Not Fun!..นี่มันไม่ตลกเลยนะ [SNSD & SJ]
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่นอนอยู่ข้างกายเขา ไม่ใช่คนรักของเขาเอง ... [100 %][Haesica,Kyuseo]
ผู้เข้าชมรวม
3,662
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แก้ไขคำผิด
31/07/54
N❤t Fun!…นี่มันไม่ตลกเลยนะ
วันนี้ เป็นวันจบการศึกษาของเหล่านักเรียนไฮสคูลปีสุดท้าย งานปาร์ตี้อำลาถูกจัดขึ้นโดยความร่วมมือของเหล่านักเรียนทั้งหลายที่ตั้งใจ กับงานโรงเรียนครั้งสุดท้ายของพวกเขาอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าก่อนถึงเวลาจริงนักเรียนทั้งชายและหญิงต่างก็สรรหาชุดมาประชัน กันอย่างเต็มที่เช่นกัน
“ซอฉันว่าชุดนี้ไม่ผ่านนะ ไม่เอาๆเปลี่ยนๆๆๆ”
สองสาวเพื่อนซี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกชุดอย่างเอาเป็นเอาตาย งาน นี้จะมีสื่อมาด้วยเพราะว่าเป็นไฮสคูลชื่อดังที่มีแต่ลูกหลานคนใหญ่คนโตทั้ง นั้นที่เรียนที่นี่ และเพราะอย่างนี้เหล่าเซเลบวัยทีนทั้งหลายจึงสรรหาชุดที่ดีและเริ่ดที่สุด ให้กับตัวเอง
“นี่สิ .. ชุดนี้แหละเหมาะมาก ส่วนชุดนี้ก็ของฉัน” เจสสิก้าสาวสวยสุดเชิ่ด เดิน ดูเสื้อผ้าในร้านอย่างพิจารณาก่อนจะเลือกชุดเดรสสั้นที่น้ำตาลโอวัลตินอ่อน ที่จับเดบเป็นรูปโบดอกไม้ขนาดใหญ่สไตล์หวานปนเซ็กซี่เล็กน้อยให้ ก่อนจะหยิบชุดเดรสสั้นสีน้ำตาลครีมที่รัดรูปช่วงบน จับเดบที่กระโปรงระบายหลายชั้น ที่แขวนอยู่ข้างๆกันออกมาให้ตัวเอง
“งั้นเอาสองชุดนี้ค่ะ” ซอฮยอนหันไปบอกพนักงานสาวพร้อมกับส่งบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินให้แก่เธอ
ระหว่างทางกลับบ้านรถของซอฮยอนก็ดันเกิดมาดับซะดื้อๆ สองสาวเดินลงมาจากรถอย่างหัวเสีย
“ไอ้ รถบ้านี่คนยิ่งรีบๆอยู่ ..โอ๊ยย” ด้วยความโมโหซอฮยอนสบถออกมาก่อนจะตวัดเท้าเข้าไปที่ล้อรถด้วยความโมโหอย่าง แรง หวังจะระบายอารมณ์แต่กลับได้ความเจ็บปวดกลับมาแทนซะนี่
“ฮ่าๆๆ นี่ซอความจริงแกไม่ใช่คนโง่นะ” เจสสิก้าระเบิดหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เห็นเพื่อนของตัวเองเจ็บตัว
“ยัยเจสสิก้า จอง มายืนเด๋ออะไรอยู่ตรงนี้เนี่ย” เสียงที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับรถสปอร์ตสีแดงเพลิงคันหรูที่ขับมาเทียบข้างๆ
“ยืนเด๋อบ้านนายสิ รถของซอฮยอนเสียย่ะ”
“รถเสียเหรอ งั้นก็กลับด้วยกันเลยสิ .. คุณซอฮยอนกลับด้วยกันสิครับ”
“2มาตรฐานชะมัดเลย” เจสสิก้าพึมพำอยู่คนเดียว
“แต่ ของยุนเต็มเบาะหลังเลยนะคะ คงจะไม่มีที่พอสำหรับ2คนนี้หรอก”ไม่ทันทีที่ทงเฮพูดจบยุนอาแฟนสาวของเขาก็ พูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบ โดยที่ไม่หันมามองคนข้างๆเลยว่าเขารู้สึกเสียหน้าแค่ไหน
“ขอบคุณมากค่ะ แต่พอดีซอโทรบอกคนรถที่บ้านให้มารับแล้ว” ซอฮยอนปลายตามองหญิงสาวที่นั่งบนรถก่อนจะเชิ่ดหน้าเสตามองไปทางอื่น
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะ” เขาหันมาพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนจะออกรถไปอย่างรวดเร็ว
