ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { sf | os } NCT - #taeten #jaedo #johnil

    ลำดับตอนที่ #9 : { JaeDo } He smiled before reading

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 59


    เราเจอกันครั้งแรกตอนไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง

     

    บนลิฟต์ที่มีคนแน่นจนแทบจะสิงร่างกัน

     

    "ระวังหน่อยสิ" เด็กชายในชุดนักเรียน ม.ปลาย กางเกงสีกรมยืนหน้ามุ่ยอยู่ในมุมลึกที่สุดของลิฟต์ เขาโดนคนเบียดมาจนจะกลายเป็นกล้วยทับอยู่แล้ว

     

    นี้เอาน้ำเชื่อม เอานมมาราด จิ้มกินเลยก็ได้นะ

     

    "โทษๆ"

     

     

     

     

     

    อือหือ

     

     

     

     

     

    กลิ่นปาก

     

     

     

     

     

     

    โดยองจะเป็นลม ผู้ชายที่เบียดเขาเข้ามานี้ สารรูปหน้าตาก็ดี โรงเรียนก็ดี (ดูจากชื่อย่อ) แต่กลิ่นปากชิบหายมาก ออกมาลืมแปรงฟันเหรอว่ะ หรือยังไง กินขี้มางี้? รับไม่ได้

     

    โดยองย่นคิ้วอย่างไม่ปัดบัง อีกคนก็เหมือนจะรู้ตัว เลยยิ้มแห้งๆส่งไปให้

     

    ภาวนาให้ถึงที่หมายเร็วๆ บอกเลย อึดอัด แย่งอากาศ แล้วยังมาเจอคนปากเหม็น ถ้าสมมติสอบสัมภาษณ์ติดแล้วต้องมาเจอหน้ามันนี้บอกเลยว่ารับไม่ได้ ยอมสละสิทธิ์ไปเอารอบแอดดีกว่า

     

     

     

     

     

     

    ชั้น 6

     

     

    เสียงลิฟต์ดังขึ้น โดยองรีบกุลีกุจอแทรกผ่านทุกคน จนเหมือนวิญญาณเดินทะลุร่างเพื่อออกจากลิฟต์

     

    "เฮ้อ อิเหี้ย" โดยองพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาทำตัวเองให้สดชื่นก่อนจะไปรอหน้าห้องสอบสัมภาษณ์

     

    จังหวะที่โดยองสาดน้ำใส่หน้าตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆก็เจอไอ่เหี้ยปากเหม็นยืนแปรงฟันอยู่ข้างๆ

     

     

     

     

     

    นี่มึงลืมแปรงฟันมาจากบ้านจริงดิ

     

     

     

     

     

    "พอดีเมื่อเช้าตื่นสายอ่ะ แหะๆ"

     

     

     

    โดยองคว่ำปากมองอย่างนึกรังเกียจ แล้วยิ้มให้ทั้งๆที่กำลังย่นคิ้ว แล้วก็เดินเลี่ยงออกไปข้างนอกทันที

     

     

     

     

     

    หวังว่าจะไม่เจอกันอีก ไม่ทางใดก็ทางใดเหอะ รับไม่ได้จริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แต่ใครจะคิดวะ

     

     

     

     

     

     

    ว่าจะได้มันมาเป็นแฟน

     

     

     

    ///////////////////

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ครืดดดดดด

     

    เสียงลากเครื่องปรับอากาศตั้งพื้นเข้าไปยังห้องพักขนาดเล็กสำหรับ 4 คน ตามมาด้วยอีกคนที่เดินหอบกระบอกแท่งยาว เรียกเอา 2 คนที่อยู่ในห้องก่อนอยู่แล้วต้องหยุดกิจกรรมที่กำอยู่ต้องหันไปมอง

     

