ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO :: XTRA { BAEKHYUN D.O }

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER :: XXXX

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.92K
      20
      29 มิ.ย. 56

    :)  Shalunla



     
     

    CHAPTER XXXX



     

     
     

                วันนี้ดูเหมือนโรงอาหารจะตรึมไปด้วยมดรวมรังมหึมาเพราะมีความหวานหกเรี่ยราดอยู่แถวนั้น คยองซูรู้สึกเอียนนิดหน่อยที่ต้องมานั่งฟังคำหยอดของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม




    “ ลู่หานครับมึงจะหยอดอะไรนักหนาครับ “ แบคฮยอนพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้ารำคาญของคยองซู




    “ เนี่ย เพื่อนมึงน่ารักดีวะกูเพิ่งเห็นหน้าจังๆก็วันนี้แหละ “ พูดแล้วก็หันไปมองหน้าคยองซูด้วยสายตาวิบวับ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนของแบคฮยอนคยองซูคงเอาส้อมจิ้มตาหลุดไปแล้ว




    “ เอองั้นก็มองซะให้หนำใจ ดูหน้าเอาไว้นี่แหละเมียกู “




    “ อ้าวแบคฮยอนไหนมึงบอกว่าเป็นเพื่อนมึงวะ “ คริสที่นั่งเงียบอยู่นานสองนานพูดขึ้น




    “ กูล้อเล่น “ แบคฮยอนยิ้มแหยะๆเมื่อถูกเท้าของคยองซูเหยียบมาเต็มรัก




    “ เล่นแรงนะเชี่ย ดูสิคยองซูของกูเขินหมดแล้ว “




    “ ลู่ครับ คือเพื่อนกันอะครับ หยอกแค่นี้ไม่เป็นเชี่ยอะไรหรอก “ คยองซูวางช้อนลงกับจานแล้วดื่มน้ำทำท่าเหมือนจะอิ่มทั้งๆที่ยังกินข้าวไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ




    “ แบคฮยอนกูจะกลับคณะแล้ว กูไปละนะ “ พูดเสร็จก็ลุกออกจากวงข้าวไปหน้าตาเฉย แบคฮยอนมองตามหลังจนคยองซูเดินหายลับตาไปแล้วค่อยหันกลับมาหาคริสกับลู่หาน




    “ เชี่ยลู่มึงทำมันงอนกูอีกแล้วนะสัด “ ลู่หานเบะปาก แค่แซวเล่นทำไมต้องดราม่าด้วยฟะ




    “ เนี่ยกูว่าคยองซูมันคิดไม่ซื่อกับมึงชัวร์ “ พอคยองซูลุกออกไปลู่หานก็ตั้งวงนินทา




    “ นี่พวกมึงคิดอะไรกันอยู่วะ กูบอกแล้วไงว่าเพื่อนกัน “




    “ เห็นหน้ากันทุกวัน นอนด้วยกันทุกคืน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดแบบนี้...”




    “........ “ คริสกับแบคฮยอนเงียบฟังสิ่งที่ลู่หานกำลังจะพูดต่อไป




    “ ถ้ากูเป็นคยองซู กูตกหลุมรักมึงล้านรอบแล้วแบคฮยอน “




    “ แล้วมึงไปตรัสรู้ใจมันได้ไงครับพี่ลู่ครับ “




    “ กูสังเกตเอาจากสายตา “




    “ ถุ้ย จ้องนานๆระวังตามันทะลักใส่หน้ามึงละกัน “




    “ ไอ้แบคฮยอน ไอ้เชี่ยโง่ มึงนี่ฉลาดซะเปล่า “ ลู่หานด่ามาเป็นชุด แบคฮยอนได้แต่นั่งนิ่งรับฟังความเห็นของคริสกับลู่หานที่มีต่อคยองซู




    “ มันก็ไม่เห็นมีท่าทีแสดงออกว่าชอบกูสักนิด พวกมึงสองตัวนี่ขี้ตอแหลชิบหาย “




    “ งั้นมึงลองตอบคำถามกูสิแบคฮยอน “ คริสพูดขึ้น




    “ ถามมาสิไอควาย “




    “ มันเคยกอดมึงปะ “ แบคฮยอนพยักหน้า




    “ มันเคยอ้อนมึงปะ “ คยองซูเนี่ยนะจะมาอ้อนเขา ถ้าอ้อนตีนนี่ว่าไปอย่างเพราะคยองซูเล่นพูดจาเหมือนเพาะฟาร์มหมาไว้ในซอกฟันซะขนาดนั้น