ภายในงามพร็อมสุดหรูที่ถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมระดับ 5 ดาวของ ชเว ซีวอน เพื่อนร่วมรุ่นของเจสสิก้าและซอฮยอนบรรยากาศโดยรวมดูคึกครื้นมีเสียงเพลง เปิดคลอไปด้วย บ้างก็พูดคุย บ้างก็ลุกขึ้นมาเต้นรำประดุจงานสังคมก็ไม่ปาน
“ซอฉันว่าแกดื่มมากไปแล้วนะ” เจสสิก้าเตือนเพื่อนที่กำลังกระเดือกแอลกอล์ฮอลงคออย่างติดลม โดยลืมที่จะมองตัวเองไปเลย
“แกไม่เตือนตัวเองก่อนล่ะ”
“นี่ๆ อย่าพึ่งเถียงกัน วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วนะที่พวกเราจะอยู่พร้อมหน้ากัน”คิม แทยอนเพื่อนสาวตัวเล็กเอ่ยขึ้น มันก็จริงของเธอนะ
“เออ ซอตอนนี้ร้านขนมแกไปถึงไหนแล้วล่ะ ฉันนะไม่เข้าใจ๊ไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ ทำไมแกไม่รอให้เรียนจบมหาลัยก่อนค่อยเปิดล่ะ”
“ฟานี่แกก็รู้ว่าฉันชอบ แล้วก็อีกอย่างคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ขัดอะไร”
“แล้วแกไม่เหนื่อยรึไง”
“จะไปเหนื่อยอะไร ฉันไม่ได้ไปนั่งทำเองสักหน่อย วันไหนที่ไม่มีเรียนก็เข้าไปดูบ้างแค่เนี่ย”
ซอ ฮยอนเธอเป็นคนชอบกินเค้กเลยอยากจะเปิดร้านเป็นของตัวเอง ทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ แต่มันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไรสำหรับเธอ เพราะลูกสาวคนเดียวของตระกูลซออยากได้อะไรก็ต้องได้ สำหรับเธอเปิดเป็นร้อยๆสาขายังได้เลย
“สิก้าเดี๋ยวฉันมานะ” ซอฮยอนกระซิบบอกเจสสิก้าก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยอารมณ์กึ่มๆเพราะฤทธิ์แอลกอล์ฮอ
ผลั้กกก
เพราะทางเข้าห้องน้ำนั้นค่อนข้างแคบจึงทำให้เธอที่ทรงตัวไม่ค่อยจะอยู่ชนกับใครบางคน
“ขอโทษค่ะ” ซอฮยอนเอ่ยอย่างสุภาพ แต่...คำตอบที่ได้รับกลับมานั้นมันช่างขัดกับหน้าตาของคนตรงหน้าเสียจริง
“ชิร์ ใยบ้าเอ๊ย เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เด็กห้อง A ใครว่าฉลาด โง่จะตาย” คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของ กยูริ สาวสวยแต่นิสัยเสีย เพื่อนสนิทของอิมยุนอา
“เธอ นั่นแหละบ้า ยัยป้าหน้าปลวก ใครกันแน่ที่โง่ ไม่ใช่เธอหรอกหรอ .. พวกปลายแถว” ซอฮยอนสวนกลับอย่างทันควัน จนคนตรงหน้าทนไม่ได้ ร้องกรี๊ดออกมาอย่างโกรธจัด พร้อมที่จะกระโจนใส่เธอ
“กยูริ .. ไม่เอาน่า”เสียงนุ่มดังขึ้นพร้อมกับรั้งสาวขาวีนแฟนของเขาเอาไว้
“คยู นังนี่มันด่าฉัน ฉันจะตบมัน” เธอพยายามจะพุ่งเข้าใส่ซอฮยอนแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะคยูฮยอนพยายามรั้งเอาไว้
“เอ่อ ขอโทษแทนแฟนผมด้วยนะครับ” ไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ เขาขยิบตาให้เธอด้วย เพื่อ?... อีตานี่ขี้หลีจริงๆ
“ไม่เป็นอะไรค่ะ แต่คราวหน้าหาอะไรครอบปากเธอไว้บ้างก็ดี” เธอกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างระอา ก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“เป็นอะไรขของแก” เมื่อเห็นสีหน้ายุ่งๆของเพื่อน เจสสิก้าจึงถามขึ้นมาเบาๆ
“ไปป๊ะกับยัยปลวกห้อง B มา”
