ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZOMBIES HARD CREEPER | KAIHUN CHANBAEK FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #98 : Chapter 93 :: The sound of death

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.7K
      107
      30 ต.ค. 58

    ? Tenpoints!

     

     

     

    Chapter 93

    The sound of death

     

     
     

     

    เซฮุน!”

    เจ้าของชื่อหลุดออกจากความคิดพลันหันไปตามต้นเสียงที่ดังมาจากประตูด้านนอก เพียงแค่ครู่เดียวลู่หานก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนกพร้อมมีดดาบและเสียงโอดครวญของเหล่าผีดิบด้านนอก เป็นสัญญาณบอกว่าในวินาทีนี้พวกเขาทุกคนไม่มีเวลามากนัก

    ไหวไหมครับ?

    จงอินพยักหน้าแล้วปีนข้ามเข้ามาด้านในด้วยความช่วยเหลือของเซฮุน ลู่หานมองเพื่อนสนิทที่อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก กับสองมือโชกไปด้วยเลือดสีสดอีกทั้งขาที่ดูเหมือนว่าจะทรงตัวลำบาก ซึ่งเขาได้แต่ภาวนาว่าไอ้เวรนี่คงพอมีเรี่ยวแรงพอที่จะวิ่งในช่วงเวลาคับขันแบบนี้

    ยูริ!”

    หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมขณะยังคงออกแรงดันเตียงคนไข้เพื่อขวางทางพวกกินเนื้อจำนวนหนึ่งเอาไว้ เสียงของลู่หานที่ตะโกนเรียกบอกให้เธอและคนอื่น ๆ รีบออกไปจากตรงนี้ก่อนที่พวกมันจะปีนข้ามผ่านมาได้

    ไป!” ยูริตะโกนบอกคนด้านหลังก่อนจะถีบเตียงไปข้างหน้าอย่างแรงจนเหล่าผีดิบบางตัวเสียหลักล้มลงไป แต่ก็ยังมีบางตัวที่ยังยืนอยู่ได้

    เสียงฝีเท้าวิ่งย่ำไปตามทางเดินยาวซึ่งมีอุปสรรคเป็นซากศพและรถเข็นขัดขวางอยู่ตลอดแนว ลู่หานวิ่งนำหน้าพร้อมใช้มีดดาบปัดคอปัญหาที่โผล่เข้ามาให้เห็น นับว่าเป็นโชคดีที่แสงสว่างจากหน้าต่างคนไข้รวมตรงทางด้านขวายังพอสาดส่องออกมาให้เห็นทางหนีทีไล่อยู่บ้าง ชายหนุ่มหันหลังกลับไปเป็นระยะด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้เซฮุนกำลังช่วยหิ้วปีกจงอินวิ่งตามมาติด ๆ โดยมียูริวิ่งระวังหลังให้

    เวรเอ๊ย!” หนุ่มชาวจีนสบถอย่างหัวเสีย ยืนยึกยักลังเลอยู่ตรงทางแยกที่มีพวกกินคนดักรออยู่เต็มไปหมด เขาต้องจัดการผีดิบให้พ้นทางเดินลงบันไดก่อนที่พวกมันจะแห่เข้ามามากไปกว่านี้ยูริ ไปทางขวา เซฮุน มากับฉัน!”

    คนได้รับมอบหมายหน้าที่ไม่ลังเลที่จะทำตาม เด็กหนุ่มตัวผอมวิ่งไปทางด้านซ้ายเพื่อกวาดพวกผีดิบให้ถอยออกไปด้วยเตียงคนไข้ จงอินมองหญิงสาวที่กำลังต่อสู้กับพวกผีดิบในระยะประชิด เปิดด้วยทักษะป้องกันตัวและปิดท้ายด้วยการแทงหัวอย่างรู้จังหวะ ทุกคนกำลังลำบาก ซึ่งเขาก็ไม่สามารถยืนอยู่เฉย ๆ ได้เมื่อความตายด้านหลังกำลังตามมาติด ๆ ชายหนุ่มก้มลงคว้าเสาน้ำเกลือขึ้นมา ใช้ส่วนปลายดันพวกมันให้ถอยออกไปแต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควรนัก

    จงอิน!” ลู่หานผิวปาก เจ้าของชื่อฟาดเสาน้ำเกลือไปอย่างแรงแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งถอยหลัง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งในวินาทีถัดมา


    ตึก ตึก ตึก!


    รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แผลตรงฝ่ามือทั้งสองข้าง แม้เลือดจะหยุดไหลแล้วแต่ความเจ็บก็ยังไม่จางหายไปง่าย ๆ กลิ่นเหม็นสาปโรงพยาบาลปะปนกับกลิ่นเน่าของซากศพ เสียงฝีเท้าวิ่งย่ำลงบนบันไดบ่งบอกถึงความเร่งรีบ พวกเขาต้องแข่งกับเวลา โดยมีความตายของคยองซูเป็นเดิมพัน

    ทางซ้าย!”

    ทั้งสี่คนวิ่งหัวซุกหัวซุน พอลงมาถึงชั้นล่างแสงสว่างที่เคยเป็นตัวช่วยทางหนีก็หายไปและแทนที่ด้วยความมืด เสียงกึงกังยามวิ่งชนอุปกรณ์ทางการแพทย์คล้ายเสียงผิวปากที่เรียกให้พวกผีดิบผู้หิวโหยรู้พิกัดว่าต้องจัดการเหยื่อตรงจุดไหน

    ไฟฉายที่เพิ่งถูกเปิดส่ายไปมาจนแทบมองอะไรไม่เห็นนอกจากใบหน้าเหวอะหวะของผีดิบที่ชวนผวา ทั้งสี่คนวิ่งออกไปทางหลังตึกแล้วหันไปดูรอบข้าง บนลานกว้างหน้าตึกอายุรกรรมเต็มไปด้วยรถที่ถูกเคลือบหิมะ และผีดิบคนไข้จำนวนมากที่กระจายอยู่เป็นจุด พวกเขาแทบมองหาทางหนีที่สะดวกต่อการวิ่งไม่ได้เลย

    หมอบ ทุกคนทำตามที่หญิงสาวบอก ในวินาทีนี้เสียงหอบหายใจของคนข้าง ๆ มันน่ารื่นหูกว่าเสียงไอโขลกในลำคอของศพเดินได้เป็นไหน ๆ  “เราต้องวางแผนกัน

    ถ้ามีก็ว่ามาเลย ลู่หานยังคงโกยอากาศเข้าปอด นัยน์ตากวาดมองไปโดยรอบทั้งที่ยังไม่มีแผนในหัว แต่ถ้าหวยมาตกที่เขาว่าต้องเป็นคนตัดสินใจล่ะก็ งานนี้อาจมีเลือดตกยางออกแน่

    จากความน่าเป็นไปได้ ทะลุตึกอายุรกรรมไปคงไม่ใช่ประตูทางออกแน่ และตอนนี้แค่วิ่งอย่างเดียวก็คงไม่ได้ หญิงสาวยังคงมองไปยังเบื้องหน้าด้วยสายตาจริงจัง

    รั้วด้านข้างก็สูงฉิบหาย

    เราอาจต้องเสียเวลากับตรงนี้เพื่อความปลอดภัย โอเค ฉันขอดูอาวุธของพวกนาย พอถึงบทจริงจังควอนยูริก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาขบกัดคิมจงอินเหมือนอย่างก่อนหน้านี้ หญิงสาวเพียงแค่ล้วงเอาอาวุธออกมาวางไว้บนพื้นหิมะและคนอื่น ๆ เองก็เช่นกัน

