คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #84 : ตอนที่ 73 คำอธิบาย
ตอนที่ 73 คำอธิบาย
อย่างที่ทุกท่านได้ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าพวกผมได้ก้าวเข้ามาสู่การเป็นชาวค่ายอาสาและเราก็เริ่มทำหน้าที่ของสมาชิกที่ดีมาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว พูดซะดูดีแต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วพวกผมน่ะคุ้นเคยกับชมรมนี้มาตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้วครับเพราะไอ้ปันมันบังคับให้เข้าเหมือนกับตอนบังคับไปค่ายเด๊ะ
แต่พวกผมไม่ใช่ขาประจำเป็นแค่ขาจรนานๆถึงจะแวะเวียนเข้ามาทีช่วงที่ต้องออกค่ายใหญ่ๆแบบครั้งนี้ไอ้เรื่องผูกมิตรกับเพื่อนใหม่เลยไม่ใช่ปัญหาเพราะว่ารู้จักกันดีอยู่แล้วส่วนใหญ่ก็พวกหน้าเดิมๆมีรุ่นน้องมาเพิ่มไม่กี่คนเองมั้ง
สมาชิกในชมรมก็คนกันเองทั้งนั้นมีเพื่อนจากคณะไอ้ภูมิด้วย ก็นะออกค่ายอาสาไปสร้างตึกเรียนสร้างอาคารมันก็ต้องใช้แรงงานและมันสมองของเด็กวิศวะกันบ้างและมันทำให้ผมมีความรู้เกี่ยวกับเด็กวิศวะเพิ่มมาอีกหนึ่งข้อคือพวกมันเป็นสัตว์สังคมที่หาตัวจับยาก
ว่าง่ายๆก็คือมันชอบอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะไปไหนมาไหนทีละเป็นฝูงผู้หญิงผู้ชายเท่าเทียมทุกอย่างเพราะมันแมนไม่ต่างกันเลย ฮ่าๆ ส่วนภูมิดูเหมือนมันจะเป็นที่รักของเพื่อนๆมากและคงฮอตน่าดูเพราะเห็นเพื่อนแซวเพื่อนล้อมันตลอดแต่แซวเรื่องสาวๆของมันผมก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไรหรอก เฮอะ ส่วนมันก็แค่ยิ้มกับหัวเราะเป็นผู้ฟังตามประสาผู้ชายพูดน้อยต่างจากไอ้มิคที่แทบจะไม่เคยหุบปากเลย
และประเด็นที่ทำให้พวกเราชาวค่ายซี้ปึ้กกันได้ในระยะเวลาอันสั้นก็เพราะมีเหล้าเป็นตัวกระชับความสัมพันธ์ครับ พอรู้จักกันก็เริ่มตั้งวงตอนแรกก็มีนายๆเราๆปะปนบ้างตามประสาคนยังไม่คุ้นเคย แต่ดูตอนนี้สิแม่งแทบจะขึ้นเหยียบหัวกันอยู่แล้ว หาเรื่องจะเมาได้ทุกวันเมื่อวานพี่โต้งที่ปรึกษาสูงสุดของชมรม(อย่างงนะครับเพราะผมก็งงคือพี่แกเป็นที่ปรึกษาส่วนไอ้ปันมันเป็นประธาน เออ เอากับเขาสิ)ทะเลาะกับเมียเลยเรียกพวกผมมากินเหล้าย้อมใจกินในชมรมเลยครับพี่แกเทพมาก
กูเชื่อแล้วว่าเด็กรัฐศาสตร์มันทำได้ทุกอย่างจริงๆพอกำลังจะเมาได้ที่พี่ดาวเหรัญญิกดันเข้ามาเจอ พวกผมโดนสวดยับเลยโดนด่าจนหูชา พี่ดาวด่าอยู่เกือบสิบนาทีไปๆมาๆสรุปว่าพี่แกโมโหที่พวกผมกินเหล้าแล้วไม่ชวนผู้หญิงวิศวะแม่งก็ทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน
ผมว่าผมเริ่มเห็นเค้ารางอนาคตค่ายอาสาอยู่รำไรมันคงหนีไม่พ้นความเมาแน่ๆดื่มน้ำจันทร์แล้วก็วันเบาๆ ขึ้นให้สุดต้องลงให้มิดอันนั้นก็ดูดีอันนี้ก็อยากได้ ไปแล้วกูอย่าถือสาเลยครับมันเป็นผลมาจากการแฮงค์เพราะสองสามวันมานี่เมาแม่งแทบทุกวันฉลองให้กับมหกรรมสอบไฟนอลที่พวกผมเพิ่งหลุดพ้นและฉลองให้กับชีวิตนักศึกษาปีสามที่กำลังจะผ่านพ้นไป
แต่ที่ยังมาวนๆเวียนๆในมหาลัยนี่ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีคนขยันอยากมาช่วยงานชมรมนะที่ผมมาเพราะว่าไม่มีที่จะไป ตลกละต้องตลกครับเพราะความจริงมันเศร้าT^Tผมถูกบังคับให้มามันเป็นความต้องการจากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ก็คณะมันน่ะยังสอบไม่เสร็จไอ้หล่อมันโคตรกวนตีนบอกว่าให้ผมมาใช้ออกซิเจนใกล้ๆกันมันจะได้มีกำลังใจสอบ +_+ แม่งบ้าแต่ก็ต้องมา
บรรยากาศในชมรมก็เฮฮาบ้าบอเรื้อนๆเป็นกันเองดีครับพวกเราเริ่มออกระดมปล้นเอ้ยเดินกล่องรับบริจาคหลายวันแล้ว ที่จริงงบฯจากมหาลัยมันก็มีให้ส่วนหนึ่งแต่มันไม่พอหรอกครับออกค่ายอาสาต้องใช้เงินเยอะเหมือนกันอีกอย่างถ้าไม่เดินกล่องมันก็คงไม่ใช่ค่ายอาสาเนอะ
พวกผมไม่ได้เดินกล่องอย่างเดียวนะก็มีทำหนังสือไปขอสปอนเซอร์จากหลายบริษัทรวมถึงเครือเจริญเกียรติพาณิชย์ที่ได้มาเยอะอยู่ หึหึ ไม่ใช่ว่าเพราะมีทายาทอยู่ร่วมชมรมหรอกครับที่จริงบริษัทก็จะมีงบส่วนนี้ไว้ช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว
ตอนแรกไอ้ภูมิจะไปขอพ่อเยอะกว่านี้อีกแต่ดีที่ผมด่ามันไว้ทัน คือก็เข้าใจว่ามันมีเยอะและอยากช่วยเยอะๆแต่ค่ายอาสาคือการร่วมมือร่วมแรงกันเพื่อไปช่วยคนอื่นไม่ใช่ว่ามันมีเยอะก็จะทุ่มเอาจากมันคนเดียว แบบนั้นเราคงไม่ได้เรียนรู้ว่ากว่าจะได้เงินหรือพวกของใช้ต่างๆมามันยากแค่ไหนส่งเรื่องขอไปสิบที่ได้มาสามที่ก็ยังมีเลยครับ ความหมายของคำว่าอาสามันเริ่มตั้งแต่พวกเราเตรียมงาน วางแผน ระดมทุนอยู่ที่นี่ไม่ใช่ตอนที่เราไปถึงสถานที่หรอกครับ^^
สิ่งของที่เราอยากได้รับบริจาคก็มีพวกสื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์การเรียนของน้องๆระดับชั้นประถม นอกนั้นก็พวกยาสามัญทั่วไป แล้วก็พวกเครื่องนุ่งห่มผ้าห่มให้ชาวบ้านด้วย ส่วนพวกอิฐ หิน ดิน ปูนที่จะใช้ในงานก่อสร้างคงต้องไปติดต่อที่เชียงใหม่เพราะพวกผมคงไม่ขนขึ้นรถไฟไปด้วยแน่ๆ
แต่ของพวกนี้เราส่งเรื่องขอไปตามบริษัทห้างร้านต่างๆแล้วครับการออกไปเดินกล่องก็เน้นรับเป็นเงินมากกว่า เราไม่ได้แบ่งวันว่าใครจะไปวันไหนใครว่างก็ผลัดๆเปลี่ยนๆหมุนเวียนกันไปผมกับเหล่าเดอะแก๊งค์ก็ไปร่วมกับเขาด้วย ขอบอกว่าสนุกมากกกกแต่ก็ไม่ได้ไปพร้อมกันทุกคนหรอกเพราะเราว่างไม่ตรงกัน
ส่วนมากผมจะไปกับไอ้คิวไอ้เต้ยไอ้ฟ่างแล้วก็พี่ๆน้องๆคนอื่นในชมรมรวมถึงไอ้ประธานชมรมอย่างไอ้ปัน ตอนนี้มันไม่ได้เป็นรองอุปนายกองค์การนิสิตแล้วครับเพราะหมดวาระในการทำงานก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชุดใหม่แต่ผมก็เห็นไอ้ปันมันวิ่งวุ่นประสานงานนู่นนั่นนี่ตามประสาคนหลายตำแหน่ง
และยิ่งวันไปค่ายอาสาใกล้เข้ามาพวกผมก็ต้องเทียวเข้าเทียวออกชมรมบ่อยมากขึ้นเพราะมันต้องเตรียมงานหลายอย่าง วันนี้พี่โต้งนัดรวมพลเพราะจะมีการประชุมแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันอย่างจริงๆจังๆผม ไอ้คิว ไอ้เบียร์ว่างก็เลยเข้ามาก่อนแต่ตอนนี้ไอ้เบียร์มันไม่อยู่แล้วครับไปรับเด็กที่เรียนพิเศษ
เมื่อก่อนนะไอ้คุณชายมันทำตัวติดดินไม่มีหรอกที่จะขับรถมาเรียนมันบอกว่าเป็นแค่นักศึกษาใช้รถเมล์ใช้บีทีเอสก็พอ แล้วดูตอนนี้สิแม่งเจ็ดวันเจ็ดคันก่อนที่ไอ้เบียร์มันจะออกไปทำหน้าที่พี่ชายก็ถูกไอ้คิวแซวจนคุณชายมันแทบประสาทกิน
“เที่ยงแล้วพี่ชายจะพาน้องโตเกียวไปแดกพระกระยาหารที่ตำหนักไหนหรอจ๊ะ”
“ช่วงนี้เพื่อนกูไม่เรียนแล้วนะกฎหมายเพราะมันไปเรียนกับครูปิงครูลิลลี่ครูพี่แนน มึงจะยื่นคะแนนเอ็นฯใหม่หรืออย่างไรครับเพื่อน”
“ไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาสถาบันติวก็ยังดี ฮ่าฮ่า”
หึหึ ปล่อยมันไปครับแม้ว่ามันจะยังไม่ชัดเจนแต่ถ้าเพื่อนแฮปปี้เราก็มีความสุขส่วนพวกผมช่วงนี้ก็เรียกว่าถ้าว่างปุ๊บก็จะเข้ามานั่งๆนอนๆที่ชมรมจนตอนนี้ที่ชมรมก็มีมนุษย์เกือบสิบชีวิตอยู่ก่อนแล้วและอีกเดี๋ยวเจ้าชีวิตผมก็คงตามมา
เราก็ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ชีวิตหรอกแค่นั่งช่วยพวกน้องนิ่มน้องแอมแยกหนังสือแยกอุปกรณ์การเรียนที่มีคนบริจาคมา อ่อผมมีเรื่องจะเล่าครับสาวๆคือน้องแอมมันกรี๊ดไอ้ฟ่างมากบอกว่าปลื้มตั้งแต่เข้าปี1
พอรู้ว่าไอ้แทนกับไอ้ฟ่างเป็นแฟนกันแทนที่จะเสียใจแต่แม่งยิ่งคลั่งหนัก วันๆน้องแอมมันไม่ทำอะไรเอาแต่นั่งซักประวัติว่าพี่ฟ่างกับพี่แทนเจอกันที่ไหนรักกันได้ยังไงใครบนใครล่าง พอหนักๆเข้าไอ้น้องแอมมันจะทำแฟนเพจให้ด้วยมันบอกว่ามันฟิน
ผมก็ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไรแต่แอมมันชอบพูดบ่อยๆเวลาที่ไอ้แทนกับไอ้ฟ่างอยู่ใกล้ๆกัน มันจะตะกุยตะกายฟาดงวงฟาดหางใส่คนที่อยู่ใกล้ๆบางทีกัดเสื้อกัดผ้าเช็ดหน้ากลั้นเสียงกรี๊ดก็มีแล้วมันก็จะตะโกนว่า “กูฟินๆ อ๊ากกก ฟินแทนฟ่าง” ประมาณนี้แหละครับชมรมนี้แม่งเพี้ยนตั้งแต่ที่ปรึกษา ประธานยันสมาชิก
