ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    We are ...คือ เรารักกัน [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15 วันดีๆ + (ตอบคอมเม้นจ้า)^^

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 57.2K
      269
      6 ก.ค. 54


     



    ตอนที่
    15





     
    “เออ ว่าไงวะ ไอ้หมอฟัน”
     
    (พีม มึงโทรหาไอ้ปันดิ๊ กูติดต่อมันไม่ได้ กูจะเข้าเรียนแล้วเนี่ย)

    “อ้าว มีเรื่องอะไรกันวะ”
     
    (มันให้กูซื้อของมาบริจาค มันจะไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอ่ะมึง)

    “เออ ก็ดีแล้วนิ ไปวันไหน กูฝากด้วยดิ”
     
    ( มันก็คงจะดีกว่านี้ ถ้ามันไม่หยิบกล่องถุงยางกูติดไปด้วยสัด โทรบอกมันว่าให้เอามาคืนกู ก่อนที่กูจะถูกลุงป้าน้าอาด่าสาปแช่ง) OoO ฮ่าๆๆๆ ผมปล่อยเสียงหัวเราะลั่นตึก
     
    (หึหึ เชี่ยพีม มึงหัวเราะอะไรไอ่สัด ฮ่าๆ)   แล้วผมกับไอ้เชนก็ฮาแตกกันอยู่สองคน  (แม่ง กูอยากตบกบาลไอ้ปันชิบหาย มันไม่ดูอะไรเลยนะมึง กูไปซื้อของกับแม่ใช่มั้ย พอกลับมาถึงบ้านมันก็มาหอบเอาๆ)
     
    “ฮ่าๆ กูปวดท้องวะเชน ฮะๆ เออๆเดี๋ยวกูโทรบอกมันให้ แล้วมึงเรียนเสร็จกี่โมง”

    (คงเกือบทุ่ม กูสอบว่ะ)
     
    “อ๋อ เออๆ” ผมวางสายจากไอ้เชน แล้วนั่งขำอยู่คนเดียว เชี่ยปัน มึงแน่มาก
     
    “แหม๊ ตั้งแต่มีเมีย เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าผัวถึงจะถูก มึงชักจะกระแต๊แว๊ดขึ้นเยอะเลยนะพีม นั่งขำคิกๆคักๆคนเดียว กิ๊วๆ” ปากหมาๆแบบนี้มีมันคนเดียวไอ้เชี่ยคิว ผมหันไปตั้งท่าว่าจะถีบมันแรงๆแต่แม่งหลบได้
     
    มันเดินนำขบวนพวกเพื่อนๆที่ไปเข้าห้องน้ำ(ดูดบุหรี่)กลับมาสิงสถิตที่เดิม พวกผมรอเรียนคาบบ่าย เวลานี้พวกเดนมนุษย์ทั้งหลายเลยมานั่งทำตัวเป็นลูกครึ่ง ส่วนใหญ่แม่จะเป็นนกเขา พ่อเป็นหมาคอยเห่าคอยหอนแซวสาวๆคณะอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมา
     
    “กระแต๊แว๊ดอะไรของมึง”

    “มันเป็นการสมาสระหว่างตอแหลกับกระแดะ แล้วสนธิกับแรด ฟีชเจอริ่งกันจนกลายเป็นกระแต๊แว๊ด”มันโยกหัวออกไม้ออกมือประกอบการพูด เหมือนเป็นนักวิชาการผู้แตกฉานด้านภาษา แต่ผมว่ามันน่าจะมีปัญหากับภาษาไทยมากกว่านะ เป็นพวกชอบบัญญัติศัพท์ขึ้นใช้เอง แต่แค่นี้คนก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องกับมึงแล้วนะคิว
     
    “ฮึ แล้วมึงรู้มั้ย ว่าทำไมไอ้ภูมิถึงเอามึงเป็นแฟน”ยังครับ มันยังไม่จบ มันยักคิ้วทำหน้าถือไพ่เหนือกว่า
    ประมานว่ายังไงผมก็ต้องง้อ ต้องอ้อนวอนขอฟังความคิดเห็นจากมัน

    “ทำไม” ด้วยความสงสาร ผมเลยตามน้ำถามมันกลับไป อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะสรรหาอะไรปัญญาอ่อนมาย่ำยีอารมณ์ผมให้เสียมากไปกว่านี้


    “ก็เพราะว่าไอ้ภูมิมันมีเมตตาจิต” มันทำเสียงซาบซึ้งพร้อมยกมือขึ้นไหว้เหนือศีรษะ ตอนที่พูดชื่อไอ้ภูมิ
    มึงไปแต่งตั้งมันเป็นเจ้าตอนไหนวะ “มันกลัวว่ามึงจะสูญพันธ์ เลยต้องอนุรักษ์ไว้ พันธุ์นี้หายากซะด้วยสิ ได้ข่าวว่าเหลือตัวเดียวแล้วนิ โถๆ ดูสิงวง งาด้วนหมดแล้ว แปร๊น ฮ่าๆ” พ่องมึงตายไอ่คิว
     

    “เชี่ยแม่ง มึงไปไกลๆตีนกูเลยไป”
    เชี่ยคิวมันขำบ้าบอตอแหลกระแต๊แว๊ดของมันไป ก่อนจะเดินไปเล่นหมากฮอสกับพวกไอ้หนึ่งที่อยู่อีกโต๊ะ
     

    “เฮียยยพีมมมม เฮีย เฮี้ยยยย ” เสียงสิบแปดหลอดของไอ้เต้ยดังหลอนประสาทผมมาแต่ไกล เชี่ยเต้ย
     มึงอย่าขึ้นเสียงสูง มันเพี้ยนจากเฮียจะเป็นเหี้ยแล้ว
     
    “แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยวะ เฮียๆทุกคนหวัดดีครับ”
     
    “หนีเมียมาหรอมึง” ไอ้หนึ่งทักไอ้เต้ย ที่ยืนหอบหน้าดำหน้าแดง
     
    “เฮียหนึ่งอย่ามารู้ทัน เต้ยวิ่งสุดกำลังเลยนะเนี่ย ผู้หญิงเวลาโกรธ แม่งน่ากลัววะ บรึ๋ย”
     
    “ผู้หญิงน่ากลัวก็คั่วผู้ชายเลยมึง เดี๋ยวกูเทรนให้”ไอ้หนึ่งยิ้มหวานทำตาเยิ้มใส่ไอ้เต้ย พวกผมก็พร้อมใจกันหัวเราะ ส่วนไอ้เต้ยมันยิ้มแหยะๆส่ายหัวจนคอแทบจะหลุดจากบ่า
     
     “ไม่เห็นหน้าสามวัน ทำไมมึงตัวซีดๆวะเต้ย เอาน้ำออกเยอะหรอสัด”

    “หึหึ ช่วงนี้ก็นิดหน่อยเฮีย”
    ไอ้เต้ยยิ้มเลวแล้วแถตูดนั่งลงข้างๆผม ส่วนไอ้โจมันตบเข่าถูกใจฉาดใหญ่ อะไรที่ทะลึ่งๆขอให้บอก เชี่ยโจจัดให้ได้เสมอ ไอ้เต้ยนี่ก็ใช่ย่อยซะที่ไหน ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นน้องรักไอ้ฟ่าง ไอ้ความม่อ ความเจ้าชู้ไม่ต้องสืบ ที่มันวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตแบบนี้คงเจอรถไฟชนกันแน่ๆ
     
    “แล้วที่วิ่งเป็นม้าเร็วมาสามพันลี้ มีเรื่องอะไร”

    “อ๋อ เต้ยจะชวนเฮียพีมไปดูเต้ยเต้น เฮียว่างป่ะ เย็นๆ”

    “ฮะๆ” ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่ไอ้คิวเสือกหัวเราะขึ้นมาซะก่อน ไอ้เต้ยหันไปมองแบบเอาเรื่อง

    “มึงเนี่ยนะเต้น เต้นอะไรวะ ถ้าบอกว่ารำไทเก็กหรือกระโดดลอดห่วง เออค่อยน่าเชื่อหน่อย”ไอ้คิวตะโกนกวนตีนน้อง ตอนนี้มันอันเชิญตัวเองขึ้นไปนั่งขัดสมาสธิเป็นเจ้าพระ เจ้าพระยาบนโต๊ะสูงกว่าใครเพื่อน คนอื่นก็ขำตามไอ้คิว ยกเว้นไอ้เต้ย

    “เต้ยไม่ใช่กบนะพี่คิว”

    “พี่หมายถึงหมาครับน้อง”

    “เต้ยคุยกับเฮียพีม พี่คิวอย่าเสือกดิ”

