ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิทยานิพนธ์ดาร์คแลนด์

    ลำดับตอนที่ #4 : ปริญญาตรี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 95
      0
      30 มี.ค. 57

    คณะแพทย์ศาสตร์





    ส่งอาจารย์
    ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์แพทรา เวชยา


    ...................................................................



    บทนำ

    บทที่1

     
    ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

                สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ประกอบด้วยธาตุต่างๆ มีทั้งธาตุประกอบ และธาตุบริสุทธิ์ ธาตุที่สำคัญคือธาตุคาร์บอน  และเมื่อสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ยังมีคู่ปรับที่ทำให้ธรรมชาติสมดุล ไม่ให้มีมากจนเกินไป แล้วคู่ปรับนั้นจะต้องทำให้สิ่งชีวิตอ่อนแอลง และตาย  แต่ในเมื่อมีมากขึ้น เยอะขึ้น ประกอบด้วยอุณหภูมิ ธาตุ และแบคทีเรียอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่รวมกัน หรือผสมกันข้ามสายพันธุ์ ทำให้เกิดแบคทีเรีย ไวรัส ที่ร้ายแรงกว่าเดิม และพวกเราเรียกว่า"เชื้อโรค"
                มนุษย์บนโลกนี้พยายามจะต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้ตั้งแต่สมัยอดีตกาล ตั้งแต่การวิจัยจนถึงปัจจุบัน จนมนุษย์สามารถทำ"วัคซีน" ซึ่งสกัดมาจากเชื้อโรคที่ตายไปแล้ว ฉีดเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เพื่อให้เม็ดเลือดขาวดักจับ จดจำเชื้อนี้ เมื่อเชื้อนั้นเข้าสู่ร่างกายจริงๆ ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อโรคนั้นได้
    ทั้งนี้นอกจากเชื้อโรคแล้ว ยังมีสารเคมใีต่างๆไม่ว่าจากพืช สัตว์ หรือมนุษย์ ที่เราเรียกว่า"พิษ" เช่น พิษงู พิษแมลง พืชที่มีพิษเช่น มะม่วงหิมพานต์ดิบ เม็ดผักหวานบ้าน ซึ่งคนสมัยก่อนสามารถแก้ได้และไม่ได้ 
                ทั้งนี้ การศึกาาในครั้งนี้ ถือเป็นการวิจัยในเรื่องที่เกี่ยวกับโรคระบาดที่อยู่ในดาร์คแลนด์ ซึ่งจากการสำรวจและสังเกตแล้ว พบว่า โรคที่เป็นมากที่สุดคือ โรคซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ และโรคเบื่ออาหาร ในการศึกษาในครั้งนี้จะขอทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับ

    วัตถุประสงค์ของงานวิจัย
    1.เพื่อสำรวจโรคที่เป็นมากที่สุดในดาร์คแลนด์
    2.เพื่อศึกษาโรคที่เป็นมากที่สุด
    3.เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาและแก้ปัญหา

    ขอบเขตในการวิจัย
    1.  การศึกษาครั้งนี้มุ่งศึกษาลักษณะ พฤติกรรมส่วนใหญ่ จากการสังเกต
    2.  ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยข้อที่  1-3
    3.  ศึกษาที่อาณาจักรดาร์คแลนด์

    ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
     1.จากงานวิจัยในครั้งนี้สามารถนำไปศึกษา บันทึกปัญหาของโรคนั้นได้
     2.สามารถนำไปแก้ปัญหาโรคนี้ให้หายได้

    เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

      1.โรคนอนไม่หลับ
      2. สมุนไพร
    .........................................................................................





    บทที่2
     
    ตอนที่1
      โรคนอนไม่หลับคืออะไร?

