ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    =~คลังความรู้~=

    ลำดับตอนที่ #132 : 10 ภาพเนบิวลาชนิดต่างๆและกาแล็กซี่~

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.68K
      3
      2 มิ.ย. 50

    ภาพเนบิวลาและกาแล็กซี่ จากกล้องอวกาศฮับเบิล ┈━═☆

    เกือบ17 ปีแล้วที่กล้องอวกาศฮับเบิลได้เปิดหน้าต่างสู่จักรวาล

    ผลงานของกล้องอวกาศฮับเบิลนำมาซึ่งความรู้ความเข้าใจและเผยความลี้ลับของจักรวาลมากมาย และหลังจากการติดตั้งกล้อง Advanced Camera for Surveys (ACS) เมื่อปี 2002 นักดาราศาสตร์ก็ตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นกับภาพเทหวัตถุในจักรวาลที่คมชัดอย่างที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน

    ต่อไปนี้คือผลงานล่าสุดบางส่วนของกล้องอวกาศฮับเบิล มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง


     

    1 .เนบิวลาปู

    ภาพแรกคือภาพเนบิวลาปู (Crab Nebula) ซากของดาวฤกษ์ที่ระเบิดเป็นซุปเปอร์โนวา (Supernova) เมื่อปี 1054 จากหลักฐานบันทึกของชาวจีนและญี่ปุ่นรวมทั้งชาวพื้นเมืองของอเมริกาด้วย ชาวจีนบันทึกไว้ว่าซุปเปอร์โนวานี้มีสว่างอยู่นานหลายเดือนและ มองเห็นได้แม้ในเวลากลางวัน

    เนบิวลาปูมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ปีแสง อยู่ห่างจากโลก 6,300 ปีแสง ในกลุ่มดาววัว (Taurus)มันเป็นเนบิวลาที่โดดเด่นที่สุด เพราะเป็นหลักฐานการระเบิดซุปเปอร์โนวาชิ้นแรก.

    กล้องอวกาศฮับเบิลเคยบันทึกภาพเนบิวลาปูมาแล้วหลายครั้งแต่ภาพล่าสุดนี้เป็นภาพที่มีความละเอียดสูงมาก

     

    2.เนบิวลานายพราน

    ภาพเนบิวลานายพราน (Orion Nebula) เป็นอีกภาพหนึ่งที่มีความละเอียดสูงมาก เนบิวลานายพรานเป็นเนบิวลาที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า และ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อยู่ในกลุ่มดาวนายพราน (Constellation Orion) ห่างจากโลก 1,500 ปีแสง

    จุดเด่นของเนบิวลานี้ก็คือ

    เป็นเนบิวลาที่กำลังแสดงให้เราเห็นกระบวนการและบริเวณที่มันให้กำเนิดดาวฤกษ์และระบบดาวเคราะห์จากเมฆก๊าซและฝุ่นซึ่งยุบตัวลง

    ในภาพจะเห็นดาวฤกษ์เกิดใหม่ซึ่งมีขนาดต่าง ๆ กัน

    มากกว่า 3,000 ดวงซ่อนตัวอยู่ใต้ฝุ่นและก๊าซซึ่งมีลักษณะคล้ายที่ราบสูง ภูเขา และหุบเขา ทำให้หลายคนนึกถึงแกรนด์ แคนยอน ในสหรัฐอเมริกา

     

    3 .กาแล็กซี M 101

    นี่คือภาพกาแล็กซีกาแล็กซี่กังหัน (Spiral Galaxy)ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและให้รายละเอียดมากที่สุดเท่าที่กล้องอวกาศฮับเบิลเคยถ่ายไว้

    M101 กาแล็กซี่ยักษ์หรือกลุ่มกาแล็กซี่

    อยู่ไกลจากโลกถึง 24 +/- 2 ล้านปีแสงในกลุ่มดาวหมีใหญ่ (Constellation Ursa Major)

    มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 170,000 ปีแสงใหญ่กว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือกเกือบเท่าตัว ประกอบด้วยกาแล็กซี่ถึง 9 กาแล็กซี่

     

    4.ซีนา

    กล้องอวกาศฮับเบิลได้เผยโฉมหน้าของ "ซีนา" (Xena) เทหวัตถุที่รู้จักกันในฐานะดาวเคราะห์ดวงที่ 10 ของระบบสุริยะให้เราเห็นอย่างชัดเจน

    ทีมนักดาราศาสตร์นำโดยไมเคิล บราวน์

    ค้นพบซีนาหรือชื่อ 2003 UB 313 ในขณะนั้นเมื่อปี 2003 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินซึ่งตอนนั้นเห็นมันเป็นเพียงจุดเล็กๆเท่านั้น

    ตอนนี้ซีนาหรือชื่อใหม่ว่าอีริส

    ได้กลายมาเป็นดาวเคราะห์แคระตามดาวพลูโตไปแล้วการศึกษาโดยใช้กล้องอวกาศฮับเบิลพบว่าซีนามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง1,490 ไมล์ ใหญ่กว่าพลูโตซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1413ไมล์ เพียงเล็กน้อย

