ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:KRISYEOL] Black Candy

    ลำดับตอนที่ #35 : Black Candy : The Final Part

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.96K
      17
      4 ก.ย. 57

     

    BLACK CANDY : THE FINAL PART

     

     

    นี่แกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม?

    ร่างบางถามขึ้นขณะที่กำลังจัดแต่งทรงผมให้กับร่างโปร่ง

     

    อืม...แบบนี้แหละ แล้วฉันก็บอกพี่ยูราไปแล้ว เดี๋ยวคงจะหาทางบอกแม่เร็วๆนี้แหละมั้ง

     

    ใครจะเชื่อแกบ้างวะเนี้ยคริสตัลถามแต่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับเส้นผมของชานยอล

     

    ถ้าที่บ้านไม่มีใครเชื่อ ฉันคงต้องลากแกไปหาพ่อกับแม่แน่ๆ!”

    ร่างโปร่งบอกพร้อมกับยกยิ้มให้คริสตัลผ่านกระจกบานใหญ่

     

    เฮ๊ย! ไม่ได้! มันผิดกฎสวรรค์ ห้ามให้คนนอกรู้เด็ดขาดว่าฉันเป็นใคร!”

     

    อ้าว! ทีพี่ยูรายังรู้เลยว่าลีอาห์เป็นใคร

     

    ก็เขาถูกกำหนดมาให้รู้อะ เสร็จแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่เปลี่ยนชุดร่างบางบอกพร้อมกับยิ้มให้กับผลงานของตัวเองอย่างภูมิใจ

     

     

    โห้! สวยเชียว ทูตสวรรค์มีเรียนทำผมด้วยหรอฉันเพิ่งรู้!”

     

    ระดับนี้แล้วไม่ต้องเรียนหรอกย่ะ!”

     

    คร้าบบบ~ ขอบใจนะ บางทีฉันก็แอบคิดว่า ฉันเป็นมนุษย์ที่เกิดมาใช้ชีวิตได้คุ้มค่าที่สุด ได้เป็นทั้งผู้ชายแล้วก็ได้เป็นทั้งผู้หญิงในชีวิตเดียวกันชานยอลหันกลับไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะยกมือเรียวของคริสตัลขึ้นมาจับไว้เบาๆ

     

    ยินดีด้วยนะชานยอล ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่เลือกนะ

    คริสตัลบอกพร้อมกับยิ้มแสดงความยินดีให้กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับชานยอล

     

    อื้อ! ฉันว่าเราไปเปลี่ยนชุดกันเถอะ

     

    โอเค!”

    คริสตัลตอบรับก่อนจะหยิบชุดที่เตรียมไว้ขึ้นมาส่งให้ชานยอลทันที

     

     

     

     

    ฮยอนซึงหยิบดอกกุหลาบมากอีกดอกซิฮยอนอาบอกกับคนข้างๆ ทั้งที่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับดอกไม้ช่อโต

    อ่ะนี่

    ไม่เอาสีแดง! จะเอาสีขาว หยิบสีขาวมา!!”ร่างเล็กแว้ดขึ้นเมื่อฮยอนซึงทำให้ไม่ได้อย่างใจคิด

    อ่าว! ก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรกล่ะโธ่!”

    ฮยอนอาและฮยอนซึงยังคงเถียงกันอย่างเคย แม้ว่าตอนนี้ทั้งคู่กำลังช่วยกันจัดช่อดอกไม้อยู่ก็ตาม ทำให้คนอื่นๆ ต่างพากันส่ายหัวให้กับคนทั้งคู่อย่างเอือมระอา

     

    มึงว่าพวกเราจะมีโอกาสมาทำอะไรอย่างนี้ให้กับพวกมันสองคนปะวะซิ่วหมินพูดขึ้นในขณะที่กำลังเตรียมกล้องถ่ายภาพสำหรับมือโปรฯอย่างเขา

     

    มี! แต่อีกนานฮ่าๆๆๆๆๆลู่หานหัวเราะก๊ากออกมาเมื่อพูดถึงคู่ของฮยอนซึง

     

    แหมคุณมึง! ว่าแต่เขาและมึงล่ะคร้าบ~” ซูโฮที่กำลังช่วยซิ่วหมินเตรียมกล้องเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของคนหน้าหวานก็อดที่จะแซวคืนไม่ได้

     

    อะไร! เกี่ยวไรกะกูลู่หานแกล้งทำเป็นเหวี่ยงก่อนจะหยิบน้ำอัดลมของตัวเองขึ้นมาดื่มกลบเกลื่อนอาการเขินอาย

     

    อย่ามาเหวี่ยงกลบเกลื่อนเลยนะมึงแน่จริงแกรนด์โอเพนนิ่งกันไปเลย อย่าได้อายโลก

    ซูโฮบอกเพื่อนด้วยท่าทีที่ท้าทาย

     

    มึงจะบ้าหรอ!”ลู่หานว่าพร้อมกับตีหน้ายักษ์ใส่เพื่อนทุกคน

     

    โมโหว่ะ มีโมโหเว้ยเฮ้ย พูดความจริงหน่อยเข้าหน่อยโมโหเลยฮ่าๆๆๆซูโฮบอกพลางชี้หน้าลู่หานแล้วหัวเราะใส่จนเจ้าตัวหน้างอไปมากกว่าเดิม

     

    อย่างนี้เขาไม่ได้แรกว่าโมโห แต่เขาเรียกว่าเขิน~”ซิ่วหมิ่นที่ได้แต่นั่งยิ้มอยู่เงียบๆในตอนแรกก็แซวขึ้นมาด้วยอีกคน

     

    โถๆๆ รักนะแต่ไม่แสดงออกสินะเนี้ยฮ่าๆๆๆซิ่วหมินยังคงแกล้งแหย่ลู่หานต่อไปแม้ว่าตอนนี้อีกคนจะหน้าหงิกหน้างอแค่ไหนก็ตาม

     

    พวกมึงหัวเราะอะไรกันนักหนาวะ เสียงดังไปถึงโน้นเลยคริสที่เพิ่งเดินเข้ามาทักขึ้นกับบรรดาเพื่อนๆที่กำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เว้นเพียงลู่หาน

     

    อ้าววว ว่าไงครับคุณเจ้าบ่าววันนี้หล่อเชียวซูโฮทักเพื่อนร่างสูงที่วันนี้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิมเพราะสูทเจ้าบ่าวสีขาวสะอาด

     

    ไม่ต้องมาชม สำหรับกูใส่ชุดไหนก็ดูดีโว้ย!”คริสบอกพร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อนอย่างมั่นใจ

     

    กูถามหน่อยเหอะ เคยมีวันไหนที่มึงไม่มั่นใจในตัวเองบ้างไหมซูโฮถามด้วยท่าทีประชดประชัน

     

    ไม่มีร่างสูงส่ายด้วยท่าทางชวนให้เพื่อนอยากจะปากล้องใส่ซะเดี๋ยวนั้น

     

    เออ เรื่องของมึงว่าแต่ไหนเจ้าสาวมึงอะ?ซิ่วหมินถามขึ้นเมื่อเห็นว่านางเอกของวันนี้ยังไม่ออกมาเสียที

     

    ยังแต่งตัวอยู่มั้งคริสตอบก่อนจะนั่งลงข้างๆลู่หาน

     

    นี่แค่พรีเวดดิ้งยอลลี่เธอกะจะเอาให้สวยเหมือนแต่งจริงเลยหรือไงวะเนี้ยซูโฮว่าพลางชะเง้อมองไปทางห้องพักของชานยอล

     

    เอาน่า ในชีวิตหนึ่งของผู้หญิงได้เป็นเจ้าสาวทั้งทีเขาก็อยากให้ทุกอย่างออกมาดีเป็นธรรมดาซิ่วหมินบอกพร้อมกับตบบ่าเล็กของซูโฮเบาๆ

     

    ฮยอนอาๆ ดอกไม้เสร็จยัง ยอลลี่แต่งตัวเสร็จแล้วเสียงคริสตัลตะโกนออกมาจากห้องพักทำให้คนอื่นนอกเหนือจากฮยอนอาพลอยหันไปตามต้นเสียงนั่นด้วย

     

    ใกล้แล้วๆ ขาดอีกนิดหน่อยซอลลี่กำลังมาฉันฝากมันซื้อแล้วรอแป๊ปฮยอนอาตะโกนบอกก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดช่อดอกไม้ในมือต่อไป

     

    ร่างสูงมองไปรอบๆ ตัวก็พบกับบรรยากาศที่เขารัก กลิ่นไอของทะเลทำให้เขารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้สัมผัส กลิ่นของบรรยากาศเก่าๆ กลิ่นของเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจเขาตลอดมา และวันนี้ก็จะเป็นอีกวันที่เขาจะบันทึกเรื่องราวครั้งสำคัญของเขาและชานยอลเอาไว้ที่นี่

     

    เห้ยยยสวยว่ะ!!”

     

    เสียงซิ่วหมินอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น ทำให้คริสรีบหันกลับไปมองเพื่อนในทันที แต่สิ่งที่ร่างสูงมองกลับไม่เป็นเพื่อนของเขา แต่เป็นหญิงสาวร่างโปร่งที่อยู่ในสีขาวทรงเอไลน์ แม้เธอจะเดินด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความสวยสง่าของเธอลดลงแม้แต่น้อย

     

    ชุดหนักมากอะ เวลาแต่งงานนี่อยากรู้ว่าพวกเจ้าสาวแบกชุดพวกนี้ได้นานเป็นวันได้ยังไงชานยอลเดินออกมาจากห้องพักพร้อมกับบ่นกระปอดกระแปดมาตลอดทาง

     

    ยอลลี่ เลิกกับไอ้คริสแล้วมาแต่งงานกับพี่ได้ไหมจ๊ะ~~”ลู่หานรีบเข้ามาโอบไหล่บางเอาไว้ก่อนจะส่งสายตาเป็นประกายให้กับหญิงสาว

     

    โทษนะพี่ พอดีไม่อยากมีปัญหากับเด็กชานยอลบอกพร้อมกับยักคิ้วให้ลู่หานอย่างกวนๆ และนั่นก็ทำให้คนที่เหลือส่งเสียงโห่แซวเพราะรู้ดีว่าชานยอลหมายถึงอะไร

     

    วันนี้สวยจังร่างสูงบอกพร้อมกับจ้องร่างโปร่งชนิดว่าแทบจะลืมกระพริบตาไปเลยก็ว่าได้

     

    สวยวันนี้?ชานยอลเลิกคิ้มถามอย่างเอาเรื่อง

     

    สวยทุกวันเลยคร้าบ~”

    คริสบอกก่อนจะเดินเข้าไปกอดร่างของผู้เป็นเจ้าสาวของเขาเอาไว้ สร้างความอิจฉาให้กับบรรดาเพื่อนๆได้เป็นอย่างมาก

     

    ดอกไม้ที่เหลือมาแล้วจ้า~”เสียงซอลลี่ดังมาแต่ไกลและมันก็ทำให้ชานยอลยิ้มร่าเมื่อเห็นเพื่อนของตัวเองเดินมาพร้อมกับดอกไม้ในมือและสิ่งที่ทำให้ร่างโปร่งยิ้มกว้างมากกว่าเดิมก็คือคนที่มากับซอลลี่นั่นเอง

     

    พี่ชางมิน!”

    ร่างโปร่งถกกระโปร่งที่สุดแสนจะยาวเฟื้อยของตัวเองขึ้นก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาชางมินอย่างดีอกดีใจ

     

    ว๊ายยย เจ้าสาวหนีไปหาชายอื่น ว๊ายๆๆฮยอนอาแกล้งแซวคริสที่ได้แต่ยืนมองว่าที่เจ้าสาวของตัวเองวิ่งไปหาคนที่เพิ่งมาใหม่

     

    ก็ทำได้แค่นั้นแหละ เพราะยังไงซะเพื่อนเราก็ต้องแต่งงานกับพี่อยู่ดีร่างสูงยกยิ้มอย่างมีชัยให้กับฮยอนอาก่อนจะรับช่อดอกไม้จากร่างบางมือถือไว้

     

    อู๊ยย จ้า~ พ่อผู้ชนะสิบทิศ เดี๋ยวตอนถ่ายรูปขอหวานๆ นะจ๊ะ ไม่งั้นฉันจะให้พี่ชางมินมาเป็นเจ้าบ่าวแทนพี่ ฮ่าๆๆๆฮยอนอาบอกก่อนจะแยกตัวออกไปหาบรรดาเพื่อนสาวของตัวเอง

     

    เอาล่ะๆ ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม เรามาเริ่มเลยแล้วกัน เดี๋ยวแสงสวยๆ จะหมดไปซะก่อนซิ่วหมินตะโกนบอกก่อนจะสะพายกล้องเดินนำไปที่ชายหาด

     

    ยอลลี่ ไปกันเถอะคริสเดินเข้าไปหาชานยอลพร้อมกับจับมือบางของอีกคนเอาไว้ แต่สายตากลับมองไปที่ชางมิน

     

    ยินดีด้วยนะ ยังไงก็ดูแลน้องยอลลี่ให้ดีๆก็แล้วกัน เพราะถ้านายทำให้น้องเสียใจเมื่อไหร่ ฉันจะเป็นคนดูแลยอลลี่แทนนายเอง

     

    คัท!!!”