“ใครวะ” ยูริยื่นหน้าเข้ามาอย่างสอดรู้สอดเห็น ไม่ได้หรอก. ใครจะมาทำเพื่อนเธอ จะต้องข้ามศพ ควอน ยูริ ไปก่อน
“ยัย กยูริ แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไรหรอก แฟนยัยนั่นมาห้ามไว้ก่อน”
“หึ ยัยนี่นี่เอง เมื่อตอนเย็นก็ยัยยุนอา เข้าใจคบเพื่อนนะ นิสัย พอกันเลย ต่างตรงที่ยุนอาไม่ใช่คนชอบ..อะไรล่ะ” เจสสิก้าหันไปมองซอฮยอนที่เอาแต่สะกิด (แรงๆ) แล้วทำท่ายึกยักแปลกๆ
“ต่าง ตรงที่ว่า .. อะไรของแก สะกิดแล้วก็ไม่พูด” เมื่อเธอพูดต่อซอฮยอนก็สะกิดอีก จนเธอรำคาญหันมาเอ็ดใส่หน้าเพื่อนรัก แต่เจ้าตัวก็ไม่พูดอีก จนกระทั่ง
“ต่าง กันตรงไหนล่ะ ไหนลองพูดมาสิ” เสียงแหบห้าวของใครบางคนดังขึ้นมาใกล้ๆ ใกล้มากจนเธอสะดุ้งลุกขึ้นยืนพยายามรักษาระยะห่างของเธอและเขา
“อ่อ .. ปะ เปล่าหรอก แล้วเดินมานี่มีอะไรล่ะ แฟนไม่ว่ารึไงที่มายืนตรงนี้เนี่ย”
“อย่ามาประชดน่า .. จะมาบอกว่า งานเลิกแล้วอย่าพึ่งกลับ เดี๋ยวกลับด้วยกัน” บ้านของทั้ง 2 อยู่ติดกัน แถมยังสนิทกันมากอีกด้วย เพราะทั้ง 2 ครอบครัว เป็นพันธมิตรกันทางด้านธุรกิจ
“ไม่เอาหรอก ขืนกลับด้วยแฟนนายกินหัวฉันแน่ ฉันให้คนรถที่บ้านมารับดีกว่า”
“ไม่เอาไม่ได้ ที่บ้านเธอไม่มีใครอยู่ คุณน้าฝากเธอไว้กับฉัน”
แกร๊ง ๆๆๆๆ
เสียงช้อนเคาะกับขวดแชมเปญดังขึ้น พร้อมกับเสียงหนุ่มรูปงาม ลูกชายเจ้าของโรงแรมแห่งนี้
“เพื่อนๆ วันนี้เต็มที่นะ ชั้นบนสุดห้องไหนก็ได้” เอ๊ะ!ยังไงกัน อยู่ๆมาใจดีให้เพื่อนๆเปิดห้องฟรีๆ มันคงดีสำหรับพวกผู้ชายสินะ
“ฉันว่าวันนี้นายคงไม่ได้กลับแล้วล่ะ เพื่อนเปิดห้องให้ขนาดนี้ .. คงจะมีความสุขสินะ”
“นี่เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย ยัยลามก” ทงเฮเอื้อมมือไปผลักหัวเจสสิก้าเบาๆก่อนเดินจากไป
เวลาผ่านไปพวกสื่อทั้งหลายก็ได้กลับไปกันหมดแล้ว แต่ปาร์ตี้ในคืนนี้มีท่าทีว่าจะไม่เลิกง่ายๆ บางคนยังดื่ม และนั่งคุยกันอย่างกับว่าไม่เจอกันมานาน แต่บางคนก็ฟุบลงไปกับโต๊ะแล้วเรียบร้อย
“อ่า นี่มันก็ดึกมาแล้ว มันคงถึงเวลาของฉันแล้วล่ะ ห้องไหนก็ได้ใช่มั้ย??” เพื่อให้แน่ใจ คยูฮยอนหันไปถามย้ำเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ติดกัน แล้วเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินโซเซไปจากโต๊ะ ยืนยังไม่อยู่แล้วยังจะคิดถึงเรื่องอย่างว่าอีก
“เออ แล้วแกไม่ไปบ้างหรอทงเฮ ห้องสวีตเลยนะเว้ย”
“หืม.. ป่าวไม่ได้จีบใคร” ตอบได้ตรงคำถามมากเลย ไม่ได้จีบ? อะไรของมันเนี่ย
“อะไรของแกเนี่ยทงเฮ” ทงเฮหันมามองหน้าซีวอนอย่างงงๆ ด้วยความที่ดื่มเข้าไปมาก สมองคงจะเบลอๆ
“เออๆ ช่างเถอะ” ชีวอนพูดอย่างหน่ายๆ
แต่ในตอนนี้ใครๆก็ดูจะมีความสุขสู้คยูฮยอนไม่ได้ รายนั้นเดินฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์
เพราะเขากำลังจะไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะน่ะสิ
ตอนนี้อะไรก็ถูกที่ถูกเวลา
แต่ ... ผิดอยู่อย่างเดียวคือ ผู้หญิงที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนั้นไม่ใช่ กยูริ แฟนของเขา
แต่เป็นซอฮยอน ... เขาคว้ามาผิดตัว!
