ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { EXO FIC } หนูน้อยหมวกแดง LUMIN BAEKD.O

    ลำดับตอนที่ #12 : เอาตัวรอด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.48K
      8
      29 พ.ค. 56

               






                     จงอินมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นว่าจะมีคนอาศัยอยู่ในบ้านเลย ความเงียบรอบข้างบังคับให้จงอินลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่แล้วออกเดินสำรวจในตัวบ้านอย่างถือวิสาสะ การตกแต่งของตัวบ้านนั้นสวยมากที่สุดเท่าที่จงอินเคยเห็นมา คงเพราะเขาคุ้นเคยแต่การใช้ชีวิตอยู่ในป่าพอมาเจอกับอะไรที่มันหรูหราเขาก็ต้องตื่นเต้นและอยากสัมผัส




    จงอินเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่รูปปั้นลักษณะคล้ายค้างคาว รูปปั้นค้างคาวตัวนี้ดูดุดันและน่ากลัวมากจนจงอินไม่กล้าที่จะจ้องมองมันนานๆ ดวงตาสีแดงก่ำของมันทำขึ้นจากทับทิมเม็ดงาม จงอินก้มหน้าลงไปใกล้ๆแล้วเอื้อมมือลงไปจับที่ดวงตาแดงก่ำนั่น









    ครืดดด..






    ผนังกำแพงของบ้านขยับเคลื่อนออกเป็นทางเข้ามืดๆ จงอินยืนทึ่งอยู่พักเดียวก็มองซ้ายขวาแล้วเดินเข้าไปในช่องทางมืดๆนั่นทันที สีหน้าของเด็กหนุ่มดูจะไม่ค่อยไว้ใจไอ้ทางเดินมืดอับแบบนี้เลย เขากลัวว่ามันจะเป็นประตูที่นำเขาไปสู่บางสิ่งที่น่ากลัว




    ระยะทางคับแคบและเหม็นอับชวนให้อยากอาเจียน กลิ่นเหม็นสาบเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนจงอินต้องเอามือปิดจมูกเอาไว้ เขาข่มความรู้สึกคลื่นไส้ของตัวเองเอาไว้แล้วเดินไปต่อ แต่แล้วกลิ่นเหม็นก็รุนแรงขึ้นจนจงอินพะอืดพะอม



    “ ชะ..ช่วยด้วย “ น้ำเสียงสั่นระริกดังขึ้นจากภายในนั้น จงอินฝืนเดินต่อเข้าไปอีกหน่อยก็พบกับเศษซากกองกระดูกของมนุษย์มากมาย เขาตกใจจนแทบสิ้นสติเสียตรงนั้น





    “ ช่วยฉันด้วย ใครก็ได้ “ จงอินหลบมุมไปขย้อนเอาอาหารในกระเพาะของตัวเองออกแล้วรีบเดินหาต้นตอของเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั่นโดยเร็ว น้ำเสียงเครือแผ่วเบาดูน่าสงสารจนเขาทำเมินเฉยแล้ววิ่งหนีออกไปเพียงลำพังไม่ได้ สายตาคมกวาดเห็นว่ามีโคมไฟเรียงกันเป็นแถวตามบันไดทางเดินเขาจึงค่อยๆก้าวลงไปทีละขั้นเพื่อดูเชิง ถ้าหากเกิดเรื่องอันตรายอย่างน้อยเขาก็อาจจะหนีไปได้ทันท่วงที

     

     

    “ พี่คยองซู “ เด็กหนุ่มส่งเสียงตกใจ บุคคลที่เขาคิดว่าได้ตายจากเขาไปแล้วในตอนนี้กลับถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่เส้นใหญ่กว่าท่อนแขนของจงอินเสียอีก ท่าทางอิดโรยนั่นทำให้จงอินต้องรีบพุ่งเข้าไปหาคนเป็นพี่ด้วยความเป็นห่วง สภาพซูบซีดของคยองซูทำให้จงอินเผลอน้ำตาคลอขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้





