ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังนิยาย

    ลำดับตอนที่ #70 : Parallel

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      14 พ.ค. 57

    เสียงร้องเรียกชื่อที่ดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบาปลุกให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงจำต้องลืมตาตื่นขึ้นมา หญิงสาวแทบกรีดร้องออกมาไม่ได้ภาษาเมื่อเห็นว่ามีกลุ่มเงาตะคลุมๆอยู่ข้างเตียง มือใหญ่ที่ทั้งสากและหนาตะคลุบเข้าที่ปากเธอในทันที สายฟ้าผ่าลงมาดังเปรี้ยงใหญ่อีกครั้งนี้ทำให้หญิงสาวมองเห็นอีกฝ่ายได้อย่างถนัดชัดเจน ใบหน้าที่แสนคุ้นเคยนั้นทำให้เธอเปลี่ยนจากความตกใจกลัวเป็นความโมโหแทน

     

    เพียะ!!

     

    หญิงสาวจัดการใช้มือข้างหนึ่งที่ยังว่างอยู่จัดการตีเข้าไปที่หัวไหล่ของอีกฝ่ายอย่างแรงจนชายหนุ่มต้องปล่อยมือจากปากเธอแล้วไปกุมตรงที่โดนประทุษร้ายในทันที

     

    “ทำอะไรของเจ้านะ”เขาร้องถาม

     

    “ทำร้ายคนที่บังอาจลักลอบเข้าบ้าคนอื่นดึกๆดื่นๆไงละคะ”หญิงสาวฉุนเฉียว เธอเอือมมือไปจุดตะเกียงเจ้าพายุที่อยู่บนบริเวณหัวเตียง แสงไฟที่แม้จะไม่มากแต่พอทำให้เธอเห็นอะไรๆได้อย่างถนัดชัดเจน หญิงสาวยกมือทาบอกด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาคมคายของอีกฝ่ายได้อย่างถนัด

     

    “นั่นคุณ...”ใบหน้าของผู้ที่ต้องข้อหาบุกรุกยามวิกาลปรากฏบาดแผลมากมาย มีทั้งแผลสด และแผลที่บวมช้ำจนน่าตกใจ เธอแตะที่บาดแผลเหล่านั้น เบาใจมากโขเมื่อเห็นว่าบาดแผลเหล่านี้มันหายไปแล้ว มากกว่าความตกใจและเบาใจนั้นคือความโมโห “คุณไปฟัดกับตัวอะไรมานะ!?”

     

    “อ้อ... ไม่มีอะไรมากแค่พวกมังกรวารีนะ”

     

    ก็แค่มังกรวารี”หญิงสาวทวนคำพูดของอีกฝ่ายเน้นย้ำอีกละคำจนอีกฝ่ายต้องเปล่งเสียงหัวเราะแห้งๆออกมา มือที่เคยแตะเบาๆลงบนบาดแผลกลับกลายเป็นกดจนชายหนุ่มตัวโตถึงกลับร้องโอ๊ยเสียงดังลั่น

     

    “เจ้าทำอะไรนะ!!

     

    “ลงโทษพ่อคนจอมหาเรื่องนะคะ”หญิงสาวหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ ก่อนเธอจะเดินลิ่วๆไปยังตู้เสื้อผ้า หยิบกล่องปฐมพยาบาลที่วางเอาไว้ด้านบนลงมา คนตัวโตขมวดคิ้วด้วยความงุนงงเมื่อเห็นหญิงสาวถือเจ้ากล่องพิลึกๆมาจนเขาอดร้องถามไม่ได้

     

    “มันคืออะไร? ใช่กล่องแพนโดร่าหรือเปล่า?”

     

    “คิดว่าฉันจะเอาของอันตรายแบบนั้นมาไว้ในบ้านเหรอคะ!!”หญิงสาวแหวเขาเสียงสูง ก่อนเธอจะหย่อนกายลงนั่งข้างเขา เปิดเจ้ากล่องพิลึกๆนั้นออกมา คนตัวโตรู้สึกเบาใจเมื่อเห็นว่าภายในนั้นไม่ใช่ความชั่วร้ายหากแต่เป็นเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เขาดูไม่คุ้นเอาเสียเลย

     

    “มันคือกล่องปฐมพยาบาลนะคะ”

     

    “พวกมนุษย์ไม่ได้ใช่เวทย์รักษาหรือ?”