     


     
    โรคนอนไม่หลับ (Insomnia) (First)
     อาการ นอนไม่หลับ เองก็มีหลายรูปแบบ ไล่มาตั้งแต่เข้านอนแล้วหลับยาก หรือตื่นกลางดึกแล้วหลับต่อไม่ได้ หรือตื่นเช้ามืดกว่าปกติแล้วหลับต่อไม่ได้ หรือหลับๆ ตื่นๆ
     
              ทั้งผู้ที่ นอนไม่หลับ หรือหลับได้ไม่เพียงพอ มักจะมีอาการอ่อนเพลียในตอนกลางวัน สมองไม่ปลอดโปร่ง อาจหงุดหงิด อาจง่วงซึม หรือหลับมากในตอนกลางวัน ประสิทธิภาพในการเรียน ในการทำงานมักจะลดลง นอกจากนี้อาจมีอาการของโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของอาการ นอนไม่หลับ ด้วย เช่น ตอนกลางคืนนอนกรนเสียงดัง หรืออาจหยุดหายใจเป็นพักๆ หรืออาจมีอาการของโรคซึมเศร้า คือรู้สึกซึมเศร้า เบื่อหน่าย  ท้อแท้ หดหู่ เบื่ออาหาร เบื่อชีวิต คิดอยากตาย
       โดยทั่วไปแล้วเราพอจะสรุปถึงสาเหตุของโรค นอนไม่หลับ ได้อย่างง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
     
              1. เป็นความผิดปกติในตัวคนนั้นเอง เช่น เคย นอนไม่หลับ อยู่ช่วงหนึ่ง  ต่อมาจะกังวลว่าคืนนี้จะหลับหรือไม่หลับ ทำให้ นอนไม่หลับ หรือมีอาการ นอนไม่หลับ ขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่พบ หรืออาจสัมพันธ์กับการนอนกรนบางอย่างได้  
     
              2. เป็นจากความผิดปกติภายนอก เช่น เกิดเรื่องราวทำให้เครียด สภาพแวดล้อม ในการนอนไม่ดี หรือเกี่ยวข้องกับการติดยาหรือสารบางอย่าง เช่น เหล้า หรือยานอนหลับ เป็นต้น
     
              3. เป็นอาการหนึ่งของโรคทางจิตเวชหรือโรคทางกาย เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า ที่มีอาการท้อแท้ เบื่อหน่ายชีวิต เบื่ออาหาร ความจำไม่ค่อยดี อ่อนเพลียร่วมด้วย โรคถุงลมโป่งพองหรือโรคสมองเสื่อม เป็นต้น
     
              ส่วนประเภทของโรค นอนไม่หลับ นั้น เราแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ค่ะ
     
              ก. การนอนไม่หลับ แบบชั่วคราว : ลักษณะนี้หมายถึง นอนไม่หลับ ติดต่อกันเป็นหลายวัน แต่ไม่ถึงหลายสัปดาห์ คนไม่น้อยอาจจะเคยประสบกับปัญหาเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความเครียดหรือความกังวลใจต่อเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เช่น ทะเลาะกับเพื่อนหรือแฟน, มีปัญหากับที่ทำงานหรือใกล้ๆ วันสอบหรือวันที่ต้องมีธุระสำคัญ เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วอาการจะดีขึ้นเองภายในไม่กี่วัน หรือในบางรายอาจต้องใช้ยานอนหลับช่วยในระยะสั้นๆ พออาการดีขึ้นก็หยุดยาได้
     
              ข. การนอนไม่หลับ แบบระยะต่อเนื่อง : หมายถึง อาการ นอนไม่หลับ ที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัปดาห์ๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายหรือดีขึ้น ส่วนใหญ่มักเป็นผลจากความเครียดหรือเหตุการณ์ที่ทำให้เครียดนั้นยังไม่คลี่คลาย เช่น การ ตกงาน, ปัญหาเศรษฐกิจเงินทอง รวมถึงปัญหาครอบครัว โดยทั่วไปถ้าปัญหาต่างๆ ได้รับการคลี่คลาย การนอนหลับก็มักจะกลับมาเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีผู้ที่มีอาการเหล่านี้ ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์ว่า มีแนวทางอย่างไรที่จะช่วยปัญหาการนอนหลับของตน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื้อรัง ดังในกลุ่มถัดไป
     
