ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Letter #เพราะโลกนี้มี 'นาย' [FIC HKS]

    ลำดับตอนที่ #44 : บทที่ 39 : ห่างกันสักพัก...(?) **100%**

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.11K
      3
      24 ต.ค. 55

    บทที่ 39 : ห่างกันสักพัก...(?)

     พี่ฮั่น...ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมสิบดวงมารวมกันเลยนะครับ แกงส้มเอ่ยทักคนเป็นพี่ที่เดินอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าคมที่หันมายิ้มหวานทำให้คนมองอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม

    พี่ฮั่นคงดีใจมาก...มากที่สุดในสามโลก

    เขาเองก็ดีใจมากที่สุดในสามโลกเหมือนกัน...

    การที่เราได้รู้ว่าคนที่เรารักจะต้องสูญเสียการมองเห็น มันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมาก

    เขาอาจจะดูว่าเข้มแข็งและให้กำลังใจพี่ฮั่นมาโดยตลอด แต่แท้ที่จริงแล้ว เขาเองก็มีอารมณ์ที่อ่อนไหวและหวาดหวั่นในหัวใจเหมือนกัน แต่เพราะอยากให้คนที่เขารักมีความสุขและรอยยิ้มเหมือนเดิม เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พี่ฮั่นมีกำลังใจ

    และเมื่อวันนี้พี่ฮั่นของเขาไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว เขาเองก็ดีใจ...

    ก็จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงล่ะครับ ก็พี่จะได้เห็นหน้าแกงของพี่เหมือนเดิมทุกวันอย่างไม่ต้องกลัวและกังวลอะไรแล้วนี่ครับ...พี่ดีใจที่สุดในสามโลกเลย ฮั่นตอบพลางยกแขนขึ้นไปโอบไหล่ของแกงส้ม แล้วเอียงหน้าของตัวเองไปซบกับใบหน้าหวานของคนที่เขาโอบ

    ฮ่ะ ๆ ๆ ผมก็ดีใจที่สุดในสามโลกเหมือนกันครับ แกงส้มตอบก่อนจะยื่นแขนไปโอบรอบเอวของร่างสูง คนสองคนที่เดินโอบกันออกไปจากสวนสาธารณะภายในโรงพยาบาล

    กลิ่นหอมของดอกลีลาวดีสีขาวนวลที่ลอยตลบอบอวลตามหลังคนสองคนไปคล้ายโอบอุ้มความรู้สึกดี ๆ ของทั้งสองคนให้ลอยวนรอบกายและคงอยู่ในหัวใจตลอดไป

    และเมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ ฮั่นก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตามอมแมมถือกระป๋องใส่ดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนเดินสวนมา ฮั่นตัดสินใจเดินเข้าไปหาเด็กคนนั้น

    ดอกกุหลาบทั้งกระป๋องนี่...เท่าไหร่ครับ

    กำละ 20 ค่ะมีทั้งหมด 8 กำ 160 บาทค่ะ เด็กน้อยตอบพลางยิ้มหวานให้กับร่างสูง

    ถ้างั้นพี่เหมาหมดเลยครับ พูดจบ ฮั่นก็ควักธนบัตรสีม่วงออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้กับร่างน้อยตรงหน้า เด็กน้อยรับเงินมาก่อนจะหาเงินทอนในกระเป๋ากางเกง

    ไม่ต้องทอนครับ ที่เหลือพี่ให้เราไว้ซื้อขนม

    ขอบคุณนะคะ พี่ชายใจดีจังเลย นี่ดอกกุหลาบของพี่ชายค่ะ

    เด็กน้อยยกมือไหว้พี่ชายใจดี พลางหยิบดอกกุหลาบในกระป๋องทั้งหมดส่งให้ฮั่น แต่เขาส่ายหน้าพลางบุ้ยใบ้ไปทางคนหน้าหวานที่ยืนมองเขาสองคน

    เดี๋ยวเราช่วยเอาดอกกุหลาบทั้งหมดนี้ไปให้พี่ชายคนนู้นที่ยืนมองเราสองคนหน่อยได้ไหมครับ

    ได้สิคะ แล้วพี่ชายจะให้หนูพูดอะไรหรือเปล่าคะ เด็กน้อยถามพลางมองตามสายตาของฮั่นไปแล้วยิ้มให้กับคนที่ยืนยิ้มอยู่

    พูดตามนี้นะครับ... แล้วฮั่นก็กระซิบพูดประโยคสั้น ๆ ประโยคหนึ่งกับเด็กน้อย เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยได้ฟังคำพูดนั้น เธอก็หัวเราะคิกคักออกมาทันที

    รับทราบค่ะพี่ชาย พูดจบ เด็กน้อยก็วิ่งไปหาคนที่ยืนมองพวกเขาด้วยสายตาสงสัยอย่างรวดเร็วทันที เมื่อเด็กน้อยวิ่งมาถึงตัวแกงส้ม เธอก็ยื่นกุหลาบทั้ง 8 กำในกระป๋องให้กับคนตรงหน้า

    พี่ชายคนนู้นฝากมาค่ะ

    ครับ แกงส้มรับคำสั้น ๆ อย่างรับรู้ ก่อนที่เขาจะหยิบดอกกุหลาบในมือเด็กน้อยมาถือไว้แนบอก รอยยิ้มหวานแต่งแต้มบนใบหน้าเรียว สีแดงเริ่มเกลื่อนกระจายเต็มดวงหน้าของคนที่ถือกุหลาบ

    แล้วพี่ชายก็ฝากมาบอกว่า...เขา...รัก...พี่ชาย...(พูดพลางทำท่าชี้)...มากที่สุดในโลก... พูดจบ เด็กน้อยก็ทำท่าซารังเฮโยแบบน่ารัก ๆ ซึ่งพอแกงส้มเห็นดังนั้นใบหน้าหวานก็แดงก่ำ รอยยิ้มจากที่กว้างอยู่แล้วก็ยิ่งกว้างมากขึ้นไปอีก และเมื่อแกงส้มเงยหน้าขึ้นไปมองคนส่งสาร เขาก็เห็นว่าร่างสูงก็กำลังทำท่าซารางเฮโยให้เขาอยู่เหมือนกัน

    หมดหน้าที่ของหนูแล้ว หนูขอตัวก่อนนะคะ ขอให้พี่ชายทั้งสอง รักกันนานๆ นะคะ... แล้วคนพูดก็วิ่งออกไปจากบริเวณนี้ ทิ้งให้คนสองคนต่างยืนมองกันแล้วยิ้มเขินอย่างไปไม่เป็นทั้งคู่

    ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรอครับคนส่งสาร... เมื่อร่างสูงของฮั่นมาหยุดยืนตรงหน้า แกงส้มก็เอ่ยพูดประโยคนี้ออกมา

    ...ก็ฝากคนกลางมาพูดหมดแล้วนี่ครับ คนส่งสารก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก... ฮั่นตอบพลางยกมือขึ้นมาเกาที่ท้ายทอยตัวเองอย่างรู้สึกนึกเขินอย่างหนัก ยิ่งเห็นดวงตากลมโตของคนที่ถือกุหลาบเขายิ่งรู้สึกไปต่อไม่ถูก

    เพราะสายตาของแกงส้มมัน หวานมาก’...หวานพอ ๆ กับใบหน้าของคนเป็นเจ้าของสายตาเลย!

    แล้วไม่อยากรู้หรอครับว่าคนรับสารอยากจะพูดอะไร... คำถามที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม ทำให้คนถูกถามเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด

    อยากรู้สิครับ ว่าแต่คนรับสารอยากจะพูดอะไรครับ...

    ถ้าอยากรู้ก็เอาหูมาใกล้ ๆ สิครับ

    ฮั่นตัดสินใจเขยิบใบหน้าเลื่อนใบหูไปใกล้ริมฝีปากสวย ลมหายใจอุ่นจากคนตรงหน้าทำให้ฮั่นนึกอยากจะรั้งร่างบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

    ผมเองก็รักพี่หมี...มากที่สุดในโลกครับ... พูดแค่นั้น ใบหน้าคมของคนฟังก็เลื่อนจมูกโด่งของเขาไปแตะที่ปลายจมูกโด่งของคนพูด พลางไล้เบา ๆ เป็นเชิงหยอกเอินเล็ก ๆ ก่อนที่ริมฝีปากบางของคนสองคนจะประกบแตะมอบสัมผัสที่แสนอ่อนโยนให้แก่กัน

    สายลมที่พัดหอบเอาความเย็นจากอากาศที่เริ่มหนาวจากการเปลี่ยนฤดูของฤดูฝนเพื่อเข้าสู่ฤดูหนาวหาได้ทำให้คนสองคนที่ยืนมองจูบที่ดูดดื่มกันอยู่ให้รู้สึกหนาวเย็น เพราะความอุ่นจากสัมผัสบริเวณริมฝีปากที่เลื่อนเรื่อยเลื้อยเข้าสู่ในหัวใจทำให้คนสองคนรู้สึกอุ่นจนไม่รับรู้ถึงความหนาวเย็นของอากาศรอบกาย

     

     

     

    เดี๋ยวเราไปกินข้าวที่ร้านลุงแทนกันนะแกง ไม่ได้ไปนานแล้ว คิดถึงลุงแก ฮั่นเอ่ยพูดเมื่อเขาและแกงส้มเข้ามานั่งภายในรถแล้ว ใบหน้าหวานที่ยังคงขึ้นสีแดงระเรื่อพยักหน้ารับเบา ๆ ทำให้มองอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปเชยคางเรียวให้หันใบหน้ามามองเขา

    ทำไมไม่มองหน้าพี่ครับแกง...