    มีดดาบ พลุแฟร์ ปืนพกกับกระสุนอีกสองแม็ก เซฮุน นายมีอะไรบ้าง

    ตอนนี้ผมเหลือแค่มีดพกครับ

    งั้นนายเอาไอ้นี่ไป ใช้แค่ตอนจวนตัวเท่านั้นนะ เข้าใจไหม? ลู่หานวางปืนพกลงบนมือเด็กหนุ่มตัวผอม ซึ่งเขาคาดว่าเซฮุนคงเข้าใจได้ไม่ยากกับสถานการณ์ที่ความอันตรายขึ้นอยู่กับเสียง การใช้ปืนเลยเป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก

    ฉันมีปืนพกเก็บเสียงกับกระสุนอีกสิบห้านัด หญิงสาวปลดแม็กกาซีนออกมาดูแล้วใส่เข้าไปใหม่

    เอากระสุนให้เซฮุนแม็กเดียว ส่วนอีกแม็กมึงให้ยูริใช้ไป ชายหนุ่มมองปืนในมือหญิงสาวปืนเก็บเสียงคงช่วยได้มากกว่า

    ทั้งสามคนมองจงอินอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง จากท่าทางและสีหน้าตอนพูดประโยคเมื่อครู่นั้นไม่มีความลังเลในความคิดอยู่เลยสักนิด จงอินแบมือออกไปทางหญิงสาว เธอรู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นไร้ความขลาดเขลาของผู้ชายคนนี้

    ขอมีดให้ฉัน

    ความเงียบโรยตัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งลู่หานและเซฮุนต่างมองสองคู่กัดที่ไม่เคยมีบทสนทนาดี ๆ ต่อกัน ควอนยูริยังคงไม่ละสายตาจากใบหน้าคมของชายหนุ่มที่เธอเหม็นขี้หน้า แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เข้ามาแทนที่

    ฉันว่าเรารีบย้ายก้นออกไปจากตรงนี้เถอะว่ะ เสียงของลู่หานแทรกขึ้นมาทำลายความเงียบหลังจากที่ยูริวางมีดลงบนมือซึ่งเต็มไปด้วยคราบเลือดโดยที่ไม่มีคำพูดประชดประชันตามมา

    คุณยังใช้มันไหวใช่ไหมครับ? เซฮุนถามด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าเขาจะรู้สึกดีขึ้นอยู่ไม่น้อยที่เห็นอีกฝ่ายตัดสินใจช่วยมากกว่านั่งเงียบเพื่อรอคนอื่นมอบหมายหน้าที่ให้

    จงอินพยักหน้า แม้ว่าจะเจ็บกับบาดแผลแต่การวิ่งตามหลังโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยมันก็เป็นเรื่องที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกัน กรรรซ์...

    ลู่หานชูนิ้วชี้ขึ้นเป็นเชิงบอกว่าเดี๋ยวจัดการเอง ชายหนุ่มย่องเข้าไปเตะตัดขาผีดิบจนมันล้มลงกับพื้นก่อนจะใช้สองมือจับปลายด้ามมีดดาบเสียบลงกลางกะโหลกศีรษะอย่างแรงจนศพมีชีวิตตายซ้ำสอง

    เราเสียเวลามามากแล้ว ปัญหาตอนนี้คือเราไม่รู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหน เพราะฉะนั้นการวิ่งเลียบไปตามรถโดยที่ไม่ให้พวกมันมองเห็นคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ยูริว่าพลางชะโงกหน้าออกไปด้านนอก

    แต่พอไปถึงทางออกก็ใช่ว่าจะเดินตัวเบาออกไปง่าย ๆ นะ

    ข้างนอกคงมีพวกมันขวางทางอยู่เต็มไปหมด เซฮุนเสริม ซึ่งมันคงเป็นอย่างนั้นโดยไม่ต้องออกไปพิสูจน์ด้วยตา

    เราต้องมีรถ เสียงของจงอินเป็นเสียงเดียวกับในความคิดของทุกคนตอนนี้

    ใช่ เพราะงั้นรีบจัดการเรื่องนี้ให้จบ ๆ กันเถอะว่ะ ลู่หานว่า และทุกคนก็เห็นด้วย

     

     

     

     

     
     

    เสียงพูดคุยของพวกกินเนื้อคนบนรถยังคงสร้างความน่ารำคาญได้อย่างต่อเนื่อง แบคฮยอนไม่เคยเกลียดกลิ่นบุหรี่เท่านี้มาก่อน หลายครั้งที่ต้องกระแอมไอเพราะถูกแกล้งโดยการพ่นควันอัดใส่หน้า แต่คนพวกนั้นกลับหัวเราะร่าพอใจราวกับว่าเป็นเรื่องตลก

    แผนการที่วางไว้เมื่อคืนยังคงสร้างความกังวลให้กับคนตัวเล็ก วูบหนึ่งเขามองไปทางชายหนุ่มร่างสูงซึ่งถูกคั่นกลางไว้โดยไอ้กุ๊ยตัวเหม็นเน่า ชานยอลยังคงนิ่งสงบเหมือนในทีแรก ถึงจะรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คงไม่คิดอะไรง่าย ๆ แต่ทุกอย่างมันก็ผิดพลาดได้กับสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างนี้

    อีกฝ่ายมีอาวุธครบมือ พร้อมลั่นไกใส่เขาทั้งคู่เมื่อไหร่ก็ได้ที่อยากทำ พวกมันไม่มีจิตใต้สำนึก ไม่มีความรู้สึกผิดบาปในใจเลยแม้แต่นิดเดียว หนำซ้ำยังเห็นเป็นเรื่องน่าสนุก เด็กหนุ่มได้แต่คิดว่าทุกคนที่ยังมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ล้วนแต่เจอเรื่องเลวร้ายมาด้วยกันทั้งนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องฆ่าคนกินเพื่อความอยู่รอดไม่ใช่หรือไง

    ผู้หญิงในกลุ่มมึงยังใช้งานได้ดีอยู่ใช่ไหม?

    ฮ่า ๆ มึงถามเด็กแบบนี้เลยเหรอวะ

    โธ่พี่ มันน่าจะตอบได้ดีกว่าพวกมากประสบการณ์นะผมว่า

    ...

    ชานยอลขมวดคิ้วกับคำพูดที่พวกขยะสาดใส่คนตัวเล็ก แบคฮยอนนั่งนิ่งก่อนจะเซไปชนกับประตูด้านข้างเพราะถูกเร่งให้ตอบด้วยการผลัก เสียงหัวเราะของพวกเดนตายน่ารำคาญไม่ต่างจากเสียงโหยหวนของพวกผีดิบยามค่ำคืนเลยสักนิด

    ถ้าคุณหมายถึงเรื่องนั้น ผมไม่รู้หรอก

    ได้ไงวะ โตจนป่านนี้แล้วยังไม่เคยอึ๊บสาวอีกเหรอ? คำพูดของคนเป็นผู้นำเรียกเสียงหัวเราะจากพวกลิ่วล้อได้เป็นอย่างดี แบคฮยอนกลอกตาไปมาอยู่ในทีก่อนจะหยุดที่ใบหน้าชายหนุ่มร่างสูง

    น้องผมยังเด็ก เขาจัดการตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนเมียคนอื่นน่ะ

    โว้ว แสดงว่านังพวกนั้นมีผัวแล้วล่ะสิ?

    แคร์ด้วยเหรอครับ ผมคงไม่ขอโทษที่โลกนี้เปลี่ยนไปจนไม่หลงเหลือสาวบริสุทธิ์อยู่ในกลุ่มของเรา คนเป็นผู้นำแค่นหัวเราะหึกับคำตอบของไอ้หนุ่มหน้าหล่อ

    แล้วที่ว่านั่นมีเมียมึงด้วยหรือเปล่า?