    เสียงซอลลี่เบรกขึ้นมาซะก่อนทำให้คริสและชางมินหยุดต่อกรทางสายตากันในทันที

     

    จบ! จบบริบูรณ์! อวสานซะทีละครเรื่องนี้ แหมให้เล่นเข้าหน่อยเล่นกันยาวเลยนะ พอๆ จบเลยจบ! เลิกกอง!” ซอลลี่พูดเสียงดังจนผู้เป็นพี่ชายอย่างชางมินถึงกับนิ่งไป

     

    ละคร? ละครอะไร?คริสถามขึ้นก่อนจะหันไปมองซอลลี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

     

    เอ่อ...คืองี้ คือพี่จำสมัยที่พี่กับยอลลี่รักกันแบบ..ยังไงดีวะ อ่อ รักนะแต่ไม่แสดงออกอะ จำได้ปะ?

    ฮยอนอาพยายามหาทางอธิบายให้คริสฟังแต่ดูเหมือนว่าร่างสูงยังคงงงกับสิ่งที่เธอพูดอยู่ดี

     

    เอาง่ายๆ เลย พวกเราเนี้ยะให้พี่ชางมินสวมบทบาทเป็นมือที่สามเพื่อลองใจพี่กับไอ้ยอลคริสตัลเป็นคนเข้ามาอธิบายเรื่องนี้ด้วยตัวเองเมื่อเห็นว่าฮยอนอาคงจะไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้คริสเข้าใจได้แน่ๆ

     

    ลองใจพี่กับยอลลี่?ร่างสูงชี้หน้าตัวเอง คิ้วหนาเลิกขึ้นถามสาวร่างบางที่ยืนอยุ่ตรงหน้าอีกครั้ง

     

    ตอนแรกว่าจะสองใจทั้งสองคน แต่บังเอิญว่าไอ้ยอลมันฉลาด ดันรู้ทันซะก่อนก็เลยกลายเป็นว่าละครเรื่องนี้สร้างมาเพื่อพี่คนเดียวเลย แหะๆคริสตัลบอกก่อนจะยิ้มให้กับคริสจนตากลมแทบจะกลายเป็นสระอิ

     

    อ๋อ~ เล่นละครกัน นี่รับบทเป็นพระเอกหน้าโง่ที่โดนนางเอกกับเพื่อนหลอกว่างั้นร่างสูงว่าพร้อมกับส่งรอยยิ้มประชด ทำให้ทั้งหมดต้องแสร้งมองไปทางอื่น

     

    เอาน่า~ ถือว่าเป็นสีสันให้ชีวิต เดี๋ยวฉันจะมอบรางวัลนักแสดงนำหน้าโง่ดีเด่นให้พี่เอง ฮ่าๆๆๆๆชานยอลบอกก่อนจะหัวเราะออกมาจนน้ำตาเล็ด

     

    สนุกนักหรอ มานี่เลย!”

     

    เฮ๊ย!”

    ชานยอลร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ร่างสูงช้อนขึ้นไปอุ้มเอาไว้ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางชายหาดสีขาวที่เด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

     

    ฉันว่าเจ้าบ่าว เจ้าสาวพร้อมแล้ว ลุยกันเถอะคริสตัลบอกเพื่อนๆ โดยที่สายตายังคงมองตามเพื่อนร่างโปร่งที่เพิ่งโดนอุ้มไปหมาดๆ

     

    การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งของคริสและชานยอลผ่านไปหนึ่งวันเต็มๆ ทุกภาพออกมาเป็นธรรมชาติมากเพราะซิ่วหมิ่นปล่อยให้ทั้งสองคนเล่นกันได้ตามใจชอบและคนอื่นๆ ก็ดูสนุกกับการถ่ายพรีเวดดิ้งในวันนี้ไปด้วย

     

    หลังจากที่แต่ละคนต้องเหนื่อยจากการจัดหาพร็อพจัดโลเคชั่นให้ว่าที่คู่บ่าวสาวมาทั้งวัน ช่วงกลางคืนจึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนได้มารวมตัวสังสรรค์กันอย่างเต็มที่ แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะกันอย่างสนุกสนานชานยอลกลับปลีกตัวออกมาเดินเล่นอยู่ที่ชายหาดเพียงลำพัง

     

    ท้องฟ้ากลางคืนนี่ยังสวยเหมือนเดิมเนาะ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยเสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลังก่อนที่ร่างโปร่งจะได้รับสัมผัสจากอ้อมกอดของเจ้าของเสียงนั้น

     

    เหมือนเดิมจริงๆ จะผ่านไปกี่ปี พี่ก็ยังมาขัดจังหวะฉันในเวลาแบบนี้ตลอดเลยร่างโปร่งว่าก่อนจะเอียงใบหน้าเรียวไปมองคนที่กำลังโอบตัวเองเอาไว้

     

    แต่มีสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมอยู่อย่างหนึ่งนะ คืนนี้พี่ไม่ได้เอาผ้ามาให้เราคลุมเหมือนครั้งก่อนๆ เพราะครั้งนี้พี่จะกอดเราไว้อย่างนี้ มันอุ่นกว่าผ้าอีกนะจะบอกให้ร่างสูงบอกพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

     

    โถ~ เลิกเสี่ยวเถอะพ่อคุณ อีกไม่กี่เดือนจะแต่งงานกันอยู่แล้วไม่ต้องจีบกันตลอดเวลาแบบนี้ก็ได้ว่าอีกคนก่อนจะหันกลับไปมองทะเลที่มืดสนิทอย่างเดิม

     

    แบบนี้แหละดีแล้ว พี่อยากให้เรารู้สึกเหมือนตอนรักกันใหม่ๆ รู้สึกเหมือนตกหลุมรักแบบนี้ไปเรื่อยๆ อยากเก็บความรู้สึกที่เวลามองหน้าเราแล้วหัวใจมันเต้นแรงแบบนี้เอาไว้ตลอดไป

     

    แหวะ! เสี่ยวว่ะ จะอ้วกจริงๆ นะเนี้ยชานยอลบอกพร้อมกับหันไปเบ้ปากใส่ร่างสูง

     

    หือ? อ้วกหรอ? ท้องอีกแล้วหรอ?ชายหนุ่มถามก่อนจะหมุนร่างคนในอ้อมกอดให้หันหน้าเข้าหากัน

     

    ตลกแล้ว! ยังโว๊ย! อย่าเพิ่งรีบ แต่งงานก่อนเรื่องนี้ค่อยว่ากันว่าพลางใช้มือเรียวตีลงไปบนหน้าผากของคนตัวสูงเบาๆ

     

    ฮ่าๆๆ ก็นึกว่าจะมีเจ้าหนูอีกแล้ว แต่ถ้ามีจริงๆ ครั้งนี้พี่จะดูแลเราให้ดีที่สุดเลย เหตุการณ์อย่างครั้งที่แล้วจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนน้ำเสียงในประโยคตอนท้ายดูเศร้าลงจนชานยอลต้องส่งรอยยิ้มปลอบใจให้กับอีกคน

     

    เอาน่า อย่าไปคิดถึงมันเลย เขาคงมาผิดเวลา ไปหน่อย แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเขากลับมา ฉันจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเลยโอเคไหม?ร่างโปร่งว่าพลางใช้นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมหนาของคนตัวสูงอย่างเบามือ

     

    อื้มงั้นท้องก่อนแต่งมันเลยดีไหม ฮ่าๆๆร่างสูงว่าพร้อมกับหอมแก้มอีกคนอย่างรวดเร็ว

     

    บ้าหรอ! เออนี่ ฉันมีอะไรจะบอกแหละชานยอลบอกก่อนจะส่งรอยยิ้มที่แอบแผงไปด้วยความลับให้กับคริส

     

    อะไรหรอ?

    ร่างสูงเลิกคิ้วถาม ในใจก็แอบคิดไปว่าชานยอลจะยอมบอกเรื่องที่ตัวเองเป็นผู้ชาย แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิด

     

    ฉันอ่านไดอะรี่พี่แล้วนะ

     

    หือ?คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกคนบอกมา

     

    ก็ตอนที่พี่กำลังจะแต่งงานกับยูอีน่ะฉันซักเสื้อผ้าแล้วกะว่าจะเอาไปเก็บให้ แต่พอดีว่าไดอะรี่พี่มันร่วงมาจากไหนก็ไม่รู้ เห็นมีรูปฉันอยู่ในนั้นก็เลยถือวิสาสะอ่านมันซะเลย

     

    แล้วเป็นไงล่ะ?คริสถามพร้อมกับจ้องหน้าอีกคนอย่างต้องการคำตอบ

     

    เขิน

    ร่างโปร่งตอบไปสั่นๆ ก่อนจะแสร้งทำท่าทีเขินอายจนคริสต้องผลักหัวเล็กนั่นด้วยหมั่นเขี้ยว

     

    ทั้งคู่คุยเล่นหยอกล้อกันอย่างที่เคยทำ แม้ว่าเขาทั้งสองคนจะเจอเรื่องราวอะไรมากมายที่ทั้งมีความสุขและทุกข์ แต่ต่อจากนี้ไปทั้งคู่เชื่อว่าความสุขจะต้องมีมากกว่าความทุกข์อย่างแน่นอน

     

    --------------------------------------------------------------------------------------

     

    อิจฉาว่ะ ได้ไปแคนาดาตั้งสองอาทิตย์ กลับมาถ้าไม่มีของฝากล่ะน่าดูชานยอลพูดขึ้นในขณะที่กำลังตรวจสอบความเรียบร้อยของกระเป๋าเดินทางให้อีกคน

     

    ก็บอกให้ไปด้วยกันก็ไม่ไป แล้วมาบ่นเอาตอนนี้ เดี๋ยวเหอะ!”

