ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❖TEDDY BEAR รับวิจารณ์นิยายสไตล์หมีน้อย❖

    ลำดับตอนที่ #3 : [SENT] : P.P. Rising: The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      0
      29 ม.ค. 58





    มาส่งงานวิจารณ์ให้แล้วค่าาาา ต้องขอโทษด้วยที่ส่งงานช้าค่ะ
    พอดีช่วงนี้ติดสอบพอดีเลยไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านค่ะ
    จนวันนี้นี่แหละที่สอบเสร็จแล้ว เท็ดดี้เลยนั่งอ่านรวดเดียวเลยค่า


    ปล.ถ้าเลื่อนลงไปเห็นคำวิจารณ์อย่าตกใจนะค่ะว่าทำไมมันยาว
    อันนี้เท็ดดี้ก็ไม่รู้เหมือนกันค่าาา




     

     

                สวัสดีค่ะพี่สปาย เท็ดดี้นะค่ะ ตอนที่เห็นจำนวนตอนบอกเลยว่าเท็ดดี้ถึงกับกุมหัวเลยแหละ แบบตอนเยอะมาก ยิ่งตอนที่กดคลิกเข้าไปดูยิ่งเหงื่อตกค่ะ นอกจากจำนวนตอนจะเยอะแล้วยังมีเนื้อหายาววววววมากๆ อีกด้วย พระเจ้า! จะไหวไหมเนี่ย!! จนในที่สุด....ในที่สุดค่ะ เท็ดดี้ก็อ่านจนจบหมดแล้ว เย้!!!(กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ) ใช้เวลา 3 วันในการอ่านและการวิจารณ์ ถือได้ว่าช้าสุดๆ ไปเลย ขอโทษด้วยค่า แงงงงง และเพื่อเป็นการขอโทษและการตอบแทนที่มาเป็นลูกค้าคนแรก เท็ดดี้จะวิจารณ์ให้อย่างสุดความสามารถเลยค่ะ

    บทความ

    แนะนำเรื่องย่อ : แนะนำได้น่าสนใจดีค่ะ ทำให้เท็ดดี้อยากคลิกเข้ามาอ่านเนื้อเรื่องเต็มๆ เลยแหละค่ะ แถมยังสอดคล้องกับเนื้อเรื่องดีด้วยค่ะ ไม่ออกนอกประเด็นไปไหน ถือว่าตรงส่วนนี้พี่สปายทำได้ดีเลยค่ะ

    ภาษาที่ใช้

    การบรรยาย : ในตอนต้นๆพี่สปายบรรยายได้ยังงงๆ อยู่ค่ะ เหมือนกับภาษายังไม่คงที่แต่พอเท็ดดี้อ่านไปเรื่อยๆ ก็พบว่าภาษาที่ใช้รวมถึงการบรรยายนั้นดีขึ้น อ่านแล้วลื่นไหลกว่าตอนต้นและเข้าใจง่ายกว่าเดิมค่ะ ทำให้นึกภาพตามได้ง่ายแต่ก็ยังมีจุดที่บรรยายไม่ชัดเจนอยู่  สุดท้ายข้อดีของเรื่องนี้คืออะไรรู้ไหมคะ? คือการบรรยายที่ใช้การบรรยายแบบมุมมองของตัวละครผสมกับมุมมองของผู้เขียนไงแต่การบรรยายแบบนี้ก็มีจุดที่ควรระวังอยู่ค่ะ นั่นก็คือพยายามอย่าเปลี่ยนการบรรยายไปมา ไม่งั้นอาจจะทำให้การบรรยายดูมั่วได้ค่ะ

    ส่วนที่อยากให้เพิ่มการบรรยายเข้าไป

    EP0 : ถ้าเอาโต๊ะญี่ปุ่นพับขึ้นแล้วนำฟูกที่นอนมาปูบนพื้นนี้ เจ้าตัวเปิดตู้เสื้อผ้ากำลังยืนเลือกชุดอยู่

