ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO :: XTRA { BAEKHYUN D.O }

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER :: XXXXXXXXX

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.74K
      17
      11 ก.ค. 56

          
    :)  Shalunla










    CHAPTER :: XXXXXXXXX





     

    ระหว่างทางเดินพฤติกรรมสไลด์มือถือของแบคฮยอนก็ยังเป็นอยู่เหมือนเดิม ตอนแรกก็ทำเหมือนจะสนอกสนใจเขา แต่สุดท้ายก็หันไปใส่ใจกับการเล่นไลน์ในไอโฟนมากกว่า คยองซูทำได้แค่เหล่ตามองแบคฮยอนที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พูดถึงเรื่องของโทรศัพท์ แบคฮยอนจะรู้ไหมนะว่าที่เขาไม่เคยเมมเบอร์แบคฮยอนเอาไว้เลยเพราะทุกตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับแบคอยอนทั้งหมดนั้น คยองซูจำได้เป็นอย่างดี








     

    ผ่านมาสองอาทิตย์แล้วนะที่คยองซูไม่ได้กลับไปหาชานยอล โชคดีที่ชานยอลไม่ได้ตามมาขู่ฆ่าเขาถึงตึกคณะ แต่คยองซูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นแบบไหน บางทีปาร์คชานยอลอาจจะวกกลับมาหาเรื่องทำให้เขาต้องรู้สึกแย่อีกครั้งก็เป็นได้





     

    “แบคฮยอนแวะร้านหนังสือแปปนึงดิ”  ทำแค่เพียงพยักหน้ารับรู้เท่านั้น โอเค คยองซูจะไม่ชวนแบคฮยอนคุยแล้ว เพราะตอนที่เขาเรียกเมื่อสักครู่นี้ดูเหมือนแบคอยอนจะแอบยู่หน้าไม่พอใจอยู่เล็กน้อย คยองซูอยากรู้จังเลยว่าแบคฮยอนกำลังคุยกับใครอยู่






     

    ภายในร้านหนังสือขนาดเล็กที่เปิดขายอยู่ภายในตึกคูหาสามชั้น มันก็ไม่ได้เป็นร้านหนังสือที่รวบรวมหนังสือจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ผู้ที่รักการอ่านได้อ่านหรอก แต่ร้านนี้พิเศษหน่อยตรงที่เวลาเข้ามาจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอยู่อีกโลกหนึ่ง ส่วนตัวแล้วคยองซูเองก็ไม่ได้เป็นคนชอบอ่านหนังสือเท่าไร เพราะถ้าเขาชอบอ่านเขาคงไม่สอบตกแล้วตกอีกแบบนี้หรอก






     

    ตู้หนังสือสูงๆหลายชั้นกับบรรไดที่มีไว้ใช้ปีนขึ้นไปหยิบหนังสือที่อยู่บนตู้ที่สูงเกินเอื้อม แสงไฟในร้านก็โทนอ่อนๆ ดูไม่ค่อยเหมาะกับการอ่านเท่าไร แต่เหมาะกับการเดินเลือกซื้อเพื่อที่จะไปอ่านที่บ้านมากกว่า แบคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟาสีเบจภายในร้านที่มีไว้รับรองลูกค้า กิจกรรมเดิมของเขาก็คือนั่งกดๆจิ้มๆโทรศัพท์ คยองซูเองก็นึกเคืองแบคฮยอนอยู่เหมือนกันนะ ที่ผ่านมาสองอาทิตย์แทบจะไม่คุยกันเลย เหมือนกับว่าแบคอยอนกำลังมีสิ่งใหม่ที่น่าสนใจกว่า คนทั้งสองจะคุยกันอีกทีก็ต่อเมื่อเข็มนาฬิกาบอกเวลาว่าห้าทุ่มแล้ว ช่วงเวลาของการเข้าห้องน้ำกำลังจะมาถึง...






