ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { EXO FIC } หนูน้อยหมวกแดง LUMIN BAEKD.O

    ลำดับตอนที่ #10 : คลื่นหัวใจกลายเป็นเส้นตรง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.62K
      10
      22 พ.ค. 56






    จงอินหยัดกายขึ้นยืนอีกครั้งก่อนจะออกเดินทางมุ่งตรงไปยังในตัวเมืองทางเส้นเดียวที่สะดวกที่สุดมีรอยล้อของรถม้าลากเป็นทางยาวจงอินสงสัยว่าคงจะมีพวกผู้ดีเข้ามาเที่ยวเล่นในป่า เดินไปสักพักก็เจอกับซากของต้นไม้ที่ล้มพังระเนระนาดกีดขวางเส้นทาง เด็กหนุ่มสงสัยว่าเมื่อคืนคงเกิดการปะทะกันขึ้นที่บริเวณนี้แน่ๆ แต่ถ้าเป็นคนสู้กันต้นไม้คงไม่พังยับเยินเป็นแทบแบบนี้ แต่ถ้าเป็นสัตว์ตัวอื่นก็คงไม่ก่อความเสียหายมากมายขนาดนี้เหมือนกัน เว้นซะแต่ว่าสิ่งที่ต่อสู้กันจะมีขนาดใหญ่มาก

    เมื่อพุ่มไม้ในบริเวณนั้นมีเสียงกุกกักจงอินก็สะดุ้งตกใจ 



    “ นั่นใครนะ
    !

    เด็กหนุ่มเดินเข้าไปดูใกล้ๆด้วยแววตาจดจ่อ เขาชะโงกหน้าลงไปหลังพุ่มไม้ก็พบกับร่างของคนที่อยู่ในสภาพไร้เสื้อผ้านอนคว่ำหน้าอยู่




    “ เห้ย นาย “  ด้วยความที่โดนคยองซูกรอกหูบ่อยๆเรื่องการมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์จงอินเลยรีบวิ่งเข้าไปช่วยแบบไม่ต้องคิดเยอะ




    “ เป็นอะไรรึเปล่า “  จงอินค้นหาเสื้อผ้าในถุงย่ามของตัวเองแล้วโยนไปปิดส่วนล่างของคนที่นอนหมดสติอยู่ไว้ มือสากตบลงที่แก้มของอีกคนเบาๆ




    “ นาย ตื่นสิวะ “  ดวงตาคมจ้องมองร่างขาวซีดที่ประปรายไปด้วยรอยช้ำและเลือด ที่แก้มอีกข้างของชายคนนี้ก็มีรอยเล็บที่กรีดลงบนผิวแก้มจนเลือดไหลออกมาเป็นทางยาว




    “ ช่วยด้วย.. “ ริมฝีปากแห้งผากเอ่ยขึ้นมาก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วจงอินก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อชายดังกล่าวส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด..




     

     

     “ ใคร “




    “ ผมชื่อจงอิน ผมเจอคุณนอนสลบอยู่หลังพุ่มไม้นั่น “




    “ ข้าชื่อแบคฮยอน “  จงอินยื่นน้ำให้อีกคนที่ดูจะตัวเล็กกว่าเขาซึ่งกำลังยันตัวขึ้นนั่งพิงต้นไม้อยู่ ตอนแรกเขาก็ตกใจนึกว่าเป็นคยองซูเพราะมีขนาดตัวเกือบจะเท่าๆกัน




    “ ใส่เสื้อผ้าซะนะ “  ตอนที่แบคฮยอนลุกขึ้นเดินมานั่งพิงกับต้นไม้จงอินก็ต้องหันหน้าไปทางอื่นเพราะถึงยังไงก็ต้องเคารพในร่างกายของอีกคน แต่แบคฮยอนกลับไม่ได้เขินอายอะไรเพราะผู้ชายเหมือนกัน แบคฮยอนหยิบเสื้อผ้าที่จงอินโยนมาให้แล้วสวมใส่จนเสร็จ




