คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Black Candy : 5
Chapter : 5
“ฮือออๆๆๆ ยอลลี่ เธอทำอย่างนี้กับฉันได้ยังงายยยยย~”
“เพื่อนกันแท้ๆ ทำกันได้ลงคอ ฉันจะฆ่าเธออออ~”
ฮยอนอาและคริสตัลส่งเสียงร้องอย่างคร่ำครวญ ก่อนจะจัดการจับร่างเพื่อนตังสูงกดลงกับที่นอนจนข้าวของบนเตียงหล่นกระจัดกระจาย
“เล่นอะไรกันเนี้ย เห็นไหมว่าห้องรกหมดแล้ว!” ซอลลี่เอ็ดเพื่อนๆ ที่กำลังเล่นกันอย่างลืมโต
“ก็ยอลลี่นางได้จุ๊บกับผู้ชายของฉัน!! ฉันจะฆ่านาง มาให้ฆ่าซะดีๆนะยอลลี่!!!” ว่าแล้วก็ล็อคคอเพื่อนตัวเองเอาไว้
“คิดว่าฉันอยากเอาปากตัวเองไปสัมผัสกับปากอีตานั่นนักหรอห๊ะ! น่าขยะแขยงจะตาย อี๋ยยย~~ ถุ๊ยยๆๆๆๆ” คนร่างโปร่งบอกพลางเช็ดริมฝีปากของตัวเองอย่างรังเกียจ
“ฉันเฝ้ามองพี่คริสมาเป็นปี โอกาสจะเข้าใกล้ยังไม่มีเลย แล้วแกเป็นใคร!!! ย๊ากกกก”
สรรพนามที่ฮยอนอาใช้เรียกชานยอลเริ่มดูสนิทสนมมากกว่าเดิม ร่างโปร่งโดนเพื่อนสาวทั้งสองคนรุมรังแกจนซอลลี่ที่ดูอยู่ห่างๆ ต้องส่ายหัวด้วยความระอา
“อยากได้จูบตานั่นมากนักใช่ไหม ด๊ายยยย มานี่เลยมา!!!”
เพราะทนโดนเพื่อนทั้งสองแกล้งต่อไปไม่ไหว ร่างโปร่งจึงจัดการจับเพื่อนทั้งสองมาจูบให้รู้แล้วรู้รอดกันไป โดยที่ชานยอลลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเคยเป็นผู้ชาย แต่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้กลับเป็นเพียงความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งที่เล่นกับเพื่อนๆ โดยไม่ได้คิดอะไร
“อี๋ยย ชะนี!! ทำอะไรยะเนี้ย แหวะ!” ฮยอนอาว่าพลางเช็ดริมฝีปากของตัวเองไปด้วย
“เอ๊า! ก็อยากได้นักไม่ใช่หรอจูบพี่คริสอะไรของเธอน่ะ นี่ไงมันอยู่นี่มันติดอยู่ที่ปากฉัน มามะ มารับรอยจูบของพี่คริสไปซะดีๆ”
สาวๆ เล่นไล่จับกันจนเหนื่อยก่อนจะหลับกันไปเพราะความอ่อนเพลียจากการทำกิจกรรม เว้นเสียแต่ชานยอลที่ยังคงหลับตาไม่ลง นิ้วเรียวลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ พลางคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันก่อนจะปัดความคิดให้มันกลายเป็นเพียงอุบัติเหตุที่มันบังเอิญเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะพยายามลืมมันสักเท่าไหร่ ภาพมันนั้นมันก็ยังย้อนเข้ามาในใจอยู่อย่างนั้น
ร่างโปร่งตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงออกไปสูดอากาศภายนอกห้อง บรรยากาศที่เงียบสงบของทะเลยามค่ำคืนทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกสดชื่นและสบายใจขึ้นมานิดหน่อย นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้พาตัวเองไปพักผ่อนที่ไหนเลย ในแต่ละวันก่อนหน้านี้ทำแค่เพียงใช้วาจาในการหลอกล่อผู้หญิงให้มาตกเป็นของตัวเอง จนแทบไม่เคยเห็นเลยว่าดวงดาวบนท้องฟ้ามันสวยขนาดไหน
ขาเรียวก้าวเดินไปบนพื้นหาดด้วยเท้าเปล่า เหมือนกับความรู้สึกได้ถูกปลดปล่อยลงสู่ผืนทราย สายลมอ่อนพัดผมยาวให้ปลิวสยาย ตาโตมองขึ้นยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก่อนที่รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
....อยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ อยากอยู่กับบรรยากาศนี้ไปนานๆ
เปลือกตาถูกปิดลงช้าๆ เสียงคลื่นที่ทำให้บรรยากาศไม่เงียบจนเกินไปเริ่มทำให้ชานยอลอยากนอนมันซะตรงนี้ แต่ร่างโปร่งก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีผ้าผืนบางมาคลุมไหลตัวเองเอาไว้
“ออกมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เสียงของคนที่คุณก็รู้ว่าใครดังขึ้นจากข้างหลังทำให้ชานยอลต้องรีบหันไปมองคนที่เข้ามาขัดความสุข
“ออกมาทำอะไรก็เรื่องของฉัน ยุ่งอะไรด้วย” ร่างโปร่งบอกพร้อมกับดึงผ้าที่คลุมอยู่บนไหล่ตัวเองส่งคืนให้เจ้าของ
“เอามาให้ ไม่ต้องคืนแล้วอย่าคิดที่จะเถียงเพราะตอนนี้เราเป็นน้องรหัสของพี่อยู่ถ้าขัดใจเดี๋ยวจะโดนทำโทษมิใช่น้อย”
คนตัวสูงบอกบัดดี้ตัวแสบของตัวเองก่อนจะเอาผ้าไปคลุมไหล่อีกคนไว้อีกครั้ง
“เอาใบแดงมาแป๊ะหน้าฉันเลนไหม? คิดว่าตัวเองเป็นกูจุนเพียวจากแก๊ง F4 ไง๊? เอ๊ะอะจะรังแกคนอื่นเขาลูกเดียว น่าเบื่อ!”