     

    ก็พี่ไปทำงาน แล้วที่สำคัญถ้าไม่ติดกับต้องจัดการเรื่องงานแต่งที่จะถึงนี่ฉันคงไม่ปฏิเสธพี่หรอกแหม

     

    งั้นค่อยไปหลังแต่งงานเนาะ ถือว่าไปฮันนี่มูนโอเคไหม?ร่างสูงถามพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกับร่างโปร่ง

     

    ถ้าผิดสัญญาฉันจะฆ่าแกเลยนะพี่คริส!” ว่าพลางมองอีกคนด้วยหางตา

     

    กับภรรยาสุดสวยคนนี้พี่ไม่ผิดสัญญาหรอกคร้าบ

    คริสบอกด้วยน้ำเสียงหวานก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนแก้มนิ้มของหญิงสาว

     

    ไปได้แล้ว เดี๋ยวพี่นานะจะรอนานชานยอลบอกก่อนจะส่งเสื้อโค้ทตัวหนาให้กับร่างสูง

     

    พี่จะรีบกลับมานะคริสบอกก่อนจะหอมแก้มแฟนสาวอีกครั้ง

     

    จะกลับตอนไหนก็ตามใจ แต่ต้องกลับมาให้ทันงานแต่งก็แล้วกัน

     

    อีกตั้งสามเดือน เดี๋ยวอีกสองอาทิตย์ก็ได้กลับมานอนกอดเราเหมือนเดิมแล้วคริสบอกพร้อมกับดึงร่างของชานยอลเข้าไปกอดเอาไว้แน่น

     

    โอยย เมื่อไหร่จะได้ไปเนี้ยห๊ะ! ไป! เดี๋ยวพี่นานะรอชานยอลว่าพร้อมกับดันตัวคริสให้เดินออกจากห้องไป

     

    โอเค ไปจริงๆแล้ว มีอะไรโทร.หาพี่นะ

     

    ครับผม! อย่าลืมของฝากนะ ฮ่าๆ

     

    ชานยอลบอกพร้อมกับโบกมือให้กับร่างสูง เขายืนอยู่หน้าห้องจนคริสเดินลับตาไปแล้วจึงจะปิดประตูห้อง แต่บานประตูนั้นปิดลงไม่ถึงสองนาทีมันก็ถูกคนข้างนอกเคาะส่งสัญญาณให้เปิดมันออกอีกครั้ง ในตอนแรกชานยอลคิดว่าคริสอาจจะลืมของ แต่เมื่อเปิดประตูห้องออกไปดูกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

     

    อ้าว คุณป้านั่นเองมีอะไรหรอจ๊ะ?ร่างโปร่งถามเมื่อเห็นว่าเป็นหญิงวัยใกล้ชราที่มีหน้าที่ดูแลคอนโดที่เขาอยู่และร่างโปร่งก็สนิทกับเธอพอสมควร

     

    พอดีป้าต้องออกไปธุระข้างนอก หนูพอจะว่างช่วยดูแลเจ้าหนูนี่ให้ป้าสักวันได้ไหมจ๊ะ

    เธอถามพร้อมกับมองไปที่เด็กชายตัวเล็กที่กำลังอุ้มเอาไว้

     

    ให้ฉันเลี้ยงไอ้แสบนี่น่ะนะ ด๊าย~ แต่ฉันไม่สัญญาว่าตอนป้ามารับ มันจะยังอยู่ในสภาพเดิม หึหึร่างโปร่งบอกพร้อมกับทำตาโตใส่เด็กชายตัวน้อย

     

    ฮ่าๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่ำๆ ป้าจะมารับมันนะ ขอใจหนูมากนะหนูยอลเธอว่าก่อนจะส่งเด็กชายให้กับชานยอล

     

    โอเคครับผม เดี๋ยวฉันจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยว่าพลางหยิกแก้มนิ่มของเด็กชายที่เพิ่งรับมาอุ้มเอาไว้

     

    จ้า งั้นป้าไปก่อนนะจ๊ะ

     

    ชานยอลอุ้มเด็กชายตัวเล็กที่ดูท่าว่าจะซนไม่ใช่น้อยเข้าไปให้ห้องก่อนจะว่างร่างอ้วนกลมลงบนโซฟา ซึ่งทันทีที่เด็กน้อยได้นั่งลงเขาก็จัดการคว้าของที่วางอยู่รอบๆตัวมาเล่นทันที

     

    แน๊ะ! ฉันว่าแล้วไง ซนเหมือนเดิมเลยนะ ซนตลอดเลยยยยยยหญิงสาวว่าก่อนจะคว้าเด็กชายตัวเล็กไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    หิวไหม? เดี๋ยวน้าไปหาอะไรมาให้กิน นั่งอยู่ตรงนี้นะ อย่าซนนะร่างโปร่งชี้นิ้วสั่ง

     

    ป้า

     

    เฮ๊ย! บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกน้า!!”

     

    ป้า!”

     

    เรียกน้าสิโว๊ยยยย!!”

     

    ป้า

     

    อดกินไปเลยแก!”

     

    ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายชานยอลใช้เวลาหมดไปกับการทะเลาะกับเด็กตัวเล็กๆ ทั้งคู่เล่นกันจนหมดแรงสุดท้ายก็ต่างคนต่างหลับไป มาตื่นอีกทีก็ในช่วงเวลาพลบค่ำ

     

    ป้าๆ หนมจินหนม

     

    อื้อ~ ไอ้แสบอย่าซนนะเว้ยชานยอลบอกทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมแต่ แต่ก็พยายามคว้าร่างอ้วนกลมนั่นมากอดเอาไว้

     

    หนมๆเด็กชายว่าก่อนจะป้อนสิ่งที่เขาเรียกว่าขนมให้กับชานยอล

     

    หนมบ้านแกสิ นี่เขาเรียกว่าลูกอมหึ้ยเรด้าในการหาของกินแกนี่ยังใช้ได้เหมือนเดิมเลยนะ

    ร่างโปร่งว่าพลางลุกขึ้นมานั่งมองเด็กตัวน้อยที่กำลังเล่นซนอยู่บนเตียง

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    ไอ้แสบยายแกมารับกลับไปแล้วมั้งน่ะ ไปๆ กลับบ้านกลับช่องเลยไปร่างโปร่งว่าก่อนจะลุกขึ้นจะเตียงแล้วอุ้มเด็กชายออกไปจากห้องนอน

     

    มาแล้วคร้าบชานยอลเปิดประตูออกไปพร้อมกับยิ้มร่าให้กับแขกที่มาเยื่อน

     

    ไอ้หนูมันซนไหมจ๊ะ มันทำให้หนูยอลเหนื่อยหรือเปล่าลูกเธอถามชานยอลทันทีที่รับหลานชายไปอุ้มเอาไว้

     

    ถ้าไม่ซนก็แปลกแล้วล่ะ แต่ก็สนุกดีไม่เหนื่อยสักเท่าไหร่ร่างโปร่งว่าพลางส่งมือเรียวไปหยิกแก้มนิ่มของเด็กชายอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    ขอบใจมากนะลูก นี่ป้าซื้อขนมมาฝากหนูด้วยเธอว่าพร้อมกับส่งของที่เธอว่าให้กับชานยอล

     

    ขอบคุณมากค่ะ ไว้วันหลังเอาเจ้าอ้วนนี่มาให้ฉันรังแกอีกนะป้า ฮ่าๆๆๆ

     

    จ้า ว่างๆแวะไปหาป้าได้นะลูก ป้าไปก่อนนะ

     

    ครับผม

     

    ชานยอลตอบรับก่อนจะโบกมือลาหญิงวัยใกล้ชราที่ขอตัวกลับไป แต่อยู่ๆ ชานยอลก็ต้องหุบยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเด็กชายได้ป้อนลูกอมให้กับตัวเอง ความจริงมันไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากหากไม่นึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่เคยซื้อลูกอมเอาติดห้องเอาไว้

     

    ร่างโปร่งรีบวิ่งกลับมาในห้องนอนอีกครั้ง เขารื้อผ้าห่มออกทั้งหมดเมื่อหาเศษห่อลูกอมที่คิดว่าเด็กชายน่าจะทิ้งไว้และเมื่อเจอมันชานยอลถึงกับกลืนน้ำลายให้ลงคอไปไม่ได้ เพราะห่อลูกอมนั้นมันช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกิน

     

    เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่ามันเป็นสิ่งนั้นจริงๆ หญิงสาวรีบรื้อลิ้นชักข้างเตียงอีกครั้งและมันก็ทำให้เขาใจหายวาบเมื่อไม่เจอสิ่งที่กำลังค้นหา

     

    ฉิบหายละ!”

     

    หญิงสาวมองไปยังเศษห่อลูกอมที่อยู่บนเตียงอีกครั้งก่อนจะเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาดูชัดๆ และนั้นทำให้เขาต้องตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่เพราะมันคือสิ่งที่เขาได้พยายามซ่อนมันเอาไว้นั่นเอง

     

    ชานยอลรีบหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาก่อนจะโทร.หาเพื่อนที่สนิทที่สุด สติของเขาเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเขายกฝ่ามือที่สั่นเทาของตัวเองขึ้นมาดูตลอดเวลา เขายังไม่พร้อมที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองในตอนนี้ เพราะอีกแค่สามเดือนข้างหน้านี้เขาและคริสก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว

     

    ฮัลโหล ไอ้แบคมึงอยู่ไหน!?”  ชานยอลรีบถามอีกคนทันทีที่มีเสียงตอบรับจากปลายสาย

     

    มึงกูแย่แล้ว กูกำลังจะแย่ กูเผลอกินลูกอมเม็ดนั้นเข้าไป คืนนี้กูต้องกลับไปเป็นผู้ชายแน่ๆ!!”

    ชานยอลบอกคนในสายด้วยน้ำเสียงของคนที่กำลังจะร้องไห้และเมื่อแบคฮยอนได้ยินสิ่งที่เพื่อนบอกเขาก็ตกลงที่จะมาหาร่างโปร่งทันที

     

    ชานยอลทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างคนสิ้นหวัง เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองกำลังจะพังทลายลงในไม่ช้านี้ สติทั้งหมดของเขาถูกครอบงำไปด้วยความกลัว ร่างผู้ชายที่เคยหายไปกำลังจะกลับมา กลับมาในช่วงเวลาที่เขายังไม่พร้อม ไม่พร้อมเอามากๆ

     

    เวลาผ่านไปไม่นานแบคฮยอนก็มาถึงคอนโดของชานยอลและเขาก็เห็นเพื่อนของตัวเองในสภาพที่ตกอยู่กับความตื่นกลัว ร่างโปร่งดูเหมือนคนอยากจะร้องไห้ แต่ก็ไม่สามารถร้องออกมาได้ ทุกอย่างมันดูวุ่นวายแบบเงียบๆ

     

    มึงโอเคป่าววะ?แบคฮยอนถามเพื่อนที่อาการเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

     

    มึงคิดว่ากูโอเคปะล่ะ

     

    เออว่ะ กูไม่น่าถามเลย

     

    กูแย่แล้ว พรุ่งนี้ร่างกูต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิมแน่ๆ

     

    ชานยอลบอกก่อนจะทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง แต่เมื่อปล่อยมือออกจากเส้นผมยาวของตัวเองมันก็ต้องทำให้เขาคลั่งมากกว่าเดิม เมื่อมีเส้นผมติดมือเขามาเป็นกระจุก

     

    แบค! แย่แล้วอะ!” ชานยอลร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมองดูเส้นผมในมือของตัวเอง

     

    มึงใจเย็นๆ นะใจเย็นๆ มึงลองนึกดูสิว่าพอจะมีทางแก้ไขหรือเปล่าแบคฮยอนบอกพร้อมกลับจับไหล่เพื่อนเอาไว้

     

    ไม่มี! มันจะมีได้ยังไง ในเมื่อนี่มันคือทางออกของปัญหาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ทางออกนี้แม่ง กลายเป็นปัญหาของกูไปแล้ว!”ชานยอลบอกด้วยน้ำเสียงของคนที่กำลังสติแตก

     

    เอาแล้วไง! อีกสามเดือนก็จะแต่งงานแล้ว เดือนหน้าก็จะเชิญแขกอยู่แล้ว ทำไงล่ะทีนี้แบคฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลไม่แพ้กัน

     

    โอ๊ยยยยยย!!!! กูอยากจะบ้า!”

     

    ร่างโปร่งตะโกนออกมาราวกับคนกำลังจะบ้าจริงๆ ผิวหนังที่ขาวเนียนของหญิงสาวค่อยๆเปลี่ยนไปหยาบกร้านในแบบผิวหนังของผู้ชาย น้ำใส่ๆ ในตาค่อยๆไหลออกมา ความฝันของเขาใกล้จะพังทลายไปเต็มที ความลับที่ถูกเก็บไว้กำลังจะถูกเปิดเผย

     

    มึงทำใจดีๆ ทุกอย่างมันต้องดี พี่คริสรับได้มึงเชื่อกูสิ พี่คริสรับได้ไม่ว่ามึงจะเป็นอะไรก็ตามแบคฮยอนพยายามอธิบายในสิ่งที่ตัวเองรู้ให้เพื่อนฟัง แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาจะไม่ได้ฟังมันสักเท่าไหร่

     

    ไม่! เขารับไม่ได้หรอก เขารับไม่ได้แน่ๆ ไม่มีใครรับได้หรอก!! ฮึกชานยอลบอกพร้อมกับร้องไห้ออกมาในที่สุด

     

     “เฮ๊ยมึง! ฟังกูก่อนสิ!” แบคฮยอนพูดเสียงดังลั้นเมื่อเห็นว่าชานยอลเริ่มไม่มีสติที่จะฟังเขาแล้ว

     

    ไม่! กูอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว กูต้องไป กูจะไปญี่ปุ่น!”

     

    มึง! มึงตั้งสติดีๆ หายใจลึกๆ มันไม่ได้จะเลวร้ายขนาดนั้น

     

    ไม่ๆๆ กูต้องไป! มึงกลับไปได้แล้ว กูจะไปเก็บของ กูต้องรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

    ร่างโปร่งบอกก่อนจะลุกขึ้นหมายจะไปเก็บข้าวของของตัวเองเพื่อเตรียมเดินทางไปญี่ปุ่นตามที่เขาได้บอก

     

    ไอ้ยอล มึงบ้าไปแล้วแน่ๆ มึงช่วยฟังกูหน่อยสิวะ!”

