ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✞ · HEY!PAPA ϟ ⦅╵CHANBAEK⦆

    ลำดับตอนที่ #2 : ✞ · HEY!PAPA · ◖▯ᐟᐟ chapter 1 ยังหลั่นล้าได้อยู่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.69K
      51
      9 มิ.ย. 57

       ḨƐƔ! ǷḀƤԳ  ᐟᐟ  

     

    chapter 1 ยังหลั่นล้าได้อยู่

     

     

      

    

     

     

     

    ครืดดดดด  ครืดดด

     

    เสียงเครื่องมือสื่อสารสั่นอยู่เหนือหัวเตียง แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงโปร่งที่นอนทอดตัวเอาผ้าห่มคลุมโปงอยู่นั้นก็ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจจะรับมันเลยแม้แต่น้อย โทรศัพท์เครื่องเขื่องสั่นแล้วสั่นเล่า จากห้านาที กลายเป็นสิบ จากสิบนาที กลายเป็นยี่สิบ จนกระทั่งแรงสั่นเป็นเวลานานทำให้เจ้ามือถือราคาแพงเคลื่อนไปเรื่อยๆร่วงหล่นลงบนพื้นพรมดังตุ๊บ

     

    “ฮัลเหล มีอาราย “

     

    ทางเดียวที่จะหยุดเสียงน่ารำคาญเหล่านั้นคือต้องรับสายซะ นิ้วเรียวเลื่อนกดรับแม้จะไม่ได้มองชื่อบนหน้าจอเลยด้วยซ้ำ กรอกเสียงเนือยๆยานคางกลับไปแม้จะยังไม่ได้ลืมตา แต่แล้วเสียงทุ้มจากปลายสายที่กรอกกลับมาก็พอจะทำให้เขารู้ว่าเป็นไอ้พี่ชายต่างแม่นั่นเองที่โทรมากวนเขาในยามนี้ ร่างสูงโปร่งของปาร์คชานยอลค่อยๆไถลลงจากเตียงลงไปอยู่บนพื้นพรมพร้อมผ้าห่ม มองเผินๆเหมือนก้อนอะไรสักอย่างที่วางเกะกะอยู่ข้างเตียง

     

    “(เหวย ไอยอล นี่กูเอง คริสตี้ ปี้รองเท้าแตะ your older brother ไง remember huh? เดี๋ยวjust four AM. You wake up and pick ไอ้เฉิน up to the airport แทนกูทีดิ I’m busy ว่ะ I’m gonna ขึ้นวอร์ด right now แล้ว) “

     

    “มึงจะอิ้งให้กูงงเพื่อ กูเพิ่งมอห้า ยังเรียนไม่ถึง “

     

    ตอบยานคางพร้อมกับพลิกตัวนอนคว่ำตะแคงหน้าแล้วเอาโทรศัพท์วางไว้แก้ม แม้แต่จะถือโทรศัพท์ให้แนบกับหูไว้ยังขี้เกียจ มือหนายกขึ้นเกาตูดแกรกๆก่อนจะเคี้ยวลิ้นแจ่บๆอย่างที่ชอบทำ สมองสั่งการไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเมื่ออยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น

     

    “ให้ทายนี่กี่โมงแหลว “

     

    แม้แต่จะลืมตาดูเวลาก็ยังขี้คร้านจะทำ เสียงทุ้มเนือยเอ่ยถามพี่ชายก่อนจะได้คำตอบกลับมาอย่างว่องไว ขณะนี้เป็นเวลาตีสองกว่าๆ แล้วจะให้เขาตื่นตีสี่? เพื่อไปส่งเพื่อนมึงที่สนามบินเนี่ยนะ ตล๊ก

     

    “กูม่ายปาย เพิ่งได้นอน “

     

    “(เอ่า what did you do huh ?)“

     

    “พี่ปายฟาดกาหรี่มาน้อง น้องไม่เข้าใจ อารมณ์ หนุ่มสโสร่ท รูปหล่อ พ่อรวยหร๊อก “


    “(พ่อกูก็พ่อมึงนั่นแหล๊ะ เอาเป็นว่าตามนี้นะ baby I’m gotta go แล้ว.. คุณหมอคะ!!! คนไข้น้ำคร่ำแตกแล้วคร่า!!!!!!!!!)“

     

    เหมือนจะได้ยินเสียงเล็กๆแหลมๆของคุณพยาบาลแทรกเข้ามาในสายอย่างรุนแรงและดังก้องจนปาร์คชานยอลถึงกับสะดุ้งตื่นในทันที เสียงดังประหนึ่งจะป่าวประกาศให้ทุกแผนกในโรงพยาบาลรับรู้ถึงสวัสดิภาพของถุงน้ำคร่ำในคนไข้รายนี้ สงสารอิเจ๊เหลือเกิน คลอดลูกเสร็จแล้วจะกล้ามองหน้าใครในแผนกรึปะนิ ..ใช่แล้วครับ พี่ชายของเขาเป็นสูตินารีแพทย์ อันที่จริงเขาเองก็อยากจะเป็นอยู่หรอก ด้วยหน้าที่การงาน สวัสดิภาพทางการเงิน และบรรยากาศวิวทิวทัศน์ที่ได้พบมันช่างเหมาะกับเขาเสียเหลือเกิน แต่คริสบอกว่ามันไม่ได้สวยงามอย่างที่เขาคิดหรอก สตรีบางท่านก็มี kinda monster whole and so stinky smell อะ he told me like this (แล้วจะอิ้งตามมันทำไม)
     
    “เดี๋ยวๆๆๆๆๆbrother มึงไม่คิดจะถามความสมัครใจกูเลยไง๊“
     
    “(or I’m going to tell mamie that you take anybody at home and have a swinging fun sex huh ??  so she will come here and kill you ?? เอาไม๊ ?????????)” 
     
    แค่พูดถึงพระแม่บังเกิดเกล้าที่ตอนนี้อยู่อเมริกาก็ทำให้คนน้องเสียวสันหลังวาบ ปาร์คชานยอลลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอามือลูบหน้าพลางสูดหายใจลึกๆอย่างจำยอม นึกภาพออกเลยว่าถ้าแม่รู้ว่าเขาทำตัวเสเพลจะเป็นยังไง ขนาดพ่อที่ว่ามีจิตใจแข็งแกร่งประหนึ่งกระทิงป่ายังทนนางไม่ไหว
     
    “จร้าสุดหล่อ มาซะยาวเหลย กูแปลไม่ออก เอาเป็นว่ากูยอมและ “
     
    “(ก็แค่เนี้ย ยากตรงไหน)“
     
    “คร่า ไม่ยากคร่า “
     
    “(at four AM. You must to reach ไอ้เฉิน home โอเค๊??)“
     
    “...เหยดsir ไอเกทซึมนีดา” 
     