เธอเบ้ปากใส่ชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะหันหลังเดินหนี แต่กลับถูกมือหนาคว้าข้อมือเอาไว้ทำให้สร้อยข้อมือของหญิงสาวขาดออกจากกันทันที!
“เห้ยย!!! สร้อยฉัน”
เสียงหวานร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะพยายามแย่งสร้อยเส้นเล็กจากคริส แต่คนร่างสูงกลับไม่ให้มันคืน พร้อมกับยกยิ้มที่แสนจะน่าหมั่นไส้นั่นอีกครั้ง
“อยากได้คืนใช่ไหม? เพราะฉะนั้นตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่อย่าดื้อ แล้วพี่จะให้คืน”
ร่างโปร่งบอกก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าที่พักไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย ทำให้ชานยอลต้องยืนกรีดร้องอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง
เช้าวันที่สองของกิจกรรมรับน้องสยองขวัญ ชานยอลตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลียเพราะมัวแต่เป็นกังวลเรื่องสร้อยข้อมือของตัวเองที่ถูกคริสริบเอาไว้ ร่างโปร่งเดินตามเพื่อนๆ ออกมาเข้าแถวเพื่อรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ รวมทั้งมาจับคู่กับบัดดี้ของตัวเอง หญิงสาวไม่ปริปากพูดกับคริสแม้แต่น้อย เพราะโกรธเคืองเรื่องสร้อยข้อมือเส้นนั้น
“กิจกรรมของวันนี้ เราจะให้แต่ละคู่ออกตามหาสิ่งของที่เรากำหนดไว้เพื่อนำมาไถ่ตัวเพื่อนที่ถูกจับไว้เป็นตัวประกัน โดยเราจะจับฉลากเลือกผู้เข้าร่วมเกมนี้เพียง 7 คู่ ถ้าคู่ไหนกลับมาเป็นคู่สุดท้ายจะถูกเราลงโทษทันที”
ซิ่วหมินบอกก่อนที่ทุกคนจะตอบรับอย่างเข้าใจ ตามด้วยจุนมยอนที่เริ่มทำการจับฉลากคัดเลือกผู้เข้าร่วมเล่นเกมแล้วคริสและชานยอลก็ได้เป็นหนึ่งใน 7 คู่นั่นด้วยเช่นกัน
ผู้เข้าร่วมเล่นเกมนี้มี 7 คู่ เท่ากับต้องมีตัวประกัน 7 คน และตัวประกันที่ทำให้ชานยอลต้องตกใจก็คือซอลลี่ ร่างบางถูกมัดไว้กับเสาหนึ่งใน 7 ต้นกลางชายหาดและถ้าหากเขาไม่รีบหาของให้ทันก่อนเวลาเที่ยงมีหวังซอลลี่ได้ถูกแดดเผาอยู่กลางชายหาดนั่นแน่นอน
ทันทีที่เสียงนกหวีดที่เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นของเกมสุดโหดดังขึ้น บุคคลผู้ถูกเลือกทั้ง 14 ชีวิตก็รีบวิ่งเข้าไปยังป่าที่เป็นที่ซ่อนของทันที
“เราต้องหาอะไรบ้างอะ?” ชานยอลถามคนที่ถือกระดาษที่มีบอกเอาไว้โจทย์ด้วยความร้อนรน
“เอ่ออย่างแรกก็คือตุ๊กตาหมีของคริสตัล”
“ห๊ะ! ตุ๊กตา! อ๋อออ~ ถึงว่าล่ะเมื่อคืนเจ้าตัวมันบ่นหาอยู่ เกมอะไรวะเนี้ย ปัญญาอ่อนชะมัด!” ร่างโปร่งเดินไปบ่นไป
“อยากช่วยเพื่อนเราไหมเนี้ย?”
“อยากสิ ถามได้!!”
“งั้นหยุดบ่นแล้วหาของต่อไป”
คริสบอกกับคนตัวเล็กกว่าทำให้เจ้าตัวต้องทำท่าฟึดฟัดราวกับเด็กถูกขัดใจก่อนที่จะเดินนำไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งคู่เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะเจอของแต่อย่างใด แต่ชานยอลก็ไม่ปริปากบ่นออกมาแม้แต่น้อยและกับดูฟิตกว่าร่างสูงที่เดินตามหลังอยู่ตลอดเวลาซะอีก ร่างโปร่งที่ดูอรชรอ้อนแอ้นเดินไปตามเส้นทางที่ยากลำบากได้อย่างคล่องแคล่ว แต่อยู่ๆ หญิงสาวก็อยู่เดินกะทันหันทำให้คริสที่ไม่ทันมองต้องชนเข้ากับร่างบางจนเกือบล้มลงไปทั้งคู่
“โอ๊ย! เดินดูทางบ้างสิพ่อคุณ!” ชานยอลโวยวายใส่อีกคน แต่สายตากลับมองไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ห่างจากตัวไม่มาก
“ก็เราดันหยุดไม่บอกไม่กล่าวใครจะไปมองทัน”
“พอๆ ไม่ต้องเถียง ดูนู้นๆ เหมือนจะมีอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ” ร่างโปร่งบอกปัดก่อนจะเดินตรงไปยังพุ่มไม้ต้องสงสัย
“เห้ยย! เจอแล้ว หมีเน่าของคริสตัล!!”
