ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Plan แผนร้าย...ป่วนรัก [Yaoi+Re write]

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 แผนการเริ่มต้น!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 86
      3
      29 พ.ค. 55

    ตอนที่ 1

      

     

     

    หน้าตาของผมเป็นบาป ใครจะหาว่าผมหลงตัวเองก็เอาเถอะครับ ผมไม่คิดจะปฏิเสธ เพราะยังไงความจริงก็คือความจริงอยู่ดี นอกจากจะทำให้ผู้หญิงเสียน้ำตาเพราะใบหน้าของผมแล้ว ผมเองก็ยังเสียน้ำตาให้กับความหน้าตาดีของตัวเองเลยครับ

    พี่เก่งพูดเล่นป่ะเนี่ย ผมเริ่มขำไม่ออกแล้วนะ

    พูดจริงล้านเปอร์เซ็นเลยวะหลานรหัสสุดน่ารัก ชายหนุ่มมาดตี๋ มีไรเคราหน่อยๆซึ่งดูไม่เข้ากับใบหน้าพูดขึ้น พร้อมทั้งตบบ่าผมเล็กน้อยเป็นเชิงให้กำลังใจ

     

    ผมไม่เล่นด้วยหรอก ผมเป็นผู้ชายนะพี่

     

    ทำเพื่อพี่สักครั้ง พี่เก่งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    ผม - ไม่ - ทำ

     

    ตกลงว่าแกจะไม่ทำใช่มั้ย

     

    ไม่ - ทำ ให้ตายผมก็ไม่ทำหรอก จีบผู้ชายเนี่ยนะ เสียชื่อหนุ่มหล่อหมด

     

    แต่ถ้าแกทำได้พี่จะคุยกับยายปุ๋มเรื่องถอนแกออกจาก ตำแหน่ง ให้

     

    งั้นผมทำ!!!”

               

    ย้อนกลับไปสักเล็กน้อย เมื่อประมาณ 70 วันก่อน ตอนที่ผมยังเป็นเฟรชชี่วัยใส (ซึ่งตอนนี้ก็ยังใสอยู่) คณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยที่ผมสังกัดอยู่แปลกกว่าคณะอื่นๆตรงที่ เดือนและดาวประจำคณะเขาสลับตำแหน่งกันครับ คุณๆทั้งหลายฟังไม่ผิดหรอก หากน้องเฟรชชี่หญิงหรือชายคนไหนถูกโหวตว่า HOT ในวันรับน้องก็จะได้รับตำแหน่งไป โดยฝ่ายหญิงจะได้เป็นเดือน และฝ่ายชายจะได้เป็นดาว และด้วยความที่ว่าผมหน้าตาดีจริงอะไรจริง จึงได้รับผลโหวตอย่างถล่มทลายตำแหน่งดาวคณะไหนเลยจะไกลเกินเอื้อม

     

    ซึ่งตอนแรกๆผมก็เฉยๆแหละครับกับการเป็นดาวคณะ แต่ใครจะไปรู้ละว่า ตำแหน่งดาวคณะนิเทศ มันต้องอาถรรพ์ เพราะนอกจากสาวในและนอกคณะจะไม่ชายตามองแล้ว ยังถูกเหมารวมว่าเป็นพวกสัตว์สงวนแห่งชาติ อาทิเก้งกวาง เผลอๆได้เป็นชะนีอีกหนึ่งกระทง ทำเอาศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของผมโดนทำลายเละเทะไม่มีชิ้นดี ฮือๆ น้องธีร์เศร้า


    ต่างจากเดือนคณะ ที่วันๆมีแต่คนมารุมขอเบอร์ไม่ขาด ผมละกลุ้มจริงๆ และหนทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปนี้ได้ก็คือ ผมต้องเลิกเป็นดาวคณะ แต่ใช่ว่าจะสละตำแหน่งได้ง่ายๆ เพราะหากไม่ได้รับความเห็นชอบจาก พี่ปุ๋ม สาวสวยซึ่งครองตำแหน่งประธานคณะแล้วละก็อย่าหวังเลยครับว่าผมจะพ้นจากคำสาปนี้ไปได้



    และในเมื่อมีคนเสนอ
     งาน มาให้ แล้วมันจะทำให้ผมหลุดจากตำแหน่งดาวคณะได้ ผมน่ะหรอจะปฏิเสธมัน คุณว่าจริงไหมครับ

     

    ....แต่จะให้เริ่มยังไงละ ในเมื่อภารกิจของผมคือ.... การจีบผู้ชาย!!!

