ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังนิยาย

    ลำดับตอนที่ #40 : Fix Online I

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18
      0
      14 พ.ค. 57

    มหาสงครามศักดิ์สิทธิ์ดำเนินมายาวนานมากกว่าหนึ่งพันปีในที่สุดก็มาถึงจุดจบ เหล่ามารร้ายผู้ปราชัยถูกขับไล่ออกจากสวนสวรรค์แห่งพระเจ้า พวกเขาระเห็จระเหเร่ร่อนไปในที่ซึ่งไร้แสงสว่างใดๆก่อนจะถูกกักขังไว้ตลอดกาล ผู้กุมชัยชนะได้ครอบครองโลกเบื้องบน แต่ทว่ากว่าจะรู้ตัวก็พบว่าสวนสวรรค์แห่งพระเจ้าในตอนนี้พังยับเยินแล้วด้วยฝีมือของพวกเขาเอง...

     

    หลายเผ่าพันธุ์หายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์เหลือเพียงแค่ตำนานเอาไว้เล่าขานให้ผู้คนรุ่นหลังได้รับรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นยังคงมีตัวตนอยู่ครั้งหนึ่งแม้จะเป็นช่วงเวลาแสนสั้นก็ตาม...

     

    ทรัพยากรเกินครึ่งภายในสวนสวรรค์แห่งพระเจ้าถูกทำลาย บางส่วนสามารถฟื้นฟูได้ด้วยเวลาและพลังเวทย์ แต่หลายส่วนที่ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นดั่งเดิมได้ พื้นที่เหล่านั้นกลายเป็นดินแห้งแล้งและทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา

     

    ผู้กุมชัยชนะทั้งหลายต่างสำนักกับการกระทำของตนเอง เหล่าผู้นำทั้ง 6 เผ่าพันธุ์อันประกอบไปด้วย มนุษย์ เอลฟ์ ภูติพราย แฟรี่ คนแคระ และชาวสวรรค์ได้ร่วมลงนามเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน ก่อนจะแยกย้ายจากกันไปเพื่อรวบรวมเผ่าพันธุ์ที่เคยแตกกระจายไปทั่วทุกสารทิศให้เป็นหนึ่งเดียว วันเวลาที่ผ่านไปและผ่านมาหลายร้อยหลายพันปี หล่อหลอม เยียวยาจิตใจของแต่ละเผ่าพันธุ์ให้เป็นหนึ่งเดียว

     

     

    ...

    ..

    .

     

     

    “ทำการกระตุ้นหัวใจอีกรอบ!!

     

    “1”

     

    “2”

     

    “3”

     

    “เคลียร์!!

     

    เกิดความโกลาหลขึ้นครั้งใหญ่ภายในโรงพยาบาลเอกชนประจำเมืองเล็กๆในแถบตอนเหนือของประเทศไทย เมื่อบุตรสาวคนสามของตระกูลดังประจำเมืองอย่าง พิชญเดชา เกิดประสบอุบัติเหตุรถพุ่งสวนเลนมาชนกับเธอเข้าอย่างจัง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนที่ควรรับเคราะห์นี้ไม่น่าจะใช่ พระพาย แต่ควรจะเป็น พระเพลิง น้องชายฝาแฝดของเธอต่างหาก

     

    “พี่พายไม่ควรอยู่ตรงนั้น ผมต่างหากที่ควรอยู่ในนั้น”พระเพลิงเฝ้าโทษตัวเองตั้งแต่เห็นร่างของพี่สาวลอยปลิวไปตามแรงปะทะของรถบรรทุกขนาดใหญ่ เขามองเห็นเลือด เลือดสีแดงเข้มที่ไม่ต่างจากเขาไหลรินออกมาจากศีรษะของพี่สาวเขา... ร่างกายที่เคยสวยงามหากแต่ในตอนนี้มันกลับบิดเบี้ยวจนดูน่ากลัว ภาพนั้นเขายังคงจำได้ติดตา

     

    “อย่าโทษตัวเองเลยนะจ๊ะเพลิง”หญิงสาววัยกลางที่แม้ว่าอายุจะล่วงเลยเข้าเลข 4 แต่เธอยังคงสวยสะพรั่งไม่ต่างจากสาววัยสามสิบต้นๆเอ่ยปลอบลูกชายคนเล็ก ทับทิม คลี่ยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็งเพื่อเป็นเสาหลักให้แก่ลูกชายแม้ว่าในใจของเธอในตอนนี้จะแหลกสลายไปแล้วครึ่งหนึ่งก็ตาม...