    มาดูประโยคตัวอักษรสีแดงก่อนนะค่ะ ประโยคนี้เป็นประโยคที่ควรจะมีประโยคต่อค่ะ เพราะอะไร? ก็เพราะว่าประโยคมันยังไม่สมบูรณ์ไงค่ะ เรามาดูทีล่ะขั้นตอนกันค่ะ ตรง ถ้าเอาโต๊ะญี่ปุ่นพับขึ้นจบประโยคนี้เท็ดดี้นึกภาพตาม จากห้องที่มีโต๊ะญี่ปุ่น ถ้าเราพับโต๊ะญี่ปุ่นขึ้นก็จะทำให้เกิดพื้นที่ว่าง แล้วยังไงต่อ? มาดูประโยคต่อไปค่ะ นำฟูกที่นอนมาปูบนพื้นนี้พอมีพื้นที่เราก็เอาฟูกมาปูนอนแทนที่โต๊ะ พอปูฟูกเสร็จแล้วไงต่อล่ะ? เอาล่ะ พอมาถึงตรงนี้พี่สปายก็เปลี่ยนเรื่องไปบรรยายเรื่องอื่นแทน ซึ่งอารมณ์มันขาดตอนค่ะ ประโยคนี้มันสื่อได้ว่าพอปูฟูกเสร็จแล้วมันน่าจะยังมีอะไรอย่างอื่นอีก อาจจะเป็นปูฟูกแล้วไม่มีที่เดิน หรือห้องแคบอะไรก็ว่าไป แต่นี่พี่สปายดันตัดจบแล้วไปพูดเรื่องอื่นแทน ซึ่งถ้าพี่สปายไม่อยากบอกต่อ อยากเปลี่ยนไปบรรยายสิ่งอื่น เท็ดดี้ว่าน่าจะเปลี่ยนประโยคนี้ค่ะ อาจจะเปลี่ยนว่า เวลานอนเขาจะพับโต๊ะญี่ปุ่นขึ้นแล้วค่อยนำฟูกมาปูนอนบนพื้นก็ได้ ส่วนประโยค เจ้าตัวบลาๆให้วรรคขึ้นบรรทัดใหม่ค่ะ เพราะถือว่ามันพูดคนล่ะเรื่องกันแล้ว

    ประโยคผิดเพี้ยน/คำผิด : ตรงส่วนนี้มีส่วนที่ต้องแก้อภิมหาเยอะของเยอะของเยอะมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคำผิด,คำตกหล่น,คำฟุ่มเฟือย,หรือประโยคที่มีการเรียงผิด เนื่องจากตรงส่วนนี้มันเยอะมากๆ เท็ดดี้เลยขอยกตัวอย่างแค่นิดเดียวนะค่ะ จะยกตัวอย่างให้ว่ามันผิดตรงไหนและมันผิดเพราะอะไร เพราะเห็นว่าร้านรับวิจารณ์ที่อื่นได้กล่าวถึงในส่วนนี้ไปค่อนข้างเยอะแล้ว

    คำผิด

    EP0 : ชายหัวโล้นลื่นข้อมูลของเด็กชายชื่อว่า พี

    ลื่นข้อมูล? คำนี้ไม่มีนะค่ะ พี่สปายตั้งใจจะเขียนว่าเลื่อนสินะค่ะ

    EP1 : หลังจากนั้นก็ทำความรู้สึกกันได้เดือนกว่าๆ

    ขียนผิดค่ะ ต้องเป็น ทำความรู้จัก

    คำตกหล่น

    EP0 : เขาดีดชอบใจอีกครั้ง

    ประโยคนี้มีคำตกหล่นค่ะ เท็ดดี้จะลองวิเคราะห์ประโยคนี้ดูนะค่ะ เขา = ประธาน,ดีด = กิริยา,ชอบใจอีกครั้ง = เป็นคำขยาย เห็นไหมคะว่าประโยคนี้กรรมหาย เขาดีดอะไร? ดีดนิ้ว? ดีดมือ? ดีดหน้าผาก? หรือบลาๆ แล้วแต่จะดีด ซึ่งจากที่อ่านประโยคนี้เท็ดดี้เดาว่า เขาดีดนิ้ว อย่างแน่นอนค่ะ เพราะงั้นพี่สปายเพิ่มคำว่า นิ้วเข้าไปด้วยนะค่ะ หรือถ้าเท็ดดี้เดาผิดก็ช่วยใส่สิ่งที่เขาดีดเข้าไปด้วยค่ะ

    คำฟุ่มเฟือย

    EP0 : ขณะที่เขามองเลือกชุด

    ประโยคนี้ไม่จำเป็นต้องใส่คำว่า มองค่ะ เพราะคำว่า เลือกชุดมันก็อธิบายชัดเจนแล้วว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เพราะงั้นควรตัด มองออกค่ะ

    ประโยคที่เรียงผิด

    EP0 : จะยืดเวลาให้หน่อยอีกล่ะกัน

    สังเกตประโยคนี้ดูนะค่ะ คำว่า หน่อยกับคำว่า อีกมันสลับตำแหน่งกันค่ะ จริงๆ ประโยคนี้ต้องเรียงว่า อีกหน่อยไม่ใช่ หน่อยอีกค่ะ

    EP0 : ที่เหลือขึ้นอยู่ชะตากรรมของเด็กคนนั้น

    ตอนที่เท็ดดี้อ่านมาจนถึง อยู่ เท็ดดี้สะดุดไปเลยค่ะ เพราะมันตกคำว่า กับไป ถ้าเติมเข้าไปประโยคจะเป็น ที่เหลือขึ้นอยู่กับชะตากรรมของเด็กคนนั้น

     

    ตัวเนื้อหา

    เนื้อเรื่อง : เนื่องจากนิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาเยอะมากในแต่ล่ะตอน อาจจะทำให้เท็ดดี้อธิบายได้ไม่หมดนะค่ะแต่ก็จะพยายามอธิบายให้เยอะที่สุดค่ะ จะพยายามเอาประเด็นสำคัญๆ ขึ้นมาพูดค่ะ

