ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #57 : ตอน กลับบ้าน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      11
      22 มิ.ย. 54

     ตอน กลับบ้าน










    "ของฝากครับแม่ อันนี้ทานเลือกกับอ้อน ส่วนอันนี้อ้อนเลือกเองครับ ขอโทษครับหายไปหลายวัน แม่อย่าโกรธนะครับ ที่ไม่พาอ้อนกลับมาส่งที่บ้านเลย"

    ทานตะวันยกมือไหว้แม่ของอ้อนแล้วก็หอบข้าวของมากมายเข้าบ้าน โปรยยิ้มเอาใจผู้ใหญ่แล้วก็ยกความดีความชอบให้กับคนที่ยืนทำหน้านิ่งเฉยอยู่ข้าง ๆ

    "อ้อนเลือกให้แม่เหรอ" คนเป็นแม่ถามออกไปและลูกชายก็พยักหน้ารับทั้งที่ยังก้มหน้า ไม่ชินกับการที่จะต้องพูดจากัน แต่ก็เหมือนกับว่าใกล้เข้าหากันอีกนิด

    "แม่ชอบ สวยนะ แม่จะเอาไว้บนโต๊ะทำงานที่บริษัท อ้อนอุตส่าห์เลือกให้แม่เองเลยเหรอเนี่ย เข้าใจเลือกนะ สวยเชียว"

    ผู้เป็นแม่เอ่ยชมไม่ขาดปาก ส่วนอ้อนได้แต่ก้มลงมองที่มือของตัวเองและอมยิ้มเล็ก ๆ ไม่กล้าพูดอะไรมากมายนัก
    ก้าวเข้าหากันอีกหนึ่งก้าว จากระยะห่างที่ยาวไกล กลับพูดคุยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติขึ้นและกล้าที่จะแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ บ้าง

    ที่ทำได้ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะทานตะวันที่ทำให้สองแม่ลูกคุยกันมากขึ้น

    ทานตะวันยืนอมยิ้มและหันไปมองใครอีกคนที่ยืนก้มหน้าอมยิ้มอยู่ข้างๆ ยกแขนขึ้นโอบไหล่ร่างนั้นและแตะมือไปที่เส้นผมของอ้อนเบา ๆ

    "ก็ทำได้นี่"

    เป็นคำพูดที่ทานตะวันก้มลงมากระซิบบอกที่ข้างหู และอ้อนก็ยิ้มกว้างมากขึ้น เงยหน้ามองแม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม่ที่หมุนที่ทับกระดาษที่มีเปลือกหอยเล็ก ๆ ประดับเอาไว้อย่างพึงพอใจ

    "สวยจังเลย แม่ชอบที่สุดเลยอ้อน มากันเหนื่อย ๆ แม่ทำกับข้าวไว้แล้ว กินข้าวกันดีกว่านะ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนแล้ว เดี๋ยวมากินข้าวกัน ทานด้วย ขับรถมาเหนื่อย ๆ ไม่ใช่เหรอกินข้าวเป็นเพื่อนแม่นะวันนี้"

     

    แม่ของอ้อนเอ่ยบอก เพื่อนของลูกชายและส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้


    ทานตะวันยิ้มกว้าง และทำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็ก ๆ จนน่าหมั่นไส้ แต่อ้อนก็ได้แต่เก็บความหมั่นไส้ไว้ในใจ

    "ไม่ได้กินข้าวฝีมือคุณแม่ตั้งหลายวัน วันนี้จะซัดให้พุงกางเลย แต่ว่าขอเอาของไปเก็บก่อนได้มั้ยครับ เดี๋ยวลงมากัน ไปเร็วอ้อน เอาของไปเก็บกัน"

    ไม่รู้ว่าใครเป็นลูกบ้านนี้กันแน่ ทานตะวันที่ทำเหมือนบ้านนี้เป็นบ้านของตัวเอง หรืออ้อนที่เอาแต่ก้มหน้าเดินตามแรงฉุดของคนตัวโตเดินขึ้นบันไดไปแล้ว


    แม่ยังคงยืนอมยิ้ม มองลูกชายที่เดินขึ้นห้องไปแล้ว และเตรียมตัวจัดอาหารเย็น

    ส่วนอ้อนและทานตะวันกำลังก้าวเท้าเดินเข้าห้อง

    ห้องของอ้อนไม่ได้กว้างเหมือนห้องนอนของทานตะวัน แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามา คนตัวโตก็ทิ้งกายลงนอนแผ่หราอยู่บนเตียง ทำเหมือนเป็นห้องของตัวเอง แถมยังกลิ้งไปกลิ้งมา อย่างมีความสุข

    "นี่มันบ้านใครกันแน่วะเนี่ย" คนที่ยืนห่างออกไป เอ่ยถามและส่ายหน้าอย่างนึกขำคนตัวโตที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียง
    และคำตอบที่ได้กลับทำให้ต้องหยุดหัวเราะและต้องเดินหนีคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว

