ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คุณ!!!
" ไปให้พ้นนะโว้ยไอ้งูบ้า!! "
ชายหนุ่มตะโกนร้องบอกอสรพิษตัวนึงที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าๆรีบวิ่งหนีอสรพิษสุดชีวิต
อสรพิษเห็นดังนั้นจึงไม่รอช้สรีบเลื้อยตามชายหนุ่มไปติดๆ ชายหนุ่มยิ่งวิ่งก็ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนตัวเองวิ่งไม่ไปไหน
มาไหนวนอยู่ที่เดิม
" โธ่เว้ย!? ทำไงดีวะ คิดสิ คิดสิ คิดสิไอ้ชัย "
ชายหนุ่มพยายามเตือนสติตนเอง ทันใดนั้นเองอสรพิษก็รัดช่วงเอวของชายหนุ่มไว้แน่นทันที
" เฮ้ย!? "
เสียงชายหนุ่มตกใจสุดขีด
" ฟู่ๆๆๆ "
เสียงของอสรพิษดังกังวานไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มเริ่มใจคอไม่ดีและรู้สึกอึดอัดมากยิ่งดิ้นรนอสรพิษยิ่งรัดแน่นกว่าเดิม
" ปล่อยชั้นนะโว้ย!! ไอ้งูบ้า! "
ชายหนุ่มตะโกนร้องบอกขณะกำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากอสรพิษ อสรพิษเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังดิ้นรนยิ่งรัดแน่นกว่าเดิมจนชายหนุ่มเริ่มหายใจไม่ออกทีล่ะนิด พอเห็นว่าตนเองคงไม่รอดแน่แท้จึงทำได้เพียงแต่จ้องมองดวงตาอสรพิษ
" ไม่นะ ไม่นะ!! "
ชายหนุ่มตะโกนออกไปดังๆในนาทีสุดท้าย
" กริ๊งๆๆๆๆๆ "
เสียงนาฬิกาปลุกโทรศัพท์มือถือ
" ไม่นะ!!! "
พิเชษฐ์สะดุ้งตื่นทันที ชายหนุ่มลืมตามองเพดานห้องไปทั่วเพราะยังงงๆกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นนั่งและทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น
" ชั้นฝันเหรอ? "
พิเชษฐ์ถามตนเองเบาๆด้วยความงงๆก่อนจะไปปิดนาฬิกาปลุกจากนั้นชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำอย่างงงๆกับความฝันตน
ณ.ถนนทางเดินตลาดแห่งนึงพิเชษฐ์เดินอย่างคนใช้ความคิดจนดาวเรืองเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่ม
" พี่ชัยเป็นไรอ่ะ "
พิเชษฐ์ได้ยินก็สะดุ้งนิดนึง ก่อนจะหันมายิ้มให้ดาวเรือง
" เปล่าหรอกพี่แค่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ "
ชายหนุ่มรีบปฏิเสธทันที ดาวเรืองได้ฟังทำหน้าตาเข้าใจก่อนจะคว้าแขนพิเชษฐ์มาควงเดินไปที่ร้าน
" ยืมควงหน่อยนะพี่ชัย "
" คร้าบบ....."
ชายหนุ่มตอบลากเสียงยาว ไม่นานนักพวกพิเชษฐ์ก็มาถึงร้านอาหารเกาหลีพอมาถึงก็มาเจอวิสาที่ยืนคอยพวกพิเชษฐ์อยู่
" วันนี้พวกชัยได้ดูข่าวป่ะ "
วิสารีบถามพวกพิเชษฐ์ทันที
" ข่าวอะไรล่ะพี่สา? "
ดาวเรืองถามกลับบ้างขณะรอพิเชษฐ์ไขกุแจร้านอยู่
" ก็ข่าวข่มขืนเด็กไงคนทำโคตรชั่วมากข่มขืนไปได้กระทั่งเด็ก "
วิสาบอกด้วยอารมณ์โมโห พวกพิเชษฐ์ฟังก็เฉยๆเพราะไม่ได้ดูข่าวตอนเช้า
" อ้อ! พอดีพวกหนูไม่ได้ดูอ่ะพี่สา "
ดาวเรืองบอกพร้อมกับเดินเข้าร้านไป วิสาเลยไม่พูดอะไรต่อเดินเข้าร้านตามติดๆพวกพิเชษฐ์
ณ.บ้านแห่งนึงที่ตั้งสง่างามใหญ่โตมโหฬารท่ามกล่างเมืองหลวงด้วยเนื้อที่ประมาณ100ไร่
