ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #49 : ตอน รอคำตอบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.28K
      12
      18 เม.ย. 54

     ตอน รอคำตอบ












    สองสามวันมานี้ ไม่ใช่สองสามวันหรอก หลายวันมานี้ต่างหากล่ะ


    ตอนนี้คนข้าง ๆ อยู่ในสภาพนี้ สภาพนี้ไง นี่ไง นี่ นี่ นี่

    อ้อนหันไปมองคนตัวโตที่ทั้งพัวพัน ทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่ยอมปล่อย แถมเดินตามต้อย ๆ แทบไม่ยอมให้คลาดสายตา

    จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่......ทานตะวัน.....

    คนบ้า ๆ คนนี้ ทำหน้าเศร้ามาหลายวัน บางวันก็แอบเห็นน้ำตาซึม ถามว่าเป็นอะไร ก็ได้คำตอบเดิม ๆ ว่า "เปล่า"

    รู้ทั้งรู้ว่าเป็นอะไรแต่ก็ยังอุตส่าห์ถามไป ถามเพราะอยากมีเรื่องคุยกันบ้าง ทานตะวันไม่ช่างพูดช่างคุย ไม่เล่น ไม่เอะอะโวยวายไม่แกล้ง และไม่หาเรื่อง แต่ชอบแอบหลบไปนั่งเงียบ ๆ คนเดียว บางครั้ง เดินเข้าไปหาก็ลุกขึ้นเดินหนี เป็นแบบนี้หลายวัน

    จนแม้แต่ตัวอ้อนเองก็ยังเศร้าไปด้วย ไม่กล้าเข้าหน้า เพราะบางครั้งเมื่อต้องพบกับสายตาที่เจ็บปวดของทานตะวันเวลาที่อีกฝ่ายมองมา ยิ่งตอกย้ำความชั่วร้ายของตัวเองให้มากขึ้น

    แต่แล้วเมื่อผ่านไปหลายวัน จากไม่ยอมให้เข้าใกล้ มาคราวนี้ คนที่กอดเอวไม่ยอมปล่อยก็กลับกลายเป็นอีกคน
    จากที่เอาแต่หลบหน้าและคอยวิ่งหนี วันนี้กลับแปลกกว่าทุกวัน

    เพราะตั้งแต่เช้าที่ตื่นมาพร้อมกัน ทานตะวันก็เอาแต่ร้องเรียกไม่ยอมให้ห่างตัว ไม่เข้าใจว่าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีก แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ก็ยังคงกอดแน่น ทำหน้าเศร้า ไม่ยอมให้เดินไปไหนได้เลย

    "อ้อน...หนาว"

    แล้วไง กอดขนาดนี้ ยังหนาวอีกเหรอ

    "อือ...หนาว.."

    อ้อนตอบไปแค่นั้นแล้วคนตัวโตก็ตามเกาะแจ ไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็เอาแต่เดินตาม กลัวจะคลาดสายตาไปไหนหรือไง ไม่ได้ไปไหนซะหน่อยแล้วทำไมตามติดขนาดนี้

    "เมื่อคืน...โดนแย่งผ้าห่มด้วย..งอน"

    ทานตะวันบ่นเสียงเบาแล้วก็ทำหน้างอเหมือนเด็ก ๆ ส่วนคนฟังได้แต่แอบลอบยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกขำอยู่ในใจ

    ก็แล้วใครใช้ให้นอนดิ้นขนาดนั้น เห็นนอนไม่หลับกระสับกระส่ายมาหลายคืน แล้วทำไมคืนก่อนถึงได้นอนกลิ้งไปกลิ้งมา


    สงสัยอดนอนหลายคืน เลยหมดสภาพ แล้วรู้ได้ไงว่าแย่งผ้าห่ม ยังไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย แถมซ้ำยังลุกขึ้นมาห่มผ้าให้เมื่อกลางดึกอีก แล้วใครกันแน่ที่โดนแย่งผ้าห่ม

    ตื่นมาอีกที ก็เห็นผ้าห่มไปกองอยู่ปลายเตียง เตะลงไปเอง แล้วจะให้โทษใคร

    "แล้วเป็นไง...โดนแย่งผ้าห่มแล้วทำไงล่ะ"

    ก็แค่คำถามเรื่อยเปื่อย ในขณะที่พยายามจะเดินไปเสียบปลั๊กกาต้มน้ำในครัว โดยมีทานตะวันเกาะติดตามมาด้วย

    "ก็ไม่แล้วไง...ก็หนาวสิไม่มีผ้าห่มก็หนาว"

    ใช่ ไม่มีผ้าห่มก็หนาว แล้วนี่เป็นอะไรถึงได้มาคุยเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ได้ ทั้งที่หลายวันมานี้แทบไม่รู้จะคุยอะไรกันด้วยซ้ำ

    บรรยากาศอึมครึมมาตลอด แต่แล้วพอถึงวันนี้ ทำไมบรรยากาศถึงได้เปลี่ยนไป ใช่ เปลี่ยนไป แล้วก็เปลี่ยนไปในทางที่นับว่าดีขึ้นมากด้วย

    "เอ้า...ก็รู้นี่ไม่มีผ้าห่มก็หนาว..."

