ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Knight Of God Online

    ลำดับตอนที่ #16 : CP : 16 > เควสเปลี่ยนอาชีพ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.65K
      1
      17 พ.ค. 53

    ขอโทษนะคะที่ดองนานมากๆ .__. คือตอนแรกตั้งใจจะดองตลอดแล้ว แต่ว่าด้วยกำลังใจ จึงกลับมาอัพต่ออีกครั้งค่ะ

    ช่วงนี้งานยุ่งมากๆเลย อาจจะอัพช้าสักหน่อย แต่จะพยายามอัพต่อเรื่อยๆแน่นอนค่ะ

    ขอโทษนักอ่านทุกๆท่านที่ำทำให้รอด้วยค่ะ


    ___________________________




     

              ข้าวโอ๊ตกับ Silent ตัดสินใจเดินทางกันสองคน ส่วนเด็กๆที่เด็กสาวคอยดูแลอยู่นั้นก็ออฟไลน์ออกไปก่อน พวกเขาเดินจากเมืองอิเซมผ่านทุ่งหญ้าผืนใหญ่ไปยังเมืองเจลานี่ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายด้วยดี เพราะทางผ่านไม่มีสัตว์ดุร้ายเท่าไรนัก มีเพียงสไลม์กับกระต่ายตัวเล็กๆไม่กี่ตัวเท่านั้น

                เมืองเจลานี่ เป็นเมืองพยาบาลขนาดเล็ก แต่มีศูนย์พยาบาลขนาดใหญ่อยู่ใจกลาง มีรูปร่างเป็นตึกสูงใหญ่ เจลานี่เป็นเมืองสำหรับใช้เปลี่ยนอาชีพสายเยียวยา นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรพิเศษกว่าเมืองอื่นๆ จึงมีเพียงผู้เล่นอยู่ในเมืองเพียงประปรายเท่านั้น

                ข้าวโอ๊ตนำไปยังศูนย์พยาบาลอย่างคนรู้ทาง เด็กหนุ่มข้างๆได้แต่มองซ้ายขวาอย่างตื่นเต้น เขาคงไม่เคยผ่านเมืองนี้มาก่อน ผ่านไปไม่นานนัก ตึกสูงใหญ่ก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าแล้ว Silent ยังไม่ทันหายตกตะลึง ข้าวโอ๊ตก็ลากเขาเข้าไปด้านในเสียแล้ว

                ด้านในศูนย์พยาบาลมี NPC หมอหรือพยาบาลเดินกันขวักไขว่ บางคนเข็นเตียงที่มีคนไข้ที่หายใจร่อแร่เจียนอยู่เจียนไปนอนอยู่ ทุกๆคนดูวุ่นวายเสียจนไม่มีเวลามาสนใจแขกมาใหม่ 2 คนเท่าไรนัก..

                ข้าวโอ๊ตดูงุนงง

                “แปลกจัง เธอพูดเสียงแผ่ว “ปกติไม่วุ่นวายกันขนาดนี้นี่นา.. เกิดอะไรขึ้น??”

                Silent ครุ่นคิดกับประโยคเมื่อครู่ แล้วจึงเร่งถามเด็กสาวข้างตัวโดยไว

                NPC คนที่รับเปลี่ยนอาชีพอยู่ที่ไหนเหรอ”

                “เอ่อ อยู่ที่ห้องทำงานผู้อำนวยการค่ะ”

                “พาไปหน่อยสิ

     

                ไม่นานทั้งคู่ก็ไปหยุดอยู่หน้าห้องผู้อำนวยการ ทั้งสองมองหน้ากันสักพัก ข้าวโอ๊ตจึงตัดสินใจเคาะประตู 3 ครั้งเป็นจังหวะ

                ก๊อก.. ก๊อก.. ก๊อก..