ชานยอลร้องบอกอย่างดีใจจนแทบจะพุ่งไปที่พุ่มไม้นั่นเสียให้ได้ แต่คริสกับรั้งตัวอีกคนไว้ซะก่อน
“อย่าเพิ่งเข้าไป!” คริสบอกพร้อมกับรั้งชานยอลไว้ในอ้อมกอด
บอกได้เลยว่านี่คือการแต๊ะอั๋งแบบเนียนๆ แต่คิดหรอว่าชานยอลจะไม่รู้ว่าคนตัวสูงนี่คิดอะไรอยู่...ก็คนมันเคยทำมาก่อน ทำไมจะไม่รู้
“ไม่เห็นหรอว่านั่นมันต้นอะไร” บอกอีกคนไปแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยชานยอลให้หลุดจากวงแขนกว้าง
“ต้นอะไรวะ? พอดีบ้านอยู่ในเมืองอะนะก็เลยไม่ค่อยจะเห็นของพวกนี้” ร่างที่อยู่ในอ้อมกอดมองด้วยหางตาพร้อมกับเบ้ปากใส่คริส
“หมามุ่ยไง! จะเข้าไปไหมล่ะ บอกไว้ก่อนว่าคันไปถึงชาติหน้าเลยนะ”
ร่างสูงบอกพร้อมกำลังท่าจะผลักชานยอลเข้าไปในกอหมามุ่ยจนร่างบางต้องเป็นฝ่ายถอยกลับมาเกาะแขนแกร่งเอาไว้เสียงเอง
“แล้วจะให้ทำไงอะ ฉันต้องเอาอีหมีเน่านั่นออกมาให้เร็วที่สุด ไม่งั้นซอลลี่ได้กลายเป็นปลาเค็มแดดเดียวแน่ๆอะ!” เสียงงอแงพร้อมกับเขย่าแขนของคนร่างสูงจนแทบจะหลุดติดมือออกมา
ทั้งสองพยายามหาทางที่จะเอาตุ๊กตาหมีที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยถุงพลาสติกอย่างดีออกมาจากดงหมามุ่ย แต่มันถูกวางไว้ในตำแหน่งที่หนาแน่นสุดๆ ไม่ว่างจะเอาไม้มาสอยก็แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเอามันออกมาได้จนชานยอลชักจะเริ่มท้อ
“เหนื่อยแล้วอะ” มือเล็กยกขึ้นปาดเหงื่อข้างแก้มเนียน
“สงสัยจะต้องใช้วิธีสุดท้ายแล้วล่ะ...” ร่างโปร่งบอกด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“อะไร?”
คริสไม่ได้ตอบอีกคนกลับไป แต่กลับเดินลุยดงหมามุ่ยเข้าไปหยิบตุ๊กตาหมีออกมาแทน สร้างความตกตะลึงให้กับชานยอลเป็นอย่างมาก ร่างสูงจัดการแกะถุงเพื่อนำตุ๊กตาออกมาก่อนจะส่งมันให้กำลังร่างโปร่งที่นั่งทำตาปริบๆ อยู่ข้างๆ
“แค่นี้ก็เรียบร้อย” ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้กับน้องรหัส
“มะ...ไม่คันหรอ?”
“ตอนแรกไม่ แต่ตอนนี้คิดว่าคันแล้ว” มือหน้าเริ่มเกาขาของตัวเองเพราะฤทธิ์ของหมามุ่ย
“ทีนี่ทำไงอะ ยากกว่าไปสอยตุ๊กตาออกมาอีกนะเนี้ย!!”
หญิงสาวเริ่มกระสับกระส่ายเพราะผิวขาวของอีกคนเริ่มปรากฏผืนแดงขึ้นมาเรื่อยๆ จนดูน่ากลัว ตากลมกวาดมองไปเรื่อยๆ และเห็นว่าข้างหน้ามีลำธารเล็กๆ อยู่จึงจัดการลากพี่รหัสร่างโตให้ตามตัวเองไปยังริมลำธาร ก่อนจะให้ชายหนุ่มแช่ขาของเขาลงในน้ำเพื่อบรรเทาอาการคันในขั้นเบื้องต้น
“เป็นไงบ้าง? รู้สึกดีขึ้นมาบ้างปะ?”
“ก็ดีกว่าเมื่อกี้นะ....เป็นห่วงพี่หรอ หื้มม”
คริสถามพลางส่งยิ้มกรุ่มกริ่มให้ จนหญิงสาวต้องเบื้อนหน้าหนี
“สำคัญตัวเองมากเกินไปมั้งคุณ ถ้าไม่เห็นว่ายังมีประโยชน์ต่อเกมนี้อยู่ฉันคงปล่อยให้นายตายคาดงหมามุ่ยไปแล้ว”
“โห คนอุตส่าสละชีพเข้าไปเอาของมาให้เป็นห่วงกันบ้างก็ไม่ได้” คริสทำสีหน้าที่บ่งบอกได้ว่ากำลังน้อยใจอีกคน
“อย่ามาๆ คิดว่าทำหน้าแบบนี้แล้วน่ารักนักหรือไง เดี๋ยวแม่ถีบตกน้ำ!”