    ประเด็นแรกที่อยากพูดคือตอนเปิดเรื่อง ตอนที่เท็ดดี้อ่าน EP0 จบ บอกเลยว่างงมากๆ ค่ะและเกิดคำถามขึ้นในหัวเต็มไปหมดแต่เท็ดดี้ก็พยายามคิดว่าเอาน่า ตอนนี้เป็นตอนเปิดเรื่อง ผู้เขียนอาจจะเขียนให้ผู้อ่านเกิดคำถามอยากอ่านต่ออะไรงี้ เท็ดดี้เลยเก็บสิ่งที่สงสัยไว้เพื่อรอเฉลยจากตอนหลังๆ ค่ะ แต่เท็ดดี้ว่าตอนนี้เนื้อหาเยอะเกินไปนะค่ะ มันเลยทำให้ดูไม่น่าสนใจอ่ะ เปิดมาบทแรกไม่ควรจะมีเนื้อหาเยอะและก็ควรจะมีแค่ประเด็นสำคัญหรือเหตุการณ์สำคัญมาเปิดเรื่องเพื่อที่จะได้ดึงดูดผู้อ่านให้อ่านตอนต่อไปค่ะ

    ประเด็นสองคือเนื้อหาในเรื่อง นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวใช้พลังจิตใช่ไหมคะ ทั้งๆ ที่การใช้พลังจิตถือเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลย แต่ทำไมถึงไม่ค่อยเขียนถึงเรื่องพลังจิตเลยอ่ะค่ะ มีแต่การพูดคุยกันเรื่องของพลังจิตโดยที่ตัวละครกลับไม่ค่อยใช้พลังจิตในการต่อสู้เลย แถมฉากต่อสู้ยังมีอยู่แค่สามสี่ตอน แล้วเท็ดดี้ยังสังเกตเห็นว่าฉากต่อสู้จะมีอยู่แค่ตอนเดียวแล้วก็จบ พอตอนต่อมาก็กลับไปพูดคุยกันเหมือนเดิม ทำให้นิยายเรื่องนี้ไม่เหมือนกับนิยายแนวผจญภัยเลยค่ะ ในความคิดของเท็ดดี้นะค่ะ ถ้าพูดถึงนิยายแนวนี้จะต้องนึกถึงเรื่องที่ตัวเอกมีพลังจิตแล้วออกตามหาผู้ใช้พลังจิตคนอื่นๆ เพื่อสืบหาว่าตกลงพลังจิตมันเกิดขึ้นได้ยังไงอะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งนิยายประเภทนี้ถ้าอยากดึงดูดผู้อ่านควรมีฉากต่อสู้เยอะๆ มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องใช้พลังจิต มีพลังหรือผู้ใช้พลังจิตใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อที่จะทำให้ผู้อ่านอยากติดตามตอนต่อไป แต่สิ่งที่พี่สปายเขียนมันกลับไม่มีอะไรที่จะดึงดูดผู้อ่านได้เลยค่ะ เนื้อเรื่องมันธรรมดาเกินไป พี่เอาแต่ให้ความสำคัญกับการเดินเรื่องของตัวละครจนละเลยเรื่องของการใช้พลังจิตไป ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากๆ ถ้าเอามาแต่งดีๆ จะสามารถสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้เลยแหละค่ะ

    ประเด็นที่สาม การดำเนินเรื่องของตัวละครเป็นแบบไหน? ตอนที่เท็ดดี้พูดถึงสิ่งนี้พี่สปายอาจจะงงว่าไอ้การดำเนินเรื่องของตัวละครเนี่ยมันคืออะไร เพราะงั้นเท็ดดี้เลยมาอธิบายให้พี่เข้าใจค่ะ การดำเนินเรื่องของตัวละครคือสิ่งที่ตัวละครในเรื่องเป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น เช่น การมีตัวละครใหม่ๆ เข้ามาทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันและสามารถเอาตัวละครนั้นๆ มาเล่นได้ เช่น ผู้หญิงที่ไล่ฆ่าพีในตอนต้นๆ ทำให้พีมีพลังจิต เฟียน่าที่พอโผล่มาก็ทำให้พีรู้ว่ามีคนใช้พลังจิตได้นอกจากตัวเอง หรือแม้แต่เมงุมิที่ตอนแรกเขียนไว้ว่าตายแล้วแต่ตอนหลังกลับโผล่มาทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น ที่เท็ดดี้พูดว่าพี่ให้ความสำคัญกับการดำเนินเรื่องของตัวละครก็คือแบบนี้ พี่ไปให้ความสำคัญกับการสร้างตัวละครใหม่ๆและกับการเล่นตัวละครเพื่อให้โยงไปถึงเหตุการณ์ตอนหลัง ซึ่งเท็ดดี้ก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะแต่มันก็ควรมีขอบเขตค่ะ อย่าเอาแต่เล่นตรงส่วนนี้จนลืมส่วนอื่นๆ ไปค่ะ เพราะการเขียนนิยายไม่ควรจะเล่นอยู่เรื่องเดียว ควรจะเอาหลายๆ เรื่องมาเล่นเพื่อให้นิยายมีสีสันและมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นค่ะ

