จุดด่างดำแห่งประวัติศาสตร์ไทย โศกนาฏกรรมแห่งแผ่นดิน

ลำดับตอนที่ #2 : กำเนิดศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และสัปดาห์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น

กำเนิดศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย

ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยได้ถูกก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2513  โดยมีสมาชิกระดับอุดมศึกษา 11 สถาบัน  กิจกรรมของศูนย์ฯ ตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปลายปี 2515 ส่วนใหญ่ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมือง  เป็นกิจกรรมทางสังคมตามปกติ  เช่น จัดรายการช่วยผู้ประสบภัย  จัดรายการถวายพระพร เป็นต้น


กลุ่มนิสิตนักศึกษาอิสระ

แนวความคิดในการต่อสู้เพื่อความชอบธรรมทางสังคม  เศรษฐกิจ  และการเมืองในช่วงปี 2511-2514  ของขบวนการนักศึกษาไททย  มักจะได้รับการเผยแพร่และชักจูงจากกลุ่มนิสิตนักศึกษาอิสระอยู่ตลอด  เช่น สภาหน้าโดม (มธ.) กลุ่มฟื้นฟูโซตัสใหม่(จุฬา)  กลุ่มต่อต้านญี่ปุ่น (เกษตร) ฯลฯ

การต่อสู้ของนักศึกษากลุ่มอิสระในแต่ละสถาบันนั้นจะรวมกันต่อสู้กับปัญหาต่างๆภายในสถาบันของตนเองเป็นเบื้องแรก  และนักศึกษากลุ่มนี้มีความสนใจต่อปัญหาทางการเมืองเสมอ  นักศึกษากลุ่มอิสระมักจะโจมตีระบบการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยตน  และระบบบริหารกิจกรรมของนิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัย  นักศึกษากลุ่มนี้มักจะพยายามชักจูงนักศึกษาส่วนใหญ่ให้มองเห็นปัญหาความผุโทรมในมหาวิทยาลัยแต่นักศึกษาส่วนใหญ่มักไม่เห็นด้วย  และยังคงมุ่งเน้นในกิจกรรมประเภทบันเทิงและพิธีการต่างๆ เช่น  การรับน้องใหม่  ไหว้ครู  งานกีฬาประเพณีต่างๆ  ระบบอาวุโสแบบผิดๆที่บังคับให้นักศึกษาปี 1 ประชุมเชียร์  การแต่งกายของนักศึกษาปี 1 ที่แตกต่าง และห้ามนักศึกษาปี 1 ผ่านสถานที่บางแห่ง ฯลฯ สาเหตุแห่งการต่อสู้ของนักศึกษากลุ่มนี้พอสรุปได้ว่า  นักศึกษากลุ่มนี้มีทรรศนะว่าการพัฒนาทางการเมืองในสังคมไทยในขั้นต่อไปจะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้าในสังคมมหาวิทยาลัยสนับสนุนให้นักษศึกษารุ่นพี่ปกครองรุ่นน้องในทางที่ผิด  และริดรอนสิทธิเสรีภาพ  ตลอดจนความคิดใหม่ๆของรุ่นน้อง

บทบาททางการเมืองของนิสิตนักศึกษา

 หลัง 17 พฤศจิกายน  2514 ถึง ตุลาคม 2516 แสงสว่างแห่งการพัฒนาการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยได้มืดมิดลงทันทีเมือ่จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีได้ทำการปฏิวัติยึดอำนาจ  ยุบสภาผู้แทนราษฎร  ยกเลิกรัฐธรรมนูญ  พุทธศักราช 2511 การปฏิวัติครั้งนี้ถือได้ว่า เป็นการท้าทายบทบาทของนิสิต  นักศึกษา และนักเรียน เพราะนักศึกษาพวกที่มีหัวรุนแรงถือว่าจอมพล ถนอม  กิตติขจร เปลี่ยนแปลงการใช้อำนาจตามกระบวนการประชาธิปไตยอันมีรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัดฐานไปใช้อำนาจเด็ดขาด  โดยคนกลุ่มเดียวที่อาศัยเครื่องแบบทหารเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้อง  สังคมไทยจะเสื่อมลงและเป็นการถอยหลังเข้าคลอง  ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงของเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาจะทับถมทวีคูณขึ้นไปอีก  สิทธิเสรีภาพจะถูกริดรอน ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนจะตกอยู่กับผู้มีอำนาจ  คนจนจะถูกทอดทิ้ง สิ่เหล่านี้เป็นข้อสรุปของนิสิตนักศึกษาที่ต้องการจะท้าทายและโจมตีรัฐบาล  ถึงแม้ว่าในตอนปลายปี 2515  รัฐบาลของคณะปฏิวัติจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเรียกว่า   "ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2515"  แล้วก็ตาม ความขัดแย้งต่างๆก็ยังไม่หมดไป


