ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [ชั้น 1] 7 สายพันธุ์มังกรหลัก
Terrible Terror (เทอร์ริเบิล เทอร์เรอร์) หรือ จิ๋วจิ้ว
ในบรรดามังกรที่เป็นที่รู้จักทุกสายพันธุ์ จิ๋วจิ้ว มีขนาดเล็กที่สุดและมีจำนวนประชากรเยอะที่สุด แม้ว่ามันจะเดินทางเป็นฝูง มันกลับไม่ได้เปรียบในเรื่องของจำนวนเพราะการทะเลาะเบาะแว้งในกลุ่ม แทนที่จะร่วมกันวางแผนโจมตี สิ่งนี้เองทำให้พวกมันไม่มีประสิทธิภาพในการสู้รบ พวกมันก็เลยมักจะคุ้นเขี่ยหาซากอาหารแทนที่จะไปล่าด้วยตัวเอง ด้วยความที่จิ๋วจิ้วไม่สามารถบินเป็นระยะทางไกลๆ ได้ มันก็มักจะขออาศัยบินไปกับมังกรที่ตัวใหญ่กว่าเสมอ อัตราการสืบพันธุ์ที่สูงและลักษณะนิสัยที่ไม่ชอบเผชิญหน้ากับมนุษย์ของมังกรสายพันธุ์นี้ทำให้มันออกลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง แม้ว่ามันจะมีจุดอ่อนมากแค่ไหนก็ตาม แม้ว่ามีรายงานว่ามีมังกรจิ๋วจิ้วเป็นพันๆ ตัว ก็ไม่ค่อยมีใครเห็นมัน ไวกิ้งบางคนไม่เคยเห็นมังกรชนิดนี้ตลอดชีวิตด้วยซ้ำไป
Hideous Zippleback (ฮิเดียส ซิพเพลแบ็ค) หรือ ซิปสองหัวจอมอัปลักษณ์
ซิปสองหัวจอมอัปลักษณ์ เป็นมังกรที่แปลกพิสดารที่สุด ใครๆ ก็เห็นมันได้ง่าย (และเข้าใจได้ง่ายด้วยว่ามันได้ชื่อนี้แต่ใดมา) แค่มองศีรษะทั้งสองของมัน ที่ตั้งอยู่บนลำคอแยกจากกันที่สามารถ ?ซิป? ให้ติดกันได้ แม้ว่ามันจะเป็นมังกรที่ตัวยาวที่สุด แต่มันยังดันมีปีกที่เล็กที่สุด แถมขาก็เตี้ยม่อต้ออีกต่างหาก ทำให้มันไม่ได้เก่งกาจทั้งบนพื้นดินและในอากาศ แต่เรื่องพวกนั้นก็ไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก เพราะการโจมตีที่ไม่ธรรมดาของมันร้ายกาจสุดๆ แทนที่จะพ่นไฟออกมา ศีรษะหนึ่งสามารถพ่นแก๊สติดไฟออกมาได้ ส่วนอีกศีรษะหนึ่งก็จะจุดระเบิดมันด้วยประกายไฟ ดังนั้น มันก็สามารถจู่โจมจากระยะไกล ด้วยการปล่อยให้แก๊สซึมเข้าไปตามหลืบซอกมุม ก่อนที่จะมีการจุดระเบิดมันขึ้นมา จุดบกพร่องทางกายภาพและหัวสมองทึบของมัน ทำให้มังกรสายพันธุ์นี้แทบจะสูญพันธุ์อยู่แล้ว จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน ซึ่งก็คือศีรษะทั้งสอง ก็เป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันเช่นกัน เพราะศีรษะทั้งสองมักจะเห็นแย้งกันอยู่เสมอ ทำให้มันต้องหยุดชะงักอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ทำให้ไวกิ้งหลายคนสามารถทำให้มันสับสนและล้มมันได้ ซิปสองหัวจอมอัปลักษณ์ตัวผู้ มักจะใช้ชีวิตอย่างโง่เขลาจนกระทั่งมันระเบิดตัวเองไป ในขณะที่ตัวเมียจะมีเหตุผลมากกว่าและมีชีวิตที่ยืนยาวกว่า