    ประเด็นที่สี่ เท็ดดี้อ่านจบหมดทุกตอนก็พบว่าพี่สปายจะชอบสร้างประเด็นใหม่ๆ ขึ้นมา โดยไม่คำนึกถึงเลยว่าประเด็นเก่ามันจบแล้วรึยัง อย่างประเด็นของเมงุมิที่ตอนหลังมามีร่างกายเป็นเครื่องจักร พี่สปายเขียนถึงเรื่องนี้อยู่ๆ ก็มีประเด็นเรื่องของเฟียน่าเข้ามาแทรก ทั้งๆ ที่เรื่องของเมงุมิยังไม่จบดีเลย มันเลยทำให้เนื้อเรื่องดูสับสนงงงวยค่ะ

    ความสมเหตุสมผล : ตรงส่วนนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเท็ดดี้เท่านั้น ถ้าพี่สปายอ่านแล้วไม่เห็นด้วยก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ

    EP1 : เรื่องที่เมงุมิเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเรื่องพีความจำเสื่อม

    เท็ดดี้จะพูดเรื่องเมงุมิที่อยู่ๆ ตอนนี้พีเริ่มรู้สึกคุ้นๆ และรู้ว่าเมงุมิเป็นเพื่อนสมัยเด็ก เท็ดดี้ขอย้อนไปตอนก่อนหน้านี้นะค่ะ ในตอนที่ EP0 ตอนที่พีคุยโทรศัพท์กับเมงุมิหรือตอนที่เล่าตอนเจอกันกับเมงุมิ พีไม่เห็นแสดงออกเลยว่ารู้สึกคุ้นๆ หน้าเมงุมิ หรือคุ้นคำพูดเหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ แต่พอมาตอน EP1 พี่สปายกลับมาพูดว่าพีรู้สึกคุ้นๆ มันคืออะไรคะ? คือตอนก่อนหน้าพี่สปายไม่ได้ปูเนื้อเรื่องตรงจุดนี้เลย อยู่ๆ ก็มาเขียนจุดนี้มันเลยทำให้เท็ดดี้อ่านแล้วอุทานว่า เฮ้ย!’ เลยทีเดียว อ่านแล้วตกใจผสมงงงวยมากๆ เลยค่ะ อารมณ์เหมือนกับว่าเท็ดดี้ส่องกระจกดูหน้าตัวเองทุกวันแต่อยู่มาวันหนึ่งตรงจมูกก็มีขี้แมลงวันเม็ดโตๆ ผุดขึ้นมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เค้ยไม่เคยเห็นขี้แมลงวันอันนี้เลย อารมณ์ความรู้สึกประมาณนี้เลยค่ะ ตรงจุดนี้เลยไม่สมเหตุสมผลค่ะ ต่อมาพูดเรื่องพีความจำเสื่อม ตอนที่ EP0 เท็ดดี้อ่านแล้วไม่มีความคิดเลยนะค่ะว่าพีความจำเสื่อม เพราะเห็นว่าพีมีการหวนคิดถึงอดีต แต่พอมาอ่านตอนที่ EP1 แล้วพีรู้สึกตัวว่าตัวเองความจำเสื่อม คือบอกตรงๆ เลยว่าตกใจมว๊ากกก อารมณ์ประมาณเดียวกับที่เจอขี้แมลงวันเม็ดโตๆ เลยแหละค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้งงเข้าอีกคือเรื่องต่อมาค่ะ ตรงประโยคที่เมงุมิพูดว่า เพราะเกิดขึ้นแบบนั้น(ประโยคนี้ควรเติมคำว่า เหตุการณ์ เข้าไปด้วยนะค่ะ) พีคุงเลยช็อคซะจนความจำเสื่อม ไม่มีความทรงจำเหลืออยู่ตั้งแต่เกิดเลยค่ะถ้าทำได้นะ เท็ดดี้จะขีดประโยคสีแดงเป็นร้อยขีดเลยแหละค่ะ คำว่า ตั้งแต่เกิดมันสื่อได้ว่าพีจะจำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง! คือแบบตั้งแต่เกิดเนี่ยหมายถึงตอนที่ยังร้องอุแว้ๆ ในอ้อมอกแม่อยู่เลยนะค่ะ! ซึ่งก็น่าจะจำชื่อตัวเองไม่ได้ จำเพื่อนสมัยเด็กอย่างเมงุมิไม่ได้ แต่นี่กลับจำได้หมด ถึงเรื่องเมงุมิจะเพิ่งมาคุ้นๆ ก็เถอะค่ะ เพราะเหตุนี้แหละ ตรงส่วนนี้เลยไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก ย้ำอีกครั้งว่าไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก เท็ดดี้ว่าพี่สปายควรแก้ให้พีจำเหตุการณ์นั้นไม่ได้แค่เรื่องเดียวก็พอนะค่ะ ไม่ต้องถึงตั้งแต่เกิดหรอกค่ะ เพราะมันจะทำให้เนื้อเรื่องไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก

    EP8 : เรื่องแท็บเล็ต

    หัวข้อนี้เป็นเรื่องเล็กๆ ที่เราคิดว่าไม่ควรมองข้ามค่ะ ตอนที่พีคิดในใจว่าลืมแท็บเล็ตนะค่ะ แสดงว่าตอนนี้ในมือพีจะต้องถือแท็บเล็ตอยู่อย่างแน่นอนแต่พอเท็ดดี้เลื่อนลงไปอ่านจนถึงตอนที่ทอมมี่พยายามกระโดดกอดพีให้ได้ แล้วพีเรียกปืนออกมานะค่ะ เอาล่ะ ตอนนี้ปืนอยู่มือขวาเพราะงั้นแท็บเล็ตจะต้องอยู่มือซ้ายใช่ไหมคะ เท็ดดี้ก็เลื่อนลงมาอ่านอีก พีทำให้ปืนหายเข้าไปอยู่ในแผ่นกระจกบนมือขวา ตอนนี้แผ่นกระจกอยู่มือขวาส่วนแท็บเล็ตก็ยังอยู่มือซ้ายเหมือนเดิม แต่! แต่พออ่านมาจนถึงเสียงเตือนรายการอะไรสักอย่างเข้า ที่พี่สปายเขียนบรรยายไว้ว่า เสียงเตือนรายการของแท็บเล็ตที่พีถือไว้มือขวา พระเจ้า! แท็บเล็ตมันย้ายไปอยู่มือขวาได้ไง!? แล้วแผ่นกระจกหายไปไหน? อีกทั้งประโยคมันเหมือนสื่อว่าตั้งแต่แรกที่พีได้แท็บเล็ตมา พีก็ถือมือขวาตลอดไม่ได้ย้ายไปไหน! แล้วก่อนหน้านี้คืออะไร? ที่เรียกปืนมาไว้มือขวา งั้นก็แสดงว่าพีถือปืนกับแท็บเล็ตโดยใช้มือขวาข้างเดียวงั้นเหรอ!?  คือมันเหมือนแบบอยู่ๆ ก็หายแล้วอยู่ๆ ก็โผล่มาอ่ะค่ะ ของมันแว๊บไปแว๊บมาเลยทำให้งงเล็กน้อยว่าตกลงมันอย่างไหนกันแน่ เพราะงั้นเท็ดดี้เลยอยากให้พี่สปายแก้ตรงส่วนนี้ในเรื่องของการบรรยายที่ไม่ชัดเจน อยากให้เพิ่มการบรรยายเข้าไปว่าตกลงแท็บเล็ตมันอยู่มือไหนกันแน่หรือก่อนหน้านี้พีเอาใส่กระเป๋างั้นเหรอหรืออะไรก็ตามแต่ที่พี่สปายอยากเขียน

    EP11 : เรื่องพลังของพี

    จากตอนแรกที่เท็ดดี้อ่าน พี่สปายเขียนไว้ว่าพีมีพลังทำให้รอบตัวช้าลง เพราะงั้นตัวพีไม่ได้เร็วขึ้นแต่รอบข้างช้าลงต่างหาก นี่คือสิ่งที่เท็ดดี้เข้าใจมาโดยตลอดแต่พออ่านมาจนถึงตอนนี้เท็ดดี้กลับต้องเปลี่ยนความคิด เนื่องจากพี่สปายได้บรรยายไว้ในตอนนี้ว่า พีพุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงจากประโยคนี้แสดงว่าพีมีพลังเพิ่มความเร็วให้กับตัวเอง ไม่ได้มีพลังทำให้รอบตัวช้าลง อ่านมาจนถึงตอนนี้พี่สปายอาจจะคิดว่าแล้วสองพลังนี้มันต่างกันยังไง มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? จริงๆ แล้วสองพลังนี้มีอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกันค่ะแต่ก็ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ หมด มีความแตกต่างกันนิดเดียวค่ะ นั่นก็คือถ้ามีพลังทำให้รอบตัวช้าลง คนรอบข้างหรือสิ่งต่างๆ รอบตัวเราจะช้าลงแต่ตัวเราก็ยังเหมือนเดิม เดินเท่าเดิม วิ่งเท่าเดิม เพียงแค่รอบตัวช้าลงจนทำให้เหมือนเราเร็วขึ้นซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ ส่วนพลังเพิ่มความเร็วให้กับตัวเองคือตัวเราทำอะไรก็จะเร็วกว่าคนอื่นเป็นสองเท่า สามเท่าอะไรก็ว่าไป เร็วถึงขนาดทำให้คนรอบข้างดูช้าลงซึ่งจริงๆ คนอื่นก็ทำอะไรเท่าเดิม เดินเท่าเดิม วิ่งเท่าเดิม มีเพียงแค่เราที่เร็วขึ้นเท่านั้น สรุปแบบง่ายๆ ความแตกต่างมันอยู่ที่พลังสองอันนี้จะแสดงผลกับใคร ถ้าพลังทำให้รอบตัวช้าลงก็จะแสดงผลกับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเราแต่ถ้าเป็นพลังเพิ่มความเร็วก็จะแสดงผลกับตัวเองไม่ใช่คนอื่น เห็นไหมคะ ความแตกต่างของสองพลังนี้มันแค่นิดเดียวนิดเดียวจริงๆ ถ้าไม่คิดดีๆ จะไม่รู้เลยว่าสองพลังนี้แตกต่างกันยังไง เพราะงั้นเท็ดดี้เลยอยากให้พี่สปายคิดทบทวนดูว่าตกลงพี่อยากจะให้พีมีพลังอะไรกันแน่