    “อ้าวเฮ้ย กูเป็นรุ่นพี่มึงนะ เป็นพี่รหัสมึงด้วย เคารพกูบ้าง” แล้วมันสองตัวก็เปิดศึกสายเลือดรหัสกันต่อไป ไอ้เต้ยก็ปากหมา ไอ้คิวก็กวนตีน ถือว่ามวยคู่นี้สูสี แต่สุดท้ายไอ้เต้ยก็แพ้ทุกที
     
     
    ระหว่างที่เพื่อนๆผมเล่นหมากฮอสจนเริ่มจะเหมือนวงไฮโลเข้าไปทุกที ระหว่างที่ไอ้คิวกับไอ้เต้ยกำลังสาดน้ำลายใส่กันโดยมีหัวผมเป็นที่รองรับ เสียงโทรศัพท์ช่วยชีวิตก็ดังขึ้น ไม่ต้องดูก็รู้ว่าใครโทรมา แฟนหมาดๆของผมเอง ^_^ ผมกดรับก่อนจะลุกออกมาคุยอีกโต๊ะ


    “อือ ว่าไง”

    (อยู่ไหน)

    “อยู่คณะ มีไรวะมึง”

    (เปล่า ไม่มีอะไร)

    “เอ๊า แล้วโทรมาทำไม”

    (ก็คิดถึง) ฮิ้วววว มีเสียงแซวโหวกเหวกแว่วมาตามสาย ทำนายได้ว่าน่าจะเกินสิบเสียง และไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่ามีไอ้มิคเป็นแกนนำ เชี่ยภูมิมึงเปิดเผยเกินไปแล้ว สาดดดดดด  

    >
    ////<

    “หึหึ หมาภูมิ ไร้สาระว่ะ ถ้าไม่มีอะไรกูวางนะเว้ย จะไปเรียนแล้ว” ผมไม่รู้จะวางมือไว้ไหน ไม่รู้จะทำอะไรดี เลยขว้างพู่กันใส่หัวไอ้คิว มันทำหน้าหมางงที่อยู่ๆก็ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่ได้สนใจจะเอาคืนเพราะมันกำลังถูกไอ้เต้ยแย่งเทสโต้ และในที่สุดไอ้เต้ยก็ทำสำเร็จ ไอ้เด็กแสบมันหอบถุงขนมวิ่งขึ้นตึกไปหาเพื่อนได้อย่างสวยงามชนิดที่ไอ้คิววิ่งตามไม่ทัน


    (เดี๋ยวดิ อย่าเพิ่งวาง วันนี้กูไม่มีรถนะ มากับฟ่าง)

    “อ๋อ เออ วันนี้กูก็มาบีทีเอส”

    (งั้นกูจะให้ฟ่างกลับกับไอ้แทน มึงเรียนเสร็จก็โทรมาด้วยละ กูจะไปรับ)

    ผมยังไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธก็มีเสียงเพื่อนๆมันตะโกนแทรกเข้ามา

    (อยากเห็นหน้าแฟนเพื่อนกูโว้ย)

    (ชื่อโต้งนะครับ เพื่อนไอ้ภูมิ)

    (เมื่อไรจะพามาเปิดตัวว๊า)

    (หนุ่มวิศวะรักจริงนะจ๊ะ จุ๊บๆ)

    (ไอ้ภูมิโดนของ) เสียงเชี่ยมิค และอีกสารพัดเสียงที่แซวมาไม่หยุดหย่อน ภูมิมันก็ไม่ห้ามอะไร มีก็แค่หัวเราะ ส่วนผมก็นั่งยิ้มบ้าอย่างเดียว


    “หึหึ บอกเพื่อนมึงเลิกเห่าดิ๊ กูหนวกหูว่ะ”
    ผมกับมันคุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง จนไอ้คิวต้องถีบผมออกจากโทรศัพท์เพื่อลากผมขึ้นไปเรียน ช่วงโปรโมชั่นก็แบบนี้แหละครับ ^^

    และตอนเย็นมันก็มารับผมตามที่บอกไว้ พร้อมกับเอาคำด่าสาปแช่งจากไอ้ฟ่างมาฝากผมด้วย


    “เชี่ยพีม มึงทำคุณไสยใส่น้องกู ระวังมึงจะได้เจอของดี หึหึ”
     
     
                     
                             ……………………………………………….
     
     
    ภูมิมาส่งผมที่ร้าน เรานั่งคุยนั่งเล่นจนพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ ผมเลยชวนมันมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้าน เพราะตั้งใจจะมาดูไอ้เต้ยด้วย แล้วสิ่งที่ผมคาดคิดไว้ก็เกิดขึ้นจริง จากรถซีสู่จักรยาน จนปัจจุบันลดเหลือแค่เดิน หึหึ ตกต่ำดีชิบหายชีวิต
     

    อากาศยามเย็นในสวนร่มรื่นกำลังเย็นสบาย เหล่าสมาคมแม่บ้านกำลังจับกลุ่มคุยกันระหว่างรอเต้นแอโรบิค สนามเด็กเล่นเต็มไปด้วยเด็กๆที่จับจองเครื่องเล่น ส่งเสียงกันอย่างสนุกสนาน มีบรรดาคุณแม่นั่งมองอยู่ใกล้ๆ ตามทางเดินมีคนวิ่งจ็อกกิ้งบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง หรือไม่ก็ออกกำลังกายในแบบที่ชอบ วัยรุ่นหนุ่มสาวหลายกลุ่มกำลังนั่งคุยกัน
     


    ส่วนโซนเต้นของไอ้เต้ยอยู่อีกฝั่งของสระ ผมกับภูมิเพิ่งไปนั่งดูมันโชว์หล่อเล่นสเก๊ตบอร์ดอวดสาว แต่เหมือนไปนั่งให้มันฟอกมากกว่า
     

    ไอ้เต้ยทั้งแซว ทั้งแหย่ สารพัด มันคงรู้เรื่องจากไอ้แทนพี่ชายสุดที่รักของมัน ว่าผมกับภูมิเป็นแฟนกัน หึ เมื่อไรจะชินกับคำๆนี้ซักทีวะ
     

    แถมมันยังอ้อนให้ไอ้ภูมิโชว์ลีลาสเก๊ตบอร์ด ปลุกปล้ำกันอยู่นานในที่สุดไอ้ภูมิก็ยอมเล่น แม่งอย่างเท่ห์ นี่มันใส่ชุดนักศึกษานะยังพลิ้ว เชี่ยเต้ยแม่งปากดีมันไล่ผมไปเล่นมอญซ่อนผ้ารอพวกมัน หึ ผมไม่อยากจะคุยผมก็เล่นเป็นเหอะแต่ไม่อยากโชว์ โด่

    ผมกลัวว่าไอ้เต้ยจะมัวแซวผมจนทำให้เพื่อนมันคนอื่นๆเสียสมาธิในการซ้อม ผมเลยชวนภูมิมานั่งใต้ต้นปาล์มริมสระน้ำกลางสวน
     
    “หิวข้าวยังมึง”

    “ยัง มึงหิวแล้วหรอ”

    “เปล่า พอดีอาปุ้ยโทรมาบอกให้มึงอยู่กินข้าวด้วยกัน”

    “อ่อ”

    “อยู่มั้ย”

    “อืม”เราสองคนก็นั่งคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย เรื่องเกมส์บ้าง เรื่องเรียนบ้าง เรื่องผู้หญิงบ้าง  ไอ้ภูมิถามใหญ่เลยว่าแฟนเก่าผมสวยมั้ย หึหึ แฟนเก่าของผมก็เก่าจนเกือบจำหน้าไม่ได้แล้ว คนสุดท้ายรู้สึกจะตอน ม
    .6 มั้ง

    “ก็ไม่สวยนะ ธรรมดา ออกแนวน่ารักมากกว่า”

    “แล้วทำไมถึงเลิกกัน”

    “จริงๆกูกับพลอยก็ไม่เชิงคบกันหรอก แค่คุยๆ พอช่วงปิดเทอมไม่ค่อยได้เจอกัน มาเจออีกที เด็กหัวเกรียนโรงเรียนมึงก็คาบไปแดกแล้ว” ผมโยนเศษกิ่งไม้ลงไปในน้ำ ทำไมไม่มีเสียงจ๋อมวะ แสดงว่าน้ำไม่ลึก ถ้าผมลงไปว่ายจะมีใครว่าอะไรมั้ย (ว่ามึงบ้าไง) ผมเลิกสนใจกิ่งไม้ที่จมหายลงไปในน้ำ และหันไปยิ้มให้ภูมิเพราะรู้สึกว่ามันจะจ้องผมซะเหลือเกิน “มีไรวะ”
     
    “มึงไม่ถามกูบ้างหรอ”
     
    “หึ จะให้กูเริ่มจากไหนล่ะครับคุณภูมิ แม่งเป็นขโยง อีกอย่างกูไม่สนใจเรื่องอดีตหรอก” ผมยิ้มยักคิ้วให้มันผมไม่แคร์เรื่องเก่าๆของภูมิอีกแล้วล่ะ

