ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hypnotize me, please! สะกดจิตสะกิดใจรักร้ายๆ ของยัยว้าวุ่น

    ลำดับตอนที่ #2 : HMP :) I'm normal

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 54


    1
    I’m normal
    .

              เสียงนกตัวน้อยส่งเสียงเจื้อยแจ้วเจรจากันรับแสงยามเช้า แดดอ่อนๆ ทอดตัวผ่านม่านลงมายังที่นอนลูกฟูกสีขาวสะอาด บรรยากาศในห้องริมสุดซ้ายมือของอาคารแห่งนี้ หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกลิลลี่สีขาวที่ถูกประดับเอาไว้เต็มห้อง
               
    =_=zZ
                “ง่ำๆ” ฉันงึมงำนิดหน่อยก่อนจะลืมตา และฉันก็ต้องกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสตรงหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
                “เฮ้
    !” ฉันร้อง จะไม่ให้ร้องได้อย่างไร ก็มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มายืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่ข้างเตียงเนี่ย ถึงแม้ว่าเขาจะหล่อมาก มากถึงมากที่สุดก็เถอะ =..= ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงเหมือนไม่ได้จัดแต่งทรง โครงหน้ารูปไข่เรียวยาวทำให้เครื่องหน้าของเขาถูกขับออกมาอย่างโดดเด่น คิ้วตรงหนาเข้มรับกับสันจมูกที่โด่งสัน โอ้ว
                “สวยดีนะ” เขาเอ่ยเสียงเบาและมองเธอด้วยสายตาที่ชื่นชม
                “ฮะ”
               
    “เธอน่ะสวยดีนะ สวยกว่าในรูปอีก” คำพูดง่ายๆ ที่ทำให้ฉันลอยได้โดยไม่ต้องเป่าลม อร๊ายยย >///< ว่าแต่รูปอะไรหว่า
               
                “น่าเสียดาย

                “เสียดาย ? เสียดายอะไร” ฉันทั้งสวย ทั้งโสด ทั้งซิงจิงเกอร์เบลล์หลั่นล้า~
                “ไม่น่าบ้าเลย เซ็งจริงๆ คนสมัยนี้อะไรกันก็ไม่รู้ ผู้หญิงที่ไม่สวยก็แห่กันไปทำศัลยกรรมซะสวยปิ๊ง ส่วนผู้หญิงที่สวยๆ ถ้าไม่มีแฟนหน้าตาทุเรศ ก็เป็นเลสเบี้ยน เป็นทอม เป็นดี้ ส่วนเธอนี่กรณีใหม่ล่าสุด เป็นโรคประสาทยืนเต้นแร้งเต้นกาซะอย่างนั้น น่าเสียใจจริงๆ ที่ฉันเกิดมาอยู่ในยุคนี้” คำพูดที่ผู้ชายตรงหน้าฉันสวดออกมามันขัดกับหนังหน้าของเขาอย่างรุนแรง
    ! ปากเสียอ่ะ ปากร้าย นิสัยไม่ดี ว่าฉันเป็นโรคประสาท ไอ้โรคประสาทเนี่ย แถวบ้านฉันเรียกว่าบ้านะยะ ใครจะไปยืนเต้นแร้งเต้นกา บ้า บ้า บ้าไปแล้ว!
                “นี่นาย ทำไมนายถึงต้องปากเสียกับผู้หญิงที่นายเพิ่งเจอครั้งแรกด้วย แล้วฉันจะบอกให้นะ ที่ผู้หญิงสวยๆ เขาเลือกผู้ชายหน้าตาทุเรศๆ มาเป็นแฟน ก็เพราะว่าผู้ชายที่มันหล่อลากกระชากไส้ไตตับแบบนาย! มันทั้งปากเสีย! และนิสัยไม่ดี! ยังไงเล่า อ้อ เมื่อกี้ที่นายชมฉันว่าสวยน่ะ ฉันน้อมรับนะ แต่ไอ้ที่บอกว่าฉันบ้า เป็นโรคประสาท ยืนเต้นแร้งเต้นกาอะไรนั่น มันไม่จริงโว้ยยย ฉันไม่ได้บ้า!
                “เฮอะ
    ! คนบ้าที่ไหนจะยอมรับกันล่ะว่าตัวเองบ้า”
                “แต่ฉันไม่ได้บ้า
    !” ฉันเถียงฉอดๆ โดยไม่ได้สำนึกระลึกชาติถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้เลย TT’ แย่แล้ว
                “ทำหน้าแบบนั้นแปลว่าได้สติแล้วใช่ไหม” เขาแสยะยิ้มน้อยๆ
                “ฉันไม่ได้บ้าจริงๆ นะ ฉันแค่
    ” แค่งมงายบ้าบอไปนิดเดียวเอง นิดเดียวจริงๆ แง้
                “แค่ ? แค่ไม่ปกติ”
                “โว้ยยย บอกว่าปกติก็ปกติสิยะ แล้วนี่อะไร สายระโยงระยางพวกนี้มันคืออะไร จะผ่าสมองฉันเหรอ
    TOT/” ฉันหยิบสายที่เกี่ยวพันกันรอบตัวฉัน ฉันไม่ได้ผีเข้านะเฟ้ย มามงมามัดอะไรเยอะแยะเนี่ยยย
                “ไว้ยึดแขนยึดขาคนบ้าอย่างเธอไง ผู้หญิงอะไรไม่รู้แรงเยอะชิบ เนี่ย เห็นรอยนี่ไหม ฝีมือเธอเลย” เขาชี้ไปที่รอยสีแดงๆ เล็กๆ เหมือนโดนแมวข่วน ตรงหน้าผากของเขา “นี่ แล้วก็นี่ด้วย เธอมันเป็นตัวอันตรายจริงๆ”
                “ฉันขอถามอะไรนายอย่างนึงได้มั้ย ถ้าฉันบ้า ฉันประสาท ฉันไม่ปกติ แล้วนายซึ่งเป็นคนปกติ คุยกับฉันรู้เรื่องทุกคำพูด นายก็บ้าน่ะสิ”
                “แต่ฉันไม่ได้บ้า
    - -” เขาหรี่ตาและมองหน้านิ่ง
     
