      “ เพิ่งมาเหรอ เอาหน่อยมั้ย..” คนตรงหน้ายื่นสองทางเลือกให้เขา

      ผมตอบคำถามด้วยสายตาที่จ้องมองใบหน้านั้นซักพัก
      ถึงแม้จะถาม ... คยองซูรู้ดีว่าเขาเพิ่งมาถึง ก็เลยหยิบแก้วเครื่องดื่มมาให้...

      โดคยองซูยังเหมือนเดิม...

      คยองซูมักจะถาม ทั้งทีรู้..
      และทั้งที่ดูเหมือนจะรู้ ..แต่ก็ไม่เคยรู้

       

      ผมเลือกหยิบหนึ่งในสองแก้วนั้น...

      “ ขับรถมานี่นาวันนี้...”

      ริมฝีปากรูปหัวใจขยับถาม เมื่อกี๊คงเห็นเขาเก็บกุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกง

      “ อื้อ ใช่.. นายล่ะ” เขายกยิ้มแล้วถามบ้าง.. คำถามง่ายๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญ..

       

      “ เดี๋ยวนั่งTAXI กลับน่ะ.. รถฉันซ่อมอยู่ ” คนที่สูงน้อยกว่าเขาราวสิบเซนตอบพลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นกำลังจะจิบ

      หากแต่เป็นอีกครั้งที่ คำตอบของคยองซูเป็นสาเหตุของการกระทำของเขา

      การกระทำที่มีนัยสำคัญมากกว่าคำพูด...

      การกระทำของเขามันถูกชักนำด้วย โดคยองซู อีกครั้ง

      มือของเขาฉวยเอาแก้วในมือของคยองซูมายกขึ้นจิบ พลางส่งแก้วของตัวเองที่มีแอลกอฮอลล์ผสมอยู่ให้แทน..

      “แลกกัน.. เดี๋ยวฉันไปส่งนายเอง..”
      กลิ่นรสชาติหวานอมเปรี้ยวของน้ำพันซ์ไร้ส่วนผสมของแอลกฮอล์ติดปลายลิ้น

      โดคยองซูมองเขาด้วยตากลมๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มรูปหัวใจส่งให้เขา...

      “ จริงเหรอ.. แต่มันไกลมากนะ..”

      “ ถึงไม่ดื่มไง.. จะมาเกรงใจอะไรกันป่านนี้ ” เขายกยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ผมคนตรงหน้าเบาๆ

      แน่นอนว่าคยองซูโวยวายก่อนจะปัดมือเขาออก..

      “ ผมยุ่ง..”

      “ คิดว่าก่อนหน้านี้มันไม่ได้ยุ่งอยู่แล้วเหรอ...”
      คยองซูก็แค่บ่น แต่ก็ไม่เคยถือสา

      เหมือนที่ไม่เคยติดใจอะไรในการกระทำของเขาเท่าไหร่...

       

      “ คยองซูยา~ เสียงของเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่เพิ่งมาถึงในงานดังขึ้นเรียกให้คยองซูต้องหันไปหา

      เธอเป็นเพื่อนผู้หญิงท่าทางเฮฮาที่คยองซูสนิทสนมด้วยอีกคน

       “ มาแล้ว.. ยัยป้ามหาภัย.. ชั้นไปทางโน้นก่อนนะ ” เขากระซิบบอกคยองซู คนตัวเล็กยิ้มขำก่อนจะส่ายหัว

      “ เสร็จแล้ว โทรหาชั้นละกัน...” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมา

      .

      .

      .

       

      เขาเดินๆคุยๆอยู่ในงานไม่นาน ก่อนจะปลีกตัวออกมาเมื่อเห็นว่าได้เวลาที่น่าจะต้องกลับ

      พรุ่งนี้เขามีงานในช่วงเช้า
      คยองซูยังไม่โทรหาเขา...

       แต่เขาก็เลือกที่จะออกมารออยู่ที่รถ

      มันไม่ได้แย่นักเมื่อเป็นลานจอดที่อยู่ติดริมแม่น้ำ

      มองออกไปไกลๆ เขาเห็นดวงไฟเรียงรายเป็นเส้นแสงที่อีกฝั่งของแม่น้ำ

      แต่มันจะไปได้ไกลเท่าความคิดเขาหรือไม่

      เมื่อองค์ประกอบอย่างเดียวกัน กับ ความเงียบ พาเขากลับไปยืนอยู่ในภาพของวันวานอีกครั้ง

      ในวันนั้น มีแม่น้ำสายกว้างอยู่ตรงหน้าเขาเช่นเดียวกัน

      ในวันนั้น มีเก้าอี้ม้านั่งไม้เก่าๆ

      และในวันที่แสนธรรมดาวันนั้น มีคิมจงอิน และมีโดคยองซู...

