ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #52 : ตอน เสียใจด้วย ไม่มีเลิฟซีน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.54K
      17
      5 พ.ค. 54

    ตอน เสียใจด้วย ไม่มีเลิฟซีน












    "หนาวเนอะ" อือ หนาว แล้ว แล้วไงล่ะ ก็หนาวไง หนาว ฮ่า ฮ่า หนาว

    อ้อนหัวเราะแห้ง ๆ เมื่อหันหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ยิ่งแทบไม่อยากหัวเราะ

    ตาหวานขนาดนั้น มองเข้าไปสิ เอาให้มันทะลุกันไปเลยดีมั้ย ทานตะวันเป็นอะไรหนอ ทำไมถึงขยันส่งยิ้มหวานจ๋อยแบบนี้มาให้ หมายความว่าไงเหรอ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจจริง ๆ ไม่เข้าใจ เชื่อเถอะน่ะไม่เข้าใจ

    เอ่อ คือจริงๆ แล้วไม่อยากเข้าใจมากกว่า ยอมรับเลยตรง ๆ ก็แล้วกัน

    ก็จะไม่ให้ทำเป็นเฉไฉไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อหลังจากขึ้นมาบนห้องพักแล้ว ไอ้เจ้าคนตัวโตนั่นก็เดินวนไปวนมา แล้วก็หันมาทำตาหวานใส่ซะหนึ่งครั้ง แล้วก็ทำหน้าเฉย แถมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน มีการมาล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วก็พยายามจะดึงแขนให้ลงไปนอนด้วยกันอีก

    ม่ายหวายม้าง บรรยากาศมันแปลก ๆ พิกล ไม่เหมือนเวลาปกติเลย

    "อยากอาบน้ำแล้วล่ะ...." ก็อาบไปก็ได้ ทำไมจะต้องเดินมานั่งอยู่ตรงหน้าแล้วก็กระซิบถามซะใกล้ขนาดนั้นล่ะ

    มันขนลุกโว้ยยยยยยยยยยยยยยย

    "เหรอ เฮอะ ๆ เอาสิ แล้วทำไมไม่อาบล่ะ ง่วงเนอะ กินอิ่มก็เลยง่วง เหอะ เหอะ เหอะ"

    หัวเราะแล้ว พยายามจะทำหน้าฝืน ๆ ก็แล้ว แต่ชักจะไม่ไหว เพราะปลายจมูกของทานตะวันเริ่มมาคลอเคลียอยู่ที่ไหล่อีกแล้ว

    "อาบด้วยกันนะ"

    ตาหลกแล้วม๊างงงงงงงงง เหอะ เหอะ อาบด้วยกันเนี่ยนะ ไม่ไหวหรอก ขำเนอะ ขำมั้ย อำเล่นช่ายม้าย ม่ายขำแล้วน๊า

    "อ้อน...อาบน้ำด้วยกัน...นะ..อาบสองคนอุ่นกว่าอาบคนเดียว"

    ม่ายยยยยยยย อาบสองคนไม่ดี ไม่ดีหรอก เดี๋ยวห้องน้ำมันจะแคบไง ไม่ดีหรอก เชื่อเหอะ ไม่ดีแน่ ๆ

    "ฮะ อาบสองคนเนี่ยนะ ง่วงนอนแล้ว คร่อก นอนดีกว่า" อ้อนทำทีเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเตรียมลุกขึ้นเดินหนีเมื่อไม่เฉพาะที่หัวไหล่เท่านั้นแต่ทานตะวันยังแตะปลายจมูกเรื่อยมาเกือบถึงแก้ม

    แบบนี้ไม่ค่อยดีนะ

    หน้าแดงแล้ว ใจเต้นด้วย

    ไอ้ทานมันเล่นอารายของมานว๊า

    "ไม่ให้ไป คุยกันก่อน"

    เตรียมจะลุกขึ้นแต่กลับถูกกระตุกแขนให้นั่งลงมา ตอนนี้จิตใจของอ้อนชักจะเตลิดไปไกล

    ยิ่งสบตากับดวงตาของอีกฝ่ายด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่