แสงแดดอ่อนๆในยามเช้าส่องประกายระยิบเมื่อผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เสียงนกร้องดังเจี๊ยวจ๊าวท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆส่องผ่านไปยังห้องนอนนฤเบศที่กำลังนอนหลับสบายแสงแดดส่องไปยังใบหน้าชายหนุ่มที่มีรูปทรงไข่ คิ้วเข้ม สันจมูกโด่ง รินฝีปากเป็นรูปกระจับ ร่างกายสูงโปร่งผิวพรรณดูสะอาดสะอ้าน จนร่างนั้นเริ่มขยับตัวเล็กน้อยเพราะเริ่มรู้สึกร้อนนิดๆที่ใบหน้าเปลือกตาทั้งสองข้างเริ่มขยับและลืมตาทีละนิดเผยให้เห็นดวงตาสีดำเข้มสนิท
" อือ...กี่โมงแล้วว่ะ "
นฤเบศถามตนเอง จากนั้นจึงลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจนิดนึงดวงตามองไปรอบๆห้องตนก่อนจะเดินลงจากเตียงนุ่นไปยังที่หน้าต่างบานใหญ่ ชายหนุ่มยืนยึดใบหน้าสูดอากาศบริสุทธิ์นอกหน้าต่างทันที
" หืดดดดดด "
เสียงสูดหายใจนฤเบศ
" สดชื่นจังแฮะ "
นฤเบศกล่าวยิ้มๆแล้วก็เดินอารมณ์ดีไปอาบน้ำทันที
ณ.ห้องนั่งเล่นไฉไลที่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ต้องชะงักเมื่อเห็นบุตรชายคนเล็กเดินมาหาตน
" อ้าว ตาเล็กวันนี้ไม่ไปไหนเหรอลูก "
นฤเบศได้ยินมารดากล่าวรีบเดินมานั่งลงใกล้มารดาพร้อมกับตอบคำถามมารดา
" ไปฮะคุณแม่ "
ไฉไลรีบวางถ้วยน้ำชาลงจึงเอ่ยถามบุตรชายคนเล็กต่อ
" นัดกับใครไว้เอ่ย ใช่น้องหนูนาของแม่มั้ยจ๊ะลูก "
นฤเบศรีบปฏิเสธมารดาทันที
" ไม่ใช่ฮะคุณแม่ เล็กนัดเพื่อนไว้ต่างหากไม่ใช่น้องหนูนาหรอกฮะ แม่คร้าบเล็กเพิ่งอยู่ม.6 ส่วนน้องหนูนาม.5เองไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ครับคุณแม่ "
ชายหนุ่มบอกมารดาอย่างรู้ทันความคิดของมารดาว่าคิดอะไรอยู่
" แม้...แม่แค่ถามเล่นๆจ๊ะว่าแต่ลูกทานข้าวยัง "
ไฉไลรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
" ยังฮะคุณแม่ เดี๋ยวเล็กว่าจะออกไปทานข้างนอกฮะ งั้นเล็กไปก่อนนะคุณแม่ "
นฤเบศกล่าวจบรีบลุกขึ้นไปหอมแก้มมารดาฟ๊อดใหญ่
" ว๊าย!? ทำอะไรลูก "
" ชื่นใจจังฮะแก้มคุณแม่หอมๆ "
นฤเบศว่าแล้วรีบเดินยิ้มหน้าบานออกไป ไฉไลมองมองตามหลังบุตรชายคนเล็กด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรัก
" ลูกโตขึ้นมากจริงๆตาเล็กของแม่ "
ณ.ร้านอาหารเกาหลีพวกพิเชษฐ์ที่กำลังยุ่งกับลูกค้าจำนวนมากก็มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ4-5คนเดินเข้ามาภายในร้าน พิเชษฐ์เห็นรีบไปจัดโต๊ะให้ลูกค้ากลุ่มนั้น พอเสร็จชายหนุ่มก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่วิสาต่อส่วนตนได้ไปเก็บโต๊ะอาหารต่อ
" เฮ้ย! ไอ้เล็กมันมายังว่ะ "
เสียงชายหนุ่มที่อยู่กลุ่มนั้นพูดขึ้นมาขณะกำลังจะนั่งโต๊ะ
" เห็นมันโทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ววะ "
อีกคนนึงรีบบอกเพื่อนทันที
" หรอวะ งั้นพวกเราสั่งอาหารรอมันดีกว่าว่ะกูหิว "