    “(เออ ว่าง่ายๆ โตไวๆ)“
     
    สายตัดไปแล้ว ให้เดาว่ามันคงจะรีบไปล้วงจิ๊คนไข้ตามหน้าที่ ปาร์คชานยอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะดิ้นไปมาบนพื้นเป็นเด็กๆ เสียงทุ้มตะโกนร้องโว้ยลั่นบ้านด้วยความไม่พอใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นไปนอนบนเตียงอีกครั้ง สะบัดผ้าห่มที่เป็นก้อนๆให้คลี่ออก ฉับพลันกางเกงชั้นในลูกไม้เนื้อบางสีดำสนิทก็หล่นร่วงลงบนพื้น ตาคมหลุบมองนิ่งเพียงครู่ ก่อนจะใช้สองนิ้วคีบมันขึ้นมาพิจารณา
     
    “ของใครวะ ..“
     
     
    เอ้อ ช่างแม่ง 
     
     
    โน้มหน้าลงไปหมายจะดม แต่ก็ต้องหลุดหัวเราะออกมาในความปัญญาอ่อนของตัวเอง ถึงจะดมไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าของใคร มือหนาเหวี่ยงมันออกไปที่ถังขยะมุมห้อง ไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีสี่ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เอาผ้านวมห่มคลุมขึ้นมาตั้งแต่ตีนยันหน้าผาก
    
    
    
    
    
     
    
    
    

    ครืดดดดด  ครืดดด

     

    เอาอีกแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
    
    
    “เอออออออออออ มีไรอีกแสรดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
     
    คว้าโทรศัพท์มากดรับก่อนจะตะโกนอัดปลายสายกลับไปด้วยโทสะ จะใช้กูแต่เช้าก็ให้กูนอนหน่อยสิวะ นี่ง่วงนะโว้ย ตกลงเห็นเขาเป็นน้องหรือขี้ข้ากันแน่เนี่ย
     
    “(ชะ .. ชานยอลคะ)“
     
    “อ่าว นี่ใครเนี่ย”
     
    แต่เสียงที่ตอบกลับมากลับไม่ใช่ older brother คริสตี้ปี้รองเท้าแตะอย่างที่เขาคิดไว้ กลับกลายเป็นเสียงหวานๆชวนฝันของผู้หญิงคนไหนสักคนที่เขาเองก็รู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินอยู่สามสี่ครั้ง เสียงทุ้มกลอกกลิ้งเปลี่ยนโทนแทบจะในทันที 
     
    “(แชรินไงคะตัวเอง นอนรึยังอ่า เค้าเหงาๆๆๆๆๆมากเลย มาหาหน่อยได้มั้ยคะ)“
     
    “แชริน .. ไซส์เล็กไซส์ใหญ่วะ “
     
    เสียงทุ้มห้าวพึมพำกับตัวเองเพื่อทบทวนความจำ ก็ใครใช้ให้เจ้าหล่อนชื่อโหลกันล่ะ แชรินที่เขาฟาดๆมาก็มีหลายคนซะด้วย ส่วนเรื่องไซส์ น่าจะเป็นหน้าอกไม่ก็สะโพกที่เจ้าตัวหมายถึง
     
    “(อะไรนะคะ)”
     
    “คุณผมง่วงอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อ..“
     
    “(เค้าเหงานี่นา!!!!!!!!!!)”
     
    “เห้อ ..อย่าหงี่สิตัวเอง ไว้พรุ่งนี้ค่อยจอยกันนะ ตอนเช้าผมมีงานต้องทำ”
     
    ไม่รู้สาเหตุเพราะว่าเหงาหรืออะไรกันแน่ที่ทำให้หล่อนโทรหามาเขาในยามวิกาลเช่นนี้ ถอนหายใจใส่โทรศัพท์ก่อนจะกดวางแล้วโยนมันไว้ข้างๆเตียง ร่างสูงโปร่งพลิกตัวนอนคว่ำแล้วหลับตาลงแล้วเข้าสู่นิทราอีกครั้ง 
     
     
     
    4.15 AM. Finally reach Chen home 
     
     
    “มึงไหวไหมเนี่ย “
     
    ยืนกอดอกกึ่งหลับกึ่งตื่นเกยอยู่หน้าเสาบ้าน หลังจากที่ขับรถมาจนถึงหน้าบ้านเพื่อนสนิทของพี่ชายของเขาจนได้ ด้วยความที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆพี่เฉินจึงเป็นพี่ที่เขาสนิทมากคนหนึ่งเลยทีเดียว น้ำเสียงที่เอ่ยทักในยามเช้านั้นช่างเป็นมิตรเสียเหลือเกิน ปาร์คชานยอลทำได้แค่เพียงส่ายหน้ารับเสียงกลั้วหัวเราะนั้นอย่างรัวๆตามแบบฉบับชาวร็อคเท่านั้น
     
    “จะไปไหนแต่เช้าวะนิ“
     
    “มีงานด่วนต้องไปเคลียร์”
     
    คนอายุมากกว่าตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นที่เบาะหลัง กระเป๋าเดินทางใบโตอีกสามสี่ใบถูกขนขึ้นไปไว้หลังท้ายรถโดยชายหนุ่มทั้งสอง 
     
    “โหเฮีย ขนไปขนาดนี้แบกตู้เย็นกะเสาบ้านไปด้วยปะเนี่ย “
     
    “คราวนี้ไปนานว่ะ สามสี่ปี “
     
    “เห้ยจริงปะเนี่ย ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ งี้ก็อดมาแดกข้าวฟรีที่บ้านเลยดิ “
     
    เหวี่ยงกระเป๋าขึ้นไปที่ท้ายรถอีกใบ ก่อนจะโดนโบกกะบาลดังเพี้ยะโดยรุ่นพี่คนสนิท เผลอๆเขาสนิทกับเฉินมากกว่าพี่ชายตัวเองเสียด้วยซ้ำ ปาร์คชานยอลกุมหัวก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นลงบนแขนอีกคนเบาๆเป็นการหยอกกันประสาพี่น้อง ก่อนทั้งคู่จะถูกดึงความสนใจโดยหญิงสาวท้องแก่ที่กำลังเดินพยุงท้องออกมาจากประตูไม้โอ๊คบานใหญ่ 
     
    “เห้ย บิบี๋ของปะป๊า โตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย “
     
    “เฮ้ยๆๆๆๆ ปะป๊าอะกู ไม่ใช่มึง “
     
    ทิ้งภาระแบกกระเป๋าให้อีกคนไปเสียอย่างนั้น ปาร์คชานยอลรีบปรี่เข้าไปช่วยพยุงครรภ์ให้ภรรยาคนสวยของรุ่นพี่คนสนิทพร้อมกับลูบไปที่ท้องโตๆของเธออย่างถือวิสาสะ เล่นเอาคุณพ่อตัวจริงถึงกับส่ายหน้าพร้อมกับเบะปากด้วยความหมั่นไส้กับความกะล่อนของน้องชายเพื่อนสนิท เรื่องผู้หญิงนี่อย่างไวขอให้บอก แม้แต่เมียเขามันยังไม่เว้น 
     
    ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงจากบ้านถึงสนามบิน กระเป๋าเดินทางพร้อมกับสัมภาระทั้งหลายแหล่ถูกโหลดขึ้นเครื่องไปหลังจากนั้น เฉินและภรรยายืนอยู่ที่หน้าเกท ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์หรือเมสเสจใดๆจากเพื่อนสนิท นอกจากส่งไอ้น้องชายตัวแสบมาบอกลาเขาแทน เจ้าตัวคงจะยุ่งอยู่กับงานมากจริงๆ
     
    ภรรยาคนสวยเดินเข้าไปนั่งรอในล๊อบบี้แล้ว เหลือก็แต่เฉินและชานยอลที่ยังยืนคุยกันอยู่ตรงนั้น ฉากจูบละมุนของรุ่นพี่ทำให้ปาร์คชานยอลรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอ้วกออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะเคยจูบผู้หญิงมานับไม่ถ้วนก็ตาม ร่างสูงโปร่งถอนหายใจ แค่แยกกันสิบนาทีนี่ต้องมีจูบลาเหมือนห่างกันจะเป็นจะตาย แล้วกับเขาที่กำลังจะจากกันเป็นปีๆ ถ้าเฉินเข้าเกทไปแล้ว คงไม่ต้องเอาปากครอบจมูกเขาเลยรึไงกัน
     
     
    แค่คิดก็เปรี้ยวมาถึงคอหอย .. 
     
     
    “กูพูดจริงๆนะไอยอล ไม่อยากไปเลยว่ะ กูใจไม่ดียังไงไม่รู้ “
     
    “ทำไมวะ “
     
    ไม่รู้จะยืนกันให้เมื่อยหว่างขาไปทำไม ปาร์คชานยอลหย่อนตูดลงนั่งบนราวเหล็กที่สูงขึ้นมาไม่พ้นเอว ใบหน้าหล่อเหลาได้ฤกษ์เงยขึ้นเสียทีหลังจากต้องเมื่อยก้มคุยกับอีกคนมานาน เอ่ยถามกลับไปในขณะที่อีกคนกำลังยืนทำหน้าเครียดเหมือนหมาแดกแฟ๊บอยู่ตรงหน้า ท่าทางจะซีเครียสมากจริงๆ
     
    “แบบ เมียกูก็ท้องแก่ อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ถึงกำหนดคลอดแล้ว แล้วนี่ก็บินไกลหลายชั่วโมง เกิดอยู่ดีๆคลอดกลางอากาศทำไงวะ “
     
    “ลูกพี่ก็เท่ห์เลยไง “
     
    “นี่มึงตลกมากปะเนี่ย “
     
    ไม่วายตบหัวน้องชายตัวแสบไปอีกรอบ แต่คราวนี้ปาร์คชานยอลหลบได้ทัน แต่เฉินกลับไม่มีกะจิตกะใจจะตีเขาอีกรอบ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหมดอาลัยตายอยาก คงจะมีเรื่องให้เครียดมากจริงๆ
     
    “จริงๆนะมึง เมื่อคืนกูฝัน แบบ.. ฝันไม่ดีเลยว่ะ “
     
    “ทำไมวะ ฝันว่าเมียมีชู้อะดิ “
     
    “ไอเด็กเหี้ยนี่ก็ อีกทีกูถีบมึงตกราวแน่ “
     
    “ตกลาว ก็ร่วงไปอยู่เขมรเลยดิงี้ นี่เรียนสังคมมานะ .. ฮันแน่ะ! หลบได้ ก๊ากกกกก“
     
    กวนตีนไปอีกระลอก จนกระทั่งคนอายุมากกว่าทนคันฝ่าเท้าไม่ไหวจึงได้ฤกษ์ประเคนตีนเสยเข้าให้ แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ยังหลบทัน เสียงหัวเราะชวนอารมณ์ดีนั้นไม่ได้ช่วยให้เฉินหายกังวลลงได้เลยแม้แต่น้อย
     
    “กูมีลางสังหรณ์ไม่ดีเลยว่ะ ถ้าเป็นพี่มึงมาคงปลอบกูได้ดีกว่านี้ นี่อะไร กวนตีนละยังมารับกูสายอีก ทิ้งให้เมียกูรอนานจนจะคลอดลูกได้แฝดได้สิบสี่คู่ละ “
     
    “คนหรือจิ้งจกวะนั่นคลอดออกมาเป็นคอกเลยแหม่ สายมาแค่ห้านาทีสิบนาทีนี่บ่นซะเหมือนผมขี่หอยทากไปรับงั้นอะ นี่เหยียบล้อกระพือสุดฟามสามารถละนะ รีบกว่านี้ก็โบกเจ็ทไปเองเลยละกัน ละไม่ต้องมาเปรียบผมกับมันเลย เออใช่ซี้ ใครจะไป very good like he ละ”
     
    “สกิลอิ้งมึงยังทุเรศกว่ามันด้วย “
     
    “โหเฮีย ระดับนี้ ไม่ใช่ขี้ไก่นะเว้ย นี่ขี้หมาเลยนะ ท่องเอถึงแซดจบแม่ก็แทบจะปิดซอยเลี้ยงแล้ว”
     
    “คือมึงจะเอาทุกมุกเลยใช่ไหม ดูหน้ากูซิ หน้ากูมีคำว่า ฮาจังเล้ย แปะอยู่บนหน้าผากมั้ย ? “ 
     
    “ไม่มีอะ มีแต่รอยย่น”
     
    เฉินถอนหายใจอีกครั้งเป็นรอบที่ร้อยของวัน ต่อปากต่อคำกะมันไปก็เท่านั้น แค่คุยกับไอ้เด็กนี่ไม่กี่ชั่วโมงก็เล่นเอาเขาแทบจะประสาทกินซะให้ได้ มือสากยกขึ้นลูบหน้าตัวเองลวกๆอย่างพยายามจะใจเย็น ความรู้สึกแย่ๆที่เขาคิดว่ามันจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเขาและภรรยายังคงอยู่ แต่จะไม่ไปก็คงไม่ได้ 
     
    “..ถ้าแบบ เออกูไปคนเดียวก็ว่าไปอย่าง เผื่อเครื่องบินตกงี้กูจะได้ตายคนเดียว ลูกกูยังไม่ทันได้เกิดมาลืมตาดูโลกเลย “
     
    “โหเฮียแม่งก็ปากหมาพอๆกับผมแหล๊ะ เอาหน่า อย่าคิดม้าก ถ้าตายคู่เดี๋ยวผมท้องแทนเอง ลูกเฮียจะได้เกิดมาลืมตาดูโลกไงดีแมะ โอเคร๊ เลิกคิดมากนะ ทีนี้เข้าเกทเหอะ เมียรอนานและ เดี๋ยวตกเครื่องนะ “
     
    เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเนือยๆก่อนจะเลื่อนสองมือขึ้นบีบนวดไปที่ไหล่ของคนอายุมากกว่าเพื่อคลายกังวล เขาเองก็ไม่รู้จะพูดปลอบใจอะไรยังไงดี ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยต้องมานั่งพูดหรือปรับทุกข์อะไรกับใคร จะพูดมากที่สุดก็ตอนเมาหรือไม่ก็เถียงกับแม่และพี่ชายเท่านั้นแหละ 
     
    “นี่เป็นห่วงกูขนาดนั้น “
     
    “เปล่าอะ เอาตรงๆแบบไม่ตอแหลเลยนะ ..คือผมง่วง อยากกลับไปนอนและ”
     
    ว่าไม่ว่าเปล่า แถมหาวอ้าปากกว้างแบบอมหัวเขาเข้าไปได้ทั้งหัวโชว์ให้ดูเป็นการยืนยันด้วย มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาก่อนจะเอาหน้าไถไปกับเสาปูนด้วยความง่วงสุดชีวิต ก็แหง ตื่นเช้าชิบหาย เขาเพิ่งจะได้นอนตอนตีสองเอง แถมยังมีมารโทรมากวนอีกสองสามนางให้รำคาญหูเล่นอีกต่างหาก กว่าจะหลับได้ก็เล่นเอาเหนื่อย
     
    “กูซึ้งจัง”
     
    “ซึ้งก็เอาไว้นึ่งดิ เข้าเกทๆ เดินทางดีๆ บิบี๋คลอดแล้วอย่าลืมตัดหัวส่งอีเอ็มเอสมาให้ผมดูด้วยนะ อยากเห็นหน้าหลาน ไปและ บัย “
     
    หลังแอ่นออกมาจากหน้าประตูทันทีที่ถูกฝ่าเท้าของรุ่นพี่คนสนิทยันให้เข้าที่กลางหลัง ปาร์คชานยอลโบกมือบ๊ายบายอีกครั้งก่อนจะตรงปรี่กลับไปที่รถในทันที เปิดประตูเข้าไปนั่งตรงเบาะคนขับแล้วเปิดเพลงดังๆอัดรูหูแม้ว่าจะง่วงขนาดไหนก็ตาม ก่อนรถคันหรูจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนคอนโซลหน้ารถ
     
     
    วันนี้บ่ายสอง ที่เก่า เวลาเดิมนะคะที่รัก . from Honey 
     
    
    
    โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย เกิดมาฮอตนี่มันเหนื่อยใจจริ๊งงงงงงงงงงงงงงง 
    
    
    
    
    ✧✧
     
     
     
    เสียงล้อบดถนนดังมาแต่ไกล ไม่กลัวเลยว่ายามจะเปิดที่กั้นเหล็กขึ้นให้ไม่ทัน รถคันหรูเลื่อนมาจอดตรงที่จอดรถของอาจารย์แบบตรงล็อคเป๊ะๆอย่างถือวิสาสะ เปิดประตูพรวดก่อนจะก้าวขาลงจากรถในท่วงท่าที่คิดว่าเท่ห์ที่สุด กระเป๋าหนังใบขนาดกำลังดีถูกเหวี่ยงขึ้นสะพายบ่า ทุกสายตาจับจ้องมองมาอย่างให้ความสนใจเหมือนทุกครั้ง มือเรียวดันแว่นสายตาขึ้นให้พอดีกับเหง้าดั้ง สะบัดผมเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพียงเท่านี้ก็เรียกเสียงกรีดร้องจากบรรดาชะนีมอต้นมอปลายบนตึกชั้นสองได้อย่างชะงัดนัก
     
    “อร๊ายยยยย กริ๊ดดดดดดดดดดด พี่ชานยอลคะ ลืมปิดประตูรถค่า!!!!
     
    แทบจะขาขวิดสะดุดกางเกงตัวเองล้มหน้าคะมำเสียอย่างนั้น เมื่อเสียงแหลมจากชั้นสองตะโกนลงมาพร้อมกับชี้ไปที่รถสปอร์ตคันหรูของเขาแล้วดิ้นเร่าๆเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวก ปาร์คชานยอลชะงักไปเพียงครู่ กระแอมไอกลบอาการเสียเซลฟ์ของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มหล่อละลายใจไปให้น้องนักเรียนหญิงที่ยืนกัดแปรงลบกระดานระงับความเขินอยู่ข้างบน เรียกเสียงกริ๊ดอีกระลอก
     
    “ขอบคุณที่เตือนนะครับ “
     
    “กริ๊ดดดดดดดด แกร!! เค้ายิ้มให้ชั้น พี่ชานยอลยิ้มให้ชั้น!!!!!!
     
    “เค้ายิ้มให้ชั้นต่างหากยัยกระเทยเจ็ดป่าช้า!!!!!
     
    ส่ายหัวน้อยๆอย่างเอือมระอาในความฮอตจัดของตัวเอง เหนื่อยใจจริ๊ง ไม่ว่าหันไปทางซ้าย สไลด์ไปทางขวา แคะขี้มูกแล้วเอามาป้ายกางเกง หรือจะทำอะไรสาวๆก็กริ๊ดไปซะหมด ปาร์คชานยอลหมุนตัวกลับหลัง ก่อนจะสาวเท้าเร็วๆไปที่รถแล้วรีบปิดประตู กดล็อคอย่างไวแล้วรีบจรลีออกไปจากตรงนั้นด้วยความอับอาย ยังดีที่น้องผู้หญิงเตือนเขาก่อนที่รถคันหรูที่อุตส่าห์ไปหรอยdaddyมาจะถูกขโมยเอาไป ร่างสูงโปร่งถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก อย่างน้อยตรงนั้นก็ไม่ได้มีคนเยอะมากมายเท่าไหร่ ไม่นานก็น่าจะลืมไปเองละมั้ง
     
    คงจะเป็นเรื่องแปลกที่หนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนอย่างปาร์คชานยอลมาปรากฏตัวที่โรงเรียนก่อนแปดโมงครึ่ง ใครๆถึงพากันมองพลางซุบซิบไม่หยุด และไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามแต่ สุดหล่อไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น กลับเดินเชิดตรงไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นและจริงจังประหนึ่งนายแบบในปกนิตยสาร เขาชอบเสียด้วยซ้ำไปหากจะได้เป็นที่สนใจของทุกๆคน 
     
    ก็กูหล่อ กูเทพ กูอบอุ่นและแสนดี แค่หูกูก็ชนะแล้ว ใครจะทำไม๊ ??????????????????
     