    "ทาน อย่าแกล้งดิ เห็นเปล่าหน้าแดงแล้วเนี่ย มือเย็นแล้วด้วย เดี๋ยวพอเขินมาก ๆ เลือดกำเดาไหลเปื้อนไม่รู้ด้วยนะเอ้า ยังจะเล่นอีก จริงจังนะโว้ย ดูหน้าสิ ดูหน้านี่ ไม่เห็นหรือไงว่าหน้าแดง บอกแล้วไงว่าเป็นอะไรไม่รู้ เขิน ถ้าจะเล่นไม่ต้องเลย เดี๋ยวอดใจไม่ไหวกระโดดปล้ำเลยนะโว้ย"

    โห กระโดดปล้ำเลยเหรออ้อน ทำไมพูดอะไรตรงจัง เอาสิ รออยู่เลย ปล้ำจริงอ่ะ ทำไงอ่ะ เอาเลยมั้ย

    ชอบนะเนี่ย ไหนดูซิ หน้าแดงจริงด้วย ตาเยิ้มแล้วอ้อน มองแบบนี้หมายความว่าไง

    "โห อย่าทำอะไรทานน่ะ ทานไม่เคยมีแฟนนะ กลัว" ทานตะวันแกล้งพูด แล้วก็ทำหน้าตาใสซื่อ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย และค่อย ๆ เลื่อนมือไปแตะที่รอบเอวของคนที่ยังพยายามจะหัวเราะแบบฝืน ๆ

    "เฮ้ย ไม่กลัวเลยเรอะ...เดี๋ยวเลือดเปื้อนเสื้อนะ แล้วอย่ามาหาว่าไม่ อึก แอ่ก เฮ้ย อื้อ"

    ไม่ต้องรอช้าไม่ต้องรอให้พูดกันจบประโยค

    หนูน้อยแก้มแดงลงไปนอนอยู่บนฟูกนอน แล้วก็กระพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้ง ยังไม่ทันตั้งตัว รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมาแตะอยู่ที่ริมฝีปาก จนทำให้ออกเสียงพูดไม่ได้

    เฮ้ย ...........

    อะไรเนี่ย ...........

    "เฮ้ย แอ่ก อื้อ ทานเดี๋ยว อื้อ"

    พยายามจะพูดพยายามจะส่งเสียง แต่ริมฝีปากกลับถูกบดคลึงเคล้าอย่างรุนแรง จนแทบหายใจไม่ออก พยายามจะขยับร่างกายออกห่าง แต่ข้อมือทั้งสองข้างถูกตรึงไว้เหนือศรีษะ และ.........

     

    "โอ้ยยยยยยยยย ทาน ปล่อยโว้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ไอ้อึก อื้อ อ๊า"

    ร่างกายร้อนผ่าวแค่ถูกแตะที่ริมฝีปากไม่ถึงครึ่งวินาที อารมณ์ความรู้สึกกระเจิดกระเจิงไปไกลสุดกู่ อ้อนได้แต่พยายามดิ้นรนหนี แต่ทานตะวันกลับนึกว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นด้วย เลยยิ่งใช้กำลังของตัวเองตรึงข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ขยับร่างกายได้ แถมซ้ำด้วยร่างกายที่โถมทับลงมาหาแนบชิด เพื่อจะหยุดยั้งการเคลื่อนไหวร่างกายของอ้อนให้ได้

    จนเมื่อคนที่อยู่ใต้ร่างสงบลงแล้ว ทานตะวันจึงได้ถอนริมฝีปากออก และหัวเราะเสียงเบาอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก

    "ไหน ไหน ดูซิ แก้มแดงยัง เลือดออกยังเนี่ย หื้อ ไหนดูซิ"