“ไอ้วอน ฉันกลับก่อนนะเว้ย มันดึกมากแล้ว”
“เห้ย เมาจนยืนไม่อยู่แบบนี้แกจะขับกลับได้ไง ไปพักก่อนดีกว่านะ” ซีวอนมองสภาพของเพื่อนสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า สภาพแบบนี้ไม่น่าถึงบ้าน .. ดูๆแล้วเหมือนจะถึงโรงพยาบาลก่อน
แล้วสมองอันชาญฉลาด(แกมโกง)ของเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เขาหันไปสั่งลูกน้องของพ่อให้พาทงเฮไปยังชั้นบนสุดของโรงแรมแล้วเปิดห้องให้เขา พร้อมกับสั่งให้คนของเขาพาแฟนของทงเฮตามขึ้นไป
..... ขอให้มีความสุขนะ ...
ใน เวลาเช้าแสงแดดเริ่มสาดส่องร่างบางที่กำลังขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคน ที่เธอก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ค่อยๆขยี้ตาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกคน ....
... เธอไม่ได้อยู่คนเดียว?
สายตาของเธอค่อยๆเลื่อนขึ้นไปมองหน้าคนๆนั้นช้าๆ
.. ตอนนี้สมองเหมือนไม่สั่งการอะไรทั้งนั้น เธอขยี้ตาอีกครั้ง แล้วเขยิบเข้าไปมองหน้าเขาใกล้ๆ
ลี ทงเฮ .. เธอค่อยๆแง้มผ้าห่มดูอย่างกล้าๆกลัวๆ
เพราะสภาพของทั้งสองคนมันฟ้องว่าเกิดอะไรขึ้น
.. แล้วมันก็เป็นอย่างที่เธอคิด ใบหน้าที่เคยขาวอมชมพูกลายเป็นขาวซีด
"กรี๊ดดดดด ทงเฮนาย ไอ้เพื่อนเลว"
เสียงหญิงสาวแหลมเล็กเปล่งออกมาอย่างโกรธจัด
"หืม" ด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังมากถึงมากที่สุด ทำให้คนที่นอนอยู่ข้างๆตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย
"เห้ย .. เธอมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเนี่ย แสดงว่าเมื่อคืนฉันกับเธอ ... " ความจริงเขาคิดว่าคนที่อยู่กับเขาเมื่อคืนคือยุนอา แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้น
“กรี๊ดด หยุด ... ฉะ ฉันไม่อยากฟัง ไอ้บ้าๆๆ”
เธอใช้มือเล็กๆของตัวเองทุบลงไปบนหน้าอกแกร่งของคนตรงหน้าอย่างโมโห
ถึงแม้ว่าลึกๆแล้วเธอจะแอบชอบเขาอยู่ แต่เธอก็ไม่เคยต้องการให้เรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้น
“นี่ ยัยเป็ดเธอ ห้ามร้องไห้นะ เอ่อ .. อย่าร้องไห้เลยนะ” ทงเฮพยายามจะปลอบเธอ แต่ด้วยความที่เป็นคู่กัดกันมาตลอดหากอยู่ๆจะมาพูดจาสุภาพกันมันก็ดูยังไงๆ อยู่ เจสสิก้ามองทงเฮด้วยสายตาแอบน้อยใจเล็กน้อย นี่เขาไม่ชอบหน้าเธอจริงๆหรอ
“ฉันอยากกลับบ้าน”
ระหว่าง ทางกลับบ้าน ทงเฮพยายามเหลือบมองเจสสิก้าตลอดเวลา ถึงเขาและเธอจะทะเลาะกันบ่อยครั้งก็จริง แต่เวลานี้เขากลับเป็นห่วงความรู้สึกของผู้หญิงคนนี้ยังไงบอกไม่ถูก ทำไมเธอถึงไม่พูดจาถากถางเขาเหมือนที่เคยทำล่ะ
“เอ่อ . . นี่ๆเธอดูรูปปั้นนั้นสิ ขี้เหร่เหมือนเธอเลย” เขาพูดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจทันทีที่รถจดเทียบหน้าบ้าน ก็ แค่อยากจะชวนเธอคุย อยากให้เธอพูดอะไรบ้าง เงียบแบบนี้มันน่าอึดอัดเหลือเกิน แต่ก็อย่างว่า .. ผู้หญิงทุกคนน่ะ หากเจอเรื่องแบบนี้ไม่มีใครมานั่งอารมณ์ดีพูดล้อเล่นกับใครได้หรอก
“…” เธอหันมามองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
.. นี่เขาไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยใช่มั้ย ..