    ชานยอลไม่ได้ตอบคำถามนี้ในทันที แบคฮยอนคิดว่าคำถามนี้คงทำให้อีกฝ่ายสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย คนตัวเล็กนั่งนิ่ง ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเดนตายจะไม่พอใจที่ชานยอลไม่ยอมตอบคำถาม

    เธอตายแล้ว

    แบคฮยอนอาจจะคิดไปเองว่าตอนนี้ชานยอลกำลังไม่สบอารมณ์กับการพูดถึงคุณโฮจอง ใบหน้าเรียบเฉยที่มองไปยังคู่สนทนาตรงเบาะหน้าเหมือนว่าไม่ได้อยากให้คำตอบ วูบหนึ่งเขารู้สึกเหมือนว่าแววตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความน่ากลัวบางอย่าง

    เป็นอะไรตายวะ โดนกัด? หรือว่าโดนข่มขืนตาย?

    ...

    ถ้าตายตอนโดนเอานี่คงเสียวพิลึกเลยนะ เสียงครางคงน่าฟังสุด ๆ

    ฮ่า ๆๆๆ

    แบคฮยอนชะงักไปกับคำพูดเหล่านั้นที่กำลังดูถูกคุณโฮจองแม้ว่าพวกสวะนี่จะไม่รู้จักเธอเลยก็ตาม แต่มันคงทิ่มแทงใจชานยอลอยู่ไม่น้อย เขาเห็นว่าสันกรามคนตัวสูงขึ้นเป็นนูนแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามสงบนิ่งแค่ไหน

    เธอจากไปหลายปีแล้ว พี่สะใภ้ผมเป็นมะเร็ง ร่างสูงเบนสายตาไปทางคนตัวเล็กที่กำลังพยายามแก้ไขความอึดอัดในวินาทีนี้ แม้เขาจะรู้แก่ใจดีว่ายังควบคุมตัวเองไว้ได้

    หืม งั้นเหรอ?

    ผู้หญิงในกลุ่มเราไม่ใช่คนขี้เหร่ มันก็ไม่แปลกหรอกถ้าสามีเธอจะหวง เด็กน้อยที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทั้งทางกำลังพูดไม่หยุดเพื่อให้พวกขยะเลิกขุดคุ้ยเรื่องของเขาสักทีเราสองคนเป็นแค่ลูกน้อง มีที่ซุกหัวโดยไม่ต้องวิ่งหนีตายได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ส่วนเรื่องอย่างว่าก็แค่จัดการด้วยตัวเอง มันก็ไม่แย่

    ฮ่า ๆ ทำไมแม่งน่าสงสารแบบนี้วะ

    กลุ่มมึงโคตรใจบาปเลยว่ะ น่าจะให้เด็กมันได้เรียนรู้สึกหน่อย มีของดี ๆ ก็ควรแบ่งปันกันบ้าง

    เสียงหัวเราะสะใจปะปนกับกลิ่นบุหรี่มันอบอวลและเป็นมลภาวะไม่ต่างกันเลยสักนิด ชานยอลมองคนตัวเล็กที่กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก หลังจากโกหกคำโตออกไปอย่างที่เจ้าตัวไม่เคยเป็นมาก่อน

    เรื่องใครเป็นเมียใครนี่เอาไว้ก่อนเถอะ มาถึงตรงนี้แล้ว ต้องเลี้ยวไหนวะ

    ...

    เฮ้ย มันถามมึงอะ

    คนตัวเล็กกำมือแน่นกับความน่ากลัวสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง คนถูกถามนั่งนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อมองไปยังถนนเบื้องหน้าซึ่งยังคงมีหิมะเกลื่อนอยู่โดยรอบ คิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากันกำลังสร้างภาพตบตาศัตรู แบคฮยอนพยายามประคองลมหายใจให้อยู่ในจังหวะปกติขณะที่ชานยอลกำลังเล่นละคร

    ทางไหน?

    เดี๋ยวนะครับ เสียงของชายหนุ่มที่เคยมั่นใจในการตอบคำถามมาตลอดกำลังแผ่วลง อีกทั้งคิ้วหนาที่ขมวดมุ่นเข้าหากันประกอบให้อีกฝ่ายเห็นว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังไม่แน่ใจ ซึ่งคาดว่าคงได้ผล เมื่อพวกสวะกำลังแสดงออกสีหน้าอย่างไม่พอใจ

    อะไรของมึงวะ

    ทางนี้... ชานยอลมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพึมพำกับตัวเอง แบคฮยอนเชื่อว่าคนเหล่านี้คงไม่มีความอดทนมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการรอคำตอบจากปาก หรือการไปให้ถึงเป้าหมายโดยเร็ว

    ทางไหน?

    เลี้ยวซ้าย

    ซ้ายได้ไง ต้องไปขวาสิ แบคฮยอนเสริม มันถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเข้าไปผสมโรงกับละครเรื่องนี้ที่จำเป็นต้องทำเหมือนอย่างที่วางแผนไว้

    คนถูกปั่นหัวขมวดคิ้วเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับกำลังเคาะปลายนิ้วลงบนคอนโซลรถเพื่อสงบสติอารมณ์ เสียงสองพี่น้องที่กำลังขัดแย้งกันในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เรื่องน่าพึงประสงค์นัก และแน่นอนว่าเขาแยกแยะออกว่าอะไรเป็นอะไร กับการใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มานาน

    มึงตลกเหรอ น้ำเสียงเย็นยะเยือกส่งไปยังเชลยทั้งสอง คนเป็นผู้นำเปิดประตูรถลงไปจุดบุหรี่สูบพร้อมมองไปยังเหล่าผีดิบที่ประปรายกระจายอยู่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน หรือบนฟุตปาธ

    ไม่มีใครพูดอะไรอีก ความเงียบกดดันทุกอย่างภายในตัวรถอยู่ชั่วอึดใจก่อนที่ประตูรถฝั่งชานยอลจะถูกเปิดออกโดยชายหนุ่มที่ลงมาจากท้ายกระบะ ร่างสูงถูกลากลงมาก่อนจะถูกซัดหน้าโดยคนเป็นผู้นำ

    แบคฮยอนเบิกตาอย่างตกใจกับภาพที่เห็น ชานยอลถูกกำคอเสื้อให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลโดยมีชายอีกคนเข้าไปยืนล็อกจากข้างหลัง ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง ชายวัยกลางคนขบกรามแน่นทั้งที่ปากยังคาบมวนบุหรี่ติดไฟเอาไว้

    มึงคิดจะตุกติกกับกูเหรอ?

    ผมแค่สับสนทางนิดหน่อย

    หืม? กับคนบอกว่าเป็นคนขับรถให้กลุ่มเดิมมาก่อน มึงมีสิทธิ์บอกว่าหลงทางด้วยหรือไง? ใบหน้าของคนเป็นผู้นำล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ

    ผมเพิ่งมาแถวนี้เป็นครั้งแรก และตอนที่ขับรถมาเราก็มีแผนที่ ผมอาจจะสับสนบ้างเพราะทางมันเต็มไปด้วยหิมะ

    แม่งโกหกแน่ ๆ เลยพี่!”

    หึ

     
     

    ผลั่วะ!

     
     

    ร่างสูงเซไปทางด้านข้างจนเกือบล้มถ้าไม่ถูกล็อกแขนไว้จากข้างหลัง หัวใจคนตัวเล็กเต้นเร็วแรง แผนที่คาบเกี่ยวอยู่กับความตายนั้นมันน่ากลัวเหลือเกิน ถ้าคนพวกนั้นไม่ใจเย็นฟังชานยอลเหมือนก่อนหน้านี้ ทุกอย่างต้องจบเห่แน่ ๆ

    เอาไงดีพี่ แถวนี้พวกหอกนั่นไม่ใช่น้อย ๆ เลย ลิ่วล้อที่เพิ่งลงมาจากท้ายกระบะถามพร้อมกวาดสายตามองไปรอบตัว พวกผีดิบจำนวนหนึ่งกำลังตรงมาทางนี้ ทั้งพวกเชื่องช้าและวิ่งได้ แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นผู้นำก็ยังใจเย็นพอที่สั่งให้ลูกน้องลงไปเก็บเรียงตัวแล้วอัดไอ้เวรตะไลที่กล้าเล่นตุกติกกับเขา

     
     

    ผลั่วะ!