    ก็...ก็ผมเขินพี่นี่นา คนบ้าเอ๊ย...จูบนานชะมัด กะจะให้ขาดอากาศหายใจตายเลยหรือไง แกงส้มว่าด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเหวี่ยงเล็ก ๆ พลางสะบัดคางออกจากเกาะกุมของคนที่นั่งประจำเบาะคนขับ

    ฮ่า ๆ ๆ ก็ปากแกงน่าจูบแบบนั้น เป็นใครจะอดใจไหวไม่ให้สัมผัสนาน ๆ ได้ล่ะครับ...โอ๊ย!” แล้วคนพูดก็โดนมือบางฟาดไปที่ไหล่หนึ่งทีแรง ๆ

    พี่นี่เริ่มหื่นแล้วนะ แต่ก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย

    พี่ก็หื่นแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นแหล่ะครับ พอถึงเวลาจริง ๆ ...พี่ก็ทะนุถนอมแกงของพี่เสมอครับ พูดจบ ฮั่นก็เอื้อมมือไปจับคางเรียวโยกไปโยกมาอย่างหยอกล้อ

    ผมก็รู้หรอกน่า...ไม่อย่างนั้น...คืนนั้นผมคงไม่รอด... พูดแค่นั้น ใบหน้าหวานก็ยิ่งขึ้นสีแดงเข้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันที่เขาป่วยแล้วไปทำอากัปกิริยาที่พี่ฮั่นมาบอกเขาทีหลังว่า

    ยั่วสุดๆ

    บอกตามตรงว่า...เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาทำให้พี่ฮั่นรู้สึกแบบนั้น...

    แต่เขาต้องยอมรับในน้ำใจของพี่ฮั่นวันนั้นจริง ๆ เพราะถ้าเป็นคนอื่น...คืนนั้นเขาคงไม่รอด

    แต่เพราะเป็นพี่ฮั่น...เขาถึงยัง...บริสุทธิ์...

    แต่ถ้าให้พูดกันตามความรู้สึกที่มีในหัวใจ...

    หากพี่ฮั่นจะทำอะไรเขาจริง ๆ เขาก็ยอมพี่ฮั่นนะ...

    เพราะสำหรับคนที่รักแล้ว เมื่อมีความสัมพันธ์กันทางหัวใจ ก็ย่อมอยากมีความสัมพันธ์กันทางร่างกายเพื่อเป็นการบ่งบอกความเป็นเจ้าของกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...มันก็ไม่จำเป็นสำหรับทุกคู่รักเสมอไป

    เพราะความรักจริง ๆ แล้ว แม้ไม่มีความสัมพันธ์ทางร่างกาย คนสองคนก็สามารถรักกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กันทางไหน หากหัวใจร้อยรัดผูกมัดกันไว้ ความรักก็ทำให้คนเป็นเจ้าของหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมีความสุข

    ถ้างั้นก็ตามนี้นะครับ ? ฮั่นถามย้ำอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเริ่มเคลื่อนรถออกไปจากโรงพยาบาล เมื่อคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงตกลงตอบคำถามของเขา

     

     

     

    ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง...ฮั่นและแกงส้มก็มาถึงร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนฟุตบาธ ไม่ไกลจากที่พักของพวกเขา กลิ่นของอาหารที่ลอยมาเตะจมูก เรียกเสียงของกระเพาะอาหารคนสองคนให้ดังขึ้น

    ลุงแทน !!!! รับออเดอร์หน่อย !!!!” ทันทีที่หย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้พลาสติกตัวที่อยู่ไม่ไกลจากครัวที่เปิดโล่ง ฮั่นก็ตะโกนเรียกคนที่กำลังผัดผักบุ้งไฟแดงเสียงดังลั่น

    เฮ้ยไอ้ฮั่น !!!!! มาได้ไงวะเนี่ย คนเป็นเจ้าของร้านตะโกนถามกลับมา ก่อนที่เขาจะตักผักบุ้งไฟแดงที่ผัดเสร็จใส่ลงในจานที่ลูกมือของเตรียมไว้ให้

    ขับรถมาลุง

    ตอบกวนตีนมากไอ้ฮั่น เดี๋ยวจะโดนตะหลิวปาหน้า เอาดี ๆ

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ พอดีผมคิดถึงลุงอ่ะ ก็เลยอยากมาหา...โอ๊ย!” แล้วคนตอบก็โดนหัวกะหล่ำปลีปาใส่หน้าผากเต็ม ๆ

    ให้โอกาสตอบเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ตอบตามความจริง คราวนี้เจอกระทะแน่คนพูดไม่พูดเปล่า แต่เขายังยกกระทะขึ้นมาเป็นเชิงขู่สนับสนุนคำพูดของเขาอีกด้วย

    โอเค ๆ ๆ ผมตอบตามความจริงก็ได้ ที่มาวันนี้เนี่ย จะพา แฟน มาแนะนำให้ลุงรู้จัก ฮั่นตอบก่อนที่เขาจะยกยิ้มหวาน ใบหน้าคมหันมามองคนที่นั่งข้าง ๆ ทันทีที่พูดจบ แกงส้มหลบสายตาคมที่มองมาแล้วเสสายตาไปมองตะกร้าที่ใส่ช้อนส้อมตรงหน้าแทน

    อย่าบอกนะว่าแฟนที่ว่าคือไอ้หน้าหวานนี่...ที่แกเคยพามากินข้าวร้านลุงเมื่อคราวที่แล้ว

    ครับ...คนนี้แหล่ะ ฮั่นว่าพลางชี้มือมาทางคนที่นั่งหลบตาเขา

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ฉันว่าแล้วว่าพวกแกสองคนมันต้องเป็นได้เป็นแฟน แล้วก็เป็นจนได้ เอางี้นะ...เนื่องจากไอ้ฮั่นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว อยากกินอะไรก็สั่งมาได้เลย เดี๋ยงลุงทำให้สุดฝีมือ ประโยคแรกคนเป็นลุงพูดกับหลานชายตัวเอง แต่ประโยคต่อมาเขาหันมาพูดกับคนอีกคนหนึ่งที่นั่งยิ้มเขิน

    ครับ/ครับ แล้วคนสองคนก็พร้อมใจกันตอบออกมาพร้อมกัน

    เออ...ขนาดแค่ตอบรับคำพูดฉัน พวกแกสองคนยังใจตรงกันเลยนะ ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ แซวเสร็จ คนเป็นลุงก็เดินกลับไปหยิบกระดาษและปากกามาถือไว้เพื่อรับออร์เดอร์จากคนสองคนที่นั่งดูเมนูอาหารด้วยกัน

    ภาพของศีรษะทุยของฮั่นและแกงส้มที่ติดกันเพราะดูเมนูเดียวกัน ทำให้คนมองต้องยิ้มออกมา นิ้วเรียวของคนหน้าหวานที่ชี้ไปที่เมนูแล้วทำหน้าเหวี่ยงเล็ก ๆ เมื่อโดนขัดใจยิ่งทำให้คนมองต้องเบือนหน้าหนี

    ที่ไม่อยากดูไม่ใช่อะไรหรอกนะ...อิจฉามันสองคนเบา ๆ

    อายุเขามากกว่าพวกมัน แต่ยังหาใครสักคนไม่ได้...

    เฮอะ! มันอยู่ที่จังหวะเวลาของคนสองคนสินะ...

    เวลาที่คนสองคนจะมาบรรจบ พบเจอ และ รักกัน

     

     

     

    อ้าปากสิแกง...

    ไม่เอาอ่ะ เผื่อพี่แกล้งเอาพริกใส่ให้ผมกิน แกงส้มรีบเอ่ยปฏิเสธทันทีที่เห็นช้อนสีเงินที่มีปลาหมึกชิ้นโตจากต้มยำทะเลหม้อไฟยื่นมาตรงหน้า

    นี่แกงคิดว่าพี่จะแก้แค้นแกงคืนหรอครับ ฮั่นถาม ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เมื่อคนตรงหน้าเขาพยักหน้าถี่ ๆ แทนคำตอบ

    โธ่แกง...พี่ไม่ใช่แกงนะที่จะได้แกล้งกันอย่างไม่ปราณีปราศรัยไร้ซึ่งความสงสารแบบนั้น ถ้าพี่จะแกล้งแกงนะ พี่แกล้งซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้ดีกว่า... พูดจบ คนพูดก็กินปลาหมึกคำโตที่อยู่ในช้อน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจพวกเขาสองคนและแกงส้มกำลังทำหน้างุนงงกับคำพูดของเขา ยื่นใบหน้าตัวเองเข้าไปใกล้กับใบหน้าหวาน ก่อนจะประกบริมฝีปากสวยกับริมฝีปากบางพลางบดจูบจนคนหน้าหวานเผลอและเผยอริมฝีปาก แล้วฮั่นก็อาศัยจังหวะนั้นใช้ปลายลิ้นเรียวดุนชิ้นปลาหมึกเข้าไปในโพรงปากของคนที่กำลังทำตาโต

    ปลาหมึกหวานไหมแกง... คำถามที่มาพร้อมกับดวงตาคมที่ส่องประกายระยิบระยับแข่งกับดวงดาวบนท้องฟ้า ทำให้คนที่กำลังเขี้ยวปลาหมึกหน้าแดงก่ำ หัวใจของร่างบางเต้นรัวและแรงไม่เป็นจังหวะ

    ไอ้พี่หมีบ้า...!!!!