    "มึงเอาแอร์มาไม่ปรึกษาพวกกูสักนิ๊ด?"มาร์คเอ่ยถามเมทที่กลับบ้านไปเมื่อ 2 วันก่อน แล้วมันก็กลับมาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ ยอมรับว่าอากาศมันร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว มีแอร์พื้นสักตัวก็คงเอาห้องเล็กๆนี้อยู่ แต่กับค่าไฟที่ต้องจ่ายเสียทุกเดือนนั้น ทำเอาขำไม่ค่อยออก

     

    "ก็กูร้อน" โดยองวางกระบอกแท่งยาวลงบนพื้นแล้วนั่งลงบนเตียงของคนที่กำลังติดตั้งแอร์ไว้ตรงมุมห้อง เพื่อต่อท่ออากาศและท่อน้ำออกไปภายนอก

     

    "เออออออออ เอาใจกันเข้าไปสาสสสสส" มาร์คกรอกตามองบนอย่างนึกรำคาญ แน่นอนว่าคุณชายจองแจมันต้องเอาใจแฟน กลับบ้านไปครั้งนี้คงไปเดินเลือกแอร์มาติดห้อง จะได้นอนกกกันเย็นๆ

     

    เพราะบางคืนที่พวกมันทำงานเสร็จเวลาไล่ๆกัน มันก็นอนกอดกันอยู่บนเตียงชั้นล่างของแจฮยอน เห็นแล้วร้อนแทน เตียงก็เล็ก นอนเบียดกันเข้าไป อากาศก็ร้อนอีก พัดลมตัวเดียวเรื่องอะไรจะเอาอยู่

     

     

     

    ตือดึง

     

     

     

    เสียงแจ้งเตือนแชทเฟซดังขึ้นจากโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงของคนที่กำลังเดินสายแอร์ แจฮยอนยิ้มขึ้นมาเปิดอ่านแล้วก็ต้องยิ้ม หัวเราะออกมาเบาๆ

     

    "ไม่เป็นไร" แจฮยอนพูดเสียงไม่ดังมาก แต่ได้ยินไปทั้งห้อง น้ำเสียงเจือไปด้วยความอบอุ่นจนคนฟังหน้าแดง ในขณะที่เมทอีก 2 คนงงเป็นไก่ตาแตกว่ามันเป็นอะไรของมัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ครั้งแรกที่แจฮยอนกับโดยองเจอกัน อาจจะไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก เพราะว่าวันนั้นมีสอบสัมภาษณ์ที่มหาลัยชื่อดังในกรุงเทพ แล้ววันนั้นแจฮยอนดันตื่นสาย รีบวิ่งผ่านน้ำคว้าเอาแปรงสีฟันใส่กระเป๋าแล้วรีบออกจากบ้านทันที เพราะกลัวไปสอบไม่ทัน

     

    พยายามไม่พูดไม่หือไม่อือกับใครแล้วนะ แต่พอเข้าไปในลิฟต์ที่คนเบียดเสียดกันขนาดเผลอเซไปชนคนหน้าหวานเข้าก็อดขอโทษไม่ได้ ใบหน้าของโดยองตอนนั้นบ่งบอกเลยว่ากำลังด่าเขาในใจ ทำให้คนตื่นสายยิ้มแห้งอย่างนึกผิด แต่ก็คิดว่าไม่พูดดีกว่า พอลิฟต์ถึงชั้นที่ต้องไปรอสอบสัมภาษณ์คนตัวเล็กกว่าก็รีบแทรกตัวออกจากลิฟต์จนคนอื่นๆที่โดนเบียดส่งเสียงจิ๊จ๊ะ แต่ก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร

     

    แจฮยอนไม่ได้ตั้งใจจะตามไปหรอก เขาแค่อยากรีบหาห้องน้ำแปรงฟันเท่านั้นเอง แต่ใครจะคิดว่าจะเจอโดยองทำสีหน้าเอือมสุดๆอยู่ใกล้ๆละ

     

    "พอดีเมื่อเช้าตื่นสายอ่ะ แหะๆ"

     

    คนตัวเล็กกว่าขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำไป ทิ้งให้เขายืนแปรงฟันขำๆไปคนเดียว