       

      “ หมดซะแล้ว..” โดคยองซูวางกระป๋องน้ำอัดลมเปล่าๆลงที่พื้น
      “ เอาไปสิ.. ฉันพอแล้ว ” เขาว่าพลางส่งกระป๋องน้ำอัดลมรสเดียวกันที่ยังมีอยู่กว่าครึ่งให้..

      โดคยองซูส่ายหน้าก่อน จะเอนหัวลงมาอิงที่ไหล่ของเขา...

      เมื่อปรายตาไปมอง ก็เห็นว่า เพื่อนเขากำลังอาศัยไหล่ของเขาเป็นหมอน

      “ นี่คงไม่ได้จะหลับจริงๆใช่ไหม..”

      คนตัวเล็กข้างๆเขาไม่ตอบ  แต่ส่ายหัวเบาๆ.. โดคยองซูคงแค่อยากพักสายตา

       

      วันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้าย..

      ความเหนื่อยล้าของช่วงสองสัปดาห์ของการสอบ

      เราสองคนคิดว่าสายลมเย็นๆคงช่วยพัดให้มันหายไป จึงเป็นสาเหตุให้ตอนนี้มีคนสองคน กับน้ำอีดลมสองกระป๋องอยู่บนม้านั่งไม้สีซีด

      มันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่า คนหนึ่งที่หลับตาเพลินๆ กับใครอีกคนที่นั่งทอดสายตาไปยังอีกฟากฝั่งของแม่น้ำ...

       

      ตอนนั้น เขาไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร...
      ความรู้สึกนั้น.. มันอาจจะเพิ่งเริ่มก่อตัว....

      .

      .

      .

       

      “ จงอิน นายอยู่ไหน...”

      “ ฉันรออยู่ที่รถ ..ลานจอดริมแม่น้ำน่ะ เดินมาเดี๋ยวนายก็เจอ ”

      เขาตอบปลายสาไปแบบนั้นเนื่องจากตอนนี้เหลือรถที่จอดอยู่แค่ไม่กี่คัน

      ไม่กี่นาทีต่อมา โดคยองซูก็มาก้มๆมองอยู่ที่กระจกฝั่งคนนั่งด้านหน้า...

       

      “ รอนานไหม... ทำไมนายไม่โทรบอกชั้นล่ะ ”

      คนตัวเล็ก เปิดประตูขึ้นมานั่งก่อนจะถาม...

      “ ไม่เป็นไร ก็อยากให้นายคุยกับเพื่อนๆให้เต็มที่ก่อน.. รอได้น่า

      ถ้ารีบก็คงไม่บอกว่าจะไปส่งหรอก...”

      เขาตอบออกไปโดยที่ไม่ได้หันไปมองคนข้างๆ มือหมุนพวงมาลัยเพื่อถอยออกจากซองที่จอดรถ

      “ ปวดหัวแฮะ.. ไม่น่าดื่มเลย...”

      “ ฮ่ะๆๆๆ นานๆทีก็เอาเถอะน่า.. ไม่ได้ขับรถซะหน่อย..”

      “ พรุ่งนี้มีงานเช้าน่ะสิ ง่วงจัง..”
      “ นอนไปก็ได้นะ..”

      เขาว่าพลางเอื้อมมือไปเปิดเพลง

      เสียงกีต้าร์แผ่วคลอขึ้นทดแทนเสียงของบทสนทนาแสนสั้นที่ขาดหายไป

      สายตาเขาจดจ้องไปที่ถนนหนทางข้างหน้า

      มีเพียงเสียงร้องกังวานใสของเพลงบัลลาดเพลงโปรดของเขาในตอนนี้ เส้นทางข้างหน้าเท่านั้นที่เขาพยายามจะสนใจ

      บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความพยายาม

      เขาสูดหายใจเข้าช้าๆ ก่อนจะผ่อนมันออกยาวๆ

      ในอากาศมีกลิ่นน้ำหอมของคยองซู เจืออยู่กับกลิ่นแอลกอฮอล์บางๆ

      ... สุดท้าย  มันทำให้เขาหวนคิดถึง...

       

      เขาไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไร ที่เรียกว่าความรักใช่หรือไม่..

      เขารู้แค่ว่ามันคือความปั่นป่วน...

      มันก่อกวนเขา...

      โดคยองซูก่อกวนเขาได้โดยที่ไม่เคยรู้ตัว...

      ไม่ว่าอะไรที่คยองซูทำ ดูเหมือนมันจะมีผลกระทบกับเขาไปเสียหมด...