     

    นั่นเอกรัฐ เสือยิ้มยากประจำคณะนิเทศ มึงจะใช้วิธีไหนก็ได้แต่ต้องจีบมันให้ติด เข้าใจมั้ย พี่เก่งพูดพร้อมทั้งชี้ไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากที่ผมนั่งอยู่

     

    พี่แม่ง เล่นแรงหว่ะ หาคนมาจีบเพื่อนตัวเอง

     

    แน่นอนหลานรักโห..ยังมีหน้ามายิ้มอีก นี่ผมด่าพี่ทางอ้อมอยู่นะครับพี่เก่ง -..-

     

    แต่สงสัยผมคงโดนต่อยก่อนจีบติดแน่ๆ ผมบ่นพึมพำ พร้อมเสมองไปที่เป้าหมาย และข้อมูลที่ผมได้รับมีเพียง

     
    - ชื่อ นายเอกรัฐ ภูทิศไพศาล

    - ชื่อเล่นไม่มี แต่คนส่วนใหญ่เรียก
     ไอ้รัฐ

    - ตำแหน่ง เดือนมหาลัย

    - เป็นเสื้อยิ้มยาก และ หล่อมาก

     

    ให้ตายเถอะ เกิดมาเป็นผู้ชายตั้ง
     18 ปี ยังไม่เคยมีความคิดที่จะจีบผู้ชายมาก่อนเลย เพิ่มมามีเอาปีที่ 19 เนี่ยแหละ แต่เอาว่ะเมื่อรับงานมาแล้วผมก็ไม่เคยเบี้ยว ถ้าพี่กล้าสั่งผมก็กล้าทำ

     

    ไอ้ไทรหรอวะ ขอยืมสมองหน่อยดิ
     ผมเอ่ยทันทีที่คนปลายสายรับโทรศัพท์

     

    ว่ามา...

     

    จีบผู้ชายมันยากมั้ยวะ

     

    มันก็ไม่ยากหรอก...หะ ห๊า แกว่าไงนะธีร์ ถ้าใครเจอเพื่อนบอกแบบนี้แล้วไม่ตกใจแบบมัน ผมให้ถีบเลยเอ้า

     

    เรื่องมันยาว แกบอกวิธีมาก่อน ขอสั้นๆ ง่ายๆและไม่เปลืองตัว

     

    สัญญาว่าต้องเล่า คืนนี้

     

    เออ

     

    อันดับแรก แกต้องหาทางเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้นให้ได้ ยิ่งใกล้ยิ่งดี

     

    หลังจากปรึกษากับเพื่อนสุดเลิฟเรียบร้อยแล้ว ผมก็อันเชิญตัวเองมายังห้องสมุด แต่ไม่ได้มาเพื่ออ่านหนังสือหาความรู้ใส่ตัวหรอกครับ แต่ผมมาใช่คอมฯที่นี่ต่างหาก ไม่ได้อยากจะอวดอะไรหรอกนะ แต่ห้องสมุดมหาลัยผมเนี่ย นับว่าสุดยอด

     

    คุณอาจจะคิดว่าห้องสมุดคืออาคารเก่าๆหลังหนึ่งไว้ใช้เก็บหนังสือหรือตำราอะไรก็แล้วแต่เพื่อเพิ่มพูนหาความรู้ เก็บนิยามเก่าๆของคุณไว้ใช้กับที่อื่นเถอะครับ เพราะมหาลัยของผมน่ะขึ้นชื่อว่ามหาลัยสร้างสรรค์เชียวนะครับ ห้องสมุดมีหรือจะเป็นแค่ที่นั่งอ่านหนังสือธรรมดาๆของพวกเด็กเรียน เพราะตั้งแต่ชั้นสามถึงชั้นห้า มันเป็นศูนย์คอมพิวเตอร์ แถมยังเน็ตแรงขนาดเล่นเกมออนไลน์ได้อีกต่างหาก คุณว่าดีมั้ยล่ะ

     

    เมื่อหาเครื่องคอมฯได้แล้วผมก็รีบเปิดปู่เกิ้ลหาข้อมูลวิธีการจีบผู้ชายทันที คุณจะไม่มีวันผิดหวังเพียงแค่คลิ๊กหาปู่เกิ้ล มันมีทุกอย่างที่เราต้องการจริงๆ เหอๆ

