ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ---คณะพันธุ์ศาสตร์---ปริญญาโท
วิทยานิพนธ์
---คณะพันธุ์ศาสตร์---
ระดับปริญญาโท
เรื่อง ตำนานสายเลือดดาร์คบริสุทธิ์ และ สายเลือดดาร์คผสม
นำเสนอ
ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์พันธา พฤกษา
มหาวิทยาลัยดาร์คแลนด์
............................................................
ข้อมูลผู้จัดทำ
.................................................
บทที่1
ศึกษาในหัวข้อ ตำนานสายเลือดดาร์คบริสุทธิ์ และ สายเลือดดาร์คผสม
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่มีปัญญา และปัญญานั่นเองที่ก่อเกิดอารยธรรม สร้างดินแดน อาณาจักรเป็นของตนเอง มีผู้นำ และมีผู้ตาม เมื่ออารยธรรมรุ่งโรจจนถึงขีดสุด แน่นอนว่า มีจุดต่ำสุดเช่นกัน
อารยธรรมนั้น แล้วแต่ที่ผู้นำที่นั้นๆจะสร้างกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมา อย่างที่จะศึกษาในหัวข้อ"ตำนานสายเลือดดาร์คบริสุทธิ์ และ สายเลือดดาร์คผสม" ชนชั้นอารยธรรมที่แตกต่าง ทั้งอำนาจ ความหยิ่งทะนง ทะเยอทะยาน และอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น และนี่เองที่เป็นปัญหาหนึ่งอีกเช่นกันในระบบการปกครองในแคว้นเนพีอา.
วัตถุประสงค์ในการวิจัย
1.เพื่อศึกษาค้นคว้าตำนานสายเลือดดาร์คบริสุทธิ์
2.เพื่อศึกษาค้นคว้าตำนานสายเลือดดาร์คผสม
3.เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์และระบอบการปกครอง
ขอบเขตการวิจัย
1.ศึกษาที่แคว้นเนพีอาและตามห้องสมุดต่างๆ
2.ตามวัตถุประสงค์ข้อที่1และ2
3.รวบรวมข้อมูลภายในระยะเวลา1วัน เพราะข้อมูลมีไม่มากนัก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ข้อมูลเกี่ยวกับสายเลือดดาร์คแท้และดาร์คผสม
2.นำการวิจัยในครั้งนี้ไปศึกษาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.เนพีอา
2.ห้องประวัติศาสตร์แห่งดาร์คแลนด์
3.วิทยานิพนธ์ปริญญาตรีของดรากิออน อีลิคเทรียน อินเทอร์นอลเลี่ยน
4.ทฤษฎีพันธุกรรม
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่มีปัญญา และปัญญานั่นเองที่ก่อเกิดอารยธรรม สร้างดินแดน อาณาจักรเป็นของตนเอง มีผู้นำ และมีผู้ตาม เมื่ออารยธรรมรุ่งโรจจนถึงขีดสุด แน่นอนว่า มีจุดต่ำสุดเช่นกัน
อารยธรรมนั้น แล้วแต่ที่ผู้นำที่นั้นๆจะสร้างกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นมา อย่างที่จะศึกษาในหัวข้อ"ตำนานสายเลือดดาร์คบริสุทธิ์ และ สายเลือดดาร์คผสม" ชนชั้นอารยธรรมที่แตกต่าง ทั้งอำนาจ ความหยิ่งทะนง ทะเยอทะยาน และอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น และนี่เองที่เป็นปัญหาหนึ่งอีกเช่นกันในระบบการปกครองในแคว้นเนพีอา.
วัตถุประสงค์ในการวิจัย
1.เพื่อศึกษาค้นคว้าตำนานสายเลือดดาร์คบริสุทธิ์
2.เพื่อศึกษาค้นคว้าตำนานสายเลือดดาร์คผสม
3.เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์และระบอบการปกครอง
ขอบเขตการวิจัย
1.ศึกษาที่แคว้นเนพีอาและตามห้องสมุดต่างๆ
2.ตามวัตถุประสงค์ข้อที่1และ2
3.รวบรวมข้อมูลภายในระยะเวลา1วัน เพราะข้อมูลมีไม่มากนัก
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.ได้ข้อมูลเกี่ยวกับสายเลือดดาร์คแท้และดาร์คผสม
2.นำการวิจัยในครั้งนี้ไปศึกษาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1.เนพีอา
2.ห้องประวัติศาสตร์แห่งดาร์คแลนด์
3.วิทยานิพนธ์ปริญญาตรีของดรากิออน อีลิคเทรียน อินเทอร์นอลเลี่ยน
4.ทฤษฎีพันธุกรรม
......................................................
