ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #36 : ข้อมูลสำคัญ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.76K
      2
      28 เม.ย. 48





                                   หมายเหตุ     เขียนวันที่ 28 เม.ย. 48               หนัก 81.5 กิโลกรัม





                                   ตกลงว่าสูตรเกาเหลาโฟช่วยชีวิตนี่ได้ผลเหมือนกันนะครับ  อย่างน้อยก็ช่วยดึงลงจาก 82 กิโลฯได้ เอาเป็นว่าถ้าช่วงไหนน้ำหนักคงที่ก็คงต้องใช้วิธีลดคาร์โบไฮเดรต แล้วออกกำลังกายพอประมาณครับ



                                   ไอ้เจ้าคาร์โบไฮเดรตนี่ก็เป็นที่ถกเถียงของนักวิชาการเหมือนกันนะครับ เท่าที่ผมทราบมาจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ  กลุ่มแรกแนะว่าให้งดพวกข้าวหรือแป้งไปเลย แล้วหันไปกินผักเยอะๆ เพราะเราจะได้คาร์โบไฮเดรตจากผักเพียงพออยู่แล้ว ส่วนกลุ่มที่ 2 แนะว่ายังไงๆก็งดข้าวไม่ได้ครับ เพราะข้าวจำเป็นมาก ถ้างดไปอาจก่อให้เกิดผลเสียได้ในระยะยาว ฟังไปฟังมาก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดีครับ แต่การลดน้ำหนักนั้นรอไม่ได้ ผมก็เลยใช้วิธีว่า งดคาร์โบไฮเดรตในช่วงแรกประมาณ 10 กว่าวัน พอออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ก็ค่อยๆเพิ่มคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น และถ้าถึงช่วงที่น้ำหนักตัวเริ่มจะคงที่ก็อาจงดคาร์โบไฮเดรตอีกครั้งเพื่อที่จะดึงให้น้ำหนักตัวลดลงมา งดในแต่ละครั้งก็ไม่ควรนานเกินไป จะให้ดีไม่ควรเกิน 5 วัน แล้วมีคนแนะอีกว่า ช่วงที่งดคาร์โบไฮเดรตควรดื่มน้ำเยอะๆ เพราะมันช่วยกำจัดสารพิษที่อาจจะมีออกมาได้ การทำแบบนี้น่าจะลงตัวที่สุดแล้วนะครับ อย่างน้อยก็เท่าที่คิดออกในตอนนี้



                                   ส่วนข้อมูลสำคัญอีกข้อมูลหนึ่งก็คือสิ่งที่ผมบอกไปว่า ผมไม่ได้ต้องการเพียงแค่ลดน้ำหนักอย่างเดียว แต่ต้องการเช็คสุขภาพของตัวเองด้วย แต่ก็อย่างที่เคยบอกครับว่า พอลดจนครบ 4 เดือนผมถึงจะหาเวลาไปเช็คสุขภาพครั้งใหญ่ ส่วนในช่วงที่กำลังจะครบ 3 เดือนนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าเราจะเช็คสุขภาพของเราอย่างไรดี พอดีมีคนแนะนำการเช็คโดยใช้เครื่อง BioPhotonic Scanner ผมก็เลยลองดู เห็นบอกว่าเพียง 5 นาทีก็ทำให้ทราบผลอะไรบางอย่างได้ ค่าของการวัดที่ได้แปลผลได้ดังนี้ครับ



    น้อยกว่า 10000      น่าจะกำลังเป็นโรคเรื้อรังบางอย่าง สุขภาพไม่ค่อยจะดี ควรไปปรึกษาแพทย์เป็นการด่วน

    10000-19000        ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง น้ำหนักตัวมากไปหรือน้อยไป เครียด นอนดึก การดูดซึมมีปัญหา

    20000-29000        พักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ สิ่งแวดล้อมไม่ค่อยดี ไม่ค่อยออกกำลังกาย

    30000-39000        ดูแลสุขภาพดีในระดับหนึ่ง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานผักและผลไม้เยอะ

    40000-49000        มีพฤติกรรมการกินที่ดีและออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีระเบียบวินัยในการดูแลสุขภาพดี

