ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมอำมหิต ฆ่าชีวิต คนให้ตาย!!!

    ลำดับตอนที่ #37 : ผู้เคราะห์ร้าย..[100%]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 486
      2
      11 มี.ค. 55




            "หลบไป!!!ฉันควบคุมมันไม่ได้!!!"

            เลิฟตะโกนลั่นก่อนที่มือของเธอจะพุ่งมีดไปยัง ฟรีซ จีน่าและเรย์ แต่ทั้ง 3 ไหวตัวทันทำให้มีดนั่นพลาดไปปักกับพื้น ก่อนที่มือของเธอจะดึงมันขึ้นมาอีกครั้ง

            "ปล่อยมีดสิเลิฟ!!!"

            ซาน์วโผล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น บอกให้เธอปล่อยมีดนั่น

            "ฉันปล่อยมันไม่ได้ มันแกะไม่ออก!!" เลิฟตะโกนกลับมาก่อนที่มีดจะพุ่งหากลุ่มคนอื่นๆด้วยความเร็วสูงซึ่งมีดนั้นมันก็...

             'ฉึก!!!!!!!!!'

             "บลูม!!!!"

             ทุกคนต่างตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อมีดนั่นมันแทงเข้าไปในท้องของบลูมเพราะเธอหลบมันไม่พ้น ซึ่งในขณะนั้น เลิฟสามารถปล่อยมีดออกจากมือได้และมีดนั่นยังคาอยู่ที่ท้องของบลูมที่มีเลือดอาบ ก่อนที่มีดนั่นจะสลายไป



           "บลูม!!!!!!!!!!!!!"

           ทุกคนต่างรีบปรี่ตัวเข้าไปหาบลูมด้วยความตกใจ บลูมทำท่าเหมือนจะขาดใจ  มือพาดที่หน้าอกอย่างทุรนทุราย  ลมหายใจค่อยๆติดขัดเหมือนหายใจไม่ออก หน้าตาเริ่มซีดเผือก ก่อนที่บลูมจะนิ่งลง ลมหายใจดับไปในที่สุด

            "ฮึก...ฉะๆๆ...ฉันฆ่าบลูม.. ฉันฆ่าเธอ ฮือ..." เลิฟกุมหัวแน่น ก่อนที่จะทรุดตัวลงทั้งน้ำตา ริมฝีปากเธอสั่นด้วยความเสียใจกับสิ่งที่ตนทำ

            "มันไม่ใช่ความผิดเธอนะเลิฟ.." ซาน์วพูดปลอบใจ แล้วใช้มือจับบ่าเธอเบาๆ ซึ่งเลิฟยังมีน้ำตาไหลไม่หยุด

            "ฉันเป็นคนแทงบลูม ฮึก..ฉันไม่ได้ตั้งใจ.." เลิฟกัดเล็บแน่นอย่างจิตตก ดวงตาเล็กๆของเธอเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง

            เธอไม่ได้ตั้งใจทำเช่นนั้น...ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

            "ฉันรู้เธอไม่ได้ตั้งใจ..เลิฟ หยุดร้องไห้เถอะ ลุกขึ้นมา" ซาน์วพูดด้วยความสงสารเลิฟ เขาไม่อยากให้เธอต้องมีสภาพแบบมิรุ เหมือนคนบ้าเช่นนั้น... 

            "ฮึก..ขอโทษนะ..บลูม..." เลิฟปาดน้ำตาก่อนที่จะลุกขึ้นตามคำที่ซาน์วบอก แล้วหันไปขอบคุณซาน์วที่ช่วยปลอบโยนเธอให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง ด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่ในในเต็มไปด้วยควากระวนกระวายใจที่ยังคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นคนฆ่าบลูมกับมือ



            "บลูม..." หลังจากเลิฟลุกไม่นาน มิรุก็ปรี่ตัวเข้าไป ก่อนที่จะลูบหัวบลูมเบาๆอย่างอ่อนโยน ท่าทางที่ดูเหมือนคนบ้าหายไปชั่วขณะ 

            "บลูม...ถ้าเจอไคกิ ฝากบอกเขาด้วยนะ..ว่าฉันคิดถึงเขามาก.." มิรุกระซิบกับใบหูของบลูม น้ำตาที่หายไปได้ซักพักของเธอผุดขึ้นอีกครั้ง แต่เธอพยายามปาดน้ำตาไม่ให้มันไหล..

             "อย่าลืมนะ..." มิรุพูดทิ้งท้ายเสียงแผ่ว ก่อนที่จะลุกขึ้นช้าๆ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเศร้าๆเมื่อมองบลูมที่มีสภาพเหมือนคนรักของตน

            ไคกิ...หวังว่านายคงได้ยินคำที่ฉันฝากไปบอกนะ...  
     