     

    ไป!!! มึงกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ร่างโปร่งตวาดใส่เพื่อนร่างเล็กก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปโดยไม่สนใจแบคฮยอนอีกเลย

     

    ร่างโปร่งทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอีกครั้ง หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่สามารถหยุดมันไว้ได้ ตอนนี้เขาก็ได้แต่ภาวนาให้ลีอาห์กลับมาหาเขาอีกสักครั้ง แต่มันก็เป็นได้แค่คำภาวนาลอยๆ ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยความรู้สึกทรมาน

     

    ชานยอลทิ้งตัวเองให้นอนอยู่ท่ามกลางความมืดของห้อง เขาไม่อยากเห็นร่างที่เปลี่ยนไปของตัวเอง แต่แม้ว่าจะไม่เห็นมัน เขาก็รับรู้ได้ว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว...

     

     

    แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้อง เสียงนกร้องที่ชานยอลเคยรู้สึกว่ามันเพราะพริ้ง ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเพราะอย่างเดิมอีกต่อไป ร่างโปร่งลืมตาขึ้นสู้กับแสงแดดที่ส่องเข้ามา เปลือกตาหนากระพริบถี่ๆ เมื่อรู้สึกว่าแสงมันจ้าเกินกว่าที่จะสายตาจะทนรับได้ ชานยอลลุกขึ้นนั่งราวกับครึ่งหลับครึ่งตื่นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยสภาพที่ล่องลอย

     

    สิ่งที่ทำให้เขาตื่นได้เต็มตาก็คือเงาสะท้อนจากกระจกบานโต เขากลับมาเหมือนเดิมทุกอย่าง กลับมาเป็นชานยอลคนเดิม คนที่เขาเคยใฝ่หาอยากจะเป็น

     

    ชานยอลที่เป็นผู้ชาย...

     

    ร่างโปร่งทรุดตัวลงกับพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรง เขารู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาได้หายไปพร้อมๆกับร่างผู้หญิง ทุกอย่างที่เคยสวยงามพังหมดแล้วทุกอย่าง งานแต่งงานอีกสามเดือนข้างหน้าจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีกแล้วตอนนี้เขาคิดเพียงแค่อยากหนี หนีไปให้พ้นจากที่นี่ หนีไปให้พ้นจากคนที่เคยรู้จักเขาในรูปแบบของการเป็นผู้หญิง

     

    ใช่...ต้องหนี

     

     

    KRIS PART

     

    ห้าวันแล้วที่ผมต้องมาอยู่ที่แคนาดา แต่บอกเลยว่าผมรู้สึกใจคอไม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่มาที่นี่ ผมรู้สึกคิดถึงชานยอลมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่เมื่อโทร.ไปหาเจ้าตัวกลับไม่รับโทรศัพท์ผมเสียอย่างนั้น แต่วันนี้มันทำให้ผมรู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นผ่านๆ แต่มันเป็นลางสังหรณ์ต่างหาก

     

    ในระหว่างที่ผมอยู่ในช่วงพักเบรกตอนกลางวันอยู่ๆ โทรศัพท์ของผมก็มีสายเข้าและเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอก็ยาวกว่าปกติซึ่งต้องโทร.มาจากต่างประเทศอย่างแน่นอนและรหัสนำหน้ามันก็บอกอยู่แล้วว่าต้นสายมาจากเกาหลี

     

    ฮัลโหลครับ

     

    พี่คริส ผมแบคฮยอนพูดนะครับ!”

     

    ผมยิ้มเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าคนที่โทร.มาคือใคร แต่น้ำเสียงของเขาทำให้ผมไม่กล้ายิ้มได้มากกว่านั้น เมื่อมันฟังดูแล้วเหมือนจะมีเรื่องที่ไม่ดีสักเท่าไหร่

     

    พี่คริส พี่..จำเรื่องที่เราเคยพูดกันได้ไหม? เรื่อง...เรื่องชานยอลน่ะ

     

    ผมยิ่งใจไม่ดีเข้าไปใหญ่ เมื่อคนที่แบคฮยอนพูดถึงเป็นชานยอล ผมไม่อยากคิด ไม่อยากเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมักจะมาเหนือความคาดหมายตลอดทุกครั้ง

     

    อืม..ว่าแต่ช่วงนี้เขาไปไหนของเขา โทร.ไปก็ไม่รับ

     

    เอ่อ..มันไปญี่ปุ่นแล้วพี่

     

    หือ?? ญี่ปุ่น? กลับไปหาครอบครัวหรอ? แล้วนอกจากยูราแล้วคนอื่นๆ ก็รู้แล้วรอว่าชานยอลเขาเป็นยังไง

     

    ผมรู้สึกได้ว่าคิ้วของผมแทบจะรวมตัวกัน เพราะสิ่งที่แบคฮยอนพูดนั้นมันทำให้ผมชักจะงง ชานยอลเคยบอกกับผมไว้ว่าจะกลับไปญี่ปุ่นอีกทีก็อาจจะเป็นหลังแต่งงาน ซึ่งผมเข้าใจว่าเขาอาจจะให้พี่สาวเป็นฝ่ายเคลียร์ทางให้ก่อนและเมื่อทุกอย่างพร้อมเขาถึงจะกลับไป แต่นี่อยู่ๆ ก็กลับไปแบบกะทันหันเสียอย่างนั้น

     

    คืองี้นะพี่ มันเป็นอุบัติเหตุอะ ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด คือ...

     

    แบคฮยอน ตักน้ำทิ้งเอาแต่เนื้อๆ มาพอ พี่ไม่มีเวลาคุยมากนัก ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น!”

    ผมถามออกไปอย่างเหลืออด เพราะยิ่งอีกคนอารัมภบทมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งใจไม่ได้มากเท่านั้น

     

    สั้นๆ เลยนะฮะ คือชานยอลมัน....

     

    ช่วงที่แบคฮยอนเว้นวรรคประโยคไป ความคิดบ้าก็ผุดขึ้นมาในหัวผมมากมาย ผมเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับอีกคน กลัวว่ายูอีจะกลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง แต่เมื่อแบคฮยอนบอกประโยคที่เหลือ สิ่งที่ผมคิดไว้ก่อนหน้านี้กลายเป็นแค่สิ่งที่บังเอิญผ่านเข้ามาในความคิดเท่านั้นเอง

     

    ชานยอลมัน...กลับไปเป็นผู้ชายแล้วครับพี่

     

    บอกแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมักมาเหนือความคาดหมายเสมอ แต่ตอนนี้สมองผมกลับมีเพียงความว่างเปล่า ผมไม่รู้จะตอบคนในสายว่าอย่างไร เพราะสุดท้ายวันนี้ก็มาถึงจนได้ แต่มาถึงเร็วไปหน่อย เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราสองคนก็จะเข้าพิธีแต่งงานอยู่แล้ว ผมรู้สึกได้ว่ามือของผมกำลังสั่น  แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้ก็คือชานยอล

     

    เดี๋ยวพี่จัดการเอง

     

    ผมบอกคนในสายก่อนจะกดตัดสายไปในทันที ตอนนี้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานอีกต่อไป เรียกได้ว่าแม้ตัวจะอยู่ที่แคนาดา แต่ใจนี่คงไปถึงญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    หลังจากเคลียร์กับแม่เรื่องงานเป็นที่เรียบร้อย เป้าหมายต่อไปของผมก็คือไปญี่ปุ่น ผมเคยให้สัญญากับชานยอลไว้ว่า ถ้าวันใดวันหนึ่งเขาหนีผมไป ผมจะเป็นคนตามเขากลับมาเอง แล้ววันนี้ก็มาถึง แต่ที่ผมจะทำต่อไปนี้ ไม่ใช่เพราะคำสัญญา แต่ผมจะตามเขากลับมา เพราะผมรักเขา...

     

    ----------------------------------------------------------------------------

     

    หลังจากที่คริสไปแคนาดาได้เพียงห้าวัน ชานยอลก็ตัดสินใจหอบผ้าหอบผ่อนไปยังประเทศญี่ปุ่น แต่ในความเสียใจนั้นก็ยังมีเรื่องให้ยินดี เพราะเขาสามารถกลับไปเจอครอบครัวได้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้มันมากมายและได้กลับไปหาครอบครัวในฐานะลูกชายอย่างที่ควรเป็น

     

     

    ชานยอลขึ้นรถไฟมุ่งหน้าสู่โตเกียว สภาพของเขาตอนนี้ราวกับคนที่ไร้ความรู้สึก แต่ความรู้สึกเดียวที่เขามีก็คือคิดถึง ความคิดถึงที่ไม่สามารถส่งถึงคนๆนั้นได้ เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อน ถ้ารู้สึกว่าคิดถึงเขาก็แค่กดโทรศัพท์หาคนๆ นั้น แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ มันไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกแล้ว...

     

    หนึ่งชั่วโมงจากนาริตะสู่โตเกียว ภายใต้ความรู้สึกเจ็บปวดก็ยังมีความรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ อีกไม่นานชานยอลก็จะได้เจอครอบครัวอีกครั้งหลังจากที่ต้องห่างหายไปเพราะต้องปกปิดเรื่องที่ตัวเองกลายเป็นผู้หญิง

     

    ร่างโปร่งเดินไปบนถนนที่มีผู้คนสัญจรไม่มากนักและถนนเส้นนี้ยิ่งสวยงามมากขึ้นเมื่อมันถูกโรยไว้ด้วยกลีบซากุระสีชมพูอ่อน ร่างโปร่งหยุดสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอดก่อนจะปล่อยมากออกมาแรงๆ แล้วออกเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว

     

    ร่างโปร่งหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก บรรยากาศโดยรอบแลดูอบอุ่นมากกว่าบ้านหลังอื่นเป็นพิเศษ ชานยอลยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะผลักประตูรั้วเข้าไปภายในบริเวณบ้านหลังนั้น ร่างโปร่งมองไปรอบรอบๆตัว ทุกอย่างภายในบริเวณบ้านยังเหมือนเดิมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม

     

    ร่างโปร่งหยุดที่หน้าประตูอีกบาน เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นเคาะบานประตูนั้นเพื่อเรียกให้คนข้างในเปิดมันออกมา เสียงตอบรับจากคนข้างในทำให้เขาแอบตื่นเต้นอยู่บ้างเล็กน้อย เพราะหลายปีแล้วที่เขาไม่มีโอกาสได้กลับมาที่นี่ มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนเกือบจะลืมเรื่องที่เป็นสาเหตุให้เขากลับมาที่นี่

     

    ชะ ชานยอล!!”

     

    ทันทีที่คนในบ้านเปิดประตูออกมาเจอหน้าเขา หญิงวัยกลางดูอึ้งไปก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดร่างโปร่งเอาไว้ อ้อมกอดของคนที่เขาคิดถึงมาตลอดทำเอาชานยอลแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

     

    วันนี้ไม่ได้ไปที่ร้านหรอฮะ?ร่างโปร่งผละตัวออกจากหญิงวัยกลางและนั่นก็ทำให้เขาเห็นว่าเธอกำลังมีน้ำตา แต่เป็นน้ำตาของความดีใจ

     

    พอดีแม่กลับมาเอาของน่ะ ว่าแต่เราเถอะจะกลับมาทำไมไม่บอกก่อนห๊ะ! แม่ก็เลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้เลยเห็นไหมหญิงวัยกลางว่าพลางตีลงบนต้นแขนของลูกชายเบาๆ

     

    อ่าว! ถ้าบอกแล้วมันจะเซอร์ไพรส์หรอ ฮ่าๆชานยอลว่าพลางดึงร่างผู้เป็นแม่เข้าไปกอดเอาไว้อีกครั้ง

     

    โอ๊ยย เซอร์ไพรส์จนมือไม้สั่นไปหมดแล้ว ไปๆ เข้าบ้านๆ”  หญิงวัยกลางว่าก่อนจะดันตัวลูกชายเข้าไปภายในตัวบ้าน

     

    อ้าว! ยูราจะออกไปข้างนอกหรอลูก! ดูสิว่าใครมาคนเป็นแม่บอกพร้อมกับยิ้มกว้างให้กับลูกสาวคนโต แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายลูกสาวนั้นจะแสดงสีหน้าตกใจมากกว่าดีใจเสียอีก

     

    ไอ้ยอล!!”