    ไอ้...โอ๊ย...ฮึ่ม!

    เขินโว้ย !!!!!!!!

    แกงอ่ะ...พี่ถามทำไมไม่ตอบพี่ล่ะครับ ฮั่นยังคงแกล้งตื้อถามต่อไป ผลที่ได้คือช้อนสีเงินที่ฟาดโป้งมากลางหน้าผากคนพูด

    ถ้าขืนพี่ยังตื้อถามผมอีกคำนะ คราวนี้ผมจะไม่เอาช้อนตีหน้าผากพี่ แต่จะเอาส้อมจิ้มตาพี่เลย แกงส้มพูดขู่ ก่อนที่ข้อมือที่ถือช้อนจะถูกมือหนายึดไว้ แล้วออกแรงดึงเป็นผลให้ร่างบางเซเกือบล้มมาทับคนร่างสูง

    แกงกล้าทำพี่หรอ...” ฮั่นถามด้วยน้ำเสียงที่(แสร้ง)กดต่ำ ก่อนที่เขาจะแกล้งก้มใบหน้าลงไปใกล้คนที่กำลังเม้มปากแน่นซึ่งอยู่ใกล้เขาจนได้สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่อุ่นจนร้อน

    ผะ ผมก็แค่แกล้งพูดขู่พี่หรอกน่าพี่ฮั่น ปล่อยข้อมือผมเดี๋ยวนี้เลย แล้วก็เขยิบหน้าตัวเองออกไปด้วย ร้อน... แกงส้มพูดพลางพยายามบิดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของคนตรงหน้า เนื่องจากเขาเริ่มกลัวคนตรงหน้าเล็ก ๆ ใบหน้าคมที่เรียบนิ่งทำให้คนมองรู้สึกหวั่นในใจลึก ๆ แต่มือหนาก็ยังไม่ยอมปล่อย

    นี่แกงคิดว่าพี่จะทำอะไรแกงจริง ๆ หรอครับ คำถามของร่างสูงเรียกคิ้วสวยให้ขมวดเข้าหากัน

    พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ

    พี่ทำอะไรแกงไม่ได้หรอกครับ ก็แกงน่ะ...เป็น หัวใจของพี่...ถ้าพี่ทำอะไรหัวใจตัวเอง แล้วพี่จะอยู่ได้ยังไงล่ะครับ กินข้าวกันต่อเถอะนะ เดี๋ยวแกงจะได้ไปทำงานต่อ คำตอบของคนตรงหน้า ทำให้ใบหน้ายิ้มออกมา

    นี่เขาลืมไปได้ยังไงนะว่ายังไงซะ...พี่ฮั่นก็ไม่มีวันทำร้ายเขา

    ต่อให้เขาร้ายกับพี่ฮั่นมากกว่านี้อีกกี่เท่า พี่ฮั่นก็จะไม่มีวันโกรธเขาหรือทำร้ายเขา

    เพราะว่าเขาคือ หัวใจของพี่ฮั่น’...

    ครับ...กินข้าวต่อ...แต่ไม่กินแบบเมื่อกี้แล้วนะ มัน หวาน ไป...ผมเขิน... พูดจบ คนพูดก็ดึงข้อมือตัวเองออกจากมือหนา แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ ฮั่นเห็นแบบนั้นเขาก็ยิ้มหวานออกมาทันที

    พูดจาน่ารักแถมยังทำหน้าน่ารักอีก...เดี๋ยวก็ป้อนข้าวแบบเมื่อกี้อีกสักรอบนึงหรอกแกงเอ๊ย...

    ฮั่นคิดในใจ ก่อนที่เขาจะกลับมาให้ความสนใจกับจานข้าวตรงหน้าเขาอีกครั้ง

    แล้วคนสองคนก็ทานอาหารมื้อค่ำกันด้วยความสุขที่ลอยกระจายเกลื่อนตัวในหัวใจ ความสุขจากการได้ทานอาหารกับคนที่รัก เป็นความสุขที่ไม่ว่าใครก็รู้ดีว่ามันทำให้หัวใจพองตัวจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นความสุขที่มากล้นแค่ไหน...

    ความสุขจากการที่ได้ทานอาหารกับคนที่รัก แม้จะเป็นมื้ออาหารที่ธรรมดา...

    แต่ทว่าเป็นความพิเศษสุดของหัวใจ

    เพราะการที่ได้กินข้าวไปมองหน้าคนที่รักไปด้วย...มันช่าง อิ่มอกอิ่มใจ เสียจริง!

     

     

     

     

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ เจ๊นี่ตลกดีนะครับ

    เสียงหัวเราะบวกกับคำพูดของคนที่อยู่ในห้องคอนโทรลเรียกใบหน้าหวานกับใบหน้าคมของคนสองคนที่เดินมาถึงหน้าประตูห้องนี้ให้ฉายชัดถึงความสงสัย

    พี่หนึ่งคุยกับใคร...?

    ไวเท่าความคิด แกงส้มรีบเปิดประตูห้องคอนโทรลเข้าไปทันที

    เจ๊ม้า !!!!!!!!!!!!” เมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่กับหนึ่งในห้องนี้ แกงส้มก็เรียกชื่อคน ๆ นั้น

    และเมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามา คนโดนเรียกชื่อก็หันควับมามองคนเรียกทันที แล้วร่างโปร่งของคนที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนที่เธอจะวิ่งถลามากอดร่างที่ยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตื่นตะลึงทันที

    ส่วนคนที่ยืนมองอย่างฮั่นก็ได้แต่ยืนงง

    ยัยเจ๊ม้าอะไรนี่เป็นใคร ?

    แล้วมากอดแกงส้มของเขาได้ยังไง ?

    เฮ้ย...หึงนะเนี่ย !

    แต่ก่อนที่ความหึงจะสาดกระเด็นกระเซ็นไปมากกว่านี้ แกงส้มก็รีบดันตัวคนที่กอดเขาแน่นให้เขยิบห่างตัว

    นี่เจ๊มาหาผมถึงที่นี่ มีเรื่องด่วนอะไรหรอครับ

    อ๋อ...เจ๊จะมาบอกว่า คอนโดของเจ๊ปรับปรุงเสร็จแล้วนะ แกงกลับไปอยู่ที่เดิมได้แล้วจ้ะ คำตอบของคนตรงหน้า ทำให้แกงส้มระบายยิ้มออกมา

    จริงหรอเจ๊!”

    จริงสิ...เจ๊จะโกหกแกงทำไมล่ะ แกงส้มสวมกอดคนตรงหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำตอบนี้

    เขาคิดถึงห้องนั้นที่สุด เพราะห้องนั้นเขาอยู่มานานแล้ว เขาผูกพันกับห้องนั้นมาก แต่เดี๋ยวก่อนนะ...ถ้าเขาย้ายกลับไปคอนโดเดิม แล้วห้องที่เขาอยู่ตรงข้ามกับห้องของพี่ฮั่นล่ะ...?

    เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ใบหน้าหวานก็หันไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหลังทันที ดวงตาเรียวที่ฉายชัดถึงความรู้สึกภายในหัวใจ ทำให้คนมองต้องรีบเบือนหน้าหนี

    เขาอยากกลับไปอยู่ที่คอนโดเดิม แต่ก็ไม่อยากย้ายออกจากคอนโดที่อยู่ปัจจุบัน

    โอ๊ะ! เอาไงดีหว่า...

    และก่อนที่แกงส้มจะได้ทันตัดสินใจอะไร เขาก็โดนคนเป็นพี่ลากแขนให้ออกไปคุยกันด้านนอกห้องนี้

    แกงจะกลับไปอยู่ที่คอนโดเดิมหรอ

    เอ่อ...คือ...ผม... ท่าทีลังเลของคนตรงหน้า ทำให้ใบหน้าคมสลดวูบ

    แกงจะย้ายกลับไปทำไมอ่ะครับ อยู่ที่นี่ก็ดีแล้วนี่นา...

    ผมชอบคอนโดเดิมอ่ะครับ จริง ๆ คือผมผูกพันกับมันมากกว่าอยู่มาตั้งเป็นปี ๆ คำตอบของแกงส้ม ทำให้ฮั่นรู้สึกน้อยใจ

    แกงอยากกลับไปอยู่ที่คอนโดเดิม...เพราะผูกพันกับที่นั่น...แล้วเขาล่ะ...?