     

     

    เมื่อผลสอบสัมภาษณ์ประกาศออกมาว่าแจฮยอนไม่ผ่าน ก็ไม่เป็นไร รอไปรอบแอดก็ไม่เสียหาย เพราะสุดท้ายถ้าไม่ได้จริงๆก็คงเข้าเอกชนสักที่แหล่ะ

     

     

     

    แต่ใครจะคิดละว่าจะบังเอิญเจอคิม โดยอง ในแชทไลน์ของคนที่สอบติดรอบแอดเหมือนกัน

     

    เขาจำได้ในทันที คนที่ดวงตากลมโต เหมือนกระต่ายตัวเล็ก กำลังหงุดหงิดให้เขาอยู่นั้น แม้ในตอนแรกจะไม่ได้นึกติดใจอะไร แต่พอได้เจอกันอีกก็อดคิดไม่ได้จริงๆ

     

    อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น

     

     

     

    M.lee

    [ไปสอบสัมคราวนี้ต้องเอาไรไปมั้ง]

     

     

    เพื่อนคนนึงในกลุ่มที่ตอนนี้มีสมาชิกกว่า 30 คนแล้วเปิดประเด็นเรื่องสอบสัมภาษณ์หลังจากที่พวกเขาพูดคุยแนะนำตัวกันไปบ้างแล้ว

     

     

     

    Dongyoung

    [ตรวจร่างกาย ใบโอเน็ต คะแนนแกทแพท ทะเบียนบ้าน]

    [นึกออกแค่นี้]

     

     

     

    คนที่เป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำให้เพื่อนก็ตอบกลับอย่างไม่รีรอ

     

     

     

    J

    [ใส่ชุดอะไรไปเหรอ]

     

     

    ก็รู้อยู่หรอกว่าต้องใส่ชุดนักศึกษา แจฮยอนเป็นคนรอบคอบและอ่านรายละเอียดทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่เขาแค่อยากชวนโดยองคุยเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าคนนั้นจะจำได้หรือเปล่า

     

     

    Dongyoung

    [ชุดนักศึกษา ผู้หญิงกระโปรงพลีทกรม ผู้ชายก็กางเกงดำธรรมดา บลาๆๆๆๆ]

     

     

    M.lee

    [ไปตรวจสุขภาพที่ไหนกัน]

     

    Dongyoung

    [ว่าจะไป รพ.xx อ่ะ]

     

     

    J

    [ไปด้วยดิ]

     

     

    M.lee

    [เฮ้ย ไปด้วยๆ]

     

     

    Dongyoung

    [เอาดิ]

    [วันไหนดี]

     

     

     

    นัดแนะวันกันเรียบร้อย ในคราแรกจะชวนแทยง เพื่อนอีกคนที่คุยถูกคอกันดีไปด้วย แต่รายนั้นบอกไม่ว่าง เลยต้องไปกัน 3 คน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตือดึง

     

     

    เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูว่ามาจากห้องแชทไหน และใครเป็นคนส่งมาก็เรียกรอยยิ้มจากคนได้รับสารไม่น้อย

     

     

    Dongyoung

    [อยู่ไหนกันแล้ว??]

     

     

    โดยองส่งไลน์มาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนว่าใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่มาร์คบอกพึ่งออกจากบ้าน ในขณะที่แจฮยอน.. เขาก็ถึงแล้วแต่กำลังลำไยนั่งอยู่ในร้านกาแฟใกล้ๆโรงพยาบาลอยู่ และคนขี้เกียจรอเลยทักมาถามอีก

     

    J

    [อยู่ร้าน xx อ่ะ]

    [ต้องเดินไปทางไหนอีกเหรอ]

     

     

    แกล้งโง่ไปงั้น แค่อยากให้เขาเดินมาหา แล้วคนที่รับหน้าที่จัดแจงทุกอย่างก็อาสาว่าจะเดินมารับเพราะร้านที่ว่าอยู่ไม่ไกล ซึ่งมันเข้าทางคุณชายเขาทีเดียวละ อยากรู้ว่าถ้าโดยองเจอหน้าเขาแล้วเจ้าตัวจะจำได้ไหม ถ้าจำได้ แล้วจะทำหน้าแบบไหน