    "บ้านใคร ถามมาได้ว่าบ้านใครก็บ้านแม่ยายทานไง ถามอะไรแปลก ๆ อย่างนั้นล่ะ ง่วงจะตายมานอนนี่มาเร้ว เร็วๆ เข้ามานอนนี่"

    แม่ยงแม่ยายอะไรวะ พูดไปได้ ไม่อายปาก ทานตะวันมันบ้า ชอบแกล้งให้อาย ไอ้คนนิสัยไม่ดี

    ช่างเป็นคนที่พูดจาได้น่าหมั่นไส้ ทานตะวันพูดไปกลิ้งไป แล้วก็ลุกพรวดพราดขึ้นคว้าข้อมือของคนที่ยืนหน้าแดงจะหาเรื่องหนีให้เข้ามาใกล้

    "มานั่งนี่มาเร้ว .... ไม่ได้กอดเลย มานี่มา...ขอกอดหน่อย...นะ นะ นะ น๊าาาาาาาาาาาา อ้อนนะ"

    บ้าไปแล้ว

    น่ารักตรงไหน

    อย่ามาทำหน้าแบบนี้นะ อย่ามาทำตาใสซื่อหน่อยเลย ลูกแกะอะไร๊ ร้ายกาจชะมัด

    ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เมื่อถูกดึงแขนมาก ๆ เข้าอ้อนก็จำใจต้องมานั่งข้าง ๆ ทานตะวัน

    "เก่งมากเลย ก็ทำได้นี่ หัดอ้อนแม่เยอะ ๆ นะ วันนี้อ้อนเก่งมากเลยรู้มั้ย ต่อไปก็ค่อย ๆ คุยกันให้มากขึ้น เริ่มจากเรื่องธรรมดาก่อนก็ได้นี่นะ เห็นมั้ยว่ามันไม่ยากเลย"

    ยากจะตาย เมื่อกี้นี้พอเดินเข้ามาภายในบ้าน ซ้อมมาอย่างดีว่าจะยื่นที่ทับกระดาษให้แม่ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ได้แต่ยืนนิ่ง ๆ แล้วทานตะวันก็พูดจ้อย ๆ ไม่ยอมหยุด ไม่เห็นว่ามันจะเข้าท่าตรงไหนเลย

    "อย่ามาทำเป็นชมเลย ทำได้แค่นี้แหละ ทำดีกว่านี้ไม่เป็นหรอก"

    อ้อนเอ้ย ทำไมถึงคิดอย่างนี้ การเข้าหาพ่อแม่ของตัวเองนี่มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้ายากขนาดนั้นก็พยายามซะสิ อย่างที่ตอนนี้อ้อนกำลังพยายามอยู่นี่ไง

    "ใครว่าล่ะ.... อ้อนของทานเก่งที่สุดเลย วันหลังก็หัดยิ้มเยอะ ๆ นะ ยิ้มเก่ง ๆ เหมือนยิ้มกับทานนี่ไงนะ....อ้อนทำได้ เชื่อทานเถอะ"

    ไม่เชื่อหรอก ทำไมต้องเชื่อ แต่ว่า..........แต่ว่า.........จะลอง........ลองพยายามดูก็ได้

    "ก็...ทำได้แค่นี้แหละ มากกว่านี้ไม่รู้จะทำได้แค่ไหนหรอก"

    ได้สิ อ้อนทำได้ เห็นมั้ยว่าวันนี้อ้อนยังทำได้เลย อุตส่าห์ซ้อมตั้งหลายรอบ แต่ได้ขนาดนี้ก็โอเคแล้วล่ะ อีกหน่อย อ้อนกับแม่ก็จะเข้าใจกันมากกว่านี้ ถ้าแสดงความรู้สึกออกมาบ้าง ค่อย ๆ แสดงออก แล้วก็จะดีขึ้นเองแหล่ะนะ

     

    ฝ่ามือของทานตะวันค่อย ๆ เอื้อมไปกุมที่มือของอ้อนและบีบกระชับเหมือนอยากจะแบ่งกำลังใจไปให้

    "อ้อนทำได้ เชื่อทานนะ สัญญาก่อน เอานิ้วก้อยมานี่ แล้วสัญญากัน ว่าอ้อนทำได้ นะ เชื่อทานเหอะ ทำได้ก็คือทำได้น่า"

    ปลายนิ้วที่เกี่ยวอยู่ที่ปลายนิ้วก้อย และการเขย่ามือเล่นอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุกของทานตะวัน กลับสร้างกำลังใจให้อ้อนได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ

    รอยยิ้มจาง ๆ ที่ทานตะวันส่งให้ ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้น