     

    '11 วิธีมัดใจชาย(สำหรับหนุ่มๆ)' ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละครับว่าจะมีคนอุตริเขียนฮาวทูนี้ขึ้นมา เปิดเผยกันเกินไปหรือเปล่าครับพี่น้อง เมื่อลองอ่านคร่าวๆแล้วมันก็เวิร์คดี ผมเลยจัดการปริ้นมันมาซะ

     

    อืม...วิธีแรกมันเขียนไว้ว่า แรกพบสบตา...ปิ๊งๆ อันดับแรกคุณต้องลองส่งสายตาไปให้เป้าหมายสักสองสามครั้งเป็นการหยั่งเชิงก่อน หากหนุ่มคนนั้นสบตาตอบคุณก็มีหวังแล้ว แต่ระวัง!!! หากเขาไม่เล่นด้วยให้ถอยออกมาซะ ไม่งั้นคุณจะเจ็บตัวฟรี...

     

    ขอถอยตั้งแต่เริ่มเลยได้มั้ย??

     

    ผมซ้อมส่งสายตาปิ๊งๆกับตัวเองอยู่หน้ากระจกประมาณสิบกว่าครั้งได้ พอได้ปิ๊งที่ดีที่สุดผมก็รีบมานั่งรอเป้าหมายที่โรงอาหารประจำคณะ เพราะไม่รู้ว่านายเอกรัฐนั่นจะมากินข้าวเมื่อไหร่

                   

    รอตั้งแต่สิบเอ็ดโมงครึ่งจนถึงบ่ายโมงนั่นแหละครับผมถึงจะเห็นตัวเดือนมหาลัย อ่อ...ผมลืมบอกไปครับว่านายเอกรัฐเนี่ยเป็นเดือนมหาลัยชนิดที่เรียกว่าหน้าด้านสุดๆ เพราะมันไม่ยอมสละตัวเองออกจากตำแหน่งเดือนไม่ว่าเวลาจะผ่านไป 3 ปีแล้วก็ตาม เรียกว่ารับตำแหน่งคุ้มสุดๆ ตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันมาเลยก็ได้ (อันนี้ได้ยินพี่เก่งแกโม้ให้ฟังครับ)

     

    หมอนั่นเดินมากับเพื่อนสองสามคน ซึ่งสองในสามคือพี่เก่งและพี่ปุ๋ม ผู้ที่ทำให้ระบบการใช้ชีวิตของผมรวน และ ซวยเข้าขั้นบรรลัย ส่วนผู้ชายอีกคนที่เดินกอดคอคู่กับมันนี่ผมไม่รู้จัก จากการแต่งตัวปล่อยเซอร์ดูซกมก สกปรกแล้วเดาได้ไม่ยากว่าคงหลุดมาจากศิลปกรรมแน่นอนครับ

     

    โชคดีครับที่นายเอกรัฐหาโต๊ะได้ค่อนข้างใกล้กับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ และก็ถือเป็นโชคดีอีกที่พี่ปุ๋มนั่งหันหลังให้ผมไม่งั้นถ้าพี่แกเห็นว่าผมแอบส่งสายตาปิ๊งๆให้เพื่อนเขาล่ะก็.... เหอะๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น

     

    พอหมอนั่นกินข้าวคำนึง ผมก็ดูดน้ำอึกนึง พอมันกินอีกคำนึง ผมก็ดูดน้ำอีกอึกนึง รอแล้วรออีกก็ยังไม่ได้จังหวะที่จะส่งสายตาเล้ยยย ฮ่วย!!!

     

    เอ๊ะ...ได้จังหวะแล้ว ปิ๊งๆ พอมันหยิบน้ำขึ้นมาดื่มแล้วมองมาทางผมเท่านั้นแหละผมก็ขยิบตาส่งไปหนึ่งที ไม่รู้ว่ามันจะรู้ตัวเปล่าว่าผมกำลังส่งสายตาจีบมันอยู่

     

    และปิ๊งครั้งที่สองนี่ผมส่งไปให้ตอนที่มันเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบกับตาผมพอดี ผมว่ามันคงเริ่มรู้ตัวแล้วละ ดูหัวคิ้วมันดิ แทบจะผูกเป็นโบว์เลย

     

    ส่วนปิ๊งครั้งสุดท้ายคือตอนที่หมอนั่นกำลังลุกออกจากโต๊ะพร้อมพวกเพื่อนๆนั่นแหละ และไอ้ครั้งสุดท้ายนี่ถ้าผมตาไม่ฝาด ผมว่ามันสบตาผมตอบนะ แม้จะแค่แว๊บเดียวเท่านั้นก็เหอะ

     

    อย่างนี้ถือว่าแผนการแรกสำเร็จแล้วใช่มั้ยครับ???