     

     

    ตือดึง

     

    เสียงแชทไลน์ดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นแชทแยกที่โดยองทักมา แจฮยอนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่เมื่อเห็นอีกคนเดินมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

     

    Dongyoung

    [นายอยู่ตรงไหน]

     

    J

    [เข้ามาในร้านเลย]

    [กำลังสั่งกาแฟอยู่]

     

     

     

    แล้วรอยยิ้มก็กว้างขึ้นอีก เมื่อโดยองผลักประตูเข้ามาแล้วหันมาเจอแจฮยอนนั่งอยู่มุมหนึ่งของร้านและกำลังมองมาอยู่

     

    แน่นอนว่าในตอนแรกจำไม่ได้ แต่พอมองดีๆแล้วมันคุ้นๆ

     

    คุ้นจนนึกออก

     

     

     

     

    "นายเองเหรอ????" คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนในเอกที่นัดมาเจอกันวันนี้จะใช่คนเดียวกับไอ้ปากเหม็นลืมแปรงฟันมาจากบ้านบนลิฟต์ตัวนั้น แล้วยิ่งคนตัวหมียิ้มกว้างแล้วพยักหน้าขึ้นลงราวกับรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรยิ่งทำให้โดยองแทบพูดไม่ออก

     

    "5555555555555555555555"

     

    "หัวเราะอะไร!!" ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามแรงๆ มันไม่ขำเลยสักนิด คือยังไงอ่ะ รู้อยู่แล้วแต่ไม่บอก? คือจะแกล้งกันเหรอ หรือยังไงอ่ะ งง พูดไม่ออก ยังมึนอยู่

     

    "ก็หน้านายตลกดี"

     

    "ไม่ขำมะ"

     

    "โทษๆ วันนี้ฉันไม่ลืมแปรงฟันมาแล้วนะ"

     

    "เออดี มันใช่เรื่องปะจะลืมแปรงฟันอ่ะ"

     

    "ก็มันตื่นสายจริงๆนี้"

     

    แจฮยอนรู้สึกดีขึ้นมาเมื่อโดยองไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจหรือเว้นระยะห่างอะไร เจ้าตัวกับรัวๆๆๆ ใส่เขาจนแทบตอบคำถามไม่ทัน

     

    "ไม่คิดว่าจะจำได้" แจฮยอนพูดออกไปตามที่คิด เพราะช่วงเวลาที่พวกเขาเจอกัน แม้จะมีเหตุการณ์ไม่น่าจดจำและมันก็เป็นแค่ช่วงเวลาแป๊บเดียวจริงๆ แล้วก็นานมากแล้วด้วย ถ้านับจริงๆก็หลายเดือนเลยละ หากจะลืมกันไปก็ไม่น่าแปลก แต่โดยองกลับจำได้แม้ในคราวแรกเหมือนจะไม่มั่นใจเท่าไรก็เถอะ

     

    "ตอนแรกก็จำหน้าไม่ได้ แต่เห็นนายยิ้มแบบนั้นแล้วจำได้ทันที" รอยยิ้มบ้าๆของคนบ้าๆ ทำให้โดยองจำได้ในทันที แจฮยอนในตอนที่คุยกันในกลุ่มไลน์ก็ออกจะเป็นคนดูมีการศึกษา จบจากโรงเรียนดัง พูดจารู้เรื่อง มีเหตุผล แต่พอนึกไปถึงตอนแรกที่เจอกัน มันช่างสวนทางกันจนไม่คิดว่าจะเป็นคนเดียวกันจริงๆนะ

     

    "ฉันก็ยิ้มทุกครั้งที่คุยกับนายนั้นแหล่ะ" โดยองเลิกคิ้วเมื่ออีกคนพูดจบ

     

    "คือ..?"