     
     
    “อ่าวเฮ้ย ขอเชิญ องค์ปาร์คเทพบุตร หล่อเซ็กส์สเป็คตุ๊ด มาจุติ ณ เก้าอี้เลยพะยะค่ะ “
     
    คิมจงอิน เอ่ยแซวเพื่อนสนิทที่วันนี้มาโรงเรียนแต่หัววัน แอบหยิกแขนตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นไอเพื่อนตัวดีเดินหูสะบัดมาแต่ไกล ปาร์คชานยอลเพียงแค่ยักคิ้วกวนๆให้ก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งฝั่งตรงข้ามเพียงเท่านั้น
     
    “เมื่อคืนไม่ได้ไปไหนหรอวะ “
     
    “ไปเมื่อวานตอนบ่าย กลับไปกูก็นอนตายอยู่บ้าน ง่วงว่ะ “
     
    ตอบเนือยๆก่อนจะเอาหน้าไถไปกับโต๊ะหินอ่อนตรงหน้า โดยไม่ลืมเอาหนังสือมารองไว้ก่อนด้วยเกรงว่าฝุ่นละอองที่หนาสิบแปดนิ้วบนโต๊ะนั้นอาจจะทำอันตรายต่อใบหน้าอันหล่อเหลาที่ใช้หากินก็เป็นได้ ดวงตาคมหลับลงเพียงครู่ ก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วกวาดมองไปโดยรอบ ไม่เห็นเพื่อนอีกสองคนที่ปกติแล้วจะต้องอยู่กวนให้คันฝ่าตีนเล่นๆแถวๆนี้ 
     
    “หาไร “
     
    “แฟนกูอะ ไปไหน “
     
    เอ่ยถามถึง แฟน ที่เรียกกันเล่นๆเพราะว่ามันน่ารัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีกะใจจะหันไปมองทางไหนนอกจากเอาแก้มแนบหนังสืออยู่เฉยๆด้วยความเพลีย
     
    “ไปเสือกกับไอ้ลู่อยู่หน้าห้องปกครอง เดี๋ยวก็มามั้ง “ จงอินตอบ กรีดนิ้วเคาะลงบนโต๊ะพลางมองไปทางห้องปกครองที่อยู่ใต้ตึกวิทย์ไกลๆ
     
    “ห้องปกครองมีไรวะ “
     
    “กูจะไปรู้มะ ก็นั่งอยู่กะมึงเนี่ย “
     
    “งั้นโทรบอกมันว่าขากลับซื้อกาแฟสหกรณ์ให้กระป๋องนึง “
     
    ตอบไปเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นยืน เล่นเอาคนที่นั่งอยู่งงเป็นไก่ตาแตก ทั้งๆที่มันเพิ่งมานั่งแท้ๆ แถมโทรศัพท์ตัวเองก็มียังจะมาใช้เขาอีก คิมจงอินตะโกนท้วงในขณะที่ไอเพื่อนตัวดีกำลังเดินสะบัดหูออกไปไกลจากวิถีกระสุนเรื่อยๆ
     
    “เฮ้ยๆๆๆๆแล้วนั่นมึงจะไปไหน “
     
    “ไปนอนห้องพยาบาล เก็บชีทไว้ให้กูด้วย ไปและ “
     
    โบกมือลาแบบขอไปที ก่อนจะเดินตัวปลิวออกไปเลย ทิ้งกระเป๋าหนักๆไว้ให้เพื่อนแบกอีกต่างหาก แทบจะถอดรองเท้าเขวี้ยงแบบกะเล็งให้โดนหัว แต่ชานยอลคงขายาวเดินเร็วเกินกว่าที่เขาจะปาได้ทัน นอกจากจะหน้าแตกแล้วยังต้องวิ่งตีนเปล่าไปเก็บรองเท้าอีกต่างหาก คิมจงอินส่ายหัว มันไม่คุ้มเลยจริงๆ เก็บไว้อมเล่นดีก่างั้น
     
    กึ่งเดินกึ่งบินพาร่างในกายหยาบของตัวเองไปที่ห้องพยาบาลที่อยู่ตึกหลังสุดของโรงเรียน ไหล่กว้างห่อลงเล็กน้อยพลางยื่นมือไปบีบนวดมันด้วยความปวดเมื่อย เดินผ่านพวกนักเรียนที่นั่งเรียงรายเป็นตับอยู่ใต้ตึก บ้างก็อ่านหนังสือ บ้างก็ลอกการบ้าน บ้างก็เม้าหมอยกันอย่างออกรส ตอนนี้เขาชักจะไม่อยากเป็นที่สนใจของใครซะแล้วสิ ได้ยินเสียงคนพูดคุยซุบซิบที่เอ่ยถึงเขาแล้วมันก็ทำให้เขารู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมาเสียอย่างนั้น 
     
    “คาราบาววววววววว “
     
    เปิดประตูเข้าไปในห้องพยาบาลพร้อมกับน้ำเสียงที่ลากยานคางจนฟังแล้วหลอน เรียกความสนใจจากอาจารย์สาวสวยในห้องพยาบาลได้เป็นอย่างดี นวลลออผินใบหน้าหันกลับมามองที่หน้าประตู เอียงคอเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและท่าทางน่าฟัดเป็นที่สุด
     
    “เอ่อ ? .. อะไรคะ ? “
     
    “คาราบาว .. ก็ แอ่ดดดดดดไงครับ เสียงเปิดประตูอะ ฮ่าๆ “
     
    ปล่อยมุกโง่ๆออกไปหนึ่งมุกเพื่อเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากอาจารย์คนสวย ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเมื่ออีกคนให้ความร่วมมือ ปาร์คชานยอลกลั้วะหัวเราะตามก่อนจะเดินเข้าไปหา อาจารย์คนสวยรีบเข้าไปพยุงในทันทีที่ร่างสูงโปร่งที่ยืนโงนเงนเหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่นั้นเข้ามาใกล้
     
    “เป็นอะไรเนี่ย “
     
    “เป็นโรคไตอะครับ “
     
    “ว้ายตายแล้ว เป็นหนักขนาดนี้ไปโรงบาลเดี๋ยวนี้เลยค่ะนักเรียน “
     
    อุทานเสียงดังก่อนที่มือนุ่มนิ่มคว้าฉวยเอาที่ต้นแขนแกร่งแล้วออกแรงดึงให้เด็กหนุ่มลุกขึ้น ดูจากท่าทางของเธอแล้วจะตกใจไม่ใช่น้อย ปาร์คชานยอลหลุดขำ ถือวิสาสะวางมือทับลงกับมือขาวแล้วจับมันให้เลื่อนลงมากุมที่ตัก เล่นเอาคุณครูสาวตกใจยิ่งกว่าเดิม
     
    “ไตหาหัวจามอะครับ “
     
    “เอ่อ .. ที่ห้องพยาบาลโรงเรียนเค้าไม่อนุญาตให้ครูจ่ายยาระงับประสาทให้นักเรียนนะคะ ครูว่าเดี๋ยวยังไงเราพักซักหน่อยก็น่าจะหาย สงสัยเป็นลมแดด “
     
    “โห่จารย์อะ!!!!
     