บทที่2
บทที่2
ตอนที่1
ประวัติศาสตร์แห่งดาร์คแลนด์
25000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช การสถาปนาดาร์คแลนด์
มหาจักรวาลเต็มไปด้วยอาณาจักรน้อยใหญ่มากมาย
ยมทูตทั้งห้าแห่งนรกได้ร่วมสร้างดินแดนเร้นรับในม่านหมอกขึ้น
ตั้งนามว่า อาณาจักรดาร์คแลนด์
เพื่อรวมศาสตร์มืด ควมเร้นลับ เป็นที่อยู่อาศัยของ เทพ ภูติ ผี ปีศาจ วิญญาณ สัตว์หลากชนิด ซึ่งเป็นขบถต่อเเสงสว่าง
อาณาจักรดาร์คแลนด์ คือดินแดนอันมืดมิด ไกลห่าง
ตั้งอยู่ในสถานที่เร้นลับ บนฟ้าก็มิใช่ บนดินก็มิเชิง
บางคราก็เหมือนคล้ายอยู่กลางมหาสมุทร
เเต่บางคราก็เหมือนแอบว่อนใต้ผืนพิภพ
หาคำตอบที่เเน่นอนมิได้
หากท่านมิใช่ชาวดาร์คโดยสายเลือดเเล้วไซร้
จะมิอาจมองเห็นอาณาจักรแห่งนี้ได้เลย
ยมทูตทั้งห้า ได้นำชิ้นส่วนวิญญาณของตน
หล่อหลอมออกมาเป็นชายชาวดาร์คสายเลือดบริสุทธิ์คนเเรก ชื่อ อัทรา
เเละเป็นหญิงชาวดาร์คสายเลือดบริสุทธิ์คนแรกชื่อ เอรินเทรีย
จากนั้นยมทูตทั้งห้าก็ทิ้งวิญญาณหลับใหลอย่างสงบสุข
ไม่มีใครรู้ว่าวิญญาณของทั้งห้า...อยู่ที่ใด
อัทรา เเละ เอรินเทรีย สถาปนาตนเป็นแกรนด์ดยุค เเละแกรนด์ดัชเชส รับหน้าที่เป็นผู้นำ
แห่งดาร์คแลนด์ ภายใต้ธงตระกูลอันทรา ศูนย์กลางอยู่ที่เเคว้นเนพีอา ปกครองโดยสงบสุข
ถึง 197 ยุคสมัย ประชาชนทั้งหมด เรียกตัวเองว่า...ชนเผ่าดาร์ค
ทั้งหมด ล้วนมีจุดร่วมเดียวกันคือ... ชิงชังแสงสว่าง เเละมองเห็นความงดงามในความมืด
ชนเผ่าดาร์คได้สั่งสมอารยธรรมดาร์ค จนเลื่องลือ
มีภาษาเป็นของตัวเอง มีสถาปัตยากรรม ศิลปวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง
กระกูลอันทรา เเตกสาขาย่อยออกไปหลายสิบตระกูล รุ่งเรืองยาวนาน
ตระกูลอันทรารุ่นที่ 97 ปกครองเมือง
เเต่เเล้วกาลวินาศเเห่งอันทราก็มาถึง
เมื่อในคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ได้มีชนเผ่าอานารยชนเข้ามารุกราน
เผาเมืองดาร์ค เเละสังหารผู้นำตระกูลอันทรา พร้อมครอบครัวจนสิ้นซาก
ชาวดาร์คตระกูลอื่นพากันกระจัดกระจายหายไปเพื่อเอาตัวรอด
นักประวัติศาสตร์เรียกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ดาร์คแลนด์อย่างเหี้ยมโหดในวันนั้นว่า
กาลวินาศแห่งอันทรา
ดาร์คแลนด์กลายเป็นดินเเดนเวิ้งว้างรกร้างว่างเปล่ามานานกว่า 1000 ปี
เต็มไปด้วยทุกเภทภัย โรคภัยไข้เจ็บระบาด
ชาวเมืองอยู่อย่างเร้นเเค้น เเละประชาชนอดอยาก ไร้ผู้นำ
ยุคมืดแห่งดาร์คแลนดกินเวลายาวนาน
ชนเผ่าอานารยชนมากมายได้เข้ามาที่นี่ เพื่อกอบโกย เเย่งชิง เเละทำร้ายชาวดาร์ค
ชาวดาร์คมากมายถูกกวาดต้อนกลายเป็นทาส สาปัตยกรรมถูกทำลายเสียหายยับเยิน
ไม่มีเหลือความรุ่งเรือง
สามพี่น้องแห่งอันทรา...บุตรีของผู้นำอันทรารุ่นที่ 97 ซึ่งถูกจับเป็นเชลยศึก
ได้จับมือกับ ผู้นำตระกูลไดซิเนส พยายามปลุกระดม เเละรวมกำลังชาวดาร์คเพื่อขับไล่พวกอานารยชน
จนสำเร็จ ทว่า เมื่อเหตุการณ์สงบ ผู้นำตระกูลไดซิเนสกลับทรยศสามพี่น้อง
ป้ายสีว่าพวกนางเป็นผู้นำความวิบัติมาสู่ดาร์คแลนด์
จึงกักขังพวกนางไว้ใต้พิภพในเนพีอา...
จากนั้น ผู้นำตระกูลไดซิเนส ก็สถาปนาตัวเองเป็นผู้นำดาร์คแลนด์
ภายใต้ธงตระกูลไดซิเนส ศูนย์กลางอยู่ที่แคว้นไดซิเนส
ปกครองอย่างอำมหิต เหี้ยมโหด ไม่ให้เสรีภาพ
จนเราขนานนามยุคนั้นว่า ยุคมืดของดาร์คแลนด์ กว่า 3,000 ปี
ยุคมืดจบลง..เมื่ออานารยชนอีกเผ่าเข้ารุกรานจนผู้นำตระกูลไดซิเนสพ่ายเเพ้ เเละหนีหายไป
ทั้งยังมภัยพิบัตรจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้อาณาจักรตกอยู่ภายใต้บาดาล
ทำให้ดาร์คแลนด์รกร้างอีกครั้งกว่า 3000 ปี
แต่เเล้ว นัวร์ นักเเสวงบุญอาวุโส ที่เคยหลบหนีไปเมือ่ 1000 ปีก่อน
ได้กลับเข้ามาในดาร์คแลนด์
อีกครั้ง เเละพบเห็นความทุกข์ยากของชาวดาร์ค
นัวร์ ได้ผ่อนเบาความทุกข์ของชาวเมือง
สร้างขวัญกำลังใจ เเละรวบรวมชาวดาร์คที่หายไปกลับคืนมา
ในครั้งนั้น ได้มีสตรี เเละ บุรุษเข้าร่วมกับนัวร์แห่งดาร์คแลนด์ด้วย
ได้และเเล้ว ในเดือน พฤษภาคม 2010
ชนเผ่าดาร์คที่รอดชีวิต ได้รวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ปีศาจ
นำโดย นัวร์แห่งดาร์คแลนด์
ก่อตั้งอาณาจักรดาร์คแลนด์ขึ้น
ในครั้งนั้น สมาพันธ์ปีศาจมี 3 ท่านประกอบด้วย
1. Vinsare of Darkland
2. Dark Lady of Darkland
3.Bluerose of Darkland
อาณาจักรดาร์คแลนด์ก่อตั้งขึ้นอีกครั้งโดยมีนัวร์แห่งดาร์คแลนด์
เป็นผู้นำอาวุโสสูงสุด ดาร์คแลนด์รุ่งเรืองอย่างมาก