    ทานตะวันสนุก แต่อ้อนไม่สนุกด้วย เพราะอารมณ์ความรู้สึกถูกปลุกเร้าขึ้น ได้แต่นอนหอบหายใจหนัก ใบหน้าถูกย้อมไปด้วยสีเลือด แถมด้วยดวงตากลมโตที่หรี่ปรือ หมดหนทางที่จะควบคุมความรู้สึกของตัวเอง

    "เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้อ่ะ เป็นอะไรมั้ย อ้อน ได้ยินป่าว อ้อน อ้อน"

    เพราะไม่เคยเห็น ถึงความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ทานตะวันจึงได้แต่เรียกชื่อของอ้อนอยู่อย่างนั้น และดูเหมือนคนที่นอนหอบหายใจหนัก จะนอนมองหน้าของทานตะวันนิ่งอยู่ ไม่ได้ขยับกายหนี

    "ไม่เป็น...อะไร..อึก..ปล่อยเถอะ..."

    ไม่เอา ไม่ปล่อย ใครจะปล่อยล่ะ สนุกดี อ้อนมันทำหน้าตาแปลก ๆ ดี ไม่เห็นเหมือนทุกทีเลย มันดูหวาน ๆ แล้วก็ทำให้อยากลองทำอะไรแปลก ๆ อย่างที่ไม่เคยทำ

    อย่างเช่น...........

    "ไม่เอาไม่ปล่อย ไหนทำเสียงแบบเมื่อกี้อีกซิ แบบเมื่อกี้อ่ะ ทำหน่อย ชอบ ฟังแล้วตลกดี"

    เสียงบ้าอะไรเล่า ไอ้เสียงครางบ้า ๆ บอ ๆ นั่นน่ะเหรอ จะให้ทำได้ไงวะ

    "ทำไม่ได้ ใครจะไปทำได้ ลุกไปซะทีสิ หนัก อ่ะ อื้อ"

    ทานตะวันไม่ได้ลุกขึ้นตามที่อ้อนบอก ขยับร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่กลับไปกระทบกับ....

    "อะไรอ่ะ เนี่ย"

    เฮ้ย ....ถามมาได้อะไร จะให้ตอบไงวะ อะไรน่ะมันอะไร

    "ไม่มีอะไรหรอก ปล่อยเหอะ ไม่มีจริง ๆ ไอ้ทานโว้ยยยยยยยยย ปล่อยเดี๋ยวนี้"

    นิสัยชอบแกล้งหยอกล้อ ยิ่งบอกให้หยุด ยิ่งไม่มีคำว่าพอ ทานตะวันหัวเราะลั่น เห็นเป็นเรื่องสนุกและลากไล้ฝ่ามือลงมาบนร่างกายของอ้อน ก่อนจะสัมผัสลงมาถึงสิ่งที่ทำให้เกิดความสนใจ และแกล้งแตะเล่นอย่างนึกสนุก

    แต่เมื่อได้สัมผัสกลับต้องรีบลุกขึ้นนั่ง และปล่อยร่างกายของคนที่นอนหอบหายใจหนักอยู่ใต้ร่างให้เป็นอิสระ

    ทานตะวันผุดลุกขึ้นและจ้องมองหน้าของอ้อน ดวงตาคมเบิกกว้าง และอุทานออกมาเสียงดังลั่นอย่างไม่คิดจะเกรงใจกันเลยสักนิด

    "เฮ้ย...ไหงมีอารมณ์ง่ายขนาดนี้เนี่ย จริงดิ อ้อน ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ขอโทษ ขอโทษ ให้ช่วยยังไงอ่ะ"

    ช่วยยังไง

    ช่วยยังไง

    ไอ้ทาน ไอ้บ้า อยากจะบ้า ให้ช่วยยังไง ถามมาได้ยังไง ใครไม่ร้องไห้เพราะคำถามของไอ้คนบ้าคนนี้

    ก็ให้มันรู้ไปสิวะ

    อ้อนค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น

    อาย

    อายมาก มาก มาก มาก แต่ทำอะไรไม่ได้ หน้าแดง ไม่พอ ใจสั่นไม่พอ แถมไอ้ร่างกายบ้า ๆ นี่ยังแสดงปฏิกิริยาออกมาแบบไม่ต้องเสียเวลารอเลยด้วย