เจสสิก้าเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าบ้านไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ทงเฮเอ๊ย ปากแกเหรอเนี่ย” เขาสบถออกมากับตัวเองเบาๆ
ณ โรงแรง cc fancy ห้องข้างๆกัน
"ที่รักตื่นรึ..เห้ยย นี่มัน คุณทำไมมานอนตรงนี้ได้ล่ะ หรือว่าเมื่อคืน"
ชายร่างสูงเจ้าของใบหน้าคมกำลังจะหันไปหาคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ
แต่เมื่อเขาเห็นหน้าเธอชัดๆเท่านั้นแหละ .. ก็ต้องร้องออกมาเสียงหลงเลยทีเดียว
และเมื่อเธอรู้สึกตัวก็มองเขาอย่างงงๆ ก่อนจะมองเข้าไปใต้ผ้าห่ม
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"
สองขาเรียวออกแรงดันไปข้างหน้าอย่างแรงโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ตั้งใจนะ แต่ว่ามันตกใจจริงๆ
“โอ๊ย คุณถีบผมทำไม” และด้วยแรงที่เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ คยูฮยอนกลิ้งตกลงไปข้างเตียงในทันที
“กรี๊ดดดดดดดดด อะ.อะ ไอ้บ้า ไอ้ลามก” เสียงแหลมเล็กถูกเปล่งออกมาอีกครั้ง เพราะคนตัวสูงที่ตกไปข้างเตียงเมื่อกี้ดันยืนขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัว เอง กำลังยืนล่อนจ้อนอยู่
“.. OoO “ โอ๊ะ! เขามองหน้าเธออย่างงงๆก่อนจะรู้สึกตัวว่าเขากำลังโชว์น้องอยู่ มือหนารีบคว้าบ็อคเซอร์ที่อยู่ใกล้มือมาใส่อย่างรวดเร็ว
“อ้าว คุณ .. เฮ้อ“ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มมีน้ำใสๆ ปริ่มออกมาจากดวงตา
“คุณ .. เอ่อ ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะรับผิดคุณเอง” พูดจบก็ยิ้มหวานๆให้ ทำไมต้องยิ้มหวานด้วย? ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ
“ไม่ต้อง .. ไม่ต้องมารับผิดชอบฉันนะไอบ้า ไปไกลๆเลย”
“อ้าว นี่คุณเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันเนี่ย มีแต่คนต้องการผมกันทั้งนั้น นี่ผมตั้งใจจะรับผิดชอบคุณเลยนะเนี่ย”
.. ยัยนี่ประหลาดคนจริงๆ ..
เพียะ มือเรียวฟาดลงไปบนหน้าขาวๆเต็มแรง
“ไม่ อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันเกลียดนาย”
บ้าไปแล้ว ...
“ออกไปจากห้องนี้ .. เดี๋ยวนี้”
“เห้ย จะบ้าหรอคุณ ให้ผมออกไปทั้งที่ใส่แค่กางเกงตัวนี้ตัวเดียวเนี่ยนะ”
ไม่มีทางหรอก .. ลูกนักการเมืองใหญ่อย่างเขาไม่มีทางออกไปสภาพแบบนี้แน่ๆ
“จะไปไม่ไป ... 1 ... 2 ... กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“พอๆๆ .. พอแล้ว ผมไปก็ได้” คยูฮยอนจ้องมองผู้หญิงคนนี้อย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเดินไปอย่าง งงๆ
“เดี๋ยว .. หากว่าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ เรื่องทั้งหมดคงไม่หลุดไปถึงบุคคลที่3หรอกนะคะ”
5 วันผ่านไป
ภาย ในห้างหรู คู่รัก?ที่เริ่มจะไม่หวานเหมือนก่อน ร่างสูงที่เดินตามคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนอย่างไร้อารมณ์ เหมือนกับหุ่นยนต์อย่างไรอย่างนั้น
...เหมือนกับว่าใจของเขากำลังคิดถึงใครบางคนอยู่...
หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอหน้าเธออีกเลย ทั้งๆที่บ้านก็อยู่ติดกันแท้ๆ
“ทงเฮ .. ว่าใบนี้สวยมั้ยค่ะ” ยุนอาหันไปถามความเห็นของแฟนหนุ่ม เธอถูกใจกระเป่าใบนี้เหลือเกินแต่ก็อยากจะถามความเห็นของแฟนเหมือนกัน แต่เขากลับไม่สนใจที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย
“ลี ทงเฮ นี่นายฟังฉันอยู่รึป่าว ... นายเป็นอะไรของนายน่ะ หลังจากงานพร็อมนายก็เริ่มห่างเหินกับฉัน ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ฉันว่าเราเลิกกันเลยดีกว่า” ทันทีที่ยุนอาพูดจบ ทงเฮดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นกว้างจนเห็นฟัน
.. นี่เขาไม่เสียใจเลยหรอ..
