ตัณหา...ชายแก่...และ... - ตัณหา...ชายแก่...และ... นิยาย ตัณหา...ชายแก่...และ... : Dek-D.com - Writer

    ตัณหา...ชายแก่...และ...

    ความล้มเหลวของสังคม

    ผู้เข้าชมรวม

    4,135

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    4.13K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    5
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 49 / 03:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                         “นี้เรามาถึงกรุงเทพแล้วช่ายม้าย”  หญิงสาวพูดขึ้นเพียงเบา ๆ ด้วยเสียงเหน่อๆ เป็นสำเนียงบ้านเกิด ก่อนจะยันกายออกจากผ้าห่มไหมพรมเผยให้เห็นรูปร่างอวบ ผิวคล้ำ ผมดำยาวเลยติ่งหูเพียงเล็กน้อย หล่อนขยี้ตาแรงๆ หลายครั้งเพื่อปลุกตนเองให้ตื่นจากอาการ ง่วงนอน แล้วจึงเอียงตัวไปยันกับกระจกเพื่อจะได้มองเห็นภาพบรรยากาศภายนอกของรถโดยสาร คันใหญ่ ผู้โดยสารภายในรถหลายคนเริ่มจะขยับตัวตื่นจากการหลับไหลมาตลอดทั้งคืน ซึ่งผิดกับ หล่อนเพราะตลอดทั้งคืนระหว่างทางที่รถโดยสารขับผ่านนั้น หล่อนไม่สามารถจะข่มตาตนเอง ให้หลับลงได้แม้สักนาที  เสียงหัวใจของหล่อนเต้นรัวเป็นจังหวะดังครึกโครมตลอดเวลา 

                                   รถโดยสารพาหล่อนมาถึงที่หมายเป็นเวลาตีสี่เศษ ๆ บรรยากาศภายนอกรถ โดยสารยังคงมืดมัว บ้านเรือน ร้านค้ายังปิดเงียบอยู่ นาน ๆ ครั้งจึงจะมีรถสวนไปมาให้เห็นไม่กี่คัน  สองฝั่งถนนมีเพียงไฟทางที่ส่งแสงสลัว ๆ ซึ่งช่วยให้มองเห็นสภาพของสองข้างทาง                                                   

                                   ภายในรถโดยสารกรุงเทพฯ-ภูเก็ต เริ่มเปิดไฟในรถให้แสงสว่างเป็นสัญญาณ บอกว่าขณะนี้รถใกล้จะแล่นมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เสียงพนักงานตอนรับสาวภายในรถ บอกให้ผู้โดยสารปรับพนักเก้าอี้ให้ตรง และสำรวจสำภาระของตนเองให้เรียบร้อย ก่อนจะเดิน มาแจกผ้าเย็น กาแฟหรือชาร้อน ๆ และขนมอีกคนละชิ้น  รถแล่นต่อไปเรื่อยๆ จนมาถึงสถานี สายใต้ใหม่

                                    หญิงสาวลุกขึ้นจัดแจงหยิบสัมภาระและตรวจสอบข้าวของต่างๆ หล่อนสูด ลมหายใจจนเต็มปอด ก่อนจะเริ่มก้าวออกจากรถ เพื่อรับอากาศใหม่ของที่นี้ พร้อมกับเตรียมตัว รับชีวิตใหม่ด้วย หญิงสาวก้าวลงมายืนอยู่ที่ประตูรถ กวาดสายตาไปรอบ ๆ ภาพที่เห็นทำให้รู้สึก หัวใจเต้นระทึกในใจคิดว่า นี่เราจะได้มาใช้ชีวิตในเมืองใหญ่แห่งนี้แล้วหรือ

                         “สวัสดีกรุงเทพฯ” หล่อนยิ้มอย่างสดใส ก่อนจะก้าวลงจากรถไป

                         “แท็กซี่ แท๊กซี่ไหมครับ” เสียงชายแก่อายุคงราว ๆ ห้าสิบเศษ ๆ ตะโกนดัง มาแต่ไกลพร้อมกับเดินตรงมาหาหล่อน

                         “ต้องการแท็กซี่ไหมครับ”ชายแก่ผมขาวสะเกือบจะทั้งหัว ถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวก้าวลงมาจากรถ

                         “ลุงขับแท็กซี่หรือคะ”หล่อนถามกลับ พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มใสซื่อไปให้

                         “ใช่ แล้วหนูจะให้ลุงไปส่งที่ไหน”

                          “ไปสุขาภิบาล 3 เออ หมู่บ้านอะไรนะ” หญิงสาวนึกพลางล้วงมือไปหยิบ กระดาษแผ่นเล็ก ๆ ยับยู่ยี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากางดู “อ๋อ หมู่บ้านสหสุขค่ะลุง”