     

    ยูรามองอีกคนอย่างไม่เชื่อสายตา ชานยอลกลับมาเป็นผู้ชายเหมือนเดิมโดยไม่มีอะไรผิดปกติไปแม้แต่น้อย หญิงสาวจ้องหน้าผู้เป็นน้องชายแทบจะไม่กระพริบตา แต่เมื่อเรียกสติตัวเองกลับมาได้ เธอก็รีบคว้าตัวน้องขึ้นไปชั้นบนทันที

     

    แกกลับมาเป็นผู้ชายได้ยังไง!” ยูรายิงคำถามทันทีที่ลากตัวชานยอลขึ้นมายังห้องนอนได้สำเร็จ

     

    เค้าไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุร่างโปร่งว่าก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างอ่อนล้า

     

    แกเอ๊ยยยย! ซวยแล้วไหมล่ะทีนี้ จะแต่งงานอยู่พรุ่งนี้มะรืนนี้แล้ว นี่ดีนะที่ฉันยังไม่ทันได้บอกแม่ไปว่าแกเป็นผู้หญิงยุราว่าก่อนจะพ้นลมหายใจออกมาแรงๆ

     

    อยากหายไปจากโลกนี้จังเลยชานยอลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

     

    เอาน่ะ ฉันเคยบอกแกแล้วใช่ไหมว่าทุกอย่างต้องมีทางแก้

     

    เหนื่อยอะ ไม่อยากแก้แล้ว ตัดมันเลยเถอะ ทิ้งมันไปเลย

     

    ยูรานั่งมองน้องชายของตัวเองด้วยความสงสารจับใจ ครั้งแรกที่เธอเห็นว่าชานยอลกลับมาเป็นผู้ชายเธอแอบตกใจไม่ต่างจากตอนที่เห็นว่าชานยอลเป็นผู้หญิงเลย

     

    ครืด~ ครืดดด~~

     

    หญิงสาวปรายตาไปมองต้นเสียงที่สั่นอยู่ในกระเป๋า ร่างบางลุกขึ้นไปหยิบมันออกมา แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทร.เข้ามา

     

    เดี๋ยวฉันออกไปทำงานก่อนนะ แกก็พักผ่อนไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะรีบกลับมา

    ร่างบางบอกกับน้องชายก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายออกจากห้องไป

     

    จบแล้ว..ละครของเรามันจบลงแล้ว..

     

    ชานยอลพูดกับตัวเองก่อนจะปล่อยให้หยดน้ำตาไหลออกมา ร่างโปร่งพยายามใช้ความเหนื่อยล้าข่มตาให้หลับไป อยากให้ตื่นมาแล้วพบว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น...

     

    ----------------------------------------------------

     

    สามวันที่ชานยอลใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่น หลังจากที่กลับมาใช้ชีวิตในร่างเดิมเขาแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย เพราะทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมโดยอัตโนมัติ มีเพียงอย่างที่เดียวที่เขาไม่สามารถทำให้มันเป็นปกติได้ นั่นก็คือ..หัวใจ

     

    อ่าว ชานยอลจะออกไหนหรอลูก ไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันหรอ?

    หญิงวัยกลางถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กกำลังจะออกไปข้างนอก

     

    ว่าจะออกไปเดินเล่นน่ะแม่ ไม่ได้กลับมาญี่ปุ่นตั้งนานขอสำรวจความเปลี่ยนแปลงกันหน่อย

     

    ไปดิ! ไปเลย แถวชิบุยะมีงานอะไรสักอย่าง แกลองไปเดินดูดิยูราที่กำลังช่วยผู้เป็นแม่ทำกับข้าวรีบหันมาส่งเสริมให้น้องชายออกไปข้างนอกทันที

     

    อ่อ หรอ เออเดี๋ยวจะไปเดินๆดู ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อนะแม่ ร่างโปร่งบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านไป

     

    น้องแกดูแปลกๆไปนะยูราหญิงวัยกลางพูดขึ้นหลังจากที่หันกลับมาทำอาหารต่อ

     

    ปล่อยนางไปก่อนเหอะแม่ ช่วงนี้นางเฮิร์ทยูราที่กำลังหั่นผักบอกพลางอมยิ้มไปด้วย

     

    แน่ะ! โดนสาวทิ้งเร๊อะ ถึงว่าล่ะถึงได้บินมามปุบปับขนาดนี้

     

    ใครบอกว่าโดนหญิงทิ้งยูราว่าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้เป็นแม่

     

    แกหมายความว่าไง?หญิงวัยกลางถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

     

    แม่ ถ้าหนูบอกไปแล้ว แม่อย่าโกรธไอ้ยอลมันนะหญิงสาวบอกด้วยสีหน้าที่แอบเป็นกังวลเล็กน้อย

     

    ว่า?

     

    ที่หนูบอกว่ามันกำลังเฮิร์ท มันไม่ได้โดนสาวทิ้ง แต่...ยูราเว้นวรรคประโยคเอาไว้ ยิ่งทำให้คนเป็นแม่อยากรู้มากขึ้นกว่าเดิม

     

    แกอย่ามาพูดยืดเยื้อเหมือนละครหลังข่าว แล้วอย่าได้คิดตัดเข้าโฆษณาเลยเชียว!”

     

    โอเคๆ ไอ้ยอลมันเพิ่งทิ้งผู้ชายมา!”

     

    ห๊ะ!!”

    หญิงวัยกลางแทบจะทิ้งกับข้าวลงถังขยะทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากของลูกสาวคนโต

     

    แม่ห้ามโกรธ!!” ยูราว่าพร้อมกับทำตาโตใส่แม่ของตัวเอง

     

    โอย เป็นลมแป๊ป!” หญิงวัยกลางบอกก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างโต๊ะทำกับข้าว

     

    อนุญาตให้เป็นลม แต่ไม่อนุญาตให้โกรธไอ้ยอลนะยูราบอกก่อนจะกลับไปสนใจวัตถุดิบที่กำลังจะใช้ทำอาหารมื้อเย็น

     

    ตายแล้วลูกชายฉัน! ไม่ได้อยู่ดูแลไม่กี่ปีมันเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เลยหรอ!?

     

    เอาหน่า~ ยังไงมันก็ยังเป็นลูกแม่ ยังเป็นน้องชายหนูนะ ตอนที่หนูรู้นะหนูโกรธมันยิ่งกว่านี้อีก แต่เรื่องอย่างนี้มันบังคับกันไม่ได้หรอก มันเหมือนตอนที่ตากับยายห้ามแม่ไม่ให้คบกับพ่อนั่นแหละ สุดท้ายเป็นไงล่ะ?ยูราหั่นผักไป แต่ปากก็ตั้งคำถามหญิงวัยกลางไปด้วย

     

    สุดท้ายก็มีแกนี่ไง

     

    นั่นไง! เพราะฉะนั้นแม่ไม่ต้องไปโกรธไอ้ยอลมันหรอก เพราะถ้ามันจะรักซะอย่างนะ พ่อกับแม่ห้ามมันไม่ได้หรอก เชื่อหนูสิ

     

    แล้วถ้าพ่อแกรู้ล่ะ?หญิงวัยกลางถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะกลัวว่าผู้เป็นสามีจะโกรธเรื่องของลูกชายคนเล็ก

     

    พ่อเขาก็พูดประโยคเดียวกับแม่นี่แหละ!”

     

    ห๊ะ!”  หญิงวัยกลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีที่ได้ยินคำตอบของลูกสาว

     

    นั่นแหละ ตามนั้นเลย หนูคุยกับพ่อไปตั้งแต่วันแรกที่หนูกลับมาที่นี่แล้ว

     

    แล้วพ่อแกว่าไง?ผู้เป็นแม่ถามลูกสาวด้วยความกระตือรือร้น

     

    ก็มีเงิบนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ปลง

     

    แล้วทำไมไม่มีใครบอกฉันเลย!?”  หญิงวัยกลางเริ่มโวยวายเมื่อรู้ตัวว่าเธอรู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้าย

     

    พ่อบอกว่าอย่าบอกแม่ เพราะถ้าแม่รู้แม่จะพูดมาก!”

     

    ยูรา!! เย็นนี้แกเตรียมตัวไดเอทได้เลย!”

     

    โอ๊ะๆๆ แม่จ๋าๆ แม่ใจดีที่สุดเย้ยยยย~”

     

    ทั้งสองแม่ลูกง้องอนกันไปตามทาง แม้จะติดใจเรื่องของชานยอลอยู่บ้างก็ตาม แต่ด้วยความที่รักลูก เธอจึงจำเป็นต้องปล่อยไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็น เพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องของความรักมันเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นเพศเดียวกัน แต่ในเมื่อมันรักไปแล้ว เรื่องเพศก็คงไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป เธอจึงคิดไปเสียว่าหากลูกชายของเธอมีความสุข เธอก็จะมีความสุขไปกับลูกชายของเธอ

     

    -----------------------------------------------------------------

    ชานยอลเดินเรื่อยเปื่อยอย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ร่างโปร่งยกข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูและพบว่าสายข้อมือเส้นสีฟ้ามันดูแน่นไปกว่าเมื่อก่อน เพราะหลังจากกลับมาร่างเดิมทุกส่วนก็กลับมาแกร่งตามสภาพ ร่วมทั้งข้อมือที่เคยเล็กนั่นด้วย

     

    ร่างโปร่งมองข้อมือตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะถอนหายใจแล้วจัดการแกะสายข้อมือเส้นสีฟ้านั้นออกแล้วเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเอง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากจะถอดมันออกจากข้อมือ แต่หากยังใส่เอาไว้เขาคงไม่มีทางหยุดคิดถึงคนให้แน่ๆ

     

    ร่างโปร่งเดินต่อไปเรื่อยๆ จนไปเจอลานน้ำพุกว้างในจุดหนึ่งของชิบูย่า ซึ่งมันถูกจัดขึ้นมาสำหรับงานเทศกาลสักงานหนึ่ง ความมหัศจรรย์ของมันก็คือสายน้ำมันจะพุ่งออกมาตามจังหวะเพลง ความมืดยามค่ำคืนทำให้เห็นแสงสีของไฟที่ใช้ประดับตกแต่งน้ำพุนั่น

     

    ชานยอลยืนมองสายน้ำที่ถูกพ่นออกมาอย่างเพลิดเพลิน สายตามเต้นไปตามจังหวะเพลงราวกับว่ามันมีชีวิต ความสวยของน้ำและไฟหลายสีทำให้ชานยอลอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาจ้องมองมันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งจบเพลง น้ำทุกหยดร่วงกลับลงสู่พื้น เพลงหยุด ทุกอย่างเงียบลงในทันที

     

    แต่ไม่ใช่ใจของเขา...

     

     

    เมื่อน้ำพุที่เคยพวยพุ่งหยุดลง มันทำให้ร่างโปร่งมองเห็นฝั่งตรงข้ามได้ชัดเจนและสิ่งที่ทำให้ใจชานยอลเต้นแรงกว่าปกติคือร่างสูงโปร่งของคนที่เขาคุ้นเคยยืนเด่นอยู่อีกฝั่ง ตาคมคู่นั้นมองตรงมาราวกับต้องการสะกดให้ร่างโปร่งเดินเข้าไปหา

     

    ชานยอลหลบสายตาคู่นั้นก่อนจะสบัดหัวไปมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองและเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้งก็พบว่าคนๆ นั้นไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว

     

    เป็นเอามากเลยนะเรา

    ชานยอลพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปจากลานน้ำพุกว้างนั้นทันที

     

     

    หลังจากเดินเที่ยวเป็นที่สมควรแล้ว ชานยอลจึงมุ่งหน้ากลับเข้าบ้านของตัวเอง เขานั่งรถมาจนถึงทางเข้าบ้านและเนื่องจากว่าเป็นเวลาดึกแล้วถนนสายนี้จึงดูเงียบสงบไร้คนสัญจรอย่างตอนกลางวัน แต่เขาพึงพอใจกับความเงียบสงบนี้มาก ร่างโปร่งเดินตามถนนอย่างไม่เร่งรีบ แต่แล้วเขาก็ต้องชะลอความเร็วในการเดินให้ช้าลงกว่าปกติ เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนเดิมตามเขามา

     

    “!!”