“คนอะไรใจร้ายที่สุด!” ว่างพลางมองไปยังสาวร่างโปร่งที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆ
“คนนี้แหละ!! ยกขาขึ้นมาจากน้ำได้ละ!”
ชานยอลออกคำสั่งและร่างโปร่งก็ยอมทำตามแต่โดยดี หญิงสาวจัดการเทแป้งเย็นที่ตัวเองพกติดตัวมาด้วยลงบนขายาวที่เต็มไปด้วยผืนแดง ความเย็นจากแป้งทำให้คริสเริ่มรู้สึกดีขึ้น แต่แป้งทำให้ขาของเขาขาวราวกับกำลังจะถูกจับชุบแป้งทอด ในขณะที่ร่างโปร่งกำลังละเลงแป้งให้กับพี่รหัสของตัวเองก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
หลังจากที่จัดการคลุกแป้งให้กับคริสเป็นที่เรียบร้อยทั้งสองก็ออกเดินทางหาของชิ้นที่สองกันต่อไปและยังคงเถียงกันไปตลอดทางเหมือนเดิม
“ของชิ้นที่สองที่เราต้องหาก็คือ........รองเท้าผ้าใบของลู่หาน”
“ห๊ะ! รองเท้าหรอ ไม่มีอะไรให้เล่นแล้วหรือไง ของแต่ละอย่างที่ให้หานี่ปัญญาอ่อนทั้งนั้น!” น้องรหัสเจ้าอารมพูดไปพลางใช้กิ่งไม้ฟาดต้นไม้ใบหญ้าริมทางไปพลาง
“ก็เขากำหนดมาแบบนี้จะให้พี่ทำไงล่ะ?”
“ได้ข่าวว่าพวกนายเป็นเพื่อนกันนะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้” ชานยอลหันควับกลับมาก่อนจะหรี่ตามองพี่รหัสหน้าหล่อ
“เชื่อใจกันหน่อยเถอะ พี่ไม่รู้จริงๆ” คนร่างสูงบอกพร้อมกับทำหน้าอ้อนใส่อีกคน
“หึ! หน้าอย่างนายอะบอกได้เลยว่าเชื่อใจอยาก!” หน้าหวานเชิดใส่อีกคนก่อนจะเดินนำหน้าดุ่มๆ ไป
หลังจากเดินออกมาอีกสักพักทั้งคู่ก็เจอรองเท้าผ้าใบของลู่หานจนได้ มันถูกแขวนไว้บนกิ่งไม้แล้วก็สูงอยู่ไม่น้อยและปัญหาใหญ่ก็คือในบริเวณนั้นกลับไม่มีอะไรที่สามารถนำรองเท้าคู่นั้นลงมาได้เลย
“โอ้โห! แขวนไว้สูงขนาดนี้คิดว่าฉันเป็นลูกสไปเดอร์แมนหรือไงวะ!”
ชานยอลบ่นไปพลางใช้ท่อนไม้ขว้างขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่มีรองเท้าแขวนอยู่ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทีท่าว่ารองเท้าคู่นั้นจะหล่นลงมาซะที ส่วนคนตัวสูงที่มาด้วยกันก็ได้แต่ยืนมองอีกคนอยู่เฉยๆ
ของแต่ละอย่างที่บรรดาเพื่อนๆ กำหนดตำแหน่งการวางช่วยถ่วงเวลาให้เขาสองคนอยู่ด้วยกันได้นานไม่ใช่น้อย.....มันคือแผนของพวกเขาล้วนๆ
ร่างโปร่งที่พยายามทำภารกิจจนเหงื่อท่วมตัวเริ่มทรุดนั่งลงใต้ต้นไม้อย่างเหนื่อยหอบ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิดก่อนจะหันมามองหน้าบัดดี้ของตัวเอง
“นี่นาย มานี่ดิ มายืนตรงนี้”
หญิงสาวกวักมือเรียกคริสก่อนจะให้เขายืนตามตำแหน่งที่ตัวเองต้องการ
“จะทำอะไรน่ะ” ร่างสูงแลดูงงกับความคิดของอีกคน
“ใช้ความสูงของตัวเองให้เป็นประโยชน์!”
“หือ?” คริสมองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจ
“ย่อตัวลง ฉันจะขี่คอนายขึ้นไปเอาของ”
ชานยอลบอกพร้อมกับกดไหล่กว้างของอีกคนให้ย่อลงตามที่เขาบอก
ร่างสูงแอบยิ้มกริ่มอยู่ในใจพร้อมกับย่อตัวลงและปล่อยให้อีกคนขึ้นไปนั่งอยู่บนต้นคอของตัวเองก่อนจะยืนขึ้นจนเต็มความสูงและสาวร่างโปร่งก็พยายามเอื้อมมือไปดึงรองเท้าที่ห้อยโตงเตงอยู่บนกิ่งไม้ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะคริสมักจะแกล้งอีกคนโดยการเดินถอยออกมาบ้าง ย่อตัวลงบ้างทำให้ชานยอลไม่สามารถจับรองเท้าได้สักที จนฝ่ายหญิงทนไม่ไหวทำให้เกิดมหกรรมการจิกทึ้งหัวกันขึ้นมาร่างสูงจึงยอมยืนนิ่งๆ ให้อีกคนนำรองเท้าลงมาจนได้
“สำมะเร็จไปอีกชิ้น เหลือชิ้นสุดท้ายแล้ว!” ชานยอลทำท่าสู้ตายก่อนจะหันไปมองหน้าพี่รหัสเชิงถามถึงโจทย์ข้อสุดท้าย
“ของชิ้นสุดท้ายก็คือ.....”