ว่าแล้วกลุ่มวัยรุ่นต่างพากันสั่งอาหารทันที พิเชษฐ์เห็นกลุ่มวัยรุ่นก็นึกถึงสมัยตนที่มีเพื่อนน้อยและคิดเสียดายชีวิตวัยรุ่นตนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะความยากจนคําเดียว ชายหนุ่มคิดได้รีบหันมาสนใจงานพร้อมกับยกถาดจานชามไป
ทันใดนั้นเองประตูร้านถูกเปิดเข้ามาโดยใครคนนึง พิเชษฐ์เลยหันไปมองทันทีโดยที่ตนยังยกถาดจานชามอยู่ ถนัดเดียวกันนั้นเองจานชามที่อยู่บนถาดเกิดตกอย่างไม่คาดฝัน
" เฮ้ย!! เชี่ยยยยย "
พิเชษฐ์ทำเสียงตกใจสุดขีด
" เพล้ง!!! "
เสียงจานชามแตกดังสนั่นไปทั่วบริเวณร้าน
นฤเบศได้แต่ยืนอึ้งๆโดยก้มมองปลายรองเท้ามีเศษจานชิ้นนึงมันกระเด็นมาหาเขา ชายหนุ่มรีบมองคนทําแตกทันที
พิเชษฐ์เห็นดังนั้นรีบไปขอโทษเจ้าตัวทันที โดยไม่ลืมไปเก็บถาดเสียก่อน
" ผมขอโทษฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ "
นฤเบศได้ฟังไม่ถือสาอะไรเพราะท่าทางคนตรงหน้าจะดูเป็นคนซุ่มซ่ามน่าดู
" ไม่เป็นไรฮะ แต่คราวหน้าควรระวังหน่อยแล้วกัน "
" ครับคราวหน้าผมจะระวังกว่านี้ ยังไงผมขอโทษอีกทีฮะ "
พิเชษฐ์บอก ก่อนจะรีบไปเก็บกวาดเศษจานที่มันกระจายตามพื้นร้าน
" ไอ้เล็กทางนี้เว้ย!! "
เสียงชายหนุ่มตะโกนบอกนฤเบศมาแต่ไกลๆ นฤเบศหันไปมองกลุ่มเพื่อนๆ ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนฝูงตน ชายหนุ่มเลือกมานั่งตรงฝั่งกระจกร้านพร้อมทักทายเพื่อน
" รอนานป่าวว่ะ ไอ้เฆมมึงสั่งอะไรมากินยัง "
" สั่งมาแล้วว่าแต่มึงไม่เป็นไรน่ะเมื่อตะกี้นี้กูตกใจแทบทำแก้วแตก คนห่าอะไรซุ่มซ่ามชะมัด "
เมธาบ่นแทนเพื่อน
" มึงจะมาบ่นอะไรว่ะ มึงแหกตาดูคนทำดิบ่งบอกก็รู้ว่าซุ่มซ่ามแค่ไหนฮ่า ฮ่า ฮ่า "
นฤเบศบอกเมธาพร้อมกับหัวเราะคับขันพิเชษฐ์ พิเชษฐ์ที่กำลังยืนเช็ดโต๊ะอยู่ได้ยินคำพูดคุยสนทนาของนฤเบศชายหนุ่มแอบเจ็บใจที่โดนดูถูกแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะมันเป็นความผิดเขาเอง
" เฮ้อ..."
เสียงถอนลมหายใจเบาๆพิเชษฐ์
ดาวเรืองพอรู้ข่าวของพิเชษฐ์เดินออกมาหาที่หน้าร้านและมองกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นด้วยสายตาที่ไม่พอใจสักเท่าไหร่นักยิ่งเฉพาะนฤเบศ
" หน้าก็ดีแต่ทำไมชอบดูถูกคนจัง พี่ชัยไปยอมเขาทำไมง่ะ "
ดาวเรืองเอ่ยถามพิเชษฐ์อย่างงงๆ ชายหนุ่มได้ยินหันมายิ้มให้ดาวเรืองก่อนจะหันกลับไปตามเดิมเพื่อดูลูกค้า
" ทำไงได้ดาวเรืองพี่เป็นคนผิดเองแหละคงโดนหักตังค์แน่เลยว่ะ "
ชายหนุ่มบอกอย่างกับรู้ถึงชะตากรรมของตนเองดี ชายหนุ่มจึงถือโอกาสไปห้องน้ำ
" ดาวเรืองพี่ไปเข้าห้องน้ำน่ะ "
" จร้า เดี๋ยวหนูดูให้ "
ดาวเรืองบอกแต่ยังหันไปมองกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นอยู่ไม่วางตา พิเชษฐ์เห็นดูก็รู้ว่าดาวเรืองโกรธเคืองแทนตน เพราะนิสัยของหญิงสาวไม่ค่อยยอมใคร ชายหนุ่มเลยเดินออกไปจากภายในร้านทันที
ณ.หน้าห้องน้ำชายพิเชษฐ์ที่มัวแต่เดินก้มเช็ดมืออยู่นั้น บังเอิญไปชนกับร่างใครคนนึงเข้าอย่างจัง ชายหนุ่มที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกลับเซไปสักเล็กน้อย