“พี่แทน พี่ฟ่างไปไหนอ่ะทำไมไม่มาด้วยกัน” ไอ้น้องแอมมันเริ่มอีกแล้วครับเมื่อกี้มันยังนั่งแพ็คของอยู่ข้างพี่นิวพอไอ้แทนเดินเข้ามาน้องมันก็ลอยเข้าไปหาทันที
“เอ้าพวกพี่ไม่ได้ผูกค
ขาติดกันนะเว้ย คนมีเรียนมันก็ต้องไปเรียนสิครับน้องแอมมี่” ไอ้แทนมันยิ้มๆขำๆตอบน้องแอมแบบกวนๆ
“พี่แทนอ่ะเรียกแฟนว่ามันได้ไงไม่สุภาพเลย” พวกผมหัวเราะแต่ไอ้แทนถึงกับเงียบ
“อ่ะจ๊ะพี่แทนขอโทษที่ไม่สุภาพกับแฟนคือคุณฟ่างเค้าเรียนอยู่เดี๋ยวคุณฟ่างตามมาทีหลังคุณน้องแอมพอใจรึยังครับ”
“อรั้ยพอใจสุดๆอ่ะเฮีย” แล้วน้องแอมก็ยิ้มเพ้อไปเลย
“ท่าจะเป็นเอามาก เฮ้ยพวกมึงสามตัวไม่มาช่วยน้องเขาแพ็คของวะปล่อยให้ผู้หญิงทำได้ไง” ผมกับพี่หมอกานต์เงยหน้ามองไอ้แทนที่เหมารวม พี่หมอกานต์น่ะเขาไม่ว่าอะไรหรอกเพราะพี่แกใจดีไอ้แทนมันเลยหัวเราะแล้วแกล้งยกมือไหว้ขอโทษพี่กานต์แต่มันยักคิ้วให้ผมเดี๋ยวพ่อเฟี้ยวงด้วยกรรไกรไอ้เชี่ย
“มึงอย่าพูดมากไอ้แทน กูเพิ่งได้พัก” ไอ้เอ็มหันมาบอก
“เหรอออออออออออ” เป็นเสียงจากทุกคนในชมรมเลยครับเพราะตั้งแต่ผมเข้ามาผมยังไม่เห็นเชี่ยเอ็มมันหยิบจับทำอะไรนอกจากเล่นหมากฮอตกับไอ้ท็อป ไอ้เอ็มเป็นหนุ่มคณะบริหารที่หน้าตากระเดียดไปทางกรรมกรซะมากกว่าส่วนไอ้คิวกัลยาณมิตรสุดซี้ของผมมันก็ตั้งทีมฟุตบอลเตะอยู่ในห้องชมรมนี่แหละแม้จะถูกพี่ดาวด่ามันก็ยังไม่เลิกแม่งเอะอะโวยวายเหมือนงานบวชทั้งที่มันเล่นกันแค่สี่คนและกำลังจะมีคนที่ห้าคือไอ้แทน
“มึงมาอยู่ทีมกูเลยแทน” ไอ้เดย์ครับมันคือว่าที่คุณครูอนาคตพ่อพิมพ์ของชาติแต่ว่าหน้าตาและสันดานมันเหมาะสำหรับจะไปฆ่านักเรียนมากกว่า
“ส้นตีนเหอะเชี่ยเดย์ ไอ้แทนมันเพื่อนกูมันต้องอยู่ทีมกูโว้ยมึงมานี่มาสหายของข้า” ไอ้คิวรีบแย่งทันทีแต่ไอ้แทนมันคงปลงถึงได้เดินกลับออกมานั่งข้างๆผม
“อ้าวพี่แทนไม่เล่นแล้วหรอพี่” น้องเวียร์เด็กรัฐศาสตร์ทีมไอ้คิวตะโกนมาถาม
“ตามสบายเถอะกูหมดอารมณ์”
“เยี่ยม งั้นก็รีบไสหัวไปไอ่สัส” ไอ้คิวด่าก่อนจะกลับไปเล่นบอลกันต่อ
“พี่ๆขาพวกหนูจะไปซื้อของกินพวกพี่เอาไรป่ะ”
“เลี้ยงป่ะ” ไอ้คิวหยุดเตะบอลแล้วหันมาถามน้องแอม
“โห่พี่คิว พี่ต้องเลี้ยงน้องมั่งเหอะวันก่อนพี่พีมยังเลี้ยงเค้กหนูเลยอ่ะเนอะพี่พีม” น้องแอมหันมายิ้มหวานให้ผมแต่ไอ้คิวมองผมก่อนจะยักไหล่
“แหม่จะให้เลี้ยงก็ไม่บอกแล้วอยากกินอะไรละอ้อยหรือกล้วยดีจ๊ะน้องแอมและผองเพื่อน” เสียงกรี๊ดอย่างเจ็บใจและเสียงโวยวายของเด็กผู้หญิงเกือบสิบชีวิตทำเอาห้องชมรมเกือบแตกตามมาด้วยเสียงหัวเราะของพวกผม
“ไอ้คิวแกกล้าว่าน้องฉันเหรอห๊ะ” ไม่ใช่ใครไหนอื่นพี่ดาวนั่นเอง
“ทำไมเจ๊แค่นี้เดือดร้อนแทนเหรอหรือเจ๊ก็อยากกินเอาไหมจะได้สั่งมาทีเดียวสักสองรถน่าจะพอ”
“กูว่าไม่พอว่ะคิว กร้ากกกก” ไอ้ท็อปตะโกนผสมโรงพี่หมอกานต์ที่นั่งอยู่ข้างๆผมยังขำเลย
“งั้นเหมามาทั้งสวนเลยดีไหมเจ๊”
“พี่คิว/ไอ้คิว!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“โถๆผมฮักดอกจึงหยอกเล่นถ้าไม่ดอกไม่เล่นหรอกนะ” ฮ่าๆพี่ดาวปาปากกาใส่มันเลยครับ ผมกับไอ้แทนก็ได้แต่ส่ายหน้าขำๆ ใครที่คิดจะลับฝีปากกับไอ้คิวถือว่าคุณได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดมากที่สุดในชีวิต “เอาเป๊บซี่แก้วเฮ้ยพวกมึงแดกไรไหมวะ แคระกินไรป่ะ”
อย่างน้อยมันก็มีน้ำใจกับเพื่อนแต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่เพราะแม่งเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์กู ไอ้คิวหัวเราะลั่นที่เห็นผมตาเหลือกมองตามก่อนจะวางกระเป๋าผมไว้ตามเดิม แม่งแกล้งกูนี่ขนาดนั่งอยู่เฉยๆนะ พวกน้อง แอมดีใจรีบไหว้พร้อมถอนสายบัวกันใหญ่เมื่อไอ้คิวยื่นแบงค์สีม่วงๆให้แม่งป๋ามาก
“กูเอาลิปตัน เทสโต้ ฟุตลองชีส ไปซื้อที่ไหนว่ะเจอร้านผลไม้เอาฝรั่งกับแตงโมด้วย”
“สัดเอ็มมึงไปซื้อแดกเองเลยไป”
“ใช่ๆพี่เอ็มไปช่วยหนูถือเลย สั่งเยอะเว่อร์อ่ะ ไม่สงสารผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างหนูบ้างเหรอ”
“หืออออ เล็กกว่านนี้ก็ลูกฮิปโปแล้วแอม”
“พี่คิว!!!!!”