    เหมือนมุกควายๆที่เล่นไปสองสามมุกจะไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย อีกอย่าง คุณครูสาวก็ไม่ได้มองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อมหยาดเยิ้มแบบที่พวกชะนีมอต้นมอปลายในโรงเรียนทำด้วย หญิงสาวเพียงแค่หัวเราะน้อยๆพลางส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานที่เดิม เธอมีงานที่ต้องทำ
     
    “ทำอะไรอยู่หรอครับ ? “
     
    แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้ ขาเรียวยาวก้าวฉับไปยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน เท้าฝ่ามือหนาลงบนกระจกใจแล้วโน้มตัวลงไปถาม เหมือนเจ้าตัวจะคิดว่าทุกคนคงจะชอบและหลงใหลเขาเสมอไปอย่างที่เคยได้เจอ แต่คงไม่ใช่กับอาจารย์คนนี้ เสียงทุ้มนุ่มละลายใจที่เอื้อนเอ่ยใกล้อยู่ใบหูไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
     
    “อีกห้านาทีเข้าแถวนะนักเรียน แต่ถ้าจะโดดแถวแล้วมาแกล้งป่วยอยู่ที่นี่ ครูแนะนำว่าเธอควรมีคะแนนจิตพิสัยมากพอที่จะให้ทางโรงเรียนหักนะ “
     
    อาจจะดูเป็นการเฉยชาไปเสียหน่อย หากใบหน้าสวยหวานนั้นไม่ได้มีรอยยิ้มแต้มอยู่ แก้มใสแดงเรื่อเล็กๆ คงไม่ใช่เพราะเขา แต่เป็นเพราะอากาศที่เริ่มจะอบอ้าวอยู่ในตอนนี้ต่างหาก ชานยอลอมยิ้ม ทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะทำงานของอาจารย์ เขาจะไม่ยอมปล่อยอาจารย์คนสวยที่อุตส่าห์เล็งไว้มาตลอดอาทิตย์ไปง่ายๆหรอกนะ 
     
    “ครูยังไม่ได้บอกผมเลยว่าทำอะไรอยู่” 
     
    “ไว้ถ้ามันเกี่ยวกับเธอเมื่อไหร่ครูจะบอกนะ “
     
    “คารมณ์ใช้ได้นะครับคนนี้ “
     
    หัวเราะหึๆในลำคออย่างนึกขัน มีไม่กี่คนที่ต่อปากต่อคำกับเขาได้เรื่อยๆในขณะที่เขาพยายามจะต้อนให้จนมุมแบบนี้ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงไปใกล้อีก ใกล้จนได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆจากเรือนผมสีเข้ม แต่แล้วยังไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น ประตูหน้าห้องพยาบาลก็เปิดผ่างออกอย่างแรง
     
    “โย่ว ดีครับจารย์!!!!!!!!!
     
    “อ่าวไงลู่หาน มาเอายาอีกหรอ “ 
     
    หันขวับกลับไปทันทีที่ได้ยินชื่อเพื่อนสนิท ลู่หานยืนจังก้าอยู่หน้าประตูที่เปิดกว้างให้ยุงเข้าเล่นๆ ด้านข้างมีหัวของเพื่อนอีกสองคนยื่นเข้ามาอย่างเสร่อ ปาร์คชานยอลถอนหายใจ จะมาเต๊าะคนนี้เล่นซักหน่อยไอพวกเวรนี่ก็ทำเสียบรรยากาศ(อันเบาบาง)ซะหมด
     
    “เปล่าครับ มารับเพื่อนไปเข้าแถว “
     
    “เฮ้ย! โว้ยยยยปล่อยกูวววววววววววววววววววววววววววววว“
     
    เหมือนจะมีลางสังกรณ์แปลกๆ จิตใต้สำนึกสั่งให้เขารีบลงจากโต๊ะกระจกแล้วหาอะไรเกาะไว้ให้มั่น ลู่หานเดินแหวกอากาศมาทางนี้อย่างเร็ว พร้อมกับจงอิน และเซฮุนเพื่อนในแก๊งค์ของเขา ก่อนร่างควายๆจะถูกเพื่อนที่ตัวเล็กแต่แรงเยอะกว่าจับรวบหัวรวบหางขึ้นหามทั้งแขนขาออกไปจากห้อง ชานยอลดิ้นพล่านไม่หยุด รู้สึกอายเมื่อต้องมาทำอะไรงี่เง่าต่อหน้าสาวเสียจริงๆ
     
    “ให้เค้ามาติดมุ้งลวดได้แล้วนะครับ แถวนี้แมงดาเยอะแยะเลย ผมไปและ บัย“
     
    โบกมือพร้อมกับยิ้มร่า จนกระทั่งสามสหายพากันกึ่งฉุดกึ่งลากไอ้เพื่อนเจ้าชู้ให้ออกห่างจากอาจารย์คนน่ารักได้สำเร็จ จับแม่งโยนลงบนพื้นหญ้าแล้วหัวเราะคิกคักสะใจ ปาร์คชานยอลรีบลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวก่อนจะชูนิ้วกลางให้เพื่อนทั้งสามอย่างสุภาพ 
     
    “กับครูนี่มึงยังไม่เว้นเลยไง๊ “ ลู่หานพูด ตบหัวเพื่อนไปหนึ่งที แต่เจ้าตัวหลบได้ด้วยสกิลเทพ
     
    “ก็ครูก็ผู้หญิงปะละ “
     
    “นี่ก็ทำไมหน้าตัวเมียจังเลยอะครับ “ 
     
    เซฮุนเอ่ยแขวะ ก่อนจะเดินนำไปที่หน้าเสาธงซึ่งตอนนี้เปิดเพลงมาร์ชโรงเรียนรอไว้อยู่แล้ว ปาร์คชานยอลหันไปมองหน้าเพื่อนอีกสองคนที่เหลืออย่างขอความคิดเห็น จงอินยักไหล่ ไม่ได้พูดอะไรนอกจากนั้น แถมยังเจอลู่หานขำอัดหน้าเข้าให้อีกต่างหาก 
     
    “โห่ยทำไมแฟนพูดกับพี่แบบนี้อะครับ!!!!!
     