                          “โน่น..รถลุงคันสีเขียวเหลือง จอดอยู่ทางนู้นหนะ เอาตามมาสิ” ชายแก่ตอบ พร้อมกับยกกระเป๋าใบใหญ่ของหล่อนแล้วเดินนำไป ปล่อยให้หล่อนถือกระเป๋าเป้ใบเล็กเดินตาม

                           รถแท็กซี่เริ่มแล่นออกจากสถานีสายใต้ใหม่ ในเวลาประมาณตีห้าเห็นจะได้ บรรยากาศข้างทางยังคงเงียบเหมือนเมื่อตอนที่หญิงสาวมาถึงเมื่อสักครู่นี้เลย เพียงแต่ตอนนี้บน ท้องถนนเริ่มมีรถขับสวนไปมาประปราย อากาศในรถเย็นสบายมากเสียจนทำให้หญิงสาวเริ่มรู้ สึกง่วงจนแทบครองสติตัวเองไว้ไม่อยู่ แต่หล่อนก็ยังคงพยายามฝืนตาไม่ให้หลับและเตือนสติ ตนเองว่าอย่าหลับนะ อย่าหลับนะ แต่ในที่สุดความง่วงจากการไม่ได้หลับมาตลอดทั้งคืนก็ชนะเสียงเล็ก ๆ ที่ร้องเตือนอยู่ในใจ สติสำนึกสุดท้ายของหล่อนจึงหมดไป

                          หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าถูกสัมผัสด้วยมือหยาบกร้านที่กำลัง ลูบคลำอยู่บริเวณต้นขาอวบ หล่อนรีบเรียกสติของตนเองคืนกลับมาโดยเร็ว และพยายามที่จะ   ดิ้นรนหนีจากสัมผัสอันน่าขยักแขยงนี้ หล่อนมองหาที่มาของสัมผัสนั้นแล้วภาพของชายบ้าตัณหา ก็ปรากฏต่อหน้าหล่อน ชายแก่คนขับแท็กซี่ เมื่อมองโดยรอบก็รู้ว่ายังคงอยู่ในรถคันเดิม

                          ชายแก่พยายามจะทำร้ายหล่อน มือหยาบกร้านนั้นกระชากคอเสื้อหล่อน อย่างแรงจนฉีกขาดแทบไม่เหลือสภาพของเสื้อตัวเดิม มือของเขาทั้งล้วง ทั้งจับ และลูบคลำ สะเปะสะปะไปทั่วร่างกาย หญิงสาวพยายามดิ้นหนีจนสุดแรง แต่ดูเหมือนจะไม่เกิดผลเพราะหล่อนยิ่งดิ้น ชายแก่ก็ยิ่งกระทำกับหล่อนรุนแรงขึ้น หญิงสาวคิดว่าหล่อนจำเป็นต้องตัดสินใจ อย่างใดอย่างหนึ่งก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป หล่อนจึงหยุดดิ้นและยอมให้ชายแก่บ้าตัณหา ใช้มืออันโสมมของมันลูบคลำเรือนร่างของหล่อนเล่นตามแต่ใจมัน

                           ขณะที่ชายแก่กำลังเพลินกับเรือนร่างของสาวรุ่นอยู่นั้น หล่อนถือโอกาสนี้ใช้ขาเตะเข้าตรงเป้ากางเกงของมันอย่างแรงพร้อมกับล้วงมือเข้าไปหยิบเอามีดพกในกระเป๋าเป้ขึ้นมา แล้วแทงลงบริเวณไหปลาร้าของชายแก่จนมิดด้ามมีดก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากรถ

                          บรรยากาศภายนอกรถยังคงปกคลุมไปด้วยความมืดและความเงียบอยู่ ข้าง ทางไม่มีบ้านอยู่เลย มองไปทางไหนก็มีแต่พุ่มไม้ขึ้นสูงรกอยู่เต็มไปหมด หญิงสาวพาร่างที่โชกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสดวิ่งโซซัดโซเซไปสุดแรงที่มีอยู่ หล่อนวิ่งไปอย่างไร้ซึ่งจุดมุ่งหมายพร้อมกับ คิดซ้ำ ๆ ไปมาว่าที่นีที่ไหน แล้วเราจะทำอย่างไร แววตาหวาดกลัว สับสน และร้อนรน ฉายชัด น้ำตาไหลหล่นเป็นสายอาบสองข้างแก้ม ความกลัววิ้งขึ้นมาจับหัวใจของหล่อน ชีวิตใหม่ที่หญิงสาวฝันเห็นความสดใส และเฝ้ารอคอยจะพบเจออย่างใจจดจ่อยังไม่มีโอกาสได้เริ่มขึ้นเลย นี่หล่อนต้องมาพบจุดจนที่ตรงนี้หรือ

                           ใครก็ได้ช่วยด้วย   น้ำเสียงที่หลุดรอดออกมาจากลำคอแห้งผากของหญิงสาวนั้นแหบพร่า เบาหวิว และขาดช่วงจนแทบฟังไม่ศัพท์

                          “โอ๊ย!         

