ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Letter #เพราะโลกนี้มี 'นาย' [FIC HKS]

    ลำดับตอนที่ #42 : บทที่ 37 : คนป่วย...ขี้อ้อน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.25K
      2
      14 ต.ค. 55

    บทที่ 37 : คนป่วย...ขี้อ้อน

    ฮัดชิ้ว!”

    เฮ้ยไอ้แกง...พี่ว่าแกไปหมอดีไหมวะ ตั้งแต่พี่มานั่งจน ณ ตอนนี้ แกจามเป็นสิบรอบแล้วนะเว้ย หนึ่งว่าพลางมองหน้าคนเป็นรุ่นน้องที่กำลังหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำมูลที่ไหล

    งือ...ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกพี่หนึ่ง ผมสบายมาก ฮะ ฮัดชิ้ว!!” แล้วคนพูดก็จามใส่คนเป็นพี่

    ไอ้แกงงงงงงงง ไอ้น้องบ้า! แกรีบ ๆ ไปหาหมอเลย หนึ่งพูดพลางหยิบกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะมาเช็ดใบหน้า เนื่องจากรู้สึกหน้าชื้น ๆ จากการจามของคนเป็นน้องเมื่อสักครู่นี้

    ไปได้ไงอ่ะพี่ ผมต้องจัดรายการ อีกอย่าง...ตอนนี้ก็ดึกแล้วด้วย หมอที่ไหนจะมาอยู่รักษา

    ก็จริงของแก แต่ยังไง ๆ พี่ว่าวันนี้แกก็กลับไปกินยาแล้วนอนพักดีกว่า เดี๋ยวพี่โทรเรียกไอ้พีมมาจัดต่อเอง...ห้ามปฏิเสธด้วย ไม่งั้นพี่จะบอกให้คุณข้าวฟ่างหักเงินแก!” หนึ่งไม่พูดเปล่า แต่ยังดึงหูฟังที่ครอบหัวแกงส้มออกแล้วส่งสายตาดุเป็นเชิงสนับสนุนคำพูดของตัวเอง

    ก็ลองให้พี่ข้าวฟ่างหักเงินผมสิ ผมจะไปฟ้องพี่กวาง แกงส้มว่าก่อนจะต้องตกใจ เมื่อคนที่เขาพูดถึงเปิดประตูเข้ามาพอดี

    อะไรไอ้แกง ได้ยินแกบอกว่าจะฟ้องอะไรพี่ เอ้านี่...พี่ซื้อขนมมาฝาก พี่หนึ่งก็ทานด้วยกันนะคะ กวางว่าก่อนจะยื่นถุงใสที่บรรจุขนมปังหลากหลายชนิดไว้ในนั้น หนึ่งยื่นมือออกมารับก่อนจะวางถุงขนมนั้นไว้ที่โต๊ะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล แล้วหันไปมองกวางกับข้าวฟ่างที่กำลังยืนคุยกันหนุงหนิง

    ไม่อยากจะเชื่อว่าสองคนนี้จะลงเอยกันได้ เขายังจำวันที่สองคนนี้เจอกันแล้วเจ้านายของเขาโดนผู้หญิงคนนี้ต่อยซะเลือดกำเดากระฉูด ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไปตลอด

    ที่ไหนได้...

    กลับมาลงเอยกันซะงั้น!

    โลกนี้มีอะไรที่ทำให้คนเรา แปลกใจได้เสมอจริง ๆ สินะ!

    ก็พี่หนึ่งอ่ะดิพี่กวาง ไล่ให้ผมกลับบ้านไปกินยานอน ผมแค่จามใส่หน้าพี่หนึ่งเค้าเองนะ พอผมทำท่าว่าจะไม่กลับ พี่หนึ่งก็บอกว่าจะฟ้องพี่ข้าวฟ่างให้หักเงินเดือนผม ผมก็เลยบอกว่าถ้าพี่หนึ่งฟ้องพี่ข้าวฟ่าง ผมก็จะไปฟ้องพี่กวางเหมือนกัน แกงส้มพูดพลางเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ ก่อนจะสูดน้ำมูกที่ทำท่าจะไหลอีกครั้ง

    ฝนเมื่อบ่ายทำพิษเข้าแล้ว!

    พี่ว่าที่พี่หนึ่งพูดก็ถูกนะแกง ท่าทางเราจะไม่ไหวนะ ดูหน้าซีด ๆ ด้วย ข้าวฟ่างพูดพลางเดินมาแตะหลังมือที่หน้าผากของคนที่กำลังสูดน้ำมูก

    ผมไหวนะครับ แกงส้มยังยืนกรานคำพูดของตัวเอง พลางยิ้มหวานให้กับคนที่ยืนเบื้องหน้า

    แต่พี่ว่าแกไม่ไหวว่ะ กวางพูด ก่อนจะดันหลังข้าวฟ่างให้หลบเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะมองใบหน้าหวานของคนเป็นน้องแล้วกวางก็หยิบไอโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์พลางกดโทรออกหาใครบางคน

    โทรหาใครอ่ะพี่กวาง แกงส้มเอ่ยถามคนที่กำลังยัดไอโฟนใส่กลับที่เดิมทันทีที่บทสนทนาเพียงสั้น ๆ ของคนที่อยู่ที่นี่กับคนที่อยู่ปลายสายจบลง