              ไร้เสียงตอบรับจากคนข้างใน

                หรือว่าไม่อยู่

              ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อ ประตูไม้สีน้ำตาลตรงหน้าก็เปิดผางออก พร้อมเจ้าของห้องที่เดินออกมาอย่างเร่งรีบ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นผู้มาเยือนทั้งสองคนยืนตาแป๋วอยู่

                คนตรงหน้า Silent เป็นชายวัยกลางคนดูภูมิฐาน สวมแว่นทรงเหลี่ยมไร้กรอบดูเป็นคนฉลาด เขาดูยุ่งเหยิงอยู่กับงานเป็นเวลานานมาก

                “อะไรเนี่ย!” ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้อ้าปาก ชาววัยกลางก็อุทานออกมาเสียงดังเป็นชุด “พวกเธอเป็นใคร มาอยู่หน้าห้องฉันทำไม ขอโทษนะ ช่วยหลีกทางหน่อย ตอนนี้งานยุ่งมากๆเลย มีอะไรไว้วันหลังแล้วกันนะ”

                ข้าวโอ๊ตคอตก เธอคงไม่ได้เปลี่ยนอาชีพแน่ๆ เพราะผู้อำนวยการศูนย์พยาบาลซึ่งเป็น NPC ที่รับเควสเปลี่ยนอาชีพดูกำลังวุ่น แต่ว่ามีเรื่องอะไรกันนะ

                ขณะที่เด็กสาวกำลังหลบทางให้ผู้อำนวยการแต่โดยดี Silent กับเดินเข้ามาขวางทางไว้ ข้าวโอ๊ตดูตกใจ แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าชิงพูดก่อนว่า

                “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”

              “อะไรกัน เธอเป็นใคร ขอโทษทีนะไม่มีเวลาคุยหรอก ฉันกำลังรีบมากๆ คนกำลังขาดสุดๆ”

                “ทำไมหรือครับ?”

                เป็นครั้งแรกที่ Silent พูดเยอะสุดๆ

                “เฮ้อ..เอาเหอะ ฉันจะบอกให้” ชายวัยกลางคนดูกลุ้มอกกลุ้มใจ “เมื่อชั่วโมงก่อนมีเหตุเพลิงไหม้ที่ทางเหนือของเมือง บ้านไหม้ไปหลายสิบหลัง คนเจ็บครึ่งร้อย ตอนนี้หมอกำลังยุ่งกันอยู่ก็แย่พออยู่แล้ว ดันมีสารด่วนมาจากหมู่บ้านบนภูเขา”

               

                “มีเด็กในหมู่บ้านเป็นโรคแปลกๆน่ะ หลายคนแล้วด้วย ตอนนี้หมอกำลังยุ่งทุกคน ไม่มีใครว่างไปดูเลย”

               

              “ทางนั้นก็เร่งมากๆ บอกช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่หมอทุกคนติดคิวผ่าตัดหมด

                “ให้เราช่วยมั้ยครับ?”

                ผู้อำนวยการมองพวกเขาอย่างงุนงงเหมือนไม่เคยได้ยินประโยคนี้มาก่อน

                “เธอว่ายังไงนะ?”

                “เพื่อนผมมีอาชีพเป็นผู้เยียวยาระดับ 35 ครับ ถือว่าสูงสุดของอาชีพผู้เยียวยาแล้ว คงพอจะทำอะไรได้บ้าง ให้พวกเราไปช่วยเด็กๆในหมู่บ้านเถอะครับ”

                ข้าวโอ๊ตเบิกตากว้างเป็นครั้งแรกที่เธอได้ยิน Silent พูดประโยคยาวๆออกมา เขาดูไม่เหมือนกับเด็กหนุ่มขี้อายทีพบกันครั้งแรกเลย

              “ใช่มั้ย” เขาหันหน้ามาหาเธออย่างต้องการคำตอบรับ

              หรือว่านี่คือเควสเปลี่ยนอาชีพ?