                           ร่างหญิงสาวชนกับอะไรบางอย่างจนกระเด็นถลาไปข้างหลังกนกระแทกลงกับพื้นอย่างแรงจนจุก

                           “จะหนีไปไหนอีหนู เก่งนักนะมึง” เสียงที่หล่อนได้ยินคือเสียงของชายแก่ บ้าตัณหานั้นเอง

                            เขาเดินตรงเข้ามาหาหล่อนอย่างช้า ๆ  ดวงตาแดงก่ำนั้นฉายแววโกรธแค้น หากแต่ก็ดูเย็นชาไม่หยี่หละต่อสิ่งใด ใบหน้าเหี่ยวหย่อนนั้นปรากฏรอยยิ้มเยาะที่มุมปากเล็กน้อย ในมือถือมีดเล่มเดียวกับที่หล่อนใช้แทงเขาเมื่อไม่นานนี้เอง เลือดของชายแก่บ้าตัณหายังคงไหล่ ผ่านใบมีดหยดลงบนพื้น เขาจิกผมยาวดำของหล่อนที่ชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อพร้อมกับเงื้อมีดขึ้น จดปลายมีดคมลงบนลำคอของหญิงสาว เลือดจากลำคอเล็กนั้นซึมออกมาจากรอยกดของมีด

                            “อย่าทำหนูเลย สงสารหนูเถอะ” น้ำเสียงสั่นประกอบกับอาการหอบของ หล่อนฟังแล้วเหมือนกำลังจะขาดใจเสียขณะนั้น หล่อนร้องขอ และอ้อนวอนขอชีวิต ด้วยหวังว่า ชายแก่ตรงหน้าอาจจะหลงเหลือความเป็นมนุษย์ มีจิตสำนึกถึงความเมตาแม้เพียงสักนิด หากที่ความหวังของหล่อนกลับไม่ได้รับการตอบสนอง

                             “เก่งนักไม่ใช่หรือ กล้าแทงกูได้” สิ้นเสียงเขาเท่านั้นปลายมีดก็ถูกกดลง บนคอของหญิงสาวอย่างช้า ๆ แต่หนักหน่วงรุนแรง เลือดไหลพุ่งออกมาเป็นสายสีของมันแดงฉาน กลิ่นคาวคละคลุ้งกระจายไปจนทั่วบริเวณ ชายแก่ทิ้งร่างของหญิงสาวลงให้กองอยู่กับพื้นและกองเลือดสีแดงข้น  ร่างหล่อนกระตุกตามแรงการเต้นของชีพจรสุดท้ายของชีวิต ชายแก่ก้มลงมองร่างที่ไม่สามรถจะยื้อชีวิตไว้ได้ เขายิ้มให้กับผลงานชิ้นล่าสุดของตัวเอง ก่อนจะพูดว่า

                           ทนหน่อยนะอีหนู อีกไม่กี่วินาทีเอง ไม่กี่วินาทีแกก็จะไม่ต้องทรมานแล้ว เห็นไม่ดีจะตาย ต่อไปแกก็จะไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่เหนื่อย ไม่หิว แล้วก็ไม่ต้องดิ้นรนกับอะไรอีกแล้ว แกต้องของคุณฉันนะ เพราะฉันเป็นคนทำให้แกได้สบาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ เสียงหัวเราะดังลันของชายแก่มาพร้อมกับการเดินจากไปยังที่ที่เขามา

                            ก่อนที่สติสุดท้ายในชีวิตของหญิงสาวจะหมดสิ้นลง หล่อนหวนคิดถึงภาพ เก่าในอดีต  ภาพของหญิงแก่ เนื้อหนังเหี่ยว ผมขาวโผนทั้งหัว  และเสียงสุดท้ายของหล่อนที่แหบพร่าก็ดังขึ้นคล้ายเสียงกระซิบ

                            “แม่ แม่จ๋า” แล้วร่างของหล่อนก็แน่นิ่งไปตลอดกาลเมื่อสิ้นเสียงเรียกหา

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×