นักปฏิวัติอุตสาหกรรม - นักปฏิวัติอุตสาหกรรม นิยาย นักปฏิวัติอุตสาหกรรม : Dek-D.com - Writer

    นักปฏิวัติอุตสาหกรรม

    ผู้เข้าชมรวม

    3,751

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    3.75K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.พ. 50 / 22:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      เจมส์ วัตต์
      (James Watt)

       

                เจมส์ วัตต์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ผู้คิดค้นสร้างเครื่องจักรไอน้ำสำเร็จ จนเป็นพลังขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมของโลก ในสมัยเด็กกลับเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนอ่อนด้อยมากในสายตาของครู       

      เจมส์ วัตต์ (James Watt ค.ศ. 1736 - 1819) เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 1736 ในเมืองกรีนน็อกเรนฟรู (Greenock Renfrew) ของสกอตแลนด์ พ่อเป็นช่างต่อเรือ ตอนเป็นเด็กเล็ก เด็กชายวัตต์มีร่างกายอ่อนแอมาก เป็นเรื่องที่พ่อแม่เป็นห่วงเป็นใยอยู่เสมอ มีนักเขียนชีวประวัติท่านหนึ่งเขียนบรรยายสติปัญญาของวัตต์ตอนอายุ 6 ขวบไว้ว่า มีแขกคนหนึ่งมาเยี่ยมครอบครัววัตต์ เมื่อเห็นเด็กชายวัตต์มือถือดินสอสีนั่งยอง ๆ อยู่ข้างเตาผิง จึงพูดกับพ่อของ เจมส์ วัตต์ ด้วยความหวังดีว่า "คุณควรจะส่งลูกของคุณไปเรียนหนังสือได้แล้ว อย่าปล่อยให้เขาวันๆ ว่างจับเจ่าอยู่ในบ้าน อย่างนี้ไม่ดีแน่"       

      พ่อตอบว่า "ก่อนที่คุณจะพูดวิจารณ์อะไร ดูก่อนซิว่าเจมส์เขากำลังทำงานง่วนอยู่เป็นไร?" แขกมองไปตามที่พ่อของเจมส์ชี้ให้ดู ที่แท้ เจมส์ วัตต์ กำลังใช้ดินสอสีเขียนเป็นเส้นและวงกลม ทั้งยังเขียนตัวเลขและตัวอักษรด้วย แขกผู้มาเยือนเดินเข้าไป หาและสอบถามเด็กชายวัตต์ด้วยความสนใจ ปรากฏว่า แขกถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่า เด็กชายวัตต์มิเพียงตอบได้รวดเร็วถูกต้อง ทั้งยังรวบรัดเข้าใจอีกด้วย จึงมิอาจไม่ชื่นชมสติปัญญาของเด็กชายวัตต์ได้       

      แม้ว่าพ่อแม่รู้สึกภูมิใจในความสามารถของลูก และคอยปลุกเร้าให้กำลังใจอยู่เสมอ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจช่วยให้ผลการเรียนในโรงเรียนดีได้ แม้แต่วิชาพละก็ไม่สามารถทำคะแนนให้เป็นที่น่าพอใจ ในโรงเรียนไม่มีครูที่สามารถค้นพบความสามารถพิเศษของ เจมส์ วัตต์ สักคน แต่ครูส่วนใหญ่เห็นว่า เจมส์ วัตต์ ไม่ชอบเรียนหนังสือ และพากันประเมินผลว่า เจมส์ วัตต์ เป็นเด็กที่มีผลการเรียนอ่อนด้อย       

      ภายหลังออกจากโรงเรียนโดยไม่ได้เรียนจบหลักสูตร วัตต์ก็ไปทำงานในโรงงานผลิตแว่นตาและอุปกรณ์แว่นตาที่อยู่ละแวกบ้าน โดยเหตุที่เขามีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่ว ฝีมือความสามารถของเขาจึงพัฒนาก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุ 18 ปี เขาได้ตั้งปณิธานจะยึดอาชีพประดิษฐ์สร้างสรรค์อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ตลอดชีวิต เขาจึงได้เดินทางไปยังกรุงลอนดอน ไปฝึกงานกับช่างประกอบอุปกรณ์วิทยาศาสตร์เขาหนึ่ง หลังจากฝึกเรียนจนสำเร็จ เขาเคยคิดที่จะตั้งร้านประกอบและซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เมืองกลาสโกว์ (Glasgow) แต่ถูกพวกสหภาพแรงงานคัดค้านกีดกัน เขาจึงจำต้องเลิกล้มโครงการเสีย ต่อมาหลังจากเขาพยายามวิ่งเต้นขวนขวายอยู่ไม่นาน เขาก็สามารถตั้งโรงงานเล็กๆ ของเขาที่มุมหนึ่งในมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ตอนนั้นเขาอายุเพียง 21 ปี       

      เจมส์ วัตต์ ด้านหนึ่งทำงานของตนไป ด้านหนึ่งก็ติดต่อไปมาหาสู่กับพวกนักศึกษาและอาจารย์ ขณะเดียวกันก็ศึกษาวิชากลศาสตร์ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และวิชาเคมี เป็นต้น ด้วยตนเอง และแน่นอน เขาย่อมไม่ปล่อยโอกาสที่จะศึกษาหาความรู้จากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย       

      ค.ศ. 1763 ขณะนั้น เจมส์ วัตต์ อายุ 27 ปี ด้วยความช่วยเหลือของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ เขาก็ตั้งร้านอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขึ้นในเมืองกลาสโกว์จนได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยขอให้เขาช่วยซ่อมเครื่องยนต์เก่าเครื่องหนึ่ง การได้รับหน้าที่ซ่อมเครื่องยนต์เก่านี้ กลับทำให้เขาเกิดเจตนารมณ์ที่จะสร้างเครื่องจักรไอน้ำอันถือได้ว่า เป็นการบุกเบิกยุคอุตสาหกรรมยุคใหม่ขึ้นในอนาคต เพราะเขาสังเกตเห็นพลังไอน้ำเวลาต้มน้ำเดือด       