คำพูดที่ถูกเว้นช่วงเอาไว้มาพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเลศนัย
“สร้อยข้อมือของยอลลี่”
……………………………..Black Candy…………………………
ของชิ้นสุดท้ายถูกยกเลิกการค้นหาโดยชานยอลเอง เพราะวิธีที่จะได้สร้อยคืนมาก็คือชานยอลต้องเรียกคริสว่าพี่ ซึ่งไม่ว่าคนเป็นพี่รหัสจะยกคำขู่มาให้อีกคนกลัวสักแค่ไหน แต่ฝ่ายน้องรหัสกลับปฏิเสธลูกเดียว ระหว่างการเดินทางออกจากป่าเพื่อกลับไปยังชายหาดถูกคลื่นความโมโหของชานยอลแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
เมื่อกลับมาถึงชานยอลก็มุ่งหน้าไปหาเพื่อนของตัวเองที่ถูกผูกติดไว้กับเสากลางชายหาดทันที แต่กลับถูกลู่หานและซิ่วหมินเข้ามายืนขวางทางเอาไว้
“ไหนของที่พี่ให้ไปหา” ลู่หานถามพลางแบมือข้อของจากสาวร่างโปร่ง
“ตุ๊กตาของคริสตัลแล้วก็รองเท้าผ้าใบของนาย! เอาไป!”
หญิงสาวที่ยืนประจันหน้าอยู่กับรุ่นพี่ปีสี่บอกก่อนจะยัดของทั้งสองอย่างให้กับลู่หาน
“แล้วไหนอีกอย่าง?”
ซิ่วหมินถามถึงของชิ้นสุดท้ายทำให้ชานยอลต้องกรอกตาพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเซ็งก่อนจะบอกกับรุ่นพี่ทั้งสองคนไป
“ไม่มี! ไอ้คนที่ยึดไว้มันไม่ให้คืน” หน้าหวานเริ่มบึงตึงอีกครั้งเมื่อนึกถึงของรักของตัวเอง
“ไปเอามันมา ไม่อย่างนั้นพี่ก็จะยังไม่ปล่อยเพื่อนเรา”
ซิ่วหมินยื่นคำขาดทำให้ชานยอลเริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน เพื่อนก็อยากช่วย แต่ก็ไม่อยากเรียกคนๆ นั้นว่าพี่ ร่างโปร่งมองไปยังซอลลี่ที่ถูกผูกติดไว้กับเสา แดดเริ่มแรงมากกว่าเดิมเพราะใกล้จะเที่ยงแล้ว ร่างโปร่งเริ่มใช้สมองและอยากจะนั่งสมาธิคิดแผนที่จะทำให้ซอลลี่ถูกปล่อยตัวออกมาโดยที่ยังไม่ต้องเอาสร้อยข้อมือมาเป็นค่าผ่านทาง
ปิ๊งงงง!
เสียงของความคิดดังขึ้นมาในสมองของชานยอล ร่างโปร่งใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่รุ่นพี่ทั้งสองคนเผลอ ส่งซิกให้เพื่อนตัวเองแกล้งเป็นลม จนคนอื่นๆ นอกจากซิ่วหมินและลู่หานต้องรีบแก้มัดให้กับซอลลี่ก่อนจะพาตัวหญิงสาวไปปฐมพยาบาลทันที
ในขณะที่ทุกคนพาซอลลี่ออกไปแล้วนั้นชานยอลก็ได้แต่ยืนส่งร้อยยิ้มร้ายกาจอยู่คนเดียว แต่ร่างโปร่งไม่ได้สังเกตว่าพี่รหัสของตัวเองได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“หึหึ ร้ายไม่เบาจริงๆ ผู้หญิงคนนี้”
หลังจากที่กิจกรรมช่วงกลางวันผ่านมาเป็นที่เรียบร้อย แต่ซอลลี่ก็ยังคงตกเป็นตัวประกันอยู่ดี กิจกรรมในช่วงเย็นซอลลี่จึงไม่สามารถกลับมารวมกลุ่มกับพวกเพื่อนๆ ได้ เพราะยังคงถูกแก๊ง F4 กักตัวเอาไว้และจะถูกปล่อยตัวออกมาก็ต่อเมื่อชานยอลสามารถเอาสร้อยข้อมือกลับมาได้
ริมสระน้ำของสถานที่พักถูกเปลี่ยนให้เป็นที่สังสรรค์กันระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ทุกคนต่างพากันสนุกสนานและมันก็เหมือนเป็นการพักผ่อนหลังจากทำกิจกรรมมาทั้งวัน แต่กลับมีบางคนที่ไม่ได้มีอารมร่วมกับกิจกรรมสังสรรค์นี่เลย
“มันจะยากอะไรวะแก กะอีแค่เรียกพี่คริสว่าพี่” ฮยอนอาถามเพื่อนร่างโปร่งที่นั่งหน้าบูดมาทั้งวันอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ยากหรอก แต่ไม่อยากเรียก” บอกเพื่อนก่อนจะมองไปยังกลุ่มเด็กปีสี่ที่กำลังส่งเสียงเฮฮากันทั้งกลุ่ม