    แล้วคอนโดที่อยู่ปัจจุบันแกงไม่ผูกพันหรอครับ... คำถามที่มาพร้อมกับใบหน้าคมที่แสดงออกถึงความรู้สึกน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แกงส้มถอนหายใจออกมา

    มันไม่เหมือนกันนะครับ ผมอยู่ที่นี่ผมก็ผูกพันครับ แต่ที่นั่น...มันผูกพันมากกว่า

    แค่เพียงคำตอบนี้เท่านั้นที่ทำให้ร่างสูงระเบิดอารมณ์น้อยใจออกมาเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังถึงกับน้ำตาร่วง

    ถ้าแกงผูกพันกับที่นั่นมาก ก็กลับไปอยู่ที่นั่นแล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่เลยสิครับ

    พี่ฮั่น... แกงส้มครางชื่อคนพูดออกมา ก่อนที่ใบหน้าหวานจะมีน้ำใสไหลอาบแก้มขาว

    ทำไมพี่ฮั่นถึงพูดแบบนี้...เขาแค่อยากกลับไปอยู่ที่คอนโดเดิมเองนะ...

    ทำไมพี่ถึงพูดแบบนี้ครับ ผมก็แค่อยากกลับไปอยู่ที่คอนโดมเดิม มันจะเป็นอะไรนักหนาครับ

    ก็ถ้าแกงไปอยู่ที่นั่น เราก็ต้องห่างกันสิครับ

    ห่างกันแค่ไม่กี่ซอยเนี่ยนะครับ!”

    ก็แล้วมันห่างกันไหมล่ะครับ เมื่อฮั่นพูดจบ แกงส้มก็ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนที่เขาจะมองคนร่างสูงตรงหน้าด้วยดวงตาที่ฉายชัดถึงความน้อยใจบ้างเหมือนกัน

    เราต้องตัวติดกันตลอด 24 ชั่วโมงหรือไงครับ ห่าง ๆ กันบ้างก็ได้ แค่อยู่คนละคอนโดไม่ได้อยู่กันคนละโลกนะครับ มีเหตุผลหน่อยสิพี่ฮั่น แกงส้มว่าพลางถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นว่าใบหน้าคมส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาพูด

    พี่ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรเลยที่แกงจะต้องกลับไปที่นั่น หรือแกงเบื่อที่เราจะต้องอยู่ใกล้กัน ถึงได้บอกว่าอยากจะอยู่ห่าง ๆ กัน...” ฮั่นถามออกไปพลางเริ่มทำหน้ายู่ด้วยความน้อยใจอย่างถึงที่สุด

    ตราบใดที่เขายังเลือกได้...ยังไงเขาก็ไม่อยากเลือกที่จะต้องอยู่ห่างจากแกงส้ม...

    แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่เข้าใจในความรู้สึกและความคิดของเขา

    พี่เริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะพี่ฮั่น

    ใครกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่อง...

    อ๋อ...พี่พูดแบบนี้ใช่ไหม ได้...ผมจะกลับไปอยู่ที่คอนโดเดิมของผม เพราะงั้น...ห่างกันสักพัก ก็แล้วกันนะครับ!” พูดจบ คนพูดก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องคอนโทรล ทิ้งให้ร่างสูงยกมือขึ้นมาทึ้งผมตัวเอง แล้วทรุดตัวลงนั่งที่พื้นเอนหลังพิงกำแพงทันที

    ...แกงไม่เข้าใจความรู้สึกพี่อ่ะ...พี่แค่อยากอยู่ใกล้แกง อยากดูแลแกง...พี่ผิดด้วยหรอ...ที่พี่คิดแบบนี้... ฮั่นพึมพำออกมา ก่อนที่ดวงตาเรียวจะมีน้ำใสคลอหน่วย

    ห่างกันสักพักหรอ...แล้วสักพักนี่มันนานแค่ไหนกันนะ...

     

    ร่างสูงค่อย ๆ ประคองตัวเองลุกขึ้นยืนยืดตัวเต็มความสูงอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาว

    หรือบางทีเขาควรห่างกับแกงสักพักจริง ๆ...

    อาจเพราะตัวติดกันมากเกินไป เลยทำให้แกง เบื่อ

    หรืออาจเป็นเพราะเขาเองที่พอได้อยู่ใกล้กับแกงมาก...ก็เลยไม่อยากจะต้อง ห่าง

    คนเราเวลารักกัน เราก็อยากจะใช้ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาทีกับคนที่เรารัก

    หากไม่มีเหตุจำเป็นอะไร เราก็ไม่อยากที่จะต้องห่างจากคนรัก...แต่รักของเราอาจจะไม่คิดแบบนั้น

    และเมื่อคนสองคนคิดสวนทางกัน...ความไม่เข้าใจ’...จึงเกิดขึ้น!

     

     

     

     

    เป็นอะไรไอ้แกง แล้วคุณฮั่นล่ะ? หนึ่งเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นร่างโปร่งเดินหน้างอง้ำเข้ามา

    งอนกลับไปแล้วครับ

    งอน ?

    อือ...งอน

    งอนเรื่องอะไรวะ

    เจ๊ม้า...ตกลงผมไม่กลับไปอยู่ที่คอนโดเจ๊นะครับ แกงส้มเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามของหนึ่ง แต่หันไปคุยกับเจ๊ม้าที่นั่งไขว้ห้างตรงหน้าแทน

    อ้าว...ทำไมล่ะ แกงไม่คิดถึงคอนโดของเจ๊หรอ... คำถามของคนตรงหน้าเรียกใบหน้าหวานให้ระบายยิ้มออกมานิดหน่อย ก่อนที่คนยิ้มจะลากเก้าอี้มานั่งแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมา

    เขาคิดถึงคอนโดเดิมของเขามาก เพราะเขาอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่เป็นดีเจแรก ๆ

    ตอนที่เขาอยู่ที่คอนโดนั้น เขาแทบจะไม่มีเพื่อนร่วมคอนโดเลย ชีวิตเขาจึงผูกติดอยู่แต่ภายในห้อง กลับมาจากทำงานก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง...

    ห้อง...เป็นเหมือนเพื่อนสนิทของเขาไปแล้วในตอนนั้น...

    พอได้รู้ว่าจะได้กลับไปหาเพื่อนสนิท เขาก็ดีใจและมีความสุขมาก

    เขาคิดว่าพี่ฮั่นจะเข้าใจในความรู้สึกของเขา แต่ปรากฏว่าพี่ฮั่นไม่เข้าใจ และออกอาการงอแงทันทีที่รู้ว่าเขาจะกลับไปอยู่ที่คอนโดเดิม

    ตอนแรกเขาไม่เข้าใจนะว่าทำไมพี่ฮั่นถึงได้ออกอาการง้องแง้งงอนง่ายขนาดนี้

    ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะเอามางอนมาโกรธกันได้เลยได้ซ้ำ

    เพราะเขาสองคนรักกันมาก เพราะฉะนั้นแค่เรื่องนี้ไม่สมควรจะมาทำให้พวกเขาสองคนต้องห่างกันสักพักได้เลย...

    แต่เพราะรักกันมากเกินไป จึงทำให้มีเรื่องงอนกันได้ขนาดนี้

    เชื่อเถอะว่า...คนที่รักกันจริง ๆ จะเป็นคู่ที่งอนกันง่ายที่สุด

    เพราะว่ายิ่งรักกันมาก ก็ยิ่งมีเรื่องให้งอนกันง่าย

    บางครั้งแค่เพียงหายใจคนละจังหวะก็ยังงอนกันเลย...เพราะคนที่รักกันจริง ๆ จะสังเกตและรู้สึกได้ถึงทุกคำพูดการกระทำและความรู้สึกของอีกฝ่ายได้แม้จะเป็นเพียงแค่เรื่องที่เล็กน้อยที่สุด

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องแบบนี้มันก็แล้วแต่คนรักกันแต่ละคู่ ไม่ใช่ทุกคู่ที่จะเป็นแบบนี้...

    แต่สำหรับคู่นี้...เขาเป็นกันแบบนี้ไง!

    ถึงแม้จะผ่านเรื่องใหญ่ ๆ หนัก ๆ ด้วยกันมาเยอะก็ตาม...

    คิดถึงสิครับ ผมผูกพันกับคอนโดเจ๊มากเลยนะครับ แต่ว่า...ผมผูกพันกับคนในคอนโดใหม่มากกว่าครับ ผม...ไม่อยากอยู่ห่างจากคนที่ผมรัก...เพราะฉะนั้น...ผมต้องขอบคุณและขอโทษเจ๊ด้วยนะครับ เจ๊อุตส่าห์มาหาผมถึงที่นี่แท้ ๆ ... แกงส้มตอบออกไปก่อนที่ร่างของเขาจะถูกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามโถมเข้ามากอดเต็มแรง

    เจ๊เข้าใจ แค่เห็นสายตาของแกงกับผู้ชายคนนั้นที่มองกัน เจ๊ก็รู้แล้วล่ะ ยังไงเจ๊ก็ขอให้เราโชคดีนะ ว่าง ๆ ก็ไปเที่ยวเล่นที่คอนโดเจ๊มั่งนะ พูดจบ คนพูดก็ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดคนตรงหน้า แล้วยิ้มหวานให้กับคนที่ยิ้มให้เธอ

    โอเคครับเจ๊ เอ้อ...ถ้ายังไงผมขอให้เจ๊ช่วยอะไรผมอย่างหนึ่งสิครับ

    ช่วยอะไรจ๊ะ ?