     

    อยากจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไง เพราะทานตะวันยังนั่งทำหน้าใสซื่อ และทำตาโตเหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยมีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้หรือไง

    "นี่....อยากทำเหรอ...ไม่ได้ปลดปล่อยบ้างหรือไง ทำไมรู้สึกง่ายจัง"

    แง แง อยากร้องไห้กับไอ้ทานจริง ๆ เลยเว้ย ทำไมชีวิตนี้ต้องมาเจอไอ้คนบ้าขวานผ่าซากคนนี้ด้วยอ่ะ

    เล่นถามอะไรโจ่งแจ้งแบบนี้ แล้วจะให้ตอบยังไงล่ะโว้ยยยยยยยย

    ใครจะไปเหมือนมึงล่ะคร้าบ พูดอย่างกับเรื่องปกติ อายบ้างมั้ยคร้าบ อายบ้างมั้ย เวลาถามเนี่ย

    "ทาน ไหว้แหละนะ...ไม่พูดสักวันไม่ได้เหรอ.."

    อ้อนหันหน้าไปบอกทานตะวัน แล้วลุกพรวดพราดขึ้นยืน ทำอะไรไม่ได้นี่ จะให้ทำยังไง

    ในเมื่อร่างกายมันทรยศขนาดนี้ จะไปทำอะไรได้อีกล่ะ

    ร้องไห้ตายไปเลยดีมั้ย เวรแท้ ๆ เลยชีวิตทำไมถึงเป็นแบบนี้เนี่ย

    "ไม่ได้หรอก ทำไมต้องอายด้วย...เราคบกันอยู่นะ ถ้าทานทำให้อ้อนรู้สึกทานก็ต้องรับผิดชอบสิใช่มั้ย"

    อย่ารับผิดชอบกูสักวันหนึ่งก็ได้ กูจะเป็นลมตายต่อหน้ามึงแล้วครับไอ้ทานเอ้ย

    คนที่ไม่รู้ว่าควรปั้นหน้ายังไงเตรียมลุกขึ้น แต่ข้อมือกลับถูกรั้งเอาไว้ ไม่ยอมปล่อย

    "อ้อน ไปไม่ได้หรอก....ไม่เห็นสนุกเลย....รู้นะว่าจะทำอะไร...แล้วทำไมต้องทำคนเดียวด้วย...มานี่เลย"

    ร้องไห้เลยดีมั้ย ร้องมันตรงนี้เลย แต่ไม่มีแรงทำอะไรแล้ว ก็ไอ้บ้านี่มันเล่นดึงแขนไว้ไม่ยอมปล่อยแบบนี้จะให้ทำยังไงได้ล่ะ

    "หนูน้อยแก้มแดง อย่าทำหน้าแบบนี้น๊า ไหนหันหน้ามาซิ อย่าอายเลยนะ มาใกล้ ๆ ทานหน่อยน๊า"

    เออ เอาเลย มึงเอาเลย เล่นให้กูบ้าไปเลยสิโว้ย แค่นี้ก็ทุเรศตัวเองพอแล้ว เอาเลยเล่นให้พอใจไปเลย

    "อ้อน...มาใกล้ ๆ ซิ นั่งตรงนี้"

    นอกจากรั้งข้อมือเอาไว้แล้ว ยังรั้งร่างของอ้อนเข้ามาหาตัว และพยายามจะประคองให้อีกฝ่ายหันหน้ามาหา

    แต่อ้อนก็ยังอยากกระโดดหนีไปให้ห่าง แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งหน้าแดงเป็นบ้าอยู่คนเดียว

    "ไม่รู้เหรอ...ว่า...ทานก็เป็นเหมือนกัน..ไม่รู้บ้างหรือไง"