     

    เรื่องที่คยองซูสนใจมักจะเป็นเรื่องที่คนอื่นมองข้าม สไตล์การอ่านหนังสือก็เช่นกัน หลายคนคงชอบนวนิยายแฟนตาซี หรือรักหวานๆแต่คยองซูไม่ชอบแบบนั้น เขาชอบเรื่องเหนือธรรมชาติ เพราะเรื่องเหนือธรรมชาติเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นหรือว่ามีอยู่จริงในโลกใบนี้หรือเปล่า





     

    ชั่วอึดใจหนึ่งที่ยืนเลือกๆหาดูหนังสืออยู่ เขาเห็นว่าแบคอยอนกำลังลุกออกจากโซฟาเพื่อที่จะไปคุยโทรศัพท์ สนใจกันบ้างไม่ได้รึไงนะแบคฮยอน...





     

    “แม่งอยู่สูงแบบนี้แล้วจะหยิบถึงไหมวะ” คยองซูบ่นกระปอดกระแปดขณะที่กำลังลากบรรได มือเล็กกางมันออกแล้วค่อยๆปีนขึ้นไปอย่างระมัดระวัง เพราะถ้าตกลงมาชีวิตเขาคงไม่น้ำเน่าขนาดที่จะมีคนมารับไว้ได้ทันหรอก หนังสือเล่มเก่าๆที่หลบซ่อนอยู่ในมุมถูกหยิบออกมาพร้อมกับคยองซูที่ค่อยๆเผยยิ้มกว้าง หนังสือที่เขาเคยมาเล็งๆเอาไว้ ตอนนี้คงถึงเวลาที่เขาต้องถอยมันกลับไปนอนอ่านต่อที่ห้องแล้วละ






     

    “แบคฮยอนกลับกันเถอะวะ กูซื้อเสร็จแล้ว”





     

    “เออคยองซู คืองี้นะ มึงกลับไปก่อนกูได้ปะ กูมีธุระต้องไปทำต่อวะ”






     

    “ธุระอะไรของมึง แล้วข้าวเย็นละ มึงจะกลับมาแดกกับกูหรือจะกินมาพร้อมเลย”






     

    “เอาน่ามันไม่เกี่ยวกับมึงหรอกเชี่ย แล้วก็คืนนี้มึงไม่ต้องรอกูนะ ยังไงมึงก็ช่วยตัวเองไปก่อนละกันบางทีกูอาจจะกลับเช้า”






     

    “กูเริ่มหายแล้วน่า มึงไม่ต้องช่วยกูติดกันสองอาทิตย์เต็มแบบนี้ก็ได้”






     

    “เค ถ้างั้นกูไปละสัด” แบคฮยอนดูรีบร้อนจนสังเกตได้ชัดเจน ท่าทางกึ่งเดินกึ่งวิ่งแบบนี้ใครเห็นก็พอจะเดาออกว่าธุรสำคัญของแบคฮยอนหนะ มันสำคัญมากแค่ไหน สำคัญมากขนาดที่อีกคนถึงกับยอมปล่อยให้คยองซูเดินต้องกลับคนเดียว มันคงจะสำคัญมากสินะ..

     





     

    บนถนนที่มีผู้คนและรถราวิ่งสวนกันไปมามากมาย เสียงจ๊อกแจ๊กที่ดังขึ้นรอบๆมันไม่ช่วยให้คยองซูรู้สึกคึกครื้นเลย ถึงเสียงรอบข้างจะดังแค่ไหนคยองซูก็รู้สึกเหงาๆอยู่ดี เสียงที่เขาอยากได้ยินคือเสียงของแบคฮยอน ไม่ใช่เสียงของคนอื่น เขาอยากอยู่กับแบคฮยอน แต่แบคฮยอนคงไม่อยากอยู่กับเขา ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆก็เกิดแรงสะกิดที่หัวไหล่ก็ทำให้คยองซูต้องชะงักเท้าก่อนจะหันกลับไป





     

    “พี่คยองซู”





     

    “จะ..จงอิน” คยองซูเบิกตาตกใจ คนตรงหน้านี้ยังจะกล้ากลับมาหาเขาอีกหรอ คิดได้แบบนี้ก็เตรียมชิ่งหนีแบบใส่เกียร์หมา แต่มือแข็งแรงของอีกคนก็รั้งเอาไว้ซะก่อน





     

    “พี่คยองซูอย่าเพิ่งไปสิครับ ฟังผมอธิบายก่อน”





     

    “คนที่หลอกพี่ได้ลงคอแบบนายนะหรอจะมีคำอธิบาย ปล่อยสิวะ!!