“เอ๊า! แกนี่เพื่อเพื่อนน่าเรียกเถอะเรียกแค่ครั้งเดียว”
“ไม่! เอาเป็นว่าฉันจะหาวิธีชิงตัวซอลลี่คืนมาให้ได้ก็แล้วกัน”
ร่างโปร่งบอกก่อนจะหันไปสนใจคริสตัลที่เพิ่งจะถือของกินเดินเข้ามานั่งร่วมวงด้วย
แก๊งๆ
เสียงเคาะแก้วดังขึ้นทำให้เสียงพูดคุยหยุดลงพร้อมกับหันไปมองต้นเสียงที่ยืนเด่นเป็นสง่าเปล่งแสงออโรร่าอยู่ริมสระ
“สวัสดีทุกคนยามค่ำคืน วันนี้ทุกคนคงเหนื่อยจากการทำกิจกรรมกันมามากช่วงเวลานี้พี่จึงอยากให้ทุกคนได้พักผ่อนกันให้เต็มที่ก่อนจะทำกิจกรรมในวันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย” จุนมยอนรุ่นพี่ปีสี่แสนสุภาพส่งเสียงประกาศ
“แต่พี่ก็ได้ข่าวมาว่ามีน้องคนนึงโกงภารกิจของเรา”
เจอประโยคนี้เข้าไปทำให้คริสตัล ฮยอนอาและแก๊ง F4 หันมามองสาวร่างโปร่งที่กำลังทำหน้ามึนเป็นตาเดียว
“มองอะไร ฉันทำอะไรผิด?” ชานยอลพูดแบบลอยหน้าลอยตาราวกับว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนที่ถูกกล่าวถึง
“อ๋อหรอคะ!!!”
เสียงของเพื่อนสาวทั้งสองคนพูดกระแทกใส่หน้าร่างโปร่งขึ้นพร้อมกัน
“น้องยอลลี่ครับ...ออกมาหาพี่หน่อย”
รุ่นพี่หน้าหวานเรียกชื่อคนที่จุนมยอนได้กล่าวถึงไปตอนต้น ทำให้เจ้าตัวต้องถอนหายใจออกมาอย่าเบื่อหน่ายก่อนจะก้าวออกไปยังตำแหน่งที่ลู่หานยืนอยู่สร้างความอิจฉาให้บรรดาผู้หญิงด้วยกันเป็นอย่างมาก
“มาเอาของคืนไปด้วยครับ”
รอยยิ้มหวานถูกส่งมาให้กับร่างโปร่ง ถ้าเป็นหญิงอื่นอาจจะฟินจนเป็นลมไปแล้ว แต่ชานยอลกลับรู้สึกเฉยๆ กับมันเสียอย่างนั้น
“ก็เอาคืนมาดิ” มือบางแบออกเพื่อขอของของตัวเองคืน
“พี่ไม่มีให้หรอก น้องต้องไปขอกับอีกคน”
รอยยิ้มถูกวาดขึ้นบนใบหน้าหวานนั่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และชานยอลก็รู้ดีว่าลู่หานหมายถึงใคร
ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาหาหญิงสาวพร้อมกับสร้อยข้อมือที่ชานยอลคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“เรียกพี่สิครับ” เสียงทุ้มบอกกับสาวร่างบางตรงหน้า
ชานยอลยิ้มพรายให้กับคนตรงหน้าแขนเล็กยกขึ้นมากอดอกเอาไว้พร้อมกับให้คำตอบไปด้วยเสียงที่ดังและฟังชัด
“ไม่!!!”
“พี่ให้โอกาสอีกครั้งนะยอลลี่”
“ไม่!!!”
“แน่ใจนะ?”
หญิงสาวยักคิ้วให้เป็นคำตอบเช่นเดียวกับคริสที่ส่งรอยยิ้มร้ายให้กับชานยอลก่อนจะทำในสิ่งที่ร่างโปร่งแทบจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้
สร้อยข้อมือที่พี่สาวสุดที่รักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดถูกคนร่างสูงปาทิ้งลงไปในสระกว้างที่ดูท่าแล้วน่าจะลึกไม่เบา ชานยอลยืนมองสร้อยเส้นนั้นจมหายไปต่อหน้าต่อตา อารมโกรธเริ่มปะทุขึ้นมาในใจทำให้หญิงสาวถึงกลับเข้าไปกระชากเสื้อรพี่รหัสของตัวเองจนคริสตัลและฮยอนอาต้องรีบเข้ามาดึงตัวเพื่อนออกไป
“ฉันจะไม่มีวันเรียกนายว่าพี่และไม่มีวันที่ฉันจะไปญาติดีกับนายแน่นอน!!!”
ชานยอลตะคอกใส่คริสด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ตากลมเริ่มมีหยดน้ำใสๆ ปริ่มออกมารอบดวงตา ทำให้ร่างสูงเริ่มยิ้มไม่ออก
ตู้ม!!
“ยอลลี่!!”