               “คนบ้าที่ไหน จะยอมรับว่าตัวเองบ้ากันล่ะ ฮะ ? ” ฉันพูดอย่างยียวน
                “นี่เธอ
    !” กรี๊ด จะต่อยหน้าฉันมั้ยเนี่ย “โอเคๆ ฉันเชื่อแล้วว่าเธอไม่ได้บ้า”
                “เอ้า ง่าย” เถียงกันมาตั้งนาน บทจะเชื่อก็เชื่อกันง่ายๆ เลยวุ้ย
                “ไม่ดีหรือไง เธอจะได้รีบกลับไปหาแฟนเธอไง”
                “อะไร ใครแฟนฉัน ฉันไม่มีแฟนย่ะ โสดมานานแล้ว” คิดแล้วก็เศร้าใจ
    T^T
                “เธอไม่ใช่แฟนไอ้ตินเหรอ ?”
                “ติน ? นายหมายถึงมาร์ตินหรือเปล่า” ฉันเอียงคอน้อยๆ
                “ใช่ น้องชายฉันเอง เธอไม่ใช่เฟียร์แฟนของไอ้ตินเหรอ”
                “ฉันไม่ใช่เฟียร์ เราเป็นแฝดกัน แต่ เฮ้~ จะเป็นไปได้ยังไง มาร์ตินหล่อมากกก ต่างกับนายระ
    เอิ่ม” ฉันหุบปากฉับเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของเขา
                “จริงๆแล้วฉันว่าเธอควรจะต้องพูดกับฉันเพราะๆ นะ เพราะว่าฉันสามารถช่วยเธอได้” เขายิ้มอย่างเป็นต่อ มีใครเคยบอกมั้ยว่านายยิ้มแบบนี้แล้วดูโรคจิตมาก
    =.=

                “ค่ะ ผู้มีพระคุณ พ่อเทพบุตรผุดจากนรก เอ้ย พ่อเทพบุตรที่จะช่วยฉุดฉันจากนรก แล้วคุณจะช่วยดิฉันยังไงเจ้าคะ” ฉันเติมสำเนียงดัดจริตสะดีดสะดิ้งลงไป แรดจริงอะไรจริง

    “อะแฮ่ม โอเคๆ ฉันจะโอนตัวเธอให้มาเป็นคนไข้ของฉัน”
                “ฮะ คนไข้ของนาย ? พูดเหมือนนายเป็นหมออย่างนั้นแหละ หรือว่า
    นายเป็นหมอ! ตายๆ มีคนไข้โดนนายกระโดดงับคอไปกี่คนแล้วเนี่ย”
                “นี่ ฉันกำลังจะช่วยเธอนะ ไม่ขอบคุณแล้วยังจะมาว่า ไม่น่าช่วยเลยจริงๆ ฉันไปละ” เขาทำท่าจะเดินออกจากห้องไป เดี๋ยวเซ่~ ช่วยเค้าก่อนนน
    T^T
                “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอสุดหล่อ ดิฉันจะไม่ลืมบุญุคุณของคุณหมอเลย ว่าแต่คุณหมอชื่ออะไรคะ”
                “ฉันไซโค นายแพทย์ศศิศ สราญรมณีย์ พ่อฉันเป็นเจ้าของที่นี่ และเป็นคนจับตัวเธอมารักษาด้วย”
                “ค่ะ ดิฉันบีแวร์นะเจ้าคะ ยินดีเป็นคนไข้ของคุณหมอค่า
    T T/
                เราสองคนคุยกันฉันนายแพทย์และคนไข้
    =_= เขาซักถามฉันเรื่องประวัติ และเรื่องสัพเพเหระอื่นๆ อีกมากมาย ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะ ว่าฉันถูกใจใช่เลยกับหน้าตาของคุณหมอมากกกกกกก แต่ แต๊ แต่ ปากคุณหมอนี่หมาได้อีกมั้ยคะ คุยกันไป จิกกัดกันไป เขาจะช่วยฉันได้จริงหรอเปล่า (วะ) เนี่ย ฉันล่ะกลัวจริงๆ T_T

    “ไป เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปเปลี่ยนซะ แล้วรอฉันอยู่ที่นี่ห้ามไปไหนนะ”

    “ฉันไม่ไปไหนหรอกน่า” แต่ฉันจะหนี =..= อุวะฮ่าๆ

    “อ้อ แล้วอย่าคิดหนีล่ะ เพราะถ้าเธอหนี เธอจะต้องโดนลงโทษ” ไม่กลัวหรอกย่ะ เพราะฉันจะหนี

    “เออน่า นายรีบๆ ไปเถอะ ฉันจะได้กลับบ้านซักที”

    “ใครบอกว่าฉันจะให้เธอกลับบ้าน ?”

    “อ้าว แล้วนายจะพาฉันไปไหนล่ะ เฮ้ๆ อย่าเพิ่งไปสิ มาตอบฉันก่อนโว้ยยย~”

     


    Shalunla

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×