ชนเผ่าดารคที่กระจัดกระจาย ได้กลับคืนมาอีกครั้ง โดยบลูโรส เเละันัวร์ ได้จับมือทำพันธสัญญาเป็นพี่น้อง
กัน เเละทำพิธีกรรมรับ วิคเตอร์แห่งรัสเซียเป็นบิดา เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เมื่อเวลาผ่านไป ท่าน Vinsare of Darkland และท่าน Dark Lady of Darkland ได้ อำลาอาณาจักรดาร์คเเลนด์เพือออกเดินทางไปแสวงหาสัจธรรมในยดินแดนไกลโพ้น อย่างไรก็ตาม กิตติคุณของท่านทั้งสอง จะยังคงอยู่กับเราตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ชาวดาร์คที่กลับมานั้นก็หาให้ชาวดาร์คสายเลือดแท้ไม่ เพราะการกระจัดกระจายไปนาน
ทำให้สายเลือดดาร์คเเท้ได้ปะปนกับสายเลือดอื่นจนสิ้น
จนยากจะตามหาผู้มีสายเลือดดาร์คในตำนานพบ
นอกจากนี้ การตื่นขึ้นของดาร์คแลนด์ในครั้งนี้
ยังก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ในป่าต้องห้ามคือ "ลูกแก้วมนต์ขลังแห่งดาร์คแลนด์"
ซึ่งมีอำนาจวิเศษ ส่งเสียงกระซิบไปยัง "ผู้ถูกเลือก"
เมื่อ ผู้ถูกเลือก สัมผัสได้ถึงเสียงกระซิบ เเละพลังเร้นลับของลูกแก้วมนต์ขลังเเห่งดาร์คแลนด์
จิตวิญญาณดาร์คก็จะเติบโตในจิตใจของพวกเขา
เกิดเป็นชาวดาร์คอีกประเภท คือ "ชาวดาร์คผู้ถูกเลือก"
ชาวดาร์คประเภทนี้จะไม่มีสายเลือดดาร์ค เเละพ่อหรือเเม่ของเขาอาจจะไม่ใช่ชาวดาร์ค
รวมถึงตัวเขาเอง อาจจะมีสัญชาติอื่น
เเต่ว่าจิตวิญญาณของเขา ถูกความดาร์คเข้าครอบงำ
เมื่อได้ยินเสียงลูกแก้วมนต์ขลังเเล้ว ชาวดารคผู้ถูกเลือกก็จะออกเดินทาง
ต่อให้ไกลเพียงใด
ก็จะข้ามผ่านมาให้ได้ เพื่อมายังอาณาจักรดาร์คแลนด์แห่งนี้..
ทำให้อาณาจักรดารคแลนด์เต็มไปด้วยชาวดาร์คจำนวนมาก
ทั้งเลือกบริสุทธิ์ เลือดผสม เเละ ชาวดาร์คผู้ถูกเืลือก
ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม 2011
บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ ได้ปฏิรูปการปกครองดาร์คแลนด์
โดยมี นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ เป็นผู้นำสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
ครองตำแหน่ง แกรนด์ดัชเชส แห่ง ดาร์คแลนด์
และ แบ่งการปกครองออกเป็น 6 แคว้น โดยคัดเลือดผู้นำแคว้น
จากการประลองเวทย์เเละอาวุธในระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคม 2011 ได้ผู้นำเเคว้นดังนี้
"เทียร์ดรอล่า แคว้นแห่งน้ำตา"
ให้ปกครองโดย ดอลลา แดน ทไวไลท์ เทียร์ดรอล่า และแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งเทียร์ดรอล่า
"ไดซิเนส แคว้นแห่งรัตติกาล"
ให้ปกครองโดย บลูโรส แห่ง ดาร์คแลนด์และแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งไดซิเนส
"ไฟร์ไอนิส แคว้นแห่งเพลิงไฟและความแค้น"
ให้ปกครองโดย ลูซิเฟอร์ ดาร์ค ไฟร์ไอนิส และแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดยุคแห่ง ไฟร์ไอนิส
"เบลเลียมมอร์ธ แคว้นแห่งสงครามเเละความตาย"
ให้ปกครองโดย พีริอุส ครีด เบลเลียมมอร์ธและแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดยุคแห่งเบลเลียมมอร์ธ
"ไอร์กราเซียส แคว้นแห่งความหนาวเหน็บ"
ให้ปกครองโดย ลิลิธ เซลีน ไอร์กราเซียสและแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งไอร์กราเซียส
"โพเทสทา แคว้นแห่งพลังอำนาจ"
ให้ปกครองโดย ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ รามชาเกรล โพเทสทาและแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งโพเทสทา
สำหรับการปกครองระดับมณฑล มอบให้แก่ ขุนนางยศ มาควิส
การปกครองระดับนคร มอบใมห้แก่ ขุนนางยศ เอิร์ล
การปกครองระดับเมืองท่า มอบให้แก่ ขุนนางยศ เคาน์
เเละการปกครองระดับเมือง มอบให้แก่ขุนนางยศ บารอน
เเละท่านหญิงบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ได้ปรับปรุงการปกครองในดาร์คแลนด์ให้ประกอบไปด้วย
1 อำนาจฝ่ายบริหารมอบให้แก่
สภาปกครองสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์ โดยท่านหญิงบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์เป็นผู้นำสูงสุดในสภาปกครองสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
สภาขุนนางแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยขุนนางระดับดยุค มาควิส เเละ เอิร์ล
สภาปราชญ์บัณฑิตแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยสมาชิกผู้ทรงภูมิด้านศาสตร์เเละศิลป์ วิชาการดาร์คแลนด์ต่างๆ
สภาพิทักษ์สันติราชแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยหน่วยพิทักษ์สันติราชต่างๆ
สภาข้าหลวงแห่งดารคแลนด์ ประกอบไปด้วยข้าหลวงตำแหน่งต่างๆ
