ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #25 : ความลับของการเผาผลาญพลังงาน ( 4 )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.3K
      4
      11 เม.ย. 48







                                      หมายเหตุ   เขียนวันที่ 11 เม.ย.  48      หนัก  84  กิโลกรัม







                                     แล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ครับ วันที่ 70 ของการเข้าโปรแกรมที่ผมเซ็ตขึ้นมาเอง  ช่วงนี้ก็ค่อนข้างตื่นเต้นครับ  เพราะดูจากตัวเลขแล้ว ผมก็ใกล้เข้าสู่น้ำหนัก 2 หลัก ที่ขึ้นต้นด้วยเลข 7 แล้ว ไม่เคยสัมผัสมันมา 15 ปีได้แล้วมั้ง แล้วก็ไม่เคยคิดด้วยว่า ชีวิตนี้จะได้มีโอกาสหนัก 70 กว่า ตอนนี้ก็เป็นแค่โอกาสครับ ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงเมื่อไหร่ ช่วงนี้ยังไม่เจอปรากฏการณ์น้ำหนักตัวคงที่ครับ  ความอร่อยที่ตามมาหลอกหลอนก็ไม่ได้ตามมาราวีอีกเลย ตั้งแต่วันที่ 55 จนถึงวันนี้ ก็ไม่ได้โผล่มาให้เห็น มีแต่ความอยากเล็กๆน้อยๆครับ ซึ่งผมก็ได้จัดการมันไปแล้วด้วยการกินอย่างเป็นระบบครับ



                                    ขอเล่าเรื่องเมื่อวานก่อนดีกว่า เมื่อวานหนัก 84.5 กิโลกรัมครับ  เมื่อวานผมตื่นแต่เช้ามากินโจ้กหมูใส่ไข่ แต่ตอน 10 โมงมีนัดไปทำฟันครับ พอทำฟันเสร็จถึงเที่ยง พอตอนเที่ยงก็ยังไม่สามารถกินอาหารได้ เลยเข้าไปดูหนัง พอตก 4 โมงเย็นก็คิดว่าฟันคงดีแล้ว น่าจะกินข้าวได้แล้ว แต่ก็มานั่งคิดว่าจะกินดีไม่กินดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกินครับ เพราะว่าตอนเย็นก็ต้องออกกำลังกายด้วย เย็นวานผมตัดสินใจกินข้าวมันไก่ แต่ที่ร้านเขาให้ไม่เยอะครับ เลยต้องสั่งเส้นหมี่น้ำมาเพิ่ม แล้วก็ปิดท้ายด้วยการกินเฟรนฟรายห่อเล็กครับ ไม่ได้กินมานานมากแล้ว เลยต้องไปเยี่ยมเยียนกันหน่อย พอตกเย็นก็เดินออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีครับ พอกลับถึงบ้านก็ต่อด้วยเดินขึ้น-ลงบันได จริงๆต้องบอกว่าถ้าเดินขึ้นลงบันไดเฉยๆคงเบื่อเอาการ แต่เทคนิคของผมคือ เปิดเพลงไปด้วยครับ ซีดีแผ่นนี้ผมก็ได้มาตอนกินข้าวเที่ยงแถวที่ทำงาน ได้มาหลายวันแล้วครับ มีเซลล์มาขายซีดีถึงโต๊ะกินข้าวเลยทีเดียว เขาบอกว่าเป็นเซลล์จากแกรมมี่มาขายซีดี ตอนแรกก็งงครับว่ามีบริการแบบนี้ด้วยเหรอ ผมได้ชุด sleepless society มาหนึ่งชุดครับ ปกติก็เป็นคนที่ชอบฟังเพลงช้าๆซึ้งๆอยู่แล้ว กะว่าจะเอามาเปิดตอนที่เดินขึ้นลงบันไดเพื่อไม่ให้มันเบื่อ



                                   ผมก็เปิดคลอมาหลายวันแล้ว ตอนนี้จะเปรียบไปก็เหมือนตอนที่พาฟลอฟสั่นกระดิ่งแล้วสุนัขน้ำลายไหลเลยครับ เพราะตอนอินโทรของเพลง\"ไม่หลับไม่นอน\"ของคุณมาช่าดังขึ้น ผมก็เริ่มออก start ทันที แล้วก็เดินขึ้นลงบันไดไปด้วยความสุขครับ เพลง\"ไม่หลับไม่นอน\"ก็เหมาะกับเหตุการณ์พอดี ไม่ได้ไม่หลับไม่นอนเพราะคิดถึงใครนะครับ แต่ไม่หลับไม่นอนเพราะกำลังออกกำลังกายอยู่ เดินอยู่ประมาณ 30 นาทีเหงื่อก็โชกแล้วครับ คงเป็นเพราะว่าผมเดินเร็วขึ้นด้วย เหงื่อออกตั้งแต่นาทีที่ 5 แล้วครับ แล้วก็ค่อยๆไหลทะลักจนนาทีที่ 30 เสื้อก็เปียกโชกเลย เปียกพอๆกับเอามันไปจุ่มน้ำแล้วเอามาบิดหมาดๆ พอตื่นมาตอนเช้าน้ำหนักของผมก็เหลือ 84 พอดีเป๊ะ