    “หึ มึงน่ารักวะเตี้ย”
     
    “เอ๊า พึ่งรู้หรอ แต่ถ้ามึงดูดีๆมึงจะเห็นความหล่อขั้นเทพ ที่กระจายอยู่ทั่วทุกอนูรูขุมขนบนหนังหน้ากู”
     
    “กูไม่ได้หมายถึงหน้าตา กูหมายถึงคำพูดมึงต่างหาก ฮะๆ อย่าหลงตัวเองดิพีม” ไหนๆมันก็ใกล้มืดแล้ว ผมฆ่าไอ้ภูมิแล้วโยนลงสระให้ปลาตอดกินคนคงไม่เห็นมั้ง แม่งจะชมก็ไม่ชมให้ครอบคลุมนะมึง
     

    ผมกับภูมิก็คุยกันไป กวนกันไปจนฟ้ามืด ภูมิเอนตัวลงนอนกับเนินหญ้านุ่มๆ ซึ่งทำให้ผมแปลกใจมากที่คุณชายอย่างมันจะกล้านอน บางครั้งมันก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าจริงๆแล้วภูมิก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากมีชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนทั่วไป ไม่ใช่ชีวิตอันแสนวิเศษตามที่พ่อแม่คาดหวังและพยายามให้มันเป็น


    “มึงเคยมานั่งที่แบบนี้มั้ยภูมิ”

    “เคยดิ สวนแถวคอนโดเยอะแยะ”

    “โห่ โกหกกูก็ได้มึง แบบหลอกให้กูดีใจ ว่ามึงพึ่งเคยมาครั้งแรกกับกูไรงี้”
     
    “หึ มึงนี่ชอบหลอกตัวเองวะ กูเคย แต่ก็ไปคนเดียว ถ้ามาเป็นคู่ก็กับมึงคนแรก”
     
    “เออ แบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย เฮ้ยภูมิกินไอติมป่ะกูเลี้ยง เดี๋ยวมานะเว้ย” ผมเห็นรถไอติมกะทิอยู่ไกลๆ ผมรีบวิ่งไปดักหน้ารถคุณลุง ดีว่ามีคนเรียกลุงแกไว้ เพราะเธอก็ซื้อเหมือนกัน ผมเลยโชคดีไม่ต้องออกแรงวิ่งไกลให้เหนื่อย


    ผมยืนต่อรอคิวถัดจากเธอที่กำลังอุ้มเด็กผู้ชายแก้มยุ้ยๆวัยกำลังซน แล้วน้องก็หันมามองผมตาแป๋วพร้อมกับยื่นมือเล็กๆป้อมๆมาหา อ้าวเวร กูเล่นกับเด็กไม่เป็น
    >_< ถ้าผมยิ้มให้น้องน้องจะร้องไห้ฝันร้ายมั้ยวะ ยิ้มๆไปเถอะเนอะ ผมก็เลยยิ้มให้น้อง
    ^^

    “ปะป๊า”  ชิบหาย น้องพยายามยื้อมือมาหมายให้ผมอุ้ม จนคุณแม่น้องหันกลับมามองแล้วยิ้มให้ผมก่อนจะกล่อมลูกชายของเธอว่าผมไม่ใช่ปะป๊า
    >_< พี่ยังไม่มีลูกคร้าบบบ
    เธอจ่ายเงินค่าไอติมพร้อมกับหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง และแม่ลูกคู่นั้นก็เดินจากไป ถ้าไอ้ภูมิมาด้วยมันคงหัวเราะผมแน่ๆ นี่กูหน้าแก่ขนาดนั้นเลยหรอวะ
     
    “ใส่ถ้วยครับ สองถ้วย ใส่นมกับถั่วเยอะๆนะครับลุง” รอไม่นานไอติมกะทิก็มาอยู่ในมือผมเรียบร้อย ผมจ่ายเงินคุณลุง และรีบวิ่งกลับมาหาภูมิที่นั่งรออยู่
     


    “อ่ะ” ผมยื่นถ้วยไอติมให้มันก่อนจะนั่งลงข้างๆ “อาจจะไม่หรูเท่าเซเวนเซ่น แต่ก็อร่อยเหาะไม่แพ้กันแน่นอน หมอพีมคอนเฟิร์ม”

    “หึหึ ขอบใจนะที่เลี้ยง” ผมยิ้มให้มัน และเริ่มตักไอติมเย็นๆหวานๆเข้าปาก ไอ้ภูมิมันก็กินของมันไป ผมก็คว้านหาข้าวเหนียวลูกเดียว กูจะเป็นนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว หึหึ แต่อยู่ซะลึกเลยนะเมิง

    “หืม
    ?” อยู่ๆภูมิก็ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆผม จนไหล่เราชิดติดกันพร้อมกับตักขนุนและถั่วมาใส่ในถ้วยของผม

    “เดททั้งทีจะนั่งห่างแฟนได้ไงล่ะ” ผมขำหึกับความคิดและคำพูดของมัน ใครกันแน่ที่ชอบพูดคำน่ารัก
     
    ไอ่เด็กน้อยเอ๊ย
     


    ถึงแม้ผมกับภูมิจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ไม่ได้มองพระอาทิตย์ค่อยๆตกดิน ไม่มีดวงดาวหรือพระจันทร์คอยสร้างบรรยากาศโรแมนติก มีแค่เดทเรียบๆกับไอติมกะทิคนละถ้วย ในสวนสาธารณะกลางเมือง แต่เพียงเท่านี้ผมก็พอใจแล้ว แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว ผมจะไม่มีวันลืมเดทดีๆในวันดีๆนี้เลย
     

    เดทครั้งแรกระหว่างผมกับภูมิ
    ^__^
     
     

    ……………………………………………..
     
     
    ผมกับภูมิเดินกลับบ้านด้วยกัน เราเดินเล่นเรื่อยๆ แหกปากร้องเพลงเตะกระป๋อง เตะก้อนหินมาตามทาง มีวิ่งแข่งกันบ้าง ไอ้ภูมิพยายามจะขี่หลังผมด้วย ผมวิ่งหนีมันแทบตาย พอเหนื่อยก็เดินจับมือกัน กว่าจะถึงบ้านก็เกือบสองทุ่ม
     

    “น้องภูมิอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะ วันนี้อาโชว์ฝีมือเต็มที่เลย ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย” ทันทีที่ผมกับภูมิเดินเข้าบ้าน อาปุ้ยก็ถลาออกมาหาหลานรัก(ไอ้ภูมินะ ไม่ใช่ผม ผมตกขอบไปนานแล้ว) ทั้งที่มีตะหลิวคามือ

    “ฝีมือการแกะกล่องอาหารสำเร็จรูปเข้าไมโครเวฟหรออา”ภูมิมันยืนขำผมกับอาปุ้ยแหย่เล่นกัน
     
    “ไอ้พีม ปากดี น้องภูมิอย่าไปฟังนะลูก เจ้าพีมมันเพ้อเจ้อ พีมพาน้องภูมิไปเล่นข้างบนไป ถ้ากับข้าวเสร็จอาจะขึ้นไปเรียก”

    “ครับ งั้นพีมไปเล่นเกมส์นะ” ผมวิ่งขึ้นชั้นสองอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องรีบวิ่งกลับลงมาเพราะเสียงนางพญาตะโกนลั่นบ้าน

    “พีม
    !!!! ทำไมไม่ชวนน้องภูมิขึ้นไปเล่นด้วย ทำไมนิสัยแบบนี้ห๊ะ!!!!”