     

    “พี่สาวเราจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนจ๊ะ แม่เชื่อเช่นนั้น...”

     

    เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาอย่างรีบร้อนทำให้ทับทิมและพระเพลิงอดหันไปมองตามไม่ได้ ร่างสูงที่เขาเห็นไกลริบๆนั่นก็คือร่างของพี่ชายคนโตและคนรองสวมใส่เครื่องแบบนักเรียนที่รู้ได้ในทันทีเลยว่าเจ้าตัวอาจจะมาในทันทีที่ทราบข่าว สอบเสร็จหรือไม่เสร็จนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง...

     

    “แม่ฮะ!!”สองพี่น้องประสานเสียงร้องเรียกแม่กันเป็นประโยคเดียว ทั้งที่ปกติแล้วทั้งสองจะทะเลาะกันโดยตลอดเพราะเนื่องจากบุคลิกและความคิดที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วนั่นเอง

     

    “พะ...พาย พาย! เป็นไงบ้างครับ?”พี่ชายคนโตเจ้าของเรือนผมสีดำขลับยาวประบ่าและนัยน์ตาสีฟ้าไพลินเอ่ยถามประสานเสียงหอบ เช่นเดียวกับคนรองที่แม้ว่าปากจะไม่ได้พูดออกมาแต่ดวงตาคู่นั้นมองผู้เป็นแม่คล้ายกับถามด้วยประโยคเดียวกัน

     

    “ยังไม่ทราบจ๊ะ แต่อยู่ในห้อง ICU มานานแล้ว...”

     

    “แม่ใจเย็นๆก่อนนะครับ”พี่ชายคนรองมีความสามารถพิเศษคือเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้ดีเอ่ยปลอบขวัญคุณแม่ เขาเข้าใจดีกับนิสัยของผู้เป็นแม่รวมทั้งความรักแสนลำเอียงของท่านด้วย ไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะในครอบครัวนั้นมีแต่ผู้ชายเป็นส่วนมาก ก็เพิ่งจะมีลูกสาวหลุดมาให้ได้เชยชมเพียงคนเดียว

     

    “น้องจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนครับ”

     

    “แม่ก็หวังเอาไว้แบบนั้น...”

     

    สถานการณ์เงียบกริบเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ครอบครัวพิชญเดชาคิดไม่ออกหากว่าเขาต้องสูญเสียสาวน้อยเพียงคนเดียวภายในบ้านไปจะเป็นยังไง พระพายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในสี่พี่น้อง เธอเข้มแข็ง อ่อนโยนและช่างพูดช่างเจรจาคงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทั้งครอบครัวถึงได้รักได้หลงนักหนา

     

    ไฟหน้าห้องดับลงพร้อมกับหัวใจของเหล่าครอบครัวพิชญเดชาต่างเต้นด้วยความระทึก จะออกหัวหรือก้อยจะได้รู้ก็ในครั้งนี้นี่แหละ... บานประตูถูกเปิดออกมา ตามมาติดๆนั้นคือเตียงที่มีร่างของเด็กสาววัย 8 ปีนอนนิ่งอยู่ แพทย์เจ้าของไข้เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะกล่าวประโยคที่ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับหัวใจสลาย...

     

    “ผมเสียใจด้วยนะครับ...”

     

    เพียงคำพูดประโยคเดียวที่ทำให้ผู้เป็นแม่ถึงกับร่างกายอ่อนยวบหากว่าไม่ได้ลูกชายคนตี่ตั้งสติได้คนแรกไม่คว้าเอาไว้ก่อน คงได้มีอีกคนหนึ่งเข้าโรงพยาบาลไปด้วยอย่างแน่นอน น้ำตาที่พยายามสกัดกลั้นเอาไว้ไหลรินลงมาตามโครงหน้าที่เคยมีเคราแห่งความงามในอดีตก่อนหญิงสาวและลูกชายคนเล็กนั้นจะเปล่งเสียงกรีดร้องรำไห้อย่างไม่อายใคร ร่ำร้องเรียกหาชื่อของลูกสาวคนที่สาม

     

    “พาย... พระพาย...”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×