     

    "ก็ตั้งแต่เจอกันในลิฟต์ฉันก็ยิ้มให้นายอยู่แล้วนี้" ตามประสาคนยิ้มง่ายของแจฮยอนก็วกกลับไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนมาร์ค ลี ตามมาจนถึง

     

     

     

    "เออละเขาให้เลือกเมทไปเอง 4 คน เราอยู่ด้วยกันเลยไหม" มาร์คเห็นว่าการมาตรวจสุขภาพด้วยกันครั้งนี้พวกเขาดูจะเข้าขากันดี คุยอะไรก็สนุกถูกคอไปหมด

     

    "ก็ได้นะ อีกคนก็ชวนแทยงมาอยู่ด้วย" แล้วโดยองก็พูดถึงเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้มาด้วยในวันนี้ ซึ่งมาร์คก็พยักหน้าหงึกหงักตาม

     

    "ถ่ายรูปกัน"แจฮยอนยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายภาพแล้วส่งเข้าแชทไลน์กลุ่มว่าพวกเขาเจอกันแล้วนะ ให้เพื่อนคนอื่นนึกอิจฉาเล่น เพราะกว่าจะได้เจอกันจริงๆก็ปาเข้าไปอาทิตย์กว่าในวันสอบสัมภาษณ์

     

    "ละกลับยังไงกัน?" แจฮยอนถามก่อนจะอาสาขับรถไปส่ง จริงๆแล้วเขาหัดขับรถมาตั้งแต่อายุ 14 แล้วพอครบ 18 ก็ไปสอบใบขับขี่ไว้เลย แล้ววันนี้ตั้งใจขับรถมาเองด้วย

     

    "โหหหหหห นายนี้มันคุณชายจริงๆเลยนะ จองแจฮยอน" แม้รถที่ขับมาจะเป็นซีดานธรรมดาๆ ที่เจ้าตัวบอกปกติแม่จะใช้ไปตลาด แต่วันนี้ยืมมาก่อน แต่สำหรับบ้านที่มีรถซีดานโง่ๆสำหรับไปตลาดมันก็ไม่น่าจะธรรมดาแล้วนะเอาจริง

     

     

     

     

     

     

     

     

    ความสัมพันธ์ที่ไม่มีขึ้น ไม่มีลง เพราะไม่ได้คิดจะจีบ แต่พอเข้าหอพักไป แล้วมีกิจกรรมรับน้องมากมาย ทั้งคุณชายจองแจยังต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์เพราะแม่คิดถึงอีกนั้น ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาจนได้

     

     

     

     

    มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก

     

     

     

     

    มันเป็นเรื่องราวดีๆต่างหาก

     

     

     

     

     

    เมื่อ

     

     

    แจฮยอนกลับถึงบ้านกางโน้ตบุ๊คเพื่อที่จะทำงานแต่ดันนึกขึ้นได้ว่างานที่ตัวเองทำไว้ก่อนหน้านี้นั้น เซฟไว้ในเครื่องของโดยอง จนต้องรีบทักแชทไปหาอีกฝ่าย บทสนทนาที่มีแต่เรื่องงานสักพักก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นถามไถ่ว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง หรือเจออะไรในแต่ละวันบ้าง

     

    อยู่ๆก็คุยกันยาว ทักมาก็ตอบทันที เว้นช่วงหน่อย ก็เพราะว่าหายไปอยู่กับครอบครัวบ้าง ซึงโดยองก็ไม่ว่าอะไร

     

    แค่อยู่ๆ การพูดคุยมันมากขึ้น บ่อยขึ้น จนกลายเป็นตลอด 2 วันที่แจฮยอนกลับบ้าน กลายเป็นว่าอยู่กับครอบครัวเพียง 30% กับอีก 60% ก็คุยกับโดยองซะงั้น

     

     

     

     

     

    xxDY

    (ไม่รู้ อ จะสั่งงานอะไรนักหนา)

    (เหนื่อยยยยยยยยยยยย)