2 อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มอบให้แก่
สภาฐานันดรแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบด้วยวุฒิสมาชิก 6 คน
สภาสามัญชนและชนชั้นกรรมาชีพ ประกอบด้วย สมาชิกผู้แทนสามัญชน 6 คน
3 อำนาจฝ่ายตุลาการ มอบให้แก่
สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ อันได้แก่ศาลปกครอง เเละศาลยุติธรรม
4 อำนาจฝ่ายความมั่นคง มอบให้แก่
สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์
โดยตำแหน่งสมาชิกสภาต่างๆ
ให้มีการสรรหาเเละเเต่งตั้งโดยดุลยพินิจของผู้นำสูงสุดเเละผู้นำฝ่ายบริหารจะเห็นชอบ
ตำแหน่งไม่สามารถสืบทอดได้โดยสายเลือด
บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ ดัชเชสแห่งไดเซนนิส ซึ่งเป้นประธานสูงสุดฝ่ายบริหาร ได้จัดการก่อสร้างดาร์คแลนด์ครั้งยิ่งใหญ่
และเพื่อให้ดาร์คแลนด์ ได้เป็นอาณาจักรแห่งสันติสุขของชาวดาร์คตราบชั่วนิรันดร์
เเละเเล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์, ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ รามชาเกรรล์, เเตน ดอลลา เดอลาเทียร์ สามดัชเชสซึ่งมีอำนาจในยุคสมัยนี้ ได้รับบาดเจ็บจากการตกเครื่องบิน เป็นเจ้าหญิงนิทราที่โรงพยาบาล พร้อมกับการค้นพบเนพีอา...เเละการคืนชีพของสามพี่น้องแห่งอันทรา
เเละดาร์คแลนด์ ก็เข้าสู่การปกครองโดยตระกูลอันทราอีกครั้ง
โดยศูนยืกลางการปกครอง...อยู่ที่ เนพีอา
หลังจากมายาโรสพ่ายแพ้แก่ภัยของตัวเอง และด้วยความเรียกร้องของประชาชน ตระกูลไดซิเนสได้กลับมาอีกครั้ง
บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ รับอำนาจการปกครองสูงสุดทั้งหมด และตัดขาดจากพันธมิตรทั้งปวงโดยสิ้นเชิง
เหล่าขุนนางได้ปฎิรูปการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นสองครั้ง
โดยนายกรัฐมนตรีไบร์ท ลูมินอส แห่งพรรคสังคมนิยม ได้รับตำแหน่งถึงสองหน
เอาชนะคู่เเข่งอย่างพรรคจิตวิญญาณหัวก้าวหน้า และพรรคบาทรอเลนเซียผู้มั่งคั่งเเละสูงส่ง
การสื่อสารเเละเทคโนโลยีในดาร์คได้เริ่มต้นพัฒนายิ่งขึ้น มีการส่งหนังสือพิมพ์แบบใหม่ที่สะดวกเเละดึงดูด
นอกจากนี้ ยังปรับปรงโครงสร้างผังเมือง เพื่อให้ชาวดาร์คที่มีจำนวนมาก มีทีอยู่โดยเท่าเทียมกัน
พร้อมกันนั้น ยังปฏิรูปการปกครองใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น สามสภา ดังนี้
1. สภาปกครองสูงสุด กุมอำนาจบริหาร ประกอบด้วย สภาขุนนางอัศวิน และสภาสามัญชน ซึ่งมีหลากหลายกระทรวง
2. สภาความั่นคง กุมอำนาจทหาร คอยปกป้องอาณาตักรจากภัยภายนอก และกุมอำนาจตำรวจคอยปกป้องอาณาตักรจากภัยภายใน
3. สภาตุลาการ กุมอำนาจศาลและการออกกฏหมาย
ทั้งนี้เกิดความเศร้าเเละการสูญเสียครั้งใหญ่ของชาวดาร์คนั่นคือการเสียชีวิตของซีเคร็ท นกฮูกประจำดาร์คแลนด์
ผู้มีอายุ 600 กว่าปี
ประวัติศาสตร์แห่งดาร์คแลนด์
25000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช การสถาปนาดาร์คแลนด์
ยมทูตทั้งห้าแห่งนรกได้ร่วมสร้างดินแดนเร้นรับในม่านหมอกขึ้น
ตั้งนามว่า อาณาจักรดาร์คแลนด์
เพื่อรวมศาสตร์มืด ควมเร้นลับ เป็นที่อยู่อาศัยของ เทพ ภูติ ผี ปีศาจ วิญญาณ สัตว์หลากชนิด ซึ่งเป็นขบถต่อเเสงสว่าง
อาณาจักรดาร์คแลนด์ คือดินแดนอันมืดมิด ไกลห่าง
ตั้งอยู่ในสถานที่เร้นลับ บนฟ้าก็มิใช่ บนดินก็มิเชิง
บางคราก็เหมือนคล้ายอยู่กลางมหาสมุทร
เเต่บางคราก็เหมือนแอบว่อนใต้ผืนพิภพ
หาคำตอบที่เเน่นอนมิได้
หากท่านมิใช่ชาวดาร์คโดยสายเลือดเเล้วไซร้
จะมิอาจมองเห็นอาณาจักรแห่งนี้ได้เลย
ยมทูตทั้งห้า ได้นำชิ้นส่วนวิญญาณของตน
หล่อหลอมออกมาเป็นชายชาวดาร์คสายเลือดบริสุทธิ์คนเเรก ชื่อ อัทรา
เเละเป็นหญิงชาวดาร์คสายเลือดบริสุทธิ์คนแรกชื่อ เอรินเทรีย
จากนั้นยมทูตทั้งห้าก็ทิ้งวิญญาณหลับใหลอย่างสงบสุข
ไม่มีใครรู้ว่าวิญญาณของทั้งห้า...อยู่ที่ใด
อัทรา เเละ เอรินเทรีย สถาปนาตนเป็นแกรนด์ดยุค เเละแกรนด์ดัชเชส รับหน้าที่เป็นผู้นำ
แห่งดาร์คแลนด์ ภายใต้ธงตระกูลอันทรา ศูนย์กลางอยู่ที่เเคว้นเนพีอา ปกครองโดยสงบสุข
ถึง 197 ยุคสมัย ประชาชนทั้งหมด เรียกตัวเองว่า...ชนเผ่าดาร์ค
ทั้งหมด ล้วนมีจุดร่วมเดียวกันคือ... ชิงชังแสงสว่าง เเละมองเห็นความงดงามในความมืด
5000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช กาลวินาศแห่งอันทรา
ชนเผ่าดาร์คได้สั่งสมอารยธรรมดาร์ค จนเลื่องลือ
มีภาษาเป็นของตัวเอง มีสถาปัตยากรรม ศิลปวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง
กระกูลอันทรา เเตกสาขาย่อยออกไปหลายสิบตระกูล รุ่งเรืองยาวนาน
ตระกูลอันทรารุ่นที่ 97 ปกครองเมือง
เเต่เเล้วกาลวินาศเเห่งอันทราก็มาถึง
เมื่อในคืนที่ฝนตกกระหน่ำ ได้มีชนเผ่าอานารยชนเข้ามารุกราน
เผาเมืองดาร์ค เเละสังหารผู้นำตระกูลอันทรา พร้อมครอบครัวจนสิ้นซาก
ชาวดาร์คตระกูลอื่นพากันกระจัดกระจายหายไปเพื่อเอาตัวรอด
นักประวัติศาสตร์เรียกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ดาร์คแลนด์อย่างเหี้ยมโหดในวันนั้นว่า
กาลวินาศแห่งอันทรา
ดาร์คแลนด์กลายเป็นดินเเดนเวิ้งว้างรกร้างว่างเปล่ามานานกว่า 1000 ปี
เต็มไปด้วยทุกเภทภัย โรคภัยไข้เจ็บระบาด
ชาวเมืองอยู่อย่างเร้นเเค้น เเละประชาชนอดอยาก ไร้ผู้นำ
4000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ยุคมืดแห่งดาร์คแลนด์
ยุคมืดแห่งดาร์คแลนดกินเวลายาวนาน
ชนเผ่าอานารยชนมากมายได้เข้ามาที่นี่ เพื่อกอบโกย เเย่งชิง เเละทำร้ายชาวดาร์ค
ชาวดาร์คมากมายถูกกวาดต้อนกลายเป็นทาส สาปัตยกรรมถูกทำลายเสียหายยับเยิน
ไม่มีเหลือความรุ่งเรือง
สามพี่น้องแห่งอันทรา...บุตรีของผู้นำอันทรารุ่นที่ 97 ซึ่งถูกจับเป็นเชลยศึก
ได้จับมือกับ ผู้นำตระกูลไดซิเนส พยายามปลุกระดม เเละรวมกำลังชาวดาร์คเพื่อขับไล่พวกอานารยชน
จนสำเร็จ ทว่า เมื่อเหตุการณ์สงบ ผู้นำตระกูลไดซิเนสกลับทรยศสามพี่น้อง
ป้ายสีว่าพวกนางเป็นผู้นำความวิบัติมาสู่ดาร์คแลนด์
จึงกักขังพวกนางไว้ใต้พิภพในเนพีอา...
จากนั้น ผู้นำตระกูลไดซิเนส ก็สถาปนาตัวเองเป็นผู้นำดาร์คแลนด์
ภายใต้ธงตระกูลไดซิเนส ศูนย์กลางอยู่ที่แคว้นไดซิเนส
ปกครองอย่างอำมหิต เหี้ยมโหด ไม่ให้เสรีภาพ
จนเราขนานนามยุคนั้นว่า ยุคมืดของดาร์คแลนด์ กว่า 3,000 ปี
ยุคมืดจบลง..เมื่ออานารยชนอีกเผ่าเข้ารุกรานจนผู้นำตระกูลไดซิเนสพ่ายเเพ้ เเละหนีหายไป
ทั้งยังมภัยพิบัตรจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทำให้อาณาจักรตกอยู่ภายใต้บาดาล
ทำให้ดาร์คแลนด์รกร้างอีกครั้งกว่า 3000 ปี
คริสต์ศักราชที่ 2010 แสงสว่างแห่งดาร์คแลนด์
แต่เเล้ว นัวร์ นักเเสวงบุญอาวุโส ที่เคยหลบหนีไปเมือ่ 1000 ปีก่อน
ได้กลับเข้ามาในดาร์คแลนด์
อีกครั้ง เเละพบเห็นความทุกข์ยากของชาวดาร์ค
นัวร์ ได้ผ่อนเบาความทุกข์ของชาวเมือง
สร้างขวัญกำลังใจ เเละรวบรวมชาวดาร์คที่หายไปกลับคืนมา
ในครั้งนั้น ได้มีสตรี เเละ บุรุษเข้าร่วมกับนัวร์แห่งดาร์คแลนด์ด้วย
ได้และเเล้ว ในเดือน พฤษภาคม 2010
ชนเผ่าดาร์คที่รอดชีวิต ได้รวมตัวกันเป็นสมาพันธ์ปีศาจ
นำโดย นัวร์แห่งดาร์คแลนด์
ก่อตั้งอาณาจักรดาร์คแลนด์ขึ้น
ในครั้งนั้น สมาพันธ์ปีศาจมี 3 ท่านประกอบด้วย
1. Vinsare of Darkland
2. Dark Lady of Darkland
3.Bluerose of Darkland
อาณาจักรดาร์คแลนด์ก่อตั้งขึ้นอีกครั้งโดยมีนัวร์แห่งดาร์คแลนด์
เป็นผู้นำอาวุโสสูงสุด ดาร์คแลนด์รุ่งเรืองอย่างมาก
ชนเผ่าดารคที่กระจัดกระจาย ได้กลับคืนมาอีกครั้ง โดยบลูโรส เเละันัวร์ ได้จับมือทำพันธสัญญาเป็นพี่น้อง
กัน เเละทำพิธีกรรมรับ วิคเตอร์แห่งรัสเซียเป็นบิดา เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เมื่อเวลาผ่านไป ท่าน Vinsare of Darkland และท่าน Dark Lady of Darkland ได้ อำลาอาณาจักรดาร์คเเลนด์เพือออกเดินทางไปแสวงหาสัจธรรมในยดินแดนไกลโพ้น อย่างไรก็ตาม กิตติคุณของท่านทั้งสอง จะยังคงอยู่กับเราตลอดไป
คริสต์ศักราชที่ 2011 ยุคทองแห่งดาร์คแลนด์
อย่างไรก็ตาม ชาวดาร์คที่กลับมานั้นก็หาให้ชาวดาร์คสายเลือดแท้ไม่ เพราะการกระจัดกระจายไปนาน
ทำให้สายเลือดดาร์คเเท้ได้ปะปนกับสายเลือดอื่นจนสิ้น
จนยากจะตามหาผู้มีสายเลือดดาร์คในตำนานพบ
นอกจากนี้ การตื่นขึ้นของดาร์คแลนด์ในครั้งนี้
ยังก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ในป่าต้องห้ามคือ "ลูกแก้วมนต์ขลังแห่งดาร์คแลนด์"
ซึ่งมีอำนาจวิเศษ ส่งเสียงกระซิบไปยัง "ผู้ถูกเลือก"
เมื่อ ผู้ถูกเลือก สัมผัสได้ถึงเสียงกระซิบ เเละพลังเร้นลับของลูกแก้วมนต์ขลังเเห่งดาร์คแลนด์
จิตวิญญาณดาร์คก็จะเติบโตในจิตใจของพวกเขา
เกิดเป็นชาวดาร์คอีกประเภท คือ "ชาวดาร์คผู้ถูกเลือก"
ชาวดาร์คประเภทนี้จะไม่มีสายเลือดดาร์ค เเละพ่อหรือเเม่ของเขาอาจจะไม่ใช่ชาวดาร์ค
รวมถึงตัวเขาเอง อาจจะมีสัญชาติอื่น
เเต่ว่าจิตวิญญาณของเขา ถูกความดาร์คเข้าครอบงำ
เมื่อได้ยินเสียงลูกแก้วมนต์ขลังเเล้ว ชาวดารคผู้ถูกเลือกก็จะออกเดินทาง
ต่อให้ไกลเพียงใด
ก็จะข้ามผ่านมาให้ได้ เพื่อมายังอาณาจักรดาร์คแลนด์แห่งนี้..