    “ บ้านนายอยู่ไหนละ ให้ผมไปส่งไหม “




    “ ไม่ต้อง “   เขาปฏิเสธทั้งๆที่ตัวเองไม่มีปัญญาแม้แต่จะขยับกาย จงอินเลื่อนตัวเข้าไปใกล้แล้วลองพูดให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง




    “ ถ้านายไม่ไปนายก็มีแต่ตายกับตายนะ ไปกับผมก่อนเถอะผมขอร้อง “




    “ ไปที่ไหน ?“




    “ บ้านของผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากเท่าไร “ แบคฮยอนยอมพยักหน้าตกลงแล้วจงอินก็เข้ามาดึงตัวของแบคฮยอนให้ลุกขึ้นยืน




    “ นายเดินไหวแน่นะ “




    “ ข้าแข็งแรงกว่าที่เจ้าคิด “

     

    พอมาถึงบ้านจงอินก็พาอีกคนให้เข้ามานั่งพักในบ้านก่อน เขาต้องกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือชีวิตของแบคฮยอน จงอินจัดการไปหาผ้าชุบน้ำเอามาเช็ดบาดแผลให้แบคฮยอน แต่ด้วยความที่เป็นเด็กผู้ชายก็เลยมือหนักจนแบคฮยอนร้องโอดครวญไปหลายครั้ง




    “ พักที่นี่ไปก่อนสักคืนสองคืนก็แล้วกัน “




    “ ขอบใจเจ้ามาก “




    “ ว่าแต่นายไปทำอะไรมาถึงได้ไปนอนอยู่ตรงนั้นละ “




    “ ข้าสู้กับพวกแวมไพร์ “




    “ พูดเหมือนตัวเองเป็นมนุษย์หมาป่าอย่างนั้นแหละ “




    “ ถ้าข้าบอกว่าใช่เจ้าจะเชื่อข้าไหม “  จงอินหัวเราะ




    “ แม่ผมบอกว่าตอนกลางวันมันเป็นคนแต่ตอนกลางคืนมันจะกลายร่าง “  แบคฮยอนขมวดคิ้วสงสัย เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ทำไมถึงพูดเหมือนกับคยองซูไม่มีผิด




    “ เจ้าอยู่บ้านกับแม่สองคนหรอ ? “




    “ ผมอยู่กับแม่แล้วก็พี่ชาย แต่แม่ผมตายไปแล้วส่วนพี่ชายผมก็หายตัวไป “ คำพูดของจงอินทำให้แบคฮยอนนึกถึงคยองซู คยองซูเคยบอกว่าเขามีแม่กับน้องชาย




    “ แล้วเจ้ารู้ไหมเขาหายไปไหน “




    “ ถ้าผมรู้ผมคงไม่มานั่งเป็นผีไร้ญาติแบบนี้หรอก “

    จงอินพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียแบคฮยอนเลยไม่ถามอะไรต่ออีก ป่านนี้คยองซูคงกำลังรอเขาอยู่แน่ๆ แบคฮยอนจะมัวช้านอนพักฟื้นตัวเองอยู่ที่นี่นานไม่ได้หรอก เขาไม่อยากปล่อยคยองซูไว้คนเดียว คิดไว้แล้วว่ายังไงซะค่ำนี้เขาก็จะต้องกลับไปหาคยองซูแม้ว่าเขาแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเลยก็ตาม อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดคยองซูแล้วเขาจะต้องกลับไปให้ได้
















     

                เคล้ง..