              ค. การนอนไม่หลับ แบบเรื้อรัง: คนกลุ่มนี้จะมีปัญหาในการ นอนไม่หลับ อย่างต่อเนื่องเกือบทุกคืน ติดต่อกันหลายเดือน หรือแม้กระทั่งเป็นปี สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการก็จะเริ่มซับซ้อนมากขึ้น ไม่ตรงไปตรงมาเพียงแค่ว่าเครียดแล้ว นอนไม่หลับ หลายครั้งที่ความเครียดได้เบาบางหรือหายไปหมดแล้ว แต่อาการ นอนไม่หลับ กลับยังดำเนินอยู่ต่อ บางคนใจจดใจจ่อตลอดเวลาว่าคืนนี้จะหลับหรือไม่หลับ ถ้าไม่หลับแล้วพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร จะทำงานได้อย่างแจ่มใสหรือไม่ ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวการนอน ไม่กล้าที่จะนอน เลยทำให้แทนที่เวลานอนจะเป็นเวลาที่ให้ความสุข กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่มีแต่ความทุกข์และทรมาน  
     
              นอกจากนี้แล้วยังพบได้อยู่เรื่อยๆ ว่า สาเหตุทางร่างกายบางอย่างก็เป็นต้นเหตุทำให้ นอนไม่หลับ เรื้อรังได้ เช่น การหายใจผิดปกติขณะหลับ, กล้ามเนื้อขากระตุกเป็นพักๆ ระหว่างนอน, อาการปวดหรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือโรคปอด เป็นต้น
     
              ทั่วๆ ไปนั้น คนที่มีอาการ นอนไม่หลับ หรือหลับไม่เต็มอิ่มอย่างต่อเนื่อง 2-3 ขึ้นไป ก็มักรู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ และหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาปรึกษาแพทย์ 
     
              หลายครั้งเหมือนกัน ที่ปัญหาการ นอนไม่หลับ สามารถดีขึ้นได้ เพียงแค่ได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติของการนอน หรือเพียงแต่แค่ปรับเปลี่ยนความเชื่อดั้งเดิม หรือทัศนคติบางอย่างที่มีต่อการนอนหลับ แต่ในบางครั้งแพทย์อาจจะใช้ยาบางอย่าง เพื่อช่วยทำให้ปัญหาการนอนนั้นดีขึ้น หรืออาจจะต้องส่งตรวจเพื่อประเมินสภาพการนอนหลับให้ละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น โดยใช้ห้องปฏิบัติการการนอนหลับ เป็นต้น
     
              เมื่อพูดถึงการรักษา หลายคนจะคิดถึงการใช้ยานอนหลับ และในบางคนจะมีความรู้สึกกลัวการใช้ยานอนหลับ กลัวจะติดยา หยุดยาไม่ได้ กลัวว่ายาอาจไปทำลายสมองบ้าง เป็นต้น ทำให้ไม่กล้าและไม่อยากที่จะรักษา แต่จริงๆ แล้วยาที่ใช้รักษาโรค นอนไม่หลับ นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นยานอนหลับแต่เพียงอย่างเดียว และถึงแม้จะต้องมีการใช้ยานอนหลับร่วมด้วย ผลของการใช้ยาก็ไม่น่ากลัว เหมือนกับที่บางคนคิด โดยเฉพาะถ้าอยู่ในความดูแลของแพทย์
     
     
    การรักษาอาการ นอนไม่หลับ อย่างแท้จริงนั้น   
     
              1. เราจะต้องค้นหาสาเหตุ และกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับก่อน ถ้าเจ็บป่วยด้วยโรคทางกาย หรือโรคทางจิตเวช ก็ต้องรักษาโรคเหล่านั้นให้ดีขึ้น อาจใช้ยาช่วยให้นอนหลับในช่วงเริ่มต้น และใช้ยาเป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อความเจ็บป่วยทางร่างกายหรือความเจ็บป่วยทางจิตเวชดีขึ้น อาการ นอนไม่หลับ ก็จะหมดไป และสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
     