    ทำไมมันถึงได้ พูดแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉยเนี่ย แถมยัง แถมยัง...........อร๊ากกกกกกกกก นี่จะถอดเสื้อผ้าต่อหน้ากันเลยหรือไงเนี่ย เล่นง่ายแบบนี้เลยเหรอวะ หนี แบบนี้ต้องหนี ไม่เอาแล้ว ช่วยด้วยยยยย

    ทานตะวันปลดกระดุมเสื้อของตัวเองอย่างรวดเร็ว และโยนทิ้งลงข้างเตียง ส่วนอ้อนได้แต่มองตาค้างและพยายามจะลุกขึ้นกระโดดหนีลงจากเตียง

    ไอ้ทาน ไอ้ทานมันแกล้งทำหน้าใสซื่อนี่หว่า ใครอยู่ก็บ้าแล้ว

    "ไม่เอา ไม่ให้หนีแล้ว มานี่เลยอ้อน อย่ามาทำเป็นหนีนะ ตัวเองก็รู้สึกซะขนาดนี้ ถ้าไม่อยู่เฉย ๆ ปล้ำจริง ๆ ด้วยอย่าหนีนะอ้อน หยุดเดี๋ยวนี้ ห้ามหนี นี่เป็นคำสั่ง"

    และเมื่อเป็นคำสั่ง อ้อนก็ได้แต่นั่งนิ่งตะลึงงันอยู่อย่างนั้น ยอมหันหน้ามาเผชิญหน้ากับทานตะวันแต่โดยดี

    "ทานจะสั่งให้อ้อนยอมรับทานวันนี้....ทานจะสั่งให้อ้อนไม่ไปหาผู้หญิงคนนั้นอีก....ทานจะสั่งทุกอย่างเลย สั่งให้อ้อนเป็นของทานวันนี้ด้วย รู้มั้ย เป็นของทานวันนี้เลย ไม่ต้องเตรียมตัวไม่ต้องเตรียมใจแล้ว .... "

    บ้า มันเล่นสั่งกันง่าย ๆ แบบนี้เลยใช่มั้ย ไม่เอาโว้ย ใครเชื่อก็บ้าแล้วสิ ถึงจะเคลิ้มไปขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะเชื่อกันง่าย ๆ นะ

    แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมต้องดึงไหมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

    "ทำไมต้องเอาไหมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำไมถึงพูดอย่างนี้"

    ไม่คิดว่าจะพูดถึงเรื่องไม่ควรพูดขึ้นมาในเวลานี้ แต่กลับเผลอพูดออกไปได้ อ้อนจ้องหน้าทานตะวันด้วยความไม่พอใจ พอ ๆ กับที่ทานตะวันเองก็รู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมาไม่ต่างกัน

    "แล้วทำไมล่ะ ทานจะสั่ง จะสั่งอ้อนเดี๋ยวนี้เลย อ้อนจะเอายังไงก็ว่ามาเลย จะให้ทำยังไง กับยัยบ้านั่นเคยมีอะไรกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นอ้อนมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นได้ ก็ต้องมีกับทานได้เหมือนกัน"

    หมายความว่ายังไง

    ทำไมต้องดึงไหมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หาเรื่องกันชัด ๆ หาเรื่องกันใช่มั้ย

    ในเวลาไม่นาน จากที่คุยกันอย่างสนุกสนานกลับเริ่มสาดอารมณ์โมโหเข้าหากัน

    ทานตะวันไม่ยอมแพ้ และอ้อนก็ไม่ยอมที่จะลดความโมโหลงได้

    ข้อมือถูกกระชากเข้าหาคนตัวโตกว่า

    ทานตะวันกำลังโมโห ไม่ว่าอะไรก็ทำได้

    ใช่จริง ๆ ใช่มั้ยกับผู้หญิงคนนั้นอ้อนคงทำได้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมไม่มีอะไรกันล่ะ แบบนี้จะไม่ให้โกรธได้ยังไง