     


    ********************

     

     

    กูว่านะ น้องคนเมื่อกี้นี้กำลังจีบมึงแน่ๆเลยว่ะไอ้รัฐ ชายหนุ่มผมยาวประบ่าพูดขึ้นทันทีที่เดินออกมาจากโรงอาหาร

     

    จีบไอ้รัฐน่ะหรอ แล้วเป็นไงสวยมั้ยล่ะ สาวสวยเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มถามอย่างสนใจ

     

    ไม่สวย แต่หล่อ หนุ่มผมยาวพูดยิ้มๆ ด้วยรู้รสนิยมเพื่อนสาวดี

     

    ว๊าย...คนไหนอะ ทำไมแกถึงไม่บอกฉันห๊ะ ปุ๋มพูดอย่างเคืองๆ

     

    เอ๊า แล้วใครจะไปรู้ละ ว่าแกอยากเสือกเรื่องชาวบ้าน

     

    โธ่ ไอ้ลุงปากหมา...แกนี่นะชอบทำลายความฝันของฉันซะจริงๆ หญิงสาวไม่พูดเปล่ายังส่งลูกเตะให้เพื่อนรักทีหนึ่ง ถือเป็นการทำโทษที่ทำลายความฝันของเธอ

     

    ว่าแต่แกเห็นหรือเปล่า ปุ๋มหันมาถามเอกรัฐที่เอาแต่เดินเงียบๆ

     

    เห็นแล้วแกจะทำไม ไอ้รัฐมันไม่สนใจคนอื่นหร๊อกกกก หนุ่มมาดตี๋อีกคนพูดขึ้น

     

    ฉันไม่ได้ถามแกเลยนะไอ้เก่ง ไอ้เคราเหม็นเขียว เธอพูดพร้อมยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดจมูก ส่วนอีกข้างขี้ไปที่ไรเคราของเพื่อน

     

    เหอะๆ อย่ามาหลงรักเคราฉันก็แล้วกัน เก่งพูดยิ้มๆ หลังจากนั้นหนุ่มตี๋ก็ได้รับหมัดกลับไปตามระเบียบ

    ********************

     

     

    เอ้า...ได้เวลาเล่าแล้ว ต้นไทรจ้องหน้าผม ดูท่าแล้วหากวันนี้ถ้ามันไม่ได้รับคำตอบที่พอใจแล้วละก็ผมคงไม่ได้นอนอย่างสงบแน่นอน อาเมน

     

    มึงคงไม่อยากฟังเรื่องแบบนี้หรอก และหวังว่าในอนาคตคุณหมอต้นไทรคนนี้ คงจะไม่ซักคนไข้แบบที่ทำกับผมหรอกนะ

     

    สรุปมึงจะไม่เล่าใช่มั้ย มันพูดแล้วหันไปหยิบอาวุธที่ผมล่ะโคตรจะกลัวเลยครับ ผมทำมือยอมแพ้ก่อนเริ่มต้นเล่าเรื่องรวนๆบวกซวยๆของผมให้เพื่อนรักฟัง ซึ่งมันก็ตั้งใจฟังดีครับเพราะถึงผมจะเล่าจนจบแล้วมันก็ยังคงนั่งนิ่งเป็นThe Thinker อยู่นั่นแหละ [The Thinker เป็นประติมากรรมที่สร้างโดย ออกุสต์ โรแดง ประติมากรชาวฝรั่งเศส เป็นรูปปั้นผู้ชายนั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่ : ไรเตอร์นะจ๊ะ]

     

    แกเลิกเถอะว่ะ อ้าวมึงเลิกเป็น The Thinker แล้วเรอะ

     

    ไอ้ไทรกูรับปากไปแล้ว อีกอย่างนะกูไม่อยากเป็นดาวคณะอะไรนั้นอีก ไปไหนมีแต่คนทัก

     