    “ พี่คยองซู ใครทำอะไรพี่ “





    “ จงอิน.. จงอินหรอ “ คยองซูในสภาพอยู่ในสภาพที่ตัวเปรอะเปื้อนไปหมด ตามแขนเสื้อก็มีรอยขาดวิ่นเป็นทางยาว เศษซากฝุ่นโคลนแปดเปื้อนใบหน้าขาวใสจนจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ สิ่งที่จงอินคิดขึ้นได้ในแว๊บแรกที่เห็นคยองซูอยู่ในสภาพแบบนี้คือคยองซูคงจะต้องถูกคนในบ้านหลังนี้ลักพาตัวมาแน่ๆ แต่ว่าคนพวกนี้จะจับตัวคยองซูมาทำไม




    “ พี่คยองซู ใครจับพี่มา “




    “ ซะ..”  จงอินขมวดคิ้วแน่นรอฟังคำตอบจากพี่ชายแต่เสียงฝีเท้าอาดๆกำลังเดินตรงมาทางนี้ ทำให้เด็กหนุ่มลังเลว่าจะเผชิญหน้ากับบุคคลผู้มาใหม่หรือหนีไปตั้งหลักก่อน แต่ถ้าจะหนีเขาต้องไปทางไหนละ ในเมื่อห้องทึบๆที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอากาศให้หายใจแบบนี้มีประตูทางเข้าแค่ทางเดียว มืออันสั่นเทาของคยองซูยกขึ้นมากำลำแขนจงอินเอาไว้แล้วบีบเบาๆ ริมฝีปากที่บัดนี้ซีดแห้งจนน่าเป็นห่วงกำลังขยับออกมาอย่างยากลำบาก





    “ หนี.. “ คยองซูยกแขนที่ดูไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาชี้ไปที่กำแพงมืดๆอีกฝากหนึ่ง จงอินลังเลว่าเขาจะไปคนเดียวหรือว่าลากตัวคยองซูหนีไปด้วยกัน ตอนนี้ความคิดเขาตีกันไปหมดด้วยความไม่เข้าใจและสับสน เขาแค่เดินหลงเขามาแต่ก็ได้เจอกับคยองซูในสภาพดูไม่ได้แบบนี้ ที่สำคัญคยองซูกำลังถูกทรมานอยู่ภายใต้ชายคาของลู่หาน ซึ่งเขายิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่เลยว่าถ้าลู่หานจับตัวคยองซูมาจริง ลู่หานจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร 




     

    “ หนี ! “  จงอินกุมมือพี่ชายของเขาเอาไว้แน่นแล้วรีบผละตัวเองพุ่งไปที่กำแพงตามที่คยองซู บอก ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะได้พบกับความเจ็บปวดจากแรงกระทบของไหล่กับกำแพง แต่ก็กลายเป็นว่าร่างของเขาทะลุกำแพงเข้ามาล้มคลุกคลานอยู่ในโพรงมืดๆ



    จงอินเงียบฟังเสียงโซ่เส้นใหญ่กำลังถูกลากให้เคลื่อนไปตามพื้นจนเกิดเสียงครืดคราดดังสนั่น รวมถึงเสียงร้องโอดโอยของคยองซูก็ดังปะปนมาด้วย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไร



    “ คยองซู “  นั่นเป็นเสียงของลู่หาน จงอินจำได้ดีถึงแม้จะเคยพูดคุยกันแค่ไม่กี่ครั้ง




    “ คุณครับ... “




    “ อย่าเรียกห่างเหินแบบนั้นสิ เจ้าเป็นน้องชายของพี่นะ “





    “ ผมไม่มีพี่ชาย “ คำพูดที่ถูกเค้นออกมาจากหลอดเสียงแหบแห้งของคยองซูฟังดูแล้วน่าสงสารจนจงอินอยากพุ่งตัวเข้าไปช่วย



    “ เรามีกันแค่สามคน กลับมาอยู่กับพี่นะคยองซู “




    “ ผมไม่รู้จักคุณ !




    “ อีกไม่นานเราจะต้องกลับมารู้จักกันเหมือนเดิม “  จงอินไม่ได้ยินสียงสนทนาใดๆเกิดอีก แต่พักเดียวเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอีกครั้ง




    “ เซฮุน เด็กนั่นละ “  เขาเดาเอาว่าเด็กนั่นที่ลู่หานพูดคงจะหมายถึงตัวเขา



    “ สงสัยจะกลับไปแล้ว “



    “ ดีละ ข้าไม่อยากให้มันมาวนอยู่ในบ้านของเราสักเท่าไร “



    “ ลู่หานเจ้าห้ามทำอะไรจงอินเด็ดขาด “



    “ ข้าจะไปทำอะไรมันได้ละ “



    “ คนอย่างเจ้ามันทำได้ทุกอย่าง “  เซฮุนพูด



    “ ใช่ รู้ไว้ก็ดีแล้ว “



    “ กระทั่งพี่น้องเจ้ายังคิดจะทำร้าย “



    “ เซฮุน !!