    โทรหาพี่ฮั่น

    เฮ้ย! โทรทำไม ฮื้อ...พี่อ่ะ!” แกงส้มโวยวาย พลางทำหน้างอง้ำ เรียกความสงสัยของคนมองอย่างกวางและข้าวฟ่างเป็นอย่างมาก

    แกเป็นอะไรของแกเนี่ยไอ้แกง ทะเลาะกับพี่ฮั่นหรือไง ทำไมพอพี่โทรให้พี่ฮั่นมารับแกแล้วแกจะต้องทำหน้าแบบนี้

    ไม่ได้ทะเลาะกันครับ แต่นี่มันดึกแล้ว ผมไม่อยากให้พี่ฮั่นขับรถดึก ๆ มันอันตราย ผมแค่เป็นหวัดธรรมดาเอง กลับเองได้คร้าบบบบบบบ แกงส้มว่าก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของกวาง

    พี่ฮั่นเค้าเก่งหรอกน่ะ แค่ขับรถดึก ๆ ไม่เป็นอะไรหรอก แกห่วงพี่เค้าเวอร์ไปเปล่า

    พี่ไม่รู้อะไรพี่กวาง... แกงส้มงึมงำออกมาเบา ๆ เมื่อนึกไปถึงสิ่งที่พี่ฮั่นกำลังเผชิญอยู่

    ไม่รู้อะไร ? กวางถาม ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามคนที่กำลังทำหน้ากังวล

    เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ โอ๊ะ! เดี๋ยวผมออกไปรอพี่ฮั่นข้างล่างดีกว่า พี่ฮั่นจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นมา ผมไปก่อนนะครับ บาย ๆ ๆ ๆ ฮะ พูดจบ แกงส้มก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่าแล้ววิ่งตึงตังออกไปจากห้องคอนโทรลทันที

    พี่ข้าวว่า...ท่าทางไอ้แกงมันแปลก ๆ หรือเปล่าคะ กวางเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งแทนที่แกงส้ม

    แปลกสิ...แต่เราอย่าเพิ่งไปยุ่งวุ่นวายกับแกงมันเลย ท่าทางแกงจะยังไม่พร้อมบอกอะไรนะ ว่าแต่เราเหอะ...สนใจอยากลองเป็นดีเจดูไหม เดี๋ยวพี่สอน คำพูดที่มาพร้อมกับหูฟังที่ยื่นมาตรงหน้า เรียกใบหน้าหวานของกวางให้ยกยิ้ม

    อยากลองค่ะ พี่ข้าวจะสอนเค้าจริง ๆ หรอ กวางถามอย่างไม่แน่ใจในคำพูดของคนตรงหน้า

    อื้อ...ก็เมื่อวานเราอยากลองไม่ใช่หรอ เอ้า! รับไปสิหรือว่าจะต้องให้ใส่ให้ด้วย ข้าวฟ่างถามก่อนที่เขาจะต้องระบายยิ้มหวานออกมา เมื่อคนตรงหน้าพยักหน้าเป็นเชิงให้เขาใส่หูฟังให้เธอ

    บางทีเธอก็ ขี้อ้อน ไปนะ... พึมพำเบา ๆ มือหนาก็วางหูฟังไว้บนศีรษะทุย ก่อนที่กวางจะชะโงกหน้าไปหาใบหน้าคมแล้วกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู

    บางทีพี่ข้าวฟ่างก็ น่ารัก ไปเหมือนกันค่ะ...

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของกวาง ข้าวฟ่างก็หน้าขึ้นสีแดงจัดทันที หนึ่งมองภาพคนสองคนสลับไปสลับมาก่อนที่เขาจะลุกเดินออกจากห้องนั้นออกไปโทรศัพท์หาสุ (แฟนสาวของเขา) ทันที

    เห็นคนรักกันแล้วก็นึกถึงคนรักของตัวเอง

    เมื่อความรักทำให้หัวใจของคนสองคนผูกกัน ความรู้สึกดี ๆ ก็จะร้อยเรียงให้ทุกลมหายใจของเราคิดถึงคนที่ทำให้หัวใจของเรารู้สึกดีและรู้สึกรัก

    เมื่อใดที่เราอยู่คนเดียว...เราก็จะคิดถึงแต่ คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เราอยู่กับใคร...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เราไปเจอเหตุการณ์อะไรมา...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เรามีความสุข...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เรามีความทุกข์...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เรายิ้ม...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เราหัวเราะ...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    เมื่อใดที่เราร้องไห้...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก

    ไม่ว่าเมื่อใด...เราก็จะคิดถึง คนที่เรารัก เสมอ...

    เพราะเขาคือ...คนที่เรารัก’...

     

     

     

     

    เปรี้ยง!

    เสียงฟ้าที่ผ่าลงมา ทำให้ร่างโปร่งที่นั่งกอดเข่าอยู่สะดุ้งเฮือกสุดตัว ดวงตากลมโตมองฝ่าความมืดไปยังสายฟ้าที่ส่องแสงสีขาวพาดผ่านท้องฟ้าสีดำสนิท ลมที่พัดกรรโชกแรง เรียกมือบางให้รูดซิปเสื้อแขนยาวมีฮู้ดของตัวเองให้ปิดถึงคอ

    ทำไมพี่ฮั่นยังไม่มาอีกนะ...

    ตอนนี้สมองของแกงส้มกำลังคิดประมวลไปถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ชวนให้จิตตก ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนหรือแม้แต่การกำเริบของโรคม่านตาอักเสบที่คนเป็นพี่ของเขากำลังเป็นอยู่

    ปิ๊น!

