ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมอำมหิต ฆ่าชีวิต คนให้ตาย!!!

    ลำดับตอนที่ #33 : จุดเริ่มต้น[100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 693
      5
      1 ม.ค. 55

       
       'ฟึ่บ!!!'

            "!!!!!!!!!!"

           
    พื้นที่ ที่ทุกคนเหยียบอยู่ยุบลงไปเป็นเหมือนหลุมพลาง และมันค่อนข้างลึกมากจนทำให้ทุกคนร่วงลงไป คนที่พยายามเกาะขอบหลุมไว้ก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะเป็นดินที่กร่อนง่ายทุกคนจึงหล่นลงไปถึงก้นหลุม

            "น..นี่มันอะไรกันเนี่ย!!"

             ไบเบิ้ลอุทานลั่น พลางมองหาทุกคนที่สลบไปอยู่ มีเพียงไคกิกับมิรุเท่านั้นที่ยังมีสติ แต่ไม่เพียงไม่กี่วินาทีมิรุก็สลบไปราวกับว่ามียาสลบวนอยู่รอบๆตัว

            'ฟึ่บ!!!!'

            "ไคกิ!!"

            ไคกิก็ล้มลงไปอีกคน..ไบเบิ้ลที่เกิดอาการตื่นกลัวก็เช่นกัน เขาเริ่มไม่ไหวกับการมีสติอยู่แล้ว รู้สึกเวียนหัวเหลือเกิน

            ไม่ไหวแล้ว สติของเขาหลับไหลไปอีกคนแล้ว...


                          ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



     
    [ไม part]



            "=  =;;"

            อูย~เวียนหัวจังเลยแฮะ นี่ฉันอยู่ที่ไหนกันนะ...

            ฉันพยายามปรับสายตามัวๆโดยการกระพริบตาถี่ๆประกอบกับขยี้ตาเบาๆแล้วมองดูรอบตัวด้วยอาการที่ยังไม่ค่อยมีสติเท่าไรนัก...

            ป่า....ป่าที่ไหนกันนะ ทำไมดูทึบจัง แสงอาทิตย์สอดส่องผ่านต้นไม้ใบไม้หนาๆได้เพียงไม่กี่จุด มันดูรกร้าง กลิ่นชื้นๆมันทำให้ฉันเกลียดมันเข้าไส้ มันรู้สึกไม่คุ้นเลย หลุมที่พวกเราตกลงไป ทำไมมันโผล่ที่นี่ได้ แปลกจริงๆเลย...

            "นี่มันที่ไหนกันเนี่ย..!!"

            ไปไป่ที่ฟื้นขึ้นมาอีกคนโผล่งขึ้น รอบตัว ทุกคนที่สลบไปค่อยๆฟื้นขึ้นมาทีละนิดจนครบทุกคน อาการของทุกคนคงเป็นอย่างเดียวกัน คือ ตกใจกับสภาพรอบตัวที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน

            "ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่กันล่ะ ฉันจำได้ว่าตะกี้เราตกไปที่หลุมที่เขตป่าต้องห้ามนะ..แต่ทำไมมันมาโผล่ที่นี่ และที่นี่มันที่ไหน!?!"<<<ลักรัก

            "ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลนะ ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ"  เอซพูดขึ้นมาพลางทำสีหน้าครุ่นคิด

            "เธอก็รู้สึกเหมือนกันหรอเอซ"ใบม่อนพูดขึ้นมาอีกคน "อีกอย่าง ฉันรู้สึกว่า ความสยดสยองและน่าสะพรึงกลัวกำลังเข้ามาหาพวกเราในไม่ช้านี้!!!

            "พูดอะไรน่ะใบม่อน แค่นี้ฉันก็กลัวจะแย่อยู่แล้วนะ อย่ามาพูดให้ฉันกลัวหนักขึ้นไปอีกได้มั้ย!!"
     
