ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฆาตกรรมโหดสยอง รวมเรื่องที่เกี่ยวกับการฆ่า!!

    ลำดับตอนที่ #10 : สุดยอดเครื่องทรมานจากไทย!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.08K
      0
      12 ต.ค. 53

       
      เเหมๆ เมื่อกี้ก็นำเสนอเครื่องทรมานจากต่างประเทศไปเเล้วคราวนี้มาดูของไทยกันบ้างเถอะ! ไม่น้อยหน้าเเน่นอน!


                                                                1. ไม้บีบเล็บ

                                                   



       ลักษณะ เป็นไม้เนื้อแข็ง 2 อัน ปลาย 2 ข้างเป็นปุ่ม และ เรียวลงไปตอนกลางโป่ง ยึดปลายข้างหนึ่งไว้ด้วยเชือกให้แน่น เมื่อเอาบีบลงตรงเล็บผู้ที่ถูกสอบสวนแล้ว ก็เอาเชือกรัดขัน ปลาย อีกข้างหนึ่ง ให้แน่นแล้วใช้ค้อนไม้เนื้อแข็งทุบลงไป ตรงกลางที่วางเล็บไว้ เเหมช่างสุดสบายซะ (ตรงไหนฟะ)

       ใช้สำหรับทรมานผู้ร้าย เวลาไต่สวนเพื่อให้รับสารภาพ ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า เริ่ม ใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาโดยกฎหมาย "พระอัยการ ขบถศึก" จุล ศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิกใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาล ที่ 5) โดยประมวลกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451) 


                                
                                                             2.ไม้บีบขมับ
                                                          


      คุณรู้สึกปวดหัวบ้างไหม? สบายหัวดีรึเปล่า? ด้วยเครื่องบีบขมับนี้จะทำให้คุณหายปวดหัวได้เเน่นอน(หายไปจากโลกใบนี้) อยากลองดูไหม? ไปดูวิธีใช้+วัสดุได้เลย 
      
      เป็น เครื่องมือทรมานทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มี 2 อัน ปลายข้างหนึ่งใช้ เชือกผูกไว้ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งมีเชือกขันตรงกลางมีปุ่ม 2 ปุ่ม สำหรับ ใส่ตรงขมับทั้ง 2 ข้าง ละขันเชือกอีกปลายด้านหนึ่งให้แน่น กดขมับให้เจ็บปวดจนกว่าจะให้ถ้อยคำเป็นที่เชื่อถือได้ปรากฏหลักฐานแน่ชัด

     เริ่ม ใช้สมัยกรุงศรีอยุธยาโดยกฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิกใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 5) โดยประมวลกฎ หมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ.2451)


                                                               3.ค้อนตอกเล็บ

                                                   



      วันนึงหากคุณเกิดอารมณ์นึกสนุกอยากเอาค้อนทุบมือตัวเอง สัมผัสเเห่งค้อนของคุณดีเเค่ไหน? เราขอรับรองว่าไม่มีค้อนอันไหนทุบได้สบาย+สบายมือ(?)เท่าอันนี้เเน่ๆ!
      
      ด้วยไม้แก่นปลายไม้ข้างหนึ่งแหลมใช้สำหรับใส่เข้า ไประหว่างเล็บและเนื้อแล้วใช้ฆ้อนตอกไม้ปลายแหลมเข้าไป ในเล็บนั่นจะทำให้คุณไพบพานกับสายเลือดสีสวยของคุณเอง!

      เริ่มใช้สมัยกรุงศรีอยุธยา โดย กฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) เลิก ใช้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่5) โดยประมวลกฎหมาย ลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)



                                                              4.บททรมาน?


                                                     


            บทเรียนของคุณมันน่าเบื่อไปรึเปล่า? มาลองดูบททรมานที่จะทำให้คุณสนุก(ตรงไหน)สุดชีวิตดีกว่า

    ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง มีลักษณะคล้ายบศพขนาดพอดีกับตัวคน ที่ฝาปิด
    มี รูเจาะไว้ 2 รู เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณครึ่งนิ้ว สำหรับให้พอหายใจได ท่านั้น เมื่อเอาผู้ร้ายเข้าไปนอนในบ ปิดฝาแล้วจะพลิกหรือตะแคงตัว ไม่ได้อาจวางนอน หรือวางยืนไว้กลางแดดก็ได้ ร้อนจนอึดอัดแทบขาดใจ ตาย เป็นการทรมานเพื่อให้รับสารภาพ ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มใช้ สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยกฎหมาย "พระอัยการขบถศึก" จุลศึกราช 796 (พ.ศ.1978) เลิกใช้ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ 5) โดยประมวลกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 (พ.ศ. 2451)



                                                                    5.ไม้ขาหย่าง


                                                            


          เวลาคุณอายคุณทำอย่างไง คุณชอบประจานผู้อื่นรึเปล่า? ด้วยเครื่องนี้ละจะทำให้คุณประจานผู้อื่นมันส์ยิ่งขึ้น

                          เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์ ซึ่งมักใช้เป็นโทษประจานให้ได้อาย มีลักษณะเป็นไม้
                       กลม 3 ท่อน ยาวท่อนละประมาณ 1.60 เมตร ปลายมีเหล็กแหลมหุ้มสำหรับเสียบ
                        ลงในดินให้แน่น ปลายอีกข้างหนึ่งใช้เชือกมัดรวมแล้วมัดผู้กระทำผิดไว้บนไม้สาม
                      ขา หรืออาจแขวนห้อยไว้ไม่ให้เท้าหยั่งพื้นถึง มีเจ้าหน้าที่ตีฆ้องร้องป่าว มิให้คนอื่น
                                                              เอาเยี่ยงอย่าง





                                                             6.เบ็ดเหล็ก

                                                

                                   ตกปลาเยอะไปน่าเบื่อรึเปล่า? ลองตกคนดูไหมล่ะ

                          ใช้เพื่อลงทัณฑ์ผู้ต้องโทษโดยเกี่ยวเบ็ดเหล็กเข้าใต้คาง ปลายแหลม
    ของ เบ็ดเหล็กเสียบทะลุคางถึงใต้ลิ้นแล้วชักรอกดึงรั้งคางของผู้ต้องโทษ ให้ตัวลอยขึ้นจนปลายเท้าลอยพ้นจากพื้นดิน โดยไม่ให้คางหลุดจากเบ็ด เหล็ก เบ็ดเหล็กนี้ทำด้วยเหล็กท่อนขนาด 4 หุน ปลายแหลมเหมือน เบ็ดตกปลา ยาวประมาณ 16 นิ้ว เริ่มใช้ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตรงกับสมัยแผ่นดินของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 จุลศักราช 796 (พ.ศ. 1978) ซึ่งปรากฎใน กฎหมายพระอัยการขบถศึกและเลิกใช้ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ร.ศ. 127 (พ.ศ. 2451) เมื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายลักษณะอาญา




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×