     

    ชานยอลแสดงอาการตกใจทันทีที่หันหลังกลับไปและพบว่าคนที่กำลังเดินตามหลังเขาอยู่นั้นก็คือ...คริส

     

    เดินคนเดียวแบบนี้มันอันตรายรู้ไหม?ร่างสูงบอกพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปหาชานยอล

     

    คุณ...เป็นใคร”  ชานยอลถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่เหมือนมีอะไรมาขวางคอเอาไว้

     

    ชานยอล....กลับไปด้วยกันเถอะนะ

     

    คริสมองชานยอลด้วยสายตาอ้อนวอนและมันก็ทำให้ร่างโปร่งทำอะไรไม่ถูก เขาจึงตัดสินใจเตรียมจะวิ่งหนีอีกคน แต่หันหลังยังไม่ทันพ้นก็โดนคริสคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

     

    ไปกับพี่เดี๋ยวนี้!”

     

    ไม่ไป! แล้วก็ปล่อยมือผมด้วย! ผมไม่รู้จักคุณ!”

     

    เมื่อเป็นผู้ชายเรี่ยวแรงของเขาจึงมีมากกว่าเดิม ชานยอลสะบัดข้อมือตัวเองออกจากมือหนาของคริสเพียงครั้งเดียวข้อมือของเขาก็หลุดออกจากมือของคริสทันที

     

    ชานยอล...

     

    คริสเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงเบาพร้อมกับมองด้วยสายตาอ้อนวอน แต่ร่างโปร่งกลับเมินหน้าหนีก่อนจะหลังเดินต่อไป

     

    ชานยอลกลับไปกับพี่เดี๋ยวนี้!” ร่างสูงบอกเสียงแข็งพร้อมกับเข้าไปกระชากแขนของชานยอลไว้อีกครั้ง

     

    ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่รู้จักคุณ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปกับคุณ!!” ร่างโปร่งบอกและพยายามดึงแขนกลับ แต่ครั้งนี้มันถูกคริสจับไว้แน่นจนเขาไม่สามารถดึงแขนตัวเองออกมาให้เป็นอิสระได้

     

    อย่าทำแบบนี้เลย ไม่ว่าเราจะเป็นใคร อยู่ในร่างไหน พี่ก็จำเราได้ทั้งนั้นแหละ!” คริสบอกด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน แต่มันก็ขัดกับสายตาที่เขาใช้มองชานยอล สายตาที่ดูเหมือนพยายามที่จะวิงวอนให้อีกคนใจอ่อนยอมกลับไปกับเขา

     

    ปล่อยผมเถอะ...ปล่อยผมไปเถอะ...ชานยอลบอกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

     

    เราไม่รักพี่แล้วหรอ?..........

     

    คำถามของร่างสูงทำให้ชานยอลนิ่งเงียบไป แม้ในใจมันอยากจะตะโกนเสียงดังลั่นว่ารักมากแค่ไหน แต่ชานยอลก็ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาเป็นคำพูดให้คริสได้ยินได้

     

    กลับไปกับพี่เถอะนะ...พี่ขอร้อง

     

    คุณกลับไปเถอะ...ทุกอย่างมันจบบริบูรณ์แล้ว

     

    ร่างโปร่งบอกด้วยน้ำเสียงเรียบก่อนจะดึงแขนที่ถูกคริสจับเอาไว้ออกมาอย่างง่ายดาย ตากลมพยายามหลบสายตาไปทางไหนก็ได้ที่จะทำให้ไม่เห็นหน้าของคริส เพราะยิ่งเขาได้เห็น มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บ

     

    ได้.....พี่กลับก็ได้ แต่...

     

    ร่างสูงเว้นวรรคคำพูดเอาไว้ ทำให้ชานยอลต้องหันกลับไปมองหน้าเขาอีกครั้งและมันทำให้เขาเห็นว่านัยตาของร่างสูงเริ่มแดงก่ำ ตาคมมองมายังชานยอลด้วยสายตาที่แข็งกร้าวก็จะพูดประโยคต่อมา

     

    พี่จะกลับก็ต่อเมื่อเราไปกับพี่ด้วยเท่านั้น!!”

     

    เฮ๊ย! ปล่อย!!”

     

    ร่างสูงว่าก่อนจะกระชากแขนชานยอลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาออกแรงกระชากอย่างแรงจนทำให้ชานยอลต้องเดินตามเขาไปพร้อมกับความเจ็บปวดที่ข้อมือและไม่ว่าจะร้องขอให้ร่างสูงปล่อยเขาสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าคริสจะไม่ได้สนใจเสียงของคำขอร้องนั้นเลย

     

     

     

    ทั้งคู่ใช้เวลาในการเดินทางมาอีกที่ในเวลาไม่นาน ซึ่งร่างโปร่งเดาว่าอาจจะเป็นโรงแรมที่คริสพักอยู่และเมื่อทั้งสองลงจากแท็กซี่คริสก็ยังคงกระชากแขนชานยอลให้เดินตามเขาต่อไป แต่ครั้งนี้ชานยอลไม่ได้ขัดขืนอะไรมาก เพราะอยากจะคุยกันให้จบๆ เช่นเดียวกัน

     

    คุณกลับไปเถอะ ผมกลับไปกับคุณไม่ได้หรอก คุณก็เห็นหนิว่าตอนนี้ผมเป็นยังไง

     

    แล้วไง?คริสหันกลับมาตอบอีกคนทันทีที่ปิดบานประตูลงเป็นที่เรียบร้อย

     

    นี่คุณไม่มีความรู้สึกตกใจ แปลกใจหรืออะไรบ้างเลยหรอที่ต้องมาเห็นผมอยู่ในสภาพนี้!?” ร่างโปร่งถามพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัว

     

    ไม่! เพราะรู้อยู่แล้วและก็คิดไว้แล้วว่าสักวันมันต้องเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นตัดปัญหาข้อนี้ทิ้งไปได้เลยร่างสูงบอกก่อนจะเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าชานยอล

     

    คุณรู้ได้ยังไง...ตากลมเบิกกว้างเมื่อรู้ว่าอีกคนรู้เรื่องของตัวเองมาโดยตลอด

     

    รู้แค่ว่าพี่เคยชิมลูกอมปีศาจนั่นเหมือนกันก็พอ

     

    เมื่อคริสพูดถึงลูกอมประหลาดนั่น มันทำให้ชานยอลอึ้งอยู่ไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายมันจะเวียนว่ายอยู่กับคนรอบตัว

     

    ยังไงก็ไม่ได้อะ! เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เด็ดขาด! เพื่อนของเราจะว่ายังไง? ครอบครัวเราจะรู้สึกยังไง? คนพวกนั้นต้องรับมันไม่ได้แน่ๆ!” ชานยอลบอกท่าทีกังวล

     

    ชานยอล..รู้ตัวไหมว่าเราสนใจความรู้สึกทุกคน....แต่ยกเว้นพี่

     

    ร่างสูงบอกด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ สายของคริสที่มอง มันทำให้ชานยอลแทบจะใจอ่อนซะเดี๋ยวนั้น แต่เขาก็ต้องดึงคำว่าเป็นไปไม่ได้ออกมาห้ามใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา

     

    มันไม่ได้...ยังไงก็ไม่ได้! เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว เราจบกันตรงนี้เถอะ ให้เรื่องที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ความฝันก็พอชานยอลบอกและพยายามทำน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ

     

    ไม่!!”

     

    ร่างสูงบอกก่อนจะดึงตัวชานยอลเข้าไปหาตัวเองและมันก็สร้างความตกใจให้ร่างโปร่งเล็กน้อย แต่ชานยอลก็ยังคงพยายามไม่แสดงอาการใดๆ ออกไป

     

    มันต้องได้..เรารักกันได้ เชื่อพี่สิว่าเรารักกันได้!”

     

    เลิกพูดแล้วปล่อยให้เรื่องมันจบไปซะเถอะชานยอลบอกก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่น

     

    จบหรอ..อยากจบมากใช่ไหม

     

    ร่างสูงไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมากมาย เขาคว้าร่างโปร่งเข้าไปประกบจูบอย่างรวดเร็วและรุนแรงอย่างไม่เคยเป็น มันเร็วเสียจนชานยอลทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อไหร่สติเขาก็รวบรวมกำลังทั้งหมดผลักร่างของคริสไปให้พ้นตัวทันที

     

    อย่ามาทำอะไรบ้าๆแบบนี้กับผมนะ!” ร่างโปร่งว่าพลางถอยหลังหนีคนตรงหน้า

    จะกลัวอะไร ทุกอย่างมันเหมือนเดิมอยู่แล้ว

    คริสบอกพลางย่างกรายเข้าไปหาชานยอลช้าๆ สายตาที่คริสมองอีกคนในตอนนี้แทบจะเผาร่างของเขาคนนั้นได้เลยทีเดียว

     

    คุณก็เห็นว่ามันไม่เหมือนเดิม

     

    ทันทีที่ชานยอลพูดจบร่างสูงก็ดึงร่างโปร่งเข้าไปจูบอีกครั้งและครั้งนี้เข้าเพิ่มความเร้าร้อนและรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมก่อนจะผ่อนความรุนแรงนั้นให้เหลือเพียงจูบที่อ่อนละมุนอย่างที่เขาเคยมอบให้เมื่อครั้งที่ชานยอลยังเป็นผู้หญิง

     

    มันเหมือนเดิม...เหมือนเดิมทุกอย่าง จูบที่คริสได้มอบให้ชานยอล ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป แม้ว่าคนที่คริสกำลังมอบจูบให้นั้นจะเป็นผู้ชายไปแล้วก็ตาม

     

    ชานยอลเริ่มหลงเคลิบเคลิ้มไปกับจูบที่หอมหวานของคริส ความอ่อนโยนที่คริสได้มอบมันผ่านรสจูบทำให้ชานยอลเหมือนได้ย้อนกลับไปผู้หญิงอีกครั้ง

     

     

    [เอ๊ะ! ตอนที่หายไปทำยังไงให้ได้อ่านน้า?]


     

    ----------------------------------------------------------------------------

     

    แสงแดดอ่อนยามเช้ากระทบกับหยาดน้ำค้างที่เกาะอยู่บนใบไม้จนเกิดแสงเป็นประกายราวกับมีคริสตัลติดอยู่บนใบไม้เหล่านั้น ร่างโปร่งหยุดมองมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินเลยผ่านมันไป

     

    ชานยอลรีบออกมาจากโรงแรมก่อนที่คริสจะตื่นและเขาก็ไม่สามารถบอกความรู้สึกของเรื่องที่เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนได้ แต่ภายในใจลึกๆ ก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อยที่คริสไม่ได้รังเกลียดในตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกแปลกๆกับตัวตนเดิมนี่อยู่ดี

     

     

    เป็นไงบ้าง?!” ยูรารีบวิ่งเข้าไปถามทันทีที่น้องชายเป็นประตูบ้านเขามา

    หึ...รู้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ

    ก็..เออ! เอาเถอะ ว่าแต่เป็นไงบ้าง?หญิงสาวยังคงอยากรู้เรื่องระหว่างชานยอลและคริส

    ก็ไม่เป็นไง บอกแล้วว่าจบคือจบ แล้วไม่ต้องพยายามทำตัวเป็นแม่สื่ออีกนะ มันจบแล้ว!” ร่างโปร่งบอกน้ำเสียงเน้นก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ทิ้งให้ยูราถอนหายใจออกมาอย่างหมดหวัง

     

    ชานยอลทิ้งตัวลงบนเตียง แม้จะเจ็บปวดร่างกายที่เกิดขึ้นเพราะเรื่องเมื่อขึ้น แต่อาการปวดร้าวที่เกิดขึ้นกับหัวใจมันทำให้เขาลืมความเจ็บปวดของร่างกายไปแล้ว ที่ใจมันเจ็บเพราะทั้งๆที่อยากกลับไปหาใจจะขาด แต่เขาก็ต้องพยายามหักห้ามใจตัวเองเอาไว้  เรื่องมันต้องจบเพียงแค่นี้...

     

    ตึ๊ง!

