The Barefeet Millionaire : ไฮโซรองเท้าแตะ - นิยาย The Barefeet Millionaire : ไฮโซรองเท้าแตะ : Dek-D.com - Writer
×

    The Barefeet Millionaire : ไฮโซรองเท้าแตะ

    เมื่อสาวจากชุมชนแออัด ต้องแปลงกายปลอมเป็นสาวไฮโซเพื่อที่จะไปขุดทองจากเหล่าบรรดาไฮโซหน้าหม้อทั้งหลาย แต่กลับต้องมาตกม้าตายเพราะดันไปเจอเข้ากับหนุ่มไฮโซจอมขรึมและช่างจับผิด เรื่องวุ่นวายทั้งหลายแหล่เลยต

    ผู้เข้าชมรวม

    2,992

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    2.99K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    110
    จำนวนตอน :  44 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  4 ต.ค. 62 / 17:59 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                       แสงแฟลชวูบวาบกระพริบระยิบระยับไม่เป็นจังหวะ เคล้าคลอไปกับเสียงดนตรีอาหรับที่ดังกึกก้องมาจากด้านในของงานสังสรรค์ กลิ่นอายภารตะคละคลุ้งฟุ้งขจายไปทั่วทุกแห่ง ผู้คนบนพรมแดงต่างพยายามกันทุกวิถีทางที่จะทำให้ตนเองได้เป็นจุดสนใจเพื่อเรียกแสงแฟลชจากเหล่าบรรดาช่างภาพน้อยใหญ่ ทุกคนต่างพยายามหาหันมุมที่คิดว่าเป็นมุมที่สวยที่สุดของตนเอง เพื่อที่ช่างภาพจะได้ ๆ ภาพที่ดีที่สุดของตนเองไป

                    เอก้าวเท้าเดินเข้างานอย่างมาดมั่น เธอแสร้งเอามือป้องหน้าเหมือนไม่อยากที่จะถูกถ่ายภาพ เพราะมันคือวิธีที่จะยิ่งทำให้เหล่าบรรดาช่างภาพเหล่านั้นสนใจเธอมากยิ่งขึ้น เอแสร้งพยายามที่จะก้าวเท้าให้เร็วเพื่อที่จะได้เข้างานโดยเร็ว

                    “คุณครับ ๆ ขอถ่ายรูปด้วยครับ” เหล่าช่างภาพตะโกนขึ้น

                    เอหยุดยืนนิ่งครู่หนึ่งพร้อมกับรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แผนได้ผล “ค่ะ ๆ แป๊บเดียวนะคะ”

                    เอหันมาโพสต์ท่ากับช่างภาพอย่างมั่นใจ

                    ‘หนึ่ง... สองเธอนับเวลาในใจ เพราะ 2 วินาทีจะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในการหยุดโพสต์ที่จะยิ่งปั่นหัวเหล่าช่างภาพว่าคุณเป็นคนสำคัญมากยิ่งขึ้น “ขอบคุณค่ะ เข้างานก่อนนะคะ”

                    “เดี๋ยวครับ เดี๋ยวครับ ขออีกรูปได้ไหมครับ” เหล่าช่างภาพพยายามตะโกนเรียกเธอ

                    เธอแสร้งทำท่าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็แอบยิ้มอยู่ในใจ ก่อนหันกลับมาโพสต์อีกครั้งหนึ่ง

                    หนึ่ง... สองเอนับในใจ “ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”

                    “เดี๋ยวสีครับเดี๋ยว เดี๋ยว.....” เหล่าช่างภาพพยายามตะโกนเรียกเธอ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ พร้อมกับแอบยิ้มเล็ก ๆ ราวกับว่าตัวเองเป็นคนสำคัญก่อนเดินเข้างานไปอย่างเชิด ๆ

                    “ว่าแต่... เมื่อกี้ใครวะ” ช่างภาพคนหนึ่งพูดขึ้น

                    “ไม่รู้ว่ะ ลูกไฮโซล่ะมั้ง” ช่างภาพอีกคนหนึ่งตอบ

     

     

                    เอพยายามเดินโปรยเสน่ห์จนทั่วงาน โดยพยายามมองหาพวกที่พยายามอวดรวยด้วยการใส่เครื่องประดับราวกับตู้เพชรตู้ทองเคลื่อนที่ เธอพยายามสงบปากสงบคำและไม่สุงสิงกับใครเพื่อที่จะได้ยืนเด่นอยู่คนเดียว เพราะนั่นจะยิ่งช่วยเปิดทางให้พวกไฮโซผู้ชายจอมกะล่อนเดินเข้ามาติดกับของเธอ นอกจากนี้เธอยังพยายามอยู่ให้ห่างจากกลุ่มผู้หญิงอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเข้ามายืนคุยให้เธอเสียโอกาสแล้ว พวกผู้หญิงจะมีสัมผัสพิเศษที่จะรับรู้ได้ว่าเครื่องประดับของเธอเป็นของปลอม

                    เอเดินชิมอาหารจนทั่วงานอย่างพองาม ก่อนที่จะเดินไปถามบริกร

                    “เอ่อ ขอโทษนะคะ” เอพูดขึ้น

                    “ครับ?” บริกรหนุ่มตอบ

                    “คืออย่าว่าอย่างนี้อย่างนั้นเลยนะคะ” เอพูดต่อ “คืออาหารอร่อยมาก งานนี้ใช้เชฟจากที่ไหนเหรอคะ”