“กร้ากกกกกกกกกกกก” แล้วน้องแอมมันก็สะบัดหน้างอนตุ๊ปป่องออกไปกับน้องนิ่ม เชี่ยคิวแม้แต่ผู้หญิงมันก็ไม่เว้น แรกๆมันก็พูดดีด้วยหรอกแต่พอนานๆไปเริ่มซี้กันเมื่อไรมันก็พร้อมจะกัดได้ทุกเวลานี่ถ้าไอ้ฝ้ายมันมาเมื่อไรยิ่งมันส์กว่านี้
แต่เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้ผมยังแนะนำสมาชิกไม่หมดชมรมเรามีมนุษย์อยู่ร่วมๆห้าสิบชีวิตเลยนะครับ ใช่จะมีกันแค่นี้เพราะว่าเรายังมีกลุ่มบุคคลสำคัญที่พวกผมภูมิใจนำเสนอรับรองว่าพวกคุณคาดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าพวกมันจะเป็นสมาชิกของชมรมค่ายอาสา
.
และเวลานับต่อจากนี้ไปท่านผู้มีเกียรติทุกท่านจะได้พบกับความอลังการตระการตามหาอุบาทว์และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลากระผมขอนำทุกท่านไปพบกับ
..แก็งค์สวยพิภพสะเทือน!!!!!!!แถมคราวนี้ไม่ได้มีแค่สามเพราะมันเอาทายาทเอาลูกเอาหลานมันมาเป็นฝูงรวมถึงตัวแม่อย่าง “อีเฟรนลี่”
“ผัวววววววววววววววววขรา” เหมือนได้ยินเสียงนกแขกเต้าแตกรังดังมาแต่ไกลๆพอหันไปมอง โอ้โฮกะเทยหนึ่งขโยงกำลังหอบสังขารวิ่งมาทางนี้ครับ อีกรีน อีจีจี้ อีเคที่ และ
จำได้ไหมครับที่ผมเคยบอกว่าแก๊งค์สาวสวยนี่มีห้าคนแต่เพราะอีกสองสาวมันอยู่ต่างคณะเลยไม่ค่อยเจอกันแต่ฤทธิ์เดชมันก็ไม่ต่างจากพวกอี กรีนเท่าไรเผลอๆผมว่าอีสองตนนี่แรงกว่าอีก
พอมาถึงพวกมันก็ทำให้ชมรมที่สงบต้องกลายสภาพเป็นนรกแตกไม่น่าเชื่อว่าแค่กะเทยแค่ห้าคนจะทำให้เกิดเสียงดังได้ขนาดนี้ อีจี้ก็ถลาเข้าหาผม อีเคที่มันก็ลอยๆไปหาไอ้แทนเพราะไอ้หนึ่งไม่อยู่หรือถึงจะอยู่ผมว่าอีเคที่มันคงเปลี่ยนใจไปหาไอ้แทนตั้งแต่วันแข่งบอลแล้ว
ส่วนอีกรีนวันนี้มันมาแปลกเพราะมันทำหน้าบึ้งกระแทกตัวนั่งข้างๆไอ้คิวอย่างผิดวิสัย ส่วนสวีทก็นั่งลงอีกข้างของผมเหลือแค่อีเฟรนลี่หัวหน้าแก๊งค์ยืนล่ำน่ากลัวอยู่ น้องๆก็ตะโกนสวัสดีพวกมันกันใหญ่
“อีจี้นี่เหรอผู้ชายที่หล่อนบอกว่าจะพาฉันมาแซ่บ ดอกกกกกกกกทอง อีห่ากูนึกว่าจะพากูไปกินอะไรดีๆ” อีเฟรนมันเบะปากมองพวกผมแบบรังเกียจไอ้แทนเลยลุกไปบีบนมมัน
“ว๊าย ตุ๊ดไม่เจอะกันนานคิดถึงจังเล้ยยยยยยยย” ไอ้แทนดัดเสียงทักทายอีเฟรนพร้อมกับเข้าไปกอดไปบีบนมมันอีเฟรนลี่มันจิกตาใส่แต่ไม่ไล่ปล่อยให้ไอ้แทนกอด ฮ่าๆ บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาครับ อีเฟรนลี่นอกจากจะเป็นเพื่อนเก่าสมัยหัวเกรียนโรงเรียนเดียวกันมันยังเป็นญาติห่างๆของไอ้คิวด้วยเวลามันปะทะคารมกันมันส์ยิ่งกว่าอีกรีนอีกเพราะอีกรีนบางทีมันก็ยอมๆไอ้คิวบ้างเพราะรัก กร้ากกกก
แต่อีเฟรนลี่นี่จิกกัดทุกกระบวนท่าเพราะมันไม่พิศวาสพวกผมหรอกก็รู้จักกันมากี่ปีแล้วละอีกอย่างมันบอกว่าพวกผมไม่ใช่สเป็คเพราะมันชอบแบบไทยๆเข้มๆกล้ามปูนิดๆ คืออีเฟรนลี่มันแรดนะแต่ว่าไม่ได้แต่งหญิงทาหน้าอย่างพวกอีกรีนดูเผินๆอาจจะคิดว่าแมนกว่าพวกผมด้วยซ้ำ
“กองไว้ตรงนั้นแหละย่ะ ชั้น ไม่ ต้อง การ”
“โหยยยย แม่คุณแม่คนสวยแม่คนเลือกได้” ไอ้คิวเดินมากระแทกไหล่อีเฟรนก่อนจะนั่งลงข้างๆพี่กานต์ที่ยิ้มมองพวกผมปะทะกับพวกอีเฟรน แหมๆไอ้คิวที่ว่างเยอะแยะแต่มานั่งใกล้หมอน่ารักซะงั้นไอ้เต้ยมาเจอนี่บอกได้คำเดียวว่าง้อกันยาว “ตุ๊ดห่าไรกล้ามใหญ่กว่ากูอีก”
“เดี๊ยนเกรงว่าคงไม่ใช่แค่กล้ามหรอกกระมังค่ะที่กูใหญ่กว่ามึง” ไอ้คิวปรี๊ดเลยครับอีเฟรนมันยิ้มๆเชิดๆมันเป็นกะเทยที่มโนว่าตัวเองเป็นผู้ดีมีเชื้อเจ้าทั้งที่มันก็สืบเชื้อสายมากจากตระกูลเดียวกับไอ้คิว
“เริ่ดค่ะเพื่อนขา เอาซะหมาในปากผัวกูหมองลงไปเลย”