    “อ้าว ก็นึกว่ามันเดินตามพีมมา ขึ้นมาดิมึง เห็นมั้ยกูถูกอาปุ้ยด่าเลย ป่ะแล่นเกมส์กัน” ผมดึงไอ้ภูมิที่ยืนงงให้รีบวิ่งหลบตะหลิวคุณนายปุ้ย ก็ใครจะไปรู้ว่ามันจะยืนบื้ออยู่ที่เดิม
     



    “ห้องรกหน่อยนะ แหะๆ”
    ห้องผมก็เหมือนห้องเด็กศิลป์ทั่วๆไป กลิ่นสีและกาวแป้ง กลิ่นปูนปลาสเตอร์ ทินเนอร์ กาว ม้า กัญชา ไอ้อันหลังไม่ใช่แล้ว ฮ่าๆ ไหนจะกระดานเขียนรูป กระป๋องสี และมีขาตั้งกระดานรองเขียนรูปอยู่ตรงระเบียง เผื่ออยากนั่งวาดรูปใกล้ๆธรรมชาติ อีกอันก็ตั้งไว้กลางห้อง มีทั้งรูปที่เขียนเสร็จแล้ว ยังไม่เสร็จ และบางอันคงไม่วาดต่อ หนีบซ้อนกันเป็นตับๆ
     


    “มึงชอบสีขาวหรอ” ภูมิมันคงเห็นว่าทั้งเตียง โต๊ะ ผ้าม่าน ของต่างๆภายในห้องเป็นสีขาวเกือบทั้งหมด หารู้ไม่ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหล่านี้คืออาปุ้ย

    “อือ พอดีว่ากูเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่องนะ หึหึ”


    “เหรอออ” ภูมิส่ายหน้าขำๆมันก็เดินสำรวจห้องผมไปเรื่อย ส่วนผมก็เปิดคอมฯออนเอ็ม เลี้ยงหมูไปตามประสา “กูนอนเตียงมึงได้มั้ย”


    “เอ๊า ก็นอนไปสิ แต่ห้ามหลับนะมึง เดี๋ยวอาปุ้ยเรียกไปกินข้าว”
     

    “อืม เก็บไว้ด้วยหรอ” ผมหันกลับไปมองภูมิที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ผมเลิกคิ้วไม่เข้าใจว่ามันถามถึงอะไร มันเลยชี้มาที่แก้วทรงสูงมีดอกกุหลาบที่มันเคยซื้อให้ปักไว้ ตอนนี้มันแห้งกรอบเหมือนชุบแป้งทอดแล้ว แต่ผมก็ยังเก็บตั้งไว้ข้างๆคอมฯ
     
    “อ๋อ ดอกกุหลาบนี่น่ะเหรอ กูลืมทิ้งว่ะ”
     
    “ถ้ามึงทิ้ง กูกระทืบไส้แตก”
     
    “ฮะๆ เออๆไม่ทิ้งหรอก” ผมหันกลับมาขโมยหมูชาวบ้านต่อ ใครเอาผักบุ้งให้อินเตอร์เน็ตกูกินวะ ช้าเป็นเต่าเลยแม่ง รู้สึกเหมือนภูมิมันจะลุกออกไปยืนที่ระเบียง แต่ผมไม่สนใจมองตาม ระวังถูกกระถางต้นไม้ทับคอนะครับน้องภูมิ
     


    “พีม นี่รูปกูหรอ”
     

    “เฮ้ยยย
    !!!” ชิบหาย ผมรีบวิ่งออกไปที่ระเบียง แม่งเอ๊ยลืมเก็บ กระดาษปอนด์สีขาวแผ่นบนสุดที่อยู่บนกระดานเขียนรูปตอนนี้คือรูปใบหน้าของภูมิ ถึงผมจะยังไม่เก็บรายละเอียด แต่ดูก็รู้ว่าเป็นมันแน่นอน
     

    “เอ่อ ”  ตอนนี้ตัวผมคงหดลีบลงเหลือไม่ถึงสองนิ้ว กูอยากจะมุดหายไปในกระดาษจริงๆ ให้ตายเถอะ ผมไม่กล้ามองหน้ามันเลย แต่ภูมิก็ไม่ได้พูดอะไรให้ผมอายมากไปกว่านี้  มันไม่ได้ถามว่าผมวาดตั้งแต่เมื่อไร ไม่ได้ถามว่าทำไมผมถึงวาดรูปมัน ภูมิแค่ยืนดูรูปตัวเองที่ผมยังวาดไม่เสร็จสมบูรณ์ แล้วมันก็ยิ้ม
    มันจะเดาได้มั้ยว่าผมวาดรูปนี้ก่อนที่มันจะจีบผม กูเตรียมตัวอายแล้วภูมิ
     

    “หล่อสู้ตัวจริงก็ไม่ได้”
    นั่นคือคำพูดแรกของมัน ทำให้ผมรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมานิดนึง

    “กูก็ว่างั้น แหะๆ เข้าห้องเถอะวะ ยุงเยอะ ป่ะๆ”
     
    “วาดเสร็จ กูขอได้มั้ย”ภูมิไม่ยอมเดินตามแรงดึงของผม มันยังยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้รูปตัวเอง ไอ้นี่ท่าจะบ้า
     
    “หืม อ่อ ได้ๆ เดี๋ยวกูใส่กรอบให้ด้วย”
     
    “ให้กูจริงๆนะ”
     
    “เอ้อ ใส่กรอบแล้วก็เอาไปตั้งไว้ในห้องพระ หาดอกไม้ธูปเทียนมาจุดไหว้บูชาซะ ฮ่าๆ”
     
    “เชี่ย” ภูมิตบหัวผมไม่แรงแต่กูเจ็บ ถึงมันไม่พูด ผมไม่พูด แต่มันคงรับรู้ได้ว่าทำไมผมถึงวาดรูปมัน วาดโดยไม่มีแบบ ไม่มีรูปมาให้ดู ก็เพราะหน้าภูมิอยู่ในหัว แค่นึกแล้วก็วาดลงบนกระดาษ
     
    “พีม”

    “อืม”

    “ขอบคุณนะที่ยอมเป็นแฟนกู”

    “อือ” สาดดดดดดด มึงมาพูดอะไรแบบนี้ตอนนี้วะ
    >///<

    “พีม”

    “เอ้อ”

    “ขอกอดหน่อยสิ” ถึงจะงงๆว่าภูมิมันมาอารมณ์ไหน แต่ตาเศร้าๆคู่นั้นก็ทำให้ผมปฏิเสธคำขอของมันไม่ลง ผมเดินเข้าไปหาภูมิ และเป็นฝ่ายยื่นแขนไปโอบกอดมันไว้ ภูมิกอดผมแน่นเหมือนคนที่กำลังหนาว  เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้เดือดร้อนกับส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบนิดๆของตัวเองหรอก แต่ตอนนี้อยากสูงกว่านี้อีกหน่อยวะ ไอ้ภูมิจะได้ไม่ต้องก้มมาก
     

    “กูจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กูได้รับกอดอุ่นๆแบบนี้ มันนานเท่าไรแล้ว”


    “อืม ตอนนี้กูกอดมึงแล้วนี่ไง” ผมลูบหลังปลอบภูมิให้มันได้คลายเหงา ผู้ชายที่ดูเหมือนเข้มแข็งแต่ความจริงแล้วภูมิก็ไม่ต่างจากใคร ซ้ำยังอาจจะเปราะบางกว่าใครๆด้วยซ้ำ



    สำหรับผมที่ได้รับกอดของพ่อกับแม่เสมอ มันอุ่นก็จริง แต่ก็เหมือนมันยังเติมไม่เต็มบางอย่างที่หัวใจผมต้องการ เหมือนชีวิตมันยังขาดๆ จนตอนนี้ที่ได้ยืนกอดกับภูมิแบบนี้ ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่หามาตลอดมันคืออะไร และผมก็อยากจะมอบความรู้สึกเดียวกันนี้ให้ภูมิ



    เรื่องราววัยเด็กของภูมิที่ผมเคยรับรู้จากไอ้เบียร์ ผมยังจำได้ขึ้นใจ มันคงเหงามาก คงเจ็บปวดกับสิ่งที่ผ่านมา ผมไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของภูมิจะเคยกอดมันหรือเปล่า แต่ถ้าหากอ้อมกอดของผมจะอุ่นพอ ก็ขอลบวันเวลาที่อ้างว้างของภูมิด้วยกอดนี้
    ให้ความรู้สึกดีๆของผมได้กอดหัวใจของภูมิเอาไว้


    “กูขอโทษนะพีม สำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา ขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับมึง”ภูมิถูหน้าลงกับไหล่ของผม
     

    “เออ คิดไรมากวะ” ผมตบหลังมันเบาๆสองสามสามครั้ง ก่อนจะดันตัวออก ไอ้ภูมิหน้าหงอยๆผมไม่ค่อยชิน หมั่นเขี้ยววะ ผมเขย่งตัวขยี้หัวมันเล่น ฮะๆ มันจิ๊ปากก่อนจะปัดผมออก เออ หน้าดุๆแบบนี้ค่อยดูง่ายหน่อย
     
    “ป่ะกินข้าว อาปุ้ยรอ”
     
    “เดี๋ยวพีม”ผมหยุดเดินและหันกลับมามองหน้าภูมิอีกครั้ง มันดึงมือผมไปกุมไว้ ดวงตาสีดำของมันดูหวาดหวั่นและกังวน

    “กูเป็นคนหวงของ ยิ่งเป็นของรักของสำคัญ กูจะยิ่งหวง ถ้าเกิดบางครั้งกูงี่เง่า มึงจะทนได้มั้ย”
    ผมยิ้มให้ภูมิและบีบมือมันแน่นให้มันได้มั่นใจ


    “กูจะไม่ใช้ความอดทน แต่กูจะพยายามเข้าใจ เป็นไง กูเท่ห์ละสิ”