                    “อ๋อ ฝรั่งเศสครับ” บริกรหนุ่มตอบ

                    อะไรวะ อาหารแขก แต่ใช้เชฟฝรั่งเศสเอคิดในใจ “ตายแล้ว ดีจังเลย คืออยากรู้จักเชฟจังเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากจะเชิญเชฟไปช่วยทำอาหารให้ตัวเอและคุณแม่ทานที่บ้านจังเลยค่ะ วันนี้ผู้ช่วยของเอไม่ได้มาด้วย ถ้ายังไง ขอนามบัตรเชฟกับตัวอย่างอาหารกลับไปให้คุณแม่ลองชิมสักนิดได้ไหมค่ะ นิดเดียวพอนะคะ”

                    เอพยายามกวาดตาหาพวกตู้เครื่องประดับเคลื่อนที่อยู่ต่ออีกพักหนึ่ง จนได้พบกับชายร่างท่วมที่มีลักษณะเหมือนป๋าตู้ทอง เพราะทุกส่วนในร่างกายของชายคนดังกล่าวเต็มไปด้วยทองคำ ทั้งสร้อยที่ห้อยเป็นระย้าที่ถูกสวมทับอยู่บนเสื้อเชิ้ต อีกทั้งแหวนและกำไรอีกระยิบระยับ เธอจึงเริ่มปฏิบัติการโดยทันที

                    “อุ๊ย ขอโทษค่ะ” เอแสร้งทำเป็นถอยหลังชนชายคนดังกล่าวจนเครื่องดื่มหกรดเสื้อของเขาจนเปรอะเปื้อน ชายคนดังกล่าวทำหน้าตาโมโหทันที ก่อนที่จะเงยหน้ามามองเอ

                    เอรีบใช้เสน่ห์ยั่วยวนทันทีเพื่อทำให้ชายคนดังกล่าวอารมณ์เย็นลง พร้อมกับดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากร่องอกแล้วเช็ดลงบนเสื้อและเนื้อตัวของชายคนดังกล่าว “ตายแล้ว เปื้อนหมดเลย ขอโทษด้วยนะคะ ซุ่มซ่ามจังเลย”

                    “อ๋อ ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่เป็นไร” ชายคนดังกล่าวโบกไม้โบกมืออย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นเอเอาผ้าเช็ดหน้าลูบไล้ตามร่างกายของตน

                    “ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันซุ่มซ่ามมากเลย” เอถอยหลังมายืนคุยกับชายคนดังกล่าวพร้อมทำหน้าตาแสดงความเสียใจ

                    “อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อยครับ เกิดขึ้นกันได้ ว่าแต่...” ชายคนดังกล่าวตอบ

                    “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวดิฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษด้วยนะคะ” เอพูดพลางขอปลีกตัวหลบไป ขณะที่ชายคนดังกล่าวพยายามจะกวักมือชวนเธอคุยต่อ

    เอแอบเดินหลบเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับสร้อยคอทองคำและถุงกล่องบรรจุอาหารที่แนบนามบัตรเชฟติดมาด้วย แล้วเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เพื่อโหนรถเมล์กลับบ้านต่อไป

     

     

                    บ้านของเธออยู่ในชุมชนแออัดขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยบ้านไม้และบ้านสังกะสีแคบ ๆ พร้อมกับทางเดินทีลัดเลาะไปมา ผู้คนนับร้อยนับพันต่างถิ่นต่างฐานมารวมอยู่กันจนแออัด สร้างเสียงจอแจทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่หยุดพัก บวกกับน้ำคลำที่ส่งกลิ่นเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน

    “แม่!” เอเคาะและตะโกนเรียกแม่อยู่หน้าประตูบ้านไม้เก่า ๆ

                    “เดี๋ยวสิโว้ย กำลังแต่งตัวอยู่” แม่นุ่งผ้าถุงมาเปิดปลดกลอนประตูแล้วเปิดให้เอ “เชิญค่ะ แม่ไฮโซ”

                    “ม่ะ กินข้าวกัน” เอพูดพร้อมกับเดินเอากล่องข้าวมาวางลงพื้น “ให้มาซะเยอะเลย”

                    “แล้วเป็นไง วันนี้มีอะไรติดไม้ติดมือมาหรือเปล่า” แม่ถามขึ้นพร้อมกับเขย่งไปปิดกลอนประตู

                    เอเดินไปหยิบช้อนในห้องครัวแล้วกลับมานั่งกับพื้นพร้อมกับเปิดกล่องอาหาร “เดี๋ยวดิแม่ คนเพิ่งจะกลับมาเหนื่อย ๆ ”

                    “ก็แค่ถาม เผื่อได้อะไรมีค่ามาบ้าง จะได้เอาเงินมาจ่ายค่าแชร์ซะที” แม่พูดพร้อมกับเดินมานั่งกินข้าวด้วย

                    “นี่ยังไม่จ่ายเขาอีกเหรอ” เอทำหน้าตาตื่น “แล้วสร้อยที่ให้ไปอ่ะ”

                    “จ่ายค่าน้ำค่าไฟหมดแล้ว” แม่ตอบ

                    “แม๊! ค่าน้ำค่าไฟมันเท่าไหร่เชียว แล้วส่วนที่เหลืออ่ะ” เอทำท่าตกใจ

                    “ก็เอาไปจ่ายค่าหวยดิ” แม่ทำลอยหน้าลอยตา

                    “แม๊! ไหนว่าเลิกเล่นแล้วไง” เอทำหน้าเซ็ง ๆ

                    “ก็ข้าฝันดีนี่หว่า” แม่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “และสร้อยที่ไอ้ป๋าคนนั้นมันให้มา มันก็แค่สลึงเดียวเองนะว๊อย ไหนบอกว่าเป็นไฮโซเสี่ยใหญ่แถวหน้า เชอะ!

                    เอถอนหายใจออกอย่างเซ็ง ๆ “อ่ะ ได้มาอีกเส้นนึง” 

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น