กินทุเรียนให้ปลอดภัย ┈━═☆
ทุเรียน "ราชาผลไม้" ผลไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งรูปร่าง สีสัน กลิ่นและรสชาติ จึงสามารถครองหัวใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทุเรียนนับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีหลากหลายพันธุ์ให้ได้เลือก จึงขอแสดงคุณค่าทางโภชนาการ ต่อ 100 กรัม ที่สามารถกินได้ ดังนี้
พันธุ์ |
ราคา/กก.(บาท)พค.47 |
พลังงาน (Kcal) |
คาร์โบไฮเดรต ( กรัม) |
ไขมัน (กรัม) |
โปรตีน (กรัม) |
แคลเซียม (มก.) |
ฟอสฟอรัส (มก.) |
เหล็ก (มก.) |
วิตามินเอ (RE) |
ใยอาหาร (กรัม) |
วิตามินซี (มก.) |
กระดุม |
15 |
134 |
20.5 |
4.3 |
3.3 |
49 |
27 |
2.0 |
20 |
1.2 |
- |
ก้านยาว |
35 |
187 |
35.1 |
4.1 |
2.5 |
18 |
36 |
0.8 |
22 |
1.7 |
34 |
ชะนี |
18 |
148 |
24.7 |
4.4 |
2.5 |
8 |
35 |
1.1 |
41 |
2.4 |
28 |
หมอนทอง |
25 |
163 |
31.2 |
3.3 |
2.1 |
29 |
34 |
1.1 |
8 |
1.4 |
35 |
ทุเรียน 100 กรัม(เฉพาะเนื้อ) หรือประมาณ 2 เม็ดขนาดกลาง ให้พลังงานสูงถึง 187 กิโลแคลอรี ในพันธุ์ก้านยาว ลองคิดดูว่า หากเรากินมากกว่า 2 เม็ดแล้วรวมพลังงานที่ได้จากอาหารในแต่ละมื้ออีก แน่นอนพลังงานที่ได้รับต้องเกินความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เมื่อพลังงานเกินบ่อยๆ ผลที่ตามมาก็หนีไม่พ้นโรคอ้วนและคณะ จึงอยากเสนอวิธีกินทุเรียนอย่างฉลาด คือ มื้อใดที่ท่านกินทุเรียน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารประเภททอด อาหารที่ปรุงด้วยกะทิ อาหารหวานต่างๆ และต้องลดอาหารกลุ่ม ข้าว-แป้งลงมื้อละ 1 ทัพพี หรือลดอาหารในมื้อต่อไปลง และควรเพิ่มการออกกำลังกายให้มากขึ้น สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้ารู้สึกอยากกินก็กินได้บ้าง แต่ไม่ควรกินมาก และห้ามลืมกินยาโดยเด็ดขาด ขอย้ำว่า กินทุเรียนในปริมาณที่พอเหมาะ จะเพิ่มความสุขให้ชีวิต แต่หากกินมากทุกข์ก็จะมาเยือนทั้งท่านและบุคคลรอบข้าง
|
ความคิดเห็น