       

           +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    [ไม part]


            หลังจากที่บลูมตาย พวกเราก็เดินทางต่ออย่างไม่รู้จุดหมาย ว่าจะไปที่ไหน ยังไง ฉันได้แต่ภาวนาในใจขอให้ทุกคนปลอดภัย

            ตอนนี้เรามาถึงป่าอะไรซักอย่างที่มีแต่ต้นไม้สูงๆทั้งนั้น ทุกต้นไม่ต่ำกว่า 5 เมตร เถาวัลย์คดเคี้ยวพันต้นไม้และเชื่อมต่อกันจนพวกเราเดินทางได้อย่างยากลำบาก เต็มไปหมด พันแข้งพันขาพวกเราจนแทบสะดุด

            ขณะนั้น..มีร่างผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินสวนทางกับพวกเรา ตัวเต็มไปด้วยเลือดที่เปื้อนชุดนักเรียนเต็มไปหมด ทุกคนแทบจะวิ่งหนี แต่สัญชาตญาณของทุกคนบอกว่าเธอไม่ใช่สิ่งน่ากลัว


            "เกสา!!!!"

            ฉันอุทานลั่น เมื่อมองเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นได้ชัด ก็รู้ว่าเป็นเกสา เพื่อน ม.4/2 ที่อยู่ห้องเดียวกันสมัย ม.ต้น!!

            "ไม!!!!" เกสาดูตกใจเช่นกัน เธอตะโกนขึ้น ก่อนที่จะวิ่งมาสวมกอดฉันแน่น เกสาปล่อยโฮออกมายกใหญ่ น้ำตาของเธอไหลหยดลงมาเปื้อนเสื้อนักเรียนฉันรวมทั้งคราบเลือดที่ติดตัวมาด้วย

            "เกิดอะไรขึ้น!!" ฉันค่อยๆถามเกสาเมื่อปล่อยให้เธอร้องไห้ไปได้ซักพัก 

            "ฮึก..เพื่อนฉัน..ฮึก..ตายไปหมดแล้ว..ฮือ..." เกสาพูดเสียงสั่น ฟังดูสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

            "เกิดอะไรขึ้นเกสา..!!"

            "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงไม่รู้ ฮึก..เพื่อนฉันที่ถูกส่งมาที่นี่ ฮึก..ถูกฆ่าตายกันหมดแล้ว ฮือ...TOT" เกสาปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง "ล..แล้วพวกเธอล่ะ..มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฮึก.."

            "พวกเราก็เหมือนเธอนั่นแล่ะ" ฉันตอบด้วยเสียงแผ่วเบา "แค่ตอนนี้พวกเรายังเหลือรอดอยู่เท่านั้นเอง.."


             +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


            ทุกคนเริ่มเดินทางต่อโดยมีเกสาที่ยังมีชีวิตเพิ่มมาอีกคน

            "เกสา...ทางที่เธอเดินกลับมามันมีอะไรเหรอ พวกเธอถึงได้ตายกันหมด..." ไมถามขึ้นหลังจากที่เดินไปได้ซักพัก

            "มีสัตว์ร้ายมันมาขย่ำพวกเราน่ะสิ" เธอตอบด้วยสีหน้ากลัวๆ

           ------------------------------------------------------------------------------------


            "ทุกคน...เรามาพักกันที่นี่เถอะ..มันมืดจนมองอะไรแทบไม่เห็นแล้ว...ตะกี้ก็ยังไม่ได้พักเลยนะ ยังไม่ได้จุดกองไฟด้วย เดี๋ยวมีสัตส์ร้ายโผล่ขึ้นมาแล้วจะแย่.." เมฆเสนอขึ้น ในกระเป๋าของเมฆเต็มไปด้วยมันเทศ ราสเบอรี่ป่า กล้วย ฟืนและน้ำ ที่เก็บมาระหว่างเดินทาง ซึ่งถึงจะไม่แน่ใจว่ามีพิษหรือไม่ พวกเขาก็เก็บมาเพื่อให้มีชีวิตรอดในต่อๆไป

            ทุกคนต่างเห็นด้วยในการหยุดพัก กิ่งไม้ที่ถูกจุดติดจากไฟแช็กได้ลุกโชนจนเป็นไฟขนาดใหญ่ที่ช่วยบรรเทาอากาศที่ค่อยๆเย็นลงได้บ้าง

           "ฮู่ว...ค่อยอุ่นขึ้นหน่อย" ไบเบิ้ลพูดพลางใช้มือยื่นเข้าไปใกล้ๆกองไฟอย่างอารมณ์ดี

           "ก็คงอุ่นได้ชั่วระยะนึงล่ะนะ..." ก้านพูดเสียงแผ่วก่อนที่จะโยนกิ่งไม้เข้าไปอีก

           "ของที่เก็บมาได้อร่อยดีเหมือนกันแฮะ..^ ^" โกโก้พูด แล้วหยิบทั้งมันเทศ ราสเบอรี่ป่าและกล้วยขึ้นมากิน

           

              -----------------------------------------------------------------------------------


    [เถาวัลย์ part]
    เที่ยงคืน..