              2. ปฏิบัติตนตามสุขลักษณะการนอนที่ดี ได้แก่ จัดห้องนอนให้เหมาะแก่การนอนหลับ เช่น ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวหรือเย็นเกินไป ไม่ให้มีเสียงดังอึกทึก ควรมีบรรยากาศที่สงบเงียบ หรืออาจมีเสียงเพลงบรรเลงเบาๆ เป็นต้น
      3. ยาช่วยให้นอนหลับ ควรรับประทานเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่ควรใช้ยาต่อเนื่องนานเกิน 2-6 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้ติดยา หรือต้องพึ่งยาตลอดไป
    กินอะไรช่วยให้นอนหลับ
     
              สารอาหารที่เกี่ยวข้องและช่วยลดปัญหาการ นอนไม่หลับ ได้แก่ วิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และทริปโตแฟน
     
              วิตามินบี การขาดวิตามินในกลุ่มบี เช่น ขาดไนอะซินและวิตามินบี 6 อาจทำให้เกิดอาการ นอนไม่หลับ ได้ หากสาเหตุกา นอนไม่หลับ เนื่องมาจากการขาดวิตามินดังกล่าว การเสริมวิตามินเหล่านี้ก็จะช่วยแก้ไขได้
     
              วิตามินบี 6 มีความสำคัญในการสร้างสารเซโรโทนินในสมอง สารตัวนี้ช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ ผู้ที่ได้รับวิตามินบี 6 จากอาหารไม่เพียงพอ อาจมีอาการ นอนไม่หลับ ซึมเศร้า หงุดหงิด
     
              วิตามินบี 12 การเสริมวิตามินตัวนี้ช่วยให้อาการ นอนไม่หลับ เรื้อรังดีขึ้น แต่เมื่อหยุดเสริม อาการจะกลับมาอีก แต่การเสริมวิตามินบี 12 เพื่อแก้ไขอาการนอนไม่หลับอาจต้องเสริมในปริมาณสูง ดังนั้นจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
     
              นอกจากนี้มีหลักฐานการวิจัยว่า การรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 และ กรดโฟลิกช่วยให้นอนหลับดีขึ้นในบางคนเท่านั้น
     
              แร่ธาตุ บางชนิดมีผลทางอ้อมต่อการนอนหลับ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม แร่ธาตุทั้งสองจะทำงานร่วมกัน ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อ การขาดแร่ธาตุหนึ่งในสองตัวนี้จะทำให้เกิดตะคริวและรบกวนการทำงานของเส้นประสาท มีผลทำให้ นอนไม่หลับ อาหารที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูงจะช่วยให้อาการดีขึ้น
     
              นอกจากแร่ธาตุทั้งสองชนิดที่กล่าวมาแล้ว สารอาหารทองแดงและธาตุเหล็กก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ถ้าขาดทองแดงจะทำให้หลับช้า แต่หลับนานขึ้น และมีความรู้สึกเหมือนนอนไม่อิ่ม ส่วนการขาดธาตุเหล็กทำให้นอนเร็วขึ้น นอนนานขึ้น แต่ตื่นกลางดึกบ่อยขึ้น
     
              ทริปโตแฟน เป็นกรดอมิโนที่ถูกนำมาสร้างสารเซโรโทนินในร่างกาย ซึ่งช่วยในการควบคุมการนอนหลับ และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของสารเมลาโทนินซึ่งมีผลต่ออารมณ์และการนอนหลับ นักวิจัยพบว่า การเสริมสารทริปโตแฟนช่วยเพิ่มระดับโซโรโทนินและทำให้นอนหลับเร็วขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และยังทำให้หลับสนิทด้วย 
     
    อาหารที่ช่วยให้นอนหลับ
     
              1. เครื่องดื่มอุ่นๆ ก่อนนอน ประเภทมอลต์สกัด เช่น โอวัลติน หรือ ไมโล (ไม่ต้องหวาน)
     
              2. เครื่องดื่มชาสมุนไพรต่าง เช่น แคโมไมล์ ไลม์บลอสซัม วาเลอเรียน มะตูม เก๊กฮวย เป็นต้น (ยกเว้นในผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะบ่อย อาจทำให้ปวดปัสสาวะกลางดึก ต้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ แล้วนอนต่อไม่หลับได้ง่ายๆ)
     