    บ่นยังไม่ทันถึงห้าวินาที รถเก๋งสีขาวก็สาดไฟส่องเข้ามา แกงส้มผุดรอยยิ้มดีใจก่อนที่เขาจะก้าวยาว ๆ ไปยังรถคันนั้น และเมื่อเปิดประตูรถเข้าไป แกงส้มก็โผเข้ากอดร่างคนเป็นคนขับทันที

    หืม...เป็นอะไรหรือเปล่าแกง ทำไมจู่ ๆ มากอดพี่แบบนี้ ฮั่นถามก่อนจะเชยคางคนที่เอาหัวซุกกับไหล่เขาให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา

    ผมกลัวอ่ะพี่ฮั่น

    กลัว...กลัวอะไรครับ

    ตอนนี้มันดึกแล้ว แล้วสายตาพี่ก็ไม่ค่อยดี ผมกลัวว่าพี่จะเกิดอุบัติเหตุ เพราะฝนทำท่าจะตกด้วย ตอนที่ผมนั่งรอพี่ ใจผมคิดกลัวไปหมดเลย... แล้วคำพูดของแกงส้มก็ถูกริมฝีปากบางของคนเป็นพี่ดูดกลืน ความรู้สึกซาบซึ้งในคำพูดของคนเป็นน้องถูกฮั่นถ่ายทอดออกมาทางสัมผัสที่แสนนุ่มนวลอ่อนโยน

    แกงไม่ต้องกลัวนะครับ เพราะแกงเป็นคนบอกพี่เองนี่นา ว่าพี่ต้องไม่เป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่จะไม่เป็นอะไรครับ เลิกกังวลได้แล้วนะ ทันทีที่ฮั่นปล่อยให้ริมฝีปากสวยเป็นอิสระ เขาก็ใช้นิ้วเรียวปัดผมม้าที่ปิดหน้าผากมนให้เปิดออก พลางแตะริมฝีปากของตัวเองไปยังบริเวณนั้นเป็นการยืนยันสนับสนุนคำพูดของเขาเมื่อสักครู่นี้

    คนที่บอกให้เขาเข้มแข็งมาโดยตลอด ในบางครั้งก็มีอารมณ์หวาดกลัวและหวั่นไหวสินะ

    ก็ขนาดคนเข้มแข็งเสมออย่างตัวเขาเอง ยังมีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเลย แล้วนับประสาอะไรกับแกงส้ม...

    สองแขนที่โอบรอบเอวเขามาพร้อมกับใบหน้าหวานที่ซุกมาบริเวณแผ่นอก ทำให้คนโดนกอดต้องหัวเราะออกมาเบา ๆ

    แกงกอดพี่แบบนี้แล้วพี่จะขับรถได้ยังไงครับ

    อ่า...นั่นสิครับ งั้นผมขอกอดพี่แบบนี้แป๊บนึงก่อนนะ แล้วคนพูดก็หลับตาพลางเบียดใบหน้าของตัวเองไปกับแผ่นอกกว้างแล้วกระชับอ้อมแขนของตัวเองให้แน่นขึ้นไปอีกด้วยความรู้สึกที่รักใคร่และหวงแหนคน  ๆ นี้

    ความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากอ้อมกอดของร่างบางทำให้ฮั่นรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แกงส้มมีให้กับเขา...

    ไม่ต้องพูดว่ารัก...แต่แสดงออกว่ารักผ่าน อ้อมกอด

    หัวใจก็รับรู้ได้เสมอ...

    ก็เพราะแกงส้มเป็นแบบนี้...หัวใจของเขาถึงได้รู้สึกดีทุกครั้งที่มีคน ๆ อยู่ใกล้ ๆ

    หากวันหนึ่งเขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของคน ๆ นี้...

    เขาก็ยังรู้สึกดี...

    เพราะเขารู้ว่าแกงส้มจะยังกอดเขา...รักเขา...และทำให้เขาอบอุ่นหัวใจแบบนี้...เรื่อย ๆ ต่อไป

     

     

     

     

    อ้าปากงับปรอทวัดไข้หน่อยครับคนป่วย ฮั่นเอ่ยพูดก่อนจะยื่นปรอทใส่ปากที่อ้ารอ

    อี้อั้นอั๊บ...(พี่ฮั่นครับ) เสียงเรียกที่ดังแบบบฟังไม่รู้เรื่องเรียกคิ้วหนาของคนมองให้ขมวดเข้าหากัน

    ว่าไงครับ

    อ๋มอากอาบอ้ำอ่ะ อาบอ้ายไอ๊...(ผมอยากอาบน้ำอ่ะ อาบได้ไหม)

    แกงเอาปรอทวัดไข้ออกก่อนครับ แล้วค่อยพูดฮั่นว่าก่อนจะอมยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าหวานเหรอหราขึ้นมา

    เออเนอะ พอเอาออกแล้วพูดชัดขึ้นเลย

    นี่แกงแกล้งเกรียนพี่ใช่ไหมฮั่นถามพลางเดินเข้าไปนั่งคุกเข่าเบื้องหน้าของคนที่ถือปรอทวัดไข้

    เปล่านะพี่ฮั่น ผมไม่ได้แกล้งเกรียนพี่ซะหน่อย แกงส้มตอบก่อนจะอมยิ้มนิด ๆ ฮั่นเห็นอากัปกิริยานี้ของคนตรงหน้า เขาก็ส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะยกมือไปยีผมแกงส้มเบา ๆ อย่างเอ็นดู

    โอเค ๆ ถ้าไม่แกล้งเกรียนพี่แล้วเมื่อตะกี้พูดว่าอะไรครับ

    ผมพูดว่า ผมอยากอาบน้ำครับ ผมอาบได้ไหม ตอนนี้รู้สึกร้อนมาก เพราะพี่อ่ะไม่ยอมเปิดแอร์ พูดพลางทำปากจู่แก้มป่องอย่างนึกเคืองคนตรงหน้าเล็ก ๆ

    แค่เป็นหวัดเอง แต่ห้ามเปิดแอร์...ตับแตกแน่คืนนี้!