“ขอบคุณมากนะยุนอา ถึงเราจะเลิกกันแล้ว แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ “ พูดจบก็วิ่งหนีไปซะดื้อๆ
“ นี่หมายความว่าเขาเลิกกับฉันจริงๆอย่างนั้นหรอ นี่มันอะไรกันเนี่ย”
หากนับวันนี้ก็คงจะเป็นวันที่ 5 แล้ว ที่คยูฮยอนตามติดซอฮยอน แจเลย คอยปักหลักอยู่ที่ร้านขนมเค้กของเธอตั้งแต่เปิดยันปิด และหลังจากคืนนั้นเขาก็ได้เลิกกับ กยูริเพื่อมารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อหนุ่มคนนี้รู้ได้ยังไงว่าเธอเปิดร้านขนมเค้ก
ทุกเช้าที่ซอฮยอนเข้ามาที่ร้านก็จะเจอกับคยูฮยอนนั่งหน้าแป้นอยู่ที่เดิมเสมอ
.. ทำไมผู้ขายคนนี้ถึงขี้ตื้อจัง ..
แต่ เอ๊ะ!น่าแปลก ทำไมวันนี้เธอยังไม่เห็นเขาเลยล่ะ ซอฮยอนชะเง้อมองหาเขาอย่างลืมตัว
“มองหาใครอยู่เหรอ” อยู่ๆเขาก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ทำเอาคนตัวเล็กตกใจไม่น้อย หากเขารู้ว่าเธอกำลังมองหาเขาอยู่ต้องเสียฟอร์มแน่ๆ
“ฉันมองหาใครแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ”
“เอ๊ะ หรือว่า มองหาผมอยู่”
เกลียดหน้าตาแบบนี้ของเขาเหลือเกิน ไม่ได้มองหาเขาสักหน่อย? ...
“บะ .. บ้า อย่ามาหลงตัวเองน่า ไปไกลๆเลย”
แล้วทำไมต้องหน้าแดง คิดเหรอว่าเพล์บอยอย่างเขาจะดูไม่ออก
“นี่ เมื่อไหร่คุณจะใจอ่อนสักทีล่ะ นี่ผมขอคุณเป็นแฟนมา5วันแล้วนะ คุณอย่าลืมสิว่าคืนนั้นผมกับคุณมี อุ๊บ” ยังไม่ทันจะพูดจบ มือเล็กก็เอื้อมมาปิดปากเขาแน่นกลัวว่าเขาจะพูดถึงเรื่องคืนนั้น เธอลากเขามาหลังร้านที่ปลอดคน
“ขอ ร้องล่ะอย่ามายุ่งกัฉันอีกเลย หากนายจะมารับผิดชอบฉันเพราะแค่ความรู้สึกชั่วข้ามคืนน่ะ อย่าเลย ฉันไม่อยากเสียใจที่หลัง แล้วฉันก็เชื่อว่าสักวันนายก็ต้องนึกเสียใจเหมือนกัน เพราะนายไม่ได้รักฉันจริงไงล่ะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของคยูฮยอนก็เปลี่ยนไป เขาค่อยๆหุบยิ้มลงช้าๆ
“ผมไม่ได้บอกคุณเลยนะว่าผมจะรับผิดชอบเพราะเรื่องคืนนั้นอย่างเดียว หึ .. คุณคงไม่เคบรู้เลยล่ะสิ ว่าคนที่เอาขนมเค้กมาใส่ใต้เก๊ะทุกเช้าน่ะเป็นใคร” ซฮยอน รู้สึกอึ้งกับคำพูดของเขาเล็กน้อย .. เขารู้ได้ไงว่ามีขนมเค้กมาวางทุกเช้า เพราะในเมื่อคนที่รู้มีแค่เจสสิก้าและเพื่อนในกลุ่ม2-3คน หรือว่า..
“คะ ..เค้กพวกนั้นเป็นของคุณ .. ยะ อย่างนั้นหรอ”
ไม่มีใครรู้หรอกว่าเพล์บอยที่เปลี่ยนผู้หญิงทุกอาทิตย์ อย่างเขาจะมาหลงรักเธอได้ มีก็แค่ทงเฮกับซีวอนเท่านั้น
ความ จริงเข้าก็อยากจะเข้าหาเธอตั้งนานแล้วแหละ แต่ด้วยความที่ซอฮยอนเองก็ไม่เคยจะสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ทำให้เขาไม่กล้ายุ่งและเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ ถึงจะเป็นเพล์บอยแต่สำหรับเธอ ทำไมเขาถึงกลายเป็นลูกแมวขี้อายไปได้ก็ไม่รู้ และพอเกิดเรื่องนี้ขึ้นมันก็เหมือนเป็นโชคของเขาที่สามารถมีข้ออ้างมาใกล้ ชิดเธอได้
“ใช่ แล้วทีนี้คุณจะยอมผมรึยังล่ะ”
ไม่รู้ทำไมสมองมันสั่งการให้เธอผยักหน้าตอบรับเขา
และไม่รู้ทำไมเธอต้องรู้สึกดี ..