" เฮ้ย!! ขอโทษฮะ ขอโทษษษ "
พิเชษฐ์เอ่ยขอโทษทันที ก่อนจะมองเจ้าของร่างนั้นพอรู้ว่าเป็นใครชายหนุ่มตาโตทั้งสองข้างทันที
" คุณ!? "
พิเชษฐ์อุทานออกมาอย่างตกใจ
" คุณอีกแล้วเหรอ? "
นฤเบศเอ่ยอย่างเซ็งๆที่ต้องมาเจอพิเชษฐ์อีกแล้ว ชายหนุ่มจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
พิเชษฐ์เห็นสายตานฤเบศนึกเสียวสันหลังนิดๆก่อนจะเอ่ยขอโทษอีกครั้งนึง
" ขอโทษฮะ ขอโทษจริงๆ "
นฤเบศได้ฟังคําขอโทษอีกฝ่ายเกิดเซ็งจิตขึ้นมากับผู้ชายคนนี้
" นี่นายขอถามหน่อยเหอะ ชีวิตนี้มีแต่ก้มหัวขอโทษชาวบ้านอย้างเดียวรึไงหัดทำตัวดีๆเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาหน่อยเหอะ "
พิเชษฐ์รู้สึกโมโหให้นฤเบศ ชายหนุ่มเลยโต้ตอบกลับนิดนึง
" ทำได้ถ้าหากไม่มาเห็นคุณเสียก่อนน่ะ "
กล่าวจบพิเชษฐ์รีบเกินหนีหายไปจากตรงนั้นทันที นฤเบศได้แต่อ้างปากค้างกับสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ พอจะโต้ตอบเจ้าตัวดันชิ่งหนีไปเสียก่อน( เดินเร็วชะมัด )
" ฝากไว้ก่อนเหอะ "
ชายหนุ่มคาดโทษพิเชษฐ์ไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปห้องน้ำบ้าง
วันนี้พิเชษฐ์โดยกลุ่มนฤเบศแกล้งตลอดแต่ชายหนุ่มพยายามไม่ตอบโต้เพราะถือว่าเป็นลูกค้า ชายหนุ่มพยายามระงับอารมณ์ไว้สุดขีด
" ไอ้เล็กกูว่ากลับกันเถอะว่ะ เดี๋ยวกูต้องไปทำธุระต่อด้วย "
เมธาชวนนฤเบศกลับ
" ก้อดีวะ กูอิ่มแล้วเหมือนกันพวกมึงจะกลับกันยัง "
นฤเบศเอ่ยถามกลุ่มเพื่อนๆต่อ
" กลับดีกว่าว่ะจะได้ไปทำรายงานต่อด้วยมึง "
เพื่อนชายอีกคนบอก นฤเบศหันไปสั่งพิเชษฐ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆทันที
" นายเซ็กบิลด้วย!! "
พิเชษฐ์ได้ยินเจ้าของเสียงหันไปมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก( แทบอยากกระโดดถีบ ) ไม่นานนักกลุ่มนฤเบศพากันกลับพิเชษฐ์เห็นโล่งใจจะได้ไม่ต้องมาเถียงกับคนแบบนั้นอีก
" ไปได้สักที สาธุ!! ขอให้อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยโอมเพี้ยง!! "
ชายหนุ่มกล่าวจบรีบเดินไปเก็บโต๊ะนฤเบศทันทีโดยมีวิสามาช่วยอีกแรง
" ฮัดเช้ย!! "
เสียงจามของนฤเบศ ขณะกำลังจะขับรถยนต์ไปส่งเพื่อนๆ
" ใครบ่นให้เราว่ะ? "
กลุ่มเพื่อนๆที่อยู่ภายในรถยนต์ต่างพากันแซวชายหนุ่มกันยกใหญ่
" กูว่าคงสาวๆมึงว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
" ช่าย "
" กูว่าคงคิดถึงมึงมั้งพ่อคนรูปหล่อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
นฤเบศได้ยินรีบบอกเพื่อนๆให้หุบปากกัน
" หยุดเลยพวกมึงไม่ต้องมาแซวกูอยากเดินกลับบ้านกันรึไงห๋า! "
" แม้แค่นี้ทำเป็นโกรธพวกกูได้ล้อเล่นหน่าเมิงงงง "
เมธาบอกนฤเบศ ขณะนั่งข้างกับอีกฝ่าย นฤเบศจึงไม่สนใจรีบขับรถยนต์ออกจากบริเวณลานจอดรถทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น