     

    “ไม่คะ พวกเราไม่มีพลังเวทย์กันคะ”หญิงสาวปฏิเสธก่อนจะหยิบแอลกฮอล์สำหรับล้างแผลและสำลีออกมา ชุบน้ำพอให้หมาด “จะแสบนิดหน่อยนะคะ” ก่อนจะแตะลงเบาๆที่บริเวณใกล้ๆกับบาดแผลเพื่อล้างเอาเชื้อโรคและสิ่งสกปรกออกมา คนตัวโตมองดูดวงหน้าขาวผ่องที่เข้ามาในระยะประชิดจนแทบติดกัน ทั้งที่ปกติแล้วเธอไม่เข้าใกล้เขาเกินสิบเมตร ยิ่งเขาพยายามเข้าใกล้เท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งถอยห่าง นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เธอเข้าใกล้เขาเกินสิบเมตร

     

    “ธอร์—“

     

    “อะไรหรือ?”

     

    “คุณควรจะเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะคะ”

     

    “ข้าเป็นผู้ใหญ่นะ ข้าตัวโตกว่าเจ้า อายุมากกว่าเจ้า มีพละกำลังมากกว่าเจ้า—“ชายหนุ่มจำต้องปิดปากเงียบเมื่อหญิงสาวยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

     

    “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ผู้ใหญ่ที่ตัวข้านั้นหมายถึงคือความสุขุม ความเยือกเย็น”หญิงสาวแกะเอาพลาสเตอร์สีหวานออกมา แปะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง “ธอร์คะ— คุณเป็นรัชทายาท เป็นบุตรชายคนโต เป็นคนที่จะครองแอสการ์ดต่อไปจากบิดาท่านนะ!!

     

    “ฉันเองก็ไม่ได้เป็นอมตะ ไม่ได้อยู่กับท่านตราบจนชีวิตจะหาไม่—“หญิงสาวต้องเงียบไปเมื่อพบว่าใบหน้าหล่อเหล่านั้นห่างจากเธอไม่ถึงเซน รับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน เธอรับรู้ได้ว่าดวงหน้าของตนนั้นร้อนผ่าวจนต้องเสหลบไป...

     

    “อยู่กับข้าได้ไหม?”

     

    ซึ่งมันถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของหญิงสาว ชายหนุ่มก้มหน้าลงกระซิบลงที่ข้างหูของหญิงสาว ลมหายใจอุ่นๆที่รดลงบริเวณใบหูทำให้เธอหน้าแดงขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว

     

    “เป็นราชินีของข้า—“

     

    “อยู่ด้วยกันกับข้าตลอดไป“

     

    “มะ... มะ... ไม่ได้”หญิงสาวปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ความรู้สึกดีชั่ว เหตุผล และสามัญสำนึกตีกันวุ่นวายไปหมด ความรู้สึกทั้งหลายแตกกระเจิงขึ้นไปอีกเมื่อรับรู้ได้ถึงริมฝีปากของอีกฝ่ายที่ไล่จากใบหู ลงมาที่แก้ม เขาเน้นย้ำที่แก้มซ้ำไปซ้ำมา

     

    “ธอร์พอเถอะคะ”หญิงพยายามขืนตัวออกห่าง ไม่ได้รังเกียจ กลับกันรักมาก รักจนสามารถตายแทนได้แต่ว่า... อีกฝ่ายกลับไม่ปล่อย ซ้ำร้ายยังรุกเธอหนักขึ้นไปอีก หญิงสาวเห็นภาพอนาคตได้ลางๆ และเป็นอนาคตที่ไม่ดีแน่นอน

     

    “ธอร์บอกให้ปล่อย!!”หญิงสาวจัดการรวบรวมกำลังครั้งสุดท้ายผลักอีกฝ่ายออกให้ห่าง เทพสายฟ้ามองดูสาวงามตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ใบหน้าหล่อเหลมคมคายซีดเซียวลงเมื่อสังเกตเห็นน้ำสีใสที่ไหลรินมาตามพวงแก้มขาวผ่อง

     

    “ข้าขอโทษ— ข้าขอโทษจริงๆ”เขากระวีกระวาดเข้าไปโอบกอดหญิงสาวอย่างทะนุถนอม

     

    “ไม่คะ--”หญิงสาวหันมายิ้มให้เขาอย่างเศร้าสร้อย “ไม่เป็นไร— ขอบคุณมากคะ แต่ว่าได้โปรดคุณออกไปเสียเถอะนะคะ”

     

    “ทำไมกัน?”ใบหน้าหล่อเหล่านั้นขาวซีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายออกปากไล่เขาและไม่ยอมสบสายตา เหมือนครั้งก่อนที่ยังเล็ก “เจ้าโกรธที่ข้าไม่ยอมทำตามสัญญาใช่หรือไม่?”

     

    “ข้าขออภัย”เขาคว้ามือนุ่มนิ่มคู่นั้นมาประกบแล้วจูบที่หลังฝ่ามืออย่างแผ่วเบา ช้อนดวงตาสีฟ้าไพลินขึ้นสบดวงตาคู่งาม“ข้าขออภัย ข้าจะไม่มาให้เจ้าพบอีก แต่ได้โปรด... อย่าได้ออกปากไล่ข้าอีกต่อไปเลยนะ... นะ...”