    งั้นก็ระวังตัวไว้ละกัน เรื่องแบบนี้ถ้ามันไม่ขำมึงจะแย่นะเว้ย พูดเสร็จมันก็เดินขึ้นเตียงผมแล้วก็ล้มตัวลงนอนไปซะอย่างนั้น อ้าวไอ้นี่ มากินข้าวฟรีบ้านกู ยังแย่งพื้นที่ส่วนตัวไปอีก เฮ้อ ผมว่าไอ้ไทรมันคิดมากเกินไปนะ ไอ้หน้าหล่อก็ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย แถมผมก็ไม่ได้เป็นเกย์ด้วย แล้วผมจะต้องระวังตัวเรื่องอะไรล่ะ

     

    ก็ในเมื่อแผนการครั้งนี้มันเป็นแค่เรื่องเล่นๆที่พี่เก่งคิดขึ้นมาเท่านั้นเองนี่ จริงมั้ยครับ???

    ********************

     

     

    คณะนิเทศศาสตร์มหาลัยผมถือว่าเป็นคณะใหญ่และยอดนิยมที่สุดอันดับหนึ่ง เพราะที่นี่มีให้เลือกเรียนหลายสาขามาก ทั้งการแสดง, โฆษณา, วิทยุฯ, สิ่งพิมพ์, ภาพยนตร์และอื่นๆอีกมากมาย อะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับสื่อมีเดียหรือสื่อสารมวลชน คณะผมฟาดเรียบไม่ให้เหลือไปสิงอยู่ที่คณะอื่นหรอกครับ คิดเล่นๆได้เลยว่าหากวันนี้คุณเรียนเอกโฆษณาแต่เบื่ออยากเปลี่ยนไปเรียนเอกอื่นๆในสายนิเทศ คุณก็สามารถทำได้เพียงแค่เดินไปยื่นเรื่องที่ฝ่ายวิชาการ เพราะคณะผมมันมีสาขาให้เลือกเรียนเย๊อะ

     

    ส่วนสาขาที่ผมเลือกเรียนคือวารสารศาสตร์ครับ ถ้าคนที่ไม่ได้รักทางนี้อย่างจริงจังล่ะก็ ผมขอแนะนำเลยว่าคุณอย่าเข้ามาเรียนจะดีกว่า เนื่องจากจะไม่สนุกแล้ว คุณยังต้องจดจำทฤษฎีต่างๆของนักวิชาการด้านนี้ที่ไม่รู้จะเยอะไปไหนอีกด้วย นรกชัดๆ T^T

     
    แล้วทำไมผมถึงเลือกสาขายากๆแบบนี้หรือครับ คำตอบมีเพียงอย่างเดียวก็คือ

     

    ผมหลับตา จิ้ม เอาครับ

     

    ฟังไม่ผิดหรอกครับ ก็เพราะว่าตอนเขียนใบสมัครเนี่ยผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากจะเป็นอะไร สาขาก็มีให้เลือกเรียนตั้งมากมาย ด้วยความที่ไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าๆก็เลยลองเสี่ยงดวงจนได้มาลงหลักปักฐานที่สาขานี้แหละครับ แต่พอเรียนๆไปผมก็เริ่มชอบนะ แม้จะมีทฤษฎีของตาคนนู้นลุงคนนี้ให้เวียนหัวเล่น แต่ผมว่าสาขาวารสารศาสตร์นี้ก็ไม่เลวทีเดียวครับ เพราะภาคปฏิบัติของเอกนี้ถือเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆอีกด้วยในสายตาผม ^^

     

    ส่วนที่เลวน่ะมันคือข้อสอบต่างหากละครับ หากใครเคยผ่านชีวิตนิสิตมาแล้วล่ะก็คุณคงจะทราบดีว่าการทำข้อสอบนะมันเป็นยังไง เพราะต่อให้คุณเค้นสมองคิดยังไงคุณก็ยังทำข้อสอบไม่ได้อยู่ดี

     

    และตอนนี้ผมก็กำลังสู้รบตบตีกับข้อสอบสุดหินจำนวนเกินร้อยข้ออยู่ครับ แต่นรกของผมกำลังจะหมดไปแล้ว เพราะผมกำลังจะเดินออกจากขุมนรกแห่งนี้ไปลั่นล้าที่ร้านเหล้ากับเพื่อนๆ โอ้เย่!!!