    “อือ เท่ห์มาก หึหึ” ยิ้มสวยๆของภูมิทำให้ผมสบายใจทุกครั้งเวลาที่ได้มอง
     


    มึงไม่ต้องกลัวหรอกภูมิ ถึงไม่มีใครกอดมึงกูจะกอดเอง ถ้ามึงเหงากูก็จะกอดมึงไว้ ถ้ามึงร้องไห้หรือเสียใจอ้อมกอดของกูจะคอยโอบกอดมึงเสมอ
     
     

    ผมจูงมือภูมิลงมาข้างล่าง อาปุ้ยกำลังตักข้าว จัดโต๊ะวุ่นวาย

    “มาแล้วครับ เดี๋ยวช่วย”

    “อ้าวหนุ่มๆไม่ต้องช่วยๆไปล้างมือมาทานกัน น้องภูมิทานได้ใช่มั้ยลูก”ที่อาปุ้ยถามแบบนี้เพราะอารู้ถึงเทือกเขาเหล่ากอไอ้ภูมิว่าผู้ดีแค่ไหน

    “ได้ครับ”


    “ไอ้ภูมิมันกินได้หมดแหละอา ขอแค่อย่าเผ็ดเป็นพอ มันเป็นเด็กน้อยน่ะ หึหึ” เพราะมีอาปุ้ยอยู่ด้วย ภูมิเลยไม่กวนผมกลับ เสร็จกูละมึง ฮ่าๆ ระหว่างทานข้าวอาปุ้ยก็หาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุย ภูมิมันก็เป็นผู้ฟังที่ดี ยิ้มบ้าง ครับบ้าง
     
    “พีม อาทิตย์หน้าอาไปดูงานที่สิงคโปร์นะ”

    “ดูงานหรือเคาท์ดาวน์อา”
    “ฮ่าๆ ฉลาดมากหลานชั้น รู้ทันๆ แล้วพีมจะอยู่ไหนปีใหม่ จะขึ้นเชียงใหม่รึเปล่า”

    “ไม่อ่ะครับ ปีนี้พีมคงอยู่กรุงเทพกับเพื่อนๆ เนอะภูมิ” ภูมิตอบอืมพร้อมกับยิ้มรับ เห็นมันยิ้มได้ผมก็เบาใจ ไม่ชอบเลยไอ้หน้าหงอยๆของมันตอนที่อยู่บนห้อง

    “ถ้าน้องภูมิว่างก็มาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าพีมมันบ้างนะลูก”

    “ครับ” น่ะ ยิ้มอีกแล้ว อืม มันชักจะยิ้มบ่อยจนผิดสังเกตแล้วแฮะ อาปุ้ยใส่กัญชาลงในแกงจืดยัดไส้รึเปล่าวะ


    ทานข้าวเสร็จอาปุ้ยก็ขอลาขึ้นไปนอนเลย อาไม่ใช่เด็กอนามัยนอนก่อนสามทุ่มแต่อย่างใด แต่เพราะสังขารไม่ไหวเลยรีบนอน ฮ่าๆ ส่วนผมกับภูมิก็ช่วยกันเก็บโต๊ะเก็บจานมาล้าง จริงๆต้องบอกว่าผมทำแล้วมีไอ้ภูมิพยายามช่วย


    “เดี๋ยวกูล้างเอง มึงไปดูทีวีเหอะ เบนเทนกำลังมานะมึง” เอาการ์ตูนเข้าล่อ

    “กูอยากช่วย”

    “มึงทำเป็นหรอ”

    “ไม่เป็น แต่อยากทำ” ถึงกูไม่ให้ทำ มึงก็จะทำอยู่ดีแหละภูมิ

    “งั้นมึงล้างน้ำสะอาดนะ” มันมองงงๆ ผมเลยต้องอธิบายให้คุณชายเขาเข้าใจ “มึงทำยังไงก็ได้ให้ไอ้ฟองน้ำยาล้างจานหลุดออกให้หมดจนมันไม่ลื่น ทำได้มั้ย”
     

    “อืม” ถึงผมไม่ค่อยไว้ใจมันเท่าไรแต่ก็ต้องปล่อยให้มันทำ และก็เป็นการล้างจานที่ทุลักทุเลที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา เพราะไอ้ภูมิ
    !! เดี๋ยวก็เร่งน้ำ เดี๋ยวแม่งผ่อน ซักพักก็ทำจานหลุดมือ ล้างจานควรจะเปียกแค่มือ แต่ผมเหมือนไปเล่นสงกรานต์มา ทนไม่ไหวเลยไล่ตะเพิดมันออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น ก่อนไปมันยังเอามือเปียกๆมาจับหัวผมอีก
     
     
    และตอนนี้ ได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนสกูปปี้ดูดังคลอเสียงหัวเราะของภูมิ
     


    “อ่ะมึง ฝรั่ง สาลี่ ลิ้นจี่ ส้ม ช่วยกันกินให้หมด ก่อนที่อาปุ้ยจะลงมาเจอแล้วฟาดกบาลกู โทษฐานไม่สวาปามวิตามินจากธรรมชาติ” ไอ้วิตามินมันช่วยให้ส่วนสูงเพิ่มได้มั้ยวะ ทำไมอาถึงได้บังคับขู่เข็ญให้ผมกินทุกครั้งหลังอาหาร
     
    ภูมิมันยิ้มบอกว่าอาปุ้ยน่ารักดี ใช่สิเดี๋ยวนี้ซี้กันแล้วนิ ผมกับมันนั่งกินผลไม้ที่อาปุ้ยบรรจงปอกไว้ให้จนหมด สกูปปี้ดูก็จบพอดี  มีแฟน(นิสัย)เด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายและปรับตัวให้ชินกับการดูการ์ตูนเป็นงานประจำ ดูเสร็จพวกผมเลยขึ้นมานั่งๆนอนๆบนห้อง
     




    ………………………………………..



     
    ผมชวนมันเล่นเกมส์แต่มันไม่เล่น บอกว่าเจ็บนิ้ว แม่งคนอุตส่าห์ต่อจอยส์ให้ ภูมิมันนอนอ่านหนังสือรถแข่งอยู่บนเตียง ส่วนผมที่ถูกมันปฏิเสธการดวนวินนิ่ง ก็ต้องมานั่งคุยเอ็มกับผองเพื่อนแก้เซ็ง  

    แค่เห็นสถานะไอ้คิวผมก็เริ่มฮา มันขึ้นสถานะว่า กูจะฆ่าน้องรหัส ส่วนไอ้เต้ย กูจะแจ้งความ ผมเลยลากมันสองตัวมาคุยกัน ฮ่าๆๆ ในเอ็มมันยังกัดกันได้ สุดยอดมากเพื่อนเลิฟ น้องรัก


    แต่ที่แรงกว่าใครในสามโลกคือสถานะไอ้ฟ่าง รักแทนครับ สาดดด ส่วนของผมน่ะหรอ
    P&P ^^ หึหึ บรรดาเพื่อนเวรทั้งหลายเข้ามาแซวให้รึ่ม ไอ้ปันบอกว่าเหมือนชื่อขนมเค้ก อันนั้นมัน S&P โว้ย


    “ฮ่าๆ อ๊ากก ฮ่าๆๆ””

    “พีม”

    “ฮะๆ เออ มีไรมึง ฮะๆ” ผมยังฮาไอ้คิวกับไอ้เต้ยโต้ตอบคารมผ่าน
    MSN

    “ขำอะไรนักหนาวะ”

    “หึหึ กูขำไอ้คิวกับไอ้เต้ย แล้วก็พี่ชายมึงอ่ะ แม่งขึ้นสถานะรักแทนครับ”

    “คงไปทำอะไรให้ไอ้แทนโกรธละสิ”

    “อ้าวหรอ แต่มันก็รักกันดีเนอะ”


    “คนเป็นแฟนกันก็ต้องรักกัน” ประสาทสัมผัสทุกส่วนของผมสะดุดกับคำว่า “รัก” แฟนกันต้องรักกัน ผมกับภูมิเป็นแฟนกัน แสดงว่า เราก็
    ….