     

    อยู่ๆเสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้นหลังจากที่ชานยอลหลับตาลงไม่นาน เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูที่เพิ่งส่งเสียงนั่นออกมา

     

    ออกมาหาหน่อย

     

    ชานยอลขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นข้อความที่ถูกส่งมา แต่ที่ทำให้เขางงยิ่งกว่าก็คือคนที่ส่งมาให้เขาเป็นคริสตัล แต่ถึงจะงุนงงขนาดไหนเขาก็เด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านตามสัญชาตญาณและมันก็เป็นไปตามที่เขารู้สึกเมื่อชานยอลได้เจอกับเพื่อนสาวที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน

     

    โอ๊ะ! แปลกตาดีเนาะ เป็นผู้หญิงก็สวย เป็นผู้ชายก็หล่อ นายนี่มันมหัศจรรย์จริงๆเลยคริสตัลทักขึ้นทันทีที่เห็นชานยอล

     

    ไม่ตกใจหน่อยหรอ?ร่างโปร่งถามคริสตัลที่มองมายังเขาพร้อมกับส่งยิ้มให้

     

    ต้องตกใจ? โอเคตกใจก็ได้ โอ้! นี่นายแป็นใคร! แล้วเพื่อนฉันอยู่ที่ไหน?! ยอลลี่อยู่ไหน นายเอาเป็นฉันไปซ่อนใช่ไหม?!”

     

    พอเถอะ ว่าแต่มาที่นี่ได้ยังไงชานยอลยกมือขึ้นเบรกเพื่อนเอาไว้ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่เจือปนความดีใจอยู่เล็กน้อย

     

    ลืมไปแล้วหรอว่าฉันเป็นใคร

    เออ นั่นสินะ เธอไปรอบโลกได้ทุกเมื่อนี่หว่าร่างโปร่งยกยิ้มเล็กน้อย เมื่อคืดได้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาอย่างคนอื่นๆ

    ใช้สรรพนามอย่างที่เคยใช้เถอะ ได้ยินแกเรียกฉันว่าเธอแล้วรู้สึกแปลกๆหญิงสาวยู่หน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำที่เขาทั้งสองเคยใช้เรียกกันแปลกไปจากเดิม

    ขอโทษนะที่มาโดยไม่บอกอย่างนี้ มันกะทันหันจริงๆร่างโปร่งบอกก่อนจะเข้าไปโอบไหล่คนตัวเล็กว่าให้เดินตามเขาไป

    ฉันน่ะไม่เป็นไร แต่ยัยสองคนที่เหลือนี่สิ โวยกันใหญ่เลย ฮ่าๆๆคริสตัลบอกพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ

    ฉันคิดถึงพวกมันนะ แต่ขืนกลับไปหาในสภาพนี้คงแย่แน่ๆ มันต้องคิดว่าฉันเป็นปีศาจกลายร่างแน่ๆ

    ฮ่าๆๆ เออนั่นสิ ให้ฉันกลายร่างเป็นเพื่อนแกไหม?คริสตัลถามก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้กับคนข้างๆ

    อย่าเลย เดี๋ยวไม่มีไอ้เตี้ยที่ไหนให้กอดคอแบบนี้ ฮ่าๆๆๆร่างโปร่งบอกก่อนจะเบี่ยงตัวหนีฝ่ามือเล็กของคริสตัล

    สูงหน่อยเป็นข่ม เดี๋ยวเถอะๆ ว่าแต่แกอะ ไปเคลียร์กับพี่คริสหรือยัง ชื่อที่คริสตัลเอ่ยขึ้นมาทำให้รอยยิ้มของชานยอลหายไปทันที

    ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ มันไม่ได้เป็นอย่างเดิมอีกแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรจะลืมเขาไปซะชานยอลบอกด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะปกติ แต่ร่างบางกลับเห็นว่าสีหน้าของเพื่อนตัวเองไม่ได้แสดงอารมณ์ปกติอย่างเสียง

    ลืมได้หรอ? แกคิดว่าแกลืมได้งั้นหรอ? แล้วขอถามหน่อยนะ ทำไมแกต้องหาเรื่องลืมเขา ในเมื่อพี่คริสเขาไม่ได้อยากจะลืมแก

    ก็ฉันกลับมาเป็นผู้ชาย แล้วจะให้เขาประกาศแต่งงานกับผู้ชายอย่างฉันน่ะหรอ เฮอะ! แกคิดว่ามันเป็นไปได้หรอ?ร่างโปร่งบอกพร้อมกับเด็ดใบไม้ข้างทางเป็นการระบายอารมณ์ทางอ้อม

    หึ แกถามเขาหรือยัง? แกคิดเองเออเองตลอด แกไม่ได้ถามพี่คริสเขาเลยว่าเขาต้องการอะไร ถ้าเขารับแกไม่ได้น่ะนะ เขาคงไม่ตามแกมาถึงที่นี่หรอก อ่อ แล้วอีกอย่างนะ ถ้าเขารับสภาพนี้ของแกไม่ได้ เขาคงเลือกที่จะทิ้งแกไปนานแล้ว

     

    คิ้วเรียวของชานยอลขมวดเข้าหากันอีกครั้งเมื่อเขาเอาสิ่งที่เพื่อนพูดมาคิด มันถูกต้องตามที่คริสตัลพูดทุกประการ คริสไม่เคยคิดจะให้เรื่องระหว่างเขาสองคนจบเลย มิหนำซ้ำยังตามเขามาถึงที่นี่ แต่คนที่คิดจะจบกลับเป็นชานยอลเพียงฝ่ายเดียว

     

    ขอคำตอบเพียงคำเดียวสั้นๆนะ แกรักพี่คริสไหม?ร่างบางถามพร้อมกับจ้องหน้าอีกคนอย่างต้องการคำตอบ

    ฉัน.....

    ฉันขอแค่คำเดียว!” คริสตัลรีบพูดตัดหน้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่างโปร่งกำลังลังเล

    ...........รักสิ

     

    ชานยอลตอบกับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ซึ่งความจริงแล้วเขาอยากบอกคำนี้กับคริสเองเสียด้วยซ้ำ แต่เพราะความกังวลในหลายๆ เรื่องมันทำให้เขาเลือกที่จะพูดคำว่าจบออกไปแทน

     

    ก็แค่นั้นแหละ ในเมื่อแกทั้งคู่รักกัน ก็ทำตามความรู้สึกได้เลย ไม่ต้องแคร์ไม่ต้องไปคิดแทนว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง เพราะเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับแกสองคน อย่าให้คนอื่นมาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตรักของแกสิชานยอล

    คริสตัลพูดเตือนสติอีกคน ซึ่งชานยอลก็ได้แต่นิ่งเงียบไปและเมื่อร่างบางเห็นว่าเพื่อนไม่ได้พูดตอบโต้อะไร เธอจึงถือโอกาสพูดต่อไป

     

    ถ้าแกเลือกที่จะแคร์ความรู้สึกของคนอื่นๆจริง ฉันขอให้แกแคร์ความรู้สึกของพี่คริสบ้าง พี่คริสเขารักแกมากนะเว้ยมือเรียวเอื้อมไปจับมือของร่างโปร่งเอาไว้เบาๆก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้จนชานยอลต้องยิ้มตาม

     

    ขอบใจแกมาก ขอเวลาให้ฉันสักแป๊ปนะ

    ทุกคนมีเวลานะ แต่เราไม่รู้ว่าเวลาที่มีนั้นมันมากน้อยแค่ไหน ตัดสินใจได้แล้วรีบทำก่อนที่แกจะเสียทุกอย่างไปจริงๆ

     

    คริสตัลบอกพร้อมส่งยิ้มบางๆให้กับชานยอลก่อนจะเดินนำหน้าร่างโปร่งไปทางต้นซากุระที่กำลังแข่งกันออกดอกผลิบานอย่างสวยงาม ร่างโปร่งยืนมองเพื่อนที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปดอกซากุระไปยิ้มไปจนเขาอดที่จะยิ้มให้กับความร่าเริงของเพื่อนคนนี้ไว้ไม่ได้

     

    หลังจากที่คุยกับเพื่อนรักอย่างคริสตัลกันจนเข้าใจก็ถึงเวลาที่ชานยอลต้องแยกตัวกลับบ้าน แต่เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านไปร่างโปร่งก็ต้องมีเรื่องให้ตกใจ เมื่อเขาต้องพบกับคนที่ไม่พร้อมจะเจอหน้าในเวลานี้

     

    เอ่อ..มีแขกหรอ พอดีจะมาบอกว่าจะออกไปข้างนอกนะ อาจจะกลับดึกหน่อยหรือ...อาจจะไม่กลับเลย

     

    ร่างโปร่งบอกกับแม่และพี่สาวโดยที่ไม่ได้สนใจกับแขกผู้มาเยือนเลยแม้แต่น้อยก่อนจะเดินออกจากบ้านไปอีกครั้งอย่างเร็วที่สุด

     

    ตามไปสิ!”

     

    ยูราหันไปบอกกับเพื่อนร่างสูงของตัวเองอย่างรวดเร็วและคริสเองก็ไม่รอช้า เขารีบบอกลาทั้งสองคนก่อนจะวิ่งตามชานยอลออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

     

     

    ชานยอลเดินออกจากบ้านมาอย่างไร้จุดหมายปลายทาง เขาไม่รู้ว่าจะพาตัวเองไปที่ไหนเหมือนกัน รู้เพียงแค่ว่าต้องไปให้ไกลจากคนๆ นั้นก็เป็นพอ

     

    ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยๆ ความงดงามของดอกซากุระที่กำลังร่วงลงมาเพราะแรงลมทำให้เขาเผลอยิ้มให้กับความสวยงามของกลีบดอกซากุระเหล่านั้น ความสวยงามของดอกไม้ทำให้เขานึกย้อนกลับไปคิดถึงความสวยงามของความรักระหว่างเขาและคริส ซึ่งความจริงแล้วคริสพยายามจะดูแลความรักนั้นให้สวยงามอยู่ตลอดเวลา แต่เขากลับคิดจะถอนรากของโคนต้นรักนั้นทิ้งเพียงเพราะเหตุผลที่เขาคิดกังวลไปเอง

     

    ชานยอลเดินออกมาไกลแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่เขารู้ตัวอีกทีก็ตอนเงยหน้าขึ้นมาพบกับตอนซากุระที่เรียงรายอยู่ตรงหน้ามากมาย กลีบดอกซากุระร่วงลงมาสัมผัสกับใบหน้าเนียนของชานยอล สัมผัสที่รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนทำให้เขานึกไปถึงสัมผัสที่คริสเคยมอบให้กับเขามันอ่อนโยนดังเช่นกลีบซากุระเหล่านั้น

     

    แต่ในขณะที่ชานยอลกำลังคิดถึงสัมผัสนั้น อยู่ๆเขาก็ได้รับมันโดยที่ไม่ต้องเรียกหา แขนแกร่งของใครบางคิดกอดเขามาจากทางด้านหลัง ไออุ่นและสัมผัสที่คุ้นเคยเช่นนี้ไม่ต้องทายชานยอลก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่าใครคือเจ้าของ

     

    กลับบ้านเรากันเถอะ

    เสียงที่คุ้นเคยกระซิบขึ้นที่ข้างหูของร่างโปร่ง เขานิ่งเงียบอย่างความคิด ก่อนจะถามอีกคนขึ้นเบาๆ

    คุณแน่ใจแล้วหรอว่าจะรักผมต่อไปอย่างนี้?

    เรียกพี่คริสสิ

     

    ชานยอลเผลอหัวเราะให้กับประโยคคำสั่งที่คริสเคยพูดมันตั้งหลายครั้งและกว่าเขาจะทำตามคำสั่งนั้นมันก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร

     

    เมื่อชานยอลลองคิดกับตัวเองอีกครั้งอย่างละเอียดถีถ้วนมันก็ทำให้เขาได้คำตอบกลับมาว่า เขาแคร์คนอื่นมากไปจริงๆ แคร์ทุกคนยกเว้นคริสและการที่เขาแคร์คนอื่นๆนั้นก็ใช่ว่าจะทำให้เขามีความสุข มิหนำซ้ำมันยังทำให้เขาต้องทนทรมานกับการที่เขาต้องเอ่ยคำบอกเลิกกับคนที่เขารักอีกด้วย

     

    พี่จะรักเราต่อไปอย่างนี้แหละและไม่มีอะไรมาทำให้มีหยุดรักเราด้วยคริสบอกพร้อมกับทอดสายตามองไปยังต้นซากุระที่เรียงรายไปสุดลูกหูลูกตา

     

    ชานยอลยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาแพ้ผู้ชายคนนี้จริงๆ แพ้ทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนเขาต้องยอมแพ้ให้กับผู้ชายคนนี้ตลอด กลีบดอกซากุระที่ปลิวอยู่รอบตัวยิ่งทำให้ภาพที่มีชายร่างสูงสวมกอดชานยอลมาจากทางด้านหลังละมุนและอ่อนโยนมากขึ้นเป็นพันเท่า

     

    มันคงถึงเวลาแล้ว...ถึงเวลาที่ชานยอลจะต้องตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ

     

    -----------------------------------------------------------------

     

    ไม่กี่วันต่อมา ชานยอลรีบออกจากบ้านตัวเองเพื่อไปสถานที่แห่งหนึ่งตามที่คริสได้นัดเขาเอาไว้ เขาใช้เวลาเดินทางออกจากบ้านเพียงไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางและทันที่ที่เข้าไปถึงบริเวณสถานที่แห่งนั้นเขาก็เห็นว่าร่างสูงที่คุ้นเคยได้ยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว

     

    ทำไมต้องมาที่โบสถ์ด้วย?