การเดินขบวน ชุมนุมประท้วง และรณรงค์ของนิสิตนักศึกษา

การเดินขบวน ชุมนุมประท้วง และรณรงค์ของศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยครั้งสำคัญๆมีประมาณ 4 ครั้ง คือ
 
1  ในเดือนพฤศจิกายน 2515  ดดยการนำของนายธีรยุทธ บุธมี เลขาธิการศูนย์ฯ ปีการศึกษา 251
5-2516  ศูนย์ได้จัดให้มีการรณรงค์ต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น และถือเอาวันที่ 20-30 พฤศจิกายน 2515 เป็นสัปดาห์ไม่ซื้อสินค้าญี่ปุ่น    ปรากฏว่าได้มีการเดินขบวนหลายครั้ง และนักศึกษามหาวิทยาลัยทุกสถาบันให้ความร่วมมือ  ศูนย์ฯได้ยื่นหนังสือถึงหัวหน้ารัฐบาลให้หาทางลดการเสียเปรียบกับญี่ปุ่นทุกวิถีทาง และในที่สุด วันที่ 30 พฤศจิกายน 2515 ศุนย์ได้จัดให้มีพิธีเผาหุ่นพวกที่ร่วมมือกับพ่อค้าญี่ปุ่นที่สนามหลวงอันเป็นวันปิดท้ายของการรณรงค์ 

2  การเรียกร้องให้นิสิตนักศึกษาหลายสถาบันร่วมเดินขบวนประท้วงประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 299  ที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายบริหารก้าวก่ายอำนาจตุลาการ   การประท้วงเริ่มดำเนินการขึ้นก่อนโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  จุฬา และมหาวิทยาลัยรามคำแหง  ต่อมาศูนย์ฯจึงเข้าร่วมด้วย  และได้ชักชวนให้สถาบันอื่นๆมาร่วมประท้วงด้วย  และมีการประท้วงข้ามคืนวันที่19 ธันวาคม 2515  ในที่สุดรัฐบาลก็ยอมตามเสียงประท้วง

3 ในตอนต้นปี 2516 ระหว่าง 5-20 มกราคม ศูนย์ได้จัดการรณรงค์ให้มี "ปักษ์เลิกซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยของต่างประเทศ" ทั้งนี้เพื่อหวังให้จะเปลี่ยนค่านิยมของคนไทยที่นิยมใช้สินค้าฟุ่มเฟือย และหวังให้คนไทยกลับมานิยมใช้ของไทยแทน

4 การประท้วงกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง 9 คนที่ทำหนังสือ " มหาวิทยาลัยที่ยังไม่มีคำตอบ"  ถูกลบชื่อจากการเป็นนักศึกษาโดยคำสั่งของ ดร.ศักดิ์  ผาสุขนิรันดร์ อธิการบดี  นักศึกษารามคำแหงจึงประท้วงและศูนย์ฯได้เข้าสนับสนุน  โดยมีนิสิตนักศึกษาทุกสถาบันเข้าร่วมเกินชบวนเมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน 2516  ในการเดินขบวนครั้งนี้นิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนหลายสถาบันได้มาร่วมชุมนุมประท้วงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นคน  และยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในอดีต ประชาชนได้ให้การสนับสนุน  การเรียกร้องในการเดินขบวนระยะแรก เพียงต้องการให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงรับนักศึกษา 9 คนเข้าเป็นนักศึกษาตามเดิม และเรียกร้องให้อธิการบดีลาออก  แต่ต่อมาได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชน  และเรียกร้องให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญภายใน 6 เดือนอีกด้วย  ผลลงเอยที่ฝ่ายนักศึกษาชนะ  คือ อธิการบดีต้องลาออก  แต่ข้อเรียกร้องของศูนย์ฯอีกข้อหนึ่งคือต้องการให้มีรัฐธรรมนูญภายใน 6 เดือนนั้นไร้ผล