“แน่นอน เขยิบไปดิ๊อีนี่ปล่อยให้สตรีอย่างกูยืนชูคออยู่ได้” อยู่ๆผมก็ซวยโดนมันด่าซะงั้น
“แล้วมึงเป็นอะไรอีกรีนนั่งหน้าหงิกหน้างอ ท่อปัสสาวะไม่เดินหรอวะ” พอไอ้เอ็มถามพวกแก๊งค์สวยมันก็พร้อมใจกันหัวเราะ อีสวีทถึงกับหลุดหัวเราะด้วยเสียงแมนๆอีสวีทจริงๆมันชื่อวิทครับหน้ามันก็หวานๆสวยๆสมชื่อนะหรือจะว่าไปกะเทยสวยก็คือผู้ชายหล่อดีๆนี่เองผมเคยชมมันไปครั้งนึงว่ามันคงหล่อมากถ้าเป็นผู้ชาย
แล้วคุณรู้ไหมว่าผมเจออะไรบ้างผมเกือบเอาชีวิตไม่รอดครับมันทั้งด่าทั้งทุบตีทำร้ายร่างกายผมสารพัดผ่านไปสามวันเจ็ดวันก็ยังเดินมาด่าถึงคณะจนผมต้องชมว่ามันสวยน่ารักมันถึงยอมและคงยอมมากไปมันถึงคิดจะเกี้ยวผมแข่งกับอีจี้แม่งกูโคตรเข็ดอ่ะ
“หัวเราะหาพระมารดามึงหรอคะ อีหอย”
“เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังที่อีกรีนมันรมณ์เสียก็เพราะว่าพ่อนางเห็นคลิปที่นางแต่งหญิงค่า” อีเคที่เล่าไปขำไป
“กร้ากกกก เชี่ยนี่พ่อมึงยังไม่รู้อีกเหรอว่าลูกชายฝักใฝ่ในบุรุษเพศ” ไอ้คิวถามเมียน้อยมัน
“ก็รู้แต่เขาไม่คิดว่ากูแต่งสวยไงคะอีนี่แม่งเพราะอีปันคนเดียว อีห่ารากมันบอกว่าจะทำคลิปโปรโมทค่ายอาสา ดอกเสือกอัพลงยูทูปแล้วไม่รู้ใครเอาไปให้พ่อกูดู”
“กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” พวกน้องๆผู้หญิงหัวเราะงอหงายตายไปเลย
“ดูเหมือนชะนีมีความสุขนะคะพวกหล่อนรู้ไหมว่าฉันต้องเจอโทษทัณฑ์อันใดบ้าง”
“เจอไรคะสาวสวยพี่ว่าอย่างมากเขาก็แค่ด่าไม่กล้าฆ่าลูกตัวเองหรอก” พี่ดาวปลอบใจทั้งที่กำลังหัวเราะ
“มันก็จริงค่ะคุณพี่ดาวขาแต่ที่หนูเจอมันก็เลวร้ายพอๆกับตายเลยค่า”
“ทำไมวะ” ผมถามบ้าง
“พ่อให้กูกลับไปคัดตัวนักฟุตบอลจังหวัด กรี๊ดดดดดนรกได้อีก กูอัพยาคุมบำรุงหนังหน้าทำผิวชุบตัวหมดไปเท่าไรมึงรู้ไหมอีพีมแล้วจะให้กูไปเตะบอลกูไม่ใช่ข้อสอบแกทแพทปีนี้นะค๊า สลิดจริงๆชีวิตกะเทย”
“กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อีกรีนกูสงสารมึงนะแต่กูก็ฮา” ผมเอื้อมไปตบไหล่อีกรีนที่เข้าใกล้คำว่าจิตตกเข้าไปทุกที
“ทำไมมึงไม่บอกพ่อไปว่ามันเป็นการแสดง โอยยยย กูฮาว่ะกรีน”
“พ่อกูไม่ได้มีเขาเหมือนมึงนะอีเดย์ อินเนอกูออกซะขนาดนั้น” ท่าทางอีกรีนมันคงแค้นจริงๆ
“ลำบากเนอะมึงอยากรักษาไหมเดี๋ยวกูพาไปหาหมอ” ไอ้เอ็มท้าวคางมองดูอีกรีน ฮ่าๆ
“กะเทยนะคะไม่ใช่ไส้เลื่อนที่จะให้กูผ่าตัดแล้วหาย มึงว่าการเป็นกะเทยมันเป็นกันได้ง่ายๆเหรอย๊ะไม่ได้มีใจรักเป็นไม่ได้นะขอบอก”
“นี่ๆนังกรีนฉันว่านะพ่อหล่อนก็พลาดอยู่นะถ้าเกิดหล่อนได้เข้าทีมลองคิดดูสิว่าอีกสิบกว่าชีวิตมีแต่อาหารเราเลยนะแก๊” อีเฟรนลี่ดี๊ด๊าโน้มน้าวเพื่อนมันอย่างหน้าชื่นตาบาน
“ความคิดมึงแต่ละอย่างนี่นะอีเวน”
“เฟรน!!!!!!!!!!!!!!!” อีเฟรนง้างมือเตรียมตบไอ้คิวแต่เชี่ยนั่นหลบทัน มันหัวเราะยักคิ้วล้อเลียนอีเฟรน
“เออมึงก็พูดไม่คิดนะย๊ะอีเฟรนอย่างเพื่อนเรามันจะเอาอะไรไปติดทีมฟุตบอล แค่มันเดินก็สะดุดยอดหญ้าหน้าฟาดสนามสิลิโคนหักดั้งยุบแล้วมึง โฮะโฮะ” อีเคที่จีบปากจีบคอกรีดกรายนิ้วประกอบการพูด
“ก็ไม่แน่ต่อไปวงการฟุตบอลต้องสั่นสะเทือนเพื่อนกูจะเป็นนักบอลสมัยใหม่ค่ะนางจะติดกิ๊บทาปากลงรองพื้นโบ๊ะหน้าก่อนลงสนามจริงไหมคะเพื่อนขา กรี๊ดดดด” อีจี้ว่า
“เดี๋ยวกูใส่ถุงน่องตาข่ายด้วยอีดอกพวกมึงนี่ก็รักกูนักนะ”
“เจ๊กรีน นี่ไงนักบอลมหาลัยให้พี่แทนเป็นโค้ชให้สิคะ” พวกน้องๆผู้หญิงบอก
“ไม่เอาหรอกค่ะลูกเพราะ
” อีกรีนมันเหล่มองไอ้แทนนิดๆหลังๆมานี้อีกรีนกับไอ้แทนมันเริ่มเปิดศึกกันครับความรักความใคร่ที่เคยตามกรี๊ดไม่เหลือแล้วมันอมยิ้มก่อนจะร้องเพลงนี้ให้ไอ้แทนโดยมีสี่สาวนั่นเป็นคอรัส