                                   เรื่องที่น้ำหนักของผมลงได้วันละครึ่งโลในช่วงปกตินั้น (หมายถึงช่วงที่ไม่ได้โดนปรากฏการณ์น้ำหนักคงที่มาจู่โจม) เพื่อนบางคนก็บอกว่ามันเป็นไปได้ยังไง ผมอ้วนเพราะบวมน้ำรึเปล่า ผมก็คิดว่ามันจะเป็นน้ำทั้งหมดได้ยังไง มาถึงวันนี้ก็หายไป 23 กิโลกรัมแล้ว แถมพุงก็หายไปด้วย ผมลืมบอกไปว่าเมื่อคืนผมลอง ซิสอัพกับวิดพื้นด้วย หลังจากที่ไม่เคยทำเลยตั้งแต่เรียนจบ ร.ด.ปี 3 เมื่อคืนซิพอัพได้ 20 ครั้ง ส่วนวิดพื้นได้แค่ 10 ครั้งครับ เพราะข้อคงไม่ค่อยได้บริหารสักเท่าไหร่ งานหนักสุดก็คือใช้นิ้วกดที่คีบอร์ด ผมกะฉลองการอยู่ในโปรแกรมครบ 70 วันด้วยการเพิ่มซิสอัพและวิดพื้นก่อนที่จะเดินขึ้นลงบันไดครับ ตอนนี้ถือว่าติดแล้ว ถ้าก่อนนอนเหงื่อไม่ออกเลยนี่ มันหงุดหงิดเป็นบ้าเลย มีผู้ใหญ่บางท่านแนะนำมาว่าน่าจะเพิ่มนั่งสมาธิก่อนนอนจะได้บำรุงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวครับ แต่ผมคงไม่เริ่มในเร็ววันนี้ครับ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง



                                   พอพูดถึงเรื่องใจแล้วเนี่ย ถึงจะไม่ค่อยมีหนังสือเล่มใดเขียนไว้อย่างชัดเจนหรืออาจจะไม่มีงานวิจัยใดๆมารองรับ แต่ผมคิดว่าการที่เราออกกำลังกายด้วยความสุขมันน่าจะมีส่วนช่วยในการเผาผลาญบ้างล่ะน่า ที่แล้วมาก็เคยได้ยินเหมือนกันนะครับว่าถ้าเรามีความสุขจะทำให้ภูมิคุ้มกันของเราดี และก็มีเอนดอร์ฟีนหลั่ง ระบบต่างๆก็ได้ดุลยภาพ แต่ถ้าเครียดระบบต่างๆมันก็จะปั่นป่วน ตัวอย่างง่ายๆคือคนที่ชอบเครียดบ่อยๆมักจะเป็นโรคกระเพาะ อย่างของผมเองตอนนี้ที่เดินขึ้นลงบันไดและเปิดเพลงฟังไปด้วยนี่ มันช่างเป็นเวลาที่มีความสุขเป็นบ้าเลย เพลงที่ผมชอบมากที่สุดตอนนี้ก็คือเพลง \"ไม่หลับไม่นอน\" กับ \"เรื่องบนเตียง\" ผมว่าเพลงนั้นช่วยทำให้ผมเดินขึ้นลงบันไดได้อย่างมีชีวิตชีวามากขึ้นและทำให้สามารถเดินได้ถึงครึ่งชั่วโมงอย่างมีความสุข พอครบครึ่งชั่งโมงทีไรก็จะเกือบจบเพลงที่ 7 พอดี ตอนนี้ก็เลยยังไม่เปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายครับ ยังยึดเดินขึ้นลงบันไดเป็นหลักเพราะถือเป็นการเผาผลาญที่ยังมีประสิทธิภาพอยู่ และถ้าผมเดินเร็วขึ้นมันก็จะยิ่งดี หลังจากเดินเสร็จพักนิดนึงแล้วก็อาบน้ำ พอถึงเวลานอนมันก็จะหลับยาวเลยครับ ยาวถึงเช้าเลย ถือเป็นการนอนที่เต็มอิ่มเอามากๆ  ที่อยากจะบอกอีกอย่างคือถึงวันนี้ 70 วันแล้วท้องไส้ผมไม่เคยผูกหรือเสียเลย มันเป็นปกติมากๆ ผิดกับเมื่อก่อนตอนที่ยังกินเยอะอยู่ ตอนท้องผูกก็ผูกซะ ตอนเสียก็เสียซะ อืม...ท้องไส้ปกติไม่ค่อยมาเยือนครับ  แสดงว่าการกินอาหารให้พอดี ออกกำลังกายอย่างมีความสุข มันช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายมากจริงๆเลยครับ



                                   เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องขอตัวไปออกกำลังกายต่อครับ วันนี้อาจจะรายงานแบบเบาๆนะครับ เพราะ 2 ตอนที่ผ่านมาดูจะเต็มไปด้วยข้อมูลเชิงวิชาการเดี๋ยวท่านที่ติดตามอ่านตลอดก็จะพาลเบื่อเอา ตอนนี้ก็ต้องมาคอยลุ้นกันครับว่าผมจะเข้าสู่หลัก 79 วันไหน แล้วจะมีอุปสรรคอะไรมาขวางกั้นอีกรึเปล่า ถ้ามี...ผมจะหาทางแก้ปัญหาได้หรือไม่ ถ้าอยากรู้ก็ต้องติดตามในตอนต่อไปครับ (พูดอย่างกับเป็นตอนต่อไปของละครเลยเนอะ) วันนี้ต้องขอลาแค่นี้ก่อนครับ สวัสดีครับ...





      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×