            ลักรักตวาดก่อนที่จะเกาะไหล่เลิฟที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งเลิฟก็ออกอาการกลัวเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนภูวินท์มัวแต่เดินสำรวจบริเวณรอบๆ 

            "เราลองเดินหาทางออกจากป่ากันเถอะนะ" ภูวินท์เสนอความคิดขึ้น

            "นายรู้รึไงว่าทางออกมันไปทางไหน"<<<ชะเอม

            "หึ!ไม่รู้"

            ภูวินท์พูดพลางส่ายหน้าเบาๆทำให้เมฆทำท่าไม่ค่อยพอใจ

            "ไม่รู้แล้วจะไปถูกรึไงไอ้บ้าเอ๊ย!!" เมฆตวาดลั่น ทำให้ฉันที่อยู่ใกล้ๆเขาสะดุ้งเล็กน้อย

            "ดีกว่าอยู่เฉยๆแล้วกัน ถ้าไม่เดินทางจะออกไปได้ยังไงล่ะ"

            ภูวินท์พูดพร้อมเดินนำหน้าไป ทุกคนต่างมองตากันไปมา

            "ฉันเห็นด้วยกับไอ้ภูวินท์นะ เราเดินทางกันเถอะ" ไคกิเสริม ซึ่งทุกคนถึงจะยังเกิดอาการกลัวๆอยู่ แต่ก็เดินตามภูวินท์กับไคกิที่เดินนำหน้าไปอย่างหวาดระแวง 

            ทำไมฉันรู้สึกว่า ยิ่งเดินเท่าไหร่ป่ายิ่งทึบขึ้นเรื่อยๆยังไงหยั่งงั้น มันมืดลงทุกทีๆแล้ว

            'ฉึก!!!!!!!!'

       
    "กรี๊ด
    !!!!!!!!!!!!!"

           
    "น้ำหนึ่ง!!!!!!"

            ทุกคนอุทานลั่นเมื่อน้ำหนึ่งที่เดินอยู่หลังสุด ถูกตะปูใบมีดโกนและเข็มแหลมๆที่โผล่มาจากบนต้นไม้ใหญ่ ทิ่มตำจนเนื้อฉีก ตะปูทิ่มตาจนทะลุเลือดนอง เธอกรีดร้องด้วยความทรมานเหมือนจะขาดใจ ทำให้ใบมีดโกนที่ตกลงมากรีดลิ้นและปากจนฉีกเหวอะหวะไปถึงจมูก น้ำหนึ่งดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมานจมกองเลือดที่นองพื้นของเธอ แต่ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ และเสียงกรีดร้องอย่างทรมานของเธอค่อยๆเบาลงพร้อมด้วยลมหายใจที่หยุดลง ทุกคนมองเธอด้วยแววตาหวาดกลัว น้ำตาของฉันค่อยๆไหลอาบแก้ม ด้วยความกลัวและความตกใจกับการจากไปของน้ำหนึ่งอันน่าสยดสยอง

           
    ฮึก...ฉ..ฉันกลัว...กลัวเหลือเกิน....        

    -------------------------------------------------------------------------------------------
    'เริ่มแล้วสินะ'
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------


            "แปลกจริง...ของพวกนี้ตกลงมาได้ไงกันนะ" ก้านพึมพำเบาๆก่อนที่จะเดินไปสังเกตที่ต้นไม้ใหญ่นั่น..

            'ฉึกๆๆๆ!!!!'

            "ฟึ่บ!!"

            "!!!!!!"

            เมื่อก้านเดินเข้าไปเพียงไม่เท่าไหร่ สิ่งของที่ฆ่าน้ำหนึ่งตะกี้ก็ตกลงมาอีกครั้ง ทำให้เมฆที่รู้เท่าทันรีบดึงก้านกลับมาก่อนที่จะโวยวายเสียงดัง

            "เธอจะบ้ารึไง เข้าไปแบบนั้น เดี๋ยวก็ตายกันพอดี!!" เมฆว่าก่อนที่จะลากตัวก้านกลับเข้ามาในกลุ่มเพื่อนๆ

            "โกรธอะไรนักหนา นายนี่พึลึกคนชะมัด -  -^"

            ก้านพูดเสียงขุ่น ก่อนที่จะสบัดมือเมฆที่เกาะแขนเธอออก

            "เธอน่ะสิพิลึก ไม่กลัวตายรึไง"

            "ยังไงคนเราก็ต้องตายอยู่ดี นายจะกลัวไปทำไม.."

