ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC [March&Tou] - Kiss..จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ

    ลำดับตอนที่ #1 : FIC [March&Tou] - Kiss..จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ - ep.1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 207
      1
      29 ก.ย. 57

    ประตูห้องถูกเปิดออกช้า ๆ กระเป๋าสะพายใบย่อมถูกทิ้งลงบนที่นอน ก่อนที่เจ้าของมันจะหันไปเปิดไฟจนห้องที่มืดสนิทนั้นสว่างขึ้นจนสามารถมองเห็นภายในของห้องได้ทั้งหมด

    ชายหนุ่มรูปร่างสันทัด ผิวขาวจัด ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ก่อนจะปล่อยตัวให้นอนราบลงไปกับที่นอนหนานุ่มที่ปูด้วยผ้าคลุมสีขาวสะอาด

    เขานอนมองเพดานนิ่งอยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นคว้าผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

    ‘มาร์ช’ จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล นักแสดงหนุ่มมากฝีมือที่กำลังโด่งดังเป็นที่หลงใหลของเหล่าวัยรุ่นกว่าค่อนประเทศสืบเนื่องมาจากบท ‘ชายรักชาย’ ที่ตัวเองได้รับ

    บัดนี้.. กำลังเกิดวิกฤตที่ทำให้เขาต้องหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

    นาฬิกาหัวเตียงบอกเวลาตีสามกว่าแล้ว นับจากที่เขากลับเข้าบ้านมา ความตั้งใจเดิมของเขาก็คือ อาบน้ำให้เรียบร้อย แล้วรีบเข้านอนเสีย เพราะวันนี้เหนื่อยหนักจากการทำงานมาทั้งวัน แต่จนกระทั้งตอนนี้กินเวลาไปร่วม 4 ชั่วโมง เขาก็ยังไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้

    ‘กูเป็นอะไรไปวะ’

    ‘เกิดอะไรขึ้นกับกูเนี่ย’

    นั้นคือสิ่งที่เขาพยายามขบคิดเพื่อหาคำตอบ แต่คำตอบกลับว่างเปล่า ปรากฏแต่คำถามเดิมซ้ำวนไปวนมาจนไม่สามารถหาที่สุดของมันได้

    “โธ่เว้ย..” คำสบถดังขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงเป็นรอบที่ 5 ได้แล้วของค่ำคืนนี้

    โทรศัพท์มือถือถูกหยิบขึ้นเปิดโน้นนี่นั้น แต่สุดท้ายก็ปิดลงแล้ววางกลับไปที่หัวเตียงด้วยอาการหงุดหงิด

    เขายกมือขึ้นและใช้นิ้วหัวแม่มือสัมผัสริมฝีปากเบา ๆ พลางหัวสมองก็เริ่มนึกทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

    ..

    วันนี้กองละครนัดรวมตัวตอนช่วงสาย..

    ตอนที่ผมไปถึง ฝ่ายฉากกำลังขมักเขม้นในการเซ็ตฉาก พรางแสงให้ดูเหมือนเป็นเวลากลางคืน เพื่อถ่ายฉากสำคัญที่จะหักเหพาตัวละครไปสู่จุดเปลี่ยนของชีวิต

    ‘เฮ้อ................’ ผมถอนหายใจยาวเมื่อนึกถึงฉากที่ต้องถ่ายทำในวันนี้

    มันวนกลับมาอีกรอบ ฉากที่ผมไม่ได้อยากจะเข้าสักเท่าไหร่ ‘เลิฟซีน’

    คือ..มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจเลยถ้าหากว่า..

    คนที่จะมาเข้าฉากกับผมจะเป็น ‘นักแสดงหญิง’ คนไหนสักคน แต่นี้เปล่า..