    พุ่งเข้าชาร์จคนตัวเล็กกว่าจากข้างหลังจนเซฮุนเซไปข้างหน้า ลำแขนแกร่งโอบรอบร่างบางๆนั้นไว้แน่นแล้วโถมตัวทิ้งน้ำหนักลงไปเต็มๆแบบไม่มีกั๊ก เอาหัวไถคออีกคนไปมาด้วยความมันเขี้ยว เส้นผมสีแดงเข้มคลอเคลียอยู่ที่ผิวคอจนเซฮุนต้องหลุดขำออกมาด้วยความรู้สึกจั๊กจี้ ข้อศอกเล็กถองเข้าเต็มๆที่สีข้างจนชานยอลต้องร้องออกมาด้วยความจุก 
     
    “ก็มันจริงมั้ยล่ะครับ “
     
    ตอบเพียงเท่านั้นพลางยื่นกาแฟกระป๋องที่เจ้าตัวฝากซื้อเมื่อเช้าให้ ชานยอลอมยิ้มก่อนจะรวบทั้งมือขาวและกระป๋องกาแฟมากุมไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณด้วยเสียงหวานๆ เซฮุนทั้งนุ่มนิ่มทั้งน่ารักเสียจนอยากจะจับฟัดมันซะเดี๋ยวนี้
     
    “เนี่ย ขนาดกับเพื่อนมึงยังไม่เว้นเลย “
     
    “ทำไม๊!!! ก็แฟนเค้าน่ารักงะ”

     

    ลู่หานเดินมาเทียบข้างๆพลางเอ่ยแขวะอีกครั้ง ชานยอลยักไหล่เป็นคำตอบก่อนจะโน้มหน้าลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มนั่นฟอดใหญ่ราวกับจะยั่วโมโห ทั้งยังหันมาส่งยิ้มแป้นยียวนกวนส้นตีนให้อีกต่างหาก

     

    “ไอสัดนิ เดี๋ยวมึงเจอแข้งทองสลาตัน!!!

     

    คว้ากระป๋องกาแฟวิ่งหนีไปแล้ว แต่มีหรือลู่หานจะยอม มันผู้ใดที่กล้ากระตุกหนวดเสือ มันผู้นั้นจะต้องได้รับผลกรรมตอบแทนอย่างสาสม ร่างโปร่งรีบวิ่งตามไปอย่างไวหมายจะเตะก้นไอเพื่อนตัวดีแรงๆสักหนึ่งที ทิ้งให้เซฮุนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

     

    “เขินมันล่ะสิ “

     

    กระทั่งคิมจงอินที่เดินล้วงกระเป๋าอยู่ข้างหลังสุดเดินขึ้นมาอยู่ข้างๆ เสียงทุ้มเอ่ยถามทั้งๆที่ไม่ได้มองคู่สนทนา เซฮุนหันไปมองเสี้ยวหน้าคมเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหลบสายตาเมื่ออีกคนจ้องมองมาที่เขา

     

    “ปะ .. เปล่านะครับ  มะ ..“

     

    “เปล่าก็เปล่า ไปเข้าแถวสิ “

     

    ตอบกลับด้วยเสียงเรียบ ก่อนจะพยักพเยิดไปตรงท้ายแถวที่มีลู่หานกับชานยอลวิ่งไล่เตะก้นกันอยู่ตรงนั้น เล่นเอาเซฮุนที่กำลังคิดหาคำพูดดีๆมาตอบต้องเงียบลงอย่างเดิม

     

    “เอ่า ยืนบื้ออยู่ได้ เดินไปสิ หรือต้องให้จูงมือไหม “

     

    “มะ .. ไม่ต้องหรอกครับ “

     

    หลบตาอีกแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมตาคมคู่นั้นถึงดูน่ากลัวเหลือเกิน เซฮุนตอบไปเท่านั้นก่อนจะรีบเดินนำไปที่แถว เขาไม่ชอบที่จะอยู่กับจงอินสองต่อสองเลยจริงๆ

     

     

    ✧✧

     

     

    แทบจะไม่ต้องไปต่อแถวซื้ออาหารในโรงอาหารที่คนยั้วะเยี้ยะเป็นปลาดุกในคลองข้างวัด หนุ่มๆทั้งสี่ก็แทบจะมีทุกอย่างมาประเคนให้ถึงที่ ทั้งอาหาร ขนมนมเนย เครื่องดื่มนานาชนิดนับกันไม่หวาดไม่ไหว ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณปาร์คชานยอลที่ทำให้พวกเขาประหยัดเงินในส่วนนี้ เพราะลำพังแค่เจ้าตัวคนเดียวก็กินไม่หมด

     

    “ถ้ากูเป็นมึงนะ กูจะเปิดมินิมาร์ท ละเอาของที่บรรดาชะนีน้อยใหญ่ให้มาเนี่ย เอาไปขาย รวย”

     

    ลู่หานเอ่ยในขณะที่กำลังแกะขนมห่อที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ยัดเอายัดเอาเหมือนอดอยากมาสิบชาติ อันที่จริงมันก็มีบ้างแหละที่มีคนมาชอบหรือให้ของกับเขา แต่มันก็แค่เล็กๆน้อยๆเท่านั้นเมื่อเทียบกับอิหูกางที่นอนพิงเอาขาขึ้นมาพาดโต๊ะนักเรียนอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ามันหล่ออะไรตรงไหนสาวๆถึงได้กริ๊ดมันซะขนาดนั้น เขาล่ะอิจฉาจริงๆ

     

    “ลู่หานทำไมเห็นแก่เงินจังครับ “

     

    เซฮุนที่กำลังเคี้ยวขนมปังตุ้ยๆเต็มสองแก้มเอ่ยขึ้นมาบ้าง ไม่รู้ทำไมเขาถึงต้องพูดเพราะขนาดนั้นกับเพื่อนที่สนิทกันมาเป็นปีๆ อาจจะเป็นเพราะสังคมครอบครัวที่เขาอยู่มันขัดเกลาสั่งสอนเขาไม่ให้กล้าพูดหยาบคายกับคนอื่นๆละมั้ง

     

    “เซฮุนก็ทำไมขี้แขวะจังล่ะครับหืม กินๆไปเถอะ พูดมาก “

     

    “มึงอะพูดมากกว่ามันอีก “

     

    ลู่หานตอบกลับพร้อมกับเลื่อนมือไปหยิกแก้มนิ่มของเซฮุนด้วยความันเขี้ยว จนปาร์คชานยอลที่ทนความหมั่นไส้มันไม่ไหวต้องยกตีนที่พาดโต๊ะนักเรียนอยู่มาถีบมือปลาหมึกนั่นให้ออกไปไกลๆจากคนน่ารัก

     

    “เออว่าแต่ อิเจ๊คนนั้นเค้าเป็นไรอะ กูเห็นนางนั่งร้องไห้มาตั้งแต่คาบแรกละ”

     

    ปาร์คชานยอลหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง คว้ากระป๋องน้ำอัดลมมากระดกดื่มพลางพยักพเยิดไปที่เพื่อนร่วมห้องที่นั่งฟุบหน้าร้องไห้อยู่มุมห้องคนเดียว เห็นเจ้าหล่อนร้องไห้มาตั้งแต่เช้า แถมบางวันมาโรงเรียนบ้างไม่มาบ้าง ไม่รู้ว่าที่บ้านมีปัญหาอะไรรึเปล่า ต่อมเสือกที่ตื่นตัวมันกระตุ้นให้เขาต้องถามออกไปแบบนั้น

     

    “อยากรู้ละสิ “ ลู่หานถามพลางชะโงกหน้าเข้ามา

     

    “เอ่า ไม่อยากรู้แล้วกูจะถามไหมเพื่อน ถามแบบนี้จะเอาตีนรึปะนิ“

     

    “กูไม่บอกและ “

     

    “ถ้ามึงไม่บอก กูจะลุกไปถาม ดีไหม ? “

     

    “เออๆๆๆๆๆ กูบอกแล้ว กูบอกกกกกก นั่งลง now!!