     

    5.กาแล็กซี่ NGC 5866

    ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นกาแล็กซี่ในลักษณะหันข้างมายังโลก นี่คือภาพกาแล็กซี่ NGC 5866 ในกลุ่มดาวมังกร (Constellation Draco) ห่างจากโลก 45 ล้านปีแสง ซึ่งกำลังหันข้างมายังโลก

    ภาพที่คมชัดของกล้องฮับเบิล

    แสดงให้เห็นฝุ่นบางๆคล้ายๆฟองแบ่งกาแล็กซี่นี้ออกเป็นสองซีก และตรงใจกลางหรือนิวเคลียสของกาแล็กซี่ล้อมรอบด้วยกระเปาะสีแดงเรื่อๆ ขณะที่บริเวณที่อยู่ของดาวฤกษ์ซึ่งเป็นแถบสีน้ำเงินขนานไปกับแนวฝุ่น

     

    6.กาแล็กซี่ Arp 220

    เมื่อกาแล็กซี่ชนกันหรือรวมกันเป็นหนึ่งเดียว อะไรจะเกิดขึ้น?

    ภาพกาแล็กซี่ Arp 220 ซึ่งเกิดจากการชนกันของสองกาแล็กซี่แสดงให้เราเห็นว่ามันไม่ได้พังทลายไป แต่กำลังให้กำเนิดดาวฤกษ์ใหม่ๆจำนวนมากที่บริเวณใจกลางของฝุ่นและก๊าซที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5,000 ปีแสง

    นักดาราศาสตร์เชื่อว่า

    ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดดาวฤกษ์หนักหรือดาวฤกษ์มวลมากจำนวนมากและพวกมันจะอยู่กันเป็นกระจุก

    ปรากฏการณ์การรวมกันของกาแล็กซี่เช่นนี้

    คล้ายกับการรวมกันของกาแล็กซี่ในช่วงแรกๆของจักรวาลซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมดา

     

    7.นิคและไฮดรา

    ปี 2005 กล้องอวกาศฮับเบิลค้นพบดวงจันทร์บริวารขนาดเล็ก

    ของดาวเคราะห์แคระพลูโตจำนวนสองดวง ให้ชื่อว่า นิค(Nix) และ (Hydra) นิคและไฮดรามีแสงสลัวๆกว่าพลูโตประมาณ 5,000 เท่าและอยู่ห่างจากพลูโตราวสองถึงสามเท่าของดวงจันทร์คารอนดวงจันทร์ขนาดใหญ่ของดาวพลูโตซึ่งค้นพบเมื่อปี 1978

     


    8.กระจุกกาแล็กซีหัวกระสุน

    นักดาราศาสตร์เพียรพยายามค้นหาสสารมืด (Dark Matter)

    สสารที่มองไม่เห็นมาช้านาน ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จจากผลงานของกล้องอวกาศฮับเบิลและกล้องอวกาศรังสีเอ๊กซ์จันทรา

    ภาพกระจุกกาแล็กซี 1E 0657-56 หรือกระจุกกาแล็กซีหัวกระสุน

    ซึ่งเกิดจากการชนกันของกระจุกกาแล็กซี่ขนาดใหญ่สองกระจุก เผยให้เห็นการแยกออกจากกันระหว่างสสารมืดกับสสารธรรมดา

     


    9 .กาแล็กซีแรกหลังบิ๊กแบง

    กล้องอวกาศฮับเบิลสามารถส่องย้อนอดีตไปได้ไกล

    จนเกือบถึงการระเบิดบิ๊กแบง จุดกำเนิดของจักรวาล ด้วยความสามารถที่สูงยิ่งนี่เองทำให้มันพบกาแล็กซี่มากกว่า 500 กาแล็กซี่ที่มีอยู่เมื่อไม่ถึงพันล้านปีหลังการระเบิดบิ๊กแบง

    นักดาราศาสตร์บอกว่า

    นี่คือการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ประมาณค่ามิได้ในการที่เราจะทำความเข้าใจการกำเนิดของกาแล็กซี่

     


    10 .ดวงจันทร์ผ่านหน้าดาวยูเรนัส

    ถ้าไม่ใช่เพราะกล้องอวกาศฮับเบิล เราคงไม่เห็นภาพเช่นนี้

    นี่คือภาพดวงจันทร์แอเรียล(Ariel) ดวงจันทร์น้ำแข็งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 700 ไมล์ของดาวยูเรนัสกำลังโคจรผ่านหน้าดาวยูเรนัส ซึ่งเห็นเป็นจุดสีขาว ส่วนจุดสีดำคือเงาของมัน

    แม้ว่าขณะนี้กล้อง ACS กล้องตัวหลักจะใช้การไม่ได้

    แต่ภารกิจของ กล้องอวกาศฮับเบิลก็ยังดำเนินต่อไปโดยนักวิทยาศาสตร์จะใช้กล้อง WPPC 2 แทนกล้อง ACS

     



     นสพ.ข่าวสด


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×