    ช่วย... แล้วแกงส้มก็อธิบายถึงเรื่องที่เขาอยากให้คนตรงหน้าช่วย ใบหน้าหวานยามที่อธิบายเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

    จริง ๆ แล้ว...ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจพี่ฮั่นนะว่าทำไมต้องอยากจะอยู่ใกล้เขาขนาดนั้น

    แต่พอได้คิดทบทวนดี ๆ เขาก็รู้ว่า...สำหรับคนที่รักกันแล้ว...

    การที่ได้ใช้เวลาทุกวินาทีอยู่ด้วยกัน มันเป็นความสุขที่สุด เขาเองก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับพี่ฮั่นในทุก ๆ วินาทีที่หายใจเหมือนกัน เพราะงั้น...เขาควรจะต้องง้อพี่ฮั่นที่พูดแบบนั้นออกไป

    แต่...ก่อนที่เขาจะง้อพี่ฮั่น ขอให้พี่ฮั่นมาง้อเขาก่อนแล้วกัน

    บางทีการลอง ห่างกันสักพัก อาจทำให้พวกเขาสองคนได้ผูกพันลึกซึ้งกันมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้นะ...เพราะฉะนั้น...

    ห่างกันสักพัก แล้วกันนะพี่ฮั่น...

    ...ตกลงตามนี้นะครับเจ๊

    โอเคจ้ะ แต่แกงแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้ เจ๊ม้าถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะเธอกลัวว่าเรื่องที่มันเริ่มยุ่งเหยิงมันจะยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้

    แน่ใจที่สุดครับ

    แต่เมื่อได้ฟังคำตอบที่มาพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความมั่นใจในความคิดของตัวเอง คนถามก็พยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงรับรู้และเข้าใจ

    เออพี่หนึ่ง พี่ข้าวฟ่างอยู่ที่ห้องหรือเปล่าครับ

    อยู่ ๆ อยู่กับ... หนึ่งยังพูดไม่จบประโยคดี คนถามก็ผลุนผลันออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนถามต้องต่อประโยคของตัวเองตามหลังคนที่เดินออกไป

    ...กวาง...

     

     

     

    ปัง!

    ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง คนที่กำลังนั่งอยู่บนที่เท้าแขนซึ่งโน้มใบหน้าเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็หล่นจากตรงนั้นลงไปนั่งกองที่พื้น

    แกง !!!!” กวางอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา ส่วนคนที่นั่งอยู่ที่พื้นก็รีบผุดตัวลุกขึ้นแล้วยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขินทันทีเมื่อเห็นสายตาของแกงส้มที่มองมา

    โอ๊ะ! นี่ผมเข้ามาขัดจังหวะการทำอะไรของพวกพี่สองคนหรือเปล่าครับ แกงส้มแกล้งถาม ก่อนที่เขาจะต้องเกือบหลุดขำพรืดเมื่อเห็นใบหน้าของคนสองคนขึ้นสีแดงทันทีที่เขาพูดจบ

    ไอ้แกง...แกช่วยเคาะประตูก่อนได้ไหมวะก่อนจะเข้าห้องของคนอื่นเนี่ย แล้วแกก็พูดให้มันดี ๆ นะเว้ยว่าขัดจังหวะการทำอะไรน่ะมันคืออะไร

    แหมพี่กวาง...จะให้ผมพูดจริง ๆ หรอครับ...ไม่ดีมั้ง ฮ่า ๆ ๆแล้วคนพูดก็หัวเราะออกมา ก่อนที่แกงส้มจะเอี้ยวตัวหลบหนังสือที่คนเป็นพี่เหวี่ยงมาเฉียดศีรษะ

    ไอ้แกง!”

    พอ ๆ ๆ หยุดทะเลาะกัน แกงมีอะไรหรือเปล่าครับ ถึงได้มาหาพี่ ข้าวฟ่างรีบเดินไปยืนตรงกลางแล้วกางแขนออกห้ามสงครามที่เริ่มต้นขึ้นของสองคนพี่น้อง

    ผมจะมาขอลางานพี่ข้าวฟ่าง 3 วันครับ พอดีว่าผมจะกลับบ้านที่เชียงใหม่ คำตอบของแกงส้ม เรียกคิ้วหนาของข้าวฟ่างให้ขมวดเข้าหากัน

    จะกลับบ้าน...?

    ครับจะกลับบ้าน

    นึกยังไงวะไอ้แกงถึงจะกลับบ้านตอนนี้ นี่มันยังไม่ถึงปีใหม่เลยนะ ปกติแกจะกลับบ้านตอนช่วงประมาณปีใหม่ไม่ใช่หรอ กวางถามออกมา พลางลุกจากเก้าอี้ที่นั่งมายืนกอดอกเบื้องหน้าคนที่ยืนอมยิ้ม

    พอดี...ผมงอนกับพี่ฮั่นน่ะครับ ก็เลย...จะหนีไปพักใจที่นู่น

    ว่าไงนะ! แกกับพี่ฮั่นงอนกัน งอนกันเรื่องอะไรวะ รุนแรงถึงขั้นหนีกลับไร่เลย

    เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะครับ แกงส้มตอบก่อนจะทำหน้าเอือมเบา ๆ กับเรื่องงอนของเขาและพี่ฮั่น

    เรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ทำให้ต้องหนีไปพักใจหลายร้อยกิโลเนี่ยนะแกง ข้าวฟ่างถามพลางเดินไปลากเก้าอี้มาให้หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในห้อง กวางหันมายิ้มหวานให้คนใจดี ก่อนที่เธอจะหย่อนก้นนั่ง แกงส้มมองภาพนั้น พลางยิ้มออกมา

    พี่ข้าวฟ่างเป็นผู้ชายใจดีเหมือนกับพี่ฮั่น...

    ดูแลคนที่รักด้วยการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ...

    เรื่องไม่เป็นเรื่องจริง ๆ ครับ แต่เอาเป็นว่า ผมขอลางาน 3 วันนะพี่ข้าวฟ่าง

    ครับ...ตามสบายเลยแกง เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ ใบหน้าหวานก็ระบายยิ้มออกมา

    ถ้างั้นผมไม่รบกวนเวลาจู๋จี๋ของพี่สองคนแล้ว ขอตัวไปทำงานต่อก่อนครับ พูดจบ คนพูดก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องนี้ แต่ก่อนที่ประตูจะปิดลง แกงส้มก็ชะโงกหน้าเข้ามาภายในห้อง

    จะทำอะไรกันก็ล็อกประตูกันด้วยนะครับ เผื่อมีใครพรวดพราดเปิดประตูเข้ามาแบบผม ฮ่า ๆ ๆ แล้วคนพูดก็ปิดประตูอย่างไว ทำให้คนที่หยิบแฟ้มที่อยู่ใกล้มือขว้างออกไปไม่ทัน

    ฮึ่ย!!! ไอ้แกง...ไอ้น้องบ้า!”

    เลิกว่าแกงแล้วมาต่อเรื่องของเราดีกว่า... คำพูดที่มาพร้อมกับใบหน้าคมที่เขยิบเลื่อนมาใกล้ เรียกใบหน้าหวานของกวางให้ขึ้นสีแดง

    ...ล็อกประตูก่อนพี่ข้าวฟ่าง...

     

     

     

    ค่ำคืนที่ผ่านพ้นไปด้วยความรู้สึกที่หม่นหมองทำให้ฮั่นนอนลืมตาโพลงตลอดทั้งคืน เขาไม่อาจข่มตานอนหลับได้เลย

    ในสมองของเขาตอนนี้คิดวนเวียนแต่ว่า...ถ้าแกงส้มต้องย้ายไปอยู่คอนโดเดิมจริง ๆ เขาจะทำยังไง...

    จริง ๆ เขาก็ไม่ควรจะต้องมาคิดเล็กคิดน้อยด้วยเรื่องแค่นี้นะ เพราะถึงจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน ก็ไม่ได้แปลว่าเขากับแกงส้มจะไม่ได้เจอกันสักหน่อย

    เขาก็ยังไปรับไปส่งแกงได้...

    เขาก็ยังทำทุกสิ่งอย่างในฐานะคนรักของแกงได้เหมือนเดิม...

    เออ...แล้วเขาจะคิดมากทำไม...

    อ้อ! ก็เพราะเขาไม่อยากจะต้องห่างจากแกงสักวินาทีเดียวน่ะสิ...