    โซ่บนข้อขาของมินซอกถูกปลดออกโดยเซฮุน เขาเพ่งมองไปที่โซ่แล้วมันก็หลุดออกจากกัน เซฮุนดูจะไม่ค่อยพอใจที่จะคุยกับมินซอกสักเท่าไรเพราะมินซอกเป็นตัวตนเหตุที่ทำให้พี่ชายของเขาต้องเจ็บตัว




    “ สาแก่ใจเจ้าแล้วสินะ ลู่หานอุตส่าห์หวงและห่วงเจ้ามากแต่สิ่งที่เจ้าทำคือหักหลัง “




    “ เขาไม่ได้หวงข้า เขามันเห็นแก่ตัว “




    “ ถ้าหากไม่หวงลู่หานคงปล่อยหรือไม่ก็ฆ่าเจ้าตายไปนานแล้วมินซอก “




    “ ............. “




    “ ถ้าเจ้าไม่อยากออกไปข้างนอก ลู่หานคงไม่เจ็บตัวกลับมาแบบนี้ “




    “ ................ ”




    “ ถ้าลู่หานเป็นอะไรไป ข้าจะฆ่าเจ้า “  เซฮุนส่งสายตาน่ากลัวมาให้มินซอก ก่อนจะเดินออกจากห้องของมินซอกไป เซฮุนคงไม่รู้ว่าการทำร้ายแบคฮยอนก็ไม่ต่างอะไรกับทำร้ายเขา แบคฮยอนเจ็บกายเขาเองก็ต้องปวดล้าไปทั้งใจเพราะร่างกายของแบคฮยอนอ่อนแอจิตใจของแบคฮยอนก็จะพลอยหดหู่ไปด้วยซึ่งมินซอกเองก็จะรับรู้ความรู้สึกทั้งหมด..

     

     

    มินซอกเดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน เพราะเซฮุนบอกว่าลู่หานพักอยู่ที่ห้องนอนของตัวเอง มินซอกกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดเข้าไปเพราะกลัวว่าลู่หานอาจจะบันดาลโทสะฆ่าเขาตาย ถึงในตอนแรกเขาอยากจะตายเพื่อที่จะได้หนีไปจากที่นี่ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าเขาไม่อยากจะจากเจ้าของบ้านหลังนี้ไปเลย


    เมื่อเข้ามาก็เห็นว่าลู่หานนอนคว่ำหน้าอยู่โดยที่ไม่ได้สวมเสื้อ ที่แผ่นหลังของลู่หานมีผ้าสีขาวพันอยู่ ตอนที่มินซอกลืมตาตื่นขึ้นมาในป่าตอนนั้นเขาเห็นว่าลู่หานตัวลอยไปกระทบกับต้นไม้อย่างแรง และนี่คงจะปวดช้ำไปทั้งร่างแต่ก็ยังฝืนบินกลับมาถึงบ้าน




    “ ทำไมเจ้าต้องพาข้ามาเป็นตัวถ่วงของเจ้า “  ถ้าหากลู่หานทิ้งให้มินซอกตกลงมากับพื้นดินซะลู่หานก็จะสบายตัวขึ้นเพราะไม่ต้องแบกรับน้ำหนักไว้เยอะ มินซอกนั่งลงกับพื้นข้างเตียง ใช้ดวงตากลมใสจ้องมองใบหน้าลู่หานซึ่งกำลังหลับสนิท ผิวที่ซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีกจนเหมือนกับไม่มีเลือดหมุนเวียนในร่างกาย ลู่หานหายใจแผ่วเบาจนมินซอกเผลอคิดไปว่าลู่หานหมดลมหายใจไปเสียแล้ว ปากเล็กเม้มเข้าหากันพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบผมของลู่หาน




    “ หากข้าคือต้นเหตุ ข้าขอโทษ “ หยาดน้ำตาหยดเล็กไหลลงอาบแก้มขาวเนียน




    “ ลู่หาน อย่าเป็นอะไรไปเลยนะ “

    ก็จริงอย่างที่เซฮุนบอกถ้าเขาไม่ดื้อรั้นที่จะไปเที่ยวเล่นข้างนอกลู่หานคงไม่ต้องเจ็บตัว แต่ถ้าหากเขาไม่ไปเขาก็คงไม่ได้พบกับแบคฮยอนอีกเหมือนกัน เมื่อลู่หานกระพริบตาเริ่มรู้สึกตัวมินซอกก็รีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม ปากแห้งผากเอ่ยขอน้ำกับมินซอก คนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกก็รีบมองหาน้ำที่หัวเตียง แต่ก็เจอเพียงขวดน้ำที่บรรจุไปด้วยของเหลวสีแดง มินซอกพยุงลู่หานให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะเทของเหลวกลิ่นคาวลงในแก้วแล้วป้อนให้ลู่หาน