     

    “ก็ฟังผมก่อนสิครับ พี่ไม่อายคนรึไงที่พี่เสียงดังโวยวายเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียวแบบนี้”





     

    “ไม่อาย!!






     

    “ฟังนะครับพี่คยองซู เรื่องวันนั้นผมขอโทษ”





     

    “ขอโทษแล้วได้อะไร คิดว่าขอโทษแล้วพี่จะรู้สึกดีกับนายเหมือนเดิมหรอ!!





     

    “ผมขอโทษเพราะอยากขอโทษ ผมรู้สึกผิดและหวังว่าพี่จะยอมให้อภัย”  คยองซูอ้าปากค้างแล้วยอมสงบปากสงบคำ เขาไม่ใช่คนใจจืดใจดำขนาดที่จะไม่ยอมรับฟังคำขอโทษจากใคร ถึงเรื่องที่อีกคนมาขอโทษมันจะส่งผลให้จิตใจของเขาย่ำแย่ขนาดไหนก็ตามที จนแล้วจนรอดเพราะความรู้สึกในหวงอารมณ์หนึ่งที่เคยปลื้มเด็กปีหนึ่งที่ชื่อคิมจงอินมันก็ทำให้คยองซูยอมเดินตามอีกคนต้อยๆ ถึงจะวิตกอยู่บ้างว่าจะโดนหลอกซ้ำสองอีกรึเปล่าก็เถอะ แต่ครั้งนี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้เชื่อใจจงอินแล้วยอมเดินตามมาง่ายๆแบบนี้




     

    เพื่อความมั่นใจว่าจงอินจะไม่ล่อลวงเขาอีกคยองซูเลยให้อีกคนพามาที่ร้านกาแฟที่มีผู้คนพลุกพล่าน ในตอนนี้สายตาที่จงอินมองคยองซูมันไม่ได้เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์แพรวพราว แต่มันดูนิ่งสงบเหมือนไร้ซึ่งชีวิตชีวา




     

    “วันนั้นผมค่อนข้างรู้สึกผิด วันนี้ผมเลยมาขอโทษพี่”





     

    “แค่ค่อนข้างเองหรอ เหอะ..”





     

    “พี่จะไม่เชื่อผมก็ได้นะครับว่าผมรู้สึกเสียใจจริงๆ แต่ครั้งนั้นผมคึกมากไปหน่อยก็เลยพลักไสพี่ไปให้ชานยอลแบบนั้น จริงๆแล้วชานยอลมันเป็นรุ่นพี่ผมแต่ว่าผมไม่อยากเรียกมันว่าพี่ ผมก็เลยเรียกมันแบบหยาบๆ”





     

    “มีเรื่องจะพูดแค่นี้หรอ ถ้าอย่างนั้นพี่จะได้กลับหอ”





     

    “พี่คยองซูครับ ได้โปรดให้อภัยผมเถอะนะครับ”





     

    “ก็ได้ แต่พี่ขอร้องละนะ ต่อไปอย่ามาให้พี่เห็นหน้าอีก นายทำให้พี่รู้สึกขยะแขยงตัวเองทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นหรือได้ยินชื่อของนาย”





     

    “แต่ถ้าพี่ปัญหาอะไรพี่โทรเรียกผมได้ตลอดเลยนะครับ” คยองซูวางถุงหนังสือไว้กับโต๊ะกาแฟแล้วเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ ตัวเล็กถอนหายใจพรูดออกมา ถึงจะพูดเหมือนเกลียดจงอินแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ใจอ่อนอยู่ดี





     

    “โอเคๆ พี่จะไม่โกรธนาย เรื่องที่มันผ่านมาแล้วก็ปล่อยมันไป” เพราะตอนนี้มันก็จบลงไปแล้ว คยองซูมีเรื่องน่ากลุ้มใจอีกมากมายที่ต้องเผชิญ เขาไม่มีพื้นที่ว่างในสมองมากพอที่จะมานั่งจงเกลียดจงชังใครได้นานๆหรอก





     

    “จริงหรอครับ!