     

    คว้าชายเสื้อเพื่อนแทบไม่ทันเมื่อปาร์คชานยอลลุกพรวดขึ้นทำท่าจะเดินไปหาเพื่อนคนนั้นจริงๆ เหมือนจะพอจำหน้าได้ว่าอยู่ห้องเดียวกัน แต่ชื่ออะไรเขาเองก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน วันๆสนใจอะไรซะที่ไหนละ คนไม่สวยก็ไม่น่าสนสำหรับเขาหรอก

     

    “ก็เนี่ย ที่กูไปเสือกมาอะ เมื่อเช้าแม่เค้ามาคุยกับทางโรงเรียน เห็นว่าเค้าให้ออกอะ “

     

    “เฮ้ย ไล่ออกเลยหรอวะ ทำไมอะ “

     

    ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย สภาพงี้ไม่น่าจะเตะอาจารย์หรือเผาโรงอาหารได้นะ ทำไมถึงโดนโทษร้ายแรงถึงขนาดไล่ออก ตั้งแต่เขาอยู่มาก็ไม่เคยเห็นใครโดนไล่ออกเลยสักคน อย่างมากก็แค่พักการเรียนหรือไม่ก็โดนทัณฑ์บน เพราะโรงเรียนนี้ก็ไม่ได้เคร่งกฎระเบียบอะไรมากมายเท่าไหร่

     

    “เค้าท้องน่ะครับชานยอล “ เซฮุนตอบ

     

    “หะ ?? ท้อง .. หน้างี้มีคนเอาด้วยอ่อวะ “

     

    “มึงจะตะโกนให้เค้าได้ยินเลยไหม ? เค้าจะได้มาร้องไห้แล้วก็กริ๊ดใส่มึงไง “

     

    เป็นจงอินที่เอ่ยปราม ตอนนี้ทั้งสี่คนกำลังนั่งนินทาหล่อนในระยะเผาขน จ้องมองไปที่แผ่นหลังอันสั่นเทาด้วยแรงสะอื้นไห้ของหญิงสาว ช่างน่าสงสารที่ต้องมาจบอนาคตเพียงแค่ท้องก่อนเรียนจบ ไม่น่ารีบชิงสุกก่อนห่ามเลย

     

    “ท้องได้ไงวะ “

     

    ปาร์คชานยอลลดเสียงลงจนกลายเป็นกระซิบ แทบจะฟังไม่รู้เรื่องถ้าไม่อ่านปาก นี่ก็เว่อร์เกิน มึงรู้จักคำว่าพอดีบ้างไหม จงอินกลอกตาอย่างเอือมระอา ไม่สนใจที่จะสนทนาอีก

     

    “ก็เอากันสิวะถึงได้ท้องอะ ไม่งั้นมึงจะให้เค้าท้องกับอะไร ด้ามไม้กวาดเรอะ ? พ่อเด็กก็อยู่เนี่ย ห้องห้า ถัดจากห้องเราไปห้องนึง โดนไล่ออกเหมือนกัน“

     

    ลู่หานตอบให้หายแคลงใจทั้งๆที่ขนมยังเต็มปาก ว่าเขาพูดดังมันก็พูดดังพอกันนั่นแหละ จนกระทั่งบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงในบทสนทนากันมาทางพวกเขาก็ได้ฤกษ์วงแตก จากที่นั่งๆสุมหัวกันอยู่ก็เป็นอันต้องไปหาอะไรอย่างอื่นทำแทน ชานยอลแกล้งหลับ ในขณะที่ลู่หานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำเป็นคุยทั้งๆที่ถือกลับด้าน เซฮุนหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านบังหน้า มีเพียงจงอินคนเดียวที่กล้าสบตากับเธอ ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหาเธอแล้วพูดคุยอะไรบางอย่าง

     

    “ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ ไงสักวันคนอื่นก็ต้องรู้อยู่ดี จะเอากันทำไมไม่ใส่ถุงวะ โง่ชิบหาย “

     

    “นั่นสิครับ ไม่น่าเลย”

     

    ดวงตาคมจ้องมองไปยังเพื่อนสนิทที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นโดยมีเสียงของสองเพื่อนซี้คุยกันเป็นแบคกราวด์ หน้าตาของเธอดูอิดโรยไร้เรี่ยวแรง ดวงตาแดงช้ำจากการร้องไห้เป็นเวลานาน จงอินบีบไหล่เธอเบาๆเป็นการให้กำลังใจ ปาร์คชานยอลกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปอย่างฝืดคอ อยู่ๆก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆยังไงชอบกล เหมือนเหงื่อจะไหลออกมาเต็มแผ่นหลังและขมับ ฉับพลันข้อความจากโทรศัพท์มือถือก็แจ้งเตือนขึ้นมา ดวงหน้าคมก้มลงมองที่หน้าตักของตัวเองสลับกับรูปของหญิงสาวคนหนึ่งที่ปรากฏบนหน้าจออย่างคิดไม่ตก

     

     

    จะเอากันทำไมไม่ใส่ถุงวะ ..

     

     You’ve received 1 message 

    พี่ชานยอล วันนี้คุณพ่อไม่อยู่ ตอนเย็นรบกวนช่วยไปส่งที่บ้านหน่อยได้มั้ยคะ.

     

     

     

    เขายังไม่อยากโดนไล่ออกตอนนี้นะ

     

     

     

     ______________________________
    100percent complete wow!!!!!!!!!!!!!
    จบไปแล้วกับแชปเตอร์ง่อยๆแชปเตอร์แรก ตอนนี้จะย้อนไปตั้งแต่ก่อนบิบี๋จะเกิด
    เอ่างง งงละสิว่าพระเอกสุดฮอตของเราท้องได้ยังไง แล้วบิบี๋จะเกิดมายังไง
    โปรดติดตามที่นี่ที่เดียวเท่านั้น!!! (ข้างผนังห้องน้ำไม่มีให้อ่านนะโว้ย)
    อย่าลืมนะครับผู้โดยสารทุกท่าน ชิดใน ใส่เกียร์หมา สถานีเดิม #ficheypapa
    สำหรับวันนี้ สวัสดีคร่าาาาาา  
     
     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×