[exo kaido] L O V E D
ผู้เข้าชมรวม
346
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
L O V E D
ความมรัก เมื่อเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว...
มันก็จะยังคงหยั่งรากอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเรา ...
อยู่ในหัวใจ , ในความรู้สึก , ในความนึกคิด หรือในอารมณ์ที่จดจำ...
ผมไม่เคยคิดถึงความจริงข้อนี้มาก่อน จนกระทั่ง...
.
.
.
“จงอิน.. ”
ได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อของเขา เสียงที่คุ้นเคยนั้นทำให้เขาต้องหันไปมองโดยอัตโนมัติ
ผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งเดินยิ้มเข้ามาหา ใครคนนั้นอยู่ในชุดเชิ้ตสีสะอาดกับกางเกงยีนส์สบายๆตามสมัยนิยมเหมาะกับงานเลี้ยงรุ่นที่จัดกันเอง
โดคยองซูถือแก้วเครื่องดื่นมาสองแก้วก่อนจะมายืนตรงหน้า
“ ไง...” ผมยักคิ้วให้ โดคยองซู
“ เพิ่งมาเหรอ เอาหน่อยมั้ย..” คนตรงหน้ายื่นสองทางเลือกให้เขา
ผมตอบคำถามด้วยสายตาที่จ้องมองใบหน้านั้นซักพัก
ถึงแม้จะถาม ... คยองซูรู้ดีว่าเขาเพิ่งมาถึง ก็เลยหยิบแก้วเครื่องดื่มมาให้...
โดคยองซูยังเหมือนเดิม...
คยองซูมักจะถาม ทั้งทีรู้..
และทั้งที่ดูเหมือนจะรู้ ..แต่ก็ไม่เคยรู้
ผมเลือกหยิบหนึ่งในสองแก้วนั้น...
“ ขับรถมานี่นาวันนี้...”
ริมฝีปากรูปหัวใจขยับถาม เมื่อกี๊คงเห็นเขาเก็บกุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกง
“ อื้อ ใช่.. นายล่ะ” เขายกยิ้มแล้วถามบ้าง.. คำถามง่ายๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญ..
“ เดี๋ยวนั่งTAXI กลับน่ะ.. รถฉันซ่อมอยู่ ” คนที่สูงน้อยกว่าเขาราวสิบเซนตอบพลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นกำลังจะจิบ
หากแต่เป็นอีกครั้งที่ คำตอบของคยองซูเป็นสาเหตุของการกระทำของเขา
การกระทำที่มีนัยสำคัญมากกว่าคำพูด...
การกระทำของเขามันถูกชักนำด้วย โดคยองซู อีกครั้ง
มือของเขาฉวยเอาแก้วในมือของคยองซูมายกขึ้นจิบ พลางส่งแก้วของตัวเองที่มีแอลกอฮอลล์ผสมอยู่ให้แทน..
“แลกกัน.. เดี๋ยวฉันไปส่งนายเอง..”
กลิ่นรสชาติหวานอมเปรี้ยวของน้ำพันซ์ไร้ส่วนผสมของแอลกฮอล์ติดปลายลิ้น
โดคยองซูมองเขาด้วยตากลมๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มรูปหัวใจส่งให้เขา...
“ จริงเหรอ.. แต่มันไกลมากนะ..”
“ ถึงไม่ดื่มไง.. จะมาเกรงใจอะไรกันป่านนี้ ” เขายกยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ผมคนตรงหน้าเบาๆ
แน่นอนว่าคยองซูโวยวายก่อนจะปัดมือเขาออก..
“ ผมยุ่ง..”
“ คิดว่าก่อนหน้านี้มันไม่ได้ยุ่งอยู่แล้วเหรอ...”
คยองซูก็แค่บ่น แต่ก็ไม่เคยถือสา
เหมือนที่ไม่เคยติดใจอะไรในการกระทำของเขาเท่าไหร่...
“ คยองซูยา~ ” เสียงของเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่เพิ่งมาถึงในงานดังขึ้นเรียกให้คยองซูต้องหันไปหา
เธอเป็นเพื่อนผู้หญิงท่าทางเฮฮาที่คยองซูสนิทสนมด้วยอีกคน
“ มาแล้ว.. ยัยป้ามหาภัย.. ชั้นไปทางโน้นก่อนนะ ” เขากระซิบบอกคยองซู คนตัวเล็กยิ้มขำก่อนจะส่ายหัว
“ เสร็จแล้ว โทรหาชั้นละกัน...” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมา
.
.
.
เขาเดินๆคุยๆอยู่ในงานไม่นาน ก่อนจะปลีกตัวออกมาเมื่อเห็นว่าได้เวลาที่น่าจะต้องกลับ
พรุ่งนี้เขามีงานในช่วงเช้า
คยองซูยังไม่โทรหาเขา...