      หลังจากได้รับหน้าที่ซ่อมเครื่องยนต์เก่า เจมส์ วัตต์ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เพื่อทำภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ในระหว่างปีที่สองของการทำงานซ่อมเครื่อง เขาเขียนจดหมายถึง

             เพื่อน มีประโยคหนึ่งว่า "ข้าเกือบจะไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย"       

      เจมส์ วัตต์ พยายามคิดค้นเรื่องเครื่องจักรไอน้ำอย่างไม่ลดละ ต่อมาเขาได้รับความช่วยเหลือจากบูลตัน (Boulton) เขาย้ายไปดำเนินกิจการโรงงานผลิตเครื่องจักรกล มีชื่อว่า "บริษัทบูลตัน" เขาทุ่มเทกำลังสมองกำลังกายดำเนินการสร้างเครื่องจักรไอน้ำ ค.ศ. 1776 เหมืองถ่านหินได้ใช้เครื่องจักรไอน้ำของ เจมส์ วัตต์ ประกอบเข้ากับเครื่องดูดน้ำขนาดใหญ่ ใช้ดูดน้ำได้สำเร็จ และต่อมาก็นำมาใช้กับรถไฟและเรือเป็นต้น ความสามารถของเขาจึงได้รับการยอมรับ และมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วยุโรป       

      ความจริงเขายังคิดค้นประดิษฐ์เครื่องยนต์กลไกอีกหลายต่อหลายอย่าง เช่นเครื่องทอผ้าเป็นต้น และก็เป็นเขาเองนั่นแหละที่เป็นผู้ตั้งชื่อหน่วยวัดกำลังทำงานของเครื่องยนต์ว่า "Horse power" (แรงม้า)       

      แม้ว่าตลอดชีวิตของเจมส์ วัตต์ เวลาส่วน ใหญ่ถูกใช้กับการคิดค้นประดิษฐ์เครื่องยนต์ กลไก แต่ยามมีเวลาว่างเขาจักต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ความสนใจของเขากว้างขวางมาก ไม่ว่าสถาปัตยกรรม ดนตรี ปรัชญา กฎหมาย หรือภาษาต่างประเทศ ล้วนอยู่ในขอบข่ายความสนใจของเขาทั้งนั้น เขามิเพียงแต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ เขายังเป็นนักมานุษยวิทยาที่ทรงภูมิรู้ด้วย เจมส์ วัตต์เสียชีวิตลงในวันที่ 25 สิงหาคม 1819 ที่อังกฤษ

       

       

      บทวิเคราะห์

          

           เจมส์ วัตต์ เป็นนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษที่รู้จักกันดีในนามของผู้ประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำซึ่งประกอบด้วยเครื่องดูดน้ำขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพและส่งผลให้วงการอุตสาหกรรมในขณะนั้นมีความเจริญก้าวหน้าและสืบเนื่องมายังปัจจุบัน เพราะจากความคิดของเขาและความตั้งใจ ถึงแม้ว่าในสมัยเด็ก เขาจะเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนด้อยมากในสายตาของครู แต่เขาก็ยังมีความพยายาม ไม่ลดละที่จะสร้างเครื่องจักรไอน้ำให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของวงการอุตสาหกรรม ส่งผลให้มนุษย์สามารถประดิษฐ์คิดค้นหลายสิ่งหลายอย่างตามมา ไม่ว่าจะเป็น รถไฟที่มาจากพลังไอน้ำและเรือ ไม่เพียงเท่านั้นเครื่องจักรของเจมส์ วัตต์ยังเป็นต้นแบบของเครื่องจักรที่ใช้น้ำมันที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันอีกด้วย เป็นต้น

      เจมส์ วัตต์ยังได้คิดค้นประดิษฐ์เครื่องยนต์กลไกอีกหลายอย่าง เช่น เครื่องทอผ้า และเป็นผู้ตั้งชื่อหน่วยวัดกำลังทำงานของเครื่องยนต์ ที่เรียกว่า “Horse power” (แรงม้า) ซึ่งล้วนแล้วเกิดจากมันสมองของเขา ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร ซึ่งสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ ทำให้คนเราสามารถเดินทางคมนาคม ไปมาได้อย่างสะดวก และรวดเร็วขึ้น จนคนรุ่นหลังยังได้นำชื่อของเขามาเป็นหน่วยวัดกระแสไฟฟ้า เพราะจากความดี ความชอบที่เขาได้สร้างไว้ให้แก่มนุษยชาติ

                วัตต์ยังทำให้วงการอุตสาหกรรมในทุกๆ แห่งที่นำเครื่องจักรไอน้ำของเขาไปใช้ มีศักยภาพทางด้านการผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรป เรียกได้ว่า เป็นบุคคลหนึ่งที่ทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง เพราะทำให้วงการอุตสาหกรรมตื่นตัว และมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น มนุษย์เราในปัจจุบันจึงมีความสะดวกสบายมากขึ้นจากการประดิษฐ์คิดค้นของเขา และจึงมีการพัฒนาเครื่องยนต์กลไกทางด้านวิทยาศาสตร์ต่อมาเรื่อยๆ เพื่อนำมาใช้ในด้านอุตสาหกรรมและด้านต่างๆ สร้างคุณค่ามหาศาลและประโยชน์มากมาย เพียงเพราะความคิดของบุคคลหนึ่งคนที่ชื่อว่า เจมส์ วัตต์

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×