Gronckle (กรองเคิล) หรือ แหนมคึก
แหนมคึก มีลักษณะเด่นตรงที่ลำตัวที่อวบอ้วนและปีกขนาดจิ๋ว ที่สามารถกระพือด้วยความเร็วสูง ทำให้มันสามารถบินไปด้านหลังหรือด้านข้างได้ แหนมคึกชอบการนอนหลับ และบางครั้ง มันก็สามารถผลอยหลับได้ระหว่างบินหรือนอนกองอยู่บนเพื่อนพ้องมัน ทำให้เกิดกองมังกรหลับขนาดใหญ่ขึ้นมา มันแบ่งเวลาในแต่ละวันตามนี้คือ บิน 1% กิน 5% บ่น 10% นอน 84% ระหว่างการโจมตี แหนมคึกจะบดขยี้ศัตรูด้วยหางที่ยืดขยายได้ และปลายหางที่มีลักษณะเหมือนลูกตุ้ม หรือด้วยการใช้ศีรษะพุ่งชน แต่อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของมันคือเปลวไฟ ที่สามารถทำให้หินหนักหลายร้อยปอนด์หลอมละลายกลายเป็นลาวา ซึ่งถูกผสมผสานกับอ็อกซิเจน (จากการหายใจ) และพ่นมันใส่ศัตรูราวกับกระสุนปืนใหญ่ไฟ จุดอ่อนของมันคือสายตาที่เลวร้าย บางครั้งมันถึงกับมองผิดว่าหินคือไข่ของมัน และนั่งบนหินพวกนั้นเพื่อรอให้มันฟักตัวด้วยซ้ำไป
Monstrous Nightmare (มอนทรัส ไนท์แมร์) หรือ พญาเพลิงพิฆาต
พญาเพลิงพิฆาต เป็นเหมือนตัวชูโรงสำหรับสายพันธุ์มังกร เป็นมังกรที่มีรูปร่างลักษณะน่าสะพรึงกลัว และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในหมู่มังกร พญาเพลิงพิฆาต ซึ่งลำตัวส่วนใหญ่มีสีแดงและดำ เป็นสัตว์ที่รุนแรง หัวรั้นและมีทิฐิ มันจะเป็นตัวแรกที่มาถึงสงครามและเป็นตัวสุดท้ายที่จะจากสงคราม มันมีสายตาที่กว้างไกลและมีปีกกว้าง ที่ทำให้มันดูเหมือนจะตัวใหญ่ขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นการสร้างความหวาดหวั่นให้กับศัตรูได้เป็นอย่างดี มันสามารถโจมตีได้ทั้งบนพื้นดิน (เกาะผนัง และใช้ปากกว้างและเขายาวๆ ของมันในระยะประชิด) และในอากาศ แม้ว่าปีกขนาดใหญ่ของมันจะทำให้มันเคลื่อนไหวได้ช้ายามอยู่บนพื้นดิน และขนาดใหญ่โตของมันก็ทำให้มันกลายเป็นเป้าอย่างดี แต่จุดอ่อนเหล่านี้ก็ถูกชดเชยได้ด้วยหนามแหลมคมและไฟเจลเคโรซีน ที่เป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของมัน ไฟเหนียวหนึบนี้จะไหลซึมเข้าไปตามรอยแยกและคู ทำให้การดับไฟของมันเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย กลยุทธของมันก็คือการอาบตัวมันเองด้วยเปลวเพลิงตั้งแต่จมูกจรดหาง และโจมตีศัตรูขณะที่ตัวของมันยังถูกเผาผลาญด้วยเปลวเพลิงเช่นนั้น
Night Fury(ไนท์ ฟูรี่) หรือ เพลิงนิล