            "เรื่องนี้ฉันรู้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้เว้ย!!!"

           เมฆพูดเสียงดังแกมตะคอก ทำให้ก้านที่ออกอาการไม่พอใจ เดินออกจากกลุ่มไป

           "จะไปไหนน่ะ ก้าน"

            คิวอุทานลั่นก่อนที่จะรีบเดินตามก้านไป คนอื่นๆที่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์สยดกสยองขึ้นอีกจึงเดินตาม 2 คนนั้นไป ส่วนฉันที่ได้แต่ยืนกลัวๆก็รีบตามไปอีกคน...

            
            ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    [คีน part]


            ผมเดินตามกลุ่มเพื่อนไปเรื่อยๆ ในใจเริ่มออกอาการหวาดผวาเล็กๆ อืม...รู้สึกน่ากลัวจังแฮะป่านี้ เหมือนได้ยินนกเสียงน่ากลัวๆร้องตลอดทาง สรุปนี่มันที่ไหนกันเนี่ย!!!

            "ยี๋ๆ~ออกไปไกลๆนะ นายมาเกาะไหล่ฉันทำไมฮะ!!!"

            ลักรักที่เกลียดผู้ชายเข้าไส้ รีบผละตัวซาน์วที่เดินเกาะลักรักด้วยอาการกลัวๆออกด้วยท่าทางขยะแขยง 

            "เกาะนิดเกาะหน่อยก็ไม่ได้นะ" ซาน์วบ่นอุบอิบ

            "ผู้ชายซะเปล่า ดันมาเกาะผู้หญิง ขี้ขลาดชะมัด เฮอะ!!"

            ลักรักพูดอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะรีบเข้าไปหากลุ่มเพื่อนผู้หญิงของเธอที่เดินอยู่หน้าเธอเพียงไม่กี่เมตร 

            'ฟุดฟิดๆ~'

            เอ๊ะ!!ทำไมผมได้กลิ่นสาบๆแถวนี้นะ มันเหม็นชะมัดเลย ยิ่งเดิน กลิ่นสาบเน่าๆก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมจะอ้วกอยู่แล้วนะ...

            "กลิ่นอะไรวะ เหม็นเน่าชะมัด" ไคกิที่คงได้กลิ่นเหมือนเอ่ยทักขึ้นพร้อมบีบจมูกแน่น ก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าลายสก็อตจากกระเป๋าเสื้อมาปิดจมูก คนอื่นๆก็เช่น กัน ออกอาการคลื่นไส้สุดๆ

            "ฉันรู้แล้วล่ะ ว่ากลิ่นเน่านี้มาจากไหน..." หลังจากเดินไปอีกซักพัก ไบเบิ้ลก็โผล่งขึ้นก่อนที่จะมองไปที่ๆหนึ่ง

            "มาจากไหนหรอ" เลิฟถามต่อ ก่อนที่ไบเบิ้ลจะตอบเสียงสั่น

            "น..นั่นไง" ไบเบิ้ลชี้นิ้วไปที่สถานที่แห่งหนึ่งทางขวามือ ก่อนที่ผมและทุกๆคนจะค่อยๆหันไปตามกันช้าๆ เมื่อผมหันไปเห็นแทบจะช็อคตาตั้ง

