โจรสลัดเคราดำถูกตัดศีรษะไปแล้ว 300 ปี เมื่อนักโบราณคดีดำดิ่งลงสำรวจซากเรืออับปางนอกชายฝั่งรัฐนอร์ทแคโรไลนาเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาโจรชื่อกระฉ่อนผู้นี้
ยามบ่ายที่ร้อนอบอ้าวในเดือนมิถุนายน ผู้คนจับกลุ่มยืนดูการผ่าตัดฉุกเฉินริมน้ำเมืองแฮมป์ตัน รัฐเวอร์จิเนีย กะลาสีเคราะห์ร้ายในชุดเก่าปุปะสมัยศตวรรษที่สิบแปดซึ่งกำลังจะถูกเลื่อยขา ร้องโหยหวนและดิ้นพราดๆท่ามกลางความตื่นเต้นของผู้ชม เพื่อนร่างกำยำสี่คนกดตัวเขาไว้จนกระทั่งขาที่เสียถูกแทนที่ด้วยขาไม้อันประณีต ทันใดนั้น สายตาทุกคู่ก็หันไปจับจ้องชายร่างใหญ่ผู้ไว้เคราสีดำ ผ้าคาดเอวสีแดงสด ก้าวสวบๆลัดสนามหญ้ามา เขาจ้องคุณแม่ยังสาวที่ยืนอยู่ข้างรถเข็นเด็กด้วยดวงตาโปนและเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นอย่างยียวน "อะโห แม่ก็น่ารัก ลูกก็น่าชังเสียจริง!" เขาแผดเสียงดังราวปืนใหญ่
จอมโจรเจ้าของฉายาไอ้เคราดำได้เป็นพระเอกอีกครั้งในเทศกาลประจำปีซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเขา โจรสลัดเคราดำซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นกำเนิดของตัวละครอย่างกัปตันฮุกในเรื่องปีเตอร์แพน เป็นเจ้าของภาพลักษณ์ที่ยังคงได้รับความนิยมไม่ต่างจากอดีต ทั้งเคราดำรูปหล่อเช่นจอห์นนี เด็ปป์ ในภาพยนตร์เรื่อง ไพเรตส์ออฟเดอะแคริบเบียน หรือเคราดำจอมโวอย่างเบน เชอร์รี พระเอกในเทศกาลที่เมืองแฮมป์ตัน
ณ จุดที่จอมโจรเคราดำพบจุดจบอันน่าสยดสยองในรัฐนอร์ทแคไรไลนาซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไร นักโบราณคดีกำลังสำรวจซากเรืออับปางเพื่อหาเบาะแสของโจรชื่อกระฉ่อนผู้นี้ แม้จะสร้างความพรั่นพรึงให้ผู้คนในรัฐเพนซิลเวเนียไปถึงทะเลแคริบเบียน แต่คนแถบชายฝั่งกลับต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นมาจนทุกวันนี้ ร้านขายของที่ระลึก โรงแรมเล็กๆ และบาร์ ยังคงมีกลิ่นอายของไอ้เคราดำวายร้ายอุกอาจผู้ไม่เคยยอมแพ้ แต่กลับต้องพ่ายให้กับห่ากระสุนปืนคาบศิลา เล่ากันว่าศพที่ถูกโยนทิ้งทะเลของเขาลอยวนรอบเรือสามรอบก่อนจะจมลง ตำนานเกี่ยวกับตัวเขาก็ไม่ยอมตายเช่นเดียวกัน
ไม่มีใครทราบความเป็นมาของเอ็ดเวิร์ด ทีช หรือทาช หรือแทตช์ ในหนังสือ ประวัติการปล้นสะดมและฆาตกรรมของโจรสลัดชื่อดังแห่งยุคอันเป็นที่มาของตำนานเคราดำซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 1724 นาวาโทชาร์ลส์ จอห์นสัน (ซึ่งบางคนเชื่อว่าคือ แดเนียล ดีโฟ ผู้แต่ง โรบินสัน ครูโซ) บอกว่าเขามาจากบริสทอล เชื่อกันว่าทีชหันมาเป็นโจรสลัดหลังจากเดินทางไปกับเรือเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ปล้นเรือต่างชาติในสงครามระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสและสเปนในช่วงปี 1702-1713 เพราะการปล้นเรือลำหนึ่งอาจได้เงินถึง 20,000 ปอนด์ และส่วนแบ่งของสมุนโจรคนหนึ่งอาจมากกว่าเงินที่กะลาสีผู้ซื่อสัตย์หาได้ตลอดชีวิต
ความคิดเห็น