ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~~ KangTeuk ~~

    ลำดับตอนที่ #82 : [ trans ] เส้นทางชีวิตเอสเจของ ชินดง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 232
      0
      19 ส.ค. 51

    เส้นทางชีวิตของชินดง

    ดงฮี เป็นเด็กที่รักการเต้น และมักจะชอบทำให้คนอื่นหัวเราะอยู่เสมอๆ เขาชอบที่จะเต้นมาตั้งแต่สมัยประถม เขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะไปเรียนเต้นด้วยกัน แต่ในใจลึกๆ ของเขาส่วนหนึ่งก็คิดว่า อยากจะเป็นนักแสดงตลก

          เขาค่อนข้างที่จะเป็นที่รู้จักในบรรดานักเรียนแถบนั้น เพราะชื่อของ ดงฮี นั้นโด่งดังไปถึงโรงเรียนอื่น แต่เขาก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นชายทั่วไป ที่มีแฟน และใช้ชีวิตธรรมดาๆ

          แต่ด้วยความที่ดงฮีนั้นเป็นคนที่มีความพยายามค่อนข้างสูง เมื่อใดที่เขาต้องการอะไรเป็นพิเศษ ก็จะทำงานพิเศษเพื่อหาเงินไปซื้อเอง แม้ว่างานที่เขาทำนั้นจะหนัก และเป็นงานที่ใช้แรงงานจนมือแทบพัง แต่เขาก็ยังทำมันด้วยความมุ่งมัน จนได้เงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

          ในวันหนึ่งของช่วงไฮสคูล ปี 1 รุ่นพี่ที่รู้จักการได้ขอให้เขาไปอัดรายการแทน เนื่องจากรุ่นพี่คนนั้นดันไม่สบายในวันที่มีการอัดรายการ ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นได้เต้นเป็นแบ็คให้กับศิลปิน จึงได้โทรศัพท์มาไหว้วานให้ชินดงไปทำหน้าที่แทนเขา ...ด้วยเหตุนี้ ดงฮีจึงต้องเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์แถวยออึยโอ เพื่อเต้นประกอบเพลงของฮยอนซองบนเวที

          หลังจากนั้น ดงฮีก็เริ่มตั้งใจฝึกซ้อมเต้นอย่างจริงจัง พร้อมกับเดินสายเต้นเป็นแดนเซอร์์ตามรายการทีวีต่างๆของทั้งสถานีของเคเบิ้ลทีวี สถานี KBS รวมไปถึง J Station และ ในมิวสิคคาราโอเกะต่างๆ จนกระทั่งในช่วงฤดูร้อนของชั้นไฮสคูลปี 3 เขากับเพื่อนต้องการที่จะหาเงินไปเที่ยวทะเลกัน จึงได้เข้าร่วมแข่งขันเต้น เพราะเพียงแค่ต้องการเงินรางวัลเพื่อไปเที่ยวเท่านั้น

          แต่ผลจากการเต้นครั้งนั้นเอง ที่ทำให้เขาได้รับนามบัตรใบหนึ่งมา ... มันเขียนไว้ว่า "SM Entertainment"

          ดงฮีค่อนข้างที่จะตื่นเต้นกับนามบัตรที่ได้มา เขาคิดว่ามันคือโอกาสที่ดีมาก แต่ก็ยังคงลังเลใจอยู่ แต่ท้ายที่สุด หลังจากที่คิดอยู่นานสองนาน เขาก็ตัดสินใจที่จะไปลองออดิชั่นดู

          .. เขาก็ออดิชั่นไม่ผ่านในรอบแรก

          ดงฮีกลับมาฝึกซ้อมอย่างหนักอีกครั้ง โดยหวังว่า ออดิชั่นคราวหน้าจะมีรายชื่อของเขาที่ผ่านเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด

          .. แต่การออดิชั่นครั้งที่สอง ก็ยังคงสอบตก

          มันทำให้เขากลับมาคิดเป็นอย่างหนัก ว่าในตอนที่ออดิชั่น เขาทำอะไรลงไป? .. ในการออดิชั่นครั้งที่ 3 ครั้งที่เขาคิดว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาออดิชั่น และครั้งนี้ ดงฮีได้ตัดสินใจทำทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้ ทั้งเต้น ร้องเพลง แสดงมุขตลก รวมถึงการแสดง เขาได้ทำมันอย่างเต็มที่ ... ในตอนที่ถึงเวลาประกาศผล เขาหลับตา กำมือแน่นด้วยความกลัว ... กลัวว่าจะสอบตกเป็นครั้งที่สาม และชีวิตในเส้นทางนี้ของเขาคงจบลง ณ ตรงนี้ ... แต่แล้วก็มีชื่อเขาที่ผ่านการออดิชั่น