    อย่าหวังจะกลับไปหาผู้หญิงคนนั้นเลย

    แผ่นหลังของอ้อนเอนลงแตะฟูกนอน และทานตะวันก็โถมทับร่างกายลงมาหา

    ฝ่ามือมือบางปัดป่ายให้อีกฝ่ายออกห่างแต่ไม่เป็นผล เพราะทั้งริมฝีปากที่ถาโถมลงมาลองลิ้มชิมรสชาด ปลายจมูกโด่งที่ลากไล้ลงที่ซอกคอและฝังปลายจมูกเข้าหาอย่างรุนแรง

    ยิ่งหนี ยิ่งไม่ยอมให้หนี

    ทำไมไม่ได้ ทีกับผู้หญิงคนนั้นยังได้ แล้วทำไมถึงไม่ยอมรับสัมผัสที่มอบให้

    ยิ่งคิดยิ่งโมโห ยิ่งคิดยิ่งไม่อยากยอมรับ

    อ้อนมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ใครจะไปเชื่อ ไม่ยอมหรอก ไม่ยอมให้จากไปไหนได้หรอก

    ถ้าไม่รักไม่ชอบกันจริง ๆ แล้วก็ไม่ยอมปฏิเสธกันให้ชัด ๆ จะให้ทำยังไง

    ถ้าถูกช่วงชิงความรักไป จะทำยังไง

    "ทานปล่อย ไอ้ทาน ปล่อยนะโว้ยยยย เป็นบ้าอะไรเนี่ย"

    ถึงแม้จะพยายามร้องขอ หรือวิงวอน แต่กลับไม่เป็นผล ทานตะวันมันบ้าไปแล้ว ไอ้เจ้าชายบ้า...มันเป็นบ้าไปแล้ว ไม่ยอมฟังอะไรเลยใช่มั้ย ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง จะหักหาญน้ำใจกันจริง ๆ ใช่มั้ย

    ปากบอกว่ารัก แต่ทำแบบนี้เหรอ ทำแบบนี้ทำไม

    "ไม่ปล่อยหรอก ไม่ยอมปล่อยแล้ว ถ้าทานไม่ได้ ยัยบ้านั่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน ทำไมไม่เลือกล่ะว่าจะเอายังไง
    ตกลงจะเลือกทานมั้ย หรือจะเลือกผู้หญิงคนนั้น ทานไม่เสียสละแล้ว ไม่ยอมให้ไปไหนด้วย อ้อนเป็นของทานคนเดียวจำเอาไว้เลย จำไว้ให้ดี"

    ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้ อ้อนได้แต่ดิ้นรนอยู่ใต้ร่างของทานตะวัน และตะโกนร้องเสียงดัง กำหมัดแน่น เตรียมจะชกใบหน้าของอีกฝ่ายให้ได้ แต่เรี่ยวแรงกลับมีน้อยกว่า

    ไอ้บ้าทานทำแบบนี้ทำไม

    ไม่รักกันจริง ๆ ใช่มั้ย ถึงทำแบบนี้

    ไอ้บ้า เกลียดมันแล้ว เกลียดมันจริง ๆ

    "ไปตายซะไอ้ทานบ้า ไอ้บ้า อึก อื้อ ไอ้ อึก"

    สู้ไม่ได้ โมโห แค้นใจ และก็ได้แต่สะบัดหน้าหนี เมื่อทั้งปากและจมูกของอีกฝ่ายยังถาโถมเข้าหา

    "ไปตายเลยไป๊ไอ้บ้าทาน ไอ้ทาน เกลียดแล้ว ถ้าทำจริงๆ จะฆ่าตัวตาย อยากทำอะไรก็ทำไปเลย จะฆ่าตัวตายจริง ๆ ด้วย จะฆ่าตัวตาย"

    แค่ได้ฟังคำพูด แค่ได้รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เพียงเท่านั้นทานตะวันก็รู้แล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน

    ฆ่าตัวตายเลยใช่มั้ย เกลียดกันขนาดนี้เลยใช่มั้ย แล้วให้ความหวังทำไม ไม่รักแล้วให้ความหวังกันทำไม