    ก่อนจะอาบน้ำ ขอพี่ดูไข้แกงก่อนว่าขึ้นสูงแค่ไหน เพราะฉะนั้น...เอาปรอทวัดไข้เข้าปากแล้วห้ามพูดสักแป๊บนึงครับ

    ครับ ๆ รับคำเสร็จ แกงส้มก็เอาปรอทวัดไข้ใส่เข้าไปในปาก

    ไม่ถึงสามนาที ฮั่นก็ดึงปรอทวัดไข้นั้นออก

    โห! ไข้ขึ้นสูงมากเกือบ 40 องศาแน่ะแกง อาบน้ำไม่ได้แล้วครับ เช็ดตัวเอาก็พอ เดี๋ยวพี่ไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัวให้ ไม่ต้องรอให้คนป่วยตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างสูงของฮั่นก็เดินเร็ว ๆ ไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลทันที แกงส้มมองตามร่างสูงไปด้วยใบหน้าที่ระบายไปด้วยรอยยิ้ม

    พี่ฮั่นแสนดีกับเขาเสมอ...

    วันแรกเป็นยังไง วันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น...

    มาแล้วคร้าบ... ร่างสูงที่ถือกะละมังใส่น้ำมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่บนบ่า ค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างคนป่วยที่นั่งเอาหลังพิงหัวเตียง

    ถอดเสื้อออกสิแกง คำสั่งที่ของคนที่กำลังเอาผ้าชุบน้ำแล้วบิด ทำให้คนโดนสั่งสะดุ้งเล็ก ๆ

    พี่ว่าอะไรนะครับพี่ฮั่น

    พี่บอกว่าให้แกงถอดเสื้อครับ น้ำเสียงหนักแน่นมาพร้อมกับใบหน้าที่อมยิ้ม ทำให้แกงส้มหน้าแดงขึ้นมาทันที

    ทำไมผมต้องถอดเสื้อด้วยอ่ะพี่ฮั่น พี่ก็แค่เช็ดตามคอ ตามแขนผมก็พอ

    ถ้าเช็ดแค่นั้นแล้วไข้มันลดก็ดีสิครับ อย่างอแงน่าแกง รีบ ๆ ถอดเสื้อเร็วเข้า จะได้เช็ดตัวแล้วกินยานอน

    แต่...

    จะถอดเองหรือว่าให้พี่ถอด...? คำถามที่เอ่ยออกมาจากใบหน้าจริงจัง ทำให้คนอิดออดต้องค่อย ๆ ถลกเสื้อยืดสีดำที่ตัวใส่อยู่ให้หลุดออกจากตัว

    ลำตัวขาวผ่องที่แลดูบอบบางกว่าที่เห็นภายนอกทำให้คนมองต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ฮั่นมองไล่ตั้งแต่ลำคอขาวเรื่อยลงมาที่ไหปลาร้าแล้วหยุดที่แผงอกซึ่งมีไรขนอ่อนขึ้นบ่งบอกความเป็นชาย คนมองกระพริบตาหนึ่งครั้งก่อนจะเสสายตามาที่ผ้าขนหนูในมือของเขา

    แกง...พี่ขอโทษนะครับ... เอ่ยขอโทษเสร็จ ฮั่นก็ค่อย ๆ เขยิบกายเข้าไปใกล้คนที่ยกสองมือขึ้นกอดอก

    มือหนาเลื่อนไปไล่เช็ดตั้งแต่หน้าผากไล่ไปตามสองแก้มขาวที่บัดนี้ขึ้นสีแดงจัด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพิษไข้หรือว่าความเขิน...จากนั้นมือหนาก็ไล่เช็ดต่ำลงมาจากปลายคางเรื่อยไปตามลำคอขาวแล้วหยุดลงที่แผงอก...

    ฟุ่บ!

    ฮั่นโยนผ้าขนหนูผืนเล็ก ก่อนจะหันหลังให้กับร่างขาวตรงหน้าทันที

    พะ พี่ฮั่น...พี่เป็นอะไรครับ ทำไมไม่เช็ดต่อล่ะ แกงส้มถามทันทีที่เห็นการกระทำของคนเป็นพี่

    ...

    ความเงียบที่มาแทนคำตอบ ทำให้คนถามยิ่งรู้สึกแปลกใจ มือบางรีบเอื้อมไปดึงไหล่หนาของคนที่นั่งหันหลังให้หันมาเผชิญหน้ากันทันที

    แล้วใบหน้าคมที่ขึ้นสีแดงก่ำ บวกกับอาการเม้มริมฝีปากแน่นของคนตรงหน้าก็ทำให้แกงส้มถึงกับบางอ้อ

    ที่แท้...พี่ฮั่นก็ เขิน เขานี่เอง!