แต่เขาก็เลือกที่จะออกมารออยู่ที่รถ
มันไม่ได้แย่นักเมื่อเป็นลานจอดที่อยู่ติดริมแม่น้ำ
มองออกไปไกลๆ เขาเห็นดวงไฟเรียงรายเป็นเส้นแสงที่อีกฝั่งของแม่น้ำ
แต่มันจะไปได้ไกลเท่าความคิดเขาหรือไม่
เมื่อองค์ประกอบอย่างเดียวกัน กับ ความเงียบ พาเขากลับไปยืนอยู่ในภาพของวันวานอีกครั้ง
ในวันนั้น มีแม่น้ำสายกว้างอยู่ตรงหน้าเขาเช่นเดียวกัน
ในวันนั้น มีเก้าอี้ม้านั่งไม้เก่าๆ
และในวันที่แสนธรรมดาวันนั้น มีคิมจงอิน และมีโดคยองซู...
“ หมดซะแล้ว..” โดคยองซูวางกระป๋องน้ำอัดลมเปล่าๆลงที่พื้น
“ เอาไปสิ.. ฉันพอแล้ว ” เขาว่าพลางส่งกระป๋องน้ำอัดลมรสเดียวกันที่ยังมีอยู่กว่าครึ่งให้..
โดคยองซูส่ายหน้าก่อน จะเอนหัวลงมาอิงที่ไหล่ของเขา...
เมื่อปรายตาไปมอง ก็เห็นว่า เพื่อนเขากำลังอาศัยไหล่ของเขาเป็นหมอน
“ นี่คงไม่ได้จะหลับจริงๆใช่ไหม..”
คนตัวเล็กข้างๆเขาไม่ตอบ แต่ส่ายหัวเบาๆ.. โดคยองซูคงแค่อยากพักสายตา
วันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้าย..
ความเหนื่อยล้าของช่วงสองสัปดาห์ของการสอบ
เราสองคนคิดว่าสายลมเย็นๆคงช่วยพัดให้มันหายไป จึงเป็นสาเหตุให้ตอนนี้มีคนสองคน กับน้ำอีดลมสองกระป๋องอยู่บนม้านั่งไม้สีซีด
มันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่า คนหนึ่งที่หลับตาเพลินๆ กับใครอีกคนที่นั่งทอดสายตาไปยังอีกฟากฝั่งของแม่น้ำ...
ตอนนั้น เขาไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร...
ความรู้สึกนั้น.. มันอาจจะเพิ่งเริ่มก่อตัว....
.
.
.
“ จงอิน นายอยู่ไหน...”
“ ฉันรออยู่ที่รถ ..ลานจอดริมแม่น้ำน่ะ เดินมาเดี๋ยวนายก็เจอ ”
เขาตอบปลายสาไปแบบนั้นเนื่องจากตอนนี้เหลือรถที่จอดอยู่แค่ไม่กี่คัน
ไม่กี่นาทีต่อมา โดคยองซูก็มาก้มๆมองอยู่ที่กระจกฝั่งคนนั่งด้านหน้า...
“ รอนานไหม... ทำไมนายไม่โทรบอกชั้นล่ะ ”
คนตัวเล็ก เปิดประตูขึ้นมานั่งก่อนจะถาม...
“ ไม่เป็นไร ก็อยากให้นายคุยกับเพื่อนๆให้เต็มที่ก่อน.. รอได้น่า
ถ้ารีบก็คงไม่บอกว่าจะไปส่งหรอก...”
เขาตอบออกไปโดยที่ไม่ได้หันไปมองคนข้างๆ มือหมุนพวงมาลัยเพื่อถอยออกจากซองที่จอดรถ
“ ปวดหัวแฮะ.. ไม่น่าดื่มเลย...”
“ ฮ่ะๆๆๆ นานๆทีก็เอาเถอะน่า.. ไม่ได้ขับรถซะหน่อย..”
“ พรุ่งนี้มีงานเช้าน่ะสิ ง่วงจัง..”
“ นอนไปก็ได้นะ..”
เขาว่าพลางเอื้อมมือไปเปิดเพลง
เสียงกีต้าร์แผ่วคลอขึ้นทดแทนเสียงของบทสนทนาแสนสั้นที่ขาดหายไป
สายตาเขาจดจ้องไปที่ถนนหนทางข้างหน้า
มีเพียงเสียงร้องกังวานใสของเพลงบัลลาดเพลงโปรดของเขาในตอนนี้ เส้นทางข้างหน้าเท่านั้นที่เขาพยายามจะสนใจ
บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความพยายาม
เขาสูดหายใจเข้าช้าๆ ก่อนจะผ่อนมันออกยาวๆ
ในอากาศมีกลิ่นน้ำหอมของคยองซู เจืออยู่กับกลิ่นแอลกอฮอล์บางๆ
... สุดท้าย มันทำให้เขาหวนคิดถึง...