     

    ยิ้มหน้าบานเชียวนะนายธีร์ แสดงว่าเธอทำข้อสอบได้ใช่มั้ย ดูสิ ขนาดอาจารย์ยังรับรู้ได้ถึงความสุขของผมคนนี้

     

    ข้อสอบทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ ผมยิ้มหวานให้อาจารย์ผู้คุมสอบก่อนจะเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมหันไปโบกมือลากับเพื่อนๆที่ยังคงต้องอยู่ในขุมนรกต่อไป ขอให้ทุกคนรอดกลับมาอย่างปลอดภัย อาเมน...

      

    อ้าวธีร์ จะกลับแล้วหรอว่ะ ระหว่างทางผมเจอพี่เก่งที่พึ่งออกมาจากห้องสอบพอดี

     

    ครับพี่ ว่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อนน่ะ

     

    แต่เดี๋ยวมีประชุมคณะนะ ประชุมคณะ?? ทำไมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยวะ เอ๊ะ หรือว่าจะเคย

     

    ขอบายละกันพี่ เอาเป็นว่ามีอะไรที่ผมพอจะทำได้ก็จับชื่อใส่ๆไปละกัน ลาล่ะครับ



     

    และหลังจากที่ผมเจอพี่เก่งเมื่อวาน พี่แกก็สอนให้ผมเข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า ความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ อย่างถ่องแท้เลยครับ เพราะหลังจากเมื่อวานที่ผม ต้นไทร และบรรดาเพื่อนๆไปเมากันแบบจำทางกลับบ้านไม่ถูกนั้น พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ก็พบว่าความสุขมันบินหายไปซะแล้ว

     

    เรื่องแรกก็คือ ผมถูกคุณพ่อและคุณแม่ที่เคารพรักตัดหางปล่อยวัดเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม กุญแจรถถูกยึดแถมยังโดนตัดเงินไปอีกกว่าครึ่ง เพราะผมดันเมาแล้วขับ โชคดีที่ยังอยู่ครบสามสิบสอง(เด็กๆไม่ควรทำตามนะครับมันไม่ดี ที่พี่ธีร์ทำได้เพราะพี่ธีร์น่ะหล่อและเทพ) [ไม่เกี่ยวเลย มั่วสุดๆ : ไรเตอร์นะจ๊ะ] เมื่อเป็นแบบนี้แล้วผมจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงคร้าบบบบบ ฮือๆๆ นายธีร์สุดหล่อคนนี้อยากจะร้องไห้

     

    และเรื่องสุดท้ายก็คือ ในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะมีงานโอเพ่นเฮ้าส์ ฮ่วย!!! นี่ผมเพิ่งจะได้เป็นเฟรชชี่ปีหนึ่งเองนะ แล้วจะมาเปิดบ้านอะไรกันตอนนี้เล่า ไหนจะต้องเตรียมงานจัดสถานที่ หาสต๊าฟดูแลน้องๆ และงานอื่นๆจิปาถะอีก อ่อ คุณชอบมาสคอตมั้ยครับไอ้ตัวเอกประจำงานต่างๆที่เป็นตัวตุ๊กตุ่นตุ๊กตาน่ะ เมื่อก่อนผมก็ชอบนะแต่ตอนนี้กลับโคตรเกลียดเลย เพราะอะไรน่ะหรอ คุณคงคิดได้แล้วละ

     

    ถ้าคุณคิดว่าผมได้เป็นมาสคอตประจำคณะนิเทศละก็ คุณมาถูกทางแล้วไปเอาดีทางด้านเสี่ยงโชคเถอะ

     

    ผมได้เป็นมาสคอตประจำคณะนิเทศศาสตร์!!! อาด อาด อาด.... (โปรดทำเสียงเอคโค่ตามด้วยครับ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ)

     

    แล้วคุณมาดูนี่ ดูชุดที่ผมต้องใส่ มาสคอตประจำคณะของผมเป็นนกพิราบ(ที่เคยเป็น)สีขาว มีรอยปะที่ปีกด้านซ้าย แถมกลิ่นยังเป็นเจ้านกพิราบที่เหม็นสาบสุดๆอีกด้วย แหวะ...น้องธีร์ขอตายดีกว่า

     