     

    “ข้าไม่ได้ไล่คุณ”หญิงสาวเอียงใบหน้าที่คลอหน่วงด้วยหยาดน้ำตาซบลงฝ่ามือของตัวเองที่โดนเทพสายฟ้ากุมเอาไว้ “กลับกันแล้วฉันรักคุณมาก รักมากจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ฉันมีสามีและมีครอบครัวแล้ว... ได้โปรดเถอะคะธอร์ อย่าได้ทำให้ฉันต้องรู้สึกผิดกับสามีไปมากกว่านี้อีกเลย”

     

    สีหน้าเจ็บปวดปรากฏขึ้นมาดวงหน้าคมคายเพียงชั่วครู่

     

    “ข้าขออภัยด้วยจริงๆท่านหญิง”เขาชักมือของตัวเองออกมาก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นจูบที่หลังฝ่ามือของหญิงสาว

     

    “ข้าขออภัยที่ล่วงเกินท่าน ขออภัยจริงๆ ข้าต้องขอตัวลา”เขาโค้งให้เธอก่อนจะเดินออกไป สายฟ้าที่ผ่าลงมาเปรี้ยงใหญ่พร้อมกับแสงสีขาวที่ทำให้ตาพล่ามัว เมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นมาอีกหนก็พบว่าเทพสายฟ้าแห่งแอสการ์ดหายไปเสียแล้ว มีเพียงบานกระจกที่เปิดออกกว้างเท่านั้น...

     

    เหลือทึ้งไว้เพียงหยาดฝนที่ตกลงมาอย่างแรงทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่มีท่าทีว่ามันจะตกเลยแม้แต่น้อย เสียงคำรามของฟากฟ้านั้นคล้ายกับเสียงร้องตะโกน หยาดน้ำฝนที่ตกลงมานี้คงจะเป็นน้ำตา...

     

    หญิงสาวยืนมือออกไปรองรับน้ำฝน มาจำนวนหนึ่ง พินิจมองดูมันอยู่นานก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม รสชาติของมันเค็มแบบแปลกๆ หญิงสาวพยายามคิดว่ารสชาติของมันคืออะไร? เธอเคยลิ้มรสมันมาก่อนเมื่อนานมาแล้ว... อ๋อ... นึกออกแล้ว รสชาติของมันคล้ายกับ “น้ำตา” ที่เธอเคยจูบซับน้ำตาเขาบ่อยๆ เวลาเขาร้องไห้...

     

    กรมอุตุนิยมวิทยาในวันนี้บอกว่าอาการจะแจ่มใสไร้เมฆหมอกและฟ้าฝน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะทายผิดเสียแล้ว...

     

    “ที่รัก... นั่นคุณยืนทำอะไรอยู่ ตากฝนเดี๋ยวก็เป็นหวัด”เสียงกระซิบดังขึ้นมาข้างหูของชายผมสีน้ำตาลอ่อนผู้ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสามี เขาโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง จูบไปยังศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีดำขลับ ไล่ลงมาที่พวงแก้มขาวผ่อง ลงไปเรื่อยังหัวไหล่มน

     

    “ฉันแค่กำลังคิดถึงนะคะ”หญิงสาวคนงามหัวเราะคิกคัก

     

    “คิดถึง?”

     

    “คิดถึงครั้งแรกที่คุณกับฉันเจอกันไงคะ? เจอกันตอนฝนตก ตัวฉันเปียกปอนแล้วคุณก็หยิบยื่นความช่วยเหลือให้ฉัน”เธอหมุนกายกลับมายกมือคล้องคออีกฝ่าย

     

    “ผมจำได้”เขาพยักหน้า “คุณในตอนนี้สวยและเซ็กซี่มากๆเลยละ”

     

    “จริงเหรอ?”หญิงสาวยิ้มกริ่ม “แล้วตอนนี้ละ?”

     

    “คุณก็ยังดูสวยเหมือนเดิม”

     

    “โกหก”

     

    “ไม่ได้โกหกผมพูดความจริง สาบานเลยก็ได้”

     

    “แล้วจะสาบานกับใครละ?”

     

    “สาบานกับแมวตัวนี้ไงละ”เขาก้มหน้าลงถูจมูกกับอีกฝ่าย ทั้งสองจ้องหน้ากันสักพักใหญ่ๆ ก่อนดวงหน้าของทั้งสองนั้นจะค่อยๆเลื่อนเข้าหากัน โดยมีสายตาของใครบางคนจับจ้องมองดูอยู่ไม่ห่างด้วยความเจ็บปวด...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×