และไม่รู้ทำไมฉันถึงรักเขา
หลัง จากที่แยกกับยุนอาทงเฮก็รีบไปที่บ้านตระกูลจองที่คุ้นเคย ตอนนี้เขารู้สึกว่าในใจมันร้อนรนชอบกล ทำไมเขาถึงไม่คุยหรือรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำให้รู้แล้วรู้รอดตั้งแต่ทีแรก แล้วตอนนี้เธอจะยอมเจอหน้าเขารึป่าว .. ทันทีที่รถของทงเฮขับมาถึงก็เห็นรถของเจสสิก้าขับสวนออกมา เขารีบลงจากรถแล้ววิ่งไปดักข้างหน้าทันที
ปี๊นนนนนนน
“อยาก ตายรึไง” เป็นประโยคแรกที่ได้ยินจากปากเธอ ทงเฮส่งยิ้มหวานๆไปให้เธอในทันที ในเวลานี้ต้องหน้าด้านไว้ก่อน ไม่ว่าเธอจะพูดว่าอะไร ก็ให้ยิ้มเข้าไว้ มุกนี้คยูฮยอนเป็นคนสอนเขาเอง
“จะไปไหนหรอ”
“ฉันจะไปไหนแล้วนายเกี่ยวอะไรด้วย”
“กะ ก็ .. จะได้ไปเป็นเพื่อนไง” อยู่ดีๆทงเฮก็วิ่งขึ้นรถของเจสสิก้าอย่างหน้าตาเฉย ทำเอาเธอเกิดอาการงงเล็กน้อย
“นี่นายขึ้นมาทำไม ลงไปเลยนะ”
“ไม่ ฉันอยากไปด้วย”พูดจบก็หันไปยักคิ้วลิ่วตาให้เธออย่างกวนประสาท คยูฮยอนบอกเขาว่าต้องหน้าด้านเข้าไว้ถึงจะสำเร็จ
“นี่ นายมาไม้ไหนของนายเนี่ย แล้วแฟนนายไม่ว่ารึไง”
“ก็เธอว่าฉันรึป่าวล่ะ” หมายความว่ายังไง?
“อะไรของนาย ฉันถามนายว่าแฟนนายน่ะไม่ว่าหรอที่จะไปกันฉันน่ะ” เจสสิก้ารู้สึกงงกับคำตอบของเขาจึงหันไปถามย้ำเขาอีกครั้ง
“ก็เธอไง แฟนฉัน”
O.O นี่เธอได้ยินอะไรผิดไปรึป่าว หูไม่ได้ฝาดใช่มั้ย?
ใบหน้าขาวชมพูค่อยๆขึ้นสีแดงเรื่อยๆ อย่างเขินอาย จนเธอต้องหันหนีไปอีกทาง
“บะ บ้า .. รึเปล่า นะ นายไม่สบายหรอ แล้ว ...”
“ฉันสบายดีนี่ ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่แฟนเก่าตะหาก เห้! .. มองทางหน่อยสิ ฉันยังอยากใช้ชีวิตคู่กับเธอก่อนตายนะ” ทงเฮร้องขึ้นอย่างตกใจก่อนจะเอื้อมมือไปบังคับพวงมาลัย เมื่อเห็นรถกำลังขับไปค่อมอยู่กับเลนที่วิ่งสวนมา และประโยคหลังที่หลุดออกมาจากปากของเขาทำเอาเจสสิก้ายิ่งเขินเข้าไปใหญ่
.. ไม่นานนักเจสสิก้าก็ขับรถมาถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ ที่ร้านของซอฮยอนนั่นเอง
เธอรีบลงจากรถเดินเข้าร้านไปโดยไม่สนใจคนที่นั่งมาด้วยเลย
และเมื่อเธอเข้ามาในร้านก็ต้องอึ้ง เมื่อเห็นซอฮยอนและคยูฮยอนกำลังยืนหยอกล้อกันอย่างกับคนเป็นแฟนกันอย่างนั้น
“ซอนี่แกกับนายนี่ เอ่อ .. “
“ผม ชื่อ คยูฮยอนครับ เป็นแฟนของซอฮยอนแล้วก็เป็นเพื่อนสนิทของทงเฮ” คยูฮยอนเดินเข้ามาโอบซอฮยอนไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“งั้น อย่างนี้เธอคงไม่ไปเรียนอเมริกากับฉันแล้วใช่มั้ย?” คำพูดของเธอทำให้ทงเฮรู้สึกใจหายวูบ รวมถึงคยูฮยอนด้วยเช่นกัน เขาหวังว่าเธอคงจะไม่ไปกับเจสสิก้า
“เอ่อ เจสฉันว่าเราเรียนที่นี่เถอะนะ ... แกก็รู้ว่าฉันมีร้านนี้ที่ต้องดูแล” ซอฮยอนรู้สึกลำบากใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ตอนแรกเธอสัญญากับเพื่อนรักไว้แล้ว เรื่องร้านมันก็แค่ข้ออ้างเท่นั้น ฐานะอย่างเธอไม่จำเป็นต้องดูแลเองยังได้
“อืม งั้นไม่เป็นอะไร ฉันไปคนเดียวก็ได้” เธอยิ้มบางๆให้เพื่อนอย่างเข้าใจ ก็เขามีคนรักให้อยู่ข้างๆแล้วนี่ เพื่อนคนนี้คงไม่สำคัญแล้วล่ะ