เสียงสองสาวร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ เพื่อนของตัวเองก็กระโดดลงสระน้ำไปโดยไม่บอกไม่กล่าว ซอลลี่ที่ถูกรุ่นพี่ทั้งสี่คนกักตัวออกไว้ก็ทนไม่ได้ที่จะวิ่งออกมาดูเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นที่ริมสระ
ชานยอลดำน้ำลงไปยังตำแหน่งที่สร้อยจมหายไป สายตาที่พร่ามัวกวาดมองไปทั่วท้องสระแต่ก็ไม่เห็นสิ่งที่เพิ่งจมลงมาเลย
พลันเรียวแรงของร่างโปร่งก็หายไปซะดื้อๆ ชานยอลเริ่มควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ทำให้ร่างของเขาค่อยๆ จมดิ่งไปก้นสระโดยที่เขาไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้เลยแล้วไม่นานก็มีเสียงๆ หนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาทของหญิงสาว
‘การเป็นผู้หญิงไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าคิด ความรู้สึกของผู้หญิงละเอียดอ่อนกว่าผู้ชายมาก...เจ้าคงเข้าใจแล้วนะชานยอล’
เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวมาพร้อมกับสัมผัสของใครบางคน ร่างโปร่งที่กำลังจะหมดสติอยู่รอมร่อเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ตรงหน้า
ผู้หญิงคนนั้น.....ผู้หญิงคนสุดท้ายในคืนนั้น
มือขาวซีดบรรจงสวมสร้อยข้อมือให้กับชานยอลก่อนจะยกยิ้มแล้วทิ้งประโยคสุดท้ายให้ร่างโปร่งได้ยินในความคิด
‘เจ้ายังต้องรู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงอีกหลายอย่าง....ชานยอล’
ภาพของผู้หญิงตรงหน้าเลือนหายไปและมีร่างของอีกคนเข้ามาแทน...
คริสคว้าร่างของหญิงสาวที่แน่นิ่งอยู่ก้นสระขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ร่างสูงตัดสินใจกระโดดน้ำตามลงมาหลังจากที่เห็นอีกคนหายลงไปนานและก็เป็นไปตามที่คาด ชานยอลจมน้ำจริงๆ
ร่างของหญิงสาวถูกพาขึ้นมายังริมขอบสระ บรรดาเพื่อนสาวทั้งสามคนรีบวิ่งเข้ามาดูชานยอลที่หมดสติไปก่อนที่จะช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อเรียกสติเพื่อนให้กลับคืนมา
“หลบหน่อยๆ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” คริสบอกให้ทั้งสามสามหลบไปก่อนที่จะนั่งลงข้างๆร่างโปร่งเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ
สิ่งที่คริสทำได้ในตอนนี้ก็คงเป็นการผายปอด ไม่ว่าจะในละครหรือชีวิตจริงวิธีนี้คงเป็นผลดีต่อชีวิตของอีกคน
ใบหน้าคมเลื่อนเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานที่นอนหลับตาอยู่ช้าๆ ในใจก็ภาวนาขอให้วิธีนี้ช่วยเรียกให้สติของอีกคนกลับคืนมาเพราะถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ ทุกคนต่างลุ้นระทึกกับนาทีชีวิตของชานยอล แต่อยู่ๆก็มีสิ่งที่ให้ระทึกยิ่งกว่านั่นก็คือ...
ตู้ม!!!
หยดน้ำสาดกระเซ็นเป็นวงกว้าง ร่างของคริสตกลงสระไปทำให้ทุกคนที่ยืนมุ่งดูเหตุการณ์อยู่ถึงกับตกใจกันไม่น้อย
ร่างโปร่งลุกขึ้นนั่งก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความสะใจที่ตัวเองสามารถถีบผู้หนุ่มที่สุดแสนจะป๊อปปูล่าตกสระได้
“รู้จักฉันน้อยไปแล้ว.....คริส”
ชานยอลยิ้มเยาะให้กับคนที่ที่ตกลงไปในน้ำก่อนจะเดินเชิดกลับที่พักของตัวเองไป สร้างความทึ้งให้กับบรรดาเพื่อนๆ ของคริสและคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ เพราะไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับชายหนุ่มมาก่อน
“น้องคนนี้ไม่ธรรมดาว่ะ มึงว่าไงวะซิ่วหมิน” ลู่หานหันไปถามเพื่อนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ
“กูว่างานนี้สนุกแน่ ฮ่าๆ”
ชายหนุ่มทั้งสองปล่อยเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะเข้าไปดูเพื่อนตัวเองที่ต้องเปียกอีกรอบเพราะโดนสาวสวยถีบตกน้ำ
ยิ่งชานยอลร้ายมากเท่าไหร่ มันก็ทำให้คริสอยากเข้าหาเธอมากเท่านั้น ผู้หญิงที่ทำแบบนี้กับเขามีเพียงหนึ่งในล้าน ความแปลกของสาวคนนี้ยิ่งทำให้คริสเริ่มต้องการเธอมากขึ้นกว่าเดิม
……………………………..Black Candy…………………………
กิจกรรมวันสุดท้ายมีเพียงครึ่งวันก่อนที่นักศึกษาทั้งหมดจะเดินทางกลับและวันนี้ชานยอลก็ไม่คุยไม่มองหน้าพี่รหัสของตัวเองเลย ในระหว่างทำกิจกรรมก็ได้แต่ทำให้มันเสร็จๆ ไปก็เท่านั้น
เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ต้องออกเดินทางกลับ ทั้งสี่สาวก็หอบสัมภาระของตัวเองออกมาจากห้องพักเพื่อไปขึ้นรถคันเดิมเตรียมออกเดินทางกลับบ้านของตัวเอง
“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมตอนกลับกระเป๋าถึงหนักกว่าเดิม ทั้งๆ ที่ของก็มีเท่าเดิม” คริสตัลเดินไปบ่นไป
“ก็ตอนมาเธอพับมันมา แต่ตอนกลับเธอยัดมันลงไปนี่จ๊ะ แหมม~” ซอลลี่อดที่จะแซะเพื่อนสาวของตัวเองไม่ได้
“ยอลลี่แกโอเคไหม? ไม่ได้ป่วยใช่ปะ”
ฮยอนอายกมือขึ้นมาแตะหน้าผากร่างโปร่ง เพราะคิดว่าที่เพื่อนดูเงียบๆ เพราะไม่สบาย
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันสบายดี โอ๊ะ!!”