ไนท์ ฟูรี่มังกรสายพันธุ์ที่หายากที่สุดและเฉลียวฉลาดที่สุด มีลักษณะโดดเด่นตรงสีตัวเข้ม และดวงตาสีเหลืองสดใส รวมถึงขนาดที่เล็กกว่ามังกรพันธุ์อื่นๆ แผงหน้าอกใหญ่และลำคอที่สั้น ด้วยความที่มันมีอัตราส่วนระหว่างปีกและลำตัวที่มากกว่ามังกรพันธุ์อื่นๆ มันก็เลยสามารถบินได้สูงกว่า เร็วกว่าและนานกว่ามังกรตัวอื่นๆ และอัตราส่วนระหว่างพลังและน้ำหนักที่เหลือเชื่อของมัน ทำให้มันสามารถโผบินขึ้นได้ในแนวตั้ง แต่แม้ว่ามันจะสง่างามยามเหินเวหาซักแค่ไหน มันกลับงุ่มง่าม เซ่อซ่าเหลือเกินยามอยู่บนพื้นดิน เปลวไฟที่ไม่ธรรมดาของมัน (มวลกึ่งแข็งที่เผาผลาญด้วยเปลวเพลิงอซิทิลินและอ็อกซิเจน) จะจุดระเบิดเมื่อกระทบเป้าหมาย มันจะเข้าสู่โหมดการต่อสู้หลังจากพระอาทิตย์ตกดินและจากมุมสูง โดยมันจะใช้ปีกห่อหุ้มตัวเอาไว้ และจะพุ่งตัวราวกับกระสุน ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นในวินาทีสุดท้ายเพื่อพ่นไฟอย่างแม่นยำและรุนแรง ก่อนจะอันตรธานหายไปในยามราตรี คำเตือนเพียงหนึ่งเดียวคือเสียงดังที่เกิดจากการพุ่งตัวของไนท์ ฟูรี่ การโจมตีแบบคามิคาเซ่และลักษณะนิสัยที่หวาดระแวงและจิตใจช่างวิเคราะห์ของมัน ทำให้ไนท์ ฟูรี่เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม ที่มีอัตราความสำเร็จในการโจมตีสูงจนน่าทึ่ง จนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีไนท์ ฟูรี่ตัวไหนที่ถูกสอยร่วงมาก่อนเลย
Deadly Nadder (เด๊ดลี แนดเดอร์)
หรือ เพลิงเมฆาจอมโหด อย่าโดนหลอกเชียวล่ะ เพราะเพลิงเมฆาจอมโหด มังกรสีสวย ที่มีสีสันแบบเขตร้อนที่เจิดจ้าและหลากหลายราวกับนกแก้ว เป็นตัวอันตรายของแท้ มันเป็นนกเปลี่ยนใจง่าย ก้าวร้าว และมีอารมณ์แปรปรวนรุนแรง และซ้ำร้ายกว่านั้น มันเป็นนกที่เย่อหยิ่งหลงตัวเองซะด้วย การโจมตีของมันมีสองแบบ คือมันสามารถพ่นแม็กนีเซียมบริสุทธิ์ (ไฟมังกรที่ร้อนแรงที่สุด) ได้ระยะไกลหลายร้อยหลา และมันก็สามารถฟาดหางที่เต็มไปด้วยหนามอันตรายของมันได้ด้วย คุณสมบัตินี้ บวกกับความจริงที่ว่ามันเป็นอันตรายบนฟากฟ้าพอๆ กับที่มันเป็นอันตรายบนพื้นดิน ก็ทำให้มันเป็นหนึ่งในมังกรที่ต่อกรด้วยได้ยากที่สุด ด้วยขาที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงและเคลื่อนไหวฉับไว มันสามารถกางแผงหนามบนร่างกาย และป้องกันตัวเองด้วยจะงอยปากและคมเขี้ยวที่แหลมคม หัวของมันก็เป็นเสมือนค้อนทุบ ที่สามารถถล่มได้แม้แต่ผนังและประตูที่แข็งแรงที่สุด จุดอ่อนของมันคือเรื่องสายตา เพราะดวงตาของมันอยู่ที่ด้านข้างศีรษะ ทำให้เพลิงเมฆาจอมโหด ไม่อาจมองเห็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าต่อตาได้ Monstrous Nightmare (มอนทรัส ไนท์แมร์) หรือ พญาเพลิงพิฆาต