=~คลังความรู้~=

ลำดับตอนที่ #227 : เปิดตำนาน Signature Drink ~

เปิดตำนาน "Signature Drink" 

 

เรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องดื่มประจำเมืองนั้นๆ มีเรื่องราวเล่าขานที่เป็นตำนาน และเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องได้ลิ้มลองเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง  รวมถึงสัมผัสกับวัฒนธรรมสไตล์การดื่ม ผู้คนและสีสันของเมืองนั้นๆ  ไม่อย่างนั้นก็คงเหมือนไม่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองนั้นจริงๆ

        ซิกเนเจอร์ ดริงก์ (Signature) เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่สะท้อนวัฒนธรรม ผู้คน และไลฟ์สไตล์ ของคนเมืองนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ซิกเนเจอร์ ดริงก์ เป็นเครื่องดื่มประเภทค็อกเทลที่ได้รับความนิยม โดยส่วนมากจะนิยมผสมกับวอดก้า ยิน และเตอกีล่า เข้ากับเครื่องดื่มที่เป็นซอฟต์ดริงก์หรือน้ำผลไม้ต่างๆ ทำให้เกิดรสชาติ กลิ่น และสีใหม่ๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์การดื่มค็อกเทลของแต่ละคน
       
        โดยปัจจุบัน ซิกเนเจอร์ ดริงก์ ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงมีการคิดค้นสูตรค็อกเทลที่เป็นสูตรเฉพาะตามส่วนผสม หรือชื่อเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของสูตรค็อกเทล จนกลายเป็น "ซิกเนเจอร์ ดริงก์" (Signature Drink) ประจำแต่ละเมืองที่นักท่องเที่ยวต้องลิ้มลองเมื่อไปถึง


อย่างชื่อเครื่องดื่มค็อกเทล "ไหมไท" ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นค็อกเทลสัญชาติไทย แต่จริงๆ แล้วกลับเป็นชื่อค็อกเทลที่เพี้ยนมาจากคำอุทานในภาษาฮาวาย "ไหมไท" เป็นสูตรของภัตตาคารอาหารสไตล์ฮาวาย หรือ "Polynesian-style" ชื่อ "เทรดเดอร์ วิค" (Trader Vic) ในเมืองแคลิฟอร์เนีย เกิดขึ้นเมื่อปี 1944 ในบ่ายวันหนึ่งเทรดเดอร์ผู้เป็นเจ้าของภัตตาคารได้เสิร์ฟเครื่องดื่มค็อกเทลสไตล์ตาฮิติให้กับเพื่อนๆ ซึ่งมีชาวฮาวายร่วมชิมอยู่ด้วย และเมื่อเพื่อนชาวฮาวายได้ลองชิมก็อุทานออกมาเป็นภาษาฮาวายว่า "มาทาอีโร่-Maita'i roa" หรือแปลว่า Very Good! ซึ่งต่อมาได้เรียกเพี้ยนกลายเป็นชื่อค็อกเทล "ไหมไท"

แมนฮัตตัน ' เป็นตำนานของซิกเนเจอร์ ดริงก์ของอเมริกา ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ว่ากันว่า สูตรนี้ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกที่คลับในแถบแมนฮัตตัน เมืองนิวยอร์ก ในปี 1874 โดยเลดี้แลนด์ดอฟ เชอร์ชิล มารดาของเซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศอังกฤษ เป็นคนขอให้ผสมขึ้น เพื่อร่วมฉลองในโอกาสที่ แซมมวล เจ. ทิลเดน ชนะการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก จนทำให้เครื่องดื่มค็อกเทล "แมนฮัตตัน" เป็นที่นิยมในเวลาต่อมา

ส่วนประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศสิงคโปร์ ก็มี "สิงค์โปร์ สลิง" เป็น1910-1915 ต่อมาสูตรต้นตำรับซึ่งไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนได้สูญหายไป ทำให้บาร์เทนเดอร์หลายคนได้ช่วยกันคิดค้นสูตรขึ้นมาใหม่ให้มีความใกล้เคียงกับสูตรเดิม โดยในที่สุดบาร์เทนเดอร์ของ
โรงแรมระดับโลก "แรฟเฟิลส์" ได้ผสมรสชาติที่มีความใกล้เคียงที่สุด และได้รับการยอมรับจากหลายชายของ เนียม ฮอง บุน ว่าเป็นสิงค์โปร์ สลิง เวอร์ชั่นใหม่ในปี1970