    “ภูมิ ชอบกับรักมันต่างกันยังไงวะ” ผมเอ่ยถามโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองคนข้างหลัง

    “ไม่รู้”

    “แล้วทำไมมึงถึงชอบกู” ผมเคยถามคำถามนี้กับมันหลายครั้ง ทั้งที่ผมก็รู้ว่าคำตอบ แต่ครั้งนี้ผมอยากจะเปลี่ยนคำถามเป็นอีกคำ ผมอยากจะถามทั้งมันและตัวผมเอง
     

    ว่าตอนนี้ความรู้สึกของผมกับภูมิที่มีให้กัน มันเรียกว่าอะไร
     

    “ไม่รู้ ไม่มีเหตุผล”

    “อืม งั้นเหรอ” แล้วเราก็เงียบกันไป ผมออกจากเอ็ม มาเล่นเกมส์สิ้นคิดตีปังย่า แต่ทำไมผมถึงเห็นแต่หน้าภูมิเต็มจอคอมแพคก็ไม่รู้ ทั้งที่ผมหันหลังให้มัน

    “พีม”

    “อือ” ผมหันกลับมา ก็เห็นไอ้ภูมิกำลังนั่งกอดกีต้าร์อยู่ปลายเตียง ทำให้ผมต้องเลิกคิด แล้วเลิกคิ้วมองมันด้วยความสงสัยแทน

    “มานั่งนี่ดิ๊” มันตบลงข้างๆตัวเอง

    “ทำไม มึงจะปล้ำกูหรอ” ผมยิ้มถามกวนตีนมัน แต่ก็ยอมเดินไปนั่งที่ปลายเตียงข้างๆมันตามที่มันบอก

    “หึ ถ้ากูทำจริงๆ มันจะเรียกว่าสมยอม”

    “หราาาา แล้วเรียกทำไมวะครับ”

    “จะร้องเพลงให้ฟัง”

    “โหหห แฟนกูจะโชว์โรแม้นเว้ยเฮ้ย” ภูมิผลักหัวผมเบาๆ ผมยิ้มแซวมันก่อนจะเปลี่ยนขึ้นไปนั่งขัดสมาธิ
    หันหน้าเข้าหากัน เพื่อรอฟังว่าภูมิจะร้องเพลงอะไร ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ผมกับภูมิมีให้กันเรียกว่าอะไร แต่มันก็คงไม่สำคัญมากไปกว่าการได้อยู่ด้วยกันแบบนี้หรอกเนอะ


    “ตั้งใจฟังนะเตี้ย” มันอมยิ้มเขินๆ

    “คร้าบบบ”
     

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้ฟังอินโทรให้รู้ ว่ามันจะร้องเพลงอะไร เสียงนุ่มทุ้มของภูมิก็ร้องท่อนแรกของเพลง ทำเอาผมต้องรีบกลั้นรอยยิ้มและข่มความเขินไว้อย่างสุดความสามารถ
     










     

    (จิ้มเพลงเบาๆ ร้องคลอไปทีละบรรทัดตามเพลง เพื่อเพิ่มอรรถรสนะคะ
    J)
     


    รัก...
    การที่เราจะหลงรักใคร สักคนหนึ่งนั้น
    มันต้องมีเหตุผลสักเท่าไร
    เพราะเขาคุยเก่ง เพราะเขาน่ารัก
    หรือเขาสวยมาก อ่อนโยนสดใส
    ผมไม่รู้หรอก และก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ


    ภูมิไม่หลบตาผมเลยแม้แต่วินาทีเดียว นอกจากว่ามันจะก้มลงดูกีต้าร์บ้างบางครั้งรอยยิ้มอ่อนโยนของมันกับดวงตาที่มีแต่ความจริงใจถูกส่งมาให้ผม จนผมไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป



    รัก... รู้ใช่ไหมว่าผมรักคุณ

    คุณคือคนนั้น แต่ถ้าคุณจะถามว่าทำไม
    เพราะรอยยิ้มคุณช่างดูคุ้นเคย
    เพราะความใจดี ไม่มีอ่อนไหว
    กี่ร้อยพันคำตอบ มันก็ยังไม่ตรงกับหัวใจ


    ก็มันรัก...
    รักโดยไม่มีเหตุผลได้หรือเปล่า
    มันเหงาเมื่อคุณไม่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ทำไม
    บอกว่ารักเพราะใจเรียกร้อง แค่นี้ได้ไหม
    ไม่รู้ต้องใช้คำใด อธิบาย ต่อความรู้สึกนี้
    คำใดจะเหมือนหัวใจที่รู้สึกรัก... ก็ผมแค่รู้ว่าใช่



    ภูมิก้มลงจูบแก้มผม ที่กำลังกำผ้าปูที่นอนจนแทบจะกระชากเตียงหลุดติดมือ อย่าว่าแต่เอาไฟมาลนเลย แค่เอาไฟฉายมาส่องผมก็พร้อมจะละลายแล้ว ภูมิเองก็ไม่ต่างกัน มันเขินและเริ่มไม่กล้าสบตาผม แถมยังจับคอร์ดผิดตั้งสองสามครั้ง ทำให้ผมต้องหัวเราะออกมา และเอื้อมมือไปตบแก้มมันเบาๆ




    ก็มันรัก...
    รักโดยไม่มีเหตุผลได้หรือเปล่า
    มันเหงาเมื่อคุณไม่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ทำไม
    ก็มันรักเพราะใจเรียกร้อง แค่นี้ได้ไหม
    ไม่เห็นต้องคิดมากมาย


    บอกว่ารัก...
    รักโดยไม่มีเหตุผลได้หรือเปล่า
    มันเหงาเมื่อคุณไม่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ทำไม
    บอกว่ารักเพราะใจเรียกร้อง แค่นี้ได้ไหม
    ไม่เห็นต้องมีคำใด ไม่เห็นต้องคิดมากมาย
    ก็ความรักนั้นใช้หัวใจ...อธิบาย
     

    เพลงของภูมิจบลงแล้ว เราสบตากันนิ่ง ความรู้สึกมากมายคงไม่อาจถ่ายทอดให้หมดภายในเพลงๆเดียว แต่เรารับรู้มันได้จากดวงตาของกันและกัน ภูมิก้มลงจูบที่ริมฝีปากของผมเพียงแผ่วเบา และผละออกมาเพื่อส่งรอยยิ้มเขินๆและแววตาจริงใจให้ ผมเองก็ยิ้มให้มันเช่นกัน 
     


    “กูไม่รู้จริงๆว่าทำไมถึงรักมึง รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว ไม่ใช่กูไม่ลองหาคำตอบ แต่หาแล้วมันไม่เจอ ต่อไปไม่ต้องถามแล้วนะ ว่าทำไมกูถึงรักมึง เพราะกูไม่มีเหตุผลจะให้ รู้แค่ว่ากูรักมึงก็พอ”
     
     
    สาดดดดดดดดดดดดดดดดด ตายเลยมั้ยกูเนี่ย
     
    “หึ”

    ^_^

    ผมพยักหน้ารับรู้ เรายิ้มให้กันได้ไม่นาน หน้าของผมกับภูมิก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าหากัน ริมฝีปากเราสัมผัสกัน เรารับรู้ลมหายใจของกันและกัน  
     

    ภูมิขบกัดริมฝีปากผมซ้ำๆย้ำๆจนผมรู้สึกวาบหวิวในอก แต่ผมก็ไม่คิดจะยอมมันฝ่ายเดียว ลิ้นเรายังหยอกล้อเกี่ยวกันไม่ห่าง มันเป็นรสจูบที่อ่อนหวานและหนักหน่วงอยู่ในที และทำให้ผมรู้สึกดีจนต้องจูบไปยิ้มไป
     

    ผมกับภูมิจูบกันอีกครั้งและอีกครั้ง  
     

    ภูมิบอกกับผมว่า

    ไม่เห็นต้องมีคำใด ไม่เห็นต้องคิดมากมาย

    ก็ความรักนั้นใช้หัวใจ...อธิบาย
     

    นั่นสิเนอะ
     



    ขอบคุณนะภูมิ ที่มึงใช้หัวใจ เพื่ออธิบายให้กูรู้จักคำว่า “รัก”
     




    หวังว่ามึงก็คงจะเข้าใจคำว่า ”รัก” ที่กูอธิบายด้วยหัวใจให้มึงฟังนะ
     
     
     
    TBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     
    …………………………………………………..
     