    ข้อมือถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ทานตะวันผุดลุกขึ้นนั่ง และนิ่งมองคนที่ยังคงนอนนิ่ง ๆ อยู่บนฟูกนอน
    นัยน์ตาคมทอดมองใบหน้าของอีกฝ่าย ด้วยความสิ้นหวัง

    แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าจะไม่มีวันได้มาครอบครอง อ้อนใจร้าย ทำไมใจร้ายขนาดนี้

    ไม่เลือกไม่ว่า แต่ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย

    คนตัวโตหน้าเศร้าลุกขึ้นเดินออกห่างจากร่างของคนที่บอกตัวเองอยู่เสมอว่าจะไม่มีทางปล่อยคน ๆ นี้ไปไหน

    แต่มันสุดทางแล้วจริง ๆ ใช่มั้ย

    อ้อนไม่เลือก แถมยังเกลียดกันด้วยซ้ำ เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าควรอยู่ในสถานะไหน แล้วก็ควรจะทำยังไง

    คนตัวโตที่ใช้กำลังหักหาญยอมลุกขึ้นผละจากไปง่าย ๆ ทิ้งให้อ้อนนอนหอบหายใจหนักอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตมองตามคนที่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ

    ตกใจที่ถูกทำแบบนี้

    ตกใจจึงได้พูดแบบนั้นออกไป

    อันที่จริงไม่ได้ตั้งใจ แต่....กลัว....

    ทานตะวันเดินออกไปนอกระเบียงและเลื่อนประตูกระจกปิดไว้ให้ ส่วนอ้อนค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งและจ้องมองคนที่ยืนอยู่หน้าระเบียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย

    ทาน.......

    เจ้าชายน้อย......

    ตอนนี้ฝ่ายนั้นอยู่ในอารมณ์แบบไหน ร้องไห้ หรือเปล่า หรือว่ากำลังเสียใจ

    อ้อนนั่งชันเข่ามองคนที่ยืนอยู่นอกระเบียงแล้วก็ถอนหายใจยาวเหยียด หลังจากที่หายตกใจ

    ...ก่อนหน้านี้ ถ้าทานมันจะทำจริง ๆ ก็ทำได้ แต่มันก็ปล่อย ขู่ไปอย่างนั้น แล้วทานก็ปล่อยจริง ๆ ไม่ทำอะไรอีกเลย ยอมปล่อยง่าย ๆ ทั้งที่ พูดจาร้ายกาจออกไปขนาดนั้น

    เป็นนานที่อ้อนเอาแต่นั่งมองทานตะวันอยู่อย่างนั้นแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้ามาในห้อง ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าระเบียง ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง จนพลบค่ำ

    สุดท้ายคนที่ทนไม่ไหวกลับเป็นอ้อนที่ต้องตัดสินใจเดินออกไปตาม

     

    "เข้าห้องเถอะ เดี๋ยวเป็นหวัด"

    พูดออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และหวังว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในอารมณ์ปกติ

    แต่ทานตะวันที่หันกลับมามองกลับมีท่าทางนิ่งเฉย

    "อย่าเลย เดี๋ยวไปทำอะไรเลว ๆ แบบนั้นอีก ไม่อยากโดนเกลียดไปมากกว่านี้"

    เย็นชา เฉยชา ไม่เหมือนทานตะวันอย่างที่เคยเป็น อ้อนได้แต่ยืนนิ่งเงียบ ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไป

    "ก็เข้ามาข้างในห้องก็ได้นี่ อากาศมันเย็นแบบนั้น"

    อ้อนพยายามที่จะพูดกับอีกฝ่าย ทั้งที่แทบจะไม่กล้าสบตากับสายตาเย็นชาที่มองมา

    "ถ้าเข้าไป ทานปล้ำอ้อนแน่ ถ้าจะฆ่าตัวตายก็ไม่ยอมปล่อยด้วย จะยอมให้เข้าไปหรือไง"

    พูดเล่นใช่มั้ย ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วยล่ะ

    "แล้วจะยืนอยู่ตรงนั้นตลอดทั้งคืนหรือไง"