     

    “ก็จริงสิ เอางี้นะ ไปส่งพี่ที่หอหน่อยได้ไหม” เหมือนมีผีนางเอกเข้าสิง คยองซูยิ้มบางๆให้กับจงอินเพื่อจะสื่อว่าเขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรอีกฝ่ายแล้วจริงๆ ใบหน้าห่อเหี่ยวของจงอินจึงค่อยๆดูมีราศีของจงอินหนุ่มฮอตขึ้นมาหน่อย อย่างที่รู้ๆกันคนเราเวลามีเรื่องไม่สบายใจผลมันก็จะไปกระทบกับหน้าตาผิวพรรณโดยตรง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมช่วงนี้จงอินถึงดูคล้ำลงแถมไร้ราศี

     




     

    หลังจากจงอินกลับไปแล้วความรู้สึกเบาสบายก็เกิดขึ้นกับคยองซู เขาไม่เคยเห็นจงอินในมุมที่พูดมากขนาดนี้มาก่อน จงอินคิดว่าเขาเป็นบาทหลวงหรือไงถึงได้สารภาพบาปออกมาพรั่งพรูแบบนี้ และด้วยท่าทีที่ดูเป็นหนุ่มน้อยน่ารักของจงอินนั้นมันก็ทำให้คยองซูรู้สึกว่าจงอินคงจะรู้สึกผิดกับเขาจริงๆ ช่างแตกต่างกับจงอินในวันนั้นซะเหลือเกิน
     







     

    เจ้าของร่างเล็กหยิบมือถือขึ้นมากดดูนาฬิกาบนหน้าจอ เขามัวแต่ฟังจงอินเล่าเรื่องจนเวลาล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆแล้ว คยองซูเดินขึ้นบรรไดไปในแต่ละขั้นด้วยความเมื่อยล้าอยู่พอตัว วันนี้เขาต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติเพราะได้ทำอะไรหลายๆอย่างในคลาสเรียน พอเปิดห้องมาได้คยองซูก็รีบเดินไปทิ้งตัวลงกับเตียงทันที




    ฝั่งที่เขากระโดดขึ้นมาไม่ใช่ฝั่งของเขาหรอก แต่มันเป็นฝั่งของแบคฮยอน กลิ่นแชมพูอโรมาของแบคฮยอน เขาไม่เห็นจะชอบเลย สู้กลิ่นผลไม้ของเขาก็ไม่ได้ พูดแล้วก็ลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบหมอนของแบคฮยอนมาทุบ ขนาดหมอนของแบคฮยอนยังทำให้เขารู้สึกอยากทุบตีขนาดนี้เลย แล้วแบคฮยอนตัวเป็นๆละ เขาจะไม่อยากกระชากตัวมาฆ่าเลยรึไง อีกอย่างทั้งที่แบคฮยอนดูจะเมินเฉยกับเขาเสียขนาดนี้ เขาก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยังรักแบคฮยอนเหมือนเดิม ทำไม ทำไมโดคยองซูจะต้องรักแบคฮยอนด้วย




    “ฝันดีนะไอ้เชี่ยแบค” คยองซูดึงตุ๊กตาหมาที่เขายกให้กับแบคอยอนมาจูบเบาๆก่อนจะวางมันไว้ที่เดิมแล้วคยองซูก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ เขารู้สึกแย่นิดหน่อยที่วันนี้จะได้นอนคนเดียวหันกลับไปก็เจอแค่ความว่างเปล่า ทั้งๆที่ทุกครั้งเวลาหันไปจะต้องเจอกับแบคฮยอน เอาน่า ต่อไปเขาคงจะได้นอนคนเดียวบ่อยขึ้นเพราะว่าตอนนี้แบคฮยอนกำลังจะเปลี่ยนไป...