    พี่เช็ดตัวให้แกงต่อไม่ได้แล้ว แกงเช็ดตัวต่อเองนะครับ เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอก... พูดจบ คนพูดก็ลูกขึ้นยืนยืดตัวเต็มความสูง แต่ยังไม่ทันได้เดินไปอย่างที่ใจต้องการ มือบางก็คว้าข้อมือของเขาไว้ เมื่อเขาหันมาก็เจอกับใบหน้าหวานที่กำลังส่งสายตาอ้อน

    ไม่ไปไม่ได้หรอครับ ผมเช็ดตัวเองก็ได้ แต่พี่ฮั่นนั่งอยู่กับผมนะ...น้า...

    อึก...

    ฮั่นถึงกับต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาตบเบา ๆ ที่อกด้านซ้ายของตัวเอง พลางกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อขับไล่อาการเหมือนลมจะขึ้น เพราะเลือดสูบฉีดบนใบหน้าเกินอัตราที่ควรจะเป็น

    แกงเอ๊ย...แกงจะรู้ตัวไหมนะว่าทำแบบนี้มัน อันตราย กับตัวเองแค่ไหน...

    นะพี่ฮั่น...ผมป่วยอยู่นะครับ พี่ไม่คิดจะตามใจคนป่วยอย่างผมหรอ...” ถามพลางทำแก้มป่อง อากัปกิริยานี้ยิ่งเรียกใบหน้าคมให้แดงมากยิ่งขึ้น

    เอาเข้าไป...ยั่ว กันเข้าไป...

    พูดตรง ๆ นะแกง...พี่ไม่อาจทนดูแกงอยู่ในสภาพนี้ได้...

    ทำไมครับ...สภาพผมตอนนี้มันดูไม่ได้เลยหรอ แกงส้มไม่ถามเปล่า แต่ยังก้มหน้ามองแผ่นอกของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูงที่ยืนมองเขาไปกลืนน้ำลายไป

    พี่ฮั่นเป็นอะไรเนี่ย...แค่เขินถึงกับอยู่ร่วมห้องกันไม่ได้เลยหรือไงนะ...?

    มันไม่ใช่ดูไม่ได้แกง แต่มันดูแล้วชวนให้จิตคิดไม่ดีครับ ฮั่นตอบตรง ๆ ก่อนจะเบนสายตาหนีภาพตรงหน้า

    จิตคิดไม่ดี...หมายความว่าไงครับ

    นี่แกงแกล้งแบ๊วไม่รู้เรื่องจริง ๆ หรือว่าแกงคิดจะแกล้งพี่กันแน่ครับ เมื่อได้ยินคำพูดประโยคเมื่อกี้ของคนเป็นน้อง ฮั่นก็หันมาถามคนที่ยังจับข้อมือเขาทันที

    ถ้าแกงแกล้งเขานะ...เขาจัดหนักคนป่วยแน่...

    แต่ถ้าไม่ได้แกล้ง...เขาก็คงรู้สึกไม่ดี...เพราะน้อง ใสซื่อ เกินไปจนทำให้คนที่กำลังคิดอะไรไปไกลอย่างเขารู้สึกผิดกับความคิดของตัวเอง

    ผมจะแกล้งพี่ทำไมล่ะครับ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ ว่าแต่...พี่กำลังคิดอะไรอยู่ครับ บอกผมได้ไหม... คำถามที่มาพร้อมกับใบหน้าหวานที่เลื่อนมาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนทำให้คนที่กำลังคิดไปไกลยิ่งคิดไปไกลหนักเข้าไปอีก แต่ก่อนที่ใบหน้าของคนสองคนจะสัมผัสกัน ฮั่นก็ผลักใบหน้าหวานของแกงส้ม แล้วปลดมือออกจากพันธนาการของคนที่ลงไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิม พลางวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

    ปัง!

    เสียงประตูที่กระแทกปิด เรียกร่างโปร่งบางที่นั่งอยู่บนเตียงให้วิ่งตามไปเคาะประตูห้องน้ำ

    ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ

    พี่ฮั่น...พี่ฮั่น...พี่เป็นอะไรเนี่ย...

    แกง...พี่ให้เวลา 10 นาที เช็ดตัวให้เสร็จก่อนที่พี่จะออกไป ไม่งั้นพี่จะโกรธแกงครับ เสียงเข้มหนักแน่นที่ดังลอดมาจากห้องน้ำ ทำให้คิ้วสวยขมวดมุ่น

    ถ้าพี่ไม่บอกว่าพี่เป็นอะไร ผมจะไม่ทำตามที่พี่พูดครับ คำพูดที่หนักแน่นไม่แพ้กัน ทำให้ร่างสูงที่กำลังวักน้ำใส่ใบหน้าต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ

    แกงเอ๊ยแกง...

    แกงฟังพี่ให้ดี ๆ นะ...ที่พี่ไม่สามารถอยู่ร่วมห้องกับแกงได้ เพราะพอพี่เห็นแกงพี่ก็คิดอะไรที่มัน...อกุศล กับแกงครับ...แกงรู้ไหมว่าการที่คนรักกันสองคนอยู่ภายในห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน แล้วแกงก็อยู่ในสภาพนั้น...มันชวนให้คิดอยากจะทำอะไรมากแค่ไหน บรรยากาศที่เป็นใจบวกกับความรู้สึกต้องการของร่างกายอาจทำให้พี่เผลอทำอะไรแกงลงไป...ซึ่งพี่ไม่อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนั้น เพราะพี่ รักแกง พี่อยาก ทะนุถนอมแกงให้เราพร้อมกันมากกว่านี้...แกงเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ...