          ในขณะนั้น ดงฮีอายุ 20 ปีแล้ว ... เขาจึงสามารถที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง รวมถึงการเซ็นสัญญากับทางบริษัท ... เขาไม่เคยบอกที่บ้านเรื่องการไปออดิชั่น และก็ได้โทรกลับไปบอกแม่ ตอนที่ได้เซ็นสัญญาไปแล้ว

          แม้ว่าแม่ของเขาจะยังกังวลกับเส้นทางที่ลูกชายคนนี้เลือก แต่ว่าทั้งสองก็ยังมีความเชื่อมั่นในตัวของลูกชาย ทั้งพ่อและแม่ของดงฮีจึงได้ยอมที่จะตามใจเขาได้ไม่ยาก และสนับสนุนที่จะให้เขาเดินตามเส้นทางที่ฝันนั้นต่อไป

          ครั้งแรกที่เขาก้าวเข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัด ดงฮีค่อนข้างจะประหม่า แม้ว่าเขาจะเข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่ครั้งนี้มันทำให้เขากังวลมาก ด้วยตำแหน่งที่เขาได้มานั้นคือ Best Gag ... ไม่ใช่ด้วยการร้องเพลงหรือเต้นเหมือนคนอื่นๆ หนำซ้ำก็ยังมาเป็นคนท้ายๆ ทั้งที่คนอื่นนั้นฝึกหัดด้วยกันมาแล้วเป็นปี สองปี หรือมากกว่านั้น มันจึงทำให้เขาต้องพยายามอย่างมาก เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นที่ 1 มาจากหลายๆที่ด้วยกันทั้งนั้น

          และทางบริษัท ก็ได้มีการทดสอบมากมาย ... รวมทั้งการให้แสดงบทบาทสมมติอย่างกระทันหัน ... แม้ว่าเขาจะงัดมุขออกมาแสดงสักเท่าไหร่ แต่สุดท้าย มันก็กลายเป็นความน่าเบื่อสำหรับตัวเขา เพราะในแต่ละวันก็มีแค่การฝึก การฝึก และการฝึก

          ดงฮีฝึกหนักมาก หลายต่อหลายครั้งที่เขาโต้รุ่งจนกระทั่งเช้า และไปหลับเอาบนรถไฟ ... แล้วก็นอนอยู่บนนั้นจนกระทั่งรถวนกลับมาที่เดิมรอบแล้ว รอบเล่า

          และในที่สุด ดงฮีก็ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินวงซูเปอร์จูเนียร์ร่วมกับเพื่อนๆ และเขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนชื่อ มาเป็น ชินดง เนื่องจาก ชื่อ ดงฮี ของเขานั้นดันไปคล้ายกับเพื่อนอีกคนในวง ซึ่งก็คือ ดงแฮ ... และนั่นมันอาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ ถ้าหากมีชื่อสมาชิกในวงเขียนและออกเสียงต่างกันแค่เพียงเล็กน้อยแบบนั้น

          ในการฟอร์มวง ดงฮีได้ช่วยอะไรหลายๆอย่างอย่างมากมาย เนื่องจากเพราะเขาเคยเป็นแดนเซอร์มาก่อน และเพราะคุ้นเคยกับการเต้นมานาน จึงช่วยคิดท่าเต้นให้กับวง และในการแสดงแต่ละครั้งของพวกเขา ท่าเต้นที่พวกเขาเต้นบนเวทีนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากหัวคิดของดงฮีผู้นี้นั่นเอง

          ในวันที่มีกำหนดเปิดตัววง ซูเปอร์จูเนียร์ ซีวอนได้มาบอกกับเขาถึงเรื่องรูปที่ถ่ายออกไปนั้นได้เผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ตแล้ว วันนั้นเขาจึงรีบกลับไปเพื่อดูรูปเหล่านั้นด้วยความดีใจและตื่นเต้น ... แต่ผลมันกลับไม่เป็นดังที่คาดไว้

          หลากความคิดเห็นที่มีต่อเขานั้นช่างทำร้ายจิตใจของดงฮีสิ้นดี แทบจะทุกคนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก มากมายที่วิจารณ์เรื่องหน้าตา รูปร่าง ของเขา จากที่ไม่เคยหวั่นไหวต่อคำพูดของคนอื่นง่ายๆ แต่วันนั้นมันทำให้เขารู้สึกแย่และเจ็บปวดมากจนไม่อยากที่จะเปิดอินเตอร์เน็ตอีกเลยด้วยซ้ำไป และจากวันนั้นเอง ที่เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะทำให้ผู้ชมยอมรับเขา และลบคำสบประมาทที่มีมาออกไป ...เขากลายเป็นดงฮีที่ชอบเต้น รักที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้าง และยังไม่ลืมความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงตลก

          ความสามารถของเขา ใช่มีแค่นี้ เพราะหลังจากที่คลุกคลีอยู่กับเพื่อนๆแล้ว เขาก็พบว่า ตัวเอง อึนฮยอก และฮีชอลนั้นมีความสามารถที่คล้ายๆกัน นั่นคือการแร็พ จึงได้ช่วยกันลองเขียนท่อนแร็พขึ้นมา และมันก็ถูกนำไปใช้ในเพลงต่างๆ เริ่มตั้งแต่ Show me your love จนกระทั่งมาถึงเพลงในอัลบัมต่อๆมา

          แต่ในความเฮฮาร่าเริงของดงฮี เขาเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บความรู้สึก เพราะเขาไม่อยากให้คนรอบข้างต้องเป็นทุกข์เพราะเขา เขารักทุกๆคน และหวังดีกับทุกๆคนด้วยใจจริง ดังนั้น เมื่อใดที่เขามีปัญหา ก็มักจะยิ้มอยู่เสมอๆ และพยายามทำตัวเฮฮา และหาเรื่องตลกมากลบเกลื่อน เขารักแฟนเพลง และมักจะเป็นคนแรกที่มองเห็นแฟนเพลงเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ... ทั้งๆที่ง่วง ทั้งๆที่สมาชิกคนอื่นๆแทบหมดเรี่ยวแรง และไม่มีใครสักคนที่มีอารมณ์จะลุกมาหยอกล้อกับแฟนเพลงที่ตามไปดูพวกเขา แต่จะไม่มีเหตุการณ์นั้นกับดงฮี เพราะสายตาของเขาจะสอดส่ายไปยังแฟนคลับเสมอ และเพราะจะยิ้มทักทายทุกครั้งที่มีคนยิ้มให้เขามา แม้ว่าร่างกายเขาจะอ่อนล้าก็ตาม

          แม้ว่าในแต่ละวัน จะดูเหมือนว่าเขาเอาแต่ทำตัวบ้าๆ บอๆ และเล่นไปวันๆ แต่อันที่จริงแล้ว เขาใส่ใจ และห่วงใยเพื่อนๆในวงทุกคน เขาสามารถเข้ากับคนได้ง่าย และนั่นเอง ที่ทำให้เขาค่อนข้างจะสนิทกับทุกๆคนในวง ...ในคืนที่เกิดอุบัติเหตุ ดงฮีบาดเจ็บน้อยที่สุด เขาเป็นคนแรกที่พยายามจะช่วยเพื่อนๆออกมาจากซากรถ เมื่อมีคนมาช่วย เขาก็จะลุกเดินไปหาเพื่อนๆทุกคน แล้วกุมมือเอาไว้ พร้อมกับให้กำลังใจ ... คล้ายกับว่าเขาไม่เป็นอะไร และมีสติดี

          แต่ในความเป็นจริง สภาพจิตใจของดงฮีในตอนนั้นย่ำแย่เกินจะบรรยาย เขารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น รุ้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นสภาพของเพื่อนที่นอนหมดสภาพอยู่ข้างทาง สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ภาพรถที่พังยับเยิน ร่างของคยูฮยอนที่แน่นิ่ง อิทึกที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และฮยอกแจที่เดินกะเผลกๆ ... เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับพวกเขาเอง

          ในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ดงฮีฟุ้งซ่านเกินที่จะทนอยู่ในสภาพที่ปกติได้ เขาตัดสินใจเดินทางออกจากโซล เพื่อหนีปัญหา เพื่อที่จะหาที่เงียบๆอยู่คนเดียว และได้ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง เขาไม่ต้องการที่จะรับรู้อะไรทั้งนั้น ...เขากลัว กลัวว่าจะได้รับข่าวร้าย เขาทนไม่ได้ ที่จะให้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด ... ในยามที่ดงฮีมีปัญหา สิ่งที่เขามักจะทำก็คือ การไประบายกับพี่ชายของตัวเอง

          แต่ในที่สุด ดงฮีก็ได้เดินทางกลับ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาต้องรับผิดชอบต่อ ... เขากัดฟันเพื่อที่จะเดินกลับเข้ามาพบเพื่อนๆ กลับมาพบแววตาที่ปวดร้าวเช่นเดียวกับเขา ... มันช่างแสนทรมาน

          ในวันนี้ ... ชีวิตในเส้นทางบันเทิงของเขาก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ดงฮี หรือชินดง ได้รับการแสดงละครตามที่เคยวาดหวังเอาไว้ และยังมีโอกาสได้มีผลงานเดี่ยวของตัวเอง เขายังต้องไล่ตามความฝันต่อไป เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าเราไม่ควรตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแค่เพียงอย่างเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×