     
     

    คราวนี้ร่างสูงล้มลงไปพร้อมเลือดสีสดที่หยดลงบนหิมะสีขาว ชานยอลส่ายหน้าไล่ความมึนงง คนเป็นผู้นำมองลูกน้องที่กำลังจัดการพวกผีดิบที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็ยิ่งหัวเสีย เขาไม่อยากเชื่อว่าไอ้หน้าหล่อมันจะหลงทางจริง เพราะจากที่สังเกตมาตั้งแต่แรก ไอ้หมอนี่ค่อนข้างฉลาดคิด ฉลาดพูดพอสมควร

    เอาไอ้เด็กนั่นลงมา  

    อะ!” คนตัวเล็กนิ่วหน้าเจ็บเมื่อถูกลากไปตามเบาะนั่ง ก่อนที่ร่างของเขาจะไถลไปกับพื้นหิมะ

    เชลยทั้งสองมองหน้ากันระหว่างที่คนพวกนั้นกำลังตกลงว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ ไม่มีใครพูดเพื่อถามไถ่ แต่แววตาของชานยอลที่ส่งมาราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไรก่อนจะถุยน้ำลายปนเลือดลงบนหิมะ ทั้งคู่สบตากัน พยักหน้าเล็กน้อยกับแผนที่วางไว้ก่อนจะค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่งตัวชิดกัน

    พลาสติกที่มัดอยู่กับข้อมือด้านหลังเสียดสีกับผิวหนังจนรู้สึกเจ็บ สายตามองไปยังชายทั้งสองคนที่ยังคงใช้อารมณ์ในบทสนทนา หลังจากที่คนเป็นลูกน้องบอกว่าน่าจะฆ่าพวกเขาตั้งแต่แรกแทนที่จะเสียเวลามาที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นผู้นำก็ไม่ยอมเสียฟอร์ม และคิดว่าเหตุผลของตนนั้นถูกต้องเสมอ

    เรากลับกันเถอะพี่ ที่นี่พวกห่านั่นเยอะฉิบหาย แล้วค่อยฆ่าพวกมันตอนถึงที่พักแล้วก็ได้

    มึงมีสิทธิ์อะไรมาบอกกูว่าอะไรควรไม่ควร ชายวัยกลางคนคว้าคือเสื้ออีกฝ่าย คนเป็นลิ่วล้อเบือนหน้าหลบไปอีกทางพร้อมยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่ายอมแล้ว กูจะไม่ยอมกลับไปตัวเปล่าแน่ วันนี้กูต้องได้ผู้หญิงกลับไป

    แบคฮยอนขยับมือที่ถูกมัดไปทางด้านซ้าย เพื่อให้ชานยอลล้วงมือเข้ามาเอาตลับมีดพกขนาดเล็กที่ซ่อนไว้ในผ้าพันแผลของเขาได้ง่ายขึ้น ทุกวินาทีมีความหมาย สายตามองไปยังศัตรูเบื้องหน้าที่เป็นอันตรายมากที่สุด มากกว่าพวกกินคนที่ไม่สามารถกราดกระสุนปืนใส่เขาได้

    ชายหนุ่มใช้นิ้วหัวแม่มือดันใบมีดออก ค่อย ๆ ตัดสายรัดพลาสติกให้คนตัวเล็กอย่างระมัดระวังเนื่องจากมองไม่เห็น เพราะความแข็งแรงของมันทำให้การตัดเป็นเรื่องยาก หัวใจเต้นเร็วถี่ไม่เป็นจังหวะกับความกดดันที่ถาโถมเข้ามาทุกขณะจนยากที่จะตั้งสติให้ใจเย็นได้

     

     

     

     

     

    ปัง!

    กระสุนผมหมดแล้ว!”

    ลู่หาน ข้างหลังนาย!”

    แทบไม่มีเวลาให้ตั้งหลัก หลังจากที่ทั้งสี่คนพยายามวิ่งหาทางออกโรงพยาบาลโดยไม่ได้หยุดพัก สองขายังคงตรงไปข้างหน้าเพราะไม่สามารถจัดการกับพวกมันที่กรูเข้ามาพร้อมกันเป็นกลุ่มได้

    หยาดเหงื่อซึมตามขมับชื้นแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะเย็นยะเยือกตามฤดู จงอินกัดฟันกรอดกับความเจ็บปวดตามฝ่ามือเมื่อออกแรงกำด้ามมีด พวกเขาทุกคนกำลังแย่ คาดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าฝีเท้าคงลดจังหวะลงจนกลายเป็นเชื่องช้าเพราะถูกความเหนื่อยเล่นงาน

    แน่นอนว่าการหาที่หลบภัยในที่ที่อันตรายแห่งนี้คงเป็นเรื่องยาก การหลบเข้าไปในตึกคงไม่ต่างอะไรกับการไล่ต้อนตัวเองให้จนมุม สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือวิ่งไปข้างหน้าจนกว่าจะเจอปาฏิหาริย์ตรงทางออก

    ไหวไหมเด็กกรงหมา? ลู่หานถามรุ่นน้องที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก อย่าว่าแต่เซฮุนเลย แม้แต่เขากับควอนยูริก็ยังหอบหนักเหมือนจะขาดใจตายอยู่รอมร่อ พวกนรกนั่นไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้หยุดพักสักนิด

    ห... ไหวครับ... ไหว...

    จงอินมองคนข้าง ๆ ด้วยความเป็นห่วง จากที่วิ่งมาด้วยกันก็เห็นว่าเซฮุนดูเหนื่อยมากที่สุดเพราะการต่อสู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ที่เจ้าตัวถูกผีดิบใต้หิมะคว้าขาไว้จนรองเท้าหลุดไปข้างหนึ่ง เซฮุนต้องวิ่งเท้าเปล่าข้างเดียวมาตลอดทั้งทาง หิมะบนพื้นคงทำให้เท้าชาได้ไม่ยากแต่เด็กคนนี้ก็ยังกัดฟันสู้ เห็นอย่างนั้นเขาเลยถือวิสาสะแย่งกระเป๋าเป้มาสะพายให้

    เบื้องหน้าเต็มไปด้วยพวกกินคนที่ส่งเสียงครางฮือในลำคอ สองมือยื่นมาข้างหน้าเมื่อเห็นเหยื่อในระยะสายตา ถ้าวิ่งนานไปกว่านี้พวกเขาต้องหมดแรงก่อนแน่ เพราะฉะนั้นต้องทำอะไรสักอย่าง

    ไอ้ลู่หาน เอาแฟร์ในกระเป๋ามึงมา

    เอาไปจุดล่อพวกมันเหรอวะ ไม่ได้ผลหรอกถ้าเรายังวิ่งให้มันเห็นอยู่อย่างนี้!” พวกเขายังคงวิ่งไปข้างหน้า ลู่หานฟันผีดิบที่ตรงมาทางนี้ด้วยความเร็วจนร่างขาดครึ่งเป็นลายเฉียง

    มึงฟังกูนะ ชายหนุ่มผิวแทนหอบหายใจหนัก ขืนวิ่งต่อไปโดยที่ไม่ทำอะไรเลยพวกเราต้องแย่แน่ พอถึงตอนนั้นถ้าไม่เหนื่อยตายก็คงวิ่งไปเจอฝูงพวกมันอีกเป็นโขยง เพราะงั้นมึงเอามาให้กู

    อะไรวะ!”

    กูจะใช้แฟร์ล่อมันไปอีกทาง ส่วนพวกมึงรีบไปหารถแล้วมารับกูที่นี่

    ไม่ได้อยากดับฝันหรอกนะ แต่ถ้าหารถได้แล้วฉันว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่จะวกกลับมาในที่ที่เต็มไปด้วยพวกมัน!” หญิงสาวว่า ขืนทำอย่างนั้นรถคงโดนล้อมจนคว่ำแน่!”