    คนที่กำลังยกมือเคาะประตู หยุดการกระทำของตัวเองทันทีที่ได้ยินคำพูดที่ดังมาจากภายในห้องน้ำ

    นี่พี่ฮั่น...แสนดี ขนาดนี้เลยหรอ...

    อ๊าก...เขาเลือกรักคนไม่ผิดจริง ๆ

    จะมีคนสักกี่คนที่พูดว่าอยากจะทะนุถนอมคนที่ตัวเองรักในสถานการณ์ที่ล่อแหลมและเป็นใจขนาดนี้

    จะมีสักกี่คน...

    โธ่พี่ฮั่น...แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ถ้างั้น...ไม่เกิน 15 นาทีพี่ก็ออกมาได้แล้วครับ เดี๋ยวผมจะรีบเช็ดตัวให้เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเลย พูดจบ คนพูดก็หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปที่เตียง แต่...

    ขอโทษนะครับแกงที่พี่เช็ดตัวให้แกงต่อไม่ได้...

    ผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่ ที่ทำให้พี่ต้องพาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องน้ำแบบนั้น...แล้วก็ขอบคุณนะครับ...ที่พี่เป็นคนรักที่แสนดีแบบนี้ ผมรักคนไม่ผิดจริง ๆ ครับ แล้วรอยยิ้มก็ระบายเต็มดวงหน้าหวาน

    ส่วนคนที่ยืนพิงประตูห้องน้ำอยู่ก็ยกยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของคนเป็นน้อง

    พี่ก็ไม่ได้เป็นคนรักที่แสนดีแบบนั้นหรอกแกง...

    แต่พี่แค่อยากทะนุถนอมคนที่พี่รักให้ถึง วันของเราต่างหาก

    วันของเรา...ที่พี่เชื่อว่ามันคือ วันที่แสนพิเศษ...

     

     

     

     

    พี่ฮั่นครับ...

    หืม...ว่าไงครับแกง ฮั่นเงยหน้าขึ้นจากหนังสือตำราอาหารตรงหน้า พลางมองไปยังร่างที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาบนเตียง

    ผมนอนไม่หลับอ่ะ

    กินยาไปแล้ว เดี๋ยวยาก็คงออกฤทธิ์ครับ

    เล่านิทานให้ผมฟังหน่อยสิครับ แกงส้มว่าพลางลืมตามองคนที่เอาหนังสือไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง

    พี่เล่านิทานไม่เก่งครับ เก่งแต่ทำอาหาร ฮั่นตอบก่อนจะลุกจากเก้าอี้มานั่งที่เตียง

    แต่พี่ก็แต่งนิทานได้นี่นา...เล่าเถอะครับ...นะ ๆ ๆ เสียงอ้อนมาพร้อมกับใบหน้าหวานที่เลื่อนจากหมอนหนุนใบโตมาวางบนต้นขาแน่นของคนที่นั่งยืดขา

    ฮั่นค่อย ๆ เขยิบเข้าไปนั่งบริเวณกลางเตียงพลางพิงหลังไปกับหัวเตียง ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นไปลูบผมของคนที่นอนหนุนตักเขาอยู่

    อืม...เปลี่ยนจากเล่านิทานเป็นร้องเพลงให้ฟังได้ไหมครับ ฮั่นเอ่ยต่อรอง

    ก็ได้ครับ...เอาเพลงหวาน ๆ นะ...ผมชอบบริโภคของหวาน...

    ไม่รู้ว่าเพลงนี้จะหวานไหม แต่มันเป็นเพลงที่พี่เขียนเองครับ...แกงตั้งใจฟังดี ๆ นะ...

    พูดจบ ฮั่นก็กระแอมออกมา ก่อนที่เขาจะเริ่มร้องเพลงที่เขาแต่ง...ตอนที่เขารู้ว่าตัวเองอาจจะต้องตาบอด...

     

     

    ...ในทุกวันที่ฉันยังคงลืมตา...เพื่อมองฟ้าที่สดใส

    ฉันยังมีใครที่ทำให้หัวใจรู้สึกดี

    ทุกความผูกพัน ทุกความรู้สึกที่มี

    อยากบอกว่าฉันคนนี้...ดีใจที่มีเธอ

     

    เธออาจไม่รู้ว่าเธอสำคัญ...สำหรับฉันแค่ไหน

    เธออาจไม่เข้าใจ...ว่าทำไมฉันถึงยังอยู่ตรงนี้

    เธออาจไม่เห็น...ความรักที่ฉันมีเพื่อเธอนะคนดี

    แต่เธอจะสัมผัสได้หลังจากฟังเพลงนี้...

     

     

    ก็เพราะทุกการลืมตา...คือการมองภาพหน้าเธอ

    อาจไม่รู้ว่าเธอต้องการมองฉันเหมือนกันหรือไม่

    แต่ฉันอยากมองแต่เธอ...คนเดียวเสมอไป

    เพราะภาพเธอคือภาพที่อยู่ในหัวใจ...ตลอดเวลา

     

     

    หากวันพรุ่งนี้ฉันไม่ได้เห็นเธอ

    ฉันก็ยังรู้เสมอว่าเธอยังอยู่ตรงนี้

    เพราะทุกความรู้สึกในหัวใจฉายชัดถึงความทรงจำที่ดี

    ที่ฉันนั้นมีเธออยู่ทุกวัน...ที่ฉันยังคงหายใจ...

