ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : เรื่องราวของห้าเจ้านครรัฐผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคชุนชิว(3)
จิ้นเหวินกงจากชีวิตเร่ร่อนสู่การตั้งตนเป็นเจ้านครรัฐ
ก่อนที่จิ้นเหวินกงจะตั้งตนเป็นเจ้านครรัฐ เขาเคยใช้ชีวิตอย่างระหกระเหินเร่ร่อนอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อรัฐจิ้นเกิดการก่อกบฐภายใน กงจื่อฉงเอ๋อ(ต่อมาคือจิ้นเหวินกง) กับขุนนางบางส่วนได้ลี้ภัยไปยังรัฐอื่น
พวกเขาอาศัยอยู่ในรัฐตี๋เป็นเวลา12ปี แต่เนื่องจากมีคนพยายามลอบสังหารกงจื่อฉงเอ่อ พวกเขาจึงหลบหนีไปยังรัฐเว่ย ทางด้านรัฐเว่ย เมื่อเห็นกงจื่อฉงเอ่ออยู่ในสภาพที่อับจนจึงไม่ได้ให้การต้อนรับ
ขณะที่ฉงเอ่อและผู้ติดตามเดินทางไปถึงสถานที่ที่มีชื่อว่าอู่ลู่ พวกเขารู้สึกหิวมากจึงไปขอข้าวชาวนาที่อยู่ในไร่นา แต่ชาวนากลับหยิบดินกำหนึ่งในเขา
ฉงเอ่อรู้สึกอับอายขายหน้า
"จะกินดินได้อย่างไร ช่างดูถูกเหยียดหยามกันเสียเหลือเกิน"
ขุนนางผู้ติดตามปลอบใจเขาว่า
"ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายด้วยพะย่ะค่ะ ดินคือ แผ่นดิน ราษฎรส่งดินมาให้เรานี่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีมิใช่หรือ"
หลังจากนั้น ฉงเอ่อกับพวกก็ลี้ภัยไปยังรัฐฉี คราวนี้ฉีหวนกงต้อนรับเขาอย่างดี ไม่เพียงแต่ส่งรถม้าและจัดบ้านพักให้ ยังเป็นธุระจัดงานแต่งงานให้กับลูกสาวตระกูลฉีอีกด้วย ฉงเอ่ออยู่ที่รัฐฉีอย่างมีความสุข เขาจมปลักอยู่กับการเสพสุขจนลืมความตั้งใจแต่แรกที่จะกอบกู้รัฐจิ้นกลับคืนมา "ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก อยู่เช่นนี้ทั้งชาติก็ไม่เลว" ภรรยาของฉงเอ่อกับขุนนางจึงวางแผนอย่างเงียบๆ โดยหลังจากที่เอาเหล้าให้ฉงเอ่อดื่มจนเมาแล้วก็นำตัวเขาไปไว้ในรถม้า จากนั้นจึงส่งเขาออกไปนอกรัฐฉี เมื่อฉงเอ่อตื่นขึ้นมาก็ห่างไกลจากรัฐฉีมากแล้ว
หลายปีต่อมา เมื่อฉงเอ่อยุติชีวิตเร่ร่อนในรัฐต่างๆ ที่กินเวลาถึง19ปีเขาได้เดินทางกลับรัฐจิ้นเพื่อเข้ารับตำแหน่งเจ้านครรัฐ และใช้ชื่อว่า "จิ้นเหวินกง" เขาปรับปรุงการบริหารบ้านเมือง พัฒนาการผลิตขนานใหญ่ ทำให้รัฐจิ้นแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้นตามลำดับ
ก่อนที่จิ้นเหวินกงจะตั้งตนเป็นเจ้านครรัฐ เขาเคยใช้ชีวิตอย่างระหกระเหินเร่ร่อนอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อรัฐจิ้นเกิดการก่อกบฐภายใน กงจื่อฉงเอ๋อ(ต่อมาคือจิ้นเหวินกง) กับขุนนางบางส่วนได้ลี้ภัยไปยังรัฐอื่น
พวกเขาอาศัยอยู่ในรัฐตี๋เป็นเวลา12ปี แต่เนื่องจากมีคนพยายามลอบสังหารกงจื่อฉงเอ่อ พวกเขาจึงหลบหนีไปยังรัฐเว่ย ทางด้านรัฐเว่ย เมื่อเห็นกงจื่อฉงเอ่ออยู่ในสภาพที่อับจนจึงไม่ได้ให้การต้อนรับ
ขณะที่ฉงเอ่อและผู้ติดตามเดินทางไปถึงสถานที่ที่มีชื่อว่าอู่ลู่ พวกเขารู้สึกหิวมากจึงไปขอข้าวชาวนาที่อยู่ในไร่นา แต่ชาวนากลับหยิบดินกำหนึ่งในเขา
ฉงเอ่อรู้สึกอับอายขายหน้า
"จะกินดินได้อย่างไร ช่างดูถูกเหยียดหยามกันเสียเหลือเกิน"
ขุนนางผู้ติดตามปลอบใจเขาว่า
"ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายด้วยพะย่ะค่ะ ดินคือ แผ่นดิน ราษฎรส่งดินมาให้เรานี่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีมิใช่หรือ"
หลังจากนั้น ฉงเอ่อกับพวกก็ลี้ภัยไปยังรัฐฉี คราวนี้ฉีหวนกงต้อนรับเขาอย่างดี ไม่เพียงแต่ส่งรถม้าและจัดบ้านพักให้ ยังเป็นธุระจัดงานแต่งงานให้กับลูกสาวตระกูลฉีอีกด้วย ฉงเอ่ออยู่ที่รัฐฉีอย่างมีความสุข เขาจมปลักอยู่กับการเสพสุขจนลืมความตั้งใจแต่แรกที่จะกอบกู้รัฐจิ้นกลับคืนมา "ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก อยู่เช่นนี้ทั้งชาติก็ไม่เลว" ภรรยาของฉงเอ่อกับขุนนางจึงวางแผนอย่างเงียบๆ โดยหลังจากที่เอาเหล้าให้ฉงเอ่อดื่มจนเมาแล้วก็นำตัวเขาไปไว้ในรถม้า จากนั้นจึงส่งเขาออกไปนอกรัฐฉี เมื่อฉงเอ่อตื่นขึ้นมาก็ห่างไกลจากรัฐฉีมากแล้ว
หลายปีต่อมา เมื่อฉงเอ่อยุติชีวิตเร่ร่อนในรัฐต่างๆ ที่กินเวลาถึง19ปีเขาได้เดินทางกลับรัฐจิ้นเพื่อเข้ารับตำแหน่งเจ้านครรัฐ และใช้ชื่อว่า "จิ้นเหวินกง" เขาปรับปรุงการบริหารบ้านเมือง พัฒนาการผลิตขนานใหญ่ ทำให้รัฐจิ้นแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้นตามลำดับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น