“เจ้าที่แรง”
“อ๊าย”
“ชอบแย่งซีน”
“อร้าย”
“เท้าเอววีน”
“อ๊าย”
“ตาเขียวปั๊ด” อีเฟรนลุกขึ้นเต้นตอนไหนไม่รู้อีกรีนก็เลิกเครียดตอนไหนไม่รู้
กว่าจะได้ประชุมกันก็เกือบๆหกโมงเลยครับเพราะกว่าจะมาครบทุกคนไอ้คนที่มาช้าสุดก็ไม่ใช่ใครประธานค่ายไอ้เชี่ยปัน แต่พอมากันครบก็ปรากฏว่าห้องชมรมแออัดเกินกว่าจะยัดเยียดคนเกือบห้าสิบคน พวกผมเลยต้องระเห็จระเหินหรือระหกวะช่างแม่งเอาเป็นว่าตอนนี้พวกผมนั่งล้อมวงอยู่ที่ลานใต้ตึกรัฐศาสตร์ฟังพี่โต้งกับไอ้ปันแจ้งเรื่องต่างๆ
ไอ้แทนนี่กระดี๊กระด๊าทันทีที่ไอ้ฟ่างเดินเข้ามานี่ถ้าปูพรมแดงให้เมียมันเดินได้มันคงทำ อ่อมีอีกคนที่ดีใจตอนเห็นไอ้ฟ่างคือน้องแอมนั่นเองครับ ไม่ต่างจากไอ้เต้ยที่แหกปากเรียกชื่อแฟนมันมาแต่ไกล พวกไอ้เชน ไอ้เบียร์ ไอ้แมท ไอ้มิคก็ทยอยมาจนครบแล้วรวมถึงภูมิด้วย
สภาพมันดูเพลียๆผมเลยยื่นน้ำเย็นๆกับนมหมีที่แอบไปซื้อมาให้มัน พอมันเห็นแค่นั้นแหละยิ้มหน้าบานแทบลืมความเพลียมันเอาไปอวดคนอื่นด้วยนะว่าแฟนเตรียมนมเตรียมน้ำไว้ให้ อะไรมันจะขนาดนั้น เฮอะ ทำเหมือนกูไม่เคยดูแลมึงไปได้ ไอ้หมาภูมิ
“ภูมิ กูร้อนอย่าเบียดดิวะ”
“ร้อนอะไรลมพัดเย็นดีกูอยากอยู่ใกล้ๆมึง” ผมกัดฟันเหลือบมองหน้าหล่อๆที่อมยิ้มถูกใจเพราะได้แกล้งผม ความสุขขั้นสุดของมันเลยนะถ้าทำผมอารมณ์เสียได้ ผมนี่ก็แปลกคนอื่นแกล้งก็ไม่ค่อยจะอะไรนะแต่พอเป็นไอ้หมาภูมิเท่านั้นแหละกูขึ้นง่ายมาก เอ่อ หมายถึงอารมณ์โมโหนะที่ขึ้นอย่าจิ้นเป็นอื่น
“มันก็ใกล้ไปปปป กูร้อนนน” ไอ้ภูมิมันมานั่งเบียดเบียนรังแกร่างกายผมทั้งที่อากาศร้อนตับแทบไหม้อีกอย่างคืออายด้วยแหละครับ แฮ่
ภูมิมันไม่สนใจไอ้ปันที่กำลังยืนพะงาบๆเอาอากาศเข้าท้องเรื่องไปเดินกล่องพรุ่งนี้ แล้วที่ภูมิมันกล้ามาชิดกับผมจนแทบสิงกันเพราะเรานั่งอยู่หลังสุดกับพวกวิศวะกลุ่มเพื่อนๆมันแหละครับ พวกห่านี่แม่งก็ขยันแซวจริงๆทำไมพวกมึงไม่ไปแซวไอ้แทนกับไอ้ฟ่างบ้างวะมันโอบกันอยู่ข้างหน้านู่น ไป๊ ชิ่วๆๆ อย่ามายุ่งกับกู
“ข้างหลังมึงสมสู่ไรกันครับฟังหน่อยๆ ลูกพี่กูจะแจ้งเรื่องสำคัญ” ไอ้ปันไอ้เพื่อนสาระแน มึงพูดทำไมคนหันมามองกูหมดแล้วเนี่ย
“เอาละๆเลิกสมสู่กันสักครู่นะครับพี่ขอคุยเรื่องสุดท้าย แปบเดียวๆ” ไอ้พี่โต้งกูจะเกลียดพี่ “คือเรื่องหน้าที่รับผิดชอบนะปีนี้เนื่องจากพวกเราไปออกค่ายที่โรงเรียน ประธานค่ายเลยเสนอให้มีการเพิ่มฝ่ายวิชาการคือไปสอนน้องน่ะปกติเราจะเอาของไปให้ไปสร้างอาคารใช่ไหมแต่ครั้งนี้จะสอนน้องด้วยก็จะมีทั้งหมดสี่ฝ่าย มีฝ่ายวิชาการ ฝ่ายก่อสร้าง ฝ่ายกิจกรรมแล้วก็ฝ่ายสวัสดิการ หัวหน้าแต่ละฝ่ายนะ มีพี่แป๋วรับผิดชอบฝ่ายวิชาการ ไอ้แป๋ว อีแป๋วแหว๋วอยู่ไหนวะ” พี่โต้งตะโกนหาตัวพี่แป๋วซะลั่นเรียกเสียงหัวเราะจากผม
“มาแล้วๆมาแล้วค่ะ ว้ายขอบคุณค่ะน้องเบียร์หล่อแล้วยังมีน้ำใจอีกพ่อคุณ” พี่แป๋วสาวสวยคณะเภสัชวิ่งกระหืดกระหอบมาพร้อมเอกสารปึกใหญ่ไอ้เบียร์เลยเดินไปช่วยถือแม่งโคตรสุภาพบุรุษมันทำจนติดเป็นสันเอ้ยนิสัยแล้วละครับเพื่อนกูดีที่สุดในโลกแอบอิจฉาเด็กบางคนเบาๆหึหึ
“มึงไปทำห่าไรมาวะ” พี่โต้งกับไอ้คิวเหมือนกันอยู่อย่างคือชอบจิกกัดเพศแม่
“ไปถ่ายเอกสารใบขออนุญาตผู้ปกครองมาค่ะ ดูปากกูอีกรอบนะโต้ง ไป ถ่าย เอก สาร อีกครั้ง เอกสารชมรม” ฮ่าๆ พวกผมหัวเราะครืน
“ขอบใจที่ไม่ด่าว่ากูเสือก ต่อไป หัวหน้าฝ่ายก่อสร้างชูไม้ชูมือให้น้องๆดูหน่อย” พอพี่ไม้ยกมือก็ได้รับเสียงโห่พี่แกรั่วๆฮาๆอ่ะครับเป็นขวัญใจและหัวโจกในชมรม