            ศพเต็มไปหมดเลย!! ศพนอนกระจัดกระจายรวมกันอยู่ที่หลุมตื้นๆกว้างๆที่มีพื้นเป็นทรายเหมือนมีคนขุดเอาไว้ สภาพศพแต่ละคนแทบดูไม่ได้ บางตัวตาถลน ไส้ในทะลัก หนอนขึ้น ตัวเละ แขนขาขาด ปากฉีก ผมไม่อยากจะบรรยายอะไรอีกแล้ว เพราะมันน่าสยดสยองเหลือเกิน ผมคลื่นไส้อยากจะอ้วกจะแย่อยู่แล้ว ทำไมศพพวกนี้ถึงมากองรวมกันอยู่นี่ล่ะ.. ที่นี่เป็นสุสานงั้นเหรอ... ไม่น่าจะใช่นะ เพราะตอนนี้เราอยู่กลางป่า ไม่น่าจะมีศพแบบนี้ได้ แล้วศพพวกนี้มาจากไหนกันล่ะ..!!

            "ศ..ศพพวกนี้มาได้ยังไงกัน!!"

            โกโก้อุทานลั่นก่อนที่จะเข้าไปหลบข้างหลังเลิฟด้วยความกลัว ผมได้แต่เปรยตามองด้วยสีหน้าซีดเผือก ทำไมผมต้องมายืนดูศพแบบนี้ด้วย!!

            "ฮึก...ฉันกลัว..." เถาวัลย์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า น้ำตาใสๆของเธอร่วงลงมาไม่หยุด 

            "ใจเย็นๆนะ ไม่ต้องกลัวนะเถาวัลย์" ลักรักพูดปลอบใจด้วยรอยยิ้มบางๆก่อนที่จะลูบหัวเถาวัลย์ด้วยความอ่อนโยน ซึ่งเถาวัลย์ก็พูดอะไรไม่ออก กอดลักรักแน่น ผมไม่รู้หรอกนะว่าทั้งสองคน รู้สึกยังไงต่อกัน แต่ผมมองเธอทั้งสองคนแล้ว เหมือนความรักที่มีต่อกันมันมากกว่าเพื่อนปกติ...

            ทำไมผมรู้สึกเจ็บแปลบๆที่หัวใจจัง นี่ผมเป็นอะไรกันนะ....

            "ฮ...เฮ้ย!!!"

            "มีอะไรไคกิ"

            ผมหันไปถามไคกิที่ทำท่าช็อคตาตั้ง อ้าปากค้างเหมือนตกใจอะไรซักอย่าง....

            "น...นั่น!!"

            ไคกิพูดตะกุกตะกักทำให้ผมค่อยๆหันไปดูด้วยความกลัว ความรู้สึกที่น่ากลัวกำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง!!! 

            ศพมันกำลังลุกขึ้นมา!!!         
      
            
    "แฮ่~!!"

            "วิ่ง!!!!!!!"

            ผมร้องลั่นบอกทุกคน ก่อนที่จะชักฝีเท้าหนีอย่างไม่คิดชีวิต ผมวิ่ง.....วิ่ง....และวิ่งอย่างไม่หยุดพัก ขณะที่วิ่ง ผมเหลือบไปเห็นเตยหอมสะดุดล้มลงกับพื้น ผมอยากจะช่วยเพื่อน แต่สัญชาตญาณของผมมันบอกให้วิ่งต่อไปและเอาตัวเองรอดไปให้ได้...


        ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    [มิรุ part]

          
            "เตย!!!!!!"

            ร่างของเตยหอมหอมถูกควักไส้จนเครื่องในทะลักออกมาเมื่อเธอล้มและศพนั่นตามมาทัน ฉันได้แต่เหลือบมองเตยหอมทั้งน้ำตา

            เตยหอม...ต้องจบชีวิตลงอีกคนแล้ว...

            ทำไมฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย...

            บ้าที่สุด!!!!

         
          +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    [ภูวินท์ part]

           
            ผมรีบวิ่งสุดชีวิตไปพร้อมกับชะเอมและเมฆที่ตามมาติดๆ ตอนนี้มองไม่เห็นศพผีอะไรนั่นแล้ว เราคงห่างจากผีนั่นพอสมควร แต่ยังไว้วางใจไม่ได้อยู่ดี เพราะรู้สึกเสียงฝีเท้ามันค่อยๆใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

            พรื่ด!!