    EP 14 : เรื่องกระโดดงับคอ

    เท็ดดี้อ่านมาถึงตอนที่ 14 มาสะดุดและอึ้งตรงตอนจบที่พี่สปายเขียนให้พีกระโดดงับคอทอมมี่นะค่ะ เท็ดดี้ก็ไม่รู้นะค่ะว่าทำไมพี่ถึงเขียนแบบนี้ อาจจะอยากให้มันดูตลกหรืออยากจะให้มันดูน่าสนใจก็ตามแต่ แต่พอเท็ดดี้อ่านแล้วกลับไม่คิดงั้นเลยค่ะ ในความคิดของเท็ดดี้ตัวตนพีกลับยิ่งดูแต๋วแตกเข้าไปอีก การเล่นกันของผู้ชายแท้ๆ เนี่ย มันแต๋วขนาดนี้เลยเหรอ จริงๆ การเล่นกันของผู้ชายก็มีเยอะแยะที่เอามาเขียนได้ ไม่ว่าจะเป็นปาหมอน กระโดดถีบ ชกกันเล่น รัดคอ บลาๆ อะไรก็ว่าไป แต่นี่พี่สปายกลับเขียนให้งับคอ! เอ่อ...อึ้งจนพูดอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ไอ้การงับคอกันเนี่ย นอกจากแฟนกันแล้วก็ไม่มีเพื่อนหรือครอบครัวทำกันหรอกนะค่ะ เท็ดดี้เลยอยากให้แก้ตรงจุดนี้เพื่อให้เนื้อเรื่องดูสมเหตุสมผลและทำให้พีดูแมนขึ้นมานิดหนึ่งค่ะ

     

     

    ตัวละคร : นิยายเรื่องนี้มีตัวละครเยอะมากๆ ค่ะ และตัวละครแทบจะโผล่มาเกือบทุกตอน ส่วนมากเป็นตัวละครผู้หญิงด้วยนะ จนบางทีก็ทำให้เท็ดดี้สงสัยว่านี่เป็นนิยายพลังจิตหรือเป็นนิยายสร้างฮาเร็มกันแน่ ฮะแฮ่ม กลับมาเข้าเรื่องค่ะ การที่ตัวละครใหม่ๆ โผล่มาเกือบทุกตอน ทำให้ผู้อ่านจำตัวละครแต่ล่ะตัวได้ไม่หมดค่ะ แล้วยิ่งพี่สปายเขียนให้ตัวละครหายไปแล้วก็โผล่มาตอนหลังเนี่ย ยิ่งทำให้ผู้อ่านงงว่าตัวละครนั้นๆ เป็นใคร ทำให้ขาดอรรถรสในการอ่านไปค่ะ ส่วนตัวละครเท็ดดี้จะขอพูดถึงแค่พีเท่านั้นนะค่ะ เพราะตัวละครตัวอื่นถือว่าโอเคแล้วมีแต่พีนี่แหละที่ยังมีปัญหาอยู่นิดหน่อย

    พี ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง คาแร็คเตอร์ก็เหมือนพระเอกทั่วๆ ไปคือชอบช่วยเหลือคนอื่น มีน้ำใจ เป็นคนดีเวอร์ ซึ่งมันทำให้คาแร็คเตอร์ของพีไม่โดดเด่น ดูธรรมดาๆ ไปเลยค่ะ นอกจากนี้บางตอนเท็ดดี้อ่านแล้วก็รู้สึกว่าพีใจเย็นดีนะแต่บางตอนอ่านแล้วก็รู้สึกว่าพีใจร้อนและขี้โมโห(EP10) มันเลยทำให้คาแร็คเตอร์ของพีไม่คงที่ ทำให้ขาดความน่าสนใจไปค่ะ

     

    เพิ่มเติม

    ความสนุก : เนื่องจากพี่สปายอยากให้เน้นตรงส่วนนี้เพราะงั้นเท็ดดี้จะเขียนถึงความรู้สึกในแต่ล่ะตอนเลยนะค่ะ(แต่ไม่ทั้งหมดนะ)