หญิงสาวพูดยังไม่ทันขาดคำก็ต้องร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาตรงฝ่าเท้าและเมื่อยกมันขึ้นมาดูก็พบว่าเลือดสีแดงไหลออกมาเป็นจำนวนมา ทำให้สามสาว ต้องทิ้งของแล้วรีบดูบาดแผลของเพื่อนด้วยความตกใจ
จากการที่ชานยอลเหยียบเข้ากับเปลือกหอยคมทำให้เกิดบาดแผลที่ลึกอยู่พอสมควร ทำให้ร่างโปร่งถึงกับลุกขึ้นเดินต่อไปไม่ได้ ครั้นจะให้บรรดาเพื่อนๆ ช่วยพยุงก็ไม่ไหวเพราะสัมภาระที่มันมีมากจนเกินไปทำให้ชอลลี่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแทน
แต่คนที่เข้ามาช่วยกลับเป็นคนที่ชานยอลไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด...
“เจ็บมากไหม”
คริสถามอีกคนด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าที่พกติดตัวมาพันเท้าของอีกคนเพื่อห้ามเลือดเอาไว้
“ลองดูไหมล่ะ จะได้รู้สึกเหมือนกัน” ร่างโปร่งบอกพร้อมแสดงสีหน้ารำคาญใส่อีกคน
“หึ! ยังจะปากเก่งอีก ลุกขึ้นเดี๋ยวจะพยุงไปที่รถ” คริสออกคำสั่งกับคนเอาแต่ใจตรงหน้า
“ไม่ต้อง! เดินเองได้ตีนกับหัวใจมันไกลกัน!”
ชานยอลบอกอย่างอวดเก่งและจะฝืนเดินด้วยตัวเองแต่ก็ต้องเซจนแทบล่มเพราะบาดแผลมันลึกเกินที่ชานยอลจะเดินเองได้ จนร่างสูงไม่ทนกับความอวดเก่งของอีกต่อไปจึงตัดสินใจอุ้มร่างโปร่งไปที่รถด้วยตัวเอง แม้ว่าหญิงสาวจะดิ้นขลุกขลักไปตลอดทางก็ตาม
“แก...แกว่าพี่คริสคิดอะไรกะยอลลี่ปะวะ?” ฮยอนอาถามพลางเขยิบตัวเขาไปชิดกับเพื่อนอีกสองคน
“มีความเป็นไปได้สูงงงงง~~~” คริสตัลพยักหน้าช้าพลางมองไปยังคู่ชายหญิงที่กำลังตีกันไปตลอดทาง
“แล้วแกคิดว่าไงวะซอลลี่”
ฮยอนอาถามเพื่อนที่คนที่เงียบไป
“เธอควรถามว่าพี่คริสเขาจริงจังกับเพื่อนเราหรือเปล่ามากกว่านะฮยอนอา”
ซอลลี่บอกก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ เพราะกลัวว่าคริสจะมาล้อเล่นกับหัวใจของเพื่อนตัวเอง
“ฉันชักจะกลัวขึ้นมาแล้วสิ...ฉันกลัวว่าถ้าวันหนึ่งยอลลี่เกิดมีใจให้กับพี่คริสขึ้นมาแล้วพี่คริสทำกับนางเหมือนที่ทำกับผู้หญิงคนอื่นๆ ฉันกลัวนางจะเสียใจเอาอะแก”
ดวงตาที่ฉายแววขี้เล่นของฮยอนอาเริ่มเปลี่ยนเป็นแววตาของความเป็นห่วง
“จะกลัวทำไม! ถ้าเขาไม่จริงใจกับเพื่อนเรา เราก็ทำให้เขาจริงใจซะสิ!”
“เธอหมายความว่าไง?” สองคนที่เหลือถามขึ้นมาพร้อมกัน
ร่างบางไม่ตอบอะไรออกไป...แต่คำตอบมันถูกส่งกลับมาเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเล่ห์กลแทน
เพื่อนไม่มีวันปล่อยให้ใครมาล้อเล่นกับหัวใจของเพื่อนได้ง่ายๆหรอก....
Talk : ตอนนี้พิมพ์เพลินเลยออกมายาวเป็นรางรถไฟ ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามนะคะ อยากสกรีมอย่าลืมติดแท็ก #ลูกอมปีศาจ นะคะเค้าชอบอ่าน เห็นแล้วมีความสุข ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ใกล้สอบแล้วอาจจะมาต่อเป็นเวลาตามละครหลังข่าว นั่นก็คือประมาณวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ถ้าแต่งเสร็จก่อนก็อัพก่อน ขอให้มีสนุกกับการอ่านนะคร้าบบบบ ^^
ความคิดเห็น