    จงอินขมวดคิ้วเป็นปมกับแผนการที่ยากจะเป็นไปได้ในสภาวะแบบนี้ ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งแล้วปล่อยให้เสียงฝีเท้าและเสียงโอดครวญของเหล่าผีดิบแทรกเข้ามาทำลายสมาธิที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ก่อนจะหันไปทางเพื่อนสนิทอีกครั้ง

    งั้นเอางี้ กูจะพยายามวิ่งไปขึ้นรถให้ได้ แต่ถ้าไม่ทันพวกมึงก็กลับกันไปก่อนเลย

    จงอิน?

    มึงจะบ้าเหรอวะ?!” ลู่หานถลึงตามองคาดโทษเพื่อนสนิทและเซฮุนก็เช่นกัน ครั้งแรกคือตอนค่ายทหารที่ทำให้มึงจำห่าเหวอะไรไม่ได้ และกูคงไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่ จำใส่กะโหลกมึงไว้ด้วย!”

    แล้วจะให้ทำไงวะ! มึงดูตอนนี้สิ เราแม่งแทบจะวิ่งกันไม่ไหวอยู่แล้ว ทั้งสองคนวิ่งขนาบคู่พร้อมจัดการผีดิบที่วิ่งเข้ามาในรัศมี หรือมึงอยากจะวิ่งล่อแทนก็ได้นะ  แต่กูแค่จะบอกให้รู้ไว้ว่าถ้าวิ่งไปถึงรถแล้วกูก็ช่วยอะไรควอนยูริไม่ได้อีก!”

    ลู่หานขมวดคิ้วสบตากับเพื่อนสนิทที่ฉายแววจริงจังอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ชายหนุ่มกัดฟันกรอดแล้วสบถคำหยาบออกมานับไม่ถ้วน ความเสี่ยงทั้งสองวิธีมันอันตรายไม่แพ้กันเลย ไม่ว่าจะเป็นการล่อเหยื่อแล้วรีบตามไปขึ้นรถ หรือเป็นการตามหารถสักคันเพื่อขับฝ่าออกไปข้างนอกให้ได้ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เลยว่าระหว่างทางจะต้องเจออะไรบ้าง เซฮุนกับยูริก็แทบจะหมดแรงอยู่แล้วด้วย

    เอาแฟร์มาให้กู ชายหนุ่มผิวแทนยื่นกระเป๋าเป้ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์และหยูกยาให้หญิงสาวสะพายก่อนจะยื่นมือไปทางเพื่อนสนิท

    จงอิน

    เขาเห็นว่าสีหน้าของเซฮุนเต็มไปด้วยความกังวล แต่ถึงอย่างนั้นคิมจงอินคงไม่ใจอ่อนกับแววตาที่มองมาเป็นเชิงขอร้อง เพราะถ้าเขาไม่ทำ ทุกคนอาจจะตายกันหมด รวมไปถึงโดคยองซูที่นอนรอความช่วยเหลืออยู่ที่อุทยานด้วย

    ฉันสัญญาว่าจะรีบตามไปให้เร็วที่สุด

    ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะรักษาสัญญา

    จงอินรับพลุแฟร์มาจากมือเพื่อนสนิทแล้วหยุดยืนอยู่กับที่ สบตากับเด็กหนุ่มที่วิ่งนำไปข้างหน้าก่อนจะลดจังหวะลง เซฮุนส่ายหน้าเป็นเชิงห้าม กับเหตุการณ์ท่าเรือเมื่อตอนนั้นยังคงฝังใจเขามาจนถึงทุกวันนี้ การเสียสละเพื่อคนอื่นทำให้เราทุกคนต้องทนอยู่กับความทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว จงอินยังไม่หายดี ถ้าพลัดหลงกันอีกเขาก็ไม่รู้เลยว่าจะเชื่อในปาฏิหาริย์ได้อีกหรือเปล่า

    ไป

    จงอินครับ...

    เดี๋ยวนี้!”

    ...

    ไปเถอะเซฮุน เราไม่มีเวลาแล้ว ลู่หานคว้าแขนอีกคนพร้อมออกแรงดึงให้วิ่งไปด้วยกัน เด็กหนุ่มตัวผอมยังคงมองตามใครอีกคนที่กำลังจุดพลุแฟร์ พร้อมโบกมันไปมาจนควันสีแดงกระจายเป็นวงกว้างก่อนจะวิ่งฉีกไปอีกทาง

     

     
     

     

     

     

    ปัง ปัง!!

     เสียงปืนดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนที่ยืนถกเถียงกันอยู่ข้างรถ รวมไปถึงเชลยทั้งสองที่ตั้งใจให้เรื่องออกมาเป็นแบบนี้ ราวกับอยู่ในสนามการแข่งขัน เสียงปืนของคนเหล่านั้นเป็นเหมือนสัญญาณบอกว่าทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    ปมเชือกพลาสติกยังคงไม่ขาด ชานยอลเร่งมือให้เร็วขึ้นในขณะที่คนเป็นผู้นำชักปืนออกมาแล้วเล็งไปยังผีดิบที่กำลังแห่มาทางนี้เพราะเสียงปืน

    ไอ้ฉิบหายเอ๊ย ใครบอกให้ใช้ปืนวะ!”

    เมื่อกี้ไอ้ซังจินมันโดนกัดว่ะพี่ ผมจำเป็นต้องใช้ปืนจริง ๆ ไม่งั้นมันโดนแดกแน่ ลิ่วล้อตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ชายวัยกลางคนมองไปยังฝ่ามือที่โชกเลือดเพราะรอยกัด ก่อนจะเหนี่ยวไกใส่หัวคนตรงหน้าโดยไม่มีการถามไถ่ใด ๆ ทั้งสิ้น และนั่นสร้างความตกใจให้กับเจ้าของประโยคเมื่อครู่เป็นอย่างมากพ... พี่

    เดี๋ยวแม่งได้เปลี่ยนมากัดมึงอีกคน รีบจัดการตั้งแต่ตอนนี้จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง คนเป็นผู้นำว่าแล้วขยับปากบ่นอย่างหัวเสีย

    แบคฮยอนมองไปยังท้องรถที่มีบางอย่างกำลังโผล่ขึ้นมาจากใต้หิมะ ผีดิบผิวเนื้อหลุดติดกับน้ำแข็งจนเห็นกะโหลกดูน่าขยะแขยง อีกทั้งริมฝีปากที่อ้ากว้างกับนิ้วที่เกาะกรังไปด้วยหิมะซึ่งกำลังตะกุยตะกายร่างมาทางนี้

    นิ่งไว้...” เสียงของชานยอลเบาหวิว ร่างสูงยังคงช่วยเขาตัดเชือกพลาสติกแทนที่จะตัดให้ตัวเองก่อน

    ตัวกินคนกำลังคลานมาทางนี้ แบคฮยอนชำเลืองมองไปยังคนเป็นลูกน้องที่เดินถอยกลับมาหลังจากกระสุนหมด ชานยอลเอียงใบหน้าเล็กน้อยเพื่อกระซิบบอกคนตัวเล็กว่ามีคลังปืนอยู่ท้ายกระบะ ถ้ามีโอกาสและเป็นไปได้ มันก็เป็นเรื่องดีถ้าแบคฮยอนจะมีอาวุธสักชิ้นติดตัว

    พวกมึงอย่าขยับ ชายคนนั้นเล็งปืนไม่มีกระสุนมายังเขาทั้งคู่ และพอเห็นว่าเชลยยอมทำตามที่สั่งจึงหันไปเติมกระสุน