    ‘ตั้ว’ เสฏฐวุฒิ อนุสิทธิ์ คนนั้นต่างหากคือคนที่ผมจะต้องเข้าฉากด้วย

    นักแสดงหนุ่มร่างสูง ค่อนข้างจะผอมเพรียว ผิวคล้ำ หน้าตาก็จัดว่าดี แต่ก็คงจะสู้ผมไม่ได้ ‘ผมหล่อว่าเยอะ’ (นั้นเป็นสิ่งที่เจ้าตัวคนวิจารณ์มั่นใจอยู่ตลอดเวลา)

    ความจริงระหว่างผมกับตั้วก็สนิทกัน เรียกว่ามากเลยก็ได้ เพราะรู้จักกันมาสองปีกว่าแล้ว ถ่ายละครด้วยกันมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ถูกหยิบยก จับจิ้น จนแฟนคลับฟินกันไปถึงไหนต่อไหน ก็ไม่ได้รังเกียจนะ บางทีก็มองว่าเป็นเรื่องตลก แม้จะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เป็นเรื่องดี ที่คนดูอินไปกับตัวละครที่พวกผมเล่น มันก็เหมือนสอบผ่าน ที่ทำให้คนเชื่อได้ว่าเราเป็นแบบนั้นจริง ๆ

    ตั้วมาถึงกองถ่ายช้ากว่าผมนิดหน่อย มาถึงก็ส่งยิ้มที่เหมือนเจ้าตัวจะมั่นใจว่าหวานมาก พร้อมกับยกมือไหว้ทุกคนรวมทั้งผมด้วย ก็ไม่แปลก เพราะความจริงผมอายุมากกว่าเจ้าเด็กนั้นตั้ง 4 ปี

    “พี่มาร์ช...” เสียงเรียกลากยาวฟังดูอ้อน มองหน้าผมยิ้ม ๆ ทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาหา มันก็ดูน่ารักดีหรอกนะ แต่บอกตรง ๆ ว่าผมไม่อยากจะพูดอะไรกับมันตอนนี้เลยจริง ๆ เพราะกำลัง ‘ทำใจ’ อยู่

    “ตั้ว..ตั้ว มานี่หน่อย” เสียงพี่ปิงตะโกนเรียกมันเหมือนเสียงสวรรค์ มันหันหลังไปตามเสียงเรียก แล้ววิ่งไปหาพี่ปิงทันที่ ก่อนที่มันจะเดินมาถึงตัวผม

    พี่ปิงคงเรียกไปคุยเรื่องบท เหมือนที่เพิ่งคุยกับผมไปเมื่อกี้

    “เดี๋ยวพี่จะปล่อยให้มาร์ชเล่นเองนะ คือ..เอาแบบที่มาร์ชคิด ลองจินตนาการถึงความรู้สึกของตัวละคร บทพูดดูไว้เป็นแนวทางก็ได้ ไม่ต้องเหมือนเป๊ะทุกคำ ....” และอื่น ๆ อีก บลา..บลา.. แต่สะดุดจบเอาตอนสุดท้ายที่ว่า “มาร์ชจูบจริงนะ”

    เหมือนฟ้าผ่าบอกเลย ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้ว

    ได้เวลาถ่ายทำ..

    เหมือนตั้วจะนิ่ง ๆ ลง หลังจากที่คุยกับพี่ปิงเสร็จ ความรู้สึกมันคงไม่ต่างจากผมเท่าไหร่

    ต่างคนต่างเครียดเลยนะผมว่า

    เริ่มต้นถ่ายจากฉากนั่งดื่มก่อน ไม่ยากเท่าไหร่ในความรู้สึกผม มีนักแสดงสมทบมาเข้าฉากด้วย ถ่ายอยู่ราว 3-4 เทค เพราะผู้กำกับอยากได้หลาย ๆ มุมกล้อง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

    แล้วฉากที่รอคอย..เอ๊ย.. ฉากที่ไม่อยากให้มาถึงก็มาถึง

    ผมกับตั้วเคยเข้าฉากจูบกันมาแล้วในซีซั่นแรก ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ คือ..มันก็ไม่ถึงกับแย่จนรับไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้น่าภิรมณ์สักเท่าไหร่

    ก่อนถ่าย..พี่ปิงผู้กำกับเข้ามาบิ้วอารมณ์อีกครั้ง เพื่อให้เราเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครมากขึ้น และเข้าใจอารมณ์ที่ตัวละครต้องการสื่อ

    มันเป็นซีนอารมณ์ที่หนักของทั้งสองคน ผู้กำกับปล่อยให้พวกผมทำสมาธิก่อนจะเริ่มถ่ายทำ

    ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี..