          
      ทุกคนต่างหลับกันหมดหลังจากที่นั่งคุยกันจบ มีแต่ฉันที่ยังตาแข็งนอนไม่หลับ กระเป๋าแข็งๆทำให้ฉันปวดคอจนระบมไปหมด

            "นี่ๆ..."

            ขณะที่ฉันยังนอนไม่หลับ มือๆหนึ่งก็สะกิดฉันเบาๆ ทำให้ฉันค่อยๆหันไปดูทันที

            อ่อ...เกสานั่นเอง

            "มีอะไร..." ฉันพูดเสียงแผ่วเพราะกลัวว่าคนอื่นจะตื่น เกสากำลังทำสีหน้าไม่ค่อยดี จริงๆฉันก็ยังไม่รู้จักเกสาดีเท่าไหร่ แต่พอคุยไปคุยมารู้สึกถูกคออย่างบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะเธอคุยสนุกด้วยล่ะมั้ง

           "ฉันปวดปัสสาวะน่ะ พาฉันไปหน่อยสิ.." เธอเอ่ยเสียงเรียบ ฉันพยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ ฉันลุกขึ้น ก่อนที่จะพาเกสาเดินไปที่ลับๆเพื่อที่เธอจะได้ทำกิจธุระของเธอได้สะดวก โดยที่เธอเข้าไปที่พุ่มไม้ ส่วนฉันรออยุ่ข้างนอก ซึ่งห่างจากกองไฟไม่มากนัก ทำให้พอเห็นแสงลางๆ แต่ดูน่ากลัวพิกลๆ

            เอ๊ะ!!เงาอะไรลางๆตรงต้นไม้นะ มันเหมือนเป็นเงาทึบๆอยู่ที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง แม้ฉันจะกลัว แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเดินชะโงกหน้าเข้าไปดู..

            ฉันค่อยๆมองด้วยความกล้าๆกลัวๆหลังต้นไม้นั้น และสิ่งที่ฉันเห็นทำให้ฉันถึงกับช็อค!!

            ร่างของเกสาถูกแทงนอนจมกองเลือด!!!

            ล...แล้วคนที่ฉันพาเดินมาล่ะ..

            คือใคร!?!

            จังหวะนั้นเอง เกสาก็โผล่ออกมาจากพุ่มไม้ที่เข้าไปเมื่อครู่..

            นี่มันอะไรกันเนี่ย..!!!

            "ไปกันเถอะจ้ะ..." เกสายิ้มบางๆก่อนที่จะจูงมือฉันเดินนำหน้าไป ฉันได้แต่อึ้งทำอะไรไม่ถูก ร่างฉันชาไปทั้งตัวอย่างไร้สติ

            หรือว่าเกสาจะ...

            ตายไม่รู้ตัว!!!!!!!

            ฉันอยากจะกรีดร้องเหลือเกิน แต่ปากฉันกลับตะโกนไม่ออก เหมือนเสียงหายไปในลำคอ 

            ฉันจะทำยังไงดี!!!


                
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    อีกด้านหนึ่ง...


            "นี่นาย...ทำไมต้องชวนฉันมานั่งดูดาวดึกๆดื่นๆด้วยเนี่ย.."

            ชะเอมบ่นกระปอดกระแปด เมื่อภูวินท์ลากเธอมาดูดาวขณะที่เธอกำลังหลับสบาย

            "บ้าหรือไง ดูดาวก็ต้องตอนกลางคืนสิ!! กลางคืนแบบนี้สิ ดาวสวยออก.."

            ภูวินท์พูดก่อนที่จะเอนหลังพิงโขดหินด้วยความสบายใจพลางมองบนท้องฟ้า ที่มีดาวระยิบระยับเต็มไปหมด โดยที่ ที่ทั้ง 2 คนมาดูดาว ห่างจากทุกคนพอสมควร

            "อันนั้นฉันรู้.. ดูคนเดียวก็ได้ จะลากฉันมาทำไม.." ชะเอมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะใช้แขนรองหัวแล้วพิงโขดหินตามภูวินท์

            "เพราะฉัน...อยากให้คนที่ฉันรักที่สุดมาดูไง..."