    ชายวัยกลางคนชั่งน้ำหนักความเสียหายแล้วก็ได้แต่คิดว่าการแลกกระสุนกับความเสี่ยงในครั้งนี้มันไม่คุ้มเอาเสียเลย ถึงในทีแรกตั้งใจว่าจะขู่ให้ไอ้หน้าหล่อมันคายความลับออกมา แต่มันคงเป็นเรื่องยากในวินาทีนี้ที่รอบข้างเต็มไปด้วยผีดิบ

    ไป ถอย!” ชายวัยกลางคนซัดหมัดเข้าหน้าศพเดินได้ก่อนจะตามด้วยการเหนี่ยวไกใส่หัวตัวที่อยู่ด้านหลัง ดันไหล่ลูกน้องที่เป็นมือดีให้ถอยหลังออกไปจากองศาความอันตรายหากไม่อยากถูกกัด

    เสียงปืนยังคงเรียกพวกกินคนให้ตรงมาทางนี้ มันไม่ลดน้อยลงไปเลยสักนิด กลับกันแล้วจำนวนยังเพิ่มมากขึ้นจนน่าผวา แบคฮยอนมองผีดิบตนนั้นที่กำลังคลานออกมาใกล้ขาของชายหนุ่มที่กำลังหากระสุนปืนท้ายกระบะสลับกับการหันมาสังเกตการณ์เขาทั้งคู่

     
     

    อีกฝ่ายหนึ่งก็ยังกราดกระสุนปืนไม่หยุด อีกแค่อึดใจเดียวเท่านั้น...

     
     

    แบคฮยอน วิ่ง สิ้นคำสั่งคนตัวเล็กก็ยันตัวลุกขึ้นวิ่งไปจากจุดนี้ด้วยความเร็วทั้งหมดที่มีตามแผนที่ชานยอลได้วางไว้ 

    อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!”

    ชายหนุ่มแผดลั่นด้วยความเจ็บปวดทันทีที่ถูกผีดิบกัดขาจนผ้าเนื้อหยาบขาดออกมาพร้อมเนื้อเป็นชิ้น ๆ คนเป็นผู้นำหันกลับมาตามต้นเสียงก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าลูกน้องที่เพิ่งมีปากเสียงกันเมื่อครู่นี้กำลังกราดกระสุนใส่ผีดิบบนพื้นจนแทบหมดแม็กกาซีนก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งพิงรถพร้อมน้ำตา โอดครวญด้วยความเจ็บปวดพร้อมเลือดที่พุ่งออกมาจากบาดแผลจนกระจายเต็มหิมะสีขาว ชายหนุ่มพยายามกดบาดแผลตัวเองไว้ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงโหยหวนของพวกนรกนั่น

    ชานยอลมองตามคนตัวเล็กที่วิ่งหลบตัวกินคนไปได้อย่างเฉียดฉิวทั้งที่ข้อมือยังคงถูกมัดไว้ด้วยเชือกพลาสติกแข็งแรง แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวแบคฮยอนก็หายเข้าไปในร้านตัดผมชายซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก

    ช่วยด้วยพี่! ผมกระสุนหมดแล้ว!”

    เวรเอ๊ย!” หันกลับไปยิงสมทบช่วยลูกน้องพร้อมเดินถอยหลังเป็นระยะ ก่อนจะหันหลังกลับมาอีกครั้งเพื่อหวังจะดูอาการคนเจ็บ แต่ฝีเท้าก็หยุดชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนไขว้หลังอยู่ข้าง ๆ ร่างของลิ่วล้อที่นั่งคอพับไปแล้ว

    สายตาที่กำลังมองมาทางนี้ไร้ซึ่งความหวาดกลัวแม้ว่าจะถูกมัดข้อมือไว้ข้างหลัง คล้ายกับว่าบาดแผลและคราบเลือดตามมุมปากไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้ชายผู้นั้นเลยสักนิด

    เด็กผู้ชายคนเป็นน้องหายไปแล้ว และนั่นสร้างความหัวเสียให้กับคนเป็นผู้นำอีกเท่าทวีคูณ ไอ้สารเลวนี่อยากลองดีกับเขาใช่ไหม สาบานได้เลยว่าต่อให้ไม่ได้ผู้หญิงกลับไป ยังไงวันนี้เขาก็ต้องฆ่ามันให้ได้

     

     

     
     

     

    อา... แม่งเอ๊ย

    ชายหนุ่มผิวแทนยันสองมือไว้กับหัวเข่าหลวม ๆ พลางหอบหายใจหลังจากวิ่งล่อพวกผีดิบจนเฉียดตายมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แน่นอนว่าเสียงรถคงเป็นข่าวดีที่สุดในวินาทีนี้ แต่ทุกอย่างยังเป็นแค่ความหวังเมื่อรอบข้างยังคงกึกก้องไปด้วยเสียงของเหล่าผีดิบ

    มันไม่ใช่วิธีที่เข้าท่าเลยสักนิด เรื่องนี้คิมจงอินรู้ดี แต่จิตใต้สำนึกมันก็ย้ำบอกอยู่ตลอดว่าเขาต้องจัดการมันด้วยตัวเองและปล่อยให้คนอื่นทำไม่ได้ ชายหนุ่มส่ายศีรษะไล่ความมึนงงเมื่ออยู่ ๆ ความทรงจำเก่า ๆ ก็แล่นเข้ามาในความคิด ภาพเสือในป่า ภาพสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกควบคุมด้วยพลทหาร รวมไปถึงรอยยิ้มของแต่ละคนที่อยู่รอบกองไฟ

     

    และโอเซฮุนที่อยู่ในสภาพปางตายในห้องแคบ ๆ นั่น

     

    ซึ่งไม่แน่ใจเลยว่าภาพเหล่านั้นกำลังตอกย้ำความโง่เง่าของคิมจงอินคนใหม่ หรือกำลังบอกให้เขาแข็งใจไว้เพื่อกลับไปหาคนเหล่านั้นกันแน่

    กร๊าซซซ!!!”

    ไอ้ฉิบหายเอ๊ย ใจคอมึงจะไม่ให้หยุดพักเลยใช่ไหม? ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นยืนพลางบิดคอเตรียมพร้อมสู้ตัวต่อตัวกับผีดิบที่โผล่ออกมาจากทางขึ้นบันได แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปปะทะก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าไอ้ชั่วนั่นมันไม่ได้มาตัวเดียว เจริญเถอะมึง...

    พึมพำกับตัวเองเป็นการปลอบใจแล้วถอยหลังทีละก้าว จากจุดที่ยืนอยู่ตอนนี้คาดว่าการวิ่งสวนไปคงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทางเดินชั้นสองค่อนข้างแคบอยู่พอสมควร แต่ข้างล่างก็เต็มไปด้วยพวกผีดิบที่พร้อมจะอ้าแขนรับถ้าหากว่าร่างของเขาร่วงลงไป

    จะทำยังไงดี เมื่อไม่กี่ที่แล้วยังถอดใจเตรียมพร้อมรับความตายอยู่เลย แล้วตอนนี้เสือกมาปอดแหกเสียอย่างนั้น

    ...!!!”

    เสียงหวอของรถพยาบาลไม่เคยน่าฟังขนาดนี้มาก่อน จงอินหันไปข้างหลังพร้อมรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าเพียงเล็กน้อยก่อนที่มันจะหุบลงเมื่อพบว่ารถคันนั้นกำลังขับชนเหล่าผีดิบที่ขวางทางประตูออกไปโดยที่ไม่ตรงมาทางนี้เพื่อรับเขาไปด้วย ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ไม่มีผิด

    แต่พอรู้ว่ากำลังจวนตัวแบบนี้แล้วก็รู้สึกเคว้งแปลก ๆ แต่ในเมื่อคิมจงอินเป็นคนเลือกมันเองก็คงต้องยอมรับชะตากรรมนี้ไว้แล้วไปตายเอาดาบหน้า

     

     

    ครืน...

    ปั่ก ปั่ก ปั่ก!!!