            ชะเอม!!!!

            กิ่งไม้ท่อนเล็กๆที่ขวางทาง ทำให้ชะเอมที่วิ่งแบบไม่คิดชีวิต สะดุดล้มจนไถลไปกับพื้นเกิดบาดแผลที่เข่าและตามแขนมีเลือดออกซิบๆ ผมไม่รอช้า รีบวิ่งกลับไปเพื่อช่วยเธอ แต่เมฆกลับผลักผมให้ออกไป..

            "เป็นอะไรหรือเปล่า..."

            เมฆพูดพลางเข้าไปดูแผลที่เข่าและแขนของชะเอม ซึ่งชะเอมได้แต่โอดครวญกับบาดแผลที่ได้รับก่อนที่จะหันไปสบตากับเมฆแล้วพูดเสียงสั่น

            "อูย~เจ็บ...ขาพลิกแน่เลย แสบไปทั้งขา.." ชะเอมหันไปกุมเข่าที่มีเลือดไหลซิบๆไม่หยุด ผมจึงรีบโผล่งขึ้นช่วยเหลือ

            "เดี๋ยวเรา..."

            "ขึ้นหลังเราแล้วกันนะ!!"

           ขณะที่ผมเสนอตัวช่วยเหลือ เมฆก็ชิงพูดตัดหน้าเสียก่อนแล้วส่งสายตาขุ่นๆใส่ผมอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่ผมจะพูด
     
            ผมรู้ดีว่าถึงเมฆจะชอบแกล้งชะเอม แต่มันก็แอบชอบเธอ ผมก็เช่นกัน ผมแอบรักเธอมาตั้งแต่ ม.ต้น แต่ผมไม่สามารถเผยความในใจออกมาได้ ผมกลัวว่าเธอจะไม่รักผมเลย แล้วเราจะมองหน้ากันไม่ติด  อีกอย่าง เมฆมันก็รักชะเอมมาก ขนาดตอนที่เธอถูกผู้หญิงที่ไม่ชอบเธอรุมทำร้าย มันยังเข้าไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิตเลย แล้วผมล่ะ ผมมีค่าอะไรให้เธอรัก..ผมไม่ได้ทำอะไรให้เธอซักอย่าง เพียงกุหลาบดอกเดียวในวันวาเลนไทน์ ผมยังไม่กล้าให้เธอเลย จนตอนนี้กุหลาบที่ผมอยากให้เธอเหี่ยวเฉาจนหมดอยู่ที่โต๊ะหนังสือของผม แต่ผมก็ยังเก็บมันไว้ การ์ดอวยพรผมเขียนถึงเธอทุกปี แต่ผมไม่เคยให้เธอเลย เมฆมันก็รู้ว่าผมชอบเธอ มันจึงขัดขวางอยู่ตลอด ผมได้แต่แอบมองเธออยู่ห่างๆ ผมรักเธอสุดหัวใจไม่แพ้เมฆ แต่ผมสู้มันไม่ได้เลย ทำไมผมแย่แบบนี้นะ...

            "จ..จะดีเหรอ นายจะแบกฉันไหวรึไง.."

            "เอาเถอะหน่า..เร็วๆสิ เดี๋ยวพวกเราถูกฆ่าตายกันพอดี..!!" เมฆเร่ง ชะเอมลังเลเล็กน้อย ก่อนที่ชะเอมจะค่อยๆขึ้นหลังเมฆด้วยความกลัวว่าศพนั่นจะตามมาทัน   

           "ขอบใจนะ.."

           "อืม..ไม่เป็นไร "

           อาการเจ็บแปล๊บๆที่อกข้างซ้ายบีบตัวขึ้นอีกครั้ง ปวดใจเหลือเกิน ที่ผมต้องมาเห็นภาพแบบนี้ ผมอยากจะปลีกตัวไปให้ไกลๆ ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น...

            โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้... 