    “ ลู่หานเจ้าเป็นยังไงบ้าง ? “  ริมฝีปากแห้งเริ่มดูสดขึ้นและมีน้ำมีนวล ลู่หานกระแอมไอเบาๆเพราะคอแห้งไปหมด




    “ ลู่หานได้ยินที่ข้าถามไหม “  ลู่หานมองหน้ามินซอกแต่ก็ไม่พูดอะไร เขาเบนหน้ามองไปทางอื่นจนมินซอกใจไม่ดี มินซอกลุกขึ้นมานั่งลงที่ข้างเตียงเขาวางมือลงบนหน้าขาของลู่หานแต่เจ้าตัวก็ยังนิ่ง




    “ ลู่หาน เจ้าโกรธข้าหรอ ?“




    “ เจ้าคงไม่อยากอยู่กับข้า เจ้าคงอยากจะกลับไปหามัน “




    “ .............. “




    “ ข้าดูแลเจ้าไม่ดีหรอมินซอก ? “ 




    “ เพราะที่นั่นเป็นบ้านของข้า ข้าก็ต้องอยากกลับเป็นธรรมดา “ ลู่หานไม่ฟังที่มินซอกพูดแถมยังไม่แม้แต่จะหันกลับมามองมินซอกด้วยซ้ำ มินซอกน่าจะรับรู้บ้างว่าเขาก็น้อยใจเป็นเหมือนเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆบนโลกใบนี้




    “ ทำไมเจ้าถึงได้ใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ห่างไกลมากกว่าข้าที่อยู่กับเจ้า “




    “ ลู่หานข้าขอโทษ..”




    “ หนีไปซะเถอะถ้าเจ้าไม่อยากจะอยู่ “ 








    TBC.
     




    # คุยกันยาวๆ
     
    กรี๊ดด (เบาๆ) พี่ลู่หานก็รู้จักน้อยใจเป็นเหมือนกันนะ
    ชื่อตอนยอมรับเลยว่าอ่านตอนแรกแล้วหวาดเสียว ตอนนี้ต้องมีคนตายแน่ๆ
    ...แต่ก็ไม่มีคนตาย...


    ในเนื้อหาอ่านแล้วคงจะพบกับความมึนงง เนื่องจากเราเรียบเรียงคำพูดไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
    ซึ่งตรงจุดนี้เราก็ขออภัยด้วยนะคะ 
    แต่ถ้าอ่านจนถึงตอนจบ คุณอาจจะเข้าใจมากขึ้นนะคะว่าทำไมช่วงตอนแรกๆตัวละครถึงต้องทำแบบนี้
    ทำไมคยองซูถึงหอมกลิ่นเลือด ทำไมลู่หานต้องฆ่าแม่ของจงอิน และดวงตาสีแดงที่คยองซูเห็นเป็นดวงตาของใคร
    ความซับซ้อนมันอยู่ตรงที่ในแต่ละตอนตัวละครไม่เคยพูดเฉลยอะไรเลย
    แต่มันต้องมีสักตอนหนึ่งสิที่จะเฉลยสาเหตุของการกระทำ


    เรื่องดำเนินมาจนใกล้จะจบแล้วแต่ปัญหาก็ยังตีกันให้ยุ่งเหยิง
    อยากให้ติดตามนะคะ เพราะเรื่องนี้เราใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเขียนจบ

    สุดท้ายก็ขอบคุณจริงๆที่เม้นต์เป็นกำลังใจให้เรานะ
    ถึงจะเม้นต์มาแค่ว่า " รีบมาต่อนะ  " แต่เราโคตรดีใจเลยนะคะ อิ_อิ 


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×