              3. นมชนิดหวานทำให้หลับได้ง่าย เพราะน้ำตาลจะช่วยทำให้เซลล์สมองดูดซึมกรดอะมิโน ทริปโตฟาน จากกระแสโลหิต ให้เปลี่ยนเป็น เซโรโทนินเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย (แต่น้ำตาลก็ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม ต้องชั่งใจดู)
     
              4. อาหารจำพวกแป้ง โดยแป้งมีฤทธิ์คล้ายยาระงับความวิตกกังงล หรือทำให้กลูโคสในกระแสเลือดสูงขึ้น กระตุ้นการหลั่ง Serotonin (แต่ก็เพิ่มน้ำหนักตัวด้วยเหมือนกัน)
     
              5. น้ำผึ้ง ซึ่งเคยใช้เป็นยาระงับประสาทอ่อนๆ มานานแล้ว โดยชงผสมน้ำผึ้งเล็กน้อยในนมอุ่นๆ หรือ ชาสมุนไพร 

     
    ตอนที่2
       สมุนไพรรักษาโรคนอนไม่หลับ(สำหรับดาร์คแลนด์)

    ชื่อยา:
    เซเลอมีน 
    สรรพคุณ: ช่วยให้คนที่หลับยาก ให้หลับสบายยิ่งขึ้น
    วิธีใช้: ดื่มครั้งละ1แก้ว 200มล. ก่อนนอน จนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ

    ส่วนประกอบ

    1.ผงเมล็ดกัญชา(ทำให้แห้ง บดละเอียด) 3กรัม
    -ช่วยให้นอนหลับ เป็ฯยากล่อมประสาท(ชั้นดี) ทานมากๆจะเสพติดได้ ควรใช้อย่างระมัดระวังและน้อยที่สุด
     

    2.สมุนไพรสีฟ้า(หาได้จากป่าทุกแห่งในดาร์คแลนด์) 4ใบ
    -เป็นยาทำให้ทานแล้วรู้สึกสบายตัว (จะรู้สึกเย็นๆเหมือนมีพัดลมมาพัดเบาๆ)

    สมุนไพรสีฟ้า.gif
    3.สมุนไพรสีม่วง(หาได้จากอุทยานมนตรา) 2ใบ
    -(เป็นยาพิษชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในขั้นยาพิษ แต่ที่จริงแล้วมันแค่เป็นยานอนหลับชั้นดีชนิดหนึ่งที่ทำให้ไม่เสพติด ถ้ารับประทานใบสดแบบเคี้ยวเลยจะทำให้สลบทันที)

    สมุนไพรสีม่วง.gif
    4.น้ำผึ้ง 2ช้อนโต๊ะ
    -ทำให้ผ่อนคลาย เป็นตัวยาสำคัญของยาต่างๆ


    5.ชาแดง(เอาชาอะไรก็ได้)
    -ช่วยให้สมองสดชื่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเรสเตอรอล ยับยั้งมะเร็ง ต่อต้านเบาหวาน


    6.ดอกคาโมมายล์
    -หลับสบาย



    วิธีทำ
    1.นำดอกคาโมมายล์ สมุนไพรสีฟ้าและสมุนไพรสีม่วงไปตากแห้ง
    2.
    นำชาแดง ดอกคาโมมายล์ สมุนไพรสีฟ้าและสมุนไพรสีม่วง ไปต้มจนได้น้ำออกเป็นสีม่วงเข้ม
    3.เวลาดื่ม ใส่ผงเมล็ดกัญชา3กรัม น้ำผึ้งลงไป แล้วคนให้เข้ากันเป็นอันเสร็จ



    นี่เป็นผลจากการวิจัย ศึกษาสรรพคุณทางยา ซึ่งสามารถช่วยในการรักาาโรคนอนไม่หลับ ให้ได้หลับสบายยิ่งขึ้น
    ขอบคุณค่ะ

    ลงชื่อ
    ดรากิออน  อีลิคเทรียน อินเทอร์นอลเลี่ยน




     
     





     
    B ? W
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×