พญาเพลิงพิฆาต เป็นเหมือนตัวชูโรงสำหรับสายพันธุ์มังกร เป็นมังกรที่มีรูปร่างลักษณะน่าสะพรึงกลัว และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในหมู่มังกร พญาเพลิงพิฆาต ซึ่งลำตัวส่วนใหญ่มีสีแดงและดำ เป็นสัตว์ที่รุนแรง หัวรั้นและมีทิฐิ มันจะเป็นตัวแรกที่มาถึงสงครามและเป็นตัวสุดท้ายที่จะจากสงคราม มันมีสายตาที่กว้างไกลและมีปีกกว้าง ที่ทำให้มันดูเหมือนจะตัวใหญ่ขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นการสร้างความหวาดหวั่นให้กับศัตรูได้เป็นอย่างดี มันสามารถโจมตีได้ทั้งบนพื้นดิน (เกาะผนัง และใช้ปากกว้างและเขายาวๆ ของมันในระยะประชิด) และในอากาศ แม้ว่าปีกขนาดใหญ่ของมันจะทำให้มันเคลื่อนไหวได้ช้ายามอยู่บนพื้นดิน และขนาดใหญ่โตของมันก็ทำให้มันกลายเป็นเป้าอย่างดี แต่จุดอ่อนเหล่านี้ก็ถูกชดเชยได้ด้วยหนามแหลมคมและไฟเจลเคโรซีน ที่เป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของมัน ไฟเหนียวหนึบนี้จะไหลซึมเข้าไปตามรอยแยกและคู ทำให้การดับไฟของมันเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย กลยุทธของมันก็คือการอาบตัวมันเองด้วยเปลวเพลิงตั้งแต่จมูกจรดหาง และโจมตีศัตรูขณะที่ตัวของมันยังถูกเผาผลาญด้วยเปลวเพลิงเช่นนั้น
Red Death (เรด เดธ) หรือ ราชันย์แดง
แม้ว่ามันจะถูกมองว่าเป็นจ้าวแห่งมังกรทั้งมวล แต่จริงๆ แล้ว แทบไม่มีใครรู้เรื่องราวของราชันย์แดง มังกรแห่งมิดการ์ดเลย แต่คนเชื่อกันว่า ราชันย์แดงมีชีวิตยืนยาวถึง 2,000 ปี และก่อนที่มันจะสิ้นลม มันก็จะวางไข่ 3,000 ฟอง หลังจากที่ไข่เหล่านั้นฟักแล้ว ลูกๆ ของมันก็จะสู้และฆ่าฟันกันจนกว่าจะเหลือมังกรที่เป็นผู้นำเพียงแค่ตัวเดียว ตำนานว่าไว้ว่าการต่อสู้นี้อาจจะกินเวลายาวนานเป็นร้อยปี บางคนเชื่อว่าจริงๆ แล้ว การต่อสู้ถึงชีวิตของพวกมันเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาณาเขต โดยผู้ชนะจะได้ครองศูนย์กลางโลก และผู้รอดชีวิตก็จะถูกเนรเทศไปยังดินแดนห่างไกล มันอาจอธิบายได้ถึงเรื่องตำนานมังกรที่ปรากฏอยู่ทั่วโลก ทั้งในจีน แอฟริกาและรัสเซีย ราชันย์แดงแตกต่างจากมังกรพันธุ์อื่นๆ ตรงที่มันสามารถใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในถ้ำ และยังชีพอยู่ด้วยอาหารที่มังกรลูกสมุนส่งมาให้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มังกรชนิดนี้ไม่ค่อยปรากฏบ่อยนัก แน่นอนว่าถ้ามันหิวและเกิดมองหาอาหารขึ้นมาล่ะก็ มันก็อาจจะพบคุณเข้าก็ได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น