    “ ไม่เคยเว่ย คำถามมึงนี่มั่วชิบหาย “




    “ แบบประมาณว่าซบไหล่เกยคางไรงี้อะคยองซูมันเคยทำปะ “ ลู่หานพูดเสริม




    “ เคย ตอนมันขี่หลังกู “ คริสหันไปยิ้มให้กับลู่หานเหมือนจะชอบใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้เสือกเรื่องของชาวบ้านเขาแบบนี้




    “ ข้อสุดท้ายนะ มันเคยแดกหลอดเดียวกันกับมึงปะ “




    “ อี๋ ไอ้เชี่ยคริสมึงพูดถึงทำไมเนี่ยกูขยะแขยง ไอ้เชี่ยแบคแม่งชอบกัดหลอด แหวะกูจะอ้วก “   ลู่หานทำหน้าพะอืดพะอมจนแบคฮยอนเอื้อมมือไปผลักหัว เป็นเพื่อนกันแท้ๆทำมารังเกียจ




    “ เคยเว่ย แต่เรื่องพวกนี้เพื่อนกันทั่วไปเขาก็ทำได้มึงไม่มีคำถามที่มันแอดวานซ์กว่านี้หรอวะ “




    “ งั้นตอนที่คยองซูกอดมึงอะ มันกอดที่ไหนวะ ? “




    “ บนเตียง “




    “ เหี้ย นี่พวกมึงนอนเตียงเดียวกันหรอ “




    “ หอกูแม่งเล็กยิ่งกว่ารังแมลงสาปเลยใส่ได้แค่เตียงเดียว “




    “แล้วมึงไม่ไปหาหอใหญ่ๆอยู่ละ ทนอยู่ห้องแคบๆทำไม”




    “แบบนี้แหละดีแล้ว กูว่าแคบๆก็สะดวกดีออก ”




    “ โอ้ยตายกูจะเป็นลม “  ลู่หานยอดนักสืบเอามือพัดหน้าเองพร้อมทำท่าเหมือนคนชราลมจับ แบคฮยอนอยากจะรู้ว่าสองคนนี้ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินว่าใครกำลังชอบใครอยู่ เพราะถ้าเขาไม่สารภาพออกมาว่าชอบเรา เราก็คงไม่มีทางรู้หรอกว่าเขากำลังชอบเราอยู่ แล้วไอ้คำถามที่คริสถามเขาเมื่อสักครู่นี้เพื่อนกันธรรมดาทั่วไปก็ทำกัน ก็มีแค่พวกมันสองคนนี่แหละที่ไม่เคยทำ


    แบคฮยอนเล็งเห็นถึงความไร้แก่นสารของเพื่อนก็เลยก้มหน้าก้มตากินต่อไป เขาแอบมองจานข้าวที่เหลือข้าวอยู่เยอะของคยองซูตัวก็อดเป็นห่วงอีกคนเสียไม่ได้ กินข้าวแค่นี้เดี๋ยวก็ไม่มีแรงเรียนต่อหรอก หนังสือก็โหมอ่านจนดึกดื่นแถมร่างกายก็ดูเหมือนยังไม่ค่อยพร้อมที่จะมาเรียน สภาพจิตใจก็คงไม่เหมาะที่จะปล่อยให้เดินคนเดียวได้ นี่ถ้าคยองซูป่วยขึ้นมาเขาจะไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไร

     




     

    เย็นวันนี้แบคฮยอนกับคยองซูไม่ได้กลับบ้านพร้อมกัน คยองซูแอบชิ่งกลับมาที่หอก่อนด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากเจอหน้าลู่หาน แบคฮยอนเลยยอมให้เพื่อนของเขากลับมาถึงที่พักก่อนเขานึกถึงเรื่องการเรียนในคลาสของวันนี้อาจารย์ที่ฉายสไลด์อยู่ดีๆก็เปลี่ยนมาพูดถึงเรื่องยาปลุกเซ็กส์ มันเป็นมุกตลกที่ไม่ค่อยน่าขำเท่าไรสำหรับเขาเพราะเขาเพิ่งจะสัมผัสกับคนที่ได้กินยาแบบนั้นลงไป แบคฮยอนแอบภาวนาว่าคยองซูคงไม่ได้ถูกไอ้เด็กดำนั่นจับยากรอกเกินสามเม็ดหรอกนะ ไม่งั้นคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการติดยานั้นขึ้นมา จริงๆแล้วแพทย์เขาทำมาเพื่อบำบัด แต่กลับมีคนเลวๆเอามาใช้ในทางที่ผิดซะได้