    Talk :  ผิดสัญญาอีกแล้วคะ ผู้หญิงคนนี้ชอบปล่อยของก่อนกำหนดตะร๊อดๆ ตอนนี้เลยมาแบบชิลล์ๆ เบาๆ แต่อยากจะกรี๊ดดด สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยย
     
    มีฉากกุ๊กกิ๊กบ่อยก็อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ต้องไปโทษน้องภูมิกับน้องพีมคะ (เฮ้ย ผมไม่เกี่ยวนะ ไอ้ภูมิเลย มันคนเดียวเลย : ไอ่พีมแกอย่าร้อนตัว)
    พีมเอ๋ยคงรู้แล้วใช่มั้ยจ๊ะ ว่าความรักมันไม่มีเหตุผล คึคึ  แอบเห็นมีคนชอบไอ่น้องมิคด้วย เหอๆ ของแบบนี้นานาจิตตังเนอะ (มองข้างๆ ภูมิก็ภูมิเถ๊อะ เจอนิชมิคมีหนาวครับ : มิคเมิงอย่าถือหางตัวเอง)
     
    ปล ขอบคุณไอ้น้องชายที่เป็นแรงบันดาลใจในการแต่ง (ถ้ามันรู้ตัวอาจมีกระทืบ ฮี่ฮี่ มีพี่สาวขาวายก็ซวยไปนะเมิง)
     
    ปลอีก ขอบคุณทุกๆคอมเม้น ที่คอยเชียร์ภูมิกับพีมนะคะ สองคนนั้นคงปลื้มใจแน่ๆ แต่ปีใหม่นี้คาดว่าคงไม่เหลือสติมาลงอ่ะคะ เพราะตาลจะตามไปส่องภูมิกับพีมว่าพากันไปฉลองปีใหม่ที่ไหน
    (จะตามพวกผมทำม๊ายยย แค่นี้ก็หลอนแล้ว+_+ อย่าบ่นๆไอ่หนู) แล้วก็จะตามฟ่างกับแทนต่อ (ใครให้ตาม คนเค้าจะใช้เวลาส่วนตัว มารยาทน่ะมีมั้ย >=< เออ ไม่ตามก็ได้ ดุจริงมึง) งั้นตามไอ่คิวกับดีกว่า(เจอกันในวงเหล้านะป้า ฮ่าๆๆ โอ๊ย #เขกกบาลมัน# ป้าพ่อง )
     
    คงหลังปีใหม่ซักสามวันเราค่อยมาเจอภูมิกับพีมเนอะ งั้นตาลก็ขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่พี่ๆน้องๆแฟนนิยายทุกคนล่วงหน้านะคะ ขอให้ได้แฟนหล่อๆรวยๆ(แล้วมาแบ่งให้เค้าบ้างเน้อ) สุขภาพแข็งแรง ขอให้โชคดีตลอดปีตลอดไปนะจ๊ะ Happy New Year จ้า^__^
     
     
     
    งั้นมาตอบคอมเม้นกันดีกว่า ทำซุยเนียนๆตอบของตอนล่าสุดเลยนะจ๊ะตัวเทอ^__^
     
    คุณ Gddddddมาแล้วคะ มาแล้วๆ ตาลอัพแล้วเน้อ ตอนที่แล้วว่าน่ากรี๊ด ตอนนี้น่ากรีดร้องกว่ารึเปล่าเอ่ย
     
    คุณkataiyai ต้องกราบสวัสดี กราบขอบพระคุณที่ชอบนิยายเรื่องนี้นะคะ และขอต้อนรับสู่โลกของภูมิพีมและเดอะแก๊งค์คะ อ่านข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว ดีนะคะที่มาทันตั้งแต่ตอน14 ถ้ามาเจอตอนที่ 30กว่า(ถ้าถึงอ่ะนะ )อาจมีน็อค ฮ่าๆยังไงก็พักผ่อนดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ
     
     คุณmay be กร๊ากกกกกกกกกก รวมเล่มหรอคะ อาจจะมีคนสั่งแค่สองเล่มคือคุณmay beกับตาลนี่แหละคะ ฮ่าๆ ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลยคร๊า เอาเป็นว่าติดตามเชียร์หนุ่มๆในเด็กดีนี่แหละเนอะ มีให้อ่านอีกนานแส๊นนานเลยล่ะคะ
     
    คุณOoละอองเบียร์oO ต้องการความแปลกกว่านี้อีกหรอคะ แค่นี้หนุ่มๆแก็งค์นี้ก็ไม่ค่อยจะปกติแล้วนะตาลว่า ฮ่าๆ โดยเฉพาะ ไอ่น้องพีม (ผมปกติเหอะ >_<#น้องพีมค้อนใส่สองที#) เค้าว่าแกใจง่ายด้วยแหละพีม หึหึ (เอิ่ม Y_Y # พีมเอาหัวโขกโต๊ะ#) ส่วนเรื่องนั้น เราปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าเนอะ ชอบคำแนะนำมากๆอ่ะคะ แล้วก็ขอบคุณมากๆเลยจ้า ฮี่ๆ


    คุณPeachkung คนอ่านแฮปปี้ ตาลก็ดีใจคะ เป็นแฟนกันแล้วก็ต้องดูแลกันดีๆเน้อพีมภูมิ
     
     
    คุณ_P# อืมถ้ามีคู่ที่สามก็น่าสนนะ ว่าแต่จะเอาคู่ไหนดีจ๊ะ ระหว่างเชนตาลกับเบียร์ตาล น่าสนทั้งนั้นเลยเนอะ (อย่ามายุ่งกับพวกโผมมมมม T_T Y_Y เสียงโอดครวญจากน้องเชนและน้องเบียร์ หุหุ)
    ปล ถ้าไม่อยากให้ผู้คนตื่นกลัว ตาลขอแนะนำว่าให้อ่านในที่ลับตาคนคะ ฮ่าๆ
     
    คุณ ~3-M@D~ใช่คะชีวิตนี้ยังอีกยาวไกล เหมือนสายตาคุณตาลที่เริ่มยาวขึ้นทุกวันๆแต่วิสัยทัศน์กลับสั้นลง กรั่กๆ ส่วนภูมิกับพีมยังไม่หายไปไหนแน่นอนจ๊ะ ยังอยู่ด้วยกันอีกน๊านนนนนน อย่าเพิ่งเบื่อก็แล้วกันเด้อ
     
    คุณ- - - -Hirangana••ลุ้นให้เป็นแฟนกันว่าเหนื่อยแล้ว แต่ที่น่าลุ้นกว่าและคงเหนื่อยกว่าคือลุ้นให้ภูมิกับพีมไม่ฆ่ากันตายทั้งที่ยังไม่ได้….บอกรัก อะ อะ อะ คิดอาร๊ายยยย หึหึ
     
    คุณ นานา คนอ่านยิ้มจนปวดแก้ม พีมกับภูมิก็คงเขิลจนปวดตัว??? (ไอ้ภูมิกับผมแค่ปั่นจักรยานนะพี่ : ไอ่พีมร้อนตัว กิ้วๆ)
     
    คุณPuriPuriPuriเห็นหนุ่มๆเขารักกันมันก็ทำให้สาวๆอย่างเราสุขใจแบบนี้แหละจ้าปล คุณPuriPuriPuri อ่านตอนนี้สองรอบหรอคะ โอ้ววววววว รีดเดอร์ดีเด่นแห่งปี ตาลไม่มีถ้วยรางวัลให้ รับสินปัจจัยใต้โต๊ะนะคะ หึหึ
    คุณFN:;BB ตาลเห็นด้วยคะ ผู้ชายสมัยนี้ชอบมีมุมน่ารักให้เราได้กรีดร้อง บ้าๆๆๆๆๆๆ
     
    คุณKizz ใครคะที่น่ารัก ภูมิ พีม หรือ คุณตาล ฮ่าๆ -_-(ถูกหนุ่มๆมองด้วยสายตาเอือมระอา )
     
    คุณUta LoVe lOvE yAoI ตาลก็อิจฉาคะ ต้องไปขอสูตรจากน้องพีมซะแล้ว ว่าทำบุญวัดไหนถึงได้แฟนเริ่ดเลอเพอร์เฟกขนาดนี้ แล้วตาลจะแอบมากระซิบมาบอกเน้อ
     
    คุณ-••-KID-••-  อย่าเพิ่งฉีกคะ ไว้รอตอนหน้าค่อยฉีก น้องภูมิฝากมาบอกว่าจะโชว์สเต็ปเทพเรียกความหวานขั้นสูงกว่านี้อีก รอๆ
     
    คุณ หัวไจบิตกิต~ ระวังคุณพ่อคุณแม่ตกใจเสียงกรี๊ดนะคะ ฮ่าๆๆ ถูกดุขึ้นมาต่อให้เป็นน้องพีมก็คงช่วยอะไรไม่ได้นะเออ
     
    คุณKyo เริ่มที่ภาษาอะไรดี ถ้าเป็นภาษาอังกฤษไม่แนะนำให้ไปหาน้องพีมคะ ควรจะไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มๆฝั่งวิศวะนะ
     
    คุณ ข้าวฟ่าง โอ๊ะ ข้าวฟ่าว!!!! แอบหลบน้องแทนแฟนสุดหล่อมาอ่านนิยายตาลหรอคะ หึหึ แล้วดีใจเรื่องอะไรเอ่ย ดีใจที่น้องมิคจีบผู้หญิงปลอมหรือดีใจที่น้องแทนมานั่งรอจ๊ะ
     
    คุณVivia เป็นรายแรกที่มองเห็นความอบอุ่นในตัวน้องภูมิคะ ฮ่าๆ มันจะมีจริงๆเร้อ ชมแบบนี้ภูมิอาจจะเตรียมบิ๊กเซอร์ไพร์ไปให้ถึงโรงเรียนก็ได้นะคะ
     