     

     

     

    เมื่อร้องเพลงนี้จบ คนร้องก็พบว่าคนฟังกำลังยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง เสียงสะอื้นเบา ๆ ที่ดังลอดออกมาจากฝ่ามือนั้น เรียกมือหนาให้ดึงร่างของคนที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมา

    แกง...เป็นอะไรไปครับ เพลงพี่มันห่วยมากจนแกงฟังแล้วร้องไห้เลยหรอ... ฮั่นถาม พลางดึงมือที่ปิดใบหน้าหวานออก แล้วเขาก็ค่อย ๆ ใช้นิ้วโป้งไล่เช็ดน้ำตาที่รินไหลจากดวงตาคู่สวย

    ฮึก...มันไม่ได้ห่วยเลยสักนิดพี่ฮั่น...แต่มันเพราะมาก...ฮึก...เพราะมากจนทำให้ผมต้องร้องไห้แบบนี้ ฮือ... แล้วคนพูดก็ร้องไห้ออกมาอีกชุดใหญ่ ฮั่นเห็นดังนั้นก็ดึงร่างบางตรงหน้าให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พลางลูบเรือนผมนุ่มแล้วเอ่ยปลอบประโลม

    โอ๋ ๆ ๆ ๆ ไม่ร้องนะครับแกงคนดีของพี่...อะไรกัน...เป็นคนป่วยแล้วขี้แยหรอครับ ไม่ร้องนะ...ยิ่งร้องเดี๋ยวก็ยิ่งหายใจไม่ออกหรอก เลิกร้องนะครับ...

    ผมรักพี่นะพี่ฮั่น... เสียงอู้อี้ที่พูดออกมา ทำให้คนกอดต้องยกยิ้ม แล้วดันใบหน้าหวานที่ซุกอยู่ที่อกให้เงยขึ้นสบตากับเขา

    พี่ก็รักแกงครับ... บอกรักจบ ฮั่นก็เลื่อนริมฝีปากไปจูบซับน้ำตาที่ปลายหางตาของแกงส้ม แล้วเลื่อนมาที่แก้มขาว ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากสวย

    สัมผัสอ้อยอิ่งที่ไม่เรียกร้องรุกเร้าแต่คล้ายจะให้ความรู้สึกมั่นคงหนักแน่นว่าเขาจะไม่ไปไหน แต่จะอยู่ตรงนี้ ทำให้แกงส้มยกสองมือขึ้นมาโอบรอบคอร่างสูงแล้วสัมผัสตอบด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน

    คนสองคนปล่อยให้ความรู้สึกเป็นตัวนำพาให้สัมผัสของพวกเขาลอยละล่องไปกับความรู้สึกที่ดี ความอบอุ่นจากร่างกายที่แนบชิดทำให้อากาศเย็นชื้นที่เกิดจากฝนที่สาดซัดภายนอกไม่สามารถทำให้ร่างสองร่างรู้สึกเหน็บหนาว...

     

     

     

    คราวนี้นอนหลับจริง ๆ แล้วนะครับ ฮั่นว่าก่อนจะขยับแขนให้คนที่นอนหนุนได้นอนถนัดมากขึ้น

    ครับพี่ฮั่น...หลับจริง ๆ แล้ว พูดจบ คนที่นอนหนุนแขนหนาก็หลับตาเป็นเชิงบอกให้คนที่มองเขาอยู่ ได้รับรู้ว่าเขากำลังจะหลับจริง ๆ

    ถ้างั้นก็ฝันดีนะครับ แกงของพี่...

    ครับ...ฝันดีฮะพี่หมีของผม...

    แล้วคนสองคนก็หลับไปพร้อมกับความสุขที่ลอยวนในหัวใจ

    แม้บรรยากาศของราตรีนี้จะเป็นใจให้ชวนมีอะไร...

    แต่สุดท้ายแล้ว...

    แค่เพียงการนอนหลับไปพร้อม ๆ กันด้วยความรู้สึกที่ดี...

    แค่เพียงเท่านี้....

    ก็เพียงพอแล้ว...

     

     

     

    อืม... เสียงหวานที่ดังลอดออกมาจากใต้ผ้าห่ม เรียกคนที่ยกข้าวต้มมาวางบนโต๊ะข้างเตียงให้ก้าวเร็ว ๆ ไปหาร่างนั้น

    ตื่นพอดีเลยแกง ลุกขึ้นมาให้พี่ดูหน่อยสิครับ ว่าไข้ลดหรือยัง ฮั่นว่าพลางเลิกผ้าห่มหนาให้เปิดออก ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดนอนลายสนูปปี้มีรอยเปียกชื้นจากเหงื่อ ใบหน้าหวานที่บัดนี้เริ่มมีสีขาวนวลปกติ ทำให้คนมองต้องยิ้มออกมา ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปอังบริเวณหน้าผากมน

    อืม...ไข้ไม่มีแล้ว เดี๋ยวแกงไปแปรงฟันแล้วมาทานข้าวต้มร้อน ๆ นะครับ วันนี้พี่ต้มข้าวต้มไก่ เพราะแกงจะได้ไม่ต้องเคี้ยวมาก