    "ใช่ ยืนให้มันหนาวตายไปเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วนี่ อย่ามาทำเหมือนห่วงทั้ง ๆ ที่อ้อนเกลียดทานเลย ไปหาผู้หญิงคนนั้นเลยก็ได้ ตอนนี้เลยก็ดี ทานจะได้ตัดใจไปซะ ไหน ๆ จะใจร้ายก็ร้ายให้มันถึงที่สุดไปเลยอ้อน อย่ามาทำแบบนี้ ทานก็เป็นคนมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ทานเจ็บเป็น ถ้าจะทำร้ายกัน ก็ทำให้มันเจ็บไปครั้งเดียวเลย บอกมาตอนนี้เลยดีกว่า ว่า.....อ้อนไม่เลือกทาน"

    สายตาที่มุ่งมั่น แววตาที่มั่นคงและมองตรงมา

    อ้อนได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ และก้มหน้าลงอย่างช้า ๆ ให้เลือกตอนนี้เวลานี้ จะให้บอกได้ยังไงว่า.......ตั้งแต่วันที่ได้เจอกับไหมก็รู้แล้วว่าตอนนี้สถานะของตัวเองตรงไหน แล้วก็กำลังทำอะไรอยู่ เพียงแต่บางครั้งก็เก็บเอาช่วงเวลาเก่า ๆ มาครุ่นคิดอยู่เสมอ จึงทำให้ไม่กล้าพูดออกอะไรออกไป

    "ไม่รู้บ้างเลยเหรอว่าเรา...เป็นของทานมาตั้งนานแล้ว....ทำไมต้องให้ตอบด้วย...ไม่รู้เลยเหรอว่าเราคิดยังไง"

    อ้อนเอ่ยบอกออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

    อย่าให้ต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกเลย

    พูดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น

    ขืนต้องพูดมากกว่านี้ ต้องหน้าแดง เลือดกำเดาพุ่งแน่ ๆ แล้วจะบังคับให้พูดทำไม

    "อ้อนพูดแบบนี้ไม่ได้นะ พูดแล้วทานจะให้อ้อนรับผิดชอบคำพูด...แน่ใจหรือไงที่พูดออกมา"

    ทานตะวันถามย้ำออกไปเพื่อขอความมั่นใจอีกครั้ง แต่ไม่ได้คำตอบเลยสักคำ

    และไม่นานสิ่งที่อ้อนยอมพูดออกมาก็ทำให้ทานตะวันยิ้มกว้างและแทบจะต้องรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
    ก่อนจะกอดรัดร่างของคนที่ทำให้ดีใจมากที่สุดเอาไว้แน่น

    หนูน้อยแก้มแดงเอ้ย ไม่ปล่อยแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ปล่อยให้ไปไหนได้เลย คอยดูให้ดีเถอะนะทำไมถึงได้น่ารักถึงขนาดนี้

    "ก็แล้วทำไมต้องทำให้กลัวด้วยวะ คนไม่เคยทำกับผู้ชายนะโว้ย หัดอ่อนโยนบ้างไม่ได้หรือไง"

    พูดแบบนี้ได้ยังไง พูดแบบนี้จะให้ทานดีใจตายหรือไง

    ได้สิ อยากให้อ่อนโยนจะอ่อนโยน ก็บอกมาสิ ว่าอยากให้อ่อนโยน ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงล่ะ แล้วอยากให้อ่อนโยนขนาดไหนกัน เดี๋ยวจะทำให้ดู ถ้าไม่พอใจตรงไหนก็บอกมาได้เลย จะไม่ขัดใจเลยจริง ๆ นะครับหนูน้อยแก้มแดง 



    ........................


    เกิดความผิดพลาดนิดหน่อยคะ  ไม่ได้ตรวจดูดีๆว่าลงสมบูรณ์ไหม  พอวันนี้เปิดดู  ช่วงท้ายหายไปนิดนึงเลยมาลงใหม่อีกรอบ  ตอนนี้ไม่ได้ดราม่านะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×