ซิกเนเจอร์ ดริงก์ ประจำชาติ โดดเด่นด้วยรสชาติของเชอร์รี่และสับปะรด คิดค้นสูตรโดยบาร์เทนเดอร์ชาวจีนชื่อ เนียม ฮอง บุน เมื่อปี

ส่วนเครื่องดื่มค็อกเทลที่เป็นชื่อสาวสวยอย่าง "มาร์การิต้า" มีเรื่องราวมาจากบาร์เทนเดอร์ที่ชื่อ  มร.แดนนี่ เนเกรท (Danny Negrete) ที่คิดค้นสูตรนี้ขึ้นเพื่อเป็นของขวัญในว ันแต่งงานให้กับพี่สะใภ้ที่ชื่อ "มาร์การิต้า" แขกที่มาร่วมงานต่างชื่นชอบและติดใจในรสชาติ ต่างพร้อมใจกันบอกต่อกันถึงรสชาติ ทำให้ชื่อของ "มาร์การิต้า" เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ต่อมาในปี1944 มร.แดนนี่ นาเกรท ได้เปิดบาร์ในเมืองทิจูอานา ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเป็นเมืองท่าพาณิชย์ที่การแข่งขันกีฬาแข่งม้าได้รับความนิยมสูงมาก ทำให้ชื่อค็อกเทล"มาร์การิต้า" เป็นที่รู้จักและนิยมชื่นชอบในกลุ่มนักแข่งม้าและชาวเมืองแถบนั้น กลายเป็นซิกเนเจอร์ ดริงก์ประจำชาติของประเทศเม็กซิโก

เมื่อ "ไหมไท" ก็ไม่ใช่ของคนไทยเสียแล้ว เมืองไทยจะมี Signature Drink กับเขาบ้างได้ไหม  กมลาศ พัฒนาไพศาล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มสินค้าไวท์ สปิริต บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด จึงมาคิดว่าสิ่งที่ประทับใจเมื่อมาเยือนประเทศไทย หลายคนนึกถึงศิลปวัฒนธรรมที่ดูสวยงาม มารยาทที่ดูอ่อนน้อม และอัธยาศัยที่ยิ้มแย้ม แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันนั่นคือ รสชาติของเครื่องเทศไทยที่มีรสชาติอันร้อนแรงและจัดจ้าน
       
        ดังนั้นจึงภูมิใจนำเสนอสูตรค็อกเทลที่คิดค้นขึ้นในชื่อ "สยาม ซันเรยส์" โดยมีส่วนผสมหลักคือ สเมอร์นอฟวอดก้า ผสานกับรสชาติที่ร้อนแรงของเครื่องเทศท้องถิ่นทั้งพริกแดง ขิงอ่อนใบมะกรูด และตะไคร้ ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่ี่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของเมืองไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และหวังให้ "สยาม ซันเรยส์" เป็นเครื่องดื่มค็อกเทลที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนต้องได้ลิ้มลองเมื่อมาเที่ยวเมืองไทย

**สูตรค็อกเทล "สยาม ซันเรยส์"**
         ส่วนผสม: สเมอร์นอฟ วอดก้า 30-40 มิลลิกรัม / น้ำมะพร้าว 30 มิลลิกรัม / น้ำเชื่อม 15 มิลลิกรัม / พริกแดง ? เซนติเมตร / ขิงอ่อนซอยบางๆ 3 ชิ้น / ใบมะกรูด 1 ใบ / ตะไคร้ซอย 3 ชิ้น / มะนาว 3 หยด / โซดา
       
          วิธีทำ:
        - นำพริกแดง ขิงอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูด มาบดให้แตกในเชคเกอร์ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศไทย
        - เติมน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และสเมอร์นอฟ ในเชคเกอร์ เขย่าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
        - เทลงแก้ว ใส่น้ำแข็ง เติมโซดา และตกแต่งแก้วให้สวยงามด้วยพริก ตะไคร้และมะนาว

ขอบคุณข้อมูลจาก....บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้จัดการ

equal girlz