“เธอ จะไปไหน ฉันไม่ให้เธอไป มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ” เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนเหมือนมีอะไรต้องเคลียร์กัน เธอจึงเดินเลี่ยงมาอีกทางพร้อมกับคยูฮยอนถึงแม้เขาก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่เมื่อเจอรังสีอมหิตเข้าไปก็ต้องรีบก้าวเท้าให้ไว
“อย่ามาเสียเวลากับฉันเลย นายกลับไปง้อแฟนเถอะ เชื่อฉันสิว่าเขากำลังรอนานอยู่ .. อีกอย่างฉันไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร” เธอค่อยๆแกะมือของเขาออกเบาก่อนจะหันหลังกลับไป
“เพื่อนคุณเล่นตัวจัง” คยูฮยอนที่แอบมองอยู่จากมุมอับพูดขึ้นเบาๆ ซอฮยอนจึงหยิกที่แขนของเขาโทษฐานมาว่าเพื่อนของเธอ
“นี่ปากน่ะ ระวังๆหน่อย คุณไม่เป็นผู้หญิงไม่รู้หรอก”
“ครับบบ”
“เธอ ไม่ใช่ตัวแทนของใครทั้งนั้น” เจสสิก้าหยุดชะงักกับคำพูดของเขา ยืนนิ่งอยู่กับที่ “ในสมองของฉันมีแต่ภาพของเธอเต็มไปหมด ฉันไม่รู้ว่าตกหลุมพรางของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจังจนไม่สามารถถอนตัวขึ้นได้เลย และฉันก็มั่นใจว่านี่คือความรู้สึกจริงๆของฉัน ไม่ใช่แค่จะรับผิดชอบ แต่ฉันรักเธอเข้าแล้วจริงๆนะ”
“แล้วแฟนนาย...”
“ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าฉันเลิกกับเขาแล้ว .. นับตั้งแต่วันนั้นฉันก็รู้แล้วว่าจริงๆคนที่อยู่ในใจฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น”
เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ “ขอร้องล่ะ .. อย่าไปได้มั้ย?”
... ถ้าเธอปฏิเสธเขาอีกมันก็คงจะดูเล่นตัวเกินไป
คำพูดที่ได้ยินได้ฟัง เมื่อครู่ทั้งหมด มันเหมือนเป็นเครื่องทุ่นที่สามารถยกภูเขาออกจากอกได้อย่างง่ายดาย
เธอหันมายิ้มให้เขาอย่างผู้ชนะ ... ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เธอทำทั้งหมดมันเป็นแผนของเธอและซอฮยอน
เธออยากรู้ว่าจริงๆแล้ว ทงเฮคิดยังไงกับเธอกันแน่ เขารักเธอจริงๆหรือแค่อยากจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
“ได้สิ ก็นายอุตส่าหน้าด้านขอฉันขนาดนี้”
แปะๆ ๆๆ
“เก่งมากๆเลยเพื่อนรัก เธอทำได้ดีมาก” ซอฮยอนเดินยิ้มชอบใจออกมาจากหลังร้าน แล้วเดินเข้าไปกอดคอกับเจสสิก้า
“นี่มันอะไรกันนี่ย” ทงเฮและคยูฮยอนพูดขึ้นพร้อมกัน
“ไม่ต้องมาถามเลย ฉันเห็นนะว่านายน่ะโทรไปหาทงเฮ แล้วสอนเรื่องปัญญาอ่อนๆให้เขา ฉันก็เลยโทรไปหาเพื่อนฉันบ้างสิ”
“นี่อย่าบอกนะ ว่าเมื่อกี้มันเป็นแผนของเธอเจสสิก้า”
“ฮ่าๆๆ ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้น่ะสิว่านายคิดยังไงกันแน่”
“งั้น อย่างนี้ฉันถือว่าเธอเป็นแฟนฉันแล้วนะ ...ขอโทษนะซอฮยอน ” เขาเดินไปดึงเจสสิก้าออกจากซอฮยอนแล้วโอบเธอเอาไว้ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกระซิบที่ข้างหูของเธอ
“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้ขออีกสักรอบได้ป่ะ เพราะฉันชักติดใจลีลาของเธอแล้วสิ”
“ไอ้บ้า ... ไอ้ลามก”
รอยยิ้มเล็กๆของทุกคนผุดขึ้นมาอย่างมีความสุขอีกครั้ง
. .. วันนี้พวกเขาได้รู้ใจตัวเองแล้ว ...
-----End-----
ผลงานอื่นๆ ของ KimChiYun ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ KimChiYun
ความคิดเห็น