     



     

    04.45

     
     

    ความเงียบของบริเวณโดยรอบทำให้แบคฮยอนต้องพยายามทำตัวเป็นตีนแมวเข้าไว้ เขาเดินเข้ามาภายในห้องเงียบๆ ในใจก็นึกอยากดุคยองซูอยู่เหมือนกันที่ลืมล็อคห้อง ถ้าเกิดมีคนเข้ามาลักหลับจะทำยังไง คยองซูหลับอยู่ในสภาพคดเหมือนงู ในอ้อมแขนเล็กก็มีตุ๊กตาหมีกอดอยู่ ปัญญาอ่อนชิบหายเลยโตจนขนาดนี้แล้วยังนอนกอดตุ๊กตา ในที่สุดก็หลุดยิ้มกับภาพตรงหน้าจนได้สินะ



    แบคฮยอนเดินเข้าไปนั่งลงที่ข้างเตียงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เพื่อนของเขาที่กำลังหลับ ใบหน้าของคยองซูเวลาอยู่นิ่งๆมันก็ดูน่ารักไปอีกแบบ ไม่มีปากเสียง ไม่เห็นดวงตากลมโตที่มักจะฉายแววแปลกๆออกมาอย่างเคย เปลือกตาบางของคยองซูที่ปิดลงสนิทพร้อมกับลมหายใจที่สม่ำเสมอ แบคฮยอนถือวิสาสะค่อยๆยื่นมือไปเกลี่ยไรผมข้างหน้าที่เริ่มยาวของคยองซูให้พ้นจากใบหน้า นิ้วเรียวสวยแอบจิ้มแก้มเพื่อนตัวเล็กเบาๆ




    กำลังทำตัวโรคจิตอีกแล้ว...




    ใบหน้าเรียวยาวก้มลงเรื่อยๆจนริมฝีปากไปแตะกับริมฝีปากของคยองซู คงจะเป็นเพราะว่าเขาต้านทานแรงดึงดูดไม่ไหวก็เลยเลือกที่จะไม่ห้ามใจ ยอมรับเลยนะว่าช่วงนี้คยองซูมีอิทธิพลกับคนรอบข้างมากจริงๆ ลู่หานก็ดูจะสมยอมคยองซูไปซะทุกเรื่อง คริสเองก็แอบมีปัญหากับเมียมันเล็กน้อยเพราะคริสเอาแต่จ้องคยองซูไม่วางตา แล้วอย่างเขาละนอนใกล้ๆแบบนี้ทุกคืนมันก็ต้องมีบ้างแหละที่จะแอบรู้สึกเคลิ้มไปกับใบหน้าของคยองซู คือแม่งโคตรมีสเน่ห์...




    “...อือ”  แบคฮยอนยอมละหน้าออกเมื่อคยองซูเริ่มจะกระพริบตาตื่นขึ้นมา อีกคนดูงัวเงียจนน่าฟาดให้น้ำตาเล็ด เหมือนเด็กน้อยเพิ่งตื่นยังไงยังงั้น และที่สำคัญก็ดูเหมือนคยองซูจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำเลยว่ากำลังจะถูกลักหลับอยู่รอมร่อ




    “มึงมาแล้วหรอ”




    “เออ มาแล้ว”




    “ยี้ เหม็นเหล้ามึงไปอาบน้ำนอนไป ” คยองซูก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นเหล้าจางๆที่ติดมากับลมหายใจของแบคฮยอน




    “เดี๋ยวก่อนคยองซู” คยองซูขมวดคิ้วแล้วชันตัวลุกขึ้นนั่ง เขาแหงนหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาแขวนบนฝาพนังแล้วหันกลับมาคุยกับแบคฮยอน อะไรอีกวะ ดึกดื่นๆมาปลุก เดี๋ยวพ่อก็ต่อยเข้าให้




    “เชี่ยแบคมึงมีอะไร”




    “กูขออะไรหน่อยดิวะ”




    “งั้นมึงก็รีบๆพูดมา”