     

    Jxx

    (บ่นเข้าไป แต่นายก็ต้องทำอยู่ดี)

     

    xxDY

    (เพราะแบบนั้นไงเลยต้องบ่น)

    (เฮ้อออออ)

    (เบื่ออ่า)

     

    Jxx

    (วันนี้จะไปร้านขนมกับแม่)

    (อยากได้อะไรไหม)

     

    xxDY

    (อาววววววววว)

    (อยากกินโดนัท)

    (พรุ่งนี้กลับกี่โมง)

     

    Jxx

    (ก็หลังจากไปร้านขนมกับแม่แหล่ะ อาจจะสักบ่ายๆ)

     

    xxDY

    (ให้ไปรับไหม)

     

    Jxx

    (อืม ก็เอาสิ)

    (มารับแล้วไปหาอะไรกินกันก่อนเข้าห้อง)

     

    xxDY

    (ถึงแล้วโทรมานะ)

     

    Jxx

    (ครับแม่)

     

    xxDY

    (ไม่ใช่แม่สักหน่อย !!!!)

     

    Jxx

    (อ่าว)

    (ไม่ใช่แม่แล้วอยากเป็นอะไรอ่ะ)

     

    xxDY

    (เป็นพ่อมั้ง !!)

    (บ้า)

    (xxDY ส่งรูปภาพให้คุณ)

     

     

     

    รูปของคนที่เซลฟี่ตัวเองยู่ปากอย่างน่ารัก จนแจฮยอนกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ต้องกดเซฟภาพเอาไว้ในโทรศัพท์ จากปกติคนที่นานๆจะถ่ายรูปสักที ตอนนี้เต็มไปด้วยใบหน้าของคนที่ชอบถ่ายเซลฟี่แสดงอารมณ์แปลกๆส่งมาให้เต็มไปหมด

     









    -----------------------------------------------------

    100%

    มาค่ะ เรื่องนี้เป็น side story ของ #คนคุยแทเตนล์ นะยู เป็นคนคุยเวอร์ชั่นแจโด แต่มันละมุนกว่า คู่นั้นหน่วงแบบว่า ยัยแทยงไม่กล้า นางเลยไม่คืบหน้าสักที แต่คู่นี้เค้าผลัดกันอ่อยไปมา แต่งไปแล้วก็เขินไป มันกลมๆฟุ้งๆ ยังไงไม่รู้ งึ้ยยย ตอนแรกเปิดมาเกริ่นๆไว้ก่อน เดี๋ยวจะเล่าตอนจีบกัน ตอนคบกัน ตอนไปเที่ยว แล้วปิดด้วยคู่แทเตนล์ในเรื่องนู่น (ตอนที่ 7) 

    ความเหมือนของเรื่องนี้กับคนคุยคือ พวกเขาเริ่มจีบกันด้วยการแชท เหมือนกัน (แต่ที่แทยงทำมันเรียกจีบไหมอ่ะ 55555) 

    ความแตกต่างของทั้งสองเรื่องคือ ฟีลการจีบ ต่างคนจีบไม่เหมือนกันเนอะ แล้วเรื่องนี้จะเล่าในมุมสลับไปมา ในขณะที่คนคุยเล่าในมุมของแทยงคนเดียว โฮร่ยยยยยย

    ส่วนเนื้อหาหลักๆ ไม่ต้องมองไปไหนไกล แค่ชื่อเรื่องก็รู้แล้วว่ายิ้มก่อนอ่าน เห็นแจ้งเตือนดังพี่แกก็ยิ้มไปก่อนละ แหม่ ความสีชมพูนี้

    ป.ล. สังเกตไหมว่าเขาเปลี่ยนชื่อแชทกัน แหม มี xx ด้วยนะยูววววว โค้ดลับอะไรกับหรอออออออ 


    #ยิ้มก่อนอ่านแจโด


    ขอเม้น ขอโหวต ขอสกรีม สักนิดสักหน่อยเถอะนะคนดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×