              เมื่อคิดได้ดังนั้น ข้าวโอ๊ตจึงรีบผงกหัวโดยเร็ว

                “ชะ..ใช่ค่ะ มีอะไรให้ช่วยฉันก็ยินดี แล้วก็จะพยายามทำเต็มที่ค่ะ”

                ชายตรงหน้าพวกเขาดูครุ่นคิด หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน หลังจากนั้นไม่นานจึงตบไหล่ทั้งสองข้างของ Silent เต็มแรง

              ป้าบ!!

              ….เข่าแทบทรุด         

                “ขอบคุณมาก!! พวกเธอช่วยได้เยอะจริงๆ ฝากด้วยนะ เดี๋ยวฉันทำหนังสือกำกับงานให้ แล้วจะส่งหมอตามไปทีหลัง มีปัญหาอะไรติดต่อมาได้เลยนะที่เบอร์ในนามบัตร” เขาพูดพลางยื่นนามบัตรแผ่นเล็กๆให้ “ฝากด้วยนะ!! กล่าวจบก็รีบเดินจากไปทันที

              เมื่อผู้อำนวยการศูนย์พยาบาลเดินจากไปแล้ว พวกเขาจึงพลิกนามบัตรขึ้นดู ปรากฎว่ามีรายละเอียดเขียนอยู่ไม่มาก

                รายละเอียด

                ประเภท : เควสเปลี่ยนอาชีพขั้นที่ 3

                รายละเอียดการรับเควส :          1. ผู้รับเควสต้องมีเลเวลไม่ต่ำกว่า 35

                                          2. ผู้รับเควสต้องมีอาชีพสายเยียวยา

    3. ผู้รับเควสต้องมาในวันที่ศูนย์พยาบาลกำลังเกิดชุลมุนครั้งใหญ่ (กำหนด     อาทิตย์ละ 3 ครั้ง)

                รายละเอียดเควส : ทำงานที่มอบหมายได้อย่างสำเร็จลุล่วง

    “โชคะนี่หรือว่า.. เด็กสาวแทบพูดไม่ออก

    “อืม..

    เธอเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง

    “ขอบคุณมากๆเลยค่ะ” ข้าวโอ๊ตแทบยกมือไหว้สวยๆ เกือบลืมไปว่าอีกฝ่ายอายุน้อยกว่า ถึงจะแค่ปีเดียวก็เถอะ “โชเก่งจังเลย รู้ได้ไงคะว่าต้องพูดยังไงบ้าง ฉันมาทีไรโดนเขาปฏิเสธก่อนทุกทีเลยล่ะค่ะ”

              เด็กหนุ่มเกาคางเล็กน้อย

                “เพื่อนผม (โจอี้นั่นแหละ) บอกว่า เวลาจะทำเควสให้คุยกับ NPC หลายๆรอบน่ะ”

                “ฉันก็มาหลายรอบแล้วนะคะ แต่ไม่มีท่าทีว่าจะได้อะไรเพิ่มเลย”

               

                “โชเก่งจังเลยค่ะ เมื่อกี๊พูดดีสุดๆไปเลย แต่..เอ” เด็กสาวหยุดนึก “ปกติเห็นโชไม่ค่อยพูดเลย เลยนึกว่าเป็นคนพูดกับคนไม่เก่งซะอีก เก่งผิดคาดเลยนะคะ ฮิฮิ”

              ...ก็.. NPC ไม่ใช่คนนี่

              “เอ๊ะ?”

               

              “เข้าใจผิดอะไรรึเปล่าคะ? ถ้า NPC สำคัญๆอย่าง NPC เปลี่ยนอาชีพนี่ปกติเขาใช้คนจริงๆเล่นนะคะ”

              “อ๊ะ

              โดนไอ้โจอี้หลอกแล้วไง

              “แหม..คนจริงๆกับโปรแกรมคอมก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรเห็นมั้ยคะ”

               

                “โชก็หัดพูดกับคนอื่นบ้างก็ดีน้า”

              “อือ

               

                “ขอบคุณนะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×