    มากกว่า 50000      เป็นคนที่ดูแลสุขภาพอย่างจริงจังมาเป็นเวลานาน



                                   ตอนแรกผมยังไม่ค่อยเข้าใจหลักการทำงานของเจ้าเครื่องนี่หรอกครับ เลยชวนพี่คนหนึ่งเขาไปตรวจด้วย เขาเป็นคนที่น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและดูแลสุขภาพมาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว ส่วนผมเพิ่งจะทำเพียง 3 เดือนครับผม จริงๆแล้วผมชวนพี่เขาไปเช็คด้วยเพื่ออยากจะดูผลเปรียบเทียบกับผมเพื่อเช็คความน่าเชื่อถือของเครื่องอีกชั้นหนึ่ง น้องๆที่เรียนวิทยาศาสตร์มาคงรู้นะครับว่าผมต้องการเช็คอะไร  ตอนวัดผมก็ให้พี่เขาวัดก่อนครับ ผลออกมาคือพี่เขาได้ 70000 ถือว่าสุขภาพดีตามที่เขาปฏิบัติเป๊ะเลย พี่เขาอายุมากแล้วครับ ประมาณ 40 กว่า   ส่วนผม 33 ครับ ผมวัดได้ค่า 12000 ซึ่งก็สมเหตุสมผลดี เพราะถึงจะหนัก 81.5 กิโลฯ แต่มันก็ยังเกินมาตรฐานอยู่ดี ก็ต้องลดต่อไปครับ ผมกะว่าอีก 1 เดือนผมจะวัดใหม่ แล้วหลังจากนั้นก็จะไปตรวจร่างกายครั้งใหญ่สักรอบหนึ่ง



                                   ผมคุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องนี้ แล้วถามเขาว่า ถ้าผมยังหนัก 107 อยู่ ผมน่าจะได้ค่าประมาณเท่าไหร่ เขาตอบว่าน่าจะน้อยกว่าหมื่น เพราะเท่าที่คุยกับผม เขาทราบว่าผมมีอาการบางอย่างแสดงให้เห็นแล้ว ผมเองมานั่งวิเคราะห์ดู ตอนที่ผมยังหนัก 107 อยู่ผมก็รู้สึกว่าเริ่มอ่อนแอและเริ่มรู้สึกเพลียๆเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ขึ้นบันได 3 ชั้นยังไม่ได้เลย ผมบอกเขาไปว่า 3 เดือนที่ผ่านมาผมทำอะไรมาบ้าง เขาวิเคราะห์แล้วให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านั้นผมน่าจะได้ค่า น้อยกว่า 10000 พอผมมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆทั้งการกินและออกกำลังกาย ก็มีผลทำให้ผมได้ค่าประมาณ 12000 เขาเลยสรุปว่า ร่างกายของผมกำลังฟื้น น่าเสียดายที่ผมไม่ได้วัดตั้งแต่ทีแรก แต่มาวัดเอาตอนนี้ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ได้ค่าไม่ต่ำกว่า 10000 ก็บุญโขแล้วครับ เอาไว้พอผมออกจากโปรแกรมเมื่อไหร่ ผมจะไปเช็คสุขภาพครั้งใหญ่อีกที



                                   มีเพื่อนผมคนหนึ่งเขาฝากมาบอกว่ามีหนังเรื่องหนึ่งที่เขาชอบมากคือเรื่อง Superside me เป็นหนังที่มีผู้ชายคนหนึ่งเขาลองกินอาหารฟาสฟู๊ดพวกเบอร์เกอร์และเฟรนฟรายต่างๆ เวลาเขาซื้อและพนักงานบอกว่า \"เพิ่ม 5 บาทได้น้ำแก้วใหญ่\" เขาก็จะตกลงทันที เขาทำอย่างนี้เป็นเดือน อาจจะหลายเดือน แล้วก็กินแบบนี้ทุกมื้อ พอไปเช็คสุขภาพแพทย์พบว่า ร่างกายของเขากำลังย่ำแย่มากๆ ต้องรีบแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เขาลงทุนทำอย่างนี้ไปทำไมก็ไม่ทราบ แต่เพื่อนผมบอกว่า ผมกำลังทำในสิ่งที่สวนทางกับผู้ชายในหนังเรื่องนี้ คือเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและเพิ่มการออกกำลังกาย ให้น้ำหนักลดแล้วก็ไปเช็คสุขภาพ ถ้าผมเลือกได้ผมก็คงเลือกในสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ทำแบบเขาผมไม่กล้าเสี่ยงหรอกครับ เพื่อนผมบอกว่า คนที่อ่านบทความของผมแล้วถ้าได้ดูหนังเรื่องนี้ไปด้วย จะรู้ซึ้งถึงคำว่า สุขภาพและการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างดีทีเดียว



                                   ผมเองก็ยังไม่ได้ดูครับ ตอนนี้กำลังจะหามาดูเหมือนกัน จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ ที่บอกไปนี่ ไม่มีผลประโยชน์เชิงธุรกิจมาเกี่ยวข้องนะครับ เพียงแต่มีคนแนะมาว่า ถ้าดูหนังเรื่องนี้และอ่านบทความของผมไปด้วย คุณจะรู้เลยว่า \"สุขภาพ\" มีความสำคัญต่อคุณมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายด้วย ถ้ามีเวลาก็ลองหาหนังเรื่องนี้มาดูกันนะครับ หลายคนบอกว่าเป็นหนังสารคดีเรื่องเยี่ยมเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ผมอะเป็นห่วงผู้ชายในหนังมากๆเลย ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้...





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×