    จนถึงสุดท้ายของฉากที่ต้องจูบ

    ผมมองตาตั้ว ตาน้องไหวนิด ๆ ในจังหวะที่ใบหน้าของเราขยับเข้าหากันช้า ๆ ผมสังเกตเห็นริมฝีปากน้องสั่นเล็กน้อย มันคงตื่นเต้นซินะ หัวใจของผมเต้นโครมคราม สายตาของน้องที่ส่งมามันทำให้ผมรู้สึกแปลก..

    ผมหลับตาลง ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะสัมผัสกัน

    เหมือนมีกระแสไฟไหลผ่านตัวผมจนร้อนวูบไปหมด พลังงานบางอย่างกำลังดึงดูดให้ผมขยับเข้าหาน้องมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น ริมฝีปากนุ่มออกรสหวานน้อย ๆ ยั่วยวนจนผมเผลอขยับริมฝีปากแนบสนิท  

    “คัทครับ”

    ความรู้สึกของผมที่กำลังไหลไปตามอารมณ์ถูกกระตุกให้กลับมา

    ผมลืมตาขึ้นสบตากับตั้วที่กำลังมองผมอยู่ ลมหายใจของผมหอบถี่ และตั้วก็เช่นกัน ผมใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นไว้ ในขณะที่มืออีกข้างจับอยู่ที่เอวของน้อง ตัวผมจึงอยู่ในลักษณะคร่อมอยู่บนตัวน้องที่เอนอยู่ อีกนิดเดียวหลังน้องก็คงจะแตะพื้น ถ้าน้องไม่ใช้มือข้างหนึ่งยันพื้นไว้

    ยอมรับ.. ว่าผมไม่รู้ตัวจริง ๆ ว่าตัวเองขยับตัวมาจนอยู่ในท่านี้ได้ยังไง

    เราสองคนยังอยู่ในท่านั้นนิ่ง จนพี่ปิงเดินมาตบไหล่ผม

    “ดีมากมาร์ช.. ตั้วด้วย ดีมาก มึงสองคนทำได้ดีมากจริง ๆ”

    ผมขยับตัวลุกขึ้น รู้สึกมึน งง และไม่เข้าใจ

    “ผมไปห้องน้ำก่อนนะพี่” พูดจบผมก็เดินออกมา เสียงคนแซวไล่หลังว่าผมคงอยากบ้วนปากเหมือนคราวก่อน คือ..ก็ไม่นะ เพราะคราวนี้ความจริงคือผมแค่อยากหนีไปจากตรงนั้น แต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธอะไร ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้วมันจะคิดยังไง ผมไม่กล้าหันไปมองหน้ามัน ก็เลยเดินออกมาเฉย ๆ

    ..

    เดินกลับมาที่หน้าเซ็ตอีกครั้ง ตั้วกำลังนั่งดูมอนิเตอร์อยู่ ผมเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ตรงเก้าอี้ที่ว่าง พยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ไม่กล้าจริง ๆ ที่จะหันไปมองหน้ามัน

    แม้จะไปทำหัวให้เย็นลงแล้ว แต่เมื่อมานั่งอยู่หน้ามอนิเตอร์ ผมก็ยังรู้สึกหวั่นไหวอยู่ดี.. หวั่นไหว.. จริง ๆ นะ ผมยอมรับ.. ไม่มีอะไรจะปฏิเสธ ไม่มีอะไรจะให้แก้ตัว..

    ..

    จูบครั้งก่อนไม่เป็นแบบนี้..

    อาจจะเป็นเพราะบท หรือเพราะผมกับตั้วสนิทกันมากขึ้น หรืออาจจะเพราะอะไรอื่นอีก ผมก็สุดรู้..

    ความรู้สึกนุ่มหวานนั่น.. ปลุกอะไรบางอย่างในตัวของผมให้พุ่งทะยานขึ้นทุกครั้งที่นึกถึง

    ผมคงอินกับบทมากเกินไป..

    ตี 5 แล้ว..

    นั่นแปลว่าคืนนี้ไม่ได้นอน..

    ..










    --------------------------------------------------------

    **เรื่องราวทั้งหมดที่จะกล่าวต่อไปนี้

    เป็นเพียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากจิตนาการของผู้แต่ง

    ไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดเกี่ยวข้องกับเรื่องจริง

    บุคคลจริง หรือเหตุการณ์จริงใด ๆ ทั้งสิ้น

    และทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

    มิได้มีเจตนาให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างไร

    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน

    และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับความสุขเมื่อกลับออกไป** 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×