      เมื่อมองย้อนกลับไปในตอนนั้น.. คิมจงอินเหมือนคนเป็นบ้า...

      .

      .

      .

       

      “ นายเป็นอะไรเนี่ย จงอิน..”
      คยองซูถามเขา.. น้ำเสียงนั้นมันบ่งบอกชัดเจนว่า คยองซูไม่เข้าใจจริงๆว่า เขาเป็นอะไร

      เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร

      รู้แค่ว่า เขาไม่อยากยิ้ม ไม่พอใจ เขาไม่ชอบ..

      “ เปล่านิ่...” เมื่อเขาไม่รู้เลยได้แต่ปฏิเสธ  ..เขาไม่รู้ว่าจะอิบายมันได้ยังไง..

      เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

      เขาไม่อยากถูกลดความสำคัญ

      เขาไม่อยากได้ใครเข้ามาเพิ่มในวงโคจร..

      เขาไม่ได้ต้องการแชร์พื้นที่ของคำว่าคนสนิทกับใครคนอื่นอีก นอกจากโดคยองซู

      แน่นอนว่าคยองซูไม่ได้คิดแบบนั้น

      และคยองซูไม่รู้ว่าเขาคิดแบบนั้น..

       

      “อะไรของนาย.. ไม่พูดแล้วจะไปเข้าใจได้ยังไง...”

      น้ำเสียงของคยองซูไม่พอใจเมื่อเขาเริ่มกลายเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง

      เขาไม่รู้วิธีจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ สุดท้ายเลยเลือกที่จะเดินออกไปจากตรงนั้น...

      “ จงอิน.. จงอิน...” เสียงเรียกของคยองซูไม่ได้ทำให้ผมหันกลับไป...

       

      เราไม่เคยคุยเรื่องนั้นกันอีกหลังจากนั้น...

      เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น

      คยองซูยังคงเป็นคนเดิมที่ให้อภัย และ ดีกับเขาเหมือนเดิม            

      แต่คิมจงอินเปลี่ยนไปแล้ว...

       

      เขาไม่รู้ว่าจะรักษาระดับความสัมพันธ์นี้ไว้ที่ตรงไหน

      เลยปล่อยให้มันเป็นไป แบบที่มันจะเป็นได้

       

      แม้จะมีใครคนอื่นเพิ่มเข้ามาบนพื้นที่ของเพื่อนสนิท

      แต่คยองซูยังคงดีกับเขา เข้าใกล้เขา และทำให้หัวใจของเขาแกว่งไกวในบางครั้ง...

      เขาอ่านสายตานั้นไม่ออก บางครั้งคยองซูเหมือนจะรู้ แต่บางครั้ง ก็เหมือนไม่เคยรู้อะไรเลย

       

      เขาเลยได้แต่ปล่อยมันไว้ และไม่พยามคาดคั้นเอาความจริงจากคนตรงหน้า...

      เขาอยากกันตัวเองเอาไว้ให้ปลอดภัยจากความจริงที่มันอาจไม่ตรงกับใจ...

      และเลือกที่จะทำตามใจตัวเองบ้างบางครั้ง..

       

      ภายใต้ไรแดดที่ลอดผ่านพุ่มใบของต้นไม้สูง

      วันนั้น โด คยองซูเอนกายพักสายตาหลังจากทานมื้อกลางวันง่ายๆ..

      มีแค่เขากับคยองซู...

      แน่นอนว่าเขาไม่ได้พยามจะละสายตาไปมองที่อื่นใดเลย

      เขาทำได้แค่เพียงมองโดคยองซู

      สายลมเย็นพัดผ่านพวกเราสองคนไป...

      มันเหมือนมีแรงดึงดูดที่แผ่วเบา เขาไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งปลายจมูกเฉียดเข้ากับหน้าผากมนของคยองซู...

      ถึงแม้มันจะชะงักการเคลื่อนไหว แต่สุดท้าย เขาก็ฉวยโอกาสนั้นไว้ด้วยการแตะมันลงแผ่วเบา

      เพียงเบาๆ เพราะเขาไม่ต้องการให้อีกคนรู้สึกตัว

      และเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เขาก็ดึงตัวออกมา แล้วมองออกไปทางอื่นเพื่อจัดการกับความรู้สึกปั่นป่วนในใจ

       

      เมื่อหันกลับมาอีกครั้ง เขาพบว่าดวงตากลมโตนั้นกำลังจ้องมองไปด้านบน

      ท่ามกลางความเงียบงัน เขาไม่ได้ถามออกไป ว่าโดคยองซูรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนไหน
      เมื่อคยองซูไม่ได้แสดงออกอะไรนอกจากฮัมเพลงออกมาเบาๆ

      เขาเองก็เลยเลือกที่จะล้มตัวลงนอนเงียบๆเช่นกัน

      มองไปที่แผ่นฟ้าผืนเดียวกัน

      ท้องฟ้าสีฟ้า.. มีเมฆสีขาวกระจายตัวแต่งแต้มอยู่บนนั้น...