เขาไม่เคยรู้ว่ามันคืออะไร ที่เรียกว่าความรักใช่หรือไม่..
เขารู้แค่ว่ามันคือความปั่นป่วน...
มันก่อกวนเขา...
โดคยองซูก่อกวนเขาได้โดยที่ไม่เคยรู้ตัว...
ไม่ว่าอะไรที่คยองซูทำ ดูเหมือนมันจะมีผลกระทบกับเขาไปเสียหมด...
เมื่อมองย้อนกลับไปในตอนนั้น.. คิมจงอินเหมือนคนเป็นบ้า...
.
.
.
“ นายเป็นอะไรเนี่ย จงอิน..”
คยองซูถามเขา.. น้ำเสียงนั้นมันบ่งบอกชัดเจนว่า คยองซูไม่เข้าใจจริงๆว่า เขาเป็นอะไร
เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร
รู้แค่ว่า เขาไม่อยากยิ้ม ไม่พอใจ เขาไม่ชอบ..
“ เปล่านิ่...” เมื่อเขาไม่รู้เลยได้แต่ปฏิเสธ ..เขาไม่รู้ว่าจะอิบายมันได้ยังไง..
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร
เขาไม่อยากถูกลดความสำคัญ
เขาไม่อยากได้ใครเข้ามาเพิ่มในวงโคจร..
เขาไม่ได้ต้องการแชร์พื้นที่ของคำว่าคนสนิทกับใครคนอื่นอีก นอกจากโดคยองซู
แน่นอนว่าคยองซูไม่ได้คิดแบบนั้น
และคยองซูไม่รู้ว่าเขาคิดแบบนั้น..
“อะไรของนาย.. ไม่พูดแล้วจะไปเข้าใจได้ยังไง...”
น้ำเสียงของคยองซูไม่พอใจเมื่อเขาเริ่มกลายเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง
เขาไม่รู้วิธีจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ สุดท้ายเลยเลือกที่จะเดินออกไปจากตรงนั้น...
“ จงอิน.. จงอิน...” เสียงเรียกของคยองซูไม่ได้ทำให้ผมหันกลับไป...
เราไม่เคยคุยเรื่องนั้นกันอีกหลังจากนั้น...
เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น
คยองซูยังคงเป็นคนเดิมที่ให้อภัย และ ดีกับเขาเหมือนเดิม
แต่คิมจงอินเปลี่ยนไปแล้ว...
เขาไม่รู้ว่าจะรักษาระดับความสัมพันธ์นี้ไว้ที่ตรงไหน
เลยปล่อยให้มันเป็นไป แบบที่มันจะเป็นได้
แม้จะมีใครคนอื่นเพิ่มเข้ามาบนพื้นที่ของเพื่อนสนิท
แต่คยองซูยังคงดีกับเขา เข้าใกล้เขา และทำให้หัวใจของเขาแกว่งไกวในบางครั้ง...
เขาอ่านสายตานั้นไม่ออก บางครั้งคยองซูเหมือนจะรู้ แต่บางครั้ง ก็เหมือนไม่เคยรู้อะไรเลย
เขาเลยได้แต่ปล่อยมันไว้ และไม่พยามคาดคั้นเอาความจริงจากคนตรงหน้า...
เขาอยากกันตัวเองเอาไว้ให้ปลอดภัยจากความจริงที่มันอาจไม่ตรงกับใจ...
และเลือกที่จะทำตามใจตัวเองบ้างบางครั้ง..
ภายใต้ไรแดดที่ลอดผ่านพุ่มใบของต้นไม้สูง
วันนั้น โด คยองซูเอนกายพักสายตาหลังจากทานมื้อกลางวันง่ายๆ..
มีแค่เขากับคยองซู...
แน่นอนว่าเขาไม่ได้พยามจะละสายตาไปมองที่อื่นใดเลย
เขาทำได้แค่เพียงมองโดคยองซู
สายลมเย็นพัดผ่านพวกเราสองคนไป...
มันเหมือนมีแรงดึงดูดที่แผ่วเบา เขาไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งปลายจมูกเฉียดเข้ากับหน้าผากมนของคยองซู...
