ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #2 : การปรับทัศนคติและหาแรงบันดาลใจ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.77K
      11
      22 มี.ค. 48





                             หมายเหตุ   เขียนวันที่ 22 มี.ค. 48   หนัก  88.7  กิโลกรัม





                             ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดตอนที่ผมเริ่มลดน้ำหนักจริงๆ ต้องขอกล่าวถึงเรื่องแรงบันดาลใจก่อน เพราะเรื่องนี้เพื่อนของผมหลายคนกล่าวว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุด ถ้าไม่มีแรงบันดาลใจที่ดี การลดน้ำหนักอาจไม่ประสบผลสำเร็จ



                             สำหรับตัวผมเองนั้น ผมบอกตรงๆว่าผมทำเพื่อคนๆหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ห่วงใยสุขภาพของผมมาก และเขาก็เป็นคนที่ผมรู้สึกดีด้วยเป็นอย่างมาก เรารู้จักกันประมาณปลายเดือนมกราคม 47 และบังเอิญเขาเกิดเดือนมิถุนายน  เมื่อปีที่แล้วผมก็พาไปฉลองวันเกิดที่ตึกใบหยก แล้วก็มีของขวัญพิเศษให้อีกมากมาย แต่พอมาถึงวันนี้ผมคิดว่าอยากจะทำอะไรบางอย่างที่เป็นการพิสูจน์ว่าผมรู้สึกดีกับเขาจริงๆนะ และสิ่งที่ผมคิดก็คือผมควรทำอะไรบางอย่างที่คนรอบข้างผมทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่าเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถจะทำได้แน่ๆ แล้วผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า \"ลดน้ำหนักก็แล้วกัน\"



                             แล้วมันก็เป็นสิ่งที่เค้าเองก็เคยพูดให้ผมฟังบ้างแต่ไม่บ่อยนักว่าห่วงสุขภาพของผม และถ้าผมยังกินแบบนี้ต่อไปอีกไม่นานผมต้องหนัก 120 กิโลเป็นแน่ แล้วพออายุมากขึ้นเรื่อยๆ การลดน้ำหนักมันก็จะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็เลยตกลงว่าผมจะลดน้ำหนักเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้เขาในเดือนมิถุนายนปีนี้ ผมคิดว่าคงต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ก็เลยตกลงเริ่มเดือนแรกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และมันก็ถือว่าเป็นเดือนแห่งความรักซะด้วย มันมีความหมายว่าเราอยากจะลดน้ำหนักเพื่อไม่ให้เราเสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บ จะได้มีชีวิตอยู่เห็นหน้าใครบางคนให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้



                            เพื่อนหลายคนที่ทราบแรงบันดาลใจของผม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเป็นแรงบันดาลใจที่แข็งเอามากๆ ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ พอมาถึงวันนี้แล้วนึกย้อนกลับไป ผมคิดว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากลดน้ำหนักนั้นมันสำคัญมากจริงๆ เพราะฉะนั้นผู้ที่อยากลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก่อนอื่นเลยต้องหาแรงบันดาลใจที่แข็งพอสมควรให้กับตัวเองซะก่อน ซึ่งมันก็จะแตกต่างกันไปตามเพศ วัยและบุคคล แต่ถ้าคุณหาเจอ เรื่องลดน้ำหนักมันจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายลง



                            พอผ่านเรื่องแรงบันดาลใจก็ต้องมาถึงเรื่องการปรับทัศนคติการเป็น\"นักกิน\"ของผม ผมคิดว่าที่ผมได้กินอาหารที่คาลอรี่สูงมาเป็นเวลา 10 กว่าปี พอถึงช่วงนี้วัยนี้ก็ควรที่จะหันมากินอาหารที่มีคาลอรี่ต่ำบ้าง ถ้าไม่ปรับแบบนี้มันดูเหมือนกับว่าไม่ใช่\"นักกิน\"ที่แท้จริงเพราะผมเล่นกินแต่เบเกอรี่ ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ไอศครีม และอีกหลายๆอย่าง แต่อาหารอีกประเภทหนึ่งคือพวกเกาเหลา ส้มตำ สลัด ยำปลาทู น้ำพริกผักต้ม และอื่นๆอีกมากมายที่นับว่าเป็นอาหารที่มีรสชาติดีและน่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก ผมก็ยังไม่เคยกินอย่างจริงๆจังๆเลย และถึงเวลาแล้วที่\"นักกิน\"อย่างผมต้องหันมาลิ้มลองอาหารอีกหมวดหนึ่งดูบ้างและต้องเป็นการลิ้มลองที่มีสีสันด้วย ปัญหาต่อมาคือเราจะหันมาทานอาหารหมวดนี้ให้มีสีสันได้อย่างไร ซึ่งผมจะลงรายละเอียดในตอนที่ผมเริ่มต้นโปรแกรมเลยก็แล้วกัน