    เป็นไรไปจ๊ะน้องธีร์ พี่ปุ๋มหันมาถามผม พี่ปุ๋มเธอเป็นคนสวยทีเดียวเลยครับ เรียนเก่ง กีฬาเป็นเลิศ แถมนิสัยน่ารักอีกด้วย เพียงแต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะหม้อครับ...เซ็ง

     

    พี่ปุ๋มผมไม่ทำได้มั้ยอะ กลัวเป็นไซนัส

     

    แหม...ไม่เป็นหรอก เดี๋ยวพี่ให้คนเอาไปตากแดดให้นะ แค่แสงจากพระอาทิตย์มันจะไปพอลบกลิ่นสาบได้ยังไงครับ อย่างนี้มันต้องใช้ไฟเท่านั้น เอาแบบเผามันให้ไม่เหลือซากได้เลยยิ่งดี

     

    แต่ถ้าธีร์ไม่อยากใส่ชุดมาสคอตพี่ก็พอมีอีกหน้าที่นึงนะ

     

    ผมทำหน้าที่นั้นแทนล่ะกันครับ จะให้ทำงานอะไรก็ได้ ขอให้พ้นจากไอ้นกเน่าๆนี่เป็นพอ

     

    เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะ... ไอ้รัฐฉันได้ตัว เจ้าหญิง แล้วว่ะ พอพี่ปุ๋มตะโกนออกไป ทุกคนก็เลยหันมามองผมเป็นตาเดียว รวมทั้งนายเอกรัฐที่ยืนอยู่ไกลออกไปจากที่ผมอยู่

     

    เดี๋ยวนะพี่ พูกอีกทีดิ๊ เจ้าหญิงอะไร

     

    ธีร์คงไม่รู้ใช่มั้ยว่ามหาลัยเรามีการจัดแสดงละครในงานนี้ด้วย โดยจะให้คณะต่างๆเวียนแสดงกันทุกปี ปีที่แล้วเป็นของคิวของวิศวะ ก่อนหน้านั้นก็เป็นของมนุษฯ แล้วบังเอิญว่าปีนี้เป็นคิวของนิเทศ พี่เลยตั้งใจว่าจะแสดงละครเรื่องเจ้าหญิงนิทราน่ะ

     

    เฮ้ย!!! เจ้าหญิงนิทราเนี่ยนะ ตลกไปมั้ย บทเจ้าหญิงมันไม่ได้ให้ผู้หญิงแสดงหรอกหรอ แล้วอีกอย่างทำไมไม่ให้เอกการแสดงรับไปละ ผมอยู่วารสารนะคร้าบบบ จับปากกาเป็นอย่างเดียว ไอ้เรื่องการแสดงนี่ก็ไม่เคยทำด้วย นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆเลยนี่หว่าไอ้ธีร์เอ้ย

     

    เอ่อ...งั้นผมขอทำหน้าที่มาสคอสดีกว่านะ ระหว่างเป็นนกพิราบเน่าๆที่ไม่มีใครเห็นหน้า กับ เป็นเจ้าหญิงแล้วต้องแสดงละครให้คนอื่นดูเนี่ย ผมเลือกอย่างแรกดีกว่า ยอมเหม็นแต่ไม่ยอมอายครับ!!!

     

    จะให้นายธีร์สุดหล่อคนนี้ไปใส่กระโปรงเล่นละครให้คนอื่นดูเนี่ย ทำไม่ได้ครับ เสียชื่อหนุ่มหล่อหมด

     

    เปลี่ยนใจเร็วจังนะ แต่เสียใจด้วยนะน้องธีร์... พี่ปุ๋มพูดยิ้มๆ เธอเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ แล้วชูกระดาษซึ่งเขียนชื่อและหน้าที่ของแต่ละคนเอาไว้ ในช่องของผมเคยเป็นคำว่า มาสคอต แต่ตอนนี้มันกลับถูกขีดฆ่าด้วยปากกาสีแดงและเขียนต่อท้ายด้วยปากกาสีน้ำเงินว่า เจ้าหญิงนิทรา!!!

     

    น้องธีร์ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าหญิง

     

    โอ้วววววววว...นายธีร์สุดหล่อคนนี้ ขอเป็นลมก่อนละครับ คร่อกก...





    >>>>> to be continue <<<<<


    Talk. ชอบไม่ชอบยังไงติชมได้เลยนะคะ ^^ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านจ้า เจอกันตอนที่ 2 เนอะ จุ๊ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×