ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hypnotize me, please! สะกดจิตสะกิดใจรักร้ายๆ ของยัยว้าวุ่น

    ลำดับตอนที่ #3 : HMP :) New Patient

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 54


    ตาหวาน... 


    2

    New Patient

     

                ฮึ่ม ฮึ่ม~ แท่ดๆ บอกฉันทีว่านี่คือเสียงของรถยุโรปสุดหรูราคาแพง! ฉันอุตส่าห์วาดฝันไว้ซะดิบดีว่าอีตาคุณหมา เอ้ย คุณหมอที่นิสัยกับหนังหน้าห่างกันราวฟ้ากับขี้ดิน เขาจะขับรถสปอร์ตคันหรูเหมือนพระเอกในนิยาย นี่อะไร รถเก๋ง ไม่สิ ฉันใช้คำนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่มันเศษเหล็กชัดๆ TOT!

                “ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไร เลิกคิดแล้วเปิดกระจกซะ ฉันร้อนจะตายอยู่แล้ว!” เขาพูดกับฉันแต่สายตาไม่ได้ละจากพวกมาลัยเลยสักนิด ไร้มารยาทจริง ชิ!

                “แล้วใครใช้ให้นายขับรถห่วยๆ แบบนี้เล่า TOT” ฉันว่าแล้วหมุนกระจกลง รถสมัยไหนเนี่ย ยังใช้ก้านหมุนกระจกอยู่เลย โหยยย~

                “เธอนี่มันพาความซวยมาให้ฉันจริงๆ เฮอะ” เขาสบถนิดหน่อย หนอย~ ว่าฉันเหรอยะ

                “เงียบไปเลยไอ้หมอบ้า ขับไปเร็วๆ เข้าเถอะ ฉันอึดอัดจะแย่” โอ๊ยยย ร้อน ร้อนจนตับมันแตกเป็นเสี่ยงๆ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

                “เออๆ รู้แล้วน่า ฉันก็ร้อนเว้ย ไอ้รถเส็งเคร็งนี่ก็ดันมาแอร์เสีย อีกตั้งไกลกว่าจะถึงสัตหีบ โวะ”

                “เฮ้ๆ ไหนบอกว่าจะพาไปรักษาในรูปแบบของนายไง แล้วจะไปสัตหีบทำไม หรือว่า นายคิดมิดีมิร้ายกับฉัน ตายๆๆๆๆๆ ฉันอยากจะบ้าตาย นายทำแบบนี้ได้ยังง้ายยย~ ถ้าฉันรู้ว่านายจะทำแบบนี้นะ ฉันจะอ๋อยยย @~@” โอ๊ยไอ้บ้า ไอ้หมอบ้า ไอ้หน้าตาดี ไอ้ๆ มันเบรกรถจนเหม่งฉันไปจุ๊บเข้ากับคอนโซล เจ็บนะ ไอ้หมอบ้า T^T

                “นะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปาก เขาก็เอื้อมมือมาปิดปากฉันซะก่อน มือเค็มไปหน่อยนะ :(

                “เงียบ หุบปากไปซะ หลับไปเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันปลุก”

                “ตะ

                “บอกให้เงียบไง” เขาตวัดตาดุๆใส่ฉันหนึ่งที และขับรถต่อ ฮึ่ย! เคืองงงงงงงงง~ ทั้งเจ็บ ทั้งแค้น ทั้งเคือง ทั้งโกรธ = =++++++++ ไอ้หมอไซโคยังคงขับรถต่อไปเรื่อยๆ ส่วนฉันก็ก่นด่าเขาไปตลอดทางเช่นกันหลายคนคงงงๆ กันอยู่ใช่มั้ยล่า ว่าทำไมฉันไม่กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขสามัญชน ก็เพราะไอ้หมอบ้าเนี่ยแหละ ไอ้คุณหมอไซโคสุดหล่อ มันวางแผนไว้หมดแล้วน่ะสิ! มันจะพิสูจน์ให้พ่อมันเห็นว่าวิทยาการบ้าบอแบบใหม่ล่าสุดของมันได้ผล และที่สำคัญนะ ไอ้วิทยาการใหม่ที่มันบอกเนี่ย เป็นอะไรที่โบราณกาลที่สุดในสามสี่ห้าหกสิบโลก! มันคือการสะกดจิต! บ้าไปแล้ว บ้าๆๆๆๆ =,=

                “นั่นเธอทึ้งหัวตัวเองทำไมน่ะ”

                “แฮ่ๆ ^-^;” ฉันหัวเราะแหะๆ และลดมือมาประสานกันที่หน้าตักเหมือนเดิม

                สองชั่วโมง (กว่า) ถัดมา

    รถ (กระป๋องสนิมเขรอะ) พาเราสองคนมาถึงโรงพยาบาลสุดหรูตั้งอยู่ริมชายหาด บรรยากาศโดยรอบโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้และอากาศบริสุทธิ์ของทะเล อาคารทุกอาคารถูกทาด้วยสีขาวและบางส่วนของอาคารก็ถูกเบรคด้วยสีดำและเทา ไฮโซที่สวดดดดด =..=!