ทำให้อาณาจักรดารคแลนด์เต็มไปด้วยชาวดาร์คจำนวนมาก
ทั้งเลือกบริสุทธิ์ เลือดผสม เเละ ชาวดาร์คผู้ถูกเืลือก
ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม 2011
บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ ได้ปฏิรูปการปกครองดาร์คแลนด์
โดยมี นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ เป็นผู้นำสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
ครองตำแหน่ง แกรนด์ดัชเชส แห่ง ดาร์คแลนด์
และ แบ่งการปกครองออกเป็น 6 แคว้น โดยคัดเลือดผู้นำแคว้น
จากการประลองเวทย์เเละอาวุธในระหว่างวันที่ 1-7 มีนาคม 2011 ได้ผู้นำเเคว้นดังนี้
"เทียร์ดรอล่า แคว้นแห่งน้ำตา"
ให้ปกครองโดย ดอลลา แดน ทไวไลท์ เทียร์ดรอล่า และแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งเทียร์ดรอล่า
"ไดซิเนส แคว้นแห่งรัตติกาล"
ให้ปกครองโดย บลูโรส แห่ง ดาร์คแลนด์และแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งไดซิเนส
"ไฟร์ไอนิส แคว้นแห่งเพลิงไฟและความแค้น"
ให้ปกครองโดย ลูซิเฟอร์ ดาร์ค ไฟร์ไอนิส และแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดยุคแห่ง ไฟร์ไอนิส
"เบลเลียมมอร์ธ แคว้นแห่งสงครามเเละความตาย"
ให้ปกครองโดย พีริอุส ครีด เบลเลียมมอร์ธและแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดยุคแห่งเบลเลียมมอร์ธ
"ไอร์กราเซียส แคว้นแห่งความหนาวเหน็บ"
ให้ปกครองโดย ลิลิธ เซลีน ไอร์กราเซียสและแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งไอร์กราเซียส
"โพเทสทา แคว้นแห่งพลังอำนาจ"
ให้ปกครองโดย ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ รามชาเกรล โพเทสทาและแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่ง ดัชเชสแห่งโพเทสทา
สำหรับการปกครองระดับมณฑล มอบให้แก่ ขุนนางยศ มาควิส
การปกครองระดับนคร มอบใมห้แก่ ขุนนางยศ เอิร์ล
การปกครองระดับเมืองท่า มอบให้แก่ ขุนนางยศ เคาน์
เเละการปกครองระดับเมือง มอบให้แก่ขุนนางยศ บารอน
เเละท่านหญิงบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ได้ปรับปรุงการปกครองในดาร์คแลนด์ให้ประกอบไปด้วย
1 อำนาจฝ่ายบริหารมอบให้แก่
สภาปกครองสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์ โดยท่านหญิงบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์เป็นผู้นำสูงสุดในสภาปกครองสูงสุดแห่งดาร์คแลนด์
สภาขุนนางแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยขุนนางระดับดยุค มาควิส เเละ เอิร์ล
สภาปราชญ์บัณฑิตแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยสมาชิกผู้ทรงภูมิด้านศาสตร์เเละศิลป์ วิชาการดาร์คแลนด์ต่างๆ
สภาพิทักษ์สันติราชแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบไปด้วยหน่วยพิทักษ์สันติราชต่างๆ
สภาข้าหลวงแห่งดารคแลนด์ ประกอบไปด้วยข้าหลวงตำแหน่งต่างๆ
2 อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มอบให้แก่
สภาฐานันดรแห่งดาร์คแลนด์ ประกอบด้วยวุฒิสมาชิก 6 คน
สภาสามัญชนและชนชั้นกรรมาชีพ ประกอบด้วย สมาชิกผู้แทนสามัญชน 6 คน
3 อำนาจฝ่ายตุลาการ มอบให้แก่
สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ อันได้แก่ศาลปกครอง เเละศาลยุติธรรม
4 อำนาจฝ่ายความมั่นคง มอบให้แก่
สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์
โดยตำแหน่งสมาชิกสภาต่างๆ
ให้มีการสรรหาเเละเเต่งตั้งโดยดุลยพินิจของผู้นำสูงสุดเเละผู้นำฝ่ายบริหารจะเห็นชอบ
ตำแหน่งไม่สามารถสืบทอดได้โดยสายเลือด
บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ ดัชเชสแห่งไดเซนนิส ซึ่งเป้นประธานสูงสุดฝ่ายบริหาร ได้จัดการก่อสร้างดาร์คแลนด์ครั้งยิ่งใหญ่
และเพื่อให้ดาร์คแลนด์ ได้เป็นอาณาจักรแห่งสันติสุขของชาวดาร์คตราบชั่วนิรันดร์
คริสต์ศักราชที่ 2011 การกลับคืนของอันทรา