    โอ๊ย...ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสับสนในความคิดของตัวเอง

    มือหนาเอื้อมไปคว้าเจ้าตุ๊กตากระต่ายหน้าโหดที่นอนอยู่ข้าง ๆ มากอด ไว้แนบอก

    นี่เจ้าโหด...เจ้านายของแกบอกว่าให้ฉันกับเค้าลองห่างกันสักพักแหล่ะ ฉันควรจะห่างตามที่เค้าบอกใช่ไหม...แต่แกก็รู้ว่าฉันทำไม่ได้ เพราะแค่รู้ว่าฉันกับเขาต้องห่างกัน ฉันก็ทนไม่ได้จนระเบิดอารมณ์ออกไปแล้ว แล้วนี่ถ้าต้องห่างกันจริง ๆ ฉันจะเป็นยังไง... พูดจบ คนพูดก็ดึงเจ้าโหดขึ้นมาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่โตพลางมโนไปถึงคนที่อยู่ไกล

    ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ

    เสียงเคาะประตูที่รัวและเร็วเรียกร่างสูงที่นอนจ้องตากับตุ๊กตาบนเตียงให้ยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง

    เข้ามา ประตูไม่ได้ล็อก

    ทันทีที่ฮั่นพูดจบ ประตูก็เปิดออก โดยมีร่างโปร่งของจ๋าที่ยืนหายใจหอบ

    ไอ้ฮั่น...เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

    เรื่องใหญ่อะไรวะ

    น้องแกงเก็บของออกจากคอนโดแล้ว!” เมื่อได้ยินคำพูดของคนเป็นเพื่อน ฮั่นก็รีบลุกขึ้น แล้ววิ่งไปที่ห้องของคนที่อยู่ตรงข้ามทันที ประตูที่เปิดอ้าอยู่ เรียกขายาวให้ก้าวเข้าไป

    แกง...แกง...แกง... ฮั่นเรียกชื่อคนเป็นเจ้าของห้อง แต่ความเงียบก็เป็นเสียงตอบรับที่ตอบกลับมา

    เมื่อวิ่งเข้ามาในห้องนอน ฮั่นก็ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนเป็นอันดับแรก แล้วความว่างเปล่าที่ปรากฏเบื้องหน้า ทำให้ร่างสูงคล้ายเข่าอ่อนขึ้นมาทันที

    นี่แกงย้ายกลับคอนโดเดิมจริง ๆ หรอ...

    แกงมาเก็บของออกไปเมื่อคืนค่ะ แหววซึ่งเป็นเจ้าของคอนโดเอ่ยพูดขึ้นมา เมื่อได้ยินสิ่งที่ฮั่นพึมพำ

    เมื่อคืนหรอครับ ?

    ใช่ค่ะ

    แล้วเค้าบอกหรือเปล่าครับ ว่าจะย้ายไปไหน ใช่คอนโดเดิมหรือเปล่า ฮั่นถามออกไป ด้วยน้ำเสียงที่เริ่มร้อนรน

    เห็นว่าจะย้ายกลับคอนโดเดิมนะคะ คำตอบของแหววทำให้ร่างสูงต้องถอยหลังไปนั่งที่ปลายเตียงทันที

    แกงย้ายกลับคอนโดเดิมจริง ๆ สินะ...

    ที่นั่นมันมีอะไรดีนัก...อยากจะรู้จริง ๆ!

    คอนโดนั่นอยู่ที่ไหนครับ

    เดี๋ยวแหววเขียนแผนที่ให้คุณฮั่นแล้วกันค่ะ

     

     

     

     

    ‘H2H’

    ตัวอักษรสีม่วงขนาดใหญ่ที่ปรากฏชัดเบื้องหน้า เรียกดวงตาคมที่อยู่ภายใต้แว่นกันแดดสีมืดให้ก้มหน้าลงดูตัวหนังสือบนกระดาษที่อยู่ในมือสลับกับตัวอักษรที่อยู่เบื้องหน้า

    ที่นี่แหล่ะ...

    ขายาวรีบก้าวเข้าไปภายในคอนโดนั้น แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูเข้าไป เขาก็พบเจอกับคนที่เขาเจอเมื่อวานคนที่แกงส้มเรียกว่าเจ๊ม้า...

    อ้าวคุณ... เจ๊ม้าเอ่ยทักคนที่ยืนมองหน้าเธอ

    มาที่นี่อย่างที่แกงส้มบอกไว้จริง ๆ สินะ...

    ผมมาหาแกงส้มครับ ไม่ทราบว่าเค้าอยู่ห้องไหนครับ

    คือ...เจ๊ก็อยากจะบอกคุณนะ แต่แกงส้มเค้าไม่ให้เจ๊บอก เจ๊ม้าตอบพลางยิ้มให้คนตรงหน้า

    แกงส้มเอ๊ย...แกกำลังจะให้เจ๊ทำบาป

    แต่แกงอยู่ที่นี่จริง ๆ ใช่ไหมครับ แกงย้ายกลับมาที่นี่...ใช่ไหมครับ... ท้ายประโยค คนถามเอ่ยเสียงเบามากคนถูกถามแทบจะไม่ได้ยิน ใบหน้าคมที่ฉายชัดถึงความรู้สึกหมองหม่น ทำให้คนที่กำลังจะโกหกต่อไปต้องถอนหายใจออกมา ก่อนที่เจ๊ม้าจะพยักหน้าเบา ๆ

    แล้วตอนนี้แกงอยู่ในคอนโดหรือเปล่าครับ

    ไม่อยู่หรอกจ้ะ

    แล้วแกงไปไหนครับ

    เจ๊ก็ไม่รู้หรอกนะว่าแกงไปไหน ได้ยินแต่เค้าพูดว่าจะไป เก็บส้ม น่ะ... เมื่อได้ยินคำตอบจากคนตรงหน้า ใบหน้าคมก็ยิ้มออกมา

    เก็บส้มหรอ...

    แกงเคยเล่าว่า...พ่อของแกงเป็นเจ้าของไร่ส้มที่ชื่อว่า ชัยอรรถ...โดยไร่นั้นอยู่ที่เชียงใหม่

    หรือแกงจะไปที่นั่น!

    ผมขอบคุณเจ๊มากเลยนะครับ ขอบคุณจริง ๆ ครับ ฮั่นไม่พูดเปล่า แต่เขายังก้มลงไปกอดคนตรงหน้าเบา ๆ แล้วรีบวิ่งไปทางลานจอดรถที่อยู่หน้าคอนโดทันที

    แกงเอ๊ย...จะงอนให้เค้าง้อทั้งทีก็ถ่อไปซะไกลเลยเนอะ เฮ้อ...ฉันล่ะไม่เข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้จริง ๆ

     

     

     

     

    สองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นสูงชัน บวกกับถนนที่คดเคี้ยวเรียกอาการคลื่นเหียนให้เกิดขึ้นกับคนที่เป็นคนขับ ฮั่นเอื้อมมือไปหยิบลูกอมที่วางอยู่หน้าคอนโซลรถมาแกะ...

    ลูกอมรสน้ำผึ้งมะนาว...รสโปรดของแกง...

    แกงเป็นคนซื้อเอามาไว้ในรถของเขา เพราะแกงบอกว่า...เวลาที่เขาขับรถแล้วคิดถึงแกงก็ให้แกะลูกอมนี้กิน

    ดูพ่อเจ้าประคุณคิดสิ...น่ารักน่าหยิกจริง ๆ เลย

    ความหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ของลูกอมนอกจากจะทำให้ฮั่นสดชื่นทางกายและหายคลื่นไส้แล้ว มันยังทำให้เขาสดชื่นทางใจอีกด้วย

    อีกไม่ถึงชั่วโมงเขาก็จะได้เจอกับแกงแล้ว...

    ปุ้ง! บึ้ม!

    แต่แล้วเสียงของล้อรถที่เกิดระเบิด ทำให้รถที่กำลังขับอยู่เกิดเซไถลไปตามไหล่ทางที่มีต้นหญ้าขึ้นรก...โชคดีที่ฮั่นเลี้ยวเข้ามาภายในถนนเส้นเล็กที่เป็นถนนประจำหมู่บ้านแล้ว ทำให้เขาไม่ต้องเสี่ยงว่าจะตกเหวตาย แต่...ความมืดที่โรยตัวปกคลุมก็ทำให้คนที่นั่งอยู่ภายในรถที่บัดนี้จอดสนิทเพราะเครื่องยนต์ดับโดยอัตโนมัติต้องยกสองมือขึ้นมากุมขมับ

    รถเสียกลางทางที่ไม่รู้จักใคร แถมโทรศัพท์ก็ลืมเอามาอีก เจริญจริง ๆ ไอ้ฮั่น!

    ฮั่นตัดสินใจเดินลงมาจากรถ แล้วหันซ้ายหันขวามองหาบ้านคน แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แวว ร่างสูงเดินมามองที่เกิดเหตุ...ล้อที่เกิดรอยฉีกขนาดใหญ่ ทำให้คนมองต้องยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสีย

    เอาไงดีวะเนี่ย...อุปสรรคก่อให้รักบังเกิดจริง ๆ

    ในระหว่างที่ฮั่นกำลังคิดว่าจะทำยังไงดี แสงไฟจากรถกระบะคันใหญ่ที่สาดแสงมา ก็เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคม

    รถเป็นอะไรล่ะพ่อหนุ่ม อ้าว...เจ้าฮั่น!” เมื่อเห็นว่าเจ้าของรถกระบะที่จอดเทียบคือคนที่เป็นบิดาของคนที่ตามมาง้อ ฮั่นก็รีบยกมือไหว้แล้วยิ้มกว้างมากขึ้น

    ตกลงว่ารถเป็นอะไรล่ะ ทำไมถึงได้มาจอดขวางถนนแบบนี้ ถามพลางลงจากรถ คนถูกถามชี้มือไปยังที่เกิดเหตุก่อนจะยิ้มแหย ๆ

    เดี๋ยวทิ้งรถไว้ที่นี่แหล่ะ เช้าจะให้คนงานมาซ่อมให้ นี่มาง้อเจ้าแกงใช่ไหม...

    คุณพ่อรู้ ?