“ต่อไปฝ่ายกิจกรรม อีงามไส้” อีเฟรนมันยืนขึ้นทำท่าสะบัดมือวนๆตรงขมับสะบัดผมพร้อมกับถอนสายบัวอย่างสวยงามไปใส่แกงปลาทู ไม่ใช่แระ คนละสายบัวละมันได้รับเสียงโห่เสียงเชียร์กระหึ่ม ไอ้คิวถึงกับเป่าปากแต่คงไม่สะใจมันเลยกรี๊ด ไอ้คิวมันกรี๊ดได้จริงๆครับเสียงโคตรแหลม ฮ่าๆ อีเฟรนมันเลยเท้าเอวชี้หน้าพวกผม
“ฝ่ายสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือฝ่ายสวัสดิการคุณแสงดาว พวกหัวหน้าฝ่ายมารับรายชื่อครับแล้วก็เรียกกันไปประชุมตามที่เราประชุมกันเมื่อวาน กูขอไปนั่งแดกข้าวรอ” พี่โต้งที่ปรึกษาที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากถึงมากที่สุด
“เดี๋ยวพี่จะอ่านรายชื่อฝ่ายวิชาการก่อนนะคะน้องปิง น้องอาร์ม คุณน้องเคที่ น้องหมอเชน อีปลา น้องเก้า น้องเต้ย ไอ้มิค น้องเนย น้องฟ้า น้องแอม หมอกานต์ พี่ชิน น้องฟ่าง ไอ้สัน
..” พอพี่แป๋วอ่านเสร็จพวกวิชาการว่าที่ครูสอนเด็กก็แยกตัวออกไปประชุมไอ้ฟ่างไอ้เชนได้เป็นครูผมไม่แปลกใจเท่าไรแต่ไอ้เต้ยนี่สิไอ้คิวกับไอ้แทนพากันโห่แฟนตัวเองซะยกใหญ่
“ต่อมาฝ่ายแรงงานนะครับทุกคนเดี๋ยวสุดหล่อจะอ่านรายนามให้ฟัง” พี่ไม้เอามั่งแต่มันก็ยังดูฮาอยู่ดีว่ะพี่
“พี่ไม้อ่านหนังสืออกด้วยเหรอพี่”
“ไม่ออกกูคลำเอา กวนตีนๆไอ้นุกูออกจะเป็นการเป็นงาน” ฮ่าๆได้เสียงโห่ไปอีกรอบ “พวกกรรมกรใช้แรงงานฟังนะโว้ยไอ้เดย์ ไอ้แทน ไอ้นุ ไอ้ภูมิ ไอ้แซค ไอ้วิน ไอ้นัท ไอ้มิค ไอ้ธัน ไอ้กอล์ฟ ไอ้เบส ไอ้ตั้ม เชี่ยคิว เชี่ยท็อป
และน้องสวีท”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” อีสวีทมึงโดนแล้วละมันควักยาดมขึ้นมาเลยครับแทบจะกราบไอ้ปันเพื่อขอเปลี่ยนฝ่าย ฮ่าๆ แล้วเขาก็แยกไปประชุมไอ้ภูมิหันมายิ้มให้ผมก่อนลุกออกไป เหลือผม ไอ้เบียร์ ไอ้แมท ผมนึกว่าจะได้ไปอยู่ฝ่ายก่อสร้างซะอีกแม่งเซ็งเลยฝ่ายนี้เกือบยี่สิบคนแหนะคงสนุกแต่ไม่เป็นไรอยู่กิจกรรมก็ได้
“ต่อไปฝ่ายกิจกรรมของงามนะคะ อีจี้เพื่อนสาว อีอ้นลูกสาว นังกุ้ง นังนิ่ม นังปอย อีโอลูกสาว
คุณเบียร์ น้องแมท ไอ้บอม พี่หวาน พี่แพน พี่เมย์
..” บลาๆๆๆแต่ว่าไม่มีชื่อผมงั้นก็แสดงว่า
“คนที่เหลือคือสวัสดิการของพี่ดาวเอง” เชี่ยยยยยยยยยยยยย กูอยากกระโดดม้วนตัวซักสองรอบต่อด้วยตีหลังกาหลังกระโดดฟรีสไตล์อีกสี่รอบครึ่งแล้วสปริงตัวออกจากที่แห่งนี้อย่างสวยงาม สาดดดดด สวัสดิการอีกแล้วผมเห็นไอ้ภูมิส่งสายตาเยาะเย้ยถากถางมาให้ผมเลยแอบชูนิ้วกลางกลับไป พ่องอยู่กับอีกรีนอีกต่างหาก
หลังจากประชุมเสร็จบางคนก็ไปกินข้าวด้วยกันต่อ บางคนก็ต้องอยู่คุยงานที่ยังไม่เรียบร้อยตามหน้าที่ของตัวเอง ส่วนผมกับภูมิเรายังต้องไปต่อครับ อะคาเดมี่แฟนเทเซียยย ถุยไม่ใช่เว้ยจะไปกินข้าวดูหนังกันต่อน่ะครับภูมิบอกว่าอยากดูหนังฉลองสอบเสร็จ แม่งตอแหลจะสอบไม่สอบถ้ามันอยากดูมันก็มาอยู่ดี
ตอนนี้ผมกับมันเลยมาเดินเตร่อยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ภูมิมันดูโปรแกรมหนังมามันจะดูรอบมิดไนท์ หอกเหอะงั้นกูขอกลับไปอาบน้ำหอบหมอนหอบผ้าห่มแล้วค่อยกลับมาใหม่นะ ผมเลยต่อรองได้รอบสี่ทุ่มซึ่งก็อีกประมาณสิบนาทีแต่ถ้าเวลาที่ผมกับภูมิจะเข้าไปดูก็อีกครึ่งชั่วโมง
ภูมิมันชอบเผื่อเวลาเพราะมันไม่ชอบดูโฆษณาไตเติ้ลหนังคือเข้าไปหนังก็ฉายเลยบางทีไม่ทันก็มีแต่มันหัวดีไงมันก็เข้าใจดิแต่ผมกว่าจะประติดประต่อเรื่องได้ภูมิต้องคอยกระซิบอธิบายอยู่นาน เหอๆ