     

     

    ร่างของผีดิบบนท้องถนนถูกชนจนกระเด็นออกไปด้านข้างด้วยรถเก๋งคันหนึ่ง บางตัวตกลงไปบนบ่อน้ำซึ่งเต็มไปด้วยน้ำแข็ง บางตัวเละจนเครื่องในติดไปตามกระโปรงรถไหลไปจนถึงหน้าปัดกระจกหน้า ก่อนที่เสียงเบรกจะดึงสติเขาให้กลับมา

    รีบลงมาเร็วเข้า!”

    เซฮุน? ชายหนุ่มเบิกตาโพลงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนที่อยู่ในรถจะเป็นเจ้าเด็กหน้าตายที่ควรอยู่ในรถพยาบาลคันนั้น

    กร๊าซซซซซซซซซซ!!!”

    เซฮุนเลื่อนกระจกขึ้นแล้วถอยหลังกลับเพื่อรอให้เขาหาทางไปขึ้นรถ ชายหนุ่มกำมีดขึ้นตั้งหลักก่อนจะถีบผีดิบออกไปให้พ้นตัว วินาทีนี้จะวิ่งลงบันไดคงไม่เข้าท่าแล้ว ซึ่งคงไม่มีวิธีไหนดีกว่าการกระโดดลงไปด้านล่างแม้ว่ามันจะค่อนข้างเสี่ยง

    จงอินหายใจเข้าลึก ๆ ไม่ถึงสามวินาทีเขาก็ตัดสินใจกระโดดลงไปบนหลังคารถซึ่งจอดเทียบอยู่ด้านล่าง ตัวกินคนจำนวนมากกำลังหันมาสนใจสิ่งมีชีวิตที่กำลังวิ่งไปตามหลังคารถซึ่งจอดเรียงกันเป็นทางยาว ปะป่ายมือขึ้นมาจนเขาเกือบพลาดท่าเสียหลัก

    เซฮุนมองภาพเบื้องหน้าแล้วก็คิดว่าการจอดรถเพื่อรับจงอินคงเป็นเรื่องยากในวินาทีนี้ เด็กหนุ่มเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว ชนเหล่าตัวกินคนกระเด็นลอยข้ามหลังคารถจนเลือดสีเข้มเลอะหน้าปัด ไม่มีทางเลือกแล้ว มันคงไม่ดีแน่ถ้าเขาทั้งคู่เข้าไปในโรงพยาบาลลึกกว่านี้ทั้งที่ประตูทางออกอยู่ใกล้แค่เอื้อม

    จงอินมองไปยังรถยนต์ที่เปิดกระโปรงหลังขึ้นแล้วลดความเร็วลงเล็กน้อย จนพวกมันส่วนหนึ่งเบนความสนใจไปยังรถคันนั้นบ้าง เขากวาดสายตามองหาทางหนีทีไล่ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนแซงรถยนต์ก่อนจะกระโดดลงไปบนถนนแล้วกลิ้งไปบนพื้นหิมะ

    ชายหนุ่มผิวแทนประคองร่างให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลเมื่อรถเร่งความเร็วจนมาถึงก่อนที่เขาจะวิ่งตามหลังรถไปติด ๆ แล้วกระโดดเข้าไปในกระโปรงหลังพร้อมดึงประตูลงมา ท่ามกลางเสียงแผดร้องของเหล่าผีดิบที่ประสานเสียงกันเมื่อเหยื่อขับหนีไปจนสุดสายตาแล้ว

     

     

    กร๊าซซซซซซซซซซซซซซ!!!!”

     

     
     

     

     
     

     

    ลูกพี่!!!”

    ตั้งแต่โลกเปลี่ยนไปทุกอย่างมันก็บิดเบี้ยวไปหมด ความคิด ความรู้สึก รวมไปถึงสติสัมปชัญญะที่เคยมี มันค่อย ๆ เลือนหายไปตามสถานการณ์รอบด้านที่ล้วนแต่กดดันบังคับให้เขาต้องทำ ชายวัยกลางคนไม่สนแล้วว่าตอนนี้จะเป็นจะตายยังไง สิ่งเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัวตอนนี้คือเขาต้องฆ่าไอ้หน้าหล่อนี่ให้ได้!

     

    ข้าง – หลัง

     

    ...?

    ชายวัยกลางคนอ่านริมฝีปากอีกฝ่ายก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับไป เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นที่เขาได้เห็นภาพตรงหน้า ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงไปกับพื้นจนหัวฟาดกับยางล้อรถจนรู้สึกมึนไปชั่วขณะหนึ่ง

    อ๊ากกกกกกกกก!!!”

    เสียงหวีดร้องดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณ ชานยอลมองไปยังพวกลิ่วล้อที่พลาดท่าถูกกัดก่อนจะถูกลากเข้าไปในฝูงเหล่าผีดิบ เสื้อกันหนาวตัวหนาถูกกระชากออกจนขาดวิ่น นิ้วเกรอะกรังฝังลงบนผิวหนังแล้วกระชากเนื้อออกมาเป็นชิ้น ๆ

    เลือดสีเข้มทะลักออกมาเหมือนน้ำพุ เครื่องในที่เคยทำงานให้ระบบร่างกายถูกคว้านออกมายัดเข้าปากอย่างหิวโหย คนที่เห็นภาพนั้นกับตาชะงักนิ่งไปเพราะทำตัวไม่ถูก ปืนที่เคยถืออยู่กลายเป็นเพียงแค่ของหนักที่ถ่วงไว้ก่อนที่จะถูกโจมตีด้านข้างโดยไม่รู้ตัว

    ชานยอลสายตาหยุดอยู่กับคนเป็นผู้นำที่กำลังพยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนหลังจากเสียหลักล้มลงไปโดยมีปืนคู่ใจอยู่ไม่ห่างจากตัวมากนัก แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสได้จับมันอีก

    ชายหนุ่มเตะปืนออกให้พ้นทางแล้วเหยียบคออีกฝ่ายไว้พร้อมออกแรงกดให้จมลงไปกับพื้นหิมะ ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย แม้ว่าพวกกินคนจะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้อยู่ทุกขณะแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ไอ้สารเลวรอดกลับไปทำเรื่องชั่ว ๆ อีกแล้ว

    อั่ก!!!” คนเป็นผู้นำกัดฟันแน่น ปะป่ายมือไปตามขายาว เหลือกตามองชายหนุ่มที่กำลังจะฆ่าเขาก่อนจะหันไปมองลูกน้องไม่กี่คนที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หวังให้คนเหล่านั้นช่วยแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน

    พอจะนึกออกหรือยังครับว่าเสียงตอนก่อนตายมันเป็นยังไง?

    ...!!!” ลมหายใจติดขัดแต่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ชัดเต็มสองหู มือหยาบปะป่ายไปกลางอากาศ จิกเล็บทุรนทุรายอ้าปากค้างเมื่ออีกฝ่ายกดเท้าย้ำลงมาอีก

    เสียงของความตายมันเพราะดีใช่ไหม? ชานยอลก้มหน้าลงยกยิ้มพอใจ กดเท้าย้ำลูกกระเดือกจนอีกฝ่ายลิ้นจุกปาก กระแอมไออย่างทุกข์ทรมาน เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้กะเอาตาย ซึ่งมันก็เป็นความสงสัยหนึ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ว่าทำไม?

    อ... อั่ก!! ค... แค่ก!”

    ผมจะไม่ตัดสินว่าคุณสมควรอยู่คือสมควรตาย

    ...!!!”

    แต่ผมจะให้พระเจ้าช่วยตัดสิน หวังว่าคุณคงดีใจที่จะได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดท่านนะ

    เขาไม่สามารถร้องขอชีวิตได้ในสถานการณ์อย่างนี้ ครั้งหนึ่งชายวัยกลางคนเคยคิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นคนฉลาดมีความรู้แต่เหลาะแหละอย่างที่พูดไว้ แต่ไม่นึกเลยว่าผู้ชายคนนี้จะมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะจัดการเขาได้ด้วยเท้า

    ...!!”