     

     

    คิดว่ายังไงซะเปิดประตูเข้าห้องมาก็ต้องเจอกับคยองซูนั่งอ่านหนังสือหลังขดหลังแข็งอยู่แน่ๆ อีกเพียงสองอาทิตย์เท่านั้นก็จะถึงวันสอบไฟนอล เนื้อหาที่มีจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้นถ้าไม่อ่านก่อนสักเดือนสองเดือนคงทำข้อสอบได้แค่ครึ่งๆกลางๆ



    “ คยองซู มึงเป็นอะไรรึเปล่า “  เขาถามเพราะเห็นว่าคยองซูนั่งอยู่ที่ปลายเตียง เมื่ออีกคนไม่ตอบแบคฮยอนเลยเดินเข้าห้องไปแล้วก็ไม่ลืมที่จะปิดประตู เขาวางกระเป๋าเป้ไว้บนตู้เย็นแล้วเดินไปหาคยองซู ทันทีที่จับไหล่ของคยองซูอีกคนก็สะดุ้งตัวตกใจ




    “ บะ..แบคฮยอน “




    “ มึงเป็นอะไรวะ อย่าบอกนะว่ากำลังคิดแผนปลิดชีพตัวเองอยู่ “ แบคฮยอนพูดติดตลกแต่คยองซูก็ยังทำหน้านิ่ง




    “ เปล่า กูไม่ได้เป็นอะไร “




    “ มึงดูเหนื่อยๆนะ “




    “ อืม กูเหนื่อย ถ้างั้นกูของีบก่อนละกัน “




    “ เดี๋ยวนะ มึงจะนอนเน่าบนเตียงของเราไม่ได้นะเว้ย “




    “ กูอาบน้ำแล้วน่า “  คยองซูขยับตัวขึ้นไปนอนที่ฝั่งของแบคฮยอนแต่เขาก็ไม่ได้เอะอะอะไร คยองซูอยากจะนอนทางไหนก็เชิญนอนได้เลย คงเพราะว่าเห็นเพื่อนมีท่าทีอ่อนแรงก็เลยไม่อยากจะชวนทะเลาะด้วย พอเดินเข้าไปในห้องน้ำแบคฮยอนก็ชะงัก กลิ่นไอของน้ำยังคงคลุ้งอยู่ทั่ว แสดงว่าคยองซูคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กะว่าจะเดินออกมาถามซะหน่อยว่าคยองซูได้กินอะไรรึยังแต่พอเดินออกมาคยองซูก็หลับไปแล้ว




    “ ไม่สบายอีกแล้วละสิมึง “

     

    แบคฮยอนเดินลงไปซื้ออาหารที่หน้าปากซอยแล้วก็กลับขึ้นมาที่ห้อง คยองซูยังคงนอนหลับอยู่เขาชั่งใจว่าจะปลุกอีกคนให้ลุกขึ้นมากินหรือว่าจะปล่อยให้นอนต่อไป ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ปลุกคยองซูขึ้นมา แบคฮยอนเดินถือกล่องข้าวของตัวเองไปนั่งกินที่โต๊ะหนังสืออย่างเงียบๆ เวลาที่ไม่มีคยองซูคอยต่อปากต่อคำด้วยห้องนี้ก็ดูเหมือนจะเงียบเหงาลงไป….









               นาฬิกาที่โน้ตบุ๊คของแบคฮยอนขึ้นบอกว่าสี่ทุ่มแล้ว แบคฮยอนรีบพิมพ์รายงานที่ลู่หานฝากให้เอามาช่วยแก้ไข้ให้เสร็จ ผ่านไปราวๆสามสิบนาทีแบคฮยอนถึงได้ปิดโน้ตบุ๊คลง  เขาเดินไปนอนที่เตียงฝั่งของคยองซู กลิ่นแชมพูของคยองซูยังติดอยู่ที่หมอนอยู่เลย แบคฮยอนกับคยองซูใช้แชมพูคนละยี่ห้อกันเพราะเขาไม่ค่อยชอบกลิ่นผลไม้อะไรนั่นของคยองซูสักเท่าไร