                “ไง ทีนี้เข้ากับหน้าหล่อๆ ของฉันแล้วใช่มั้ย” แหม่! รู้ใจฉันจริงๆ คุณหมอสุดหล่อของฉัน วิ้งวับๆ *-*

                “นี่โรงพยาบาลหรือคอนโดมีเนียมกลางกรุงเนี่ย” ฉันพูดและแหงนหน้ามองไล่ไปตามชั้นของอาคาร

                “ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเครือข่ายของโรงพยาบาลที่กรุงเทพ เป็นส่วนที่ฉันบริหารเอง แต่ส่วนใหญ่ฉันจะไปรักษาคนไข้ที่ป่วยด้านจิตและโรคประสาทที่กรุงเทพ และถ้าคนไข้รายไหนที่เป็นเคสพิเศษ ฉันจะโอนมาอยู่ที่นี่ซะส่วนใหญ่ รวมถึงเธอด้วย” ฉันเป็นคนพิเศษคค่ะ วี้ดวิ่ว =..= “ฉันมีห้องพักอยู่ที่ชั้นบนสุดของอาคาร ระหว่างนี้เธอต้องพักอยู่ที่นั่น และอย่าไปเต้นรำระบำชาวเกาะแบบนั้นอีกล่ะ เดี๋ยวหมอที่นี่จะพาเธอไปรักษาอีก”

    “ชิ” ฉันส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจ

    “ไปขึ้นห้อง” แหม พูดจาส่อเสียดเสียจริงไอ้บ้านี่

                “อือ” ฉันตอบสั้นๆ และเดินตามเขาเหมือนลูกเป็ด (ที่ไม่ขี้เหร่)

                แอ๊ด~

                ประตูสีโอ๊คบานใหญ่ถูกเปิดออก เบื้องหน้าของฉันปรากฏให้เห็นห้องสุดหรู เครื่องเรือนทุกชื้นสีดำสนิท ตัดกับวอลเปเปอร์สีขาวครีม จัดวางของแบบนี้ เหมือนที่ห้องนอนฉันเลย คิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน คิดถึงแม่คิดถึงยัยเฟียร์ T^T เดือนหน้าฉันจะเป็นนักศึกษาเฟรชชี่ปีหนึ่งของมหาลัย ต้องไปอยู่หอ ไม่ได้เจอแม่กับเฟียร์ แทนที่ฉันจะได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว แต่ตอนนี้ฉันต้องมารับบทคนไข้ให้กับไอ้หมอโรคจิต ที่ตอนนี้กำลังจัดเตรียมที่นอนให้หมา T^T ดูเขาทำกับฉันเซ่~ เขาปูผ้านวมสีน้ำเงินอ่อนๆ ลงที่พื้นหน้าโซฟา โยนหมอนสีเดียวกันลงไปหนึ่งใบ และผ้าห่มขาดๆ อีกหนึ่งผืน โอ๊ย! ตาย ถ้ามีชามอาหารกับชามใส่น้ำวางนะ หมาชัดๆ !

                “นี่นาย ที่นี่เลี้ยงสัตว์ได้ด้วยเหรอ ฉันว่าไม่น่าจะได้นะ นายทำที่นอนให้หมาทำไม” ฉันแกล้งถาม

                “นี่เป็นห้องพักส่วนตัวของฉัน ทั้งชั้นนี้มีแค่ห้องของฉันห้องเดียว ฉันสามารถเลี้ยงอะไรก็ได้ที่ฉันอยากจะเลี้ยง เพราะฉันมั่นใจว่า มันคงกดลิฟท์เองไม่ได้” เขาตอบนิ่งๆ ต่างกับฉันที่แทบจะช็อคกับคำตอบ

                “แล้วไหนหมาของนายล่ะ ฉันแพ้ขนสัตว์ ฉันก็เลยเลี้ยงสัตว์ที่มันไม่มีขนแทน ส่วนเนี่ย” เขาชี้มือไปที่ที่นอนหมา (ซึ่งกำลังจะเป็นที่นอนของฉันในไม่ช้า T^T;) “ที่นอนเธอ” เปรี้ยง! เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ฉันคนนะโว้ยยย ทำไมต้องรังแกกันด้วย!

                “ฉันไม่นอนร่วมเตียงกับนายหรอกย่ะ แต่โซฟาก็ว่าง ฉันนอนโซฟากะ

                แพร่บๆ =U=

                “กรี๊ดดด~” ฉันแหกปากลั่น ตะตัวอะไรวะนั่น! -O-

                “อย่าเสียงดังสิ ลูกฉันขี้ตกใจนะ แล้วที่นี่ก็โรงพยาบาล ถึงมันจะคนละชั้นกัน แต่เธอก็ไม่ควรส่งเสียงรบกวนคนอื่น” ลูก ลูก ลูก! คนบ้าอะไรออกลูกเป็นตัวหะเอิ่ม ตัวเอี้ยวะ TOT,,

                “มันไม่ใช่เอี้ยใช่มั้ย” ฉันถามหวาดๆ

                “บ้า! ใครจะเลี้ยงหะตัวเงินตัวทองกันเล่า เธอไม่รู้จักอีกัวน่าหรือไง”

                “ระรู้จัก แต่นี่มันสีสันคัลเลอร์ฟูลไป โอ๊ย ฉันอยากกลับบ้าน T^T” ฉันโอดครวญ เชื่อฉันเหอะ ไอ้หมอสุดหล่อคนนี้มันบ้า มันทั้งปัญญาอ่อน ทั้งไม่สมประกอบ ครบถ้วน ไอ้หมอนี่มันต้องเป็นโรคประสาทจิตเสื่อมเหมือนชื่อมันแน่ๆ






    -------------------------------------------------------------------------

    Akamma’s say :)
    อัพครบแล้วนะคะสำหรับบตอนนี้ พรุ่งนี้อาจจะอัพต่อหรือไม่
    ขึ้นอยู่กับกำลังใจ และเม้นนะ
    T^T

    Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×