และตอนนี้เราก็ได้ตั๋วหนังมาแล้วแต่กำลังทะเลาะกันว่าจะกินป็อบคอร์นรสอะไรดี จนพนักงานใกล้จะเอาขวานมาจามหน้าผากอยู่แล้วผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมกับมันถึงต้องทะเลาะกันทุกครั้งที่มาดูหนังเพราะเรื่องป็อบคอร์นแม่งซื้อสองกล่องก็จบ เฮ้อ ถ้ามันจบง่ายๆก็ไม่ใช่ไอ้ภูมิแล้วล่ะ
“เอารสหวานนะภูมิ”
“ชีสครับ” มันหันไปบอกพนักงาน เยี่ยมตามใจกูมากไอ่สัสสุดท้ายก็ได้ข้าวโพดคั่วเค็มๆมาแดก ระหว่างรอหนังฉายภูมิก็มาผมมาหาไรกินแต่ผมไม่มีอารมณ์เลยนั่งจกข้าวโพดคั่วก็อยากเรียกแบบนี้ทำไมอ่ะ ส่วนคนข้างๆก็นั่งยิ้มวางแขนพาดไหล่ผมอยู่ไม่ต้องสงสัยเพราะนั่งฝั่งเดียวกัน
“หึหึ แก้มจะแตกอยู่แล้วพีมสรุปยังไม่หายงอนใช่ไหม”
“เรื่องของกู”
“งอนไร ใครงอนไม่มี๊”
“ที่ไม่อยากให้กินหวานเยอะๆเพราะมันไม่ดีรู้ไหมเดี๋ยวเป็นเบาหวาน”
“เลยให้กูกินเค็มๆจะได้เป็นโรคไตแทนว่างั้น” พาลครับเรื่องอื่นน่ะผมตามใจภูมิได้ทุกอย่างนะเว้ยแต่ขอแค่เรื่องกินเรื่องเดียวได้ไหม
“อย่างอนเลยน่านะกินข้าวก่อนนะครับ” บรึ๋ย จั๊กเดี๋ยมรูหูมาคงมาครับอะไรละเฮ้ย ไอ้คนพูดมันยังขำตัวเองเลยมันคีบซูชิมาล่อลวงตรงหน้าผม ตอนแรกก็กะจะไม่กินหรอกนะแต่ไหนๆเขาก็อยากให้เรากินก็สนองหน่อยแล้วกัน ฮา ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีทุกอย่างก็เกลี้ยงครับ อ๊ากกก ท้องจะแตก
หลังจากอิ่มแปล้กันแล้วไอ้หล่อก็กอดคอผมออกจากร้านผมเลยแกล้งปัดมือมันออก มันก็โอบใหม่ ผมก็ปัดอีกมันก็โอบอีกเล่นกันปัญญาอ่อนมาก ผมหมั่นไส้มัน ฮ่าๆอยากปล่อยออร่าให้คนมองทำไมและระหว่างที่กำลังเล่นและเถียงกับไอ้ภูมิอย่างออกรสชาติผมก็เหลือบไปเห็น
ไอ้ปัน!!!!!!!!!!!!!!! การเจอไอ้ปันไม่ได้ทำให้ผมตกใจเท่ากับเห็น “พี่องุ่น” ขีดเส้นใต้ทำตัวหนาเลยนะครับว่าไอ้ปันยืนอยู่กับพี่องุ่น เชี่ยยยยย มาด้วยกันได้ไงวะ
ไอ้ปันกับพี่องุ่นยืนดูตัวออย่างหนังอยู่อีกฟากนึงซึ่งเพื่อนผมถือกระเป๋าให้พี่องุ่นด้วยครับ ดูท่าทางเหมือนสองคนนั้นซื้อตั๋วแล้วนะเพราะไอ้ปันมันเอาตั๋วชี้ๆอะไรไม่รู้ให้พี่องุ่นดู แล้วพี่องุ่นก็หันกลับมา
.
เย้สเข้!!!!!!!!!!!!!!!พี่เขาเอาหลอดจ่อปากป้อนน้ำให้ไอ้ปันอ่ะครับคือพี่องุ่นยืนอยู่ข้างหน้าส่วนไอ้ปันมันยืนเฉียงๆซ้อนอยู่ข้างหลังแล้วแบบพี่องุ่นตัวเล็กกว่าไอ้ปันเยอะไง เขาไม่ค่อยสูงอ่ะไอ้ปันเลยต้องก้มลงไปดูดน้ำในมือพี่เขา แล้วพี่องุ่นแบบยิ้มหวานมากกกกกกให้มันแล้วก็เช็ดปากให้เชี่ยปันด้วย สาดดดดดดดดด อิจฉาโว้ยพี่องุ่นน่ารักโคตรพ่อโคตรแม่ พนันกันเลยว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมามองพี่องุ่นเหลียวหลังกันแทบทุกคน
“โอ้ย” อยู่ๆไอ้ภูมิมันเขกหัวผม
“มองๆ ชอบนักนะ” มันทำเสียงดุแบบไม่จริงจังเพราะงั้นผมเลยไม่กลัว คึคึ เขาง้อหน่อยทำเป็นซ่าส์นะกูเนี่ย
“ก็พี่เค้าน่ารัก ภูมิๆเราเข้าไปทักไอ้ปันดีไหมวะ กูอยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงแม่งคราวนี้แหละกูจะ
.” ผมกำลังจะเดินเข้าไปแต่ภูมิดึงแขนไว้ซะก่อน
“อย่าเลยพีมไม่ต้องเข้าไปหรอกเรารอให้ไอ้ปันมันพร้อมแล้วบอกเราเองดีกว่า” ถึงจะแอบเสียดายนิดๆที่อดรู้เรื่องแต่ผมก็เชื่อภูมิ ผมจะรอให้ไอ้ปันมันมาแถลงการณ์ความจริงกับพวกผม ผมยืนดูคู่นั้นอยู่ซักพักก็มีผู้ชายกลุ่มนึงเดินผ่านสองคนนั้นพร้อมกับส่งยิ้มให้พี่องุ่น ไอ้ปันมันเลยยกมือขึ้นโอบไหล่แล้วก็พาพี่องุ่นเดินออกไป
เชี่ยปันกูอยากได้คำอธิบายยยยยยยยยยยยยยยยยย
TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>
........................................
ขอโทษที่ผิดเวลาไปหนึ่งวันนะคะ เมื่อวานถือเป็นวันซวยที่สุดในรอบปีเลยค่ะ ยังไงก็ขอโทษคนอ่านจริงๆแล้วขอให้มีความสุขกับนะคะ
ความคิดเห็น