    ขณะที่ดวงตาของแบคฮยอนจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่คยองซูก็เริ่มขยับตัว สักพักก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แบคฮยอนได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำก็เลยไม่ได้ใส่ใจจนในที่สุดแบคฮยอนก็หลับไป

     

     

                ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้วที่คยองซูทำตัวนิ่งผิดปกติ ไม่ว่าแบคฮยอนจะชวนทะเลาะด้วยหรือว่ากวนประสาทคยองซูก็ไม่ตอบโต้กลับมาเหมือนอย่างเคย คยองซูคงจะอยากมีสมาธิในการอ่านหนังสือมากขึ้นแบคฮยอนเลยเลิกหาเรื่องไปกวนใจแล้วปล่อยให้คยองซูนั่งทบทวนบทเรียนไปอย่างเงียบๆ ถึงบรรยากาศจะน่าอึดอัดแต่แบคฮยอนก็คิดว่าหลังสอบเสร็จคยองซูคงจะกลับมาลั้นลาเหมือนเดิม



    เรื่องน่าแปลกที่ดูเหมือนจะเป็นเองธรรมดาทั่วไปก็คงจะไม่พ้นเรื่องการเข้าห้องน้ำ คยองซูเข้าห้องน้ำเป็นเวลาในทุกๆห้าทุ่มของทุกวัน สงสัยระบบขับถ่ายจะดีเพราะคยองซูเล่นเปิดน้ำเสียงดังลั่นห้อง คยองซูคงจะไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์ก็เลยเปิดน้ำแรงๆให้มันกลบเสียงกันไปแต่มันก็เสียงดังจนแบคฮยอนต้องตื่นขึ้นมา


    ในแต่ละครั้งที่คยองซูเข้าห้องน้ำจะใช้เวลาราวๆยี่สิบนาที แต่เดี๋ยวนะนี่เขาสังเกตขนาดนั้นเลยหรอ แบคฮยอนนึกขำตัวเองที่จับตามองพฤติกรรมของคยองซูจนเกินเหตุ บางทีคยองซูอาจจะเครียดลงกระเพาะเลยปวดท้องบ่อยก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ว่าเล่นขี้มันทุกวันแบบนี้จะเอาสารอาหารไหนไปเลี้ยงร่างกายวะ...

     



     

              หลังจากผ่านพ้นช่วงของการสอบไปแล้วถึงสามวันด้วยกันแต่คยองซูก็ยังไม่เลิกทำท่าทีแปลกๆ แบคฮยอนเริ่มเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมากลัวว่าคยองซูจะกำลังกลายเป็นโรคซึมเศร้า

    “ คยองซูมึงเป็นอะไรวะ ช่วงนี้ดูเงียบๆนะ “



    “ ไม่ได้เป็นอะไร กูสบายดี “



    “ สบายดีของมึงเมื่อก่อนมันไม่ใช่แบบนี้ “



    “ กูจะเป็นอะไรก็เรื่องของกูเถอะน่า มึงมาเสือกอะไร “



    “ มึงเป็นเพื่อนกูนะ กูก็ต้องเสือกสิวะ “



    “ เพราะมึงเป็นเพื่อนกูนี่แหละ “



    “ มึงหมายถึงอะไร ? “



    “ ก็ไม่ได้หมายถึงอะไรนี่ “  คยองซูพูดพลางเริ่มลงมือเก็บกองหนังสือบนโต๊ะของตัวเองให้เป็นระเบียบ ต่อไปเขาคงจะไม่ได้อ่านมันบ่อยเหมือนเมื่อช่วงใกล้สอบแล้ว



    “ เป็นอะไรก็บอกกูมา ไม่ต้องอายกูหรอก “ แบคฮยอนยังคงคาใจอยู่



    “ ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง เลิกเซ้าซี้กูสักที!



    “ คยองซูนี่มึงเป็นอะไร ทำไมพูดแบบนี้วะ “ อีกคนเบือนหน้าหนีแล้วกระแทกหนังสือในมือลงกับโต๊ะ คยองซูเดินตรงไปที่ประตูหมายจะชิ่งหนีแต่แบคฮยอนก็ตามไปลากตัวไว้ได้ทัน

    “ ปล่อยกูแบคฮยอน !!



    “ ไม่กูไม่ปล่อย มึงต้องตอบกูมาก่อนว่ามึงเป็นอะไร!