เเละเเล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อบลูโรสแห่งดาร์คแลนด์, ฟลัวน่า ชาล็อตเต้ รามชาเกรรล์, เเตน ดอลลา เดอลาเทียร์ สามดัชเชสซึ่งมีอำนาจในยุคสมัยนี้ ได้รับบาดเจ็บจากการตกเครื่องบิน เป็นเจ้าหญิงนิทราที่โรงพยาบาล พร้อมกับการค้นพบเนพีอา...เเละการคืนชีพของสามพี่น้องแห่งอันทรา
เเละดาร์คแลนด์ ก็เข้าสู่การปกครองโดยตระกูลอันทราอีกครั้ง
โดยศูนยืกลางการปกครอง...อยู่ที่ เนพีอา
คริสต์ศักราชที่ 2012 ยุคทองแห่งไดซิเนส
หลังจากมายาโรสพ่ายแพ้แก่ภัยของตัวเอง และด้วยความเรียกร้องของประชาชน ตระกูลไดซิเนสได้กลับมาอีกครั้ง
บลูโรสแห่งดาร์คแลนด์ รับอำนาจการปกครองสูงสุดทั้งหมด และตัดขาดจากพันธมิตรทั้งปวงโดยสิ้นเชิง
เหล่าขุนนางได้ปฎิรูปการปกครองให้เป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นสองครั้ง
โดยนายกรัฐมนตรีไบร์ท ลูมินอส แห่งพรรคสังคมนิยม ได้รับตำแหน่งถึงสองหน
เอาชนะคู่เเข่งอย่างพรรคจิตวิญญาณหัวก้าวหน้า และพรรคบาทรอเลนเซียผู้มั่งคั่งเเละสูงส่ง
การสื่อสารเเละเทคโนโลยีในดาร์คได้เริ่มต้นพัฒนายิ่งขึ้น มีการส่งหนังสือพิมพ์แบบใหม่ที่สะดวกเเละดึงดูด
นอกจากนี้ ยังปรับปรงโครงสร้างผังเมือง เพื่อให้ชาวดาร์คที่มีจำนวนมาก มีทีอยู่โดยเท่าเทียมกัน
พร้อมกันนั้น ยังปฏิรูปการปกครองใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น สามสภา ดังนี้
1. สภาปกครองสูงสุด กุมอำนาจบริหาร ประกอบด้วย สภาขุนนางอัศวิน และสภาสามัญชน ซึ่งมีหลากหลายกระทรวง
2. สภาความั่นคง กุมอำนาจทหาร คอยปกป้องอาณาตักรจากภัยภายนอก และกุมอำนาจตำรวจคอยปกป้องอาณาตักรจากภัยภายใน
3. สภาตุลาการ กุมอำนาจศาลและการออกกฏหมาย
ทั้งนี้เกิดความเศร้าเเละการสูญเสียครั้งใหญ่ของชาวดาร์คนั่นคือการเสียชีวิตของซีเคร็ท นกฮูกประจำดาร์คแลนด์
ผู้มีอายุ 600 กว่าปี
ตอนที่2
ตระกูลอันทรา สายเลือดแท้แห่งดาร์คแลนด์
เนพีอา เป็นแคว้นโบราณที่ถือกำเนิดเมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว เป็นไปด้วยไอหมอก เดิมทีเป็นแคว้นที่ต้นกำเนิดเผ่ามนุษย์เลยก็ว่าได้ ที่มีตำนานยมทูตทั้ง5ตน สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา2คน คือมนุษย์หญิงและชาย มนุษย์หญิงมีชื่อว่าเอรินเทรีย มนุษย์ชายมีชื่อว่า อัทรา ทั้งสองเป็นต้นกำเนิดตระกูลอันทรา ที่สร้างอรายธรรมอันรุ่งโรจจนมีภาษา บ้านเมือง การปกครอง และประชาชน จนถึงยุคที่197ประชาชนที่นั่นเรียกตนเองว่าชนเผ่าดาร์ค ซึ่งมีสายเลือดดาร์คดั้งเดิมที่สืบทอดมาหลายรุ่น ทั้งหมดมีจุดรวมเดียวกันคือชิงชังแสงสว่างแต่เห็นความงามในความมืด
จนถึงยุคที่กาลวินาศแห่งอันทรา ยุคนั้นเป็นยุคที่ตระกูลนี้ได้มีวัฒนธรรมที่สมบูรณ์แบบ ปกครองยาวนานจนถึงตระกูลรุ่นที่97 มีชนเผ่าหนึ่งได้มาทำลายตระกูลอันทรา ชาวดาร์คตระกูลอื่นที่มีชีวิตรอดอยู่ก็ได้กระจัดกระจายไปที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะไปอยู่ที่อื่นแล้วมีทายาทเป็นชาวดาร์คสายเลือดผสม ส่วนชาวดาร์คสายเลือดแท้นั้นต้องไม่แต่งงานข้ามสายเลือด ซึ่งคล้ายกับอารยธรรมอียิปต์โบราณที่มีความเชื่อเรื่องอำนาจต่างๆ ทายาทที่จะให้ปกครองนั้นต้องเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันและสมสู่กันเอง
นี่คือแผนผังตระกูลอันทราที่ปกครองแคว้นเนพีอา
จนถึงยุคที่กาลวินาศแห่งอันทรา ยุคนั้นเป็นยุคที่ตระกูลนี้ได้มีวัฒนธรรมที่สมบูรณ์แบบ ปกครองยาวนานจนถึงตระกูลรุ่นที่97 มีชนเผ่าหนึ่งได้มาทำลายตระกูลอันทรา ชาวดาร์คตระกูลอื่นที่มีชีวิตรอดอยู่ก็ได้กระจัดกระจายไปที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะไปอยู่ที่อื่นแล้วมีทายาทเป็นชาวดาร์คสายเลือดผสม ส่วนชาวดาร์คสายเลือดแท้นั้นต้องไม่แต่งงานข้ามสายเลือด ซึ่งคล้ายกับอารยธรรมอียิปต์โบราณที่มีความเชื่อเรื่องอำนาจต่างๆ ทายาทที่จะให้ปกครองนั้นต้องเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันและสมสู่กันเอง
นี่คือแผนผังตระกูลอันทราที่ปกครองแคว้นเนพีอา
ลอร์ด กาโยร่า ไซโนดอน เดอะซันแลนด์ ออฟ อันทรา
ดยุคแห่งเนพีอา
ผู้นำตระกูลอันทรา