    อ่าครับ งั้นผมไปแปรงฟันก่อนนะครับ แล้วคนเพิ่งหายไข้ ก็ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ฮั่นมองตามก่อนที่เขาจะเริ่มพับผ้าห่มบนเตียง พลางลุกเดินไปเปิดผ้าม่านและประตูระเบียง รับสายลมเย็นจากยามเช้าที่อากาศสดใสเนื่องจากเมื่อคืนฝนตกทั้งคืน

    ลมเย็นจังเลย

    เฮ้ย! นี่แกงไปแปรงฟันหรือไปเอาฟันวิ่งผ่านยาสีฟันกันแน่เนี่ย ทำไมเร็วจัง เมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งเข้าห้องน้ำไปไม่ถึงห้านาที มายืนอยู่ข้างตัว ร่างสูงก็ถามก็ออกไปอย่างนึกแปลกใจทันที

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ก็ผมไม่ได้อาบน้ำนี่นา ก็เร็วสิครับ ว่าแต่...พี่เอาข้าวต้มมาป้อนผมตรงระเบียงได้ไหมอ่ะ ลมเย็นดี ผมอยากกินข้าวตรงนี้ แกงส้มว่าก่อนจะเดินไปยืนที่ริมระเบียง สองแขนผายออกข้างตัว แล้วสูดอากาศเย็นเข้าไปเต็มปอด

    แม้อากาศจะไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่ แต่การได้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ในยามเช้าที่อากาศดีแบบนี้...

    มันก็โอเคอยู่นะ...

    มาแล้วครับ ข้าวต้มร้อน ๆ สำหรับคนป่วยคำพูดที่มาพร้อมกับช้อนที่ตักข้าวต้มทำให้คนที่ยืนมองต้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความซาบซึ้งใจ

    ขอบคุณนะครับพี่ฮั่น ที่ดูแลผมดีขนาดนี้...

    ขอบคุณทำไมครับ แกงเป็นแฟนพี่นะ...ถ้าพี่ไม่ดูแลแฟนพี่ แล้วพี่จะไปดูแลใครล่ะครับ เอ้า...อ้าปาก

    เมื่องับข้าวต้มเข้าปาก ความอุ่นจากข้าวที่ไหลซึมลงคอ ทำให้คนกินรับรู้ได้ถึงความใส่ใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อยของผู้ชายที่ยืนถือชามข้าวต้มตรงหน้า

    พี่ฮั่นเป่าให้เขาก่อนที่จะให้เขากิน...

    อีกคำนะครับ...”

    แล้วเช้าที่แสนสดใสก็เต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

    บางทีก็อยากป่วยทุกวันนะ...เพราะเขาจะได้ อ้อน พี่ฮั่นแบบนี้...ทุกวัน...

     

     

     

     



     

     

     

    การดูแลใส่ใจในคนที่รัก...อาจไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่เหมือนกับคนอื่น

    ไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ใหญ่โต...ไม่จำเป็นเลยสักนิด

    แค่เพียงดูแลกันในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

    แค่เพียงเท่านั้น...หัวใจของคนที่รักก็สามารถซึบซับและสัมผัสได้ถึงการดูแลใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้

    เพราะสำหรับคนที่รักกันแล้ว...ย่อมสัมผัสได้ถึงทุกความรู้สึกและทุกการกระทำที่มีให้แก่กัน

     

     

     

     




     

     

     

     

     

    //วันนี้มาดึกอีกแล้วจ้า...ฮ่า ๆ ๆ ๆ เค้าขอโทษจริง ๆ น้า...สำหรับคนที่รอ...ไม่ได้ตั้งใจจะเกเรแบบนี้จริง ๆ แต่พอดีเค้าไปศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการรวมเล่มฟิคมาอ่ะค่ะ ก็เลยมาปั่นเสร็จช้าไปนิด

    ขอโทษจริง ๆ นะคะ

    มาเวิ่นเรื่องฟิคตอนนี้ต่อ...โว๊ะ ๆ ๆ ๆ โว้...แกงช่างขี้อ้อนจริง ๆ เลยเนอะ...หวานเบา ๆ อีกแล้วค่าตอนนี้ ฮ่า ๆ ๆ ๆ หวังว่าคนอ่านจะยังไม่สำลักความหวานจนหัวใจจะวายหามส่งเข้าโรงพยาบาลก่อนนะคะ ><

    เนื้อเพลงที่เห็นในตอนนี้...คิดเอง แต่งเอง เขียนเอง อีกแล้วค่ะ ฮ่ะ ๆ ๆ ถ้ามันดูขัด ๆ แปลก ๆ ยังไงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้จริง ๆ ค่ะ...

    ติดตามกันต่อไปนะคะ...ว่าตอนต่อไปจะเป็นเยี่ยงไร อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วเนอะ

    ก็อยากจะบอกว่า...คราวนี้กวางคงจะหายไปจริง ๆ  4 วันนะคะ...คือวันที่ 15-18 ค่ะ

    กวางมีสอบติด ๆ กันเลย...เพราะฉะนั้นคงไม่ได้มาเปิดคอมส์และคงไม่ได้อัพฟิคนะคะ

    แต่ก็สามารถไปฝากความคิดถึงกันได้ที่ทวิตเตอร์ หรือว่าจะทางฟิคนี้ก็ได้น้า...แบบว่าเปิดมาแล้วไม่เห็นอัพจะมาทวง ๆ ๆ กันก็ได้นะคะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

    คิดถึงกวางด้วยเด้อเมื่อไม่เจอกัน...รักคนอ่านทุกคนค่ะ จุ๊บๆ ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×