    ไม่รู้เลยสิ จู่ ๆ เจ้าแกงก็กลับบ้านก่อนกำหนดเวลา มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มาถึงก็เอาแต่บ่นว่าอยากอยู่ที่นี่ถาวร แบบนี้ถ้าไม่งอนกับเราแล้วจะเป็นอะไรได้ เมื่อฟังคำพูดของบิดาแกงส้ม ใบหน้าคมก็หมองลงทันที

    ผมผิดเองแหล่ะครับ ที่งี่เง่าไปหน่อย

    ตกลงว่างอนอะไรกัน

    คือเรื่องมันเริ่มต้นจาก... แล้วร่างสูงก็เริ่มอธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แล้วเมื่อเล่าจบ

    โป๊ก!

    มือหนาของคนที่สูงวัยกว่าก็ปล่อยมะเหงกเขกลงมาที่กลางศีรษะทุยอย่างแรงทันที

    นี่คิดว่าเรากับเจ้าแกงเป็นปาท่องโก๋กันหรือไง ถึงได้ต้องตัวติดกันตลอดเวลาน่ะ

    ก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ แต่ผมก็แค่อยากอยู่ใกล้ ๆ แกง...อยากดูแลแกงก็เท่านั้นเองครับ คำตอบของร่างสูงทำให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ส่ายหน้าเบา ๆ พลางเลื่อนมือไปตบไหล่หนาแรง ๆ หลายที

    คนเราน่ะนะ ถึงจะรักกันแค่ไหน แต่ยังไงก็ต้องมีระยะห่างของกันและกัน เพื่อให้อีกฝ่ายได้มีช่องว่างไว้หายใจและมีเวลาส่วนตัว เพราะเมื่อใดก็ตามที่ได้อยู่ห่างกัน วันนั้น..คือวันที่ทำให้หัวใจของเรารู้จักกับคำว่า คิดถึง อย่างแท้จริง...และเมื่อเราได้คิดถึง เราก็จะได้รู้ว่าคนที่เราคิดถึงคือคนที่สำคัญของหัวใจเรา... คำพูดของคนที่สูงวัย ทำให้คนฟังต้องค่อย ๆ คิดตาม

    ที่ผ่านมา...เขาอาจจะลืมไปว่า...ก่อนที่พวกเขาสองคนจะได้เจอกัน ในวันที่พวกเขาเขียนจดหมายหากัน พวกเขาก็ห่างกัน...

    ถึงห่างกันแต่ก็ยังมีความสุข...เพราะหัวใจได้คิดถึงกันและกันนั่นเอง...

    ผมเข้าใจแล้วครับคุณพ่อ

    ถ้าเข้าใจก็ดีแล้ว ไป ๆ รีบกลับไร่ดีกว่า มืดแล้ว... พูดจบ คนพูดก็เดินกลับไปที่รถตัวเอง คนฟังก็รีบไปหยิบข้าวของส่วนตัวแล้วล็อกรถ และก่อนที่ขายาวจะก้าวออกไปจากบริเวณนี้ ต้นกระดุมทองที่ส่องกระทบกับแสงไฟซึ่งอยู่เบื้องหน้าเรียกร่างสูงให้ย่อตัวลงแล้วเด็ดดอกกระดุมทองดอกนั้นใส่ในกระเป๋าเสื้อของตัวเอง ก่อนที่ฮั่นจะก้าวยาว ๆ ไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถที่จอดติดเครื่องอยู่ แล้วรถกระบะคันใหญ่ก็เคลื่อนตัวฝ่าความมืดออกไปจากบริเวณนี้ ความเย็นของอากาศที่ลอยเข้ามาภายในตัวรถทำให้ร่างสูงต้องยกสองมือขึ้นมากอดอก

    อากาศที่นี่หนาวแล้วล่ะ อยู่กรุงเทพคงไม่รู้สึกสินะ

    ครับ..อยู่ที่กรุงเทพยังร้อนตับแตกอยู่เลยครับ

    อืม...ที่นี่อยู่สูงไง อากาศก็เลยหนาว จริง ๆ ก็หนาวทั้งปีนะ โอ๊ะ...เจ้าแกงออกมารับเองเลย แหม่...เหมือนจะรู้เลยเนอะ

    และทันทีที่รถจอดสนิท คนที่วิ่งมาเปิดประตู ก็ต้องกลั้นยิ้มจนแก้มป่อง

    พี่ฮั่นมาง้อเขาจริง ๆ ด้วย!

    ป๊าไปเก็บใครมาจากข้างทางครับ คำถามที่มาพร้อมกับใบหน้าที่เรียบนิ่ง ทำให้คนที่โดนหาว่าโดนเก็บมาจากข้างทางหน้าเสียไป

    ปากคอเราะร้ายเจ้าแกง รีบ ๆ พากันไปง้อให้เสร็จก่อนกินข้าวเย็นเลย พูดจบ คนเป็นพ่อก็ผลักไหล่ร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ให้เข้าไปยืนเบื้องหน้าร่างสูง

    ป๊าอ่ะ!” แกงส้มว่าพลางทำท่าจะเดินตามคนเป็นบิดาไป แต่มือหนาที่เอื้อมมาคว้าแขนไว้ก็ทำให้คนที่(แกล้ง)งอน หันมามองหน้าคนง้อ

    ปล่อยแขนผม

    ไม่ปล่อย

    ปล่อย

    ไม่ปล่อยครับ

    เอ๊ะ!”

    แกงครับ...พี่มาง้อถึงนี่แล้วนะ หายงอนไม่ได้หรอครับ... ฮั่นว่าพลางเลื่อนมือจากที่จับแขนไปเป็นจับมือ แรงบีบเบา ๆ บริเวณฝ่ามือทำให้คนที่แกล้งงอนอยากจะเลิกแกล้งเสียเดี๋ยวนั้น แต่...

    มาง้อทำไมครับ แล้วผมบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าให้เราห่างกันสักพัก นี่มันยังห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ มันห่างกันสักพักตรงไหนมิทราบ!” คำพูดของคนตรงหน้า ทำให้คนฟังถึงกับหน้าเจื่อนลง แต่ฮั่นก็ยังคงหนักแน่นที่จะง้อต่อไป เพราะครั้งนี้เขาเป็นคนผิด

    พี่ยอมให้แกงย้ายมาอยู่ที่คอนโดเดิมแล้วนะ...เพราะพี่รู้แล้วว่า...ถึงแกงจะย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเดิม แต่ความรักและความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน มันจะยังเหมือนเดิม พี่ขอโทษนะครับที่งี่เง่างอนไร้สาระแบบนั้น ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วครับ ดีกันนะ... ฮั่นว่าพลางทำตาออดอ้อนคนตรงหน้าสุดฤทธิ์ และถ้าแค่เพียงใช้สายตาอ้อนก็คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่มาพร้อมกับอาการคุกเข่าลงที่พื้นแล้วหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้วยนี่สิ...

    พี่ไม่รู้ว่าแกงจะยกโทษในความผิดนี้ของพี่ไหม แต่พี่อยากบอกแกงว่า...พี่ผิดไปแล้วจริง ๆ ครับ พูดจบ คนพูดก็ยื่นดอกกระดุมสีเหลืองที่เขาเด็ดมาจากข้างทาง

    นี่มาง้อผมด้วยดอกกระดุมทองดอกเดียวเนี่ยนะ...

    พี่ไม่รู้หรอกนะครับว่าดอกกระดุมทองมีความหมายอะไรหรือเปล่า แต่พี่เห็นว่ามันสวยดี พี่อยากเก็บมาให้แกง พี่ก็เก็บมา ไม่ได้ตั้งใจจะเอามาเป็นของง้อหรอกครับ...แต่ถ้าแกงจะหายงอน...พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะครับ ฮั่นตอบก่อนจะยิ้มหวานให้คนตรงหน้า ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าที่เริ่มคลี่ยิ้ม มือบางเอื้อมมาหยิบดอกกระดุมทองของเขาไปถือไว้

    มองอยู่ได้ ลุกขึ้นสิครับ ข้าวไม่กินหรือไง

    แกงพูดแบบนี้ หมายความว่าแกงหายงอนพี่แล้วใช่ไหมครับ

    ผมจะหายงอนได้ไงครับ ก็ผมไม่ได้งอนพี่ซะหน่อย เมื่อได้ยินคำตอบจากริมฝีปากบาง ร่างสูงก็ผุดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันที

    แกงพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ

    จริง ๆ แล้วผมไม่ได้งอนพี่จะหนีมาไกลแบบนี้หรอกครับ คอนโดผมก็ไม่ได้ย้าย ผมยังอยู่ที่เดิมที่เดียวกับพี่นั่นแหล่ะครับ แต่ที่ผมทำแบบนี้ เพราะผมอยากจะรู้ว่า...พี่จะมาหาผมไหม จะทิ้งผมให้งอนโดยไม่ง้อหรือเปล่า แล้ว... พูดยังไม่ทันจบประโยคดี ใบหน้าคมก็ก้มลงมาปิดริมฝีปากบางด้วยริมฝีปากสวยของเขา สัมผัสที่อ้อยอิ่งอ่อนโยน เรียกสองแขนให้เลื่อนไปโอบรอบคอร่างสูง ร่างกายที่เริ่มเขยิบเข้าหากันทำให้ร่างสองร่างรู้สึกอุ่นขึ้นมา มือหนาของฮั่นที่เลื่อนไปวางไว้ที่สะโพกของร่างโปร่งตรงหน้า ทำให้คนเป็นเจ้าของรู้สึกตัว