    อ้อนตอบออกไปในขณะที่พยายามเอื้อมหยิบแก้วกาแฟที่อยู่บนตู้ เอื้อมไม่ถึง แต่ก็มีทานตะวันเอื้อมแขนไปหยิบมาให้และวางเอาไว้ให้ตรงหน้า

    "ไม่มีผ้าห่มก็หนาว...แล้วถ้าไม่มีทาน...อ้อนจะเหงามั้ย"

    บทสนทนาที่ราบรื่นมาตลอดยามเช้ามีอันต้องสะดุดลง อ้อมแขนที่โอบรัดที่รอบเอวคลายออกแล้ว พร้อมกับที่คนตัวโตยืนก้มหน้าทำหน้าเศร้าอยู่ข้าง ๆ

    ไม่มีทาน...อ้อนจะเหงามั้ย...จะเอาคำตอบว่าอะไร ให้ตอบว่า "เหงา" หรือตอบว่า "เฉย ๆ"

    "แล้วไม่มีคนใช้สักคน...จะเป็นอะไรมั้ยล่ะ"

    คำถามของอ้อนทำให้ทานตะวันยิ่งก้มหน้า และยืนนิ่งเงียบก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง

    "สำหรับอ้อน ตอนนี้ทานเป็นแค่เจ้าหนี้กับเจ้านายแค่นั้นเองเหรอ...แค่นั้นเองใช่มั้ยล่ะ"

    ทานตะวันพูดเพียงเท่านั้นแล้วก็ก้าวเท้าเดินหนีผละจากไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกเลย ทิ้งให้อ้อนยืนนิ่งเงียบอยู่ในครัวเพียงลำพัง

    ...ไม่ใช่หรอก ทานไม่ได้เป็นแค่นั้น แต่ตอนนี้ทานเป็นมากกว่านั้น แต่จะให้บอกว่าเป็นอะไร
    ในเมื่อ...เวลานี้ ยังไม่รู้จะตอบตัวเองยังไง กับความรู้สึกที่แบ่งให้คนสองคนในเวลาเดียวกัน

    เห็นหน้าไหมครั้งแรกหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน สิ่งแรกที่รู้สึกคือตกใจ แต่หลังจากนั้น เมื่อได้พูดคุยกันอีกครั้ง ความรู้สึกที่พยายามจะลืมไปให้หมดก็กลับหวนคืนมาอีกครั้ง

    มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ กับความรู้สึกที่มีให้ทานตะวัน

     

    "เอามีดมาหั่นแบ่งครึ่งไปเลยดีมั้ย จะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้...เดี๋ยวแม่งก็หนีไปให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย"

    แค่คิด แล้วก็ยิ้มอย่างเศร้า ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกันวะเนี่ย เกิดจะมีรักซ้อนซ่อนรักกันตอนนี้อีก
    เป็นปีเป็นชาติไม่ยอมมี อยู่ดีมีสุขมาได้ตั้งนาน แล้วทำไมถึงได้มีพายุเข้ากันตอนนี้

    "กาแฟใส่น้ำตาลกี่ก้อน ทาน ทาน ทานโว้ยยยยยย"

    เรียกก็แล้ว ตะโกนก็แล้ว แต่ไอ้คนหน้าหงิกหน้างอนั่นก็ไม่ยอมตอบ จนอ้อนต้องเดินมาหาที่ข้างสระน้ำ

    "น้ำตาลกี่ก้อนครับคุณชายทานตะวัน"

    อ้อนนั่งลงข้าง ๆ คนที่นั่งเงียบอยู่ข้างสระ แล้วก็ก้มหน้าลงไปถาม

    "น้ำตาลกี่ก้อน...สองมั้ย..หรือสาม..จะได้หวาน ๆ "

    ถามแล้ว พูดแล้ว แต่ก็ยังได้คำตอบเป็นความเงียบเหมือนเดิม อ้อนก็เลยได้แต่ส่ายหน้า แล้วก็ถอนใจด้วยความกลุ้ม

    "อ้อน...ไปทะเลกันเถอะ.."

    อะไรนะ...ไปทะเล...บ้า..อยู่ดี ๆ เล่นพูดออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บ้าแล้ว ตอนนี้เนี่ยนะ หน้าหนาวไปทะเลเนี่ยนะ บ้า

    "เฮ้ย..ไปได้ไง"

    งง แล้วก็ อึ้ง แล้วก็อยากจะหัวเราะ แต่ทานตะวันทำหน้าจริงจังแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นการล้อเล่น แถมยังลุกขึ้นคว้าข้อมือของอ้อนให้เดินตาม

    "ไปทะเลกัน ไปตอนนี้เลย แล้วจะบอกว่าจะเอาน้ำตาลกี่ก้อน ไปกันเลย ตอนนี้แหละ ดีที่สุด"

    ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง ของไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าไม่ต้องเปลี่ยน ได้แต่ทำหน้าเหรอหราด้วยความมึนงง สุดท้ายก็ขึ้นมาอยู่บนรถด้วยกันจนได้

    อ้อนหันไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาเต็มหัว

    ...อารมณ์ไหนอีกล่ะเจ้าชายน้อย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวทำเหมือนจะร้องไห้ เดี๋ยวก็ชวนไปเที่ยวกันดื้อ ๆ...