    “ เจ้ากำลังจะทำร้ายคยองซู เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรอว่าทำแบบนั้นมันเสี่ยง!!




    “ ข้ารับรองว่าพิธีจะต้องผ่านไปด้วยดี “




    “ แต่คยองซูอาจจะตาย.. “



    “ เงียบนะเซฮุน ข้าบอกว่าทุกอย่างต้องเรียบร้อยก็คือต้องเรียบร้อย !!



    “ เชื่อข้านะลู่หาน อย่าทำแบบนั้นเลย “




    “ เจ้าคิดว่าที่ข้าทำทุกอย่างมาตลอดหลายปีนี้เพื่อที่จะมาล้มเลิกหรอ เจ้าคิดว่าที่ข้าตามหาคยองซูมานานเพื่อที่จะยอมให้คยองซูจากพวกเราไปหรอ “



    “ อย่างนั้นหรอ หึ.. จำเอาไว้นะลู่หาน ถ้าคยองซูเป็นอะไรไปข้าจะไม่ให้อภัยเจ้า เพราะคยองซูก็คือพี่ของข้า !




    “ คยองซูก็คือน้องของข้าเหมือนกัน ข้ารับรองว่าคยองซูจะปลอดภัย “ เซฮุนเงียบไปพักหนึ่งจนในที่สุดลู่หานก็ออกคำสั่งอีกครั้ง เสียงโซ่เส้นใหญ่ถูกปลดออกและทิ้งให้กระทบลงกับพื้นจนเกิดเสียงก้อง จงอินพอจะรู้ว่าคยองซูกำลังจะถูกเคลื่อนย้ายให้ออกไปจากห้องนี้ ในตอนแรกที่เขาฟังเขาไม่เข้าใจเลยว่าลู่หานกับเซฮุนกำลังคุยอะไรกันอยู่ เซฮุนพูดเหมือนกับว่าลู่หานกำลังจะเริ่มต้นทำพิธีอะไรสักอย่างซึ่งเป็นอันตรายกับชีวิตของคยองซู และที่สำคัญ..




     

    คยองซูไปเป็นพี่น้องของสองคนนั้นได้อย่างไร ?



     

     

     

    “ ข้าจะพาคยองซูไปที่ลานพิธี ใกล้จะถึงเวลาเต็มที่แล้ว “



     

    “ ลู่หานข้าว่าเจ้าหย...”



    “ แวมไพร์ตัวอื่นได้กำลังรอเราอยู่ “




    “.......... “




    “ หัวหน้าเผ่าอย่างข้า ไม่มีทางกลับคำพูด ยังไงซะคยองซูก็จะต้องกลับมาเป็นน้องคนเดิมของข้า คยองซูจะต้องฟื้นคืนมาเพื่อทำลายเผ่าพันธุ์ที่มันทรยศพวกเรา“




    “ เจ้ากำลังจะทำให้คยองซูกลายเป็นนักล่าอีกครั้งนะลู่หาน “




    “ เจ้าอย่าลืมสิเซฮุน คยองซูเกิดมาเพื่อเป็นแบบนั้น “






     

    กึกก...

     



     

    จงอินเบิกตาโพลงเมือขาเขาไปเสียดสีเขากับพื้นจนเกิดเสียงที่ถึงแม้จะแผ่วเบาแต่ว่าในบรรยากาศเงียบๆแบบนี้แม้แต่เสียงหายใจก็ดูจะดังเกินไปด้วยซ้ำ





    “ นั่นใคร!!  “ 







    TBC

    .....................................
    มาสั้นๆ และจะขอจากไปอย่างสั้นๆ เห้ยตอนหน้าจบละนะ (ล้อเล่น )
    เรื่องนี้ไม่เกินสิบห้าตอนนะตัวเธอ สั่นยิ่งกว่าเอสเอฟอีก ฮาาาา
    ขอให้ความงงจงสถิตกับทุกคน #แอร๊
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×