ผลจากการเดินขบวนของนิสิตนักศึกษาภายใต้การนำของศูนย์ฯ 2 ครั้งคือกรณีต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น  กับกรณีประท้วงเรื่อนักศึกษารามคำแหง 9 คนถูกลบชื่อ ทำให้ศูนย์ฯกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองที่ท้าทายและทัดทานอำนาจเผด็จการของคณะไปโดยปริยาย

นอกจากการประท้วงของศูนย์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยแล้ว ในปี 2516 ก็มีการประท้วงต่อรัฐบาลของนิสิตนักศึกษากลุ่มอิสระต่างๆด้วย  แต่ไม่มีการเดินขบวน เช่น
- การประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติทุกสถาบัน  กรณีพรานบรรดาศักดิ์อันประกอบไปด้วยทหารตำรวจจำนวนหนึ่งไปล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่
- การประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติทุกสถาบัน  กรณีโรงงานอุตสาหกรรมทำให้น้ำในแม่น้ำแม่กลองเป็นพิษ
- การชุมนุมประท้วงของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันอื่นๆ เรื่องการกำจัดเสรีภาพในการจัดอภิปรายในมหาวิทยาลัย
- การต่อต้านฐานทัพ อเมริกัน และการแทรกซึมขององค์การ ซีไอเอ ในประเทศไทย
- ความขัดแย้งเรื่องการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ทหาร

           ความขัดแย้งระหว่างนักศึกษากับรัฐบาลต่างๆเหล่านี้ ทำให้ความกดดันที่ได้สะสมมาช้านานได้ก่อให้เกิดการท้าทายของประชาชนทุกอาชีพต่อรัฐบาลของคณะปฏิวัติ  ในการเรียกร้องเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญของประชาชน ในเดือนตุลาคม 2516 และรัฐบาลได้ใช้อำนาจเข้าจับกุมกลุ่มประชาชนผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ   โดยตั้งข้อหาเป็นกบฏต่อแผ่นดินและเป็นพวกคอมมิวนิสต์  ผลที่ตามมาก็คือการผนึกกำลังกันต่อสู้เป็นคลื่นไฟลูกใหญ่ของมวลชน  ภายใต้การนำของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อให้รัฐบาลทหารปลดปล่อย 13 ผู้ต้องหาที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญอย่างไม่มีเงื่อนไขและให้รับบาลเร่งรัดประกาศใช้รัฐธรรมนูญโดยเร็ว  จนทำให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษาต้องเอาชีวิตเลือดเนื้อและวิญญานเข้าแลกกับอาวุธที่ร้ายแรงของทหารตำรวจ  ที่ได้รับคำสั่งจากทรราชย์ทั้ง 3 คือ จอมพลถนอม  กิตติขจร  นายกรัฐมนตรี  และผู้บัญชาการทหารสูงสุด จอมพลประภาส  จารุเสถียร  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  อธิบดีกรมตำรวจ  และรองผู้บัญชาการทหาสูงสุด พ.อ.ณรงค์  กิตติขจร  บุตรชายนายกรัฐมนตรี  จนกระทั่งทั้ง 3 คนและภรรยา  ต้องหนีออกนอกประเทศไทยไป  และได้มีการจัดตั้งรัฐบาล  โดยพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ด้วยการนำของนายสัญญา  ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรี  ขึ้นทำการบริหารประเทศชั่วคราว  จนกว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ   

ตอนต่อไปจากนี้คือ การลำดับเหตุการ์สำคัญ เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2516  นะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาขึ้นให้ครับ