    "นี่...แล้วตกลงจะเอาน้ำตาลกี่ก้อน"

    อ้อนแกล้งถามไปเล่น ๆ แต่คำตอบที่ได้กลับมา กลับทำให้ต้องหันไปมองหน้าทานตะวันนิ่งๆ อีกครั้ง

    "น้ำตาลอะไรไม่เอาทั้งนั้น ไม่เอาอะไรแล้ว...อยากจะใส่น้ำตาลกี่ก้อนก็ใส่ไป..อยากจะทำอะไรก็ทำไปแต่อยู่กับทานนะ..อยากจะทำอะไรกับชีวิตทานก็ได้ แต่อย่าทิ้งทานไปเหมือนที่คนอื่น ๆ ทิ้ง...ห้ามทิ้งไปเหมือนคนอื่น ๆ เข้าใจมั้ย..อยากจะมีใครอีกกี่คนก็ได้..แต่ต้องกลับมานะ...ต้องกลับมาหาทานตลอดไป"

    บ้า...พูดแบบนี้ได้ยังไง

    จะร้องไห้อยู่แล้วนะโว้ย พูดบ้าอะไรวะ พูดอะไรไม่คิดถึงใจคนฟังเลยเหรอ นึกว่าคนฟังไม่มีหัวใจหรือไง พูดออกมาคิดบ้างหรือเปล่า ว่าคนฟังก็เจ็บปวดเหมือนกัน

    ไอ้ทาน ไอ้บ้า

    "ดี..งั้นจะไป..จะไปให้ดู..คอยดูเถอะ..ไปแน่..ขืนพูดอย่างนี้อีกครั้งเดียวไปแน่ ๆ"

    กรีดลึกไปถึงหัวใจ ทานตะวันได้แต่ฟังคำพูดของอ้อน รู้สึกว่าตัวเองอยากจะตะโกนออกมาให้ดังที่สุด แต่ก็ทำได้แค่ขบริมฝีปากแน่น แล้วก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป

    "ไปแน่ ๆ นะ...ขืนพูดแบบนี้อีกครั้งเดียว..คอยดูให้ดี..จะไปไม่กลับมาอีกเลยด้วย"

    จะตอกย้ำให้ยิ่งเจ็บช้ำกันไปถึงไหน

    ถึงแม้อ้อนจะพูดอย่างนั้น แต่การกระทำกลับไม่เป็นไปตามคำพูด

    ศีรษะเอนซบลงที่ลาดไหล่ของคนที่พยายามจะหันเหความสนใจไปกับการมองถนน

    มือที่เอื้อมหยิบเม็ดบ๊วยในกระปุกมาส่งให้ที่ริมฝีปากยิ่งทำให้ทานตะวันสับสนกับการกระทำของอ้อนมากขึ้น

    "เจ้าชายน้อย...คิดว่าเราหลายใจขนาดนั้นเลยเหรอ...ห๊า..คิดว่าหลายใจขนาดนั้นเลยหรือไง"

    ได้ยินนะ ได้ยินเหมือนเสียงตะคอกแต่ไม่ดังนัก

    อะไรล่ะ ที่ว่าไม่หลายใจ...นี่จะทำให้ดีใจหรือเปล่า...หรือจะให้เข้าใจว่ายังไง

    "ไม่หลายใจแล้วรักทานคนเดียวหรือไง..."

    ถามออกไปเหมือนคนโง่ แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือ บ๊วยอีกเม็ดที่อ้อนจงใจจะยัดเยียดใส่ปากให้ เพราะอยากจะให้หยุดพูด

    สัญญาณแบบนี้...เอ๊ะ...เข้าข้างตัวเองหรือเปล่า

    หรือว่า...หรือ...อ้อนจะเอายังไง

    "อ๋ายอามว่าไงเนี่ย อึก ไอ้เอาแล้ว ไม่ต้องป้อนแล้ว"

    ทานตะวันดึงกระดาษทิชชู่ออกมาจากกล่องแล้วคายเม็ดบ๊วยทิ้ง พยายามจะจับอาการของคนพูด แต่กลับไม่ได้รับอะไรกลับมา

    ไอ้ท่าทางออดอ้อนแบบที่ไม่เคยทำของอ้อนนี่มันหมายความว่าไงอ่ะ

    เฮ้ย แล้วตกลงจะให้ทำยังไง

    สรุปว่า...หนูน้อยแก้มแดงจะเอายังไงกับชีวิตของกระผมครับเนี่ย ทานตะวันก็งงเป็นนะครับ ตกลงจะเอายังไงเนี่ย

    ******************************


    ถ้ามีแฟนแบบทาน  ยังไงก็รำคาญไม่ลงอ่ะ  ถึงจะขี้อ้อน ขี้งอนไปหน่อยก็เถอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×