    “ กูบอกว่ากูไม่เป็นอะไรไง!! ”



    “ มึง เป็น “  เขาพูดย้ำคำหนักแน่นแล้วดึงให้คยองซูมานั่งลงที่เตียง เพราะคยองซูขืนตัวเอาไว้ก็เลยลากถูกันมาอย่างยากลำบาก



    “ แบคฮยอน ออกไป !!



    “ มึงกำลังทำให้กูโมโหนะคยองซู “



    “ กูไม่ได้ทำอะไรมึงสักอย่าง แล้วมึงจะโกรธกูทำไม“  แบคฮยอนมองหน้าคยองซูด้วยความไม่เข้าใจ



    “ มึงรู้ดีอยุ่แก่ใจว่าทำไมกูถึงโกรธ“



    “ ไม่ กูไม่รู้”



    “ ......“



    “ ..... “



     “ มึงเป็นอะไรวะคยองซู มึงบอกกูได้รึเปล่า ? “ คยองซูส่ายหัวแล้วออกแรงผลักให้แบคฮยอนหลบออกจากตัวเขา คยองซูพยายามจะวิ่งหนีออกนอกห้องแต่แบคฮยอนเร็วกว่า เขาคว้าไหล่คยองซูเอาไว้แล้วเขย่าอย่างแรงจนอีกคนเซ



    “ แบค กูเจ็บ..” พยายามแกะมือของแบคฮยอนออกเพราะแรงบีบอย่างหนักทำให้รู้สึกเหมือนความเจ็บปวดนั้นจะแทรกซึมลงไปถึงกระดูก คยองซูเองก็เสียใจที่ทำให้แบคฮยอนต้องโกรธ แต่เขาจำเป็นจริงๆ ไม่ได้เขินอายที่จะบอกความจริงแต่รู้สึกกระดากปากที่จะพูด บางทีก็รู้สึกรังเกียจตัวเองแม้แต่เงาก็ยังไม่อยากจะเห็นเลยด้วยซ้ำ



    “ เจ็บก็ดี มึงจะได้มีสติสักที เลิกทำตัวงี่เง่าแล้วกลับมาเป็นคยองซูคนเดิมได้แล้ว!! “  เพราะอารมณ์โมโหที่คยองซูทำตัวแปลกไปแถมยังดูเหมือนจะซ่อนความลับเอาไว้เยอะกว่าที่เขาคิดแบคฮยอนเหวี่ยงเพื่อนให้ล้มลงไปกับพื้นแล้วเดินนออกนอกห้องเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง



                ที่เขาเคยพูดกับคยองซูว่าต้องมีสติให้มั่นคงจะได้ไม่เผลอทำอะไรผิดๆลงไป ในตอนนี้เขาเองก็ยังคุมสติตัวเองไม่ได้อย่างที่เที่ยวสอนคนอื่นเขาไปทั่ว เป็นห่วงมากจนโกรธ ห่วงมาจนรู้สึกหงุดหงิด ยิ่งไม่ได้รับคำตอบที่เค้นถามไปก็ยิ่งอยากจะบีบให้คยองซูตัวแตกออกจากกัน

     


     

                หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาของอารมณ์คุกกรุ่นไปได้แบคฮยอนถึงได้เดินกลับเข้าห้องมาอีกครั้ง คิดไว้แล้วว่ายังไงซะคยองซูคงต้องออกไปไหนต่อไหนแล้วแน่ๆ แต่ก็ผิดคาดคยองซูยังนอนหลับอยู่บนเตียงเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร แบคฮยอนตัดสินใจที่จะไม่เป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่อง เขาเลยเดินไปรื้อตะกร้าเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อหาชุดที่จะใส่นอนแต่หาไปหามาก็เจอกับซองยาพลาสติกที่ข้างในไม่ได้บรรจุอะไรไว้ คงเป็นยาแก้ปวดที่เขาซื้อมาจากร้านหมอยา แบคฮยอนโยนซองยานั้นทิ้งแล้วหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปอาบน้ำ...





    TBC.



    PS. อย่าเพิ่งตบ เพิ่งมาลงให้เพราะว่าบ้านไม่ได้จ่ายค่าเน็ตคะ 
    ตอนนี้ไปจ่ายแล้วก็เลยรีบมาอัพให้เลยนะ ฮ่าาๆๆ
    แล้วจะมาอัพพาร์ทที่ 5 ให้ในอีกไม่ช้านี้ 

    " ของหาย อยากได้คืน " 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×