                            หลังจากเรื่องแรงบันดาลใจและทัศนคติแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อมาที่ผมคิดได้คือการประกาศให้คนรอบข้างได้รับรู้ว่าต่อไปนี้ผมจะเริ่มลดน้ำหนักแล้วนะ การประกาศตรงนี้นับว่าสำคัญมากจริงๆ แต่มันต้องค่อยๆประกาศไปเป็นขั้นเป็นตอนจนคนรอบข้างของผมรับรู้โดยทั่วกัน เพราะผมคิดว่าการที่ผมอ้วนมาได้ถึงขนาด 107 กิโลเนี่ยมันไม่ใช้ความต้องการของผมคนเดียว แต่คนรอบข้างมีส่วนผลักดันด้วย เช่น ที่เห็นได้ชัดคือตอนที่ไปงานเลี้ยง เวลาที่อาหารเหลือหลายจาน หลายคนบนโต๊ะต่างเหมาเอาว่า ผม คนที่หนัก 107 กิโล จะต้องเป็นคนที่จัดการอาหารทุกอย่างที่เหลือเพราะดูจากรูปร่างแล้วน่าจะเป็นคนที่กินเก่งที่สุด และผมเองก็ยอมที่จะรับหน้าที่ตรงนั้น แต่ตั้งแต่ 1 ก.พ. 48 นี้เป็นต้นไป ผมจะไม่ยอมอีกต่อไป



                            สิ่งที่ผมนึกขึ้นมาได้คือมันต้องใช้คำพูดที่ทำให้เห็นเด่นชัดว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมเลยนึกถึงคำๆหนึ่งได้คือ \"ผมกำลังอยู่ในโปรแกรม\" ผมว่าคำนี้ก็เป็นคำที่บอกให้คนรอบข้างรับรู้โดยทั่วกันว่าเรากำลังจะทำอะไร แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือก่อนพูดออกไปคุณต้องแน่ใจแล้วว่าคุณต้องการที่จะลดน้ำหนักจริงๆ เพราะถ้าพูดออกไปแล้วทำได้แค่ 3 วัน และหันกลับมามีพฤติกรรมการกินเหมือนเดิม คุณอาจสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะทำได้ตลอดก็ไม่ควรประกาศออกไป เพราะมันจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี แต่ถ้าคุณแน่ใจแล้วว่าน่าจะทำได้ ก็ประกาศออกไปได้เลยว่า \"ผมกำลังอยู่ในโปรแกรมลดน้ำหนัก\" แล้วคนอื่นก็พร้อมที่จะช่วยคุณแบบที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน อันนี้เป็นเทคนิคที่คุณเปลี่ยนคนรอบข้างจากที่เคยสนับสนุนให้คุณอ้วน เป็นฝ่ายสนับสนุนให้คุณผอมแทน เหมือนการใช้คนรอบข้างเป็นที่ปรึกษาในการลดน้ำหนักแบบไม่เป็นทางการ และการใช้เทคนิคแบบนี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ต้องลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว



                            ถ้า\"แรงบันดาลใจ ทัศนคติ และการตั้งใจที่จะประกาศให้คนรอบข้างรับรู้ว่าคุณกำลังจะลดน้ำหนัก\"ของคุณพร้อมแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ เดินไปที่ห้างแล้วซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักมาเก็บไว้ที่บ้าน เพราะว่ามันจำเป็นมากทีเดียวครับ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×