    "บอกแต่คนอื่น ตัวเองน่ะ ถึงไหนแล้ว ตกลงว่าแม่ทานจะมาดูทานแข่งมั้ย ตกลงว่าจะมาแน่ ๆ ใช่มั้ย" อ้อนเอ่ยถามออกไปและคนที่เพิ่งยิ้มกว้างเมื่อไม่กี่นาทีก่อนก็มีอันต้องทำหน้าเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง

    "ไม่รู้สิ ช่างมันเถอะ ตลกเนอะ สอนอ้อนได้แต่เรื่องของตัวเองกลับเอาไม่รอด "

    ถึงจะหัวเราะแต่ใบหน้ากลับหมองเศร้าอย่างไม่น่าเชื่อ เลยกลายเป็นอ้อนที่ต้องใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าของทานตะวันให้หันมาหา และส่งยิ้มให้เพราะอยากจะแบ่งกำลังใจให้บ้าง

    อ้อนประคองใบหน้าของทานตะวันให้หันมาหา และแตะหน้าผากลงที่หน้าผากของคนที่ทำหน้าเศร้า

    "มาน่า ยังไงแม่ของทานก็ต้องมา เชื่ออ้อนสิ นะ ยังไงก็มาแน่ ๆ "

    เป็นคำปลอบใจที่ทำให้ทานตะวันยิ้มกว้าง และหัวเราะอย่างมีความสุข ไม่ใช่ว่าตลกหรือเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่ว่าคน ๆ นี้ คนที่ทำให้หัวเราะได้คนนี้ทำบางอย่างที่ไม่เคยทำ และทำให้รู้สึกดีมากขึ้น

    "นี่ ค่อยสมกับชื่อหน่อยนะเราน่ะ ชื่ออ้อนก็หัดทำเสียงอ้อน ๆ ทำหน้าอ้อน ๆ แบบนี้บ้างสิ น่ารักดีออก"

    เหยย

    ไหงงั้นอ่ะ

    ทำอะไรไม่ดีออกไปเหรอวะ

    หรือว่ายังไง เอ้า ตายห่า แล้วนี่มาทำหวานแหววแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

    อ้อนที่กลับสู่สภาพเดิม ลุกลี้ลุกลนหน้าแดงก่ำ ทำท่าจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ก็ถูกคว้าเอวเอาไว้เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมให้หนี

    "ไม่ต้องหนีเลย หนูน้อยแก้มแดง มาให้ทานกอดซะดี ๆ มาเร็วมานอนกอดทานหน่อย อ้อนให้มันเยอะ ๆ ให้สมชื่อหน่อยสิคนเรา เอ้าหอมแก้มทานบ้างสิเนี่ย ๆ ตรงนี้อ่ะ"

    เหอะ

    ใครจะไปทำวะ กอดเอวไม่พอ หัวเราะร่ามีความสุขเหลือเกิน

    ไม่เอาอ่ะ หอมแก้มบ้าอะไร ทำไม่ลงโว้ยยยยยยยยยยยย ไอ้บ้า

    "เร็ว ตรงนี้เลย มา หอมตรงนี้ข้างซ้าย เร็ว"

    ไม่เอาโว้ย ทุเรศตาย ทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ ไม่เอาด้วยคนหรอกโว้ยยยยยยยยยยย

    อ้อนดิ้นรนหนี แต่ก็ถูกรั้งร่างเอาไว้ แถมทานตะวันยังทำแก้มป่อง เป็นการบังคับกลาย ๆ ว่าไม่ว่ายังไงก็จะให้อ้อนทำสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ได้

    เอียงแก้มให้หอม ครั้งแล้วครั้งเล่า จนสุดท้ายก็ได้สมใจอย่างที่ใจต้องการเมื่ออ้อนยอมจรดปลายจมูกลงมาที่ข้างแก้มเบา ๆ และลุกขึ้นเดินหนีไปทันทีที่ทำสิ่งที่ทานตะวันต้องการนั่นยิ่งทำให้ทานตะวันหัวเราะมากขึ้น

    เฮ่อ .........

    ให้มันได้อย่างนี้บ้างสิ

    หัดอ้อนให้มันสมชื่อบ้าง แบบนี้น่ารักดีจะตายไป แล้วนั่นเดินหนีไปไหนแล้วนั่น หน้าแดงไปถึงคอแล้ว
    แฟนใครหนอน่ารักจัง

    ทานตะวันนั่งหัวเราะและแตะปลายนิ้วไปที่ข้างแก้มของตัวเองอย่างถูกใจกับความน่ารักของคนที่เพิ่งเดินหนีจากไป
    ในเวลาไม่นานใบหน้าที่มีรอยยิ้มกลับหมองเศร้าลงอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเรื่องของตัวเอง ที่ยังไม่มีคำตอบ

    "สอนคนอื่นก็สอนได้หรอก แต่ทำไมสอนตัวเองไม่ได้ก็ไม่รู้ เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอดเลยอ้อนเอ้ย"

     

    ***************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×