      ความคลุมเครือที่ซุกซ่อนอยู่ในความปกติธรรมดา..

       

      และเมื่อคยองซูเอง ไม่เคยแสดงทีท่าว่ารับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของเขาได้เลย...

      เขาจึงเลือกให้มันยังคงคลุมเครืออยู่แบบนั้น

      จนวันนึง มันก็กลายเป็นตะกอนที่ตกอยู่ในใจ

      .

      .

      .

       

      เสียงหายใจสม่ำเสมอบอกเขาว่าอีกคนคงหลับไปแล้วจริงๆ

      เขายังคงขับรถมุ่งหน้าไปโดยมีเสียงเพลงเป็นเพื่อน...

      แว่บนึงเขาเหลือบสายตาไปมองโดคยองซู..

      เขาอยากจะเอื้อมมือไปแตะแก้มของคยองซู... แต่ก็ได้แค่คิด

       

      ในตอนนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรตามอารมณ์เหมือนตอนนั้นแล้ว

      และแม้ความรู้สึกปั่นป่วนนั้นมันจะหายไปมากแล้วก็ตาม

      แต่เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งนั้นมันยังคงอยู่...

      ความรู้สึก ที่หลังจากนั้นเขาถึงเข้าใจว่ามันคือความรัก ยังคงซุกซ่อนอยู่ที่ไหนซักที่ในตัวเขา

      และเมื่อโดคยองซูมาปรากฏตัวตรงหน้า...

      เขาถึงรู้ว่า มันไม่เคยหายไป...

      และแม้ว่าในความเป็นจริง เรื่องราวของเราจะเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน

      แต่ความรู้สึกนึกคิด และการกระทำของเขามันก็ยังคงมีโดคยองซูเป็นส่วนหนึ่งในนั้นเสมอ

      โดยที่เขาเองก็ห้ามมันไม่ได้...


      เขาเพิ่งเข้าใจก็วันนี้...

       

       

      “ อืม.. ถึงแล้วเหรอ..

      อา.. หลับไปเฉยเลย ” คนข้างๆขยับตัวตื่นเมือ่ความเร็วรถชะลอลงก่อนจะหยุดนิ่ง

       

      “ ถึงแล้ว.. พักผ่อนซะนะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นไหว...” เขาไม่มีอะไรให้คยองซูมากกว่าแค่คำลาธรรมดาๆ

      คนตัวเล็กลงจากรถไป ก่อนจะยื่นหน้ากลับเข้ามาอีกครั้ง...

       

      “ขับรถดีๆล่ะ ถึงบ้านแล้ว โทรมาบอกด้วยนะ  แล้วก็...

        ขอบคุณนะ จงอิน..”

      เขามองเห็นสายตาของคยองซูที่มองจ้องมาในแสงสลัวๆ ก่อนจะพยักหน้าให้เป็นคำตอบ..

      เมื่อมองผ่านทางกระจกมองหลัง เขายังเป็นโดคยองซูมองส่งเขาอยู่ที่หน้าบ้าน...

      เขายิ้มกับตัวเองเงียบๆ...

      เพราะสายตาคู่นั้นหรือเปล่า

      เพราะสายตาที่จริงใจของคยองซูคู่นั้นที่ทำให้เขายังคงมีโดคยองซูอยู่ในทุกส่วนของความทรงจำ

       

      นั่นสิ...

      ความมรัก เมื่อเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว...

      มันก็จะยังคงหยั่งรากอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเรา...

      อยู่ในหัวใจ , ในความรู้สึก , ในความนึกคิด และแม้แต่ในอารมณ์ที่จดจำ...






      END.

       

       

       

       ------------------------------------------------

      talk~

      ฟิคเรื่องแรกในรอบ สี่ห้าปีมานี้
      อยู่ๆก็กลับมาติดฟิค
      อยู่ๆก็อยากเขียนฟิค

      ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
      มันอาจจะมีบางจุดที่ไม่ไหลลื่น 
      อ่านแล้วรู้สึกยังไง ทิ้งข้อความไว้ได้นะคะ
      #LOVEDkaido

       

       

       

       

       

       

       



       

       

       

       

       



       

       

       

       

       

       

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×