    “กูขอจูบมึงหน่อยดิ”  คยองซูสร่างนอนทันทีที่ได้ยินคำขอ แบคฮยอนจัดการคว้าคออีกคนมาประกบจูบหมับโดยไม่รอให้คยองซูอนุญาต เพราะยังไงคยองซูก็คงไม่ปฎิเสธเขาหรอก กำปั้นหนักถูกทุบลงที่ไหลแบคฮยอนอยู่หลายครั้งเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคยองซูขาดอากาศหายใจ แบคฮยอนยอมละหน้าออกให้เล็กน้อยก่อนจะจูบซ้ำลงไปใหม่ จูบซ้ำๆจนซึบซัมความนิ่มของริมฝีปากอิ่มตึงได้ขึ้นใจ แค่เพียงได้แกล้งสะกิดแหย่ปลายลิ้นเล็กของอีกคนเขาก็พอใจแล้ว เหตุผลที่ทำแบบนี้ก็เพราะคดีหมั่นไส้ล้วนๆ




    “ไอ้เชี่ย ปลุกกูมาจูบ มึงบ้าปะไอสัด”




              “ไม่ได้บ้า มึงเสือกน่ารักเองทำไม”




    “ห้ะ...นะ..น่ารักหรอ”




    “มึงหูตึงหรอไอ้เหลือก” แบคฮยอนพลักหัวคยองซูเบาๆแล้วลุกออกจากเตียง เขาเตรียมตัวไปอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อที่จะได้มานอนพักผ่อนสักที ตาเรียวก็ใกล้จะปิดอยู่แล้วดีนะที่จำทางกลับห้องถูก จากนั้นแบคฮยอนก็หายลับเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงปิดประตูดังปึง คยองซูชายตามองตามอีกคนที่หนีไปอาบน้ำแล้ว เขายกมือขึ้นมาจับปากตัวเอง แม่งบ้ารึไงมาถึงก็มาจูบ แบบนี้หรอวะที่เพื่อนเขาทำกัน ไอสัด....




    คยองซูพอจะเดาออก ลางๆว่าแบคฮยอนคงไปกินเหล้ามาจากที่ไหนสักที่ สภาพป้อแป้เหมือนคนเมาแต่ท่าทางก็ยังดูปกติเหมือนไม่ได้เมา นี่เอกลักษณ์ของแบคฮยอนเลยนะ เมาแต่เหมือนไม่เมา เฮ้อ เลิกคิดดีกว่าปวดสมอง คยองซูทิ้งตัวเองลงกับหมอนแล้วกระชับผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง มือเล็กฟาดลงบนแก้มตัวเองหลายๆครั้งเพื่อเตือนให้ตัวเองนั้นเลิกเขินได้แล้ว

    “คยองซูมึงนอนยัง”




    “กูนอนแล้ว”




    “นอนแล้วพ่อมึงดิ” คยองซูนอนหันตะแคงข้างให้แบคฮยอน เขารู้เพียงแค่ว่าแบคฮยอนกำลังค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆเขา เขาใจเต้นแรงจริงๆนะเวลาอยู่ใกล้แบคฮยอนในระยะประชิด...




    “อืม กูจะนอนแล้วแหละ”




    “เดี๋ยวดิ อย่าเพิ่งนอน มึงคิดว่ากูเป็นยังไงบ้างวะคยองซู กูหล่อปะ”




    “ถามส้นตีนอะไรเนี่ย”




    “มึงแค่ตอบมาก็พอ ไม่ต้องมาเฉไฉนอกเรื่อง เร็วดิก่อนที่กูจะหลับ”




    “ก็..ก็หล่อในแบบของมึงอะ มึงไม่ได้หล่อมากเหมือนคริส ไม่ได้หล่อหวานๆแบบลู่หาน”




    “แล้วตกลงกูหล่อไหมละ”




    “เออ ก็หล่อ...” เขาตอบเสียงแผ่ว ไอ้ชิบหายมึงถามอะไรของมึง...




    “ตอบดังๆสิสัดกูไม่ได้ยิน” แบคฮยอนขยับเข้ามาใกล้อีกแล้วเงี่ยหูฟังใกล้ๆ คยองซูอยากหันไปเอาตุ๊กตาหมีมาฟาดจริงๆเลย ถามแบบนี้จะให้ตอบแบบไหนละ แบคฮยอนก็ไม่ได้จัดว่าหล่อ แถมจะเอียงๆไปทางสวยด้วยซ้ำ โถ่โว้ยยย!!