    อืม... แกงส้มครางออกมาเบา ๆ แล้วรีบเขยิบออกห่างจากร่างสูงทันที ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำ เรียกใบหน้าคมให้อมยิ้ม มือหนาเอื้อมไปหยิกแก้มแดงนั้นเบา ๆ อย่างรักใคร่

    ฮื้อ...ทำอะไรน่ะพี่ฮั่น

    ก็หยิกแก้มคนที่ทำให้พี่นอนไม่หลับทั้งคืนไงครับ

    สมน้ำหน้า อยากงอนไม่เข้าท่าเอง แกงส้มว่าพลางย่นจมูกใส่คนที่กำลังยืนยิ้ม

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ โอเค ๆ พี่ผิดเอง...ว่าแต่...เรารีบเข้าบ้านกันเถอะครับ อากาศเย็นมากแล้ว เดี๋ยวแกงจะไม่สบาย อีกอย่าง...พี่ก็เริ่มหิวแล้วด้วย ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า

    ถ้างั้นก็เข้าบ้านกันครับ แม่ทำกับข้าวไว้รอพี่หลายอย่างเลยนะ... พูดจบ คนพูดก็สอดประสานนิ้วมือของเขากับนิ้วมือของร่างสูง พลางออกเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวเข้าไปในตัวบ้านไม้สวยตรงหน้า

    แล้วความสุขก็ลอยตามคนสองคนไป...

    ทิ้งความเศร้า เหงา และไม่เข้าใจให้หล่นอยู่ตามพื้น

     

     

     

    จิ๊บ ๆ ๆ ๆ

    เสียงนกที่ร้องทักทายยามเช้า มาพร้อมกับไอเย็นของอากาศที่ลอยเข้ามาจากทางหน้าต่าง เรียกดวงตากลมโตของแกงส้มให้ลืมขึ้น ใบหน้าหวานหันมามองคนที่นอนอยู่ข้างตัว แล้วเขาก็พบกับความว่างเปล่า

    พี่ฮั่นหายไปไหน ?

    มองหาใครอยู่ครับที่รัก... คนโดนเรียกที่รักหันหน้าไปมองคนเรียกทันที ร่างสูงที่อยู่ในชุดลำลองสบาย แต่มีผ้ากันเปื้อนสีชมพูสวมทับ เรียกเสียงหัวเราะให้ออกมาจากริมฝีปากของคนมอง

    ฮ่า ๆ ๆ นี่พี่ไปเอาผ้ากันเปื้อนของเจ๊ข้าวมาใส่ใช่ไหมครับเนี่ย

    ก็ใช่น่ะสิครับ แต่แกงไม่ต้องมาหัวเราะพี่เลยนะ รีบ ๆ ลุกไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วลงไปกินข้าวเช้าได้แล้วครับ วันนี้เราไปทานข้าวเช้าในสวนด้วยนะครับ เมื่อได้ยินว่าจะไปทานข้าวในสวน แกงส้มก็รีบผุดตัวลุกขึ้น แล้ววิ่งตึงตังไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว และเมื่อวิ่งผ่านร่างสูง ร่างบางก็หยุดฝีเท้าและเลื่อนใบหน้าไปแตะริมฝีปากที่ริมฝีปากของร่างสูงเบา ๆ

    มอนิ่งคิสครับพี่หมี...ที่รัก...

    คนที่โดนมอนิ่งคิสเข้าไปได้แต่ยืนยิ้มแล้วมองตามร่างที่วิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความรู้สึกรักใคร่

    ก็น่ารักซะขนาดนี้...

    ต่อให้ต้องตามง้อถึงต่างประเทศหรือต่างดาวเขาก็ยอม!

     

     

     

     

    สวนส้มที่มีต้นส้มสีเขียวหลายร้อยต้นที่ปลูกเรียงราย เมื่อมองจากมุมสูงมุมนี้เรียกใบหน้าคมให้ฉายชัดถึงความชื่นชมในความงามที่ปรากฏเบื้องหน้า

    กลิ่นของธรรมชาติลอยมาแตะจมูก สายลมที่พัดเบา ๆ ทำหน้าที่หอบเอาไอหมอกที่ลอยเอื่อยจาง ๆ ให้ลอยวนรอบกายคนทั้งสองที่ยืนอยู่

    สวยใช่ไหมครับพี่ฮั่น แกงส้มเอ่ยถามร่างสูงที่หยิบกล้องออกมาจากกระเป๋า

    สวยมากครับ ฮั่นตอบแค่นั้น เขาก็หันกล้องมาทางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

    ยิ้มหวาน ๆ สิครับแกง...

    ไม่เอาพี่ฮั่น พี่จะมาถ่ายผมทำไม ถ่ายสวนส้มนู่นสิ แกงส้มว่าพลางเอื้อมมือไปบังหน้ากล้องไว้ ฮั่นคว้ามือบางไปกุมไว้แล้วออกแรงดึงเบา ๆ ให้คนร่างบาง(กว่า)เข้ามายืนเบื้องหน้าเขาแล้วมือหนาก็เลื่อนไปโอบรอบเอวบาง พลางยืดกล้องออกไปสุดแขน

    เงยหน้ามองกล้องหน่อยแกง

    ไม่เอาพี่ฮั่น ผมไม่ชอบถ่ายรูป แกงส้มพูดก่อนจะเบือนหน้าหนีกล้อง พลางขยับตัวยุกยิกเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดของร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง

    ถ่ายหน่อยนะ...เรายังไม่เคยมีรูปคู่ด้วยกันเลย นะครับ... เสียงอ้อนที่ดังอยู่ข้างหู ทำให้คนที่ใจอ่อนต้องยอมหยุดดิ้น

    แค่รูปเดียวนะครับ

    ครับ...รูปเดียวก็รูปเดียว เมื่อได้ยินว่าคนที่ยืนด้านหลังรับปากว่าแค่รูปเดียว คนที่ไม่ชอบถ่ายรูปก็ยอมเงยหน้าขึ้นไปมองกล้อง ใบหน้าคมเลื่อนมาแนบแก้มของเขากับแก้มของคนหน้าหวาน

    3 4 ชีสสสสสสสส...

    แล้วกล้องก็บันทึกภาพของคนสองที่ยืนยิ้มหวานแก้มแนบแก้ม...

    อีกรูปนะ...

    ไม่เอาพี่ฮั่น ไหนบอกว่ารูปเดียวไง...อ๊ะ!” และยังพูดไม่ทันจบประโยคดี ใบหน้าหวานที่หันมาโวยวาย ก็โดนใบหน้าของคนที่อยู่ด้านหลังเลื่อนปลายจมูกโด่งมาแตะกับปลายจมูกของเขา

    แล้วกล้องก็ได้บันทึกภาพของคนสองคนที่แตะปลายจมูกกันอีกภาพหนึ่ง...

    และจังหวะที่แกงส้มกำลังจะเลื่อนใบหน้าออก ฮั่นก็เอียงใบหน้าแล้วแนบริมฝีปากของเขากับริมฝีปากของบาง...

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านิ้วเรียวของคนถือกล้องได้กดบันทึกภาพนี้เอาไว้...

    ภาพแห่งความรัก

     

     


     

     

     

     

     

    คนรักกันอาจจำเป็นต้องมี ระยะห่าง เพื่อให้ ระยะทางของหัวใจ ได้เผื่อให้ความรู้สึกได้มีเวลาส่วนตัว

    ...การ ห่างกันสักพัก ไม่ได้แปลว่าต้อง เลิกรัก กันเสมอไป...

    เพราะตราบใดที่หัวใจยังเต็มไปด้วยความรักของคนสองคน ตราบนั้น...สถานะในความสัมพันธ์ก็ยังคงเดิมอยู่...แม้จะต้องห่างกันเท่าใดก็ตาม...

     

     







     

    //มาอัพครบ 100% แล้วค่ะ...ไม่รู้ว่าจะหวานพอดับมาม่าที่ปล่อยให้อืดในท้องของคนอ่านเมื่อคืนได้หรือเปล่านะคะ...ฮ่ะ ๆ ๆ

    ตอนหน้าก็เป็นตอนสุดท้ายของเรื่องนี้แล้วนะคะ..ใจหายเบา ๆ เนอะ....ไวจัง....

    กวางอยากจะบอกว่า...คนอ่านอย่าคาดหวังว่าตอนจบของเรื่องนี้จะสมบูรณ์แบบนะคะ ตั้งแต่แรกที่เขียนเรื่องนี้จนถึงตอนนี้กวางอยากให้คนอ่าน...อ่านเรื่องนี้แบบไม่คาดหวัง อ่านแบบเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นหมายถึงอ่านเรื่อย ๆ จนถึงตอนจบ...ซึ่งกวางก็รู้ว่าคนอ่านเองก็ทำแบบนี้มาโดยตลอด...และไม่ต้องกลัวว่าการจบที่ไม่สมบูรณ์แบบจะหมายถึงจบแบบดราม่านะคะ กวางไม่ทำร้ายคนอ่านที่รักแบบนั้นแน่นอน...><

    ติดตามตอนจบในเร็ววันนี้นะคะ...

    รักคนอ่านทุกคนค่ะ ชุ้บๆ ^^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×