    ชานยอลถามขึ้นด้วยสีหน้างงๆ และคริสก็ไม่ได้ตอบกลับไปแต่กลับยิ้มให้ก่อนจะโอบร่างโปร่งเขาโบสถ์ไป

     

    และทันทีที่ชานยอลก้าวเท้าเขาโบสถ์ไปเจอกับบุคคลกลุ่มหนึ่งที่รอเขาทั้งสองคนอยู่ข้างใน มันทำให้เขาอยากหันหลังแล้ววิ่งหนีไปเสียให้ได้ เมื่อพบว่าคนกลุ่มนั้นคือเพื่อนของเขานั่นเอง

     

    ออมอ!! ยอลลี่ เอ๊ย!! ไม่สิต้องชานยอลสินะฮยอนอาอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเพื่อนสาวสุดสวยของตัวเองกลายร่างเป็นผู้ชายอย่างเต็มรูปแบบ

     

    โลกเรามันช่างอยู่อยากขึ้นทุกวันจริงๆ เลยเซฮุนพูดขึ้นมาเบาๆ พร้อมกับมองไปที่ชานยอลอย่างไม่เชื่อสายตา

     

    เอ่อ..ขอโทษทุกคนนะ ที่ไม่ได้บอกตั้งแต่แรก แต่..มันพูดไม่ได้จริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อชานยอลบอกด้วยอย่างรู้สึกผิด

     

    ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันนะซอลลี่เดินเข้าไปจับข้อมือทั้งสองข้างของชานยอลเอาไว้พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่คุ้นเคยให้กับชานยอล

     

    ขอบคุณที่เข้าใจฉันนะร่างโปร่งยิ้มให้กับเพื่อนรักก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามากอดอย่างที่เคยทำ

     

    เอาล่ะๆ เลิกซึ้งได้แล้ว ได้ฤกษ์แล้วล่ะคริสตัลหันไปบอกทุกๆคนด้วยรอยยิ้ม

    ฤกษ์อะไร? เออว่าแต่มาทำอะไรกันที่นี่ มากันพร้อมหน้าพร้อมตาเชียวร่างโปร่งถามทุกคนอย่างงงๆ

    มางานแต่งเธอไงซอลลี่บอกพร้อมกับยิ้มกว้างให้กับเพื่อนร่างโปร่ง

    งานแต่ง?

    งานแต่งงานของเราสองคนไงคริสยิ้มให้ก่อนจะโอบร่างโปร่งไปที่แท่นพิธีที่มีซูโฮยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว

    โอ๊ะ! ไม่ได้เจอกันไม่นานเท่าไหร่ เปลี่ยนไปเยอะเลยนะยอลลี่ ไม่สิ! ต้องชานยอลสิถึงจะถูกซูโฮบอกก่อนจะยิ้มให้รุ่นน้องร่างโปร่ง

    นี่..ทุกคนเรารู้เรื่องของผมได้ยังไง?ชานยองหันไปถามคนข้างตัวด้วยความสงสัย

    พี่เล่าให้ทุกคนฟังเองแหละ แถมมีแบคฮยอนกับคริสตัลเป็นพยานยืนยันอีกต่างหาก

    เขาไม่ตกใจกันบ้างหรอ?

    ก็มีบ้าง แต่เราอย่าลืมสิว่าเพื่อนๆของเราอะรักเรามากแค่ไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ไม่ทิ้งเราหรอกคริสบอกพร้อมยิ้มให้กับคนข้างๆอีกครั้ง

    อ่ะๆ เจ้าบ่าว เจ้าสาวเลิกคุยๆ เอ๊ะ? ต้องเรียกงี้ป่าววะ? เออช่างมันเถอะ! มาเริ่มพิธีกันเลยดีกว่า

    เดี๋ยวๆ เราจะเข้าพิธีกันแบบนี้จริงๆหรอ?ชานยอลถามคริสขึ้นมาอีกครั้ง

    ก็ถ้าแต่งแบบเป็นพิธีการอย่างที่เตรียมไว้ตอนแรกไม่ได้ ก็แต่งกันแบบนี้แหละ ให้เจ้าพวกนี้เป็นพยานว่าเราจะรักกันไปตลอดชีวิตคริสบอกพร้อมกับยิ้มหวานให้กับชานยอล

    พ่อขออ้วกแป๊ปนะลูกซูโฮที่มารับบทเป็นบาทหลวงจำเป็นถึงกับทนความหวานของทั้งคู่ไม่ได้

    อ่าวๆ หลวงพ่ออย่าเพิ่งเป็นอะไรไปสิครับทำพิธีให้ผมก่อน ฮ่าๆคริสบอกเพื่อนก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย

    อ่าๆ พร้อมนะ ทุกคนพร้อมนะ?

    โอเคพร้อมแล้ว

    คริสและชานยอลพยักหน้าให้กับซูโฮพร้อมกับรอยยิ้มและเมื่อบาทหลวงจำเป็นเห้นว่าทุกคนพร้อมแล้วจึงเริ่มทำพิธีตามที่ได้ศึกษามา

    อู๋อี้ฟานกับปาร์ค ชานยอล ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ได้ถูกบังคับ แต่มาด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริงเพื่อเข้าพิธีสมรสหรือ?

    ครับ/ครับทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะหันไปยิ้มให้กัน

    เมื่อเข้าสู่พิธีสมรสเช่นนี้แล้วท่านทั้งสองพร้อมที่จะรักและยกย่องให้เกียรติกันและกันจนตลอดชีวิตหรือ?

    ครับ/ครับ

    หากท่านทั้งสองมีเจตจำนงที่จะสมรสกัน ขอให้ท่านจับมือขวาของกันและกันและแสดงความสมัครใจต่อหน้าพระเป็นเจ้า

    เมื่อสิ้นสุดประโยคของซูโฮคริสและชานยอลหันหน้าเข้าหากันก่อนจะจับมือขวาของกันและกันแล้วเริ่มประกาศคำสาบานด้วยเสียงดังฟังชัด

    ผมอู๋อี้ฟาน ขอรับคุณปาร์ค ชานยอลเป็นคู่ชีวิตและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรต์คุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่...ร่างสูงบอกกับจนตรงหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก

     

    ผมปาร์ค ชานยอล ขอรับคุณอู๋อี้ฟานเป็นคู่ชีวิตและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรต์คุณ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ชานยอลบอกกลับไปพร้อมกับนน้ำตาที่เริ่มล้นเอ่อออกมารอบดวงตา วันนี้เวลานี้ทำให้เขาเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้หญิงที่กำลังแต่งงานได้เป็นอย่างดี

     

    เมื่อกล่าวคำสาบานเสร็จแล้ว ทั้งสองคนจึงนำแหวนที่คริสได้เตรียมมาสวมให้กัน ชานยอลรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขที่สุดในชีวิต วันที่เขาคิดว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว เสียงกรีดร้องดีใจจากบรรดาเพื่อนๆ ทำให้ชานยอลหันกลับไปสนใจบุคคลเหล่านั้นอีกครั้ง

     

    ดอกไม้ๆ! เจ้าสาวโยนดอกไม้เลย ด่วนๆเลยยยย!!” ฮยอนอาตะโกนบอกพร้อมกับวิ่งมาหน้าแท่นพิธีก่อนใครเพื่อน

     

    ดอกไม้? แล้วจะเอาดอกไม้ที่ไหนไปโยนให้มันล่ะทีนี้?ชานยอลพูดขึ้นพร้อมกับเกาหัวตัวเองอย่างใช้ความคิด

    เรื่องนั้นไม่ต้องกลัว พ่อเตรียมมาให้แล้วบาทหลวงจำเป็นบอกก่อนจะส่งช่อดอกกุหลาบสีแดงให้กับชานยอล

    โอ๊ะ! นี่เตรียมพร้อมกันจริงๆเลยชานยอลว่าพร้อมกับรับช่อดอกไม้มาไว้ในมือ

    โยนเลยครับคุณเจ้าสาวร่างสูงบอกก่อนจะฝังจมูกโด่งลงไปบนแก้มเนียนของชานยอล

    โอ๊ยยย!! อย่าเพิ่งหวาน โยนดอกไม้ก่อน!” ฮยอนอาโวยขึ้นมาเมื่อเห็นว่าทั้งสองเริ่มหยอดความหวานใส่กัน

    อ่าๆ จะโยนแล้วน้า~”

     

    ชานยอลบอกก่อนจะหันหลังให้กับคนที่รอรับช่อดอกไม้และเมื่อดอกกุหลาบช่อนั้นลอยขึ้นสู่อาการ ทุกคนต่างลุ้นให้มันไปตกอยู่ในมือของตัวเองและคนที่ได้มันไปกลับมีถึงสองคน นั่นก็คือเซฮุนและลู่หานที่รับดอกไม้ช่อนั้นได้พร้อมกัน

     

    โห่~ อะไรว้าฮยอนอาบ่นขึ้นมาราวกับเด็กที่โดนขัดใจ

    ฮยอนอา..

    ห๊ะ

    ฮยอนอาหันไปตามเสียงที่เสียงเธอ และเธอก็พบกับฮยอนซึงและดอกกุหลาบสีขาวช่อโตความจริงแค่นี้ก็ทำให้เธอประลาดใจพอแล้ว แต่ที่ทำให้เธอประหลาดใจได้มากกว่านั้นก็คือฮยอนซึงคุกเข่าลงต่อหน้าเธอก่อนที่จะเอ่ยอะไรบางอย่างออกไป

     

    ไม่ต้องไปแย่งดอกไม้กับคนอื่นเขาหรอก เพราะผมเตรียมมันมาให้คุณแล้ว แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าคุณต้อง...แต่งงานกับผมนะ

     

    ฮยอนซึงบอกกับคนตรงหน้าและประโยคนั้นก็สามารถเปลี่ยนสีหน้าที่กำลังงงในตอนแรกมาเป็นร้องไห้ได้ในทันที

    แหมะ! จบคู่นึงอีกคู่ก็ต่อทันทีเลยนะคริสตัลพูดพร้อมยกยิ้มให้กับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า

     

    ทั้งคริสและชานยอลมองภาพตรงหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข วันนี้เป้นวันที่ดีอีกวันของเขาทั้งสองคน วันที่เขาได้กลับมารักกันและสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องแคร์อะไรอีกต่อไป

     

    อย่าหนีพี่ไปไหนอีกนะคริสหันไปกระซิบกับคนที่กำลังมองไปยังเพื่อนของตัวเอง

    ถ้าผมหนีพี่ก็ตามหาผมให้เจอสิครับ

    ชานยอลว่าพร้อมกับชูข้อมือขึ้นมาเผยให้เห็นว่ามีสายข้อมือที่คริสเคยให้กับเขาไว้ก่อนจะออกตัววิ่งหนีคริสไปข้างนอกในทันที

     

    เมื่อเห็นว่าชานยอลและคริสกำลังวิ่งออกไปนอกโบสถ์ทุกคนก็ไม่รอช้าและพร้อมใจกันวิ่งตามออกไปด้วยกัน เสียงหัวเราะแห่งความสุขดังก้องไปทั่วบริเวณ ทุกคนต่างยิ้มให้กับเพื่อน แฟน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ไม่ว่าจะเป็นอะไรกัน แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความรักและห่วงใยกันเช่นเดียวกันกับคริสและชานยอล ที่ไม่ว่าอีกคนจะอยู่ในร่างไหนเขาทั้งสองก็เลือกที่จะรักกันไปตลอดชีวิต....



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×