    คุณlove lollipop ตอนพิเศษแทนฟ่าง 30 ธรรมดา25 คะ กร๊ากกก ช่วงนี้กำลังทำเรื่องขอซื้อลิขสิทธิ์จากฟ่างอยู่คะ ต้องลุ้นว่าจะได้มั้ย ระหว่างนี้ก็เชียร์แทนกับฟ่างผ่านพีมกับภูมิไปก่อนเนอะ
     
    คุณgoyjaa จัดงานฉลองให้ใหญ่กว่างานแสดงสินค้าแถวสวนอัมพรเลยมั้ยคะ แบบว่าเป็นงานมหรสพเจ็ดวันเจ็ดคืน ให้พีมกับภูมิปาลูกโป่งจนแขนขวิดไปเลย ฮ่าๆ
     
    คุณBoss_sanowa ภูมิมันร้อยเล่มเกวียนคะ ขอเป็นแฟนยังอ้อนขนาดนี้ แล้วขออย่างอื่นจะหื่นเอ๊ยจะอ้อนขนาดไหน(เริ่มเผยธาตุแท้ออกสู่สายตาชาวโลกแล้วคะ)
     
    คุณMemo เห็นด้วยคะ หนุ่มๆเรื่องนี้มันน่ารักดี แถมยังเพี้ยนๆอีกต่างหาก แต่หลังๆชักจะเป็นหนัก สงสัยต้องพาไปหาหมอเรียงตัว เริ่มที่ไอ่น้องคิวหรือน้องมิคดีละเนี่ย
    คุณ aizzy-kay ตั้งใจสอบนะคะ เอตัวเป้งๆทุกวิชาจ๊ะ เด็กขยันอาจจะได้รางวัลจากพีมเป็นจุ๊บเบาๆก็ได้นะเออ(ถ้าไม่กลัวใครบางคนดักฆ่าอ่ะนะ)
     
    คุณSoRRy~{MiSo}ทนไม่ได้ก็ต้องทนคะ เกิดเป็นอะไรไป แม่ยกภูมิกับพีมจะลดจำนวน ไม่ดีๆ ต้องต่อสู้กับความน่ารักของหนุ่มๆพวกนี้ต่อไป สู้ๆ
     
    คุณStradivarius คุณตาลเจอคนสปีชี่เดียวกันแล้ว คึคึ แต่อ่านนิยายเสร็จแล้วต้องกลับไปอ่านหนังสือนะคะ ไม่งั้นจะให้น้องภูมิตามไปจัดการซะให้เข็ด ฮ่าๆ โชคดีเก็ทเอทุกวิชาคะ เห็นเม้นทีไรตาลเองก็ยิ้มแก้มปริเหมือนกัน (ซึ้งๆๆ)
     
    คุณJuicy ภูมิมันจริงใจไม่ไก่กา เพราะว่าเป็นรักแท้ไงจ๊ะ (อ๊วกกกกกกกกกกกกก) ฮ่าๆ
     
    คุณStraWBerry_ImIn อย่าเพิ่งตายคะ อย่าเพิ่งตาย อยู่เป็นกำลังใจให้คู่แฟนหมาดๆก่อนสิคะ พีมมันยิ่งรั่วๆอยู่เผื่อต้องการที่ปรึกษาจะได้ช่วยกันทันไง
     
    คุณ Debugirแม่ยกน้องแทนอีกคน (ผมฮอทกว่าไอ้ภูมิเห็นๆ )#ไอ่น้องแทน อย่าหลงตัวเอง# ถ้ารักแทนต้องรักฟ่างด้วยเน้อ
     
    คุณ  the littleระวังคนข้างๆตกใจเอาได้นะคะ ต้องแอบยิ้มรู้มั้ย ก่อนจะถูกจัดเข้ากลุ่มเพี้ยนๆกับพวกน้องพีม
     
    คุณRenga So™ หนุ่มๆพวกนี้เกินไปในทุกสิ่งจริงๆคะ จับมาตีก้นซะให้เข็ด โทษฐานทำคนอ่านเพ้อ
     
    คุณ ม้าน้ำตัวน้อย ตั้งตารอวันที่จะหลุดพ้นจากสอบเหมือนกันคะ อยากมาเม้าท์เรื่องหนุ่มๆพวกนี้ใจจะขาด สาธุขอให้กุศลผลบุญส่งให้ผ่านทุกวิชาไม่ต้องถึงองถึงเอหรอกค่า ฮ่าๆๆ
     
    คุณ นางฟ้าแสนดื้อ เขิลใครจ๊ะ เขินผู้ชายหล่อโหดเอ้วแต่รักจริงอย่างน้องภูมิ หรือเขิลผู้ชายบ๊องๆแต่ฮาอย่างน้องพีม เอ๊ะหรือแอบเขิลไอ่น้องคิวคะ ฮ่าๆ
     
    คุณShadow DARK สกรีมได้ใจตาลมากฮ่าๆ กว่าจะเป็นแฟนกันได้เนอะ พีมมันก็คงเขิลเหมือนกันแหละตาลว่า ก็ภูมิเล่นขอแบบไม่ให้ตั้งตัวนิ อิจฉาๆๆๆๆ
     
    คุณFaiiZaa ไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้ายที่คิดแบบนี้คะ มีผู้หญิงอีกประมาณสามล้านแปดทั่วทุกมุมโลก ทั้งตามลุ่มแม่น้ำ เกาะร้าง หรือแม้แต่ตะเข็บชายแดน ก็อยากได้น้องภูมิมาเป็นแฟนกันทั้งนั้น แต่ก็นะ คงไม่ทันแล้วละคะ เพราะเขามีเจ้าของไปแล้ววววววว
     
    คุณ เบียร์ อ๊ะ ยูสนี้ น้องเบียร์แอบมาส่องนิยายเจ้ แล้วเอาไปฟ้องน้องภูมิรึเปล่าเนี่ย เดี๋ยวคิดค่าต้นฉบับนะจ๊ะเบียร์จ๋า ฮ่าๆ ภูมิปฏิเสธมาคะว่าไม่ได้เด็กน้อยซะหน่อย โตแล้ว ห้ามว่านะ(เอิ่ม นี่มันนิสัยเด็กชัดๆเลยนะจ๊ะภูมิ) FC แทนฟ่างปรากฏร่างอีกแล้ว อยากรู้เรื่องของสองคนนี้ต้องฝ่าด่านฟ่างนะคะ น้องมันค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง เดี๋ยวตาลจะแอบส่องแล้วมาบอกความเคลื่อนไหวเป็นระยะนะจ๊ะ
     
    คุณFAH มีคนบอกว่าเรื่องราวของพีมกับภูมิใกล้จะเป็นกาตูนร์ขายหัวเราะแล้วคะ นี่ตาลคะไม่ใช่พี่เอาะ กรั่กๆ อ้าว หนุ่มๆแสดงจุดยืนเร้ววววววว ยืนยันว่ารั่วจริง ฮ่าๆ
     
    คุณRhythm ที่ยิ้มเนี่ยอิฉาน้องพีมใช่มั้ยจ๊ะ ฮะๆ
     
    คุณCuteymummy ถ้ากริ๊ดจนหมดแรง ต้องรีบไปซื้อม้ากระทืบโลง เสือสิบเอ็ดตัว รังนกนางแอ่น มาดื่มบำรุงกำลังด่วนๆเลยนะคะ เพราะแว่วข่าววงในมาว่า ตอนหน้าน้องภูมิจะจัดหนักคะ แอร๊ยยยยย(ไซโค)อิอิ
     
    คุณ งงปะ เรื่องเสียตัว อันนี้ทางพีมกับภูมิเค้าก็ยังไม่คอนเฟิร์มอ่ะคะ ว่าใครจะเสียใครจะได้ ต้องรอดูทิศทางการหมุนของโลกก่อน(วิญญาณน้องมิคเข้าสิง ฮ่าๆ)
     
    คุณwolf-moon ขอต้อนรับสู่ชาววีอาคะ(ทำไมชื่อนิยายเวลาพิมพ์ภาษาไทยมันดูติดเรทฟระ ฮ่าๆ) ยังไงก็แวะมาให้กำลังใจหนุ่มๆเขาบ่อยๆนะจ๊ะ ปล ชมกันแบบนี้ ตาลอยากจะส่งน้องพีมไปบีบนวดให้ถึงบ้าน แต่กลัวจะถูกน้องภูมิสั่งฆ่าล้างโคตร งั้นก็รับคำขอบคุณจากตาลเบาๆนะจ๊ะ ฮี่ๆ ขอบคุณคร๊า
     
    ถ้ามีอันไหนตกหล่น ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่อยากให้รู้ว่าอ่านทุกคอมเม้นจริงๆ และก็ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆคะ
    เรื่องราวของหนุ่มๆในปีนี้ก็คงหมดแค่เท่านี้ แล้วพบกันใหม่ปีหน้าจ้า

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×