    ตอนเปิดเรื่องอย่างที่บอกไปเท็ดดี้รู้สึกเฉยๆ ค่ะ ไม่สนุกและไม่อยากติดตาม แต่พออ่านไปเรื่อยๆ จนมาถึง EP4 จากที่ตอนก่อนหน้าไม่มีอะไรพอมาตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฉากต่อสู้ที่ใช้พลังจิต ทำให้เท็ดดี้เริ่มรู้สึกตื่นเต้นและสนุกขึ้นมาแล้วค่ะ พออ่านตอนนี้เท็ดดี้คิดว่าค่อยสมกับเป็นนิยายผจญภัยขึ้นมาหน่อยแล้วแต่พอมา EP6 กลับไม่มีฉากต่อสู้แล้ว ทำให้จากที่สนุกเริ่มมาเป็นเฉยๆ แล้วค่ะ อีก

     EP9 เป็นตอนไดอารี่ของพี เนื้อหาของตอนนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากพีเขียนบันทึกเป็นไดอารี่อธิบายถึงสิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้น ซึ่งเป็นตอนที่ถือว่าน่าเบื่อพอสมควร มีแต่น้ำไม่มีเนื้ออีกเช่นเคย ไม่มีเหตุการณ์สำคัญ ไม่มีฉากต่อสู้เกิดขึ้น มีแค่ความรู้สึกของพีล้วนๆ ทำให้เนื้อเรื่องจากที่ช้าอยู่แล้วก็ยิ่งช้าและเอื่อยยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

    EP13 เริ่มสู้กันแหละ เนื้อหาดูน่าสนใจขึ้นมาหน่อยแต่พอตอนต่อไปฉากต่อสู้ก็ไม่มีแล้ว จากที่สนุกอยู่ก็ไม่สนุกเหมือนเดิมค่ะ EP 16 พอพีเริ่มเข้าการ์เดี้ยน ความน่าสนใจเพิ่มขึ้นนิดหนึ่งเพราะเท็ดดี้คิดว่าตั้งแต่ตอนนี้ไปฉากต่อสู้จะต้องมีเยอะขึ้นแน่นอน แต่ว่าพอมาถึง EP 17 ที่มีฉากต่อสู้ ปรากฏว่าแมงมุมมันตายเร็วเกิ๊น จากที่กำลังได้ที่ก็ฟืบลงทันทีค่ะ

    ตอน 18 จากตอนต้นๆ ที่คิดว่าเมงุมิตายไปแล้วกลับยังมีชีวิตอยู่ซะงั้น แถมมามีร่างกายเป็นเครื่องจักรอีก ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจเลยค่ะ ทำให้นิยายเรื่องนี้ดูมีสีสันและน่าติดตามขึ้นค่ะแต่ก็อย่างที่บอกไปประเด็นนี้ยังไม่จบก็มีประเด็นใหม่ขึ้นมา ทำให้อารมณ์มันขาดตอนค่ะ

    สรุปจากที่เท็ดดี้อ่านมาตอนช่วงต้นๆ เรื่องจะรู้สึกเฉยๆ ค่ะ แต่ว่าจะมาสนุกก็ตอนที่มีฉากต่อสู้(ที่น้อยมาก)หรือมีเหตุการณ์หักมุมเกิดขึ้นค่ะ เพราะงั้นนิยายเรื่องนี้เลยไม่น่าติดตามเท่าที่ควรค่ะ ผู้อ่านส่วนใหญ่จะตัดสินใจจากการที่ได้อ่านตอนต้นๆ ทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าตอนต้นอ่านแล้วสนุกก็อ่านต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่สนุกก็ไม่อ่านต่อค่ะ ซึ่งถือว่าน่าเสียดายมากๆ ค่ะ เพราะถ้าพี่สปายเขียนเรื่องให้น่าสนใจกว่านี้หน่อย รับรองว่านิยายเรื่องนี้จะต้องมีคนอ่านเยอะแน่นอนค่ะ(ส่วนตัวเท็ดดี้ชอบพล็อตมากเลยนะ เกี่ยวกับพลังจิตเป็นอะไรที่น่าสนใจและน่าสนุกมากๆ เลยค่ะ) อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความสนุกลดลงคือการที่พี่สปายทำให้พีตัวเอกของเรื่องที่เป็นผู้ชายแท้ๆ ดูเหมือนตุ๊ดจนเกินไปค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนรอบข้างที่ใครก็ต่างคิดว่าพีเป็นผู้หญิง พฤติกรรมของทอมมี่ที่ดูแปลกๆ เหมือนกำลังจีบพีอยู่ หรือแม้แต่เจ้าตัวเองที่มีนิสัยบางอย่างเหมือนผู้หญิง ทำให้ตัวละครชายที่เป็นตัวเอกของเรื่องดูไม่น่าสนใจ อีกทั้งพี่สปายยังเขียนให้พีหน้าเหมือนผู้หญิง หลังๆ มีผมยาวเหมือนผู้หญิงและการใช้คำเรียกพีว่า สาวดุ้น ทำให้คนอ่านหลายๆ คนเลิกอ่านนิยายเรื่องนี้ไป จริงๆ การเขียนให้ตัวเอกที่เป็นผู้ชายหน้าเหมือนผู้หญิงหรือผมยาวเหมือนผู้หญิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะแต่มันแปลกตรงที่ สาวดุ้นนี่แหละ คำว่าสาวดุ้นคือผู้ชายแต่งหญิงที่น่ารักเหมือนผู้หญิง เท็ดดี้ก็เข้าใจนะว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เปิดกว้าง ทำให้ผู้ชายหลายคนหันมาชอบสาวดุ้นกันเยอะ แต่ก็มีผู้ชายอีกหลายคนเช่นกันที่ไม่ชอบสาวดุ้น พูดง่ายๆ ว่าถึงเราจะชอบแต่ก็มีคนที่ไม่ได้ชอบเหมือนเรานั่นเอง ยิ่งกับนิยายประเภทนี้ด้วยแล้วยิ่งเป็นเรื่องแปลกค่ะ เวลาเราจะเขียนอะไรก็ต้องนึกถึงคนอื่นด้วยนะค่ะว่าเขาจะชอบเหมือนเราไหม สิ่งที่เราเขียนไปจะทำให้คนอื่นสนใจไหม สิ่งที่เราคิดว่าจะสนุกคนอื่นจะคิดเหมือนเรารึเปล่า นี่แหละคือข้อยากของการเขียนนิยาย เพราะไม่ใช่เราสักแต่จะเขียนอย่างเดียว เราต้องเดาใจผู้อ่านด้วย ไม่งั้นนิยายของเราก็จะไม่น่าสนใจค่ะ