           
                 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    [เรย์ part]


            "แฮ่ก..ๆ...ๆ"

            โอย~เหนื่อยชะมัดเลย นี่ฉันวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้วนะ!! ผีนั่นจะตามมาถึงไหนกันนะ วิ่งมานานแล้วยังตามมาอีก

            "ทุกคน!! รีบวิ่งไปนะ เดี๋ยวฉันจะจัดการกับผีนั่นเอง" ซาน์วโผล่งขึ้นขณะวิ่ง ตอนนี้ทุกคนวิ่งอยู่ไปในทางเดียวกัน มีเพียงบางคนที่วิ่งนำหน้าไปก่อน 

            "น..นายจะสู้มันไหวเหรอ!! มันมีเป็นสิบๆตัวเลยนะ" จีน่าพูดอย่างเป็นห่วงเพราะกลัวต้องเสียเพื่อนไป

            "ฉันไหว แต่คงต้องมีใครซักคนช่วย"

            "ใครล่ะ.."

            "ก้าน...เธอมีคุณไสยไม่ใช่เหรอ ฉันจำได้ว่าเธอพกธนูเป็นประจำ เอาออกมาสิ!!" ซาน์วหันไปพูดกับก้านด้วยสีหน้าจริงจัง ก้านได้แต่มองซาน์วไม่ยอมพูดอะไร

            "........"

            "เธอช่วยฉันได้มั้ยก้าน"

            "............"

            "ได้มั้ย!!!"

            "ด..ได้"

            ก้านตอบเสียงสั่น ซาน์วที่ได้ยินคำตอบเผยยิ้มกว้าง

            "ทุกคนไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันกับก้านจัดการมันเอง" ซาน์วพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะวิ่งวนกลับไปหาผีนั่น ฉันได้แต่มองข้างหลังด้วยความรู้สึกเป็นห่วง

            จะเป็นอะไรรึเปล่านะ.....

              
             +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    [ซาน์ว part]

        
           
    ผมวิ่งวนกลับไปพร้อมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่เก็บมาจากบริเวณป่า ส่วนก้านก็เตรียมธนูพร้อมลูกธนูอย่างเตรียมพร้อม ฝูงศพผีนั่นก็ตามมาปะทะซึ่งตอนนี้ห่างจากพวกเราไม่กี่ก้าว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอให้ผมรอดไปด้วยเถอะ..!!

            "พร้อมนะ!!" ผมหันไปถามความพร้อมของก้าน ซึ่งเธอทำสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็พยักหน้ารับ แววตาของผมตอนนี้ เอาจริงเอาจังมาก ผมกำไม้ที่มีอยู่ให้กระชับมือเหนียวแน่นเพิ่มความมั่นใจ

            เอาวะ!!ถึงจะตายก็ภูมิใจที่ได้ช่วยเพื่อนล่ะนะ

            "ย๊าก!!!!!!"

            ผมวิ่งสุดฝีเท้าพร้อมกับง้างไม้ปะทะผีนั่น ส่วนก้านก็ใช้ธนูที่มีอยู่ยิงรัวใส่พวกมัน ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผีที่ตายแล้วมันจะตายอีกได้หรือเปล่า แต่ผมก็ใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ธนูของก้านคงจะเป็นธนูศักดิ์สิทธิ์เพราะเมื่อยิงโดน ผีนั่นก็มันก็สลายไป

            พลั่กๆๆ!!~

            ผมใช้ไม้ในมือ ทุบผีที่กำลังวิ่งมาหาผมจนล้มลง ก่อนที่ผมจะมุ่งหน้าไปต่อสู่กับผีตัวอื่นต่อ ส่วนก้าน ผมเหลือบไปเห็นเธอกำลังท่องอะไรซักอย่าง จนทำให้ผีอีกหลายตัวสลายไปพร้อมๆกับเปรวเพลิงที่ลุกไหม้ราวกับเวทย์มนต์

             คุณไสยสามารถทำได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือนี่!!! 

             แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก รีบจัดการผีที่มุ่งหน้ามาหาผม ไม่นานผีทุกตัวก็สลายไปจนเหลือตัวสุดท้าย โดยที่ก้านท่องคาถาจนผีตัวสุดท้ายนั้นสลายไป
     
            ก่อนหน้านั้นผมเกือบถูกผีนั่นฆ่าตายเพราะแอบมุ่งหน้ามาข้างหลัง แต่ยังดีที่ก้านสามารถช่วยผมไว้ได้..แต่ก็ได้รับบาดเจ็บที่แขนเหมือนกันเพราะถูกผีนั่นเอาไม้แหลมๆทิ่ม จนเลือดไหลแต่ดีที่ยังไม่เป็นไรมากนัก

            "ขอบใจนะที่ช่วยฉันไว้ เธอเก่งมากเลย" ผมหันไปขอบคุณก้าน แต่ก้านกลับตอบรับด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอคนนี้เคยมีความสุขอะไรแบบคนอื่นเขาบ้างหรือเปล่านะ ผมตั้งแต่รู้จักก้านมา ผมไม่เคยเห็นเธอยิ้มอย่างมีความสุขซักครั้ง

            "เรารีบไปหาเพื่อนคนอื่นๆกันเถอะ!!" ผมพูดก่อนที่จะเดินนำหน้าไป ส่วนก้านก็เดินตามมาอย่างเงียบๆ ไม่พูดกับผมซักคำ

              --------------------------------------------------------------------------------------------------


    [เลิฟ part]


           
            เป็นเวลานานพอสมควรที่พวกเรารอสองคนนั้นอย่างใจจดใจจ่อ และในที่สุด ซาน์วก็โผล่มาพร้อมกับก้าน ทำให้ทุกคนเผยยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจที่ทั้งสองคนยังไม่ตายมีเพียงแต่...

            "แขนนายเลือดไหลนี่ซาน์ว!!" ฉันตะโกนลั่นเมื่อเห็นเลือดบริเวณต้นแขนซาน์วฉีกออกมา มีเลือดไหลซิบๆ แต่แผลก็ไม่กว้างมากนัก

            "นิดหน่อยน่ะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก^ ^;" ซาน์วยิ้มกว้างกับทุกคน แต่ดูเป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนใจทีเดียว ฉันที่เห็นเช่นนั้น หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสีฟ้าของตัวเองออกมาเพื่อพันแขนซาน์ว ถึงจะเป็นผ้าเช็ดหน้าตัวโปรด แต่ฉันยอมสละเพื่อคนที่ช่วยทุกคนไว้แล้วกัน

            "เธอจะทำอะไรน่ะ..!!"

            "ก็พันแผลให้น่ะสิ นายนี่ถามเรื่องมากจัง ยื่นแขนมาซิ!!" ฉันพูดเสียงดุๆ ทำให้ซาน์วที่ออกอาการตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยื่นแขนออกมาให้ฉันโดยดี

            ฉันค่อยๆพันอย่างระมัดระวังกลัวเขาจะเจ็บ แต่ก็คงจะไม่ได้ผลซักเท่าไหร่ พราะหมอนี่เอาแต่ร้องอยู่นั่น หมาตัวไหนมันบอกว่าไม่เป็นไรกันฮะ!!
           
            "เสร็จแล้ว.."

            ฉันพูดพลางละแขนเขาลงเบาๆ

            "ขอบคุณคร้าบบบ^__^" หมอนั่นเผยยิ้มกว้างหลังจากทื่พันแผลเสร็จ ฉันไม่ค่อยมั่นใจหรอกนะว่าที่หมอนี่ดีใจที่ฉันช่วยพันแผลให้หรือดีใจที่ไม่ต้องทรมานกับการที่ฉันพันแผลให้กันแน่

            "เราไปกันต่อเถอะนะ" ซาน์วว่าก่อนที่จะหันไปหาทุกๆคนด้วยรอยยิ้ม

            "ตกลง!!!!"

              ------------------------------------------------------------------------------------------

    100% ตามสัญญาแล้วนะคร้าบบบ^__^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×