    “อะ..เออ หล่อ” กลั้นใจพูดตอบกลับไปเสียงดัง ขืนกวนตีนตอบไปว่าไม่หล่อแบคฮยอนคงจะไม่พอใจแน่ๆ แล้วผลที่จะตามมาก็คือจะพาลไม่ได้นอนกันทั้งคู่




    “ถ้ากูหล่อแล้วทำไมพี่ดาร่าเขาไม่ชายตามองกูสักนิดเลยวะ” ทั้งห้องตกอยู่ในสภาวะเงียบสงบอีกครั้ง คยองซูก็จุกจนพูดไม่ออกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบที่ไหนมาให้แบคฮยอน แบคฮยอนถ้ามึงมองตากูลึกๆสักนิดมึงอาจจะรู้ก็ได้นะว่ากูรักมึงมากแค่ไหน คนที่รักมึงก็อยู่ตรงนี้ไง ทำไมมึงไม่เคยรู้อะไรเลยหรอ... ท่อนแขนหนักๆพาดมาที่ตัวของคยองซูแล้วกระชับเข้าไปกอดแน่น ใบหน้าของแบคฮยอนซุกลงที่หลังคอของคยองซู ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพิษเหล้ารึเปล่าแบคฮยอนถึงได้ร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบนี้...




    “แบค...”




    “กูรักพี่เขาจริงๆนะเว่ยคยองซู” เออ กูรู้แล้วว่ามึงรักพี่ดาร่ามากขนาดไหน




    “จีบต่อไปเหมือนที่มึงทำนั่นแหละ ผู้หญิงนะสักวันใจก็ต้องใจอ่อน น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนนะเว่ย” 
    แบคฮยอนส่ายหัวเบาๆแล้วซุกหน้าลงไปอีก น้ำตาอุ่นๆไหลลงมากระทบกับคอของคยองซู เขาไม่อยากจะเห็นแก่ตัวเลยนะที่จะปล่อยให้แบคฮยอนร้องไห้ต่อไปเพื่อที่เขาจะได้รับอ้อมกอดจากแบคฮยอนไปนานๆ คยองซูค่อยๆพลิกตัวกลับมา





    “กูก็รักมึงไม่แพ้ที่มึงรักพี่ดาร่าหรอกนะแบคฮยอน” คยองซูดึงแบคฮยอนให้เข้ามาซบลงกับอก มือเล็กๆลูบหัวเพื่อนช้าๆ เขาไม่ได้กำลังปลอบใจแบคฮยอน แต่เขากำลังสารภาพรักอยู่ต่างหาก ไม่รู้ว่าการที่เอาแบคฮยอนมากอดไว้แนบข้างหัวใจแบบนี้ อีกคนจะรู้สึกถึงเสียงหัวใจของเขาบ้างรึเปล่า แบคฮยอนไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกนอกจากกอดรัดตัวคยองซูเอาไว้แน่น




    วันนี้ลู่หานส่งไลน์มาบอกว่าแบคฮยอนว่าพี่ดาร่าจะไปเที่ยวที่ผับดังในย่านใจกลางเมือง เขาเลยตัดสินใจทิ้งคยองซูให้กลับหอคนเดียว แล้วสุดท้ายเป็นไง คนอย่าง พยอน แบคฮยอนก็ต้องกลับมาในสภาพกินแห้วเหมือนเดิม ก่อนจะกลับเขาเลยถือโอกาสกินเหล้าย้อมใจแม่งมันซะเลย






    “ขอบใจมึงที่เคียงข้างกูเสมอนะ มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับกูนะคยองซู”






    “..............”

     














     

    เพื่อน เกลียดคำนี้ชิบหายเลยแม่ง...


























     

    TBC.

    พระเอกเรื่องนี้ทำไมโลเลนักวะ
    แบคฮยอนชอบพี่ดาร่าหรือคยองซูกันแน่ 

    พาร์ทหน้าจะสาดน้ำตา(ล)ให้คะ 
    ใครที่รออ่านหวานๆก็ TBC. เลยนะคะ
    หึหึ หวานๆ



    " คิม จงอิน vs ปาร์ค ซานดารา"




     

          
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×