ดยุคแห่งเนพีอา
ผู้นำตระกูลอันทรา
โจเซฟิน อันทรา ดัชเชสแห่งวายุตรา |
มายาโรส อันทรา ดัชเชสแห่งหิมาลัย |
ชาร์มดาร์คเนส อันทรา ดัชเชสแห่งสายฟ้า |
||||
เอรินเดีย อันทรา มาเควียเนสแห่งเภตรา บุตรีของท่านหญิงมายาโรส อันทรา |
เฟรี่ ฟาราเรีย อันทรา มาเควียเนสแห่งเพลิงพราย บุตรีของท่านหญิงชาร์ม ดาร์คเนส อันทรา |
โอเซคูล อันทรา มาเควียเนสแห่งอัทรา บุตรีของท่านหญิงโจเซฟิน อันทรา |
ตอนที่3
สายเลือด
สายเลือดที่แตกต่างในปัจจุบัน แทบไม่มีผลอะไรเลย เพราะชาวดาร์คในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นสายเลือดผสม หรือเผ่าพันธุ์อื่นๆที่มาจากที่อื่น ที่เห็นบ่อยๆคือ เผ่าพันธุ์แม่มด เผ่าพันธุ์แวมไพร์ และอื่นๆ ถ้ามีผลน่าจะมีผลในเรื่องการปกครองที่แคว้นเนพีอาเท่านั้น เพราะแคว้นนี้ต้องเป็นสายเลือดแท้เท่านั้น สายเลือดผสมน่าจะไม่ได้รับสิทธิ์นี้
ในที่นี้จะนำเอาเรื่องพันธุกรรมมาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้เห็นว่า เพราะอะไร จริงเป็นสายเลือดแท้ และเพราะอะไรจึงเป็นสายเลือดผสม
มนุษย์มีโครโมโซม46แท่ง 23คู่ ดังนั้นจึงแบ่งได้ เพศชายXy เพศหญิงXX
และอสุจิของเพศชายมี23แท่ง ไข่ของเพศหญิงมี23แท่ง(แบ่งครึ่งแล้วเอามารวมกันไงๆ><)
ยกตัวอย่างคือ
แม่=XX พ่อ=Xy
XX+ Xy
┏┫ ┣┓
X X X y
┏┛ l l ┗┓
┏┛ l l ┗┓
XX Xy XX Xy
ผลลัพธ์ =เพศหญิง50%
เพศชาย50%
ผลลัพธ์ =เพศหญิง50%
เพศชาย50%
เปรียบเทียบเป็นสายเลือดได้
สายเลือดแท้คือ
ดาร์ค=DD
DD + DD
┏┫ ┣┓
ดาร์ค=DD
DD + DD
┏┫ ┣┓
D D D D
┏┛ l l ┗┓
┏┛ l l ┗┓
DD DD DD DD
ผลลัพธ์= ดาร์คแท้100%
สายเลือดผสมคือ
ดังนั้น สายเลือดดาร์คผสม ต้องมีคนใดคนหนึ่งที่มีสายเลือดดาร์ค
หรือถ้าพ่อแม่เป็นสายเลือดผสมทั้งคู่
ดาร์คแท้25%
ไม่ใช่ดาร์ค25%
หรือถ้าสมมุติว่าพ่อสายเลือดผสมแม่เป็นสายเลือดแท้
สายเลือดผสมคือ
ดาร์ค=DD ไม่ใช่ชาวดาร์ค=xx
ผลลัพธ์ = ชาวดาร์คเลือดผสม100%
DD + xx
┏┫ ┣┓
┏┫ ┣┓
D D x x
┏┛ l l ┗┓
┏┛ l l ┗┓
Dx Dx Dx Dx
ดังนั้น สายเลือดดาร์คผสม ต้องมีคนใดคนหนึ่งที่มีสายเลือดดาร์ค
หรือถ้าพ่อแม่เป็นสายเลือดผสมทั้งคู่
ดาร์คผสม=Dx
ผลลัพธ์ = ดาร์คผสม50%
Dx + Dx
┏┫ ┣┓
┏┫ ┣┓
D x D x
┏┛ l l ┗┓
┏┛ l l ┗┓
DD Dx Dx xx
ดาร์คแท้25%
ไม่ใช่ดาร์ค25%
หรือถ้าสมมุติว่าพ่อสายเลือดผสมแม่เป็นสายเลือดแท้
ดาร์คผสม=Dx ดาร์คแท้=DD
ผลลัพธ์ = ดาร์คแท้50%
DD+ Dx
┏┫ ┣┓
D D D x
┏┛ l l ┗┓
DD Dx DD Dx
ดาร์คผสม50%
เพื่อความแน่ใจ อาจะจะถามพ่อแม่ญาติพี่น้องของคุณดูแล้วทำตามทฤษฎีพันธุกรรม
...................................................................................
บทที่3
วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล
จากการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ทำให้ผู้ศึกษารู้ว่า นอกจากสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ล้วนมีหลากหลายสายพันธุ์ ในสายพันธุ์นั้นยังมีสายเลือดอีกที่คอยแยกเป็นพันธุ์ย่อยๆอีก เช่นมนุษย์ นิกกรอยด์ คอเคซอยด์ มองโกลลอยด์ นีแอนเดอร์ทัล มีทั้งที่มีอยู่และสูญพันธุ์ไปแล้ว หรืออาจจะยังดำรงชีวิตอยู่ที่ใดสักแห่ง อารยธรรมก่อกำเนิดวัฒนธรรม การแบ่งแยก สายเลือด ชนชั้นต่างๆในสมัยก่อน สรุปได้ว่า สายเลือดดาร์คแท้ยังมีอยู่ในปัจจุบัน และเหลือเพียงน้อยนิด ส่วนสายเลือดดาร์คผสม มีอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะสายเลือดใด เผ่าพันธุ์ใด ตราบใดที่ยังมีชีวิตร่วมกัน เราต้องปรับตัวอยู่ในสภาพสังคมปัจจุบันให้ได้.
ผิดพลาดประการใดโปรดให้อภัย ณ ที่นี้ด้วย
ลงชื่อ
ดรากิออน อีลิคเทรียน อินเทอร์นอลเลี่ยน
นักศึกษาปริญญาตรีสาขาพันธุ์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยดาร์คแลนด์
ดรากิออน อีลิคเทรียน อินเทอร์นอลเลี่ยน
นักศึกษาปริญญาตรีสาขาพันธุ์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยดาร์คแลนด์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น