ถึงแม้มันจะชะงักการเคลื่อนไหว แต่สุดท้าย เขาก็ฉวยโอกาสนั้นไว้ด้วยการแตะมันลงแผ่วเบา
เพียงเบาๆ เพราะเขาไม่ต้องการให้อีกคนรู้สึกตัว
และเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เขาก็ดึงตัวออกมา แล้วมองออกไปทางอื่นเพื่อจัดการกับความรู้สึกปั่นป่วนในใจ
เมื่อหันกลับมาอีกครั้ง เขาพบว่าดวงตากลมโตนั้นกำลังจ้องมองไปด้านบน
ท่ามกลางความเงียบงัน เขาไม่ได้ถามออกไป ว่าโดคยองซูรู้สึกตัวตั้งแต่ตอนไหน
เมื่อคยองซูไม่ได้แสดงออกอะไรนอกจากฮัมเพลงออกมาเบาๆ
เขาเองก็เลยเลือกที่จะล้มตัวลงนอนเงียบๆเช่นกัน
มองไปที่แผ่นฟ้าผืนเดียวกัน
ท้องฟ้าสีฟ้า.. มีเมฆสีขาวกระจายตัวแต่งแต้มอยู่บนนั้น...
ความคลุมเครือที่ซุกซ่อนอยู่ในความปกติธรรมดา..
และเมื่อคยองซูเอง ไม่เคยแสดงทีท่าว่ารับรู้ถึงความเปลี่ยนไปของเขาได้เลย...
เขาจึงเลือกให้มันยังคงคลุมเครืออยู่แบบนั้น
จนวันนึง มันก็กลายเป็นตะกอนที่ตกอยู่ในใจ
.
.
.
เสียงหายใจสม่ำเสมอบอกเขาว่าอีกคนคงหลับไปแล้วจริงๆ
เขายังคงขับรถมุ่งหน้าไปโดยมีเสียงเพลงเป็นเพื่อน...
แว่บนึงเขาเหลือบสายตาไปมองโดคยองซู..
เขาอยากจะเอื้อมมือไปแตะแก้มของคยองซู... แต่ก็ได้แค่คิด
ในตอนนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรตามอารมณ์เหมือนตอนนั้นแล้ว
และแม้ความรู้สึกปั่นป่วนนั้นมันจะหายไปมากแล้วก็ตาม
แต่เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งนั้นมันยังคงอยู่...
ความรู้สึก ที่หลังจากนั้นเขาถึงเข้าใจว่ามันคือความรัก ยังคงซุกซ่อนอยู่ที่ไหนซักที่ในตัวเขา
และเมื่อโดคยองซูมาปรากฏตัวตรงหน้า...
เขาถึงรู้ว่า มันไม่เคยหายไป...
และแม้ว่าในความเป็นจริง เรื่องราวของเราจะเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน
แต่ความรู้สึกนึกคิด และการกระทำของเขามันก็ยังคงมีโดคยองซูเป็นส่วนหนึ่งในนั้นเสมอ
โดยที่เขาเองก็ห้ามมันไม่ได้...
เขาเพิ่งเข้าใจก็วันนี้...
“ อืม.. ถึงแล้วเหรอ..
อา.. หลับไปเฉยเลย ” คนข้างๆขยับตัวตื่นเมือ่ความเร็วรถชะลอลงก่อนจะหยุดนิ่ง
“ ถึงแล้ว.. พักผ่อนซะนะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นไหว...” เขาไม่มีอะไรให้คยองซูมากกว่าแค่คำลาธรรมดาๆ
คนตัวเล็กลงจากรถไป ก่อนจะยื่นหน้ากลับเข้ามาอีกครั้ง...
“ขับรถดีๆล่ะ ถึงบ้านแล้ว โทรมาบอกด้วยนะ แล้วก็...
ขอบคุณนะ จงอิน..”
เขามองเห็นสายตาของคยองซูที่มองจ้องมาในแสงสลัวๆ ก่อนจะพยักหน้าให้เป็นคำตอบ..
เมื่อมองผ่านทางกระจกมองหลัง เขายังเป็นโดคยองซูมองส่งเขาอยู่ที่หน้าบ้าน...
เขายิ้มกับตัวเองเงียบๆ...
เพราะสายตาคู่นั้นหรือเปล่า
เพราะสายตาที่จริงใจของคยองซูคู่นั้นที่ทำให้เขายังคงมีโดคยองซูอยู่ในทุกส่วนของความทรงจำ
นั่นสิ...
ความมรัก เมื่อเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว...
มันก็จะยังคงหยั่งรากอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเรา...
อยู่ในหัวใจ , ในความรู้สึก , ในความนึกคิด และแม้แต่ในอารมณ์ที่จดจำ...
END.
talk~
ฟิคเรื่องแรกในรอบ สี่ห้าปีมานี้
อยู่ๆก็กลับมาติดฟิค
อยู่ๆก็อยากเขียนฟิค
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ
มันอาจจะมีบางจุดที่ไม่ไหลลื่น
อ่านแล้วรู้สึกยังไง ทิ้งข้อความไว้ได้นะคะ
#LOVEDkaido
ผลงานอื่นๆ ของ moominny ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ moominny
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น