    ทีแรกผมกะว่าจะให้คุณไปดี ๆ แบบไม่ต้องเจ็บปวด แต่มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริง ๆ ถ้าเงียบปากแต่แรกก็ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้แล้ว

    แววตาของ บยอนชานยอล ไม่ได้ต่างไปจากทีแรกเลย มันเรียบเฉย ว่างเปล่า จนยากที่จะคาดเดาว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ แต่พอดวงตาคู่นั้นมาพร้อมคำพูดเมื่อครู่ เขากลับรู้สึกได้ถึงปีศาจที่ฝังรากอยู่ในใจผู้ชายคนนี้

    อ๊ากกกกก!!!” ร่างสูงกระทืบหัวเข่าและข้อเท้าอีกฝ่ายอย่างแรง ทำซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นโดยไม่สนใจเสียงหวีดร้องของความเจ็บปวด หรือร่างกายที่ขดงอเข้าหากัน

    ลองลิ้มรสความรู้สึกตอนคลานหนีตายดูสิครับ หวังว่ามันจะหอมหวานพอ ๆ กับตอนที่คุณย่ำยีผู้หญิง

    ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!! อ... ขากู!!! อ๊ากกก!!!”

    มึงทำอะไรลูกพี่กู!” ทันทีที่หันมาเห็นว่าผู้นำกลุ่มกำลังถูกทำร้าย คนเป็นลูกน้องก็รีบหันมาช่วยในทันที ชานยอลก้มหัวลงแล้ววิ่งหลบวิถีกระสุนที่เปลี่ยนใจยิงมาทางนี้แทนที่จะเป็นพวกผีดิบที่กระจายอยู่โดยรอบ

    ชายหนุ่มพิงหลังกับท้ายกระบะ มือที่ถูกมัดอยู่ข้างหลังยังคงใช้มีดตัดเชือกพลาสติกอย่างต่อเนื่องและคาดว่าคงสำเร็จในอีกไม่ช้านี้ ร่างสูงก้มลงต่ำพร้อมมองลอดไปยังใต้ท้องรถ และก็ได้พบว่าร่างของคนเป็นผู้นำกำลังถูกลากออกมาจากตรงนั้นและประคองให้เข้าไปในรถพร้อมปิดประตูเสร็จสรรพ

    ชานยอลค่อย ๆ ถอยหลังไปทีละก้าวเมื่ออีกฝ่ายกำลังย่ำฝีเท้าตรงมาทางนี้ด้วยโทสะ ร่างสูงฉีกหลบไปอีกทางพลางออกแรงตัดเชือกซ้ำ ๆ จนมันใกล้จะขาดเขาจึงกระชากมือออกจนมันหลุดไป

    ชายหนุ่มหมุนข้อมือคลายอาการปวดเมื่อยพลางมองไปยังตัวกินคนที่กำลังตรงมาทางนี้ จากการคำนวณคร่าว ๆ คาดว่ามนุษย์คงเข้าถึงตัวเขาได้เร็วกว่าซากศพมีชีวิตเป็นไหน ๆ ชานยอลล้วงกระเป๋าเสื้อเอาผ้าก๊อซออกมาม้วนตามฝ่ามือข้างขวาไว้ ก่อนจะขึงมันออกแล้วรอจังหวะที่อีกฝ่ายเดินอ้อมมาทางนี้

    ...!!!”

    เพียงชั่วอึดใจเท่านั้น... ชายฉกรรจ์ที่มีอาวุธครบมือก็ล้มคว่ำหน้าไปกับพื้นเพราะถูกเตะตัดขา ชานยอลไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่าไปแม้แต่วินาทีเดียว เขาเข้าไปกดร่างอีกฝ่ายให้คว่ำหน้าลงก่อนจะใช้ผ้าก๊อซรัดคอพร้อมออกแรงขึงจนตึง

    อะ... อ่อก!!!”

    ...

    มือไม้ปะป่ายไปตามหิมะเพื่อหาทางรอด ร่างสูงม้วนทับอีกทบหนึ่งพร้อมกระตุกผ้าก๊อซเร่งความตายให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รีรอ เสียงสะอึกจากการพยายามหายใจนั้นไม่ได้ช่วยให้ปาร์คชานยอลล้มเลิกความตั้งใจ เขาใช้เข่าดันแผ่นหลังอีกฝ่ายไว้จนกระทั่งสิ้นลมหายใจในวินาทีถัดมา

    ผ้าก๊อซม้วนเป็นเส้นยังคงพันอยู่รอบคอศพที่นอนตาค้างบนพื้นหิมะ ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่เพียงเสี้ยวนาทีก่อนค้นตัวอีกฝ่ายจนได้อะไรติดมือมาด้วย เขาคว้าเอาปืนกลเบาขึ้นมาแล้วเช็กดูกระสุน มันเหลือไม่มากนักแต่ก็เพียงพอถ้าหากใช้ประหยัดสักหน่อย

    ขายาวตรงไปยังตัวกินคนที่กำลังพยายามทุบกระจกรถกระบะ ร่างสูงยกปืนขึ้นระดับหัวไหล่ก่อนจะเหนี่ยวไกยิงตัวปัญหาให้พ้นทางแล้วเปิดประตูออก น่าขำสิ้นดีกับสีหน้าไอ้สารเลวตอนเห็นเขาแทนที่จะเป็นลูกน้องโง่ ๆ เหล่านั้นที่กลายเป็นอาหารของเหล่าผีดิบไปหมดแล้ว

    อ... อย่า!!! ขอร้องล่ะ!!!”

    มือหยาบกร้านที่เคยซัดหมัดใส่หน้าเขากำลังยกขึ้นบดบังใบหน้าตนเองระหว่างร้องขอชีวิต ชานยอลมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบเฉย เสียงของความขลาดเขลาเมื่อยามจนมุมยังคงส่งมาอย่างต่อเนื่อง

    ได้โปรด... ฉันผิดไปแล้ว...

    ...

    ให้โอกาสฉันเถอะ ฉันยังต้องดูแลคนในกลุ่มอีก ถ้าขาดฉันไปพวกเขาคง--

    ไปขอโอกาสที่นรกแล้วกัน

    อ... อย่า!!!”

    ชายวัยกลางคนเบิกตาโพลงเมื่อขาของเขาถูกกระชากลงมาจนศีรษะฟาดลงกับรถอย่างแรง นัยน์ตาปรือขึ้นมองเงาดำตรงหน้าพร้อมยกมือขึ้นบดบังแสงแดดอ่อน ๆ แต่พอกระพริบตาอีกครั้งก็พบว่าเงานั้นถูกแทนที่ด้วยร่างของผีดับจำนวนมากที่กำลังก้มลงมาหาเขาพร้อมเสียงโหยหวนเสียแล้ว

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!”

    ขายาวเดินออกมาจากตรงนั้นพร้อมมวนบุหรี่ในปากที่เพิ่งได้จากศพชายหนุ่มเมื่อครู่นี้ เขายังคงเดินไปข้างหน้าขณะหลุบสายตาจุดไฟแช็กแล้วปล่อยให้ควันสีหม่นส่งคนเหล่านั้นไปลงนรก

     

     
     

    เอาล่ะ... ถึงเวลาที่ต้องออกตามหาแบคฮยอนแล้ว

     

     

     

     

    TBC

     

     
     

    คัมแบ็คแล้วค่า ! ตอนต่อไปจะตามมาเร็ว ๆ นี้เลยนะ ! ไม่ต้องรอนานแล้ว กอด ๆ

     

     พูดไม่เข้าหูพี่ชาร์ลก็ต้องเจอแบบนี้ / เซฮุนมาช่วยจงอินทันแล้ว กลับไปอุทยานจะเป็นยังไง ติดตามตอนหน้า !

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×