    เรื่องอื่นๆ: เท็ดดี้อ่านมาเจอเรื่องที่พี่สปายมองข้ามไปหรือลืมไปอยู่ด้วยค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องไหนเท็ดดี้ก็เขียนบอกไว้ด้านล่างแล้วค่ะ

    ใน EP3 ตอนจบพี่สปายเขียนไว้ว่าทอมมี่จะไปช่วยพี แต่พอเปิดไปอ่านตอนที่ 4 กับ 5 ก็ไม่เห็นทอมมี่จะโผล่มาช่วยเลย มีแต่ฉากต่อสู้ของพีทั้งนั้น โผล่มาอีกทีก็เป็นตอน EP6 ซึ่งเขาสู้กันเสร็จหมดแล้วและไม่มีการพูดถึงจุดนี้เลยว่าทำไมทอมมี่ไม่มา? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? เท็ดดี้เลยคิดว่าพี่สปายต้องลืมตรงส่วนนี้แน่ๆ เลยค่ะ เท็ดดี้เลยอยากให้พี่สปายระวังตรงจุดนี้นิดหนึ่ง เพราะถ้าสิ่งที่เราเขียนมาแล้วเราลืมเขียนถึงมันอีกครั้ง มันอาจจะทำให้เนื้อเรื่องดูรกได้ค่ะ

    EP10 ตอนที่พีคิดถึงบ้านแล้วพูดว่ามีของที่ต้องไปเอาอยู่ ของที่ต้องไปเอานี่คืออะไรเหรอคะ? เพราะไม่เห็นก่อนหน้านี้มีเกริ่นหรือพูดถึงเลย อยู่ๆ ก็โผล่มาเฉย แทบพอเท็ดดี้อ่านไปเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นมีการพูดถึงมันอีกเลย หรือเท็ดดี้อ่านข้ามไปหว่า

    สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าเท็ดดี้เป็นเพียงแค่นักอ่านคนหนึ่งที่พลันตัวมาเป็นนักวิจารณ์ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเชื่อคำพูดทุกคำของเท็ดดี้ก็ได้ค่ะ เท็ดดี้ขอแค่ให้พี่สปายเอาคำวิจารณ์ของเท็ดดี้ไปคิดทบทวนดูและลองปรับเปลี่ยนไปตามสไตล์ของตัวเองค่ะ เพราะต่างคนก็ต่างความคิดอยู่แล้ว เท็ดดี้อาจจะคิดอีกอย่าง คนอื่นอาจจะคิดอีกอย่างก็ได้ค่ะ และก็ถ้าคำวิจารณ์ของเท็ดดี้แรงเกินไปก็ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ แค่นี้แหละค่ะ

    P.S.เนื่องจากคำวิจารณ์มันยาวเกินไป เท็ดดี้เลยไม่ได้เอาไปลงที่กล่องวิจารณ์นะค่ะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ




    วิธีเซ็นรับก็ง่ายค่ะๆ เพียงแค่พี่สปายคอมเม้นอะไรก็ได้
    ไม่ว่าจะเป็นคำติชม คำแนะนำหรือความรู้สึกที่ได้อ่านคำวิจารณ์
    เท็ดดี้แค่อยากฟังความคิดเห็นแค่นั้นค่ะ
    อ๋อ แล้วก็ถ้าช่วยแปะแบนเนอร์โฆษณาให้จะดีมากเลยค่ะ(ไม่บังคับนะ)





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×