            "อ..อะไรนะ.." ชะเอมโผล่งขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าภูวินท์จะหลุดปากพูดคำนี้ออกมา

            "เธอฟังไม่ผิดหรอก... ฉันรักเธอ ชัดหรือยัง.." ภูวินท์พูดทวนซ้ำอย่างใจสั่น หน้าเริ่มแดงเพราะสิ่งที่พูดออกไป ไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากตนได้เช่นกัน

           "เธอล่ะ...รักฉันหรือเปล่า..." ภูวินท์พูดอย่างใจสั่น ประกอบกับบรรยากาศที่หนาวจัดและเขาไม่ได้ใส่เสื้อเพราะใช้เสื้อนักเรียนพันแผลให้ไคกิไว้และไม่ได้มันกลับมา ทำให้ตัวเขาเย็นอย่างบอกไม่ถูก เขาจับที่ไหล่ชะเอมเบาๆ ดวงตาเขาจ้องไปที่ตาของชะเอมหวังคำตอบที่เขาอยากได้ยิน

            "ฉัน....." ชะเอมอ้ำอึ้งพูดไม่ออก เธอหลบตาภูวินท์ด้วยความกลัวที่จะสบตาเขา

            "ฮึ!!เธอคงรักไอ้เมฆมันสินะ ทำไม ฉันมันไม่ดีตรงไหน!!" ภูวินท์ตะโกนลั่นอย่างเหลืออด ชะเอมได้แต่นิ่งพูดอะไรไม่ออก ตัวเธอเริ่มสั่นด้วยความกลัว

            "แล้วเธอจะได้รู้ว่ารสจูบฉันสู้ไอ้เมฆได้มั้ย!!"

            "อ..อย่านะ อุ้บ..!!" 

            ภูวินท์ไม่สนใจคำพูดของชะเอม ใช้มือดึงชะเอมเข้ามาประกบปากแนบชิด ลมหายใจร้อนๆถูกพ่นออกมาจากปากของเขาอย่างรุ่มร้อน ชะเอมพยายามขัดขืน น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเสียใจ แต่ภูวินท์รั้งตัวเธอแน่นจนไม่สามรถขยับได้ ความรุ่มร้อนของภูวินท์เกินที่จะต้านทานจริงๆ ไม่ว่าเธอจะดิ้นยังไง ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้เพราะเธอถูกล็อคแน่น มันทรมาน..ทรมานเหลือเกิน

            "เป็นไง..จูบฉันสู้ไอ้เมฆได้มั้ย!!"

            ภูวินท์ผละริมฝีปากออกจากชะเอมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน

            เพี๊ยะ!!!!

            "นายมันเลว!! เลวที่สุด ฮึก.. ฉันเกลียดนาย!!"

            ชะเอมตบหน้าภูวินท์ฉาดใหญ่ด้วยความโกรธ น้ำตาอุ่นๆไหลอาบแก้มอย่างเสียใจ ภูวินท์คนเดิมหายไปไหน คนที่มีนิสัยที่ดี ที่ชื่อว่าภูวินท์หายไปไหนแล้ว..

             "ใช่!!ฉันมันเลว และยังเลวกว่านี้ได้อีก เธอจะได้รู้ว่ารสชาติของฉันมันเป็นยังไง!!"

            ภูวินท์ขึ้นคร่อมชะเอมด้วยสายตาดุดัน ก่อนที่จะจูบชะเอมอย่างเร้าร้อน  เธอพยายามจะกรีดร้อง แต่ด้วยความตกใจ ทำให้เธอตะโกนไม่ออก น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด แขนและขาที่พยายามจะดันตัวเขาออก ไร้เรี่ยวแรงเพราะภูวินท์กดเธอแน่น ลมหายใจของภูวินท์รวยระรินที่คอของเธอ ไอร้อนๆถูกแผดที่คอของเธอจนทำให้ตัวเธอร้อนไปหมด 

           "อ...อย่า...อย่าทำแบบนี้.. ปล่อยฉันนะ.. ฮึก.."

          ชะเอมพยายามอ้อนวอนแต่ภูวินท์กลับไม่ฟัง เล้าโลมเธอ ก่อนที่จะแกะกระดุมเสื้อของเธอทีละเม็ดจนหมด


           "มาเป็นของฉันเถอะนะ...."


               ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 

    อาร๊าย!!= o =;;

    แต่งไปแต่งมาทำไมมันเป็นแบบนี้ฟระ= =^

    จะติดเรทมั้ยเนี่ย..T^T

    ทุกคนอย่าทำตามนะครับ มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี(แต่แก๊ก็ยังจะแต่ง=.=;;;)

    เอาเถอะ!!